Sweet Taste รสหวาน...บันดาลรัก
คนหนึ่งคนออกตามหาผู้หญิงที่มีแต่ความลับเพื่อที่ราคาแพง

คนหนึ่งคนถูกเรียกมาให้ปกป้อง ไม่ให้แผนการขายที่สำเร็จ

คนหนึ่งคนยังสนุกกับการเดินทาง แต่ไม่รู้ทำไมชีวิตถึงเริ่มวุ่นวายเมื่อมาถึงปักกิ่ง สถานที่สุดท้ายที่จะมาก่อนเธอกลับไทย

คนหนึ่งคนเติบโตมาในครอบครัวใหญ่ถูกเลี้ยงมาเป็นคนงานในบ้าน ทั้งที่เจ้าตัวรู้ว่าใครเป็นพ่อ แต่เพราะครอบครัวจะทำร้ายคนอื่น เธอจึงไม่อยากให้พ่อหย่อนขาไปในนรก

คนหนึ่งคนมีแต่ความแค้น ปลูกฝังในหัวไม่สิ้นสุด รู้แค่ว่าเกลียด และต้องทำลาย

คนห้าคนในวังวนใกล้กัน ผจญอันตราย และเรื่องราวสุดจะคาดเดา กลับมีความหวานก่อเกิดขึ้นทีละนิดในใจของแต่ละคน...มารู้ตัวอีกที ความรัก ก็เกิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
Tags: Sweet รสหวาน ภีม พรพิรุณ ปุณณ์ แพรระพี

ตอน: แลกห้อง

พรพิรุณไม่มีอารมณ์อยากรับประทานอาหารเย็นเท่าไหร่ แค่เห็นหน้าภีมกับกิ๊กใหม่ของเขากระหนุงกระหนิงกันบรรยากาศบนโต๊ะอาหารที่มีเธออยู่ด้วยไม่ต่างจากเป็นหัวหลักหัวตอ

นี่น่ะหรือปากบอกว่าจะทำให้เธอรัก...คำปากผู้ชายเจ้าชู้

“คุณปูนไปไหนหรือคะคุณพรพิรุณ” สรรพนามแสดงความห่างเหินชัดเจนจากปากแพรระพีไม่ได้ทำให้คนฟังนึกอยากร่วมสนทนาด้วยนัก ห่างๆ ก็ดี เธอไม่ได้เกิดมานั่งหลังตรง หน้าเชิด ยิ้มน้อยๆ อย่างกับประหยัดไปเข้าธนาคารออมรอยยิ้มบริจาคนอกโลก

“มีธุระกับปูนเหรอคะคุณแพรระพี” ยิ้มน้อยๆ กลับไปแบบไม่ยี่หระ ตรงข้ามกับคนฟังที่หน้าตึงขึ้นฉับพลัน

“คุณอุ่น อย่าเสียมารยาท”

ร่างเพรียวตบโต๊ะลุกขึ้นเสียงดัง ห้องอาหารของโรงแรมมีคนใช้อยู่ไม่มาก พรพิรุณจึงไม่เป็นเป้าสายตาใคร อย่างน้อยก็คงมีแค่คนสองคนที่ร่วมโต๊ะในตอนนี้

“คุณอุ่น นั่งลง” ภีมกล่าวเสียงดุ จ้องตาเฉยเมยของพรพิรุณ แต่รายนั้นกลับเลือกเสมองไปทางอื่น

“มารยาทฉันก็มีแค่นี้ล่ะ วันหลังไม่ต้องชวนมาอีก หิวฉันก็หากินเองได้ ขามี มือมี อยู่ตรงนี้ก็มีแต่น่าเบื่อ ขี้เกียจปั้นหน้าด้วย จริงไหมคะคุณแพรระพี ถอดหน้ากากก็ได้นะคะ เผื่อจะเมื่อยหน้า” ยิ้มหวานปิดท้ายวางผ้าเช็ดปากลงบนโต๊ะ สายตาเชือดเฉือนแบบไม่เป็นมิตรดังที่แพรระพีมีให้เธอตั้งแต่ครั้งแรก “อีกอย่าง ฉันไม่ใช่ทอม แล้วก็เป็นผู้หญิงที่เลือกผู้ชายด้วย ไม่ใช่ให้ผู้ชายมาเลือก”

ถอดหมวกไอวี่ออก อึดอัดที่ต้องมาปลอมตัวเป็นวรรษให้เสียเวร่ำเวลา

“คุณอุ่น ผมกุมความลับคุณอยู่นะ”

“อย่าคิดว่าขู่เป็นคนเดียวสิคะคุณภีม อะไรนะ บอกจะทำให้ฉันทั้งรักทั้งเกลียด ชีวิตนี้คนแบบคุณคงทำสำเร็จแค่อย่างเดียว ตอนนี้ฉันเกลียดคุณมากค่ะ เขาเหมาะกับคุณดีนะคะคุณแพรระพี”

ประโยคเชือดเฉือนใจคนฟังดังชัดหูของคนทั้งคู่ พรพิรุณหมุนตัวกลับออกไป ไม่สนว่าภีมจะต้องปลอบใจแม่คนสวยนั่นอีกเท่าไหร่ แต่เวลานี้แค่เห็นการกระทำของมนุษย์เจ้าชู้ ผื่นจะขึ้นแขนให้รังเกียจไปหมด

พรพิรุณรีบเดินมากดลิฟต์ใกล้จะปิดให้เปิดขึ้น นักท่องเที่ยวหลายคน กับกระเป๋าสัมภาระใบโต รวมทั้งพวกเบลบอยอีก ทำให้พรพิรุณเตรียมที่จะบอกผ่าน ถ้าไม่มีใครอีกคนพาตัวเองพร้อมถุงอีกหลายใบออกมายืนรอข้างนอก ตรงหน้าลิฟต์อีกตัว แทนที่จะขึ้นไปข้างบน

“กลับมาแล้วเหรอครับ นี่ของของคุณอุ่น ผมกำลังจะเอาขึ้นไปให้บนห้องพอดี”

“มาเถอะค่ะเดี๋ยวฉันถือเอง”

ปุณณ์รีบถอยหนี ถือของให้ด้วยท่าทางสบายๆ ทั้งที่เพิ่งเสร็จจากการไปเย็บแผลที่แขนมาก็ตาม

“ได้ไงครับ ไม่เป็นไร อีกนิดเดียวก็ถึงห้อง ผมถือให้ได้อยู่แล้ว ว่าแต่พี่ภีมไปไหนครับ อุ่นทานข้าวเย็นหรือยัง”

พรพิรุณยิ้มมุมปาก นึกถึงวีรกรรมของตัวเองเมื่อหลายนาทีก่อนแล้วอยากจะให้ปุณณ์อยู่ด้วย บางทีถ้าปุณณ์อยู่ตอนนั้น เธอคงไม่ออกงิ้วแสดงท่าทางไร้มารยาทออกไปก็ได้ ในเมื่อสองคนนั้นคงไม่ได้อยู่ในสายตา

โครก...คราก

เสียงท้องร้องของคนถือถุงชากับคุกกี้หน้าแดงน้อยๆ หัวเราะอายๆ พรพิรุณถึงกับหัวเราะตาม

“ที่ถามนี่เพราะตัวเองยังไม่ได้ทานหรือเปล่าคะ”

ประตูลิฟต์เปิดออกคนสองคนเดินเข้าไป และทั้งลิฟต์มีเพียงแค่เขาและพรพิรุณ ผนังลิฟต์เป็นกระจกสะท้อนใบหน้าของตนชัดเจน ใบหน้าที่คอยเหลือบมองคนข้างกายอยู่เสมอ

แค่วันเดียว ก็เป็นเอามากเลยนะเจ้าปูน...อันตรายต่อหัวใจจริงๆ

“ว่าแต่ทำไมถึงกลับมาถึงช้าคะ ไปเถลไถลกับสาวจีนที่ไหน” พรพิรุณเอ่ยแซว ปุณณ์นิ่งไป มองต้นแขนตัวเองภายใต้เสื้อคลุมตัวหนาปิดบังไว้ ไม่อยากให้พรพิรุณต้องเป็นกังวลกับคนอย่างเขา...คนอย่างเขามีหน้าที่ทำให้ภีมอยู่ในสายตาพรพิรุณให้มากที่สุดก็พอ

“ครับ...สาวปักกิ่งสวยๆ ทั้งนั้น แต่ไม่ทันได้ขอเบอร์ เสียดาย” ตาเรียวแหลมยิ้มเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญ ทั้งที่จริงคนที่ตนเสียดายมากกว่าคือคนที่ถามคำถามต่างหาก

“ทำไมเหรอคะ ถ้าเจอคนที่ถูกใจ ก็น่าจะลองสู้ดูสักตั้ง การไม่ทำอะไรเลยแล้วมานั่งเสียดายทีหลัง มันไม่เท่ากับเป็นการตัดโอกาสให้ตัวเองเหรอคะ”

ปุณณ์มองดวงตาดำขลับในเงากระจกนิ่ง ช่วงเวลาไม่กี่วินาทีภาพทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อไป

เขาเลือกช่วยตามข้อตกลงของอิศยา และคิดช่วยให้ภีมได้หยุดที่ใครจริงๆ สักที ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้หยุดที่ใคร มัวแต่จมปลักกับอดีต และโทษทุกอย่าง พรพิรุณคือคนที่เคยอยู่ในจุดๆ นั้น และผ่านมันมาได้อย่างเข้มแข็ง สง่างาม เวลาที่เขาโทรกลับไปหาอิศยา ทางนั้นก็มักจะเล่าเรื่องพรพิรุณให้ฟังอย่างภูมิใจ

คนฟังเองก็เหมือนได้รู้จักพรพิรุณทั้งที่ในอดีตแทบไม่เคยคุยกันสักครั้ง...และเขาก็รู้ว่าภูมิต้านทานเขามันต่ำลงเรื่อยๆ จนน่ากลัว


“สั่งอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่าครับ ถ้าไม่อิ่มสั่งเพิ่มได้เลยนะ” ภีมซ่อนแววตาสาแก่ใจไว้ได้อย่างแนบเนียน มองผู้หญิงที่เคยเหยียบหัวใจเขาพังในอดีตทำหน้าตาใสซื่อ

อย่าคิดว่าเขาจะโง่ มาแบบนี้ไม่มีเจตนาแอบแฝงคงเป็นไปไม่ได้

“อย่าเลยค่ะ แค่นี้ก็อิ่มแล้ว ว่าแต่ภีมรู้จักกับคุณพรพิรุณได้ยังไงคะ”

ชื่อของพรพิรุณทำให้คนได้ยินปรากฏรอยเหนื่อยใจในดวงตา คำว่าเกลียดดังลั่นอยู่ในหัวจนสลัดทิ้งไม่หลุด พยายามทำดี แต่ผลที่ออกมาก็เป็นอย่างที่เห็น จนกว่าเขาจะเอาคืนคนตรงหน้าได้ก่อน พรพิรุณจะพยายามหนีไปไหน เขาก็จะไม่ให้ไป จะเห็นว่าอยากแค่เอาชนะก็ช่าง

ที่แน่ๆ ต้องไม่มีวันแพ้เจ้าปูนเด็ดขาด

“ก็ผมบอกแล้วไงครับว่าเขาเป็นญาติกับปูน แปลกอะไรที่จะรู้จักกัน”

“จริงเหรอคะ ไม่เคยเห็นมาก่อน แวดวงเดียวกันแท้ๆ” แพรระพียิ้มมุมปาก มองคนโกหกได้แบบไหลไปเรื่อย คงคิดว่าคนอย่างเธอจะโง่ขนาดหนัก แค่ส่งชื่อ กับบุคคลแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง เธอก็รู้เรื่องหมด

ก็แค่เป็นลูกพี่ลูกน้องของหนูตกถังข้าวสารอย่างอิศยา จากเด็กร้านขนมปังกระจอกๆ สู่ใต้ร่มเงาดีเอส พรพิรุณเองก็คงไม่ต่างกัน หวังเกาะเงิน หวังตกถังข้าวสาร จะเป็นถังไหนดีล่ะ

ถังของทางดีเอส หรือจะทางหอพัก

แต่ไม่ว่าทางไหน ทั้งสองก็ล้วนเป็นประโยชน์ต่อเธอ นักธุรกิจไม่ปล่อยให้ผลประโยชน์หลุดมือไปเด็ดขาด ไม่ว่าจะต้องดำเนินการแบบไหน

“ว่าแต่งานไม่รัดตัวเหรอครับ ช่วงนี้ธวัชเดชาดูจะเตรียมขยับขยายงานเยอะ”

“ให้พ่อจัดการไปค่ะ อี๊ดอยากมาหาภีมมากกว่า โชคดีที่ได้เจอกัน”

“ผมเองก็เป็นเกียรตินะครับที่ได้เจอ” ปุณณ์จงใจลากเก้าอี้เสียงดังขัดอารมณ์คนทั้งคู่ ไม่มีทางไว้ใจแพรระพีแน่นอน “ผมเองก็เพิ่งรายงานทางดีเอสไปเหมือนกันว่าพบคุณอี๊ด แตกตื่นกันเลยล่ะครับ โดยเฉพาะพี่โป้งบอกให้ผมระวังตัว เผื่อเดินๆ ไป อาจโดนงูพิษฉก คุณอี๊ดเคยเลี้ยงงูไหมครับ อันตรายนะครับ ผมแนะนำว่าอย่าเลี้ยงเลย โดยเฉพาะเอามาเลี้ยงที่ต่างแดน”

ชื่อของวสุธรที่เป็นหัวเรือใหญ่ในธุรกิจโรงแรมของทางดีเอส ลูกชายของคุณชเยศ เดชอนันต์สิทธิ์ ผู้บุกเบิกดีเอสขึ้นมาจนยิ่งใหญ่ ทำให้คนได้ยิน ถูกเปรียบด้วยคำกระทบกระทั่งเสียดสีทนฟังต่อไมได้

“อี๊ดขอตัวก่อนนะคะ รู้สึกเพลียๆ”

ร่างเพรียวสวยสง่าจากไป ปุณณ์ถึงกับหัวเราะสะใจ “จี้ใจดำเข้าอย่างจังเลยว่าไหมพี่ภีม ถึงผมจะข้องเกี่ยวกับธุรกิจครอบครัวน้อยสุด แต่เรื่องผลประโยชน์ผมก็รักษาให้ครอบครัวได้ ใครมาร้ายผมก็ร้ายตอบ”

“แกไม่น่าทำไก่ตื่น”

“ตื่นสิดี จะได้กลับๆ ไป พี่เองก็เถอะพี่ภีม ทำอะไรไม่เข้าท่า จับปลาสองมือหรือไง ชำนาญ ทำบ่อย เหยื่อติดเบ็ดตลอดว่างั้น” วาจาร้ายๆ ถูกส่งออกไปตามนิสัยของปุณณ์

“ทำไม แกน่าจะดีใจ ถ้าฉันเอามือหนึ่งจับปลาตัวหนึ่ง แกก็จะได้ฉวยโอกาสจับปลาอีกตัว”

ปุณณ์ส่ายศีรษะ มองภีมเหมือนมนุษย์โง่งม พิงพนักเก้าอี้ ปล่อยแขนข้างขวาที่เจ็บอยู่ให้ผ่อนคลาย ถึงมันจะเริ่มระบมบ้างก็ตาม ที่เขาลงมาก็เพื่อพูดเรื่องสำคัญ

“อย่าดูถูกอุ่นได้ไหมพี่ภีม ปากผมอาจจะเน่าบูดกับคนที่ไม่ชอบ แต่ไม่ใช่ทุกคน อุ่นเองผมไม่เห็นว่าเขาจะทำอะไรเสียหาย พี่ก็เอาแต่กระแนะกระแหนเหน็บแนม พี่อยากให้เขารักหรือให้เขาเกลียด ถามจริงเถอะ จีบสาวมาตั้งเท่าไหร่ ใช้วิธีนี้จีบหรือไง”

ภีมใช้สายตามองน้องชายเพื่อนอย่างประหลาด พูดเหมือนจะช่วย ถึงได้บอกข้อเสียให้เขารับรู้ “กินยาผิดมาหรือไง”

“ผมจะช่วยพี่ เรื่องอุ่น ในหนึ่งเดือนถ้าพี่ทำให้อุ่นรักพี่ไม่ได้ ผมเองก็จนปัญญาจะช่วย กลับไปก็ปล่อยไปตามยถากรรม ผมก็คงกลับญี่ปุ่นเลย”

“แกก็ชอบอุ่นไม่ใช่เหรอ อย่ามาทำแมนแถวนี้”

“หนึ่งเดือนพี่จะใช้ชีวิตยังไงก็เรื่องของพี่ จะจับปลากี่มือ ก็ช่าง ผมเองก็จะช่วยเท่าที่ช่วยได้ ยกเว้นว่าพี่จะโง่ดักดาน จนดันไม่ขึ้น เรื่องความรู้สึกของผมพี่ไม่ต้องห่วงหรอก ผมมีอายะอยู่ในใจ ไม่วอกแวกเด็ดขาด” ชื่อญี่ปุ่นถูกยกมาพูด ภีมหรี่ตามองสำรวจว่าทุกคำนั้นเชื่อได้แค่ไหน แต่ถ้ามันเป็นประโยชน์ต่อเขา จะไม่รับไว้ก็ใช่เรื่อง

“ว่าแต่อายะสวยไหม” คนเจ้าชู้สายตากรุ้มกริ่มไม่เลิก

ปุณณ์หัวเราะหึ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูรูปถ่ายในโทรศัพท์ วางลงตรงหน้าภีม “สำหรับผมสวยกว่าคุณอี๊ดของพี่อีก”

ภีมไหวไหล่ แต่สายตาก็คอยมองรูปใบมือถือตาเป็นมัน เจ้าของโทรศัพท์ต้องกลั้นขำ ภาพเพื่อนผู้ชายชอบแต่งหญิงยืนแอ็คท่าอวดหุ่นในชุดวาบหวิวก่อนกระโดดลงทะเลได้สุดยอดกว่าเพศหญิงญี่ปุ่นเสียอีก เจ้าอายะ ไม่สิ ฮายาโตะ ชอบอะไรพิสดารแบบนี้จริงๆ และมันก็เป็นประโยชน์ต่อเขาในวันนี้

“ผมจะช่วยพี่อย่างแรกเลยละกัน”

“อะไร”

“แผนใกล้ชิดผูกพัน มันเคยสำเร็จมาแล้วครั้งตอนที่พี่ปั้นบังเอิญได้อยู่ห้องข้างๆ ของย่า”

“อย่าบอกนะ...”

ปุณณ์หายใจเข้าลึก ซ่อนรอยหม่นในตา ความเสียดายวิ่งพล่านในอก แต่ถ้าไม่รีบหักห้ามใจของตนให้เร็ว เห็นทีจบงานนี้ คนที่ต้องกินแห้ว ดื่มน้ำใบบัวบก จะเป็นตน

“มาแลกห้องกันเถอะ”


เสียงขนย้ายของในห้องข้างๆ ปลุกให้คนที่เผลองีบหลับไปด้วยความอ่อนเพลียต้องลืมตาขึ้น พรพิรุณสงสัยเพราะได้ยินเสียงปิดเปิดประตู และคนสนทนาอยู่ตรงหน้าห้อง ลุกขึ้นมาดูตรงตาแมว เห็นปุณณ์เดินลากกระเป๋าไปยังห้องๆ หนึ่ง แต่น่าแปลกที่เขาไม่ยอมใช้มือขวาถือของเลย

ห้องมีปัญหาอะไรหรือเปล่า

พรพิรุณเปิดประตูออกมา ห้องพักข้างๆ เปิดประตูแง้มไว้อยู่ แต่มองเท่าไหร่ก็หาตัวคนไม่เจอ ใครกันที่เข้ามา หญิงสาวยอมกลืนมารยาทดีงามไว้ชั่วคราว เดินเข้าไปในห้อง ภาพผู้ชายกำลังถอดเสื้อทำให้พรพิรุณรีบหันหลังหนีแทบไม่ทัน

“ทำไมคุณมาอยู่ห้องนี้ ปูนย้ายทำไม”

“เบื่อคุณล่ะมั้ง นี่เขาบอกข้อเสนอนี้เอง อยากเปิดโอกาสให้ผมใกล้ชิดกับคุณ น้องน่ารักก็ดีอย่างนี้ล่ะ” ภีมยิ้มกริ่ม เดินเข้ามาใกล้ ไม่สนใจว่าพรพิรุณจะนิ่งเงียบไปแล้ว

คนมือไวกอดเอวบางคนตัวผอมไว้ พรพิรุณมารู้สึกตอนโดนกอด เริ่มดิ้นรนแต่มือปลาหมึกไม่ยอมปล่อย จนกระทั่งประตูห้องเปิดออก ภีมกับพรพิรุณมองตรงไปยังปุณณ์ หนุ่มตาเล็กแต่หน้าคมขึ้นมากจากการไว้หนวดเกาหัว

“ขอโทษทีครับ ไม่คิดว่าจะมาขัดจังหวะ ผมลืมของ...พี่ภีมวันหลังปิดประตูหน่อยก็ดีนะ” ปุณณ์พยายามไม่สบตาของพรพิรุณ เดินผ่านหน้าไปยังถุงยาใบใหญ่ที่บรรจุยาจีนไว้ซ่อนทางด้านหลัง

พรพิรุณขมวดคิ้วมองตามของในถุง กับรอยผ้าพันแผลที่หนาโผล่ออกมาจากตัวเสื้อยืดสีขาวที่เจ้าตัวถอดเสื้อคลุมออกไปเรียบร้อยแล้ว เพราะมัวแต่มองถึงลืมดิ้นรนจากพันธนาการจากคนชีกอ

“พี่ภีมอย่าชิงสุกก่อนห่ามล่ะ ไม่งั้นผมฟ้องย่าแน่” ยักคิ้วแซวเดินออกไป จงใจเปิดประตูทิ้งไว้ด้วยอารมณ์หมั่นไส้เล็กๆ เขาไม่ได้ชอบใจที่ภีมถึงเนื้อถึงตัวพรพิรุณตลอดเวลา แต่พรพิรุณเองก็คงรู้สึกดีถึงได้ยืนให้กอดแบบนั้น

ไม่แปลกหรอก...แต่ใจเขาต่างหากที่แปลก


“โอ๊ย”

พอประตูห้องของปุณณ์ปิด ร่างของพรพิรุณก็เริ่มดิ้น จัดการพลิกตัว กระแทกเข่าใส่จุดยุทธศาสตร์ของภีมเหมือนที่หลายวันก่อนเธอได้ทำ อารมณ์หลายๆ อย่างประดังเข้ามา ไม่สนด้วยซ้ำว่าภีมจะหน้าดำหน้าแดงขนาดไหน

“ผู้หญิงใจร้าย” ยังมีแรงเอื้อมมาจับข้อมือเล็กไว้ รั้งไม่ให้ออกไปง่ายๆ “ถ้าผมเป็นหมันนี่เสียเชิงชายเลยนะ”

“ระหว่างเสียเชิงชายกับเสียชีวิตจะเลือกอะไรล่ะ” พรพิรุณยกขาง้างตั้งใจในท่าเตรียมเตะ ภีมก็ปล่อยข้อมือเล็กทันควัน จริงๆ สยองตั้งแต่เจอคำขู่โหดๆ นั่นแล้ว

“ฉันจะย้ายห้อง ต้องออกมาเจอหน้าหื่นของคุณทุกวัน ฉันอยากอาเจียน”

“ก็ได้นะ ผมจะเอาความลับคุณไปตีพิมพ์ให้ทั่ว สะใจดี แต่ถ้าคุณยอมอยู่ห้องเดิมไม่ย้ายไปไหนจนครบเวลาที่คุณต้องอยู่ปักกิ่งล่ะก็ ผมสัญญาว่าจะไม่เอาเรื่องความลับคุณมาขู่อีก จะทำเหมือนไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร”

พรพิรุณเม้มปากแน่น ไม่ไว้วางใจคำปากของภีมสักนิด “แล้วถ้าคุณยังเอามาขู่ฉันอีกล่ะ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคนที่ต้องการอะไรก็พุ่งเข้าใส่แบบคุณ จะไม่หาทางสกปรกเพื่อให้ได้มาในสิ่งต้องการ”

ภีมอ้าปากค้างกับคำคาดการณ์นั้น จริงๆ พรพิรุณก็คาดเดาได้ถูก ถึงเวลาจริงๆ เขาอาจทำไม่ได้

“ยังไงคุณก็อยู่ในมือผม ดิ้นไปไหนไม่รอดหรอก”

“แน่ใจนะคะ” พรพิรุณหัวเราะเหอะ แววตาท้าทายเต็มที่ “เท่าที่ฉันจำได้ ชีวิตของฉันไม่เคยอยู่ในมือใคร แต่ถ้าฉันเผอิญโดนจับไปอยู่ในมือใครเข้า ฉันก็จะตัดมือของเขาทิ้ง ฉันพูดจริงและทำแน่”

ดวงตากลมโตทะมึนน่ากลัวด้วยความนิ่งสนิท เป็นแววตาสุดท้ายที่ภีมได้เห็นก่อนจะมีเสียงประตูปิดลั่น ไม่รู้ระบบอัตโนมัติของประตูจะพังไปด้วยหรือเปล่า

แต่เขาจะโดนตัดมือเพียงคนเดียวก็ใช่ที่ คนที่จับใส่มืออย่างเจ้าปูนก็คงโดนตัดไปพร้อมๆ กัน ตอนนี้พรพิรุณคงเกลียดการกระทำของปุณณ์กับการเมินเฉยนั้นแน่ๆ

ภีมยิ้มกริ่ม ผิวปากหวือ รู้สึกชัยชนะอยู่ไม่ไกล การได้เห็นพรพิรุณหงุดหงิด ใจของเขากลับเต้นแรง และตื่นตัวอย่างประหลาด...ปลาตัวน้อยตัวนี้ของเขาน่าปราบจริงเชียว

..........................................................................................
ขอถามหน่อยค่ะ ตอนนี้เพิ่งตอนที่หกเอง “ถ้าเป็นอุ่น คุณจะเลือกใคร...” ยากเนอะ ฮา
คุณ Auuuu คนแรกที่เชียร์ปูนเลยค่ะ ฮา งานนี้ต้องดูกันยาวๆ
คุณ sai ให้คนอ่านตุ้มๆ ต่อมๆ ลุ้นไปดีกว่าว่าใครจะชนะ คนไปพร้อมคนเขียน อิอิ
คุณ ใบบัวน่ารัก ปูนไปหามาแล้วค่ะ แต่ตอนหน้ารู้อะไรเพิ่มแน่นอน อุบอิบๆ
คุณ ปรางขวัญ ปูนโผล่มาช้ากว่าตั้งหลายตอน แต่ก็ยังมีกองกำลังคอยเชียร์ อิอิ
คุณ ร้อยวจี งานนี้นางมารเขามาแบบผู้ดีค่ะ คงไม่มีกรี๊ดกร๊าดอย่างองศาแน่นอน ฮา แต่อาจร้ายลึกแทน
เรื่องนี้ทำไมภีมนิสัยอย่างนี้ กลับไปอ่านตอนแรก ภีมก็แบบนี้นะ เรื่องมือไวก็ที่หนึ่ง ตอนเรื่องที่แล้วอาจเห็นไม่ชัด ส่วนปุณณ์เรื่องนี้ก็ช่วยเขาไปทั่ว ไม่สนหัวใจตัวเอง ใครจะได้หัวใจอุ่นไป อ่านๆ ไป คนอ่านก็คงรู้เองนะคะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้
ขอบคุณทุกเมนท์ ไลค์ และทุกคนที่อ่านนะคะ ^_^ เรื่องนี้หวานคนละแบบกับเรื่องที่แล้ว แต่ก็น่าจะหวานอยู่นะ หวานแบบชอกโกแลตเข้มๆ



ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ต.ค. 2556, 04:28:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ต.ค. 2556, 18:02:54 น.

จำนวนการเข้าชม : 1670





<< พ่อสื่อ   ภรรยา? >>
ใบบัวน่ารัก 17 ต.ค. 2556, 05:56:24 น.
สงสารเพื่อนพระเอก
หาใครมาทีนะ


sai 17 ต.ค. 2556, 07:45:34 น.
ปูนไม่มีคนดูแลเลยน่าสงสารรรร


ร้อยวจี 17 ต.ค. 2556, 09:29:41 น.
อยากให้อุ่นเลือกปุณค่ะ หมั่นไส้นายภีมค่ะ สนุกค่ะ


ใจใส 17 ต.ค. 2556, 09:31:57 น.
สงสารปูนจังเลย
เป็นคนดีมากๆ


ameerah 17 ต.ค. 2556, 18:42:19 น.
อ่านแล้วสงสารปูนจังเลย ให้ปูนคู่กะอุ่นก้อดีนะคะ ^^


ภัทรภิญญ์ 17 ต.ค. 2556, 20:01:47 น.
เชียร์น้องปูนคนเดียวนะคะ 555+ ชูป้ายเอฟซี
แวะมาส่อง เดี๋ยวไปปั่นนิยายต่อ ฮาาา


นักอ่านเหนียวหนึบ 17 ต.ค. 2556, 23:18:06 น.
เริ่มเหนื่อยแล้วอ่ะ มันสงสารปนหมั่นไส้ 555


OhLaLa 18 ต.ค. 2556, 08:44:33 น.
ถ้าเป็นเราจะเลือกปูน เพราะยังหมั่นไส้ภีมสม่ำเสมอ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account