Sweet Taste รสหวาน...บันดาลรัก
คนหนึ่งคนออกตามหาผู้หญิงที่มีแต่ความลับเพื่อที่ราคาแพง

คนหนึ่งคนถูกเรียกมาให้ปกป้อง ไม่ให้แผนการขายที่สำเร็จ

คนหนึ่งคนยังสนุกกับการเดินทาง แต่ไม่รู้ทำไมชีวิตถึงเริ่มวุ่นวายเมื่อมาถึงปักกิ่ง สถานที่สุดท้ายที่จะมาก่อนเธอกลับไทย

คนหนึ่งคนเติบโตมาในครอบครัวใหญ่ถูกเลี้ยงมาเป็นคนงานในบ้าน ทั้งที่เจ้าตัวรู้ว่าใครเป็นพ่อ แต่เพราะครอบครัวจะทำร้ายคนอื่น เธอจึงไม่อยากให้พ่อหย่อนขาไปในนรก

คนหนึ่งคนมีแต่ความแค้น ปลูกฝังในหัวไม่สิ้นสุด รู้แค่ว่าเกลียด และต้องทำลาย

คนห้าคนในวังวนใกล้กัน ผจญอันตราย และเรื่องราวสุดจะคาดเดา กลับมีความหวานก่อเกิดขึ้นทีละนิดในใจของแต่ละคน...มารู้ตัวอีกที ความรัก ก็เกิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
Tags: Sweet รสหวาน ภีม พรพิรุณ ปุณณ์ แพรระพี

ตอน: พ่อสื่อ

ไม่รู้ว่าที่ทำถูกไหม

แต่ปุณณ์ก็ยอมปล่อยให้ภีมได้ทำคะแนนกับพรพิรุณเต็มที่ หลังจากลงรถเมที่จัตุรัสเทียนอันเหมินสุดแสนวุ่นวาย ที่มีรถเมล์หยุดนิ่งรอที่ป้าย สถานที่พรพิรุณบอกจะมาก็คือตลาดเฉียนเหมิน ตลาดเก่าแก่ปักกิ่ง ประตูทางเข้าใหญ่เป็นสีแดงลายจีน ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเล่น พื้นถนนทางเดินในตลาดปูพื้นอย่างดี ตรงกลางตลาดมีรถลางระยะสั้นวิ่งตามลางเป็นเวลาในแต่ละวัน สองข้างทางจัดร้านอย่างสวยงามเรียกให้นักท่องเที่ยวต้องเดินเข้าไป

“ปูนไม่ไปด้วยกันเหรอ” พรพิรุณถามย้ำ ใจจริงไม่อยากอยู่กับผู้ชายนิสัยเสียแบบภีมแค่สองคน

“ไปเถอะ ผมอยากไปหากาแฟดื่มสักหน่อย พี่ภีมไปด้วยกันไหมครับ” ยืนล้วงกระเป๋าถาม ดวงตาท้าทายกรายๆ รู้ดีว่านิสัยเกลียดขนมหวานของภีมทำให้เพื่อนพี่ชายคนนี้ไม่เคยเหยียบร้านกาแฟ เบเกอร์รี่ที่ไหนนานเกินสิบปี

“อย่ามากวน แล้วแน่ใจว่าไม่หลง ภาษาจีนก็พูดไม่ได้” ไม่วายห่วงน้องชายเพื่อน “จะเจอกันอีกทีตอนไหน”

“สามชั่วโมงนับจากนี้แล้วกัน ผมจะมารอแถวนี้ ตกลงนะครับอุ่น”

พรพิรุณยิ้มให้เขาวางใจ ไม่วายที่ภีมรู้สึกอยู่นอกสายตาจากโลกของคนสองคน พรพิรุณกล่าวลาชั่วคราวกับปุณณ์ เดินไปในตลาดเก่า ปล่อยให้ภีมจ้องหน้าปุณณ์ไม่วางตา อย่างคนที่ไม่วางใจ

“แกจะทำอะไร”

“ผมก็แค่เว้นที่ว่างให้อุ่นได้มีที่หายใจบ้างเท่านั้นเอง ตามติดตลอดเวลาก็กลัวเขาจะเบื่อ” กระทบภีมเล็กๆ

“พอดีฉันมันชอบทำให้คนเกลียดขี้หน้า ถ้าคะแนนฉันนำอย่ามาร้องไห้ทีหลัง”

คนหน้าเข้ม หนวดรำไรยิ้มมุมปากเมื่อเห็นภีมเดินตามติดร่างระหงส์ในชุดมาดทอมบอยของพรพิรุณไป ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง สุดท้ายจะตกหลุมรักเป้าหมายเองก็ช่าง...แต่คนที่เกิดมาเป็นได้แค่ผู้ช่วยพระเอกก็ต้องรับหน้าที่นั้นไป ไม่มีใครคิดมารักเขาจริงๆ จังๆ หรอก

อารมณ์ตอนนี้ก็คงเสียดาย เสียดายที่ไม่เจอพรพิรุณก่อนหน้าภีม


พรพิรุณจงใจซื้อถังหูลู่ ผลไม้เคลือบน้ำตาลแข็งๆ เสียบวางขายไว้อย่างน่าทาน ไม้ทั้งไม้เป็นพุทรา บางไม้เป็นผลไม้หลายชนิด หญิงสาวเลือกอย่างหลังมาจ่ายเงินห้าหยวน เดินถือกินโดยไม่สนใจว่าภีมกำลังทำหน้าสยดสยองแค่ไหน เหลือบสายตามองใครอีกคนที่บังอาจตามมาโดยไม่ได้รับอนุญาตยืนถอยห่างไปหลายก้าว

นี่ล่ะของที่ไว้ใช้ขวางตัวอันตรายไม่ให้พ่นน้ำลายพิษให้ระคายหูของเธอ หวานได้ใจ...

ตอนมาครั้งแรกที่ปักกิ่ง เธอแวะที่นี่ก่อนที่อื่น ก็เพราะต้องการซื้อของฝากให้อิศยา เจ้าแม่ชาได้ลิ้มรส เฉียนเหมินมีร้านชาหลายร้านตั้งขาย ชาที่นี่ไม่เหมือนชาตามร้านเยาวราช เป็นใบชาแท้ และเป็นก้อนกลมเล็กต่อใบหนึ่ง เวลาใส่น้ำร้อนใบถึงจะเปิดออกมาเป็นใบยาว และชาที่ขึ้นชื่อก็คือชาอู่หลง กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ชัดเจนกว่าชานุ่มลิ้นเอิร์ลเกรย์จากทางฟากอังกฤษ และยังสามารถหาชามะลิ หรือชาเขียวซื้อติดมือกลับไปได้

ถังหูลู่ตัวน้ำตาลแข็งหวานจัด กับสตรอเบอร์รี่ลูกโตที่สดฉ่ำเปรี้ยวหวานทำให้อารมณ์คนอยากอยู่ห่างภีมลืมสังเกตว่าใครบางคนเตรียมทำการอุกอาจอยู่

รูดกินไปได้สามชิ้น ไม้ในมือของเธอก็ถูกช่วงชิง จนไปนอนกองในถังขยะ แบบที่พรพิรุณอ้าปากค้าง ตะลึงไม่คิดว่าภีมจะบ้ากล้าทำขนาดนี้

“เป็นบ้าหรือไง”

“คุณนั่นแหละ รู้ทั้งรู้ว่าผมเกลียดของหวาน ก็ยังกินอยู่ได้ เห็นแล้วอยากจะอ้วก”

พรพิรุณเม้มปากแน่น เริ่มไม่พอใจขึ้นมาจริงจัง “แล้วมีเหตุผลที่ต้องบังคับปากคนอื่นให้ไม่ชอบด้วยหรือไง คุณน่ะไร้เหตุผล ชอบเรียกร้องความสนใจ ถามจริงไม่มีใครให้สนแล้วเหรอ ถึงได้ตามทอมอย่างฉันต้อยๆ ตลกจริงๆ” ไม่วายประชดเข้าให้

“ผมขอโทษ”

“แล้วคุณก็จะทำนิสัยแย่ๆ อีก ให้ตายเถอะ อยู่กับคุณแล้วประสาทจะกิน หุบปาก แล้วก็อยู่ให้ห่างๆ ฉันจะขอบคุณมาก”

ใบหน้าสำนึกผิด ดวงตาหลุบต่ำไม่ทำให้คนมองใจอ่อนง่ายๆ พรพิรุณหมุนตัวไปทางร้านขายชาเจ้าโปรดที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติ ไม่ทันได้เห็นว่าภีมไปทางไหน เพราะหันไปอีกที เธอก็ไม่เห็นเขาแล้ว

“ช่างเถอะ อย่างนี้สบายตากว่าเยอะ” พรพิรุณรู้สึกผิดวูบหนึ่ง แต่หากเธอไม่เด็ดขาด ผู้ชายนิสัยเสียคงได้ก่อกวนเธอไม่เลิก...โดนให้รู้จะได้เข็ดขยาดเลิกยุ่งกับเธอ


ที่จริง เขาก็แค่ไม่ไปไหน

ปุณณ์นั่งแกร่วอยู่ตรงทางประตูเข้าตลาด มือถือถังหูลู่นั่งกินละเลียดเป็นไม้ที่สอง สายตากวาดมองผู้คนขวักไขว่อย่างสนใจ ไม่รู้ป่านนี้ภีมกับพรพิรุณคุยเข้าใจกันหรือยัง

ภาพแผ่นหลังดูคุ้นตาสวมสูทหนาให้เหมาะอากาศเย็นในปลายกุมภากำลังซื้อถังหูลู่เสียหลายไม้ ดูเป็นภาพไม่น่าเชื่อเท่าไหร่ จะใช่จริงๆ เหรอ

“พี่ภีม”

ชื่อของบุคคลที่กำลังถือถังหูลู่ใส่ถุงสีดำสี่ไม้ทำหน้าสยดสยองเหมือนโดนบังคับให้ทานยาขม ทำให้ปุณณ์ต้องลุกตามอย่างสนใจ ยิ้มขันเสียมากกว่า

ท่าทางโรคเกลียดขนมหวานจะโดนใครสั่นคลอนเข้าซะแล้ว


น้ำชาแก้วเล็กดื่มเป็นแก้วที่สามถูกวางลงบนจานรอง ตามมารยาทคนจีนหากชาที่ดื่มหมด คนชงชาก็ต้องคอยเติมให้จนกว่าชานั้นจะหมด พรพิรุณรู้มารยาทเรื่องนั้นดี จึงเลือกชาที่ดีที่สุดของร้านมาดื่ม เพื่อทดสอบว่ารสชาติของชายังเหมือนเดิมจากที่เคยดื่มในอดีตอยู่หรือไม่

ชาที่ดีต้องเทน้ำแรกทิ้ง และชงต่อมาได้แปดน้ำ แต่ละชนิดก็จะใช้อุณหภูมิความร้อนของน้ำแตกต่างกัน พรพิรุณรู้กฎทุกข้อในการชงชาดีตั้งแต่มาที่นี่ครั้งแรก ครั้งนี้ก็ยังฟังคนชงชาในร้านนี้บอกได้ไม่รู้เบื่อ สั่งชาอู่หลงกลิ่นมะลิอย่างดีที่สุด และอู่หลงธรรมดาราคาแพงมาอีก ทางร้านมีขนมทำจากชาเขียว พวกคุกกี้ตั้งวางขาย พรพิรุณเลือกซื้อมาอีกหลายกล่อง ฝากคนที่ประเทศไทย กลับไทยคราวนี้อาจจะลงหลักปักฐานช่วยอิศยาทำงานจริงจังสักที วรรษควรจะแนะนำอาหารไทยบ้าง หลังจากตระเวนมาทั่วโลกมาตลอดสามปีกว่า

ไม่กี่นาทีต่อมา พรพิรุณออกมาจากร้านใหญ่ถุงใหญ่หลายใบอยู่ในมือสองข้าง จากระยะทางที่ร้านชาตั้งอยู่ค่อนข้างห่างจากต้นซอยพอสมควร หญิงสาวมองหาทางลัดเพื่อจะกลับไปกลางซอยได้ง่ายๆ ยอมเดินเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็ก ร้านค้ามากมายที่ตั้งเรียงขายของที่ระลึกด้วยราคาไม่แพงเริ่มน้อยลงจนเหลือเพียงแค่บ้านคน

คนกลางคนขากถุยน้ำลายจนร่างเพรียวกระโดดหลบแทบไม่ทัน ภาษาจีนที่ได้เรียนมาหลายครั้งถามออกไปอย่างชำนาญเพื่อถามหาทางเข้าสู่ตลาดเฉียนเหมิน เธอต้องเดินทะลุทางเล็ก ตรอกบ้านคนนั่นขึ้นไป

คนที่ใช้ชีวิตในต่างแดนมานาน เดินทางคนเดียวตลอดจนไม่ทันระวังตัว ถูกชายกลางคนกลิ่นเหล้าหึ่ง แก้มแดงก่ำดักขวางทาง พรพิรุณเผลอถอยเท้าไปอัตโนมัติ มองหาทางหนีทีไล่ คว้าได้แค่ไม้เก่าๆ มาท่อนหนึ่ง

ชูไม้ขู่ ข่มความกลัวในอก

“หลีกไป” คุมเสียงไม่ให้สั่น แต่เป็นมือที่สั่นน้อยๆ แทน

“จะไปไหนจ๊ะสาวน้อย อยู่คุยกับพวกพี่ก่อน” ทางข้างหลังถูกพวกแก๊งค์ขี้เมาขวางทาง พรพิรุณใจเสียเกินครึ่ง เธอเชื่อว่าในสังคมทุกสังคมย่อมมีทั้งคนที่ดี และไม่ดี แต่เธอดันซวยมาพบคนพวกนี้ในเวลาที่อยู่คนเดียว

“จะไปเฉียนเหมิน ทำไม เดินไปส่งไหมล่ะ” ทำใจกล้า อวดดี เรื่องอ้อนวอนขอชีวิตก็ไม่ใช่วิสัยเธอเสียด้วย

“ไปทำไม คนเยอะแยะ พี่ว่าไปที่เงียบๆ กับพี่ดีกว่า สงบ มีความสุข” ลมหายใจร้อนเป่ารดหน้า

ในที่สุดพรพิรุณก็ทนไม่ไหว ฟาดไม้ลงไปเต็มเสี้ยวหน้าของคนขี้เมาร่างใหญ่เต็มแรง คนขี้เมาหน้าแดงก่ำ หันมาทำหน้าถมึงทึง กระชากแขนเรียวของพรพิรุณ จนข้าวของในมือร่วงกราว

พรพิรุณตะโกนลั่น สามภาษา ทั้งไทย จีน อังกฤษ “ช่วยด้วย” คนไทยในเฉียนเหมินก็มีไม่น้อย อย่างน้อยเผื่อจะมีใครคิดแผลงมาเดินนอกเส้นทางแบบเธอ

“หุบปากมัน”

ร่างเพรียวดิ้นพล่าน มือโสโครกที่มาปิดปากโดนกัดจนเลือดไหล แต่ก่อนที่มันจะทันได้ลงมือฟาดฝ่ามือเข้าหน้า ใครบางคนก็พุ่งมารัดคอคนเมาเหวี่ยงอัดใส่กำแพงอย่างแรงซะก่อน

หัวสมองของคนเกือบจะโดนจับตัวไปทรุดลงขาสั่น ความเก่งกล้าหายเป็นปลิดทิ้ง ภาพการต่อสู้ของคนสองคนต่อคนตัวใหญ่สามคนขี้เมาดูจะเป็นไปด้วยความโกรธแค้น เบื้องหลังใครคนหนึ่งสบถลั่นเป็นภาษาไทยเมื่อมองตรงมาที่เธอ

“บ้าเอ๊ย”

ไม้ในมือขี้เมาอีกคนที่ดักทางปิดพรพิรุณเตรียมฟาดลงที่ท้ายทอยหญิงสาว คนที่เห็นก่อนกระโดดตัวลอยมาเตะมือที่ง้างไม้สุดแรงจนล้มกลิ้งไปกองบนพื้นด้วยกัน ภีมที่มัวติดพันอยู่กับขี้เมาตัวโตก่อนหน้าเพิ่งทำให้พวกมันสลบหมดแรงสู้ต่อไป หันกลับมามองพรพิรุณอย่างเป็นห่วง สำรวจร่างกายอย่างละเอียด

“ไม่เป็นอะไรนะ” ประคองพรพิรุณขึ้นยืน สัมผัสได้ว่าร่างผอมสั่นงันงกเพียงใด รีบโอบประคองเข้าตัวมากขึ้น “ไม่เป็นอะไรแล้วนะ ไม่เป็นไรแล้ว ปลอดภัยแล้ว ดีที่เจ้าปูนเห็นคุณเดินหลังไวๆ หายเข้ามาในนี้ถึงตามมาทัน”

“ปูนเรียบร้อยดีไหม” ภีมรีบถามคนที่เพิ่งจัดการคนจะตีศีรษะพรพิรุณให้สลบเหมือด หน้าเลือดอาบไปข้างพยักหน้าทั้งที่ยังนั่งหันหลังอยู่

“ของพวกนั้นเดี๋ยวผมเอากลับโรงแรมเอง พี่ภีมพาอุ่นไปเที่ยวต่อเถอะ อย่ามาเสียบรรยากาศด้วยเรื่องไม่ดีแบบนี้” เริ่มเก็บของที่หล่นกระจาย ไม่ยอมหันหน้าไปเผชิญคนสองคน

“ฉันไม่มีอารมณ์เที่ยวต่อแล้วปูน กลับโรงแรมเลยเถอะ”

“อย่าให้เป็นความทรงจำไม่ดีเลยครับ พี่ภีมพาอุ่นไปเที่ยวต่อทีนะ พี่เองยังไม่เคยเที่ยวจัตุรัสเทียนอันเหมิน กับกู้กงใช่ไหม อุ่นนำพี่ภีมเที่ยวที...ได้ไหม”

“ผมเห็นด้วยกับปูน ไปเถอะ” ภีมรั้งร่างของพรพิรุณให้ออกเดิน แม้เจ้าตัวจะพยายามขืนตัวไว้ รู้สึกเป็นห่วงปุณณ์กับท่าทีแปลกๆ

แต่เมื่อเจ้าตัวยังตั้งใจเก็บของเหล่านั้น โดยไม่ยอมหันหน้ามาเธอก็คิดว่าบางทีปุณณ์อาจจะโกรธ ที่เธอสร้างเรื่องให้เขาวุ่นวาย

คนสองคนเดินไปไกลแล้ว ปุณณ์ใช้แขนข้างที่ไม่เจ็บถือของทั้งหมด ส่วนต้นแขนขวาที่ถูกมีดพกขี้เมากรีดเอาตอนมันใช้อาวุธป้องกันตัวเลือดยังคงไหลไม่หยุด ซึมเสื้อยืดออกมา

“แกทำถูกแล้วน่าไอ้ปูน” หยิบถุงถังหูลู่หลายไม้ที่ภีมโยนทิ้งตอนวิ่งเข้ามาช่วยพรพิรุณขึ้นดู ย้ำเตือนว่าตนเองทำถูกแล้วจริงๆ

เพียงแต่สายตาเขาเองก็เริ่มทรยศ คอยแต่มองหาพรพิรุณเหมือนกัน...ชักไม่ปลอดภัยต่อความรู้สึกมากขึ้นทุกที


ขนาดเดินมากับเขา แต่สายตาก็คอยมองหลัง อย่างกับจะได้เห็นเจ้าปูนเดินตามมาว่างั้น

“เดินเที่ยวกับผมมันไม่สนุกหรือไง ถึงได้เดินเหลียวหลังอย่างนั้น...จะกลับโรงแรมเลยไหมล่ะ”

วาจาประชดประชันฟังไม่เข้าหู ระแคะระคายพรพิรุณจนเหนื่อยที่จะรบราทางวาจากับภีม เลือกเดินห่างจากเขาอีกสองก้าว นึกประหลาดใจกับไอ้พวกขี้เมาพวกนั้นที่มองออกว่าเธอเป็นผู้หญิงเพียงแวบเดียว

“จะไปไหนก็ระวังๆ ไว้บ้าง รู้ว่าเก่ง แต่ก็ไม่ต้องอวดดี ถ้าไปช่วยไม่ทันคุณไม่ได้เดินหน้างอบนกู้กงอย่างตอนนี้แน่”

นักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่ม หรือแม้แต่คนจีนจากต่างเมืองก็รวมพลยกโขยงมาเที่ยวพระราชวังต้องห้ามแห่งนี้เยอะ พรพิรุณไม่ได้สนใจสถาปัตยกรรมความสวยงามของที่นี่มากนัก เพราะไม่ได้ชื่นชมศิลปะ หรือมีอารมณ์สุนทรียภาพขนาดมองทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความตะลึงตะลานตา สำหรับเธอร้านอาหารข้างทางยังดูเข้ากับเธอมากกว่า ที่สำคัญนี่เป็นการเดินเที่ยวครั้งที่สอง จึงเดินเป็นแนวตรงทะลุทางออกทุกห้องเพื่อไปโผล่อีกฝั่งเร็วๆ แทบไม่ได้ฟังบทสนทนาจากคนนิยมศิลปะ

“นี่คุณไม่ฟังผมบ้างเลยหรือไง ผมสอนคุณอยู่นะ”

“ขอบคุณที่ช่วย พอใจหรือยัง ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณที่เสี่ยงชีวิตเพื่อฉัน”

คนอยากกลับโรงแรมเดินเร็วไปเรื่อยๆ ผ่านสวนหิน มีน้ำตกจำลอง ต้นไม้นับร้อยปีเด่นสง่า รูปทรงแปลกตา

“แค่คุณปลอดภัย ไม่มีอะไรต้องขอบคุณหรอก”

พรพิรุณหยุดเดิน หันมามองด้วยใบหน้าไร้อารมณ์มากกว่าซึ้งใจ “คงจะพูดกับสาวๆ บ่อย” ถอนหายใจออกมา “ฉันให้เวลาคุณเดินให้เต็มอิ่ม แล้วฉันจะไปรอที่ทางออก”

“โกรธอะไรผมอีก”

“โกรธเหรอ ไม่หรอก ฉันว่าฉันเกลียดนะ” พูดกลั้วหัวเราะ เหมือนเห็นเป็นเรื่องตลก มองสีหน้าของภีมฉายรอยผิดหวังวูบหนึ่งก่อนจะหายไป

“เกลียดผมให้ตลอดแล้วกัน...ผมจะทำให้คุณทั้งรักทั้งเกลียดผมให้ได้”

พรพิรุณหัวเราะออกมา ประโยคเด็ดเดี่ยวของภีมสั่นคลอนหัวใจคนที่เคยอยู่กับความเกลียดมาทั้งชีวิตไม่ได้เลย พรพิรุณเพิ่งเข้าใจอิศยา เวลาที่มองเธอในอดีตนั้นมองด้วยสายตาอย่างไร คงมองว่าเมื่อไหร่ คนหนึ่งคนจะตาสว่างหรือฉลาดขึ้นมาสักที

“รู้ไหมว่าความเกลียดทำให้คนหลงรักไม่ได้ นอกจากเรียกคะแนนสงสาร แกมสมเพช ฉันอยู่จุดๆ นั้นมาตลอด ต้องการให้คนรัก แต่ไม่เคยให้ความรักกับใคร เอาแต่โทษโน่นนี่ว่าทำไมเขาไม่รัก สุดท้ายถึงได้รู้ เพราะฉันเอง ต้นเหตุที่ฉันมัวแต่ตาบอดมองไม่เห็นความรัก ความหวังดีของใคร เอาแต่คิดชนะคะคาน สุดท้ายคนที่ให้จะเป็นผู้ชนะ”

ภีมนิ่งงันฟังประโยคคล้ายสั่งสอนเขาผ่านเข้าหู กระแทกใจคนฟังอย่างจัง พรพิรุณว่าที่เขาทำก็แค่อยากเอาชนะ อยากปราบนิสัยอวดดี ดื้อรั้น ไม่ยอมใครของเธอ พรพิรุณอ่านออกทุกอย่าง

“แต่ฉันว่าคนแบบคุณอาจจะเหมาะกับผู้หญิงแบบคุณอี๊ดก็ได้นะคะ...หมูภีม” เรียกชื่อในอดีตของชายหนุ่มสีหน้ากลั้นขำเต็มที่

“วันไหนที่ผมชนะใจคุณได้ คุณช่วยกลับประเทศไทยพร้อมผมได้ไหม”

พรพิรุณไม่ตอบ นอกจากมุ่งเดินออกไปทางประตูทางออกของพระราชวังต้องห้าม ในตอนนี้เธอรู้แค่ว่า สิ่งเดียวที่ภีมต้องการก็แค่การเอาชนะเธอ ไม่ใช่เอาชนะใจ แค่นั้นจริงๆ

......................................................................................................
คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ งานนี้ต้องรอดูยาวๆ ว่าหวยจะออกที่ใครนะคะ แต่ปูนเขาไม่สู้เลย ภีมอุ่นก็ไม่ชอบ ฮา
คุณ sai ถ้าถึงเวลานั้นจริง อย่าลืมดูแลปูนนะคะ หรือจะได้ดูแลภีมแทน เอ๊ะ ยังไง
คุณ ร้อยวจี เดี๋ยวตอนหน้าพาแพรระพีมาป่วน ตอนนี้ขอเก็บไว้ก่อน พาภีมกับปูนมาเรียกคะแนนสงสาร คนหนึ่งชง คนหนึ่งโดนเกลียด เฮ
คุณ OhLaLa ภีมเริ่มไม่น่ารักขึ้นเรื่อยๆ เลย โดนอุ่นสอนให้เข็ด
คุณ ariesleo หมั่นไส้หมูภีมอย่างต่อเนื่องค่ะ ฮา
คุณ icewinter เดี๋ยวให้ปูนคอยเคลียร์ทางให้ภีมอุ่น คนเขียนทำร้ายปูนทำไม ฮ่าๆๆ
พาคนเล่นตัว เพื่อนพระเอก และนางเอกที่หัวใจปิดตาย มาทำร้ายคนอ่านทีละนิด ความหวานอยู่ไหนคะ คำตอบอยู่ที่ถังหูลู่ วิ่งค่ะ อิอิ
ขอบคุณทุกเมนท์ ไลค์ และทุกคนที่มาอ่านนะคะ ปล.เรื่องนี้ปูนก็เด่นนะคะ ^_^ มายาวแน่ๆ



ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ต.ค. 2556, 12:15:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ต.ค. 2556, 12:15:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 2427





<< จูนติด   แลกห้อง >>
Auuuu 16 ต.ค. 2556, 12:36:44 น.
เชียร์ปูนเต็มที่ //ชูป้ายไฟ//


sai 16 ต.ค. 2556, 14:05:15 น.
ปูนจ้า ทำไมเป็นพระรองที่แสนดีอย่างนั้นละคะ มาม่ะ เค้าทำแผลให้
ปล.หมูภีมให้อุ่นดูแลเถอะเค้าไม่แย่ง


ใบบัวน่ารัก 16 ต.ค. 2556, 19:49:15 น.
ปูนไปหาหมอด้วยนะ


ปรางขวัญ 17 ต.ค. 2556, 00:41:33 น.
อุ่นจะเลือกใครน๊า เชียร์ไม่ถูกเลย เปิดเรื่องมาก็เชียร์ภีม พอปูนออกมาใจเริ่มเอนเอียงแล้ว สรุปคอยอ่านตอนต่อไปดีกว่า อิอิ


ร้อยวจี 17 ต.ค. 2556, 00:48:13 น.
ภีมเริ่มรุกแล้ว แต่ปุณได้ใจมากกว่า อยากอ่านตอนต่อไปเร็วค่ะ ตอนนางมารอาละวาดท


OhLaLa 18 ต.ค. 2556, 08:30:23 น.
ชักหลงรักปูนแล้วสิค่ะ และหมั่นไส้ภีมไปพร้อมกัน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account