เงารักสีน้ำเงิน {นวนิยายชุด"ความลับของผีเสื้อ" สนพ.อรุณ}
วนัสสาตื่นขึ้นมาพบว่าความทรงจำของเธอหายไปถึงสองเดือน...
แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือรอยสักรูปผีเสื้อตรงกลางหลัง กับกระดาษแผ่นเดียวในมือเป็นเบาะแส
เธอคือผีเสื้อ แต่ใครกันคือดอกไม้ของเธอ...คือคนรักที่เธอหลงลืมไป
จะเป็นนวาระผู้มีรอยสักรูปดอกกุหลาบ
เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินอย่างวาริช
หรือใครบางคนที่มีชื่อเป็นความหมายของสีสัน อย่างคราม...
Tags: วนัสสา ความลับของผีเสื้อ วาริช อินดิโก้ คราม นวาระ การทดลอง พลังจิต

ตอน: ความทรงจำที่ ๑๓ ด้านที่สามของเหรียญ (เลขสวยตอนสุดท้าย บ้ายบายจ้ะที่รัก...หนังสือผีเสื้อเข้างานแล้วนะคะ!!! .......คนเขียนไป19-20และ26-27)

เจอกันเป็นตอนสุดท้ายแล้วนะคะ...
อันที่จริงเรื่องที่ผ่านๆมาคนเขียนลงจนจบตลอด แถมตอนพิเศษให้ด้วย
ซึ่งแต่ละสนพ. (หมายถึงทุกสนพ.)ไม่อยากให้ทำเช่นนั้น เรื่องนี้ตอนแรกก็กะว่าจะทู่ซี้ลงจนจบ
แต่ว่าเพื่อนๆร่วมชุดก็หยุดลงไปหมดละ อันนี้ไม่ได้โทษเพื่อนๆนะ แต่เราจะลงจบคนเดียวก็กระไร
คนที่อ่านแค่ในเว็บจบแล้วไม่ซื้อก็มี บางคนอาจบอกว่า เอ๊ะ...ยังไงฉันก็ซื้ออยู่แล้ว (แต่คนไม่ซื้อมีมากกว่าแน่นอน)

ถือว่ามาลง เพื่อให้เราได้มีโอกาสมารู้จักกัน(ลงเยอะมากจนเกือบจะจบอยู่แล้ว) ใครไม่อยากซื้อจริงๆก็ไปยืนอ่านต่อในร้านได้เลย
แต่ถ้า...นิยายเรื่องนี้มีค่าพอ แรงใจของคนเขียนมีค่าพอ
ที่จะส่งให้คนอ่านอยากเลือกให้เราอยู่ในวงการวรรณกรรมนี้ต่อไปนานๆ ก็อยากรบกวนให้ช่วยซื้อด้วยนะคะ
ยอดขายมีผลกับอนาคตมากจริงๆ ตราบใดที่ยังมีคนต้องการแนวของอสิตา จะอยู่ตรงนี้ เพื่อตัวเอง และเพื่อทุกคน ตลอดไป...

ใครคิดยังไง อ่านแล้วไม่เคยเปิดเผยตัว อยากให้มาลงชื่อลงความเห็นเป็นที่ระลึกไว้ตอนนี้สักหน่อย
จะรอฟังค่ะ
***************************



ความฝันยาวนานหลายวันจบลง คนอื่นได้เครื่องสร้างฝันช่วยให้ร่างกายไม่อ่อนเพลียเกินไปนัก
ทว่าไม่ใช่คราม แม้พวกนั้นจะยอมให้เขานอนเพราะรู้ว่าอาจเป็นอันตรายถ้าฝืนปลุกแต่ชายหนุ่ม
ก็ทั้งหิวทั้งเพลีย รู้สึกตั้งแต่ก่อนลืมตาว่ารอบตัวมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆซึมซาบอยู่แทบจะในทุกอณู
ซึ่งกายเขาสัมผัสกับเตียงกระด้าง

หลังกลับมาจากการผจญภัยลอดใต้น้ำตกไปถึงสวนด้านหน้าจนผ่านกลับมาทางใต้ดิน
ของตึกที่พักคนดูแลคฤหาสน์ ที่สุดท้ายก่อนหลับไปเขาอยู่ในห้องวนัสสา
เมื่อครามหลับสนิทด้วยเล่ห์กลอะไรบางอย่าง มีคนนำตัวเขากลับมาขังแยกไว้ในห้องเดิม
เขาจึงสามารถไปรวมตัวกับความรับรู้ของคนมีพลังจิตอีกสี่ที่ชักจูงเขาเข้าร่วมด้วยได้

ทว่าตอนนี้สภาพการณ์ปัจจุบันคงไม่ได้คลี่คลายไปตามเรื่องราวในอดีต มันกำลังตึงเครียดจนถึงที่สุด
เพราะจู่ๆนวาระก็กลับมาคุมเกมด้วยคำสั่งลับๆจากเทวัญ นำพาพวกเขาไปรับรู้เหตุการณ์ในอดีตทั้งหมด
ก่อนที่วาระสำคัญกำลังจะเริ่มขึ้น ถ้าให้เดาเทวัญคงจะโดนนวาระสะกดอยู่ส่วนหนึ่ง
แต่เป้าหมายของผู้ชายคนนั้นจะเป็นการทำลายการทดลองนี้ลงหรือผลประโยชน์อื่นใด

มีแต่เขาคนเดียวที่ถูกแยกออกมาและไม่อาจยื่นมือไปช่วยเหลือพวกวนัสสาได้
ห้องที่ใช้กักขังเขานี้ถูกปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้ามามากกว่าเดิมเสียอีก แต่ครามจะไม่ยอมอยู่เฉยแน่!
ไม่มีเวลาให้กลัวหรือลังเลใจอีกแล้ว จะต้องหาวิธีแหกออกไปให้ได้เพื่อรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรต่อจากนี้
และถ้าเป็นไปได้เขาก็จะหาทางทำลายการทดลองลงให้ราบคาบ

ครามเคยคิดมาตลอด เมื่อแบ่งร่างออกเป็นสอง จิตครึ่งหนึ่งจะยังอยู่ในร่างจริง
อีกครึ่งแบ่งไปไว้ในร่างที่สร้างขึ้นใหม่ จะทำยังไงล่ะ ให้ร่างจิตของเขามีพลังมากกว่าแบ่งไปเพียงครึ่งเดียว
อย่างนั้น ความทรงจำตอนใกล้ตายในเรือนกระจกทำให้เขาได้คิด มันมีทาง...

ชายหนุ่มตัดสินใจเด็ดขาดจึงรื้อเอาเสื้อคลุมอาบน้ำซึ่งมีสายคาดมาจากกระเป๋าเสื้อผ้า
ดีว่าเขาคิดถึงเรื่องเชือกมาก่อนแล้ว ก่อนจะมาที่นี่ถึงได้เตรียมสายรัดเอวที่เหนียวเป็นพิเศษทำจากผ้าซ้อน
ผ้าหลายชั้นเอาไว้ ซึ่งไม่ยากสำหรับคนที่ชินกับการตัดเย็บอย่างเขา แต่ถ้าดูจากสายตาคนนอกจะไม่รู้เลย
ว่ามันแข็งแรงพอจะเป็นเชือก เผื่อไว้ก่อนถ้าคนพวกนั้นจะตรวจแยกเอาของจำพวกมีดหรือเชือกที่ใช้ช่วย
ในการเอาตัวรอดได้ออกไป ชายหนุ่มโยนเสื้อคลุมอาบน้ำเข้าไปในตู้เสื้อผ้า แกล้งทำนั่นทำนี่อยู่อีกสักพัก
เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ อย่างเช่นหาของกินจากตู้เย็นให้สมกับความหิวเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย

“เลิกมองซะทีเถอะ ไอ้พวกโรคจิต จะต้องให้หลบไปอยู่มุมไหนวะ ถึงจะเป็นอิสระจากสายตาพวกแก!”
เขาแกล้งทำเอะอะ ซึ่งไม่ใช่ธรรมชาติวิสัยตามปกติ ก่อนจะเปิดประตูตู้เสื้อผ้าแล้วก้าวเข้าไป
“หลบมานอนในนี้ท่าจะดี ไม่ต้องมีสายตาของพวกเวรๆมารบกวน!”

นั่นแหละ งานของเขาจึงได้เริ่มขึ้น แม้ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเชือกที่เตรียมมาจะต้องเอาไว้ใช้ทำแบบนี้
มือของชายหนุ่มจัดการกับเส้นคาดรัดเอว พอดึงส่วนเย็บไว้ลุ่ยๆเพื่อให้ขาดง่ายออก
ครามก็สามารถคลายเส้นที่ทำไว้สองทบออกมาเป็นเชือกที่ยาวขึ้นอีกเท่าตัว เขาผูกมันโยงลงมาจากราวแขวน
ก่อนจะทำเงื่อนแล้วรัดเชือกนั้นไว้รอบคอ ถูกแล้ว! การจะให้ร่างที่สร้างขึ้นดึงพลังไปได้มากที่สุด
ร่างกายของเขาต้องอยู่ในสภาวะโคม่า

ในสายตาคนที่ไม่เคยพบเคยเห็น อาจดูเป็นกิจกรรมอย่างพวกวิตถารที่ชอบมีความสุขทางเพศแบบแปลกๆ
แต่ถ้าสำหรับคนที่ชอบ หากศึกษาให้ลึกก็มีวิธีที่พอจะทำได้ แต่ครามไม่ได้สุขสักนิด ไม่เคยคิดลองด้วย
แต่เขาไม่มีทางอื่น มีแต่จะต้องเสี่ยง เพราะเชื่อว่าหากแยกร่างออกไปแล้วเกิดผิดพลาด ก็น่าจะยังใช้ร่าง
ที่สร้างขึ้นนั่นแหละแก้มัดให้ตัวเองได้ทัน

เมื่อเชือกอยู่ในระดับได้ที่ สติของครามก็ค่อยๆเคลื่อนออกจากร่างซึ่งค่อยๆหายใจแผ่วล้าลง
สะลึมสะลือคล้ายจะกลับบ้านเก่า ในขณะที่ร่างจิตเริ่มจะแข็งแกร่งขึ้น แต่ยังหรอก
เขายังต้องรวมพลังให้มากกว่านี้ หากจะฝ่ากระแสไฟฟ้าหนาแน่นออกไป ครามรู้ว่าเขาต้องรีบ
ออกไปให้เร็วที่สุด เพื่อรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดร่วมกับวนัสสา ไม่ปล่อยให้เธอต่อสู้เพียงลำพัง
เขาจะสู้เพื่ออิสรภาพของเธอให้ถึงที่สุด ตราบใดที่ชีวิตยังไม่ปลิดปลิวไป




ความทรงจำที่ ๑๓ ด้านที่สามของเหรียญ

ศศิราศีผวาเฮือก เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่าบนเก้าอี้ที่รัดร่างเธอไว้แน่น
ปากสั่นจนฟันกระทบกันยามกลอกตามองไปรอบๆอย่างหวาดผวา ด้วยดวงตาซึ่งตอนนี้ไม่ได้สวยกริบ
เหมือนเดิม แต่มีร่องรอยของมาสคาร่าไหลเยิ้มเป็นทางตามคราบน้ำตา ขนตาหักเพราะถูกตบ
มุมปากบวมเจ่อยังคงมีรอยเลือดเช่นกัน ...กี่วันมาแล้วนะที่เธอถูกกักตัวไว้ในห้องนี้ ไม่ได้รับทั้งน้ำ
อาหาร หรือแม้กระทั่งว่าอนุญาตให้ไปขับถ่าย เธอได้แต่อดกลั้น แต่เมื่อเผชิญกับความเจ็บปวด
ก็มีครั้งหนึ่งที่กลั้นไม่ไหวจนถึงกับปัสสาวะราดออกมา เป็นความอับอายที่สุดของที่สุดในชีวิตคนอย่างศศิราศี
แต่นั่นยังไม่เลวร้ายเท่าความโหดร้ายเกินขนาดที่เธอได้รับจากน้ำมือของเทวัญ ศรีบริรักษ์

ในวันที่พวกเหยื่อทดลองถูกเรียกเข้าไปรวมกันในห้องแห่งความฝัน เทวัญมาที่นี่และเรียกเธอเข้าพบ
เป็นการส่วนตัว ศศิราศีนึกว่าเขาอยากจะอยู่กับตนสองคนและให้รางวัลพิเศษด้วยการช่วยส่งเธอถึงสวรรค์
แต่ที่พบกลับเป็นนรก! และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของความวิปริตทั้งหลายมวลที่ศศิราศีไม่เคยคิดว่าจะต้องมาพบเจอ

‘คุณราศี...นั่งลงสิ นั่นแหละบนเก้าอี้ตัวนั้น แล้วฟัง รู้อะไรไหม ความลับน่ะไม่มีในโลกหรอก’

‘ท่านคะ...’ ศศิราศีเกือบจะถามออกไปแล้ว ว่าความลับที่ว่าหมายถึงเรื่องอะไร
ทว่าพอเห็นสายตาเกรี้ยวกราดที่แฝงรอยอยากรู้อยากเห็น อยากเร่งพิสูจน์ให้ถึงแก่น
เธอก็ชาวูบจรดปลายเท้า แน่ใจทันทีว่าเทวัญได้ล่วงรู้ความลับที่ตนตั้งใจจะเก็บเอาไว้ตลอดไปเข้าให้แล้ว
ดังนั้นหญิงสาวจึงได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น

‘ผมว่าเราต้องทำความรู้จักกันให้มากขึ้นกว่าที่เคยนะ’

ทันทีที่เทวัญพูดจบ ปลอกโลหะผสมมันปลาบเป็นวงโค้งครึ่งวงกลมก็เคลื่อนออกมาในพริบตา
รัดแขนและเอวของศศิราศีติดตรึงกับเก้าอี้บุใยสังเคราะห์ผสมพิเศษที่ยืดเปลี่ยนรูปร่าง
จากท่านั่งจนร่างกายเธออยู่ในลักษณะกึ่งเอนลงไป

‘จะทำอะไรคะ!’

‘ก็จะทำการทดลองกับคุณบ้างไงคนสวย ใจร้ายนัก ทั้งที่เราไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว
ทำไมไม่เคยแง้มบอกบ้างว่าคุณก็มีพลัง...ล่องหน นี่มันพลังจิตแบบที่น่าคลั่งไคล้ยิ่งกว่าของเจ้าพวกนั้นอีก
ผมอยากลองเห็นสักที กฤษณะก็อีกคน คงจะหวงเมียอยู่หรอก ถึงได้เก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวไม่แพร่งพราย’

‘ท่านไปฟังมาจากไหน มันไม่จริงเลย’

‘จุ๊ๆ น้องชายคุณไม่โกหกผมหรอก ตอนนี้เขาเป็นพวกเดียวกับผมเต็มตัวแล้ว
นวาระรู้ดีว่าผมรับไม่ได้กับคำโกหก แบบที่คุณทำด้วยการปิดบังผมตลอดมา!
แต่อย่ากลัวไปเลยคุณราศี’ เทวัญหัวเราะกระหึ่มในคอ ก่อนจะใช้มือใหญ่ทรงพลัง
ดึงผมของหญิงสาวให้เอียงหน้ามาชิดใบหน้าเขาที่ก้มลงไปหาจนอีกฝ่ายร้องโอดโอย

‘เพราะถ้าบอกท่านก็จะทำกับฉันแบบนี้ไงคะ ไม่นะ ปล่อย!’

‘จุๆ ใจเย็น ผมไม่ได้จะฆ่าแกง เราจะไปสู่ความรุ่งโรจน์ด้วยกัน’

จากนั้น มือที่โหดเหี้ยมของเทวัญก็ทำทุกอย่างที่จะทำให้ศศิราศียอมแสดงพลังที่เธอเก็บงำไว้
นานปีออกมาต่อหน้า ทั้งปลอบทั้งขู่ เป็นตบตีทำร้าย จนที่สุดก็ถึงกับเอากรรไกรคมกริบมาตัดทึ้ง
ผมสวยๆของเธอ กล้อนจนแทบติดหนังหัว

‘ความโกรธ ความสิ้นหวัง จะเป็นตัวกระตุ้นให้แสดงพลังออกมา คุณเคยบอกผมเองนะคุณราศี’

เทวัญโยนพวงผมสลวยกระจุกสุดท้ายลงบนหน้าตักหญิงสาวที่นั่งตาเบิกโพลง ร่างกายสั่นระริก
ศศิราศีกรีดร้องไปแล้วจนแทบจะหมดเสียง ตาของหญิงสาวแดงช้ำ แต่ยังไม่ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา
เทวัญเห็นแล้วก็ยิ่งโกรธ จึงปักคมแหลมของขากรรไกรข้างหนึ่งลงบนแขนศศิราศีจนทะลุ

‘เจ็บ! พอที’ หญิงสาวกรีดเสียง เผลอใช้พลังที่กดไว้ปัดกรรไกรกระเด็นหลุดมือเทวัญในทันที

‘โอ้โห...เก่ง สมแล้วที่เป็นพี่สาวนวาระ แต่น่าเสียดายยังได้รับการฝึกไม่พอ’

‘กล้าดียังไงมาทำกับฉันแบบนี้’ ศศิราศีเบิ่งตาวาวโรจน์ที่คลอคลองไปด้วยน้ำตามองเทวัญ
แน่ละ ลงทำกันขนาดนี้ เขาคงไม่เห็นเธอเป็นหนึ่งในผู้ร่วมงานอีก เอากรรไกรมากล้อนผม
ทิ่มแขน ยังไม่รวมที่ตบตีอีกนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อบีบให้เธอยอมแสดงพลังออกมา
คงเห็นเธอไม่ต่างจากหนึ่งในเหยื่อทดลองพวกนั้น อาจจะแย่ยิ่งกว่า เพราะศศิราศี
ปิดบังเรื่องพลังของตัวเองอยู่ใต้จมูกของเทวัญตลอดมา

‘โกรธสินะศศิราศี ที่เกิดมาเป็นเวชกุลปลายแถว เลยหาทางมาทวงคืน’

‘ปลายแถวเหรอ ถ้าเป็นงั้นจริงทั้งฉันแล้วก็น้องชายคงไม่มีพลังที่รวมกันแล้วเหนือกว่าข้างนังวนัสสา
เป็นฝั่งมันมากกว่าที่ขโมยความดีความชอบของเราไปตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวด
กลุ่มเวชกุลก็ควรเป็นของฉันมาแต่แรก’

เทวัญถอนใจ ทำสีหน้าคล้ายปรานี ‘เอาจริงๆ...ไม่ว่าเวชกุลสายไหนก็ไม่ใช่เจ้าขององค์กรนี้ทั้งนั้นแหละ
เพราะมันเป็นของผม เพียงแค่ยังใช้ชื่อเดิมอยู่เท่านั้นเอง’

ตัวยาหลายอย่างถูกฉีดเข้ามาในกายศศิราศี หญิงสาวเริ่มรู้สึกว่าแสงขาวเบื้องบนชักจะแปรเป็นเขียวเหลือง
จนกะพริบวูบวาบเป็นสีน้ำเงิน เดี๋ยวก็สว่างจ้าและหรี่สลัว มีเพียงใบหน้าของเทวัญวนเวียนเข้ามา

‘ตะกี้ตัวคุณจางหายไปวูบหนึ่ง ในที่สุดผมก็ได้เห็น แต่ล่องหนที่ว่ามันคงกินความแค่พรางตัวเอง
จากสายตาคนสินะ เพราะถ้าหายตัวแล้วหลุดพันธนาการหนีไปได้คุณคงไปแล้ว
ก็นับว่าไม่ค่อยมีประโยชน์ แต่อัศจรรย์น่าดูชม ผมชอบมาก’

ใบหน้าของเทวัญวูบหายไป กลายเป็นหน้าของดร.กฤษณะ สายตาเขามองมาอย่างเวทนา
เหมือนมองข้าวของชิ้นหนึ่งที่แตกหักเสียหาย สามีเธอกำลังหันไปพูดกับเทวัญที่คงอยู่ใกล้ๆ

‘ตามใจท่านเถอะ จะเอายังไงก็เอาให้เหมาะ ผมโอนเมียให้ท่านนานแล้ว
ศศิราศียังเป็นเมียผมก็แต่เพียงในนาม ใช่ไหมคุณ...ที่รัก’ ปลายเสียงนั้นมีแววเยาะเย้ยเห็นชัด
ทั้งที่เขาเคยเห็นใจเธอ สัญญาจะช่วยปิดบังเรื่องพลังไว้จากเทวัญ แต่พอความแตกเพราะนวาระ
สามีก็ไม่คิดจะช่วยเหลืออะไรอีกแล้ว
...ศศิราศีเคยคิดว่าการที่ตนมีสัมพันธ์กับเทวัญไม่ได้อยู่ในความสนใจสามี เพราะเขาดูจะสนใจ
แต่เรื่องอื่นๆ แต่ที่แท้ก็ยังมีรัก โลภ โกรธ หลง มากพอจะเกลียดเธอเข้ากระดูกทีเดียว

‘ฮะๆๆ ’ ศศิราศีหัวเราะออกมาอย่างไม่รู้จะสมเพชตัวเองหรือทุกคนที่อยู่รอบตัวดีกว่ากัน
คนพวกนี้เป็นบ้า เธอรู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร คอยจัดแจงให้ทุกอย่าง
แต่เมื่อเข้าสู่วังวนนี้แล้วตัวเองก็เลยหนีไม่พ้น ตกเป็นเหยื่อไปด้วยอีกคน

คงจะผ่านไปหลายวันเต็มที เมื่อศศิราศีตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้ไฟในห้องเปิดไว้สลัวแต่ห้องว่างเปล่าไม่มีใคร
น่าแปลก พันธนาการที่เก้าอี้ซึ่งเคยคิดว่าอาจเป็นที่ตายได้คลายลงแล้ว ศศิราศีดีใจถึงขีดสุด
ผวาไปยังถาดอาหารและน้ำที่วางอยู่อย่างตะกรุมตะกราม ลืมมาดผู้ดีที่เคยวางไว้เหนือสิ่งอื่นใดจนหมดสิ้น


ก่อนที่ทุกคนจะลืมตาตื่น พวกเขาหลับลึกและยาวนานมาเป็นหลายวัน
เครื่องจึงค่อยๆปรับสภาวะสมองให้กลับสู่ปัจจุบันอย่างช้าๆ
เครื่องสร้างฝันนี้เป็นสิ่งที่เรียกว่าอัจฉริยะ
พัฒนากันมาหลายปีโดยที่นวาระเองคอยช่วยให้ไอเดียใหม่ๆในการแก้ไขปรับปรุงกับศศิราศี
...พี่สาวของเขา เพียงแต่มันยังไม่ได้พัฒนาไปจนเพียงพอจะใช้กับคนธรรมดา แต่สายชลกับทรงวุฒิ
ไม่ได้รับรู้ข้อมูลส่วนนี้ ทั้งยังถูกบังคับให้เข้าไปนอนในคืนวันก่อนที่ทรงวุฒิจะคลุ้มคลั่ง
เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของสถานการณ์วุ่นวายและบั่นทอนจิตใจของเหล่าเหยื่อทดลองได้เป็นอย่างดี

นวาระเองสะกดเทวัญได้เพียงชั่วคราว ผู้ชายคนนั้นจิตแข็งมาก แต่เพราะอาศัยจิตวิทยา
และการที่อีกฝ่ายเอาใจผูกอยู่กับไพ่โจ๊กเกอร์จึงพอจะสะกดได้ ก็ไม่ใช่ถาวร เขาเลยหาทาง
เบี่ยงความสนใจของชายคนนั้นไปยังศศิราศี พี่สาวเขาควรได้รับบทเรียนกับตัวเองเสียบ้างจะได้เข้าใจ
อย่างน้อยก็คงไม่เป็นไรมาก...คงไม่ถึงกับบาดเจ็บรุนแรง และระหว่างเทวัญเริงใจกับเหยื่อใหม่ที่น่าสนใจยิ่ง
ก็จะเปิดทางสะดวกให้พวกเขาทางนี้ แต่หากเกิดอะไรรุนแรงขึ้นฝ่ายนั้นอาจไม่อยู่เฉย

ดังนั้นชายหนุ่มจึงหวัง การคืนความทรงจำให้พวกเหยื่อทั้งหมดในความฝันยาวนานที่เพิ่งจบลง
สิ่งนี้จะช่วยพวกเขาให้รอดจากที่นี่ไปได้

‘ความทรงจำนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ระลึกได้ว่าความความสามารถพัฒนาไปถึงไหนกันแล้ว
แต่สำหรับวนัสสาและวาริช เพราะได้ยาเข็มที่สองที่มีสารประกอบสำหรับเร่งจิตเป็นตัวกระตุ้น
คุณยังจะก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมไปได้อีกด้วย ...หลังจากที่เราตื่น ด็อกเตอร์กฤษณะจะเข้ามาพร้อมคนของเขา
ซึ่งไม่ใช่เพียงมีเครื่องช็อร์ต แต่ทั้งหมดยังเป็นพวกที่มีพลังจิตอ่อนๆ ไม่ง่ายที่เราจะจัดการ
แต่ถ้าร่วมมือกันก็ไม่ยากจนเกินไป

แน่นอน สิ่งที่ผมทำในช่วงของความทรงจำครั้งก่อน ต้องมีคนไม่พอใจ รวมถึงเรื่องที่วนัสสาทำกับวาริช
และดาหวัน ผมอยากจะขอให้วางมันไปชั่วคราวให้หมด ความโกรธ ความกลัว ทุกสิ่งทุกอย่าง
ขอแค่สมาธิและความมีใจเป็นหนึ่งเท่านั้นแล้วเราจะรอด ...เดิมพวกเขาสอนให้เราเชื่อว่ามีสองแบบ
คือหนึ่งยอมเป็นเหยื่อแต่โดยดี กับสองโดนบังคับบีบคั้นให้เป็นเหยื่อไปเรื่อยๆ
ก่อนเราจะก้าวขึ้นไปถึงจุดที่ทนไม่ไหวและคิดแหกคอก แต่ถ้ารอจนป่านนั้นอีกครั้งมันคงสายไป
พวกเราจะไม่ได้มารวมตัวกันพร้อมอีกง่ายๆ เพราะพวกนั้นเริ่มรู้แล้วว่าความสามารถของเราพัฒนา
ดังนั้นหลังจากตื่นขึ้นมาเราจะไปทางลัด ไปถึงจุดสุดท้ายเลยในทันที ยิ่งเมื่อมีพลังเพิ่มขึ้นมาอย่างนี้แล้ว
แม้แต่กระสุนปืนเราก็ปัดให้มันเฉไปอีกทางได้ถ้ามีสมาธิเพียงพอ

มีทางเดียว! เราต้องจัดการกับด็อกเตอร์กฤษณะให้ได้ ที่นี่ และเวลานี้! แต่ก่อนอื่นเราต้องมีแผน...’


ครู่ใหญ่จากนั้น นวาระ เวชกุลค่อยๆลืมตาขึ้นเป็นคนแรกในเครื่องสร้างฝัน เขาไม่แน่ใจว่าคนที่เหลือ
จะเชื่อตนมากน้อยเพียงใด แต่ตอนนี้ทำได้แค่เสี่ยง เขากันครามออกไปจากสถานการณ์นี้เผื่อไว้
ถ้าเขาตายหรือวนัสสาพลาดพลั้ง ดาหวัน วาริชช่วยอะไรไม่ได้ อย่างน้อยก็จะมีครามอยู่อีกคน
ที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้าในอันที่จะช่วยผู้หญิงที่เขารักให้รอด




แท่นนอนถูกเลื่อนออกมาจากช่องสร้างฝัน นวาระขยับตัวลุกพร้อมๆกับดาหวัน
...ที่รอคอยพวกเขาอยู่คือดร.กฤษณะ กับนาเดียซึ่งยืนแสยะยิ้มเคียงข้างพลพรรคเจ้าหน้าที่

วนัสสายังคงนั่งห้อยขาไม่ยอมลุกจากแท่นนอนซึ่งเลื่อนล้ำออกมาจากช่องนอน หญิงสาวมีทีท่า
สิ้นหวังเพราะความรู้สึกที่ว่าบิดาเสียชีวิตจู่โจมมาอีกรอบ ไม่ต่างจากเพิ่งประสบความตายของ
บุพการีต่อหน้ามาสดๆร้อนๆ

“ที่รู้สึกถึงพลังของพ่อที่ส่งมา ที่เคยคิดว่าพ่อดูแลอยู่ตลอด! ที่แท้...ก็เพราะพ่อตายไปแล้ว
แต่ฝากพลังไว้กับฉัน!” หญิงสาวเริ่มต้นร้องไห้ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ สะอึกสะอื้น
น้ำตาไหลพรู ดาหวันเข้าไปหาเธอ ลูบหลังลูบไหล่คล้ายปลอบโยน

“ฉันยังจำได้ดีมาตลอด เรื่องที่เคยถูกเธอทำร้าย เพราะฉันไม่ได้ลืม แต่ในเวลาแบบนี้
ที่ไปสัมผัสความรู้สึกร่วมกันมา ฉันก็พอจะเข้าใจความสูญเสียของเธอ”

ในขณะนั้นมีเพียงวาริชที่ยังนอนสงบ แม้แท่นของเขาจะถูกเลื่อนมาพ้นช่องนอน
แต่ชายหนุ่มก็ยังอยู่ในอาการไม่ได้สติ จนดร.กฤษณะชักเอะใจและทำท่าว่าจะเข้าไป
ตรวจดูโดยปล่อยให้คนที่เหลือคุมตัวคนฟื้นแล้วไว้ให้ดีๆ

“ลูกศิษย์คนเก่งของฉัน จะมาจอดตรงนี้ก็ไม่สวยนะ” ดร.กฤษณะว่ายิ้มๆพลางแตะดูชีพจร
เจ้าของร่างหนา พบว่ามันเต้นช้าลง ช้ามากจนเหมือนเขากำลังจะตาย “ไปเข็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตมาเร็วๆ!”
ดร.หันไปบอกผู้ช่วยที่ตามติด

ชั่ววินาทีที่ไม่มีใครอยู่ในรัศมี ทันใดวาริชก็ผวาขึ้นทั้งตัว ล็อกตัวดร.กฤษณะหล่นลงถึงพื้นไปด้วยกัน
แล้วกลิ้งหลบเข้าไปใต้แท่นนอนของวนัสสาซึ่งยังยื่นออกมาจากช่องสร้างฝัน ในขณะที่ความโกลาหลเริ่มขึ้นทันที!

“ผมลาออกจากความเป็นลูกศิษย์คุณตั้งนานแล้ว ไม่รู้หรือไง”
วาริชว่าแล้วก็ส่งหมัดเข้าที่หน้าดร.กฤษณะ แรงจนอีกฝ่ายกรามแทบหัก สลบเหมือดคาที่
ก่อนจะลุกขึ้นจัดการกับคนที่เข้ามาด้วยพลังไบโอคอนโทรลที่ใช้ควบคุมระบบร่างกายคนอื่นได้ด้วย
แค่คว้าเข้าที่คอก็ทำเอาคู่ต่อสู้หายใจไม่ออก เลือดไหลออกปากออกตาทรุดล้มไม่เป็นท่า

นวาระเป็นคนที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้ากลุ้มรุมมากที่สุด ชายหนุ่มสะกดคนพวกนั้นได้บ้างไม่ได้บ้าง
บางคนก็หลบหลีกไม่ให้เขาสัมผัสโดนผิว แต่ก็อาศัยแรงคนที่ตกอยู่ในอำนาจสะกดจัดการกับพวกหัวแข็ง
เหมือนมีหลายมือหลายเท้าเพิ่มมา

วนัสสากับดาหวันนั้นหันหลังชนกัน วนัสสาที่แกล้งทำทีเป็นร้องไห้อยู่ตอนแรกใช้คลื่นกระแทก
จากพลังจิตที่อัดแน่นของตัวเองเป็นเกราะ ผลักดันคนที่พยายามจะเข้ามาช็อร์ตพวกเธอ
ในขณะที่ดาหวันยืนปักหลักนิ่ง ทว่าส่งคลื่นเสียงและคลื่นพลังรบกวนคลื่นสมองเข้าไปอยู่ในหู
ของพวกคนที่กำลังจะเข้ามา เป็นเสียงจากความทรงจำมากมายทั้งชีวิตที่ถูกปลดปล่อยสื่อสารออกไปพร้อมกัน
คนพวกนั้นหูอื้อตาลาย ไม่ได้ยินเสียงของพวกกันเองเพราะมีแต่เสียงจากดาหวันอยู่ในหัว
สุดท้ายก็กุมขมับลงดิ้นพล่านโอดโอยขอร้องให้หยุด นอกจากนั้นวนัสสายังใช้แรงอัดส่งบางคน
เข้าไปกระแทกผนังจนหัวร้างข้างแตก ไม่คิดจะปรานีใครอีกต่อไป

เสียงปืนลั่นขึ้นหลายนัดแต่พวกเหยื่อทดลองไม่มีใครเป็นอะไร เพราะวนัสสาคอยระวังให้ทุกคน
กระสุนบางลูกถูกปัดเฉจากเป้าหมายไปโดนพวกเจ้าหน้าที่กันเอง นาเดียก็เป็นหนึ่งในนั้น

“โอ๊ย! พวกแกหยุด--- หยุดเดี๋ยวนี้นะ รู้ไหมว่าจะโดนอะไรหลังจากนี้”
นักวิทยาศาสตร์สาวที่เคยปลอมตัวเป็นเมด ตอนนี้ทั้งแขนขาโดนพิษกระสุนได้แต่
ร้องโวยวายโดยไม่มีใครฟังเจ้าหล่อน

สำหรับพื้นที่ตรงประตูมีคนที่โดนนวาระสะกดไปยืนออ เพื่อกันไม่ให้พวกที่ถูกส่งมาช่วยเหลือ
ผ่านเข้ามาได้ง่ายๆ ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถยึดห้องและคุมตัวดร.กฤษณะไว้สำเร็จ
มันมาจากการร่วมแรงกันทำให้เป็นไปตามแผนโดยแท้ เพราะหากฟื้นมาและต่างคนต่างขัดขืน
กันไปคนละทางสองทางโดยไม่มีระบบ มีแต่จะถูกจัดการอย่างง่ายดายเสียแต่แรก
และเรื่องสำคัญที่สุดที่ทำให้พวกเขาได้เปรียบ คือเจ้าหน้าที่พวกนี้จะไม่ฆ่าเหยื่อทดลอง
ทว่าตอนนี้ฝ่ายเหยื่อที่ไม่เคยมีใครคิดจะฆ่าใคร ความคิดของพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

“นี่สินะ ที่บอกว่าเมื่อเปลี่ยนมุมมองก็คือการเพิ่มทางเลือก แล้วมันก็หมายถึงทางรอดที่จะตามมา”
วนัสสาหัวเราะเบาๆ

ในขณะนั้นวาริชวกกลับไปหาร่างที่น็อกไปแล้วของดร.กฤษณะ ชายหนุ่มค้นตามร่างกายอีกฝ่าย
พบหลอดยาหลายขนาน แต่สัตวแพทย์หนุ่มก็จำได้ดีว่าหลอดไหนคือยาสร้างจุดความทรงจำ

“เพิ่งเห็นในความฝันพอดี ว่าอดีตอาจารย์คนเก่งโดนเข็มแรกเข้าไปแล้วนี่ ลองเข็มสอง
ให้พี่แกลืมเรื่องราวชีวิตไปสักช่วงก็น่าจะสนุกดีว่าไหม” วาริชหยิบเข็มที่ว่าขึ้นมา
ให้พรรคพวกซึ่งตอนนี้แต่ละคนยืนหอบหันมาดู

วนัสสาไม่พูดพร่ำทำเพลง ตรงไปหยิบปืนที่ตกอยู่กระบอกหนึ่งขึ้นมา
“จบกันซะตอนนี้เลยดีกว่า”

ปังงง---

วาริชตกตะลึงเมื่อเลือดของดร.กฤษณะกระเด็นมาโดนเขา “เฮ้ย!” ชายหนุ่มสบถออกมา
แต่ก็ลุกขึ้นตั้งหลักว่องไว “เล่นแบบนี้เลยเหรอ! ขอเถอะนะคุณหนูวนัส อย่าเล่นบทโหดบ่อยนัก ผมกลัว”
ตอนนี้เธอกลายเป็นผีเสื้อตัวสวยน่าสะพรึงที่มีไฟลุกติดปีกไปเรียบร้อยแล้ว ไฟแค้นสีน้ำเงินเสียด้วย...

“ก็ฉันรู้สึกเหมือนพ่อเพิ่งตายไปเมื่อวานนี้เอง เพราะพวกมัน! เพราะคนเลวๆพวกนี้!
ถ้าเราไม่หยุดมันเองก็ไม่มีใครจะมาหยุดไว้อีกแล้ว” วนัสสาพูดเสียงกร้าวขณะปล่อยให้น้ำตาไหลรินลง

“ไม่เป็นไรนะวนัส” นวาระเข้ามาจับไหล่หญิงสาว

แต่สิ่งที่ตอบแทนในพริบตาคือเจ้าของร่างบางหันไปจ้องหน้า ก่อนสะบัดตบเขาด้วยด้ามปืนในมือ!
แรงจนปากแตก “ไม่ต้องมาพูดดี มันสกปรกมากนะกับสิ่งที่คุณทำ กระดาษบ้าแผ่นนั้น! แต่จะบอกให้
ชื่อคุณน่ะมันถูกรอยน้ำตาในมือฉันซึมเปรอะจนเลือนไปหมด ไม่งั้นฉันอาจหลงผิด มารักคนไม่ซื่ออย่างคุณเข้า
ยังดีที่เราไม่มีวาสนาต่อกันขนาดนั้น”

นวาระขบกรามเครียด เกิดสะกิดใจตามคำพูดของเธอ ภาพความทรงจำที่เพิ่งย้อนมาสดๆร้อนๆ
เธอปิดหน้าร้องไห้โฮๆอยู่ก่อนที่จะเขาจะบังคับให้เขียนลงในกระดาษ เธอเขียนด้วยมือขวา
แต่กระดาษถูกให้กำด้วยมือซ้าย เป็นไปได้ที่มันจะเลอะรอยน้ำตา
จะเป็นความซวยอะไรขนาดนั้นกัน และตอนนั้นเขาก็มัวแต่ตื่นเต้นร้อนรนจนลืมที่จะรอบคอบอย่างเคย

“มันผิดตรงไหน ที่เราเลือกสิ่งที่ดีกว่าให้คนที่เรารัก” นวาระพูดออกมาอย่างจริงจัง

“ก็เพราะว่าฉันไม่ได้เห็นว่าคุณดีกว่า เอาเถอะแต่ลองคิดเล่นๆ ถึงมันจะมีชื่อคุณติดอยู่
ตอนกลับมาเจอกันฉันก็คงสงสัยอะไรบ้างละ คนไม่ซื่อแสดงพิรุธได้เสมอ ฉันคงไม่โง่ขนาดหลงรักคุณ
ไปจริงๆ พอแค่นี้แหละสำหรับเรื่องนั้น! เราควรจะรีบไปจากห้องนี้กันเสียที”

ทุกคนก้มลงหยิบปืนขึ้นมาติดตัวไว้ ทิ้งพวกเจ้าหน้าที่ประจำโครงการทดลองมนุษย์
ซึ่งบาดเจ็บให้นอนร้องโอดโอยบนพื้น ไม่ต่างจากชีวิตคนอื่นที่คนพวกนี้เคยเหยียบย่ำ

ดาหวันเหลือบตาไปยังช่องนอนของทรงวุฒิซึ่งยังไม่มีการเคลื่อนไหว
ชายหนุ่มยังคงดิ่งลึกอยู่ในความฝันอันเป็นส่วนตัวของเขาและคงอยากจะตายไปทั้งอย่างนั้น
บอกไม่ถูกว่าสงสารหรือสมน้ำหน้า เพราะเธอเองก็รู้มาตลอดว่าทั้งสายชลและสามีต่างก็เป็นคน
ที่เคยทำร้ายพวกเธอ ทำให้ดาหวันไม่ไว้ใจจนต้องมาอยู่เป็นเพื่อนในวันที่วาริชลงมาในห้องแห่งความฝัน
ครั้งแรก แต่เธอหวังว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เข้ามา

“ดาหวัน ว่าแต่...ได้ยินเสียงของครามบ้างไหม” วนัสสาถามอย่างกังวลใจ

“ไม่ได้ยินเลย แต่คิดว่าเขาน่าจะยังไม่ตื่นอยู่ในห้อง ถูกขังเอาไว้ไม่ให้ออกมา”


ศศิราศีจัดการกับตัวเองในห้องน้ำเพิ่งเสร็จ เมื่อออกมาก็กลับพบว่ามีใครบางคนอยู่ในห้องลำพัง
ผมของเขาสีทอง...นักศึกษาแพทย์ฝึกหัดที่ชื่อเอเดนนั่นเอง

“เข้ามาทำไม” หญิงสาวพยายามข่มเสียงให้นุ่มนวลและไว้เชิงอยู่บ้าง แม้จะรู้สภาพตนเองจากในกระจก
ว่าตอนนี้ยับเยินเพียงไร ผมหรอมแหรม ใบหน้าที่เคยสวยเป็นหนึ่งแตกบวมยับเยิน

“เข้ามาเจาะเลือด วัดผลต่างๆที่เกิดจากการให้ยา มาเถอะครับ นั่งลงและให้ความร่วมมือเสียแต่โดยดี”
เอเดนตอบชื่นมื่น ถ้ามีอะไรเกี่ยวกับเลือด ไม่แปลกที่เขาจะต้องอาสาทำ

ร่างระหงค่อยๆเดินเข้าใกล้ ทำทีคล้ายจะนั่ง ทว่าพอได้จังหวะ
เธอกลับเหวี่ยงถาดอาหารเงินลายสวยซัดเข้าใส่หน้าอีกฝ่ายเต็มๆ

โครม แคร๊งงง---

หญิงสาวผงะหนี หมายวิ่งไปยังประตู ทว่าเอเดนโจนเข้าหาอย่างโมโหร้ายสุดขีด
ตะครุบตัวศศิราศีไว้ได้ก่อนเธอจะทันล่องหนหายไป การเคลื่อนไหวรุนแรงพาให้ทั้งคู่ล้มลง
โต๊ะวางอุปกรณ์ใกล้ๆล้มโครมตามมา เอเดนถูกถีบเข้าที่หน้า เด็กหนุ่มยิ่งเดือดดาลจนระงับอารมณ์ไม่ไหว
มือควานคว้าได้มีดเล่มหนึ่งก็ปักมันเข้าที่น่องของศศิราศี กรีดเป็นทางยาวจนเลือดพุ่งฉีด

“ที่นี้ลงจะหายตัวหนีไปก็คงซ่อนรอยเลือดไม่ได้ เก่งนักเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน”

ศศิราศีใช้ขาข้างที่ไม่เป็นไรเตะพลั่กเข้าตรงก้านคอจนศีรษะซึ่งปกคลุมด้วยผมทองนั้นสะบัดวูบ
เอเดนทำท่าคล้ายจะลุกไม่ขึ้น ในขณะที่หญิงสาวเขยกหนีออกไปพ้นห้องจนได้

บ้าเหลือเกิน! จะหนีไปไหนได้ ตอนนี้ทุกคนที่นี่กลายเป็นศัตรูกับเธอไปหมดแล้ว
เธอไม่มีทางจะไปทำแผลที่ห้องยา มีแต่ต้องหนีขึ้นไปข้างบนเท่านั้น เจ้าของร่างงามระหง
ซึ่งตอนนี้สะบักสะบอมเพิ่งได้ลิ้มรสชาติการเป็นเหยื่อทดลองครั้งแรก ปวดหนึบที่แผลลึกตรงขาจนหูอื้อตาลาย

เป็นความจริงว่าแม้จะล่องหน แต่รอยเลือดก็ยังไหลหยดตามทางเพราะแผลถูกกรีดยาว
...เธอต้องหนีขึ้นไปบนดินเท่านั้น มันอยู่ไม่ไกล ศศิราศีต้องหาทางออกสู่โลกภายนอกให้เจอ

หญิงสาวทำได้ไม่ยาก เพราะอยู่ในสภาพล่องหน ทว่าประตูออกสู่สวนหลังนั้นปิดสนิทอยู่ บ้าจริง!
คีย์การ์ดที่ยังติดตัวอยู่อย่างเหลือเชื่อก็ไม่สามารถใช้ได้ ศศิราศีกัดปาก น้ำตาคลอ พวกนั้นเปลี่ยนสถานะ
เธอไปแล้วโดยสิ้นเชิงภายในเวลาไม่กี่วัน เจ้าของร่างระหงลากขาไปถึงส่วนเรือนกระจกด้านติดกับ
ผนังคฤหาสน์ ตอนนี้ดอกไม้สีน้ำเงินชุดใหม่ที่ได้รับการฟื้นฟูกำลังบานสะพรั่ง ที่เธอรู้
นอกจากมันจะมีสารซึ่งนำมาใช้กับความทรงจำ ดอกสดๆเมื่อขยี้ยังสามารถสมานแผลและระงับปวดได้ดี
หญิงสาวที่ยังอยู่ในสภาพล่องหนมือไม้สั่นใส่รหัส ยินดีจนลนลานที่สามารถเปิดได้

เอเดนโซเซเลือดไหลอาบหน้าตามมาจนถึงข้างบนหลังจากศศิราศีหลบเข้าไปในเรือนกระจก
เด็กหนุ่มรุดมามองที่ผนังกระจกจากในคฤหาสน์ แม้ไม่เห็นตัวเธอแต่เขาเห็นพุ่มไม้แหวกออกเป็นทาง
รอยยิ้มวิปริตจุดขึ้นตรงมุมปาก นอกจากเขาจะเก่งรอบตัว จะเป็นบ้า เขายังเคยฆ่าคนตายมาแล้วตั้งหลายคน
ศศิราศีคงไม่รู้ความจริงข้อนี้ และคนที่ตายพวกนั้นก็ไม่ได้สร้างความโกรธอันแสนเจ็บแสบให้เอเดนเท่าที่
เจ้าหล่อนเพิ่งทำไปเลยสักนิด

ร่างเพรียวว่องไวตรงเข้าหาแท่นแผงควบคุม เริ่มกวาดตาหาระบบที่จะเป็นคำสั่งพ่นไฟเข้าไปผลาญดอกไม้
เขารู้ว่าวันนี้มีเรื่องร้ายแรงวุ่นวายเกิดขึ้นหลายอย่าง งั้นโหมไฟให้มันระเบิดเถิดเทิงไปเลยก็แล้วกัน!



“ฉันได้ยินเสียง...เทวัญกำลังหนีกลับตึกบลูไดมอนด์” ดาหวันบอกข่าวสารที่เธอรับรู้ได้จากจุดไกลออกไป
ทุกคนที่ตั้งใจจะตามหาครามจึงต้องนิ่งคิดว่าควรจะเลือกทางไหน

“แปลก ฟังดูไม่เป็นเขาเลย” วาริชกังขา “เท่าที่รู้มาเทวัญเป็นนักเลงที่พร้อมจพุ่งเข้าชน เราทำขนาดนี้
เขาน่าจะส่งคนพร้อมอาวุธครบมือมาอย่างที่กลัวกันอยู่มากกว่า”

นวาระส่งเสียงหึออกมาคำหนึ่ง “เพราะตอนนี้เทวัญโดนอำนาจสะกดจิต ทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง
กลายเป็นเหมือนตัวโจ๊กเกอร์ ที่พร้อมจะออกมาพลิกเกมได้ตลอดเวลา ทำในสิ่งที่ใครก็คาดไม่ถึง
แต่ผมเดาได้ว่าเขาจะไปทำไมที่ตึกบลูไดมอนด์”

เมื่อได้ยิน วนัสสาก็เกิดระลึกได้ว่าจะมีอะไรสำคัญถูกเก็บซ่อนไว้ที่นั่นอีก เมื่อไม่มีพ่อเสียคนแล้ว
แต่คนพวกนั้นก็ยังมี... “หรือว่าเขาจะเอาตัวครามไปที่นั่น! แล้วไหนจะเฟย์ เราต้องไปที่ตึก!”
“แต่มันอันตราย” ดาหวันพยายามแย้งแต่วนัสสาไม่อยู่รอฟัง

จากความทรงจำในครั้งก่อนที่หวนกลับมาทำให้วนัสสารู้ทางที่จะเชื่อมไปยังตึกบลูไดมอนด์
แม้คราวก่อนมันจะถูกระเบิดเสียหายไปบางส่วนตรงปากทางเข้า
แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้รับการซ่อมแซมแล้วเป็นอย่างดี

“ฉันกำลังจะเข้าสู่อุโมงค์หายนะ ใครไม่อยากไปตายด้วยกัน จะหยุดตรงนี้เสียก็ได้”
หญิงสาวหันไปบอกกับคนที่เหลือซึ่งยังตามมาจนถึงจุดนี้

“ก็วิ่งมานี่แล้ว! จะพูดมากอะไรอีก” ดาหวันตะคอก

รอยยิ้มเล็กๆจุดขึ้นบนหน้าวนัสสา บางทีมันก็ดีเหมือนกัน กับการมีเพื่อนซึ่งกล้าด่าเรา
แต่สุดท้ายก็ยังให้อภัยกับสิ่งที่เราเคยทำและยอมร่วมหัวจมท้ายด้วยกัน หญิงสาวจึงรีบตอบอีกฝ่าย
“งั้นก็รบกวนให้ช่วยกันหน่อย เอาไว้รอดไปแล้วจะเลี้ยงข้าวทุกคนสักหลายๆมื้อ...สัญญา”

เรื่องนี้อาจไม่ต่างกับการที่เธอกลายเป็นเพื่อนรักกับเฟย์... ความทรงจำหลั่งไหลเข้ามาเหมือนน้ำบ่า
ในขณะที่สองเท้ากำลังวิ่งฉิวไป ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายเป็นคนดีเลิศในสายตาใครๆ แต่เฟย์ดีกับวนัสสา
ที่สำคัญเข้าใจเธอมากเป็นที่หนึ่ง ไม่ว่าวนัสสาจะทำตัวเอาแต่ใจในเรื่องนั้นเรื่องนี้ถึงขนาดไหนเฟย์ก็ยังคงเข้าใจ

‘จะกินร้านนี้ จองไว้แล้ว สั่งอาหารไว้ล่วงหน้าแล้วด้วย’ วนัสสาเคยบอกยามพาเพื่อนที่นั่งมาด้วยกัน
เลี้ยวรถพรวดเข้าไปในร้านอาหารซึ่งเดิมทีไม่ใช่เป้าหมายของพวกเธอเท่าที่เฟย์รู้

‘อ้าว ไหนหลอกว่าจะไปอีกร้านนั่นไง ที่มีหนุ่มหล่อเยอะๆ ฉันถึงได้ยอมแต่งตัวสวยออกมา
เธอนี่มันจอมขี้โกง’

‘ใช่สิ ฉันมันนิสัยไม่ดี’

‘ก็โอเคแหละวนัส เธอเป็นนางเอกได้เลย เพราะนางเอกสมัยนี้เขานิยมร้ายๆกันจะตาย
ส่วนนางอิจฉาน่ะต้องแกล้งเป็นคนดี’

‘หึ ฉันมันนางร้ายเต็มขั้น ร้ายแบบไม่โวยวาย แต่ทำเลย แล้วก็ที่สำคัญสวยเกินหน้านางเอกก็แล้วกัน’
วนัสสารับมุกเต็มที่

‘จ้ะๆ นางร้ายก็นางร้าย อันที่จริงฉันก็เห็นเธอร้ายอยู่ทุกวัน เห็นด้วยเลย คราวนี้ยอมตามใจนะ
แต่วันหลังตามใจฉันคืนบ้างก็แล้วกัน’

ต่างกับเพื่อนชายหญิงบางคนที่ทนคบกันไม่ได้ พวกนั้นชอบว่าวนัสสาดื้อเหลือทน...
เธอเองก็เลยไม่คิดจะสนใจตอบเหมือนกัน

‘คนที่ว่าคนอื่นดื้อ ก็มีแต่คนดื้อเท่านั้นแหละ… ดื้อจะให้ชาวบ้านเป็นเหมือนดังใจตัวเองให้ได้
โดยไม่ดูว่าพื้นฐานเขาเป็นยังไง เป็นพวกไม่ยอมรับความแตกต่าง มองโลกอยู่ด้านเดียว’

วนัสสากับเฟย์สรุปตรงกันยามนินทาถึงคนที่เข้ากันไม่ได้กับพวกเธอ

‘เธอนี่ถูกใจจริง ถ้าอยากมีเพื่อนดีพร้อมเหมือนแม่ชีฉันคงไปหาเอาข้างโบสถ์แล้วละ
ขอบใจนะที่เกิดมาเป็นคนดีอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์’

เพราะเป็นแบบนั้น เพราะมีเฟย์อยู่คนเดียวในโลก วนัสสาจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายเป็นอะไรไปเด็ดขาด
ถึงต่อไปในชีวิตข้างหน้าจะหาเพื่อนดีกว่าได้อีกร้อยคนเธอก็ไม่ต้องการ



ในที่สุดร่างที่สร้างขึ้นของครามก็ดิ้นรนจนหลุดผ่านห้องซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยกระแสไฟฟ้าออกไปจนได้
เพราะความจำกลับคืนมาทำให้นึกได้ถึงภาพแปลนของโซนใต้ดินซึ่งจำได้ขึ้นใจ
ครามจึงเร่งไปตามทางจนถึงห้องสร้างฝัน แต่สภาพที่เห็น...ดูเหมือนเขาจะมาช้าไป

ชายหนุ่มที่พรางตัวจากสายตาคนได้เห็นดร.กฤษณะที่ดูไม่ออกว่าเป็นหรือตายถูกหามใส่เปลฉุกเฉินออกไป
จากอาการเร่งรีบของคนหาม น่าจะปางตายมากกว่า คนเจ็บเกลื่อนกลาดในห้อง มีการใช้ปืนจริงกันที่นี่
ทั้งที่เขาเคยคิดว่าคนพวกนี้มีอย่างมากก็ปืนยาสลบ

เมื่อความจำกลับมา บวกกับพลังที่ถูกกระตุ้นให้ดิ้นรนจนหลุดพ้นห้องกระแสไฟฟ้า
ทำให้ชายหนุ่มอยากทดลองบางอย่าง บางทีร่างที่สร้างขึ้นมานี้ เขาจะสามารถควบคุม
ให้คนมองเห็นเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตนเองได้หรือไม่ มันก็แค่กลุ่มพลังงาน เขาอยู่ในรูปลักษณ์
ที่เคยอยู่เพราะเคยชิน น่าจะลองเลียนแบบสิ่งมีชีวิตที่ต่างออกไป

แพทย์คนหนึ่งรีบร้อนวิ่งสวนมา คงจะตามไปทางที่ดร.กฤษณะถูกพาตัวไป
เขาจดจำรูปร่างและใบหน้าที่เพิ่งผ่านตาไว้ให้แม่น ทดลองปรากฏร่างสมมุติ
ในรูปลักษณ์ใหม่ให้คนอื่นเห็นทันที

“เร็วเข้าคุณหมอ! รีบไปที่ห้องพยาบาลเร็ว” บุรุษพยาบาลอีกคนเอ่ยเร่งคราม

ครามยิ้ม ยินดีที่มันได้ผล แต่ทำได้แค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น เพราะการเลียนแบบคนที่เพิ่งพบหน้ามันยากเกินไป
เขาไม่รู้จักฝ่ายนั้นดีพอ ...แต่มีอยู่คนที่เขาพอจะจำบุคลิกลักษณะจนถึงน้ำเสียงได้จนขึ้นใจ
เทวัญพ่อเลี้ยงของเขา! น่าจะไม่เลว

ชายหนุ่มก็รีบซ่อนร่างจากการมองเห็น ทิ้งให้คนที่เพิ่งเร่งคุณหมอผิดตัวหันมาหา
และไม่พบใครเสียอย่างนั้น

ไม่มีวี่แววพวกวนัสสา รวมทั้งศศิราศีหรือเทวัญ เขาตามหาไปทั่ว วกกลับขึ้นมาชั้นบน
มองผ่านกระจกเข้าไปพบเรือนกระจกที่กำลังมีไฟโหมเข้าไปเผาผลาญทุกสิ่งที่อยู่ภายในลงอีกครั้ง

ชายหนุ่มฉุกใจวูบ... นึกถึงความรู้สึกตอนตนเองเคยติดอยู่ภายในนั้น ทรมาน สิ้นหวัง
เมื่อพบว่าชีวิตจะต้องหลุดลอยไป ความคิดนั้นทำให้เขาตัดสินใจพาร่างทะลุเข้าไปดูเผื่อว่าจะมีใครอยู่ข้างใน

“ช่วยด้วย ใครก็ได้!”
ศศิราศีไม่อาจผ่าเข้าไปถึงด้านที่มีกระจกซึ่งไฟแรงร้อนยังพ่นออกมาไม่ขาด
หญิงสาวถูกเพลิงสกัดไว้ จะไปหาบันไดปีนลงที่อยู่อีกมุมของเรือนกระจกก็เจอไฟอีก
ได้แต่ร่ำร้องด้วยความร้อนรน แต่แล้วเธอก็มองผ่านต้นไม้รกๆที่กำลังติดไฟออกไปเห็นเขา
ครามเข้ามาในนี้! คงจะเป็นร่างที่สร้างขึ้น แต่บางทีชายหนุ่มอาจช่วยเรียกใครมาได้

“ฉันอยู่นี่” ศศิราศีทั้งไอและสำลัก
อารามรีบร้อน ร่างระหงซึ่งเวลานี้โผเผเหมือนนกปีกหักวิ่งไปทางชายหนุ่ม หมายจะให้เขาเห็นตัว
แต่แล้วศศิราศีกลับตกพรวดลงไปในหลุมทดลองที่เคยเอาไว้ใช้กับวนัสสาซึ่งได้ถูกวัชพืช
และดอกไม้งอกพรางตา ด้วยความลึกถึงห้าเมตรและท่าลงที่ผิดประหลาดทำให้ศศิราศีหมดสติไปในทันที
ความกลัวและความตระหนกในวินาทีสุดท้าย ทำให้ร่างของเธอยังอยู่ในสภาพล่องหน
คล้ายเครื่องยนต์หรืออะไรบางอย่างที่เสียไปทั้งๆที่อยู่ในสภาพไฟยังติดไม่ยอมดับ

ครามรู้สึกเหมือนหูแว่วเสียงคนแทรกมากับเสียงดอกไม้ใบหญ้ากำลังแตกปะทุ
เขาก้าวแหวกความรกมาจนเห็นปากหลุมที่เปิดอยู่ ทว่าเมื่อมองลงไปก็ไม่มีวี่แววสิ่งใดในนั้น
ดูจนทั่วแล้วทั้งเรือนกระจกกว้างขวางไม่มีคน ชายหนุ่มจึงละจากไป มีเพียงอีกจุดหมายสำคัญ
ตึกบลูไดมอนด์! เขาจะต้องรีบไปที่นั่นเพื่อช่วยวนัสสาให้รอดปลอดภัย...

เบื้องหลังนั้นเอง ซากดอกไม้ที่ตายแล้วถูกปล่อยให้ไฟผลาญเผาเป็นธุลี
ภายใต้เรือนกระจกซึ่งเป็นบ้านอันแสนอบอุ่นที่พวกมันเคยสะพรั่งอวดความงาม
ดินที่ได้รับความร้อนถล่มลงไป เติมหลุมลึกที่มีเพียงซากดอกไม้ตายแล้วจนเต็ม


------------
ติดตามผลงานทุกเรื่องของอสิตา
ได้ที่เฟซบุคนะคะ
แล้วพบกัน



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ต.ค. 2556, 10:29:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ต.ค. 2556, 15:16:06 น.

จำนวนการเข้าชม : 1493





<< ความทรงจำที่อยากลืม : ชีวิตในเรือนกระจก + ความทรงจำที่ ๑๒ ดอกไม้ในเปลวเพลิง (ตอนนี้ยาวสะใจ ถึงจุดพีคแล้วนะคะ)   
อสิตา 17 ต.ค. 2556, 10:30:50 น.
ใครคิดยังไง อ่านแล้วไม่เคยเปิดเผยตัว อยากให้มาลงชื่อลงความเห็นเป็นที่ระลึกไว้ตอนนี้สักหน่อย
จะรอฟังค่ะ


คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – วนัสจะร้ายหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับคนมองนะ ส่วนตัวคนเขียนมองว่านางไม่ร้ายเลย คนพ่อเพิ่งตายนะ จะให้ดีขนาดไหน แค่นี้ธรรมดามากเลย กับชีวิตตัวเองและพ่อที่ต้องกลายเป็นของเล่น 55 อินๆ
คุณผักชีซี่ที่รัก – ในที่สุดก็อ่านมาด้วยกันจนถึงท้ายสุดนะคะ ขอบคุณที่เอาชนะความขี้เกียจได้ อะไรนะ ต้องขอบคุณพี่ครามเหรอ ค่ะๆ ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นค่ะ
คุณเกดซ่า – นักอ่านที่รักสุดๆอีกคน แม้จะเพิ่งรู้จักกันแต่ความเฟี้ยวกินใจคนเขียนจริงๆ ขอบคุณที่ตามหากันจนเจอ และชอบ คงได้อยู่เป็นเพื่อนกันต่อไป เดี๋ยวคืนนี้ส่งหมอริชไปผายปอดนะคะ อุอุ
คุณเรือใบ – ขอบคุณที่ติดตามกันมาตั้งแต่ท่านอัคนิค่ะ อย่าโกรธนางเอกเลย พ่อนางเพิ่งซี้แหง ต้องแค้นจัดเป็นธรรมดา คนเขียนถึงกับต้องไปเซิชหานางเอกคนที่คุณเรือใบบอก น่ารักดีค่ะ ปกติไม่ค่อยรู้จักดาราค่ะ ใครเล่นก็ได้ ขอแสดงเก่งๆก็พอ ป.ล.อย่าลืมรอดูท่านอัคนินะคะ ละครเอ็กแซกต์ ช่อง5 ปีหน้าๆๆ
คุณเฟอร์ก้นกระดก หางกระเดิด – ห้ามว่าอ้าอ้าอ้า หนูวนัสสสสสสสส ถ้าใครทำกะพ่อมะม้า มะม้าจะโฉดก่านี้อีก นี่นางยังเป็นนางเอกนะ ฮี่ๆๆ อย่าลืมอุดหนุนมะม้า อย่าให้ช้าแบบหนูอัคอีกนะ ตอนท้ายหนูอัคน่ะอ่านยัง อย่าให้มะม้างอล


อสิตา 17 ต.ค. 2556, 10:31:12 น.
คุณหนอนสาว ออกมากรี๊ดยาวๆอีกแล้ว – ช่ายสิเข้าข้างแต่หมอริชกับตาครามมมม ไม่มีใครสงสารวนัสซี่เลย วันนี้หนังสือน่าจะเข้างานแล้วนะ ข่าววงใน แต่เข้าชัวร์คง18 อยากบินหนีน้ำท่วมออกไปหาหนังสือ ตอนนี้หน้าบ้านเค้าได้เกิดคลองชั่วคราวขึ้นละ...
คุณรี – วนัสซี่ไม่เห็นร้ายเลยอ่า เอ๊ะ หรือว่าคนเขียนร้ายกว่าก็เลยมองไม่ร้าย ยังไงกันๆ เรื่องหน้ามาอ่านกันอีกนะคะ แล้วเจอกันนนนนน ซับน้ำตา
คุณพี่พันแตงที่รัก – หุหุ เค้ารักคุณพี่ที่สุดเลย หายากนะที่เพื่อนนักเขียนจะสละเวลามาตามอ่านในเว็บจริงจังขนาดนี้ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้กันมาตลอด
คุณภาวิน – มาส่งหมอริชพร้อมกันเร้ว ถ้าโชคดีวันนี้หนังสือความลับของผีเสื้ออาจไปถึงงาน ลุ้นๆๆ จากจอคอมสู่หน้ากระดาษ

คุณซาอิ แกะน้อยงุงิหางปม – ไม่ใช่คนในการทดลองจิตค่ะ คนเขียนนี่แหละจิต แต่โลกนี้มันจิตนะคะ ต้องเข้าใจถึงจะอยู่ต่อไปได้ อิอิอิ แสยะยิ้มน่ากลัว ฝากอุดหนุนเค้าด้วยนะแกะน้อย
คุณสุขุมวิท66 – ซีเอ็ดมาช้านะคะ นายอินทร์เร็วกว่าแน่นอน เสาร์อาทิตย์นี้น่าจะเข้าหมดแล้ว แถบกทม.และรอบๆ ขอบคุณนะคะ คุณนักอ่านที่ชื่อเหมือนวงดนตรี ถ้าแวะไปเยี่ยมอสิตาในเฟซบุคอีกก็อย่าลืมแสดงตัวตนด้วย คนมากหลาย อาจลืมได้ แต่จะไม่ลืมถ้ามีโค้ดลับส่งถึงกัน 555
คุณแสนสนุก – ดีใจที่ตอนยาวๆเรียกคนอ่านน่ารักที่ซุ่มอยู่ให้ปรากฏตัวได้ค่ะ คติประจำใจตอนเขียนทุกเรื่องคือต้องสนุก และน่าติดตาม ถ้าคนอ่านคิดแบบนั้นเหมือนกันก็ดีใจค่ะ ขอบคุณจริงๆ
คุณบาร์บี้ – วนัสก็ไม่ได้โกรธนิวรุนแรงหรอก แต่ก็ต้องมีการสั่งสอนบ้างนะ เบาะๆ อิอิ ยินดีที่ได้รู้จักกันนะคะ เดี๋ยวตามไปรู้จักต่อในเฟซบุคได้นะ
คุณโกลเด้นซัน พระอาทิตย์สีทองผ่องสดใสของเค้า – ขอบคุณที่มาอ่านค่ะ กับคอมเม้นต์ที่ยาวเหยียดและใส่ใจทุกตอน ทำให้คนเขียนรอจะอ่าน ในที่สุดก็มาถึงตอนสุดท้าย ถ้าชอบใจฝากอุดหนุนด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ คราวหน้ามาจัดเต็มแน่นอน!



ภาวิน 17 ต.ค. 2556, 10:52:14 น.
อ่านสำนวนออดอ้อนของอสิตาแล้ว แม้เป็นเพื่อนร่วมชุดที่อ่านจบก่อนใครก็เต็มใจซื้อนะ การบอกรักที่ดีที่สุดคือการอุดหนุนกัน สนับสนุนกันนี่แหละ ต้องขอบคุณมากที่เลือกผีเสื้อสีขาวมาบินเคียงข้าง ดีใจและภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง


อสิตา 17 ต.ค. 2556, 11:21:29 น.
ปรากฏว่าอสิตา+ภาวินเหลือกันอยู่สองคนในกระทู้นี่แหละ คนอื่นเค้าไประเริงงานหนังสือกันหมดแล้ววว ข่าวล่า! ชุดผีเสื้อพิมพ์เสร็จแล้วค่า ถึงเย็นนี้แน่เลยๆๆๆ


ketza 17 ต.ค. 2556, 11:34:39 น.
เค้าอยู่ๆๆๆ มาแสดงตัว เดี๋ยวกลับขึ้นไปอ่านก่อนนะเดี๋ยวมาเม้าท์ต่อ555


Hibara 17 ต.ค. 2556, 11:46:17 น.
แวะมาให้กำลังใจค่ะ เดี๋ยวตามไปซื้อนะคะ :) ไม่เคยมาคอมเม้นท์เลย แหะๆ ถือโอกาสมาแสดงตัวละนะคะ

ปล. ตาครามเอ๊ยยย ดันปลอมไปเป็นคนที่พวกบ้าเลือดกำลังตามหาตัวอีก เดี๋ยวได้มีเปรี้ยงปร้างผิดตัวกันบ้าง เง้อออ


ketza 17 ต.ค. 2556, 12:01:31 น.
อ๊ายยค้างเติ่งๆๆ เห็นมะว่าคราม(ของเค๊า) เก่งที่ซุ๊ดดด อุดหนุนๆคัปปป๋มเพราะเรื่องหน้าคุณอสิตาเค้าจัดเต็ม ระเบิดภูเขาเผากระท่อมแหงมๆ555


Chii 17 ต.ค. 2556, 12:18:51 น.
พี่ครามมี่ >///////<


goldensun 17 ต.ค. 2556, 13:19:09 น.
นิวมองทุกคนไม่พลาดจริงๆ คนๆนี้ จอมวางแผนแท้ๆ จะดีก็ได้ จะร้ายก็ได้นะ ถ้ารุ้ว่าพี่สาวโดนอะไรบ้าง จะสงสารหรือสมน้ำหน้านะ พอความลับเผย เลยโดนวนัสไปอีกดอก วนัสเลยแรงพอๆกับดาหวันเลย ตอนนี้
เรื่องนี้น่าทำเป็นละครจริงๆ คงเอ็ฟเฟคส์เพียบ ตื่นเต้นน่าดู
ขอให้นิยายชุดนี้ขายดีติดอันดับนะคะ ยินดีสนับสนุนค่ะ
ขอบคุณค่ะ ที่ลงให้อ่าน สนุกมากๆ


Sansanook 17 ต.ค. 2556, 13:35:02 น.
สนุกมากๆ ซุ่มอ่านในเนท แต่ก็ซื้อหนังสือนะคะ


อสิตา 17 ต.ค. 2556, 13:40:41 น.
ภาวิน - วันนี้หนังสือจะออกแล้ว เหล่าผีเสื้อไชโย!!!
คุณเกดซ่า - เรื่องหน้าจัดเต็มแน่นอนค่ะ อยากเขียนอะไรที่ท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ
คุณผักชี - เอิ่ม มาเพ้อหาพี่ครามอย่างเดียวเลย พี่ครามฝากบอก "วันอาทิตย์เจอกันนะ"
คุณโกลเด้นซัน - วันนี้มาเร็วนะคะ อ่านในเวลางานเหรอคะ *-* นิวไม่ดีใจหรอกที่พี่สาวเจอขนาดนี้ เรียกว่าพลาด เพราะเจอเอเดนเข้าไปเลยยิ่งแย่ อยากให้ได้เป็นละครเหมือนกันค่ะ ตอนนี้รอดูมายาไฟไปก่อนนะคะ ปีหน้าๆๆ
คุณแสนสนุก - ขอบคุณค่ะ ถ้าไปเจอกันที่งานหนังสือทักคนเขียนได้นะคะ


อสิตา 17 ต.ค. 2556, 13:42:31 น.
คุณฮิบาร่า ฮิบาระ - อ่านสองแบบเลย ...ขอบคุณค่ะ ยินดีที่ได้สบตากันในวาระอำลา เรื่องครามปลอมตัวนี่ก็เป็นดาบสองคมนะคะ เรื่องยิงผิดเสี่ยงมาก (แต่นวาระฝากบอกว่าถึงมีเทวัญสองคนก็ไม่ลังเล ยิงถูกครามก็ดีไป เอ๊ย!!)


ภาวิน 17 ต.ค. 2556, 15:58:01 น.
สายส่งข่าวมาว่า ชุดผีเสื้อมีวางที่บูธนายอินทร์ในงานหนังสือแล้ว สดๆ ร้อนๆ ใครอ่านถึงตรงนี้แล้วคั่งค้าง อยากรู้ว่าเป็นไงต่อ มุ่งหน้าไปงานหนังสือเลยจ้า ฝากหยิบใต้ปีกรักสีเพลิงกับเริงราตรีสีขาวกลับไปให้ครบฝูงบินด้วยนะคะ ๕๕๕ แวะมาโฆษณาส่งท้าย


เรือใบ 17 ต.ค. 2556, 16:03:50 น.
กรี๊สสส ท่านอัคนิจะเป็นละครแล้วหรอคะ ^___^ ดีจังเลยยยย แต่ออกแนวแฟนตาซีหน่อยๆแบบนี้ กลัวเสียอารมณ์กับเอฟเฟคส์หนังไทยจริงๆ ท่านอัคนิยังไงคงไม่สวยเท่าเจ้าเสือในเรื่อง Pi เนอะ

ปล. ขอแก้นิดนึง ตามมาจากมายากรแห่งรักนะคะ 555 เรื่องอัคนิเป็นเรื่องที่สองของคุณอสิตาที่อ่าน


ก็เป็นได้แค่กระต่ายผ้าขี้ริ้ว 17 ต.ค. 2556, 16:23:50 น.
ค่อยๆคลานออกมาจากโพรงเพื่อมาบอกว่า "รักคนเขียนเรื่องนี้จัง เอ๊ะ ไม่ใช่แระ หลงประเด็น ออกมาเพื่อจะบอกว่า ยังติดตามอ่านอยู่ตลอดนะคะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เม้นต์ทุกตอน แต่ก็ตามกดไลค์ย้อนหลังให้นะคะ สู้ๆนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ผลิตผลงานดีออกมาให้แฟนคลับอ่านเยอะๆค่ะ ว่าแล้วก็ค่อยๆคลานลงโพรงตัวเองพร้อมจูบหนึ่งม๊วฟฟฟ =3=


lovemuay 17 ต.ค. 2556, 18:05:27 น.
สนุกมากเลยค่ะ จะไปตามต่อในหนังสือนะคะ อิอิ


ดังปัณณ์ 17 ต.ค. 2556, 18:06:13 น.
อั้ยย่ะ เสร็จไปหนึ่ง ยัยศศิราศี แต่ว่าแล้วก็อดสงสารไม่ได้นร้าาาาาาาาาา แต่...เอเดนโรคจิ๊ต จะเจอจุดจบไงน้อ ที่สำคัญไปตึกบลูไดมอนด์จะเกิดอัลไลขึ้นอีกล้าาาาาาาาาาาาาาาา อ๊ายยยยยยยยยยยยยย

ชักดิ้น ชักงอ หนังสือแถวนี้กว่าจะมาอีกสามวัน อะฮึกๆๆๆ ใจจะขาดแล้วคร้าาาาาาาาาาาา คุณแป้งงงงงงงง 555+


ดังปัณณ์ 17 ต.ค. 2556, 18:08:56 น.
เอิ่ม...นอกเรื่องนิด ใช่ว่าหน้าบ้านตะเองงงงงงจะกลายเป็นคลอง ถนนตรงหน้าหออะฮั้นก็ไม่ได้แพ้กันนะฮะ กะว่านี่ถ้าตกอีกแล้วท่วมอยู่จนถึงลอยกระทง(ไกลมาก) จะทำกระทงลอยวะเลย กว้างกว่ากะละมังซะอีกแน่ะ TT^TT

ปูลม. เกาะขอบคอมฯ รอเรื่องต่อปาย หุยๆๆตื่งเต้ง


Sukhumvit66 17 ต.ค. 2556, 18:47:06 น.
ถ้ามีโอกาสจะแวะไปขอลายเซ็นต์นะค่ะ


อสิตา 17 ต.ค. 2556, 19:18:49 น.
ชุดผีเสื้อเข้างานหนังสือจนได้!!!
คุณเรือใบ - จะจำไว้ค่ะว่าตามมาจากมายากรแห่งรัก... คนรักเก่าเลยนะนี่ เลิฟๆ ท่านอัคนิขอเสือไม่ง่อยก็พอค่ะ หุหุ
คุณกระต่ายผ้าขี้ริ้ว - จริงใจไหมน้า บอกรักซะยาวเหยียด -.- วันนี้คนเขียนจะขยันนะ ยังไงก็สาบานไว้แล้วนี่นา
คุณเลิฟหมวยหน้าแมวมารุ - ขอบคุณค่ะ ตอนจบเต็มอิ่มแน่นอน หวานซึ้งกันส่งท้าย
คุณดังปัณณ์หนอนสะดุ้ง - เม้นยาวเยี่ยมยอดอีกตามเคย แหม แล้วรู้ได้ไงว่าเอเดนจะเจอจุดจบ แสยะ...ตอนนี้คลองบนถนนข้านเค้าหายไปละ แต่มันน่าจะกลับมายามฝนตกหนัก ไปๆๆตามกันไปที่ตึกบลูไดมอนด์ เดี๋ยวรู้เลยว่าจะมันแค่ไหน
คุณสุขุมวิท66 - อย่าลืมแนะนำตัวนะคะ ว่าเป็นคนสุขุมวิท จะเซ็นให้เป็นพิเศษเลย


นักอ่านเหนียวหนึบ 17 ต.ค. 2556, 20:32:10 น.
ตอนนี้อ่านเนื้อหาในตอนกะอ่านคอมเมนท์ ยาวววว พอๆ กันเลย ดูมีสีสันดีจังงง
ยินดีกะไรเตอร์ทั้งสาม ของผีเสื้อแสนสวยทั้งสามสีนะคะ
เห็นที่ไรเตอร์เกริ่นนำไว้แล้ว ก็เข้าใจเลยว่า แค่อ่าน แค่เมนต์ แค่ไลค์ ยังไงก็ไม่พอ ต้องช่วยอุดหนุนด้วย!!!
ไว้จะไปอุดหนุนนะคะ แต่คงไม่ได้ไปงานน้า ขอให้ขายดีๆๆๆ ^_^


Barby 18 ต.ค. 2556, 00:02:23 น.
อ่านจบตอนยิ่งรักนวาระของเขามากขึ้นเลยอ่ะ ที่แล้วมาเป็นไงตอนนี้นิวแก้ตัวใหม่แล้ว แต่สงสารด้วยอ่ะเขาจะรู้สึกยังไงที่พี่สาว(รอดป่าวไม่รู้)อ่ะ ฮือๆนิวของเขา ขอให้ยอดขายของผีเสื้อ3สีถล่มทลายนะค่ะ


พันธุ์แตงกวา 18 ต.ค. 2556, 07:30:27 น.
สมน้ำมะหน้ายายศศิราศรีนัก อุเหม่! ชีหายตัวได้ มิหน้าล่ะถึงได้มีกิ๊กสบายเลย ไม่ต้องแอบใต้เตียงใต้ตู้เหมือนคนอื่น
ชุดนี้บรรจุในเว็บร้านดอกหญ้าUSA เมื่อไหร่เจ้สอยทันที ระหว่างรอตอนนี้อ่านมายาไฟในดวงตาไปก่อน ได้มาสักพักละ แต่ติดชุดผีเสื้ออยู่ เลยย้งไม่ได้อ่าน
ขอให้ขายดิบขายดี ได้เป็นละครอีกน้า เจ้อยากดู


อสิตา 18 ต.ค. 2556, 10:57:18 น.
คุณนักอ่านเหนียบหนับ - ตอนนี้คนเขียนต้องมัดตัวเองติดเก้าอี้ทำงานค่ะ รอไปงานหนังสือวันเสาร์ตามกำหนด แค่เชือกเปื่อยเต็มทีแล้ว คาดว่าอาจทนแรงกระชากไม่ไหว หนังสือของช้านนน หนังสืออออ.... ไว้งานต่อไปและต่อๆไป มาเจอกันบ้างนะคะ คนเขียนจะรออยู่ที่งานเสมอออ 55
คุณบาร์บี้ - นวาระน่ารักเนอะ น่าเอ็นดูจะตายไป แบบนี้ต้องจับไปเป็นตัวละครเรื่องต่อ ฮัดช่า แต่คงต้องต่อคิวนานหน่อยค่ะ งานรอเพียบเลย
คุนพี่พันแตงเขียวสดกรอบหอมหวาน - ปกติที่ยูเอสเอหนังสือดีเลย์นานไหมคะ มายาไฟ รับรองว่าตื่นเต้นกว่าเรื่องนี้ แต่ความชอบคงแล้วแต่รสโปรดของแต่ละคน ว่าจะชอบอันไหนมากกว่า รับประกันความสนุกหนึ่งหมื่นเปอร์เซ็นต์ เว่อร์ไม่เลิกรา


ree 18 ต.ค. 2556, 14:46:33 น.
อ้าว แล้วจะเจอร่างของครามได้ยังไงล่ะ อย่างเงี้ย


Zephyr 20 ต.ค. 2556, 16:54:10 น.
มะมะมะมะม้าาาา ฆ่าคนตายเป็นเบือเลย โฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่แอบสะใจ ฮ่าๆๆๆ โรคจิตพอกันเลยยยยย
เหม่ นางตายแบบหมดสติ นางจะสบายไปมัิ้ย โดนดินทับตาย ในสภาพล่องหน ดับอนาถ
นางเอกมะม้าจะโหดไปไหนนี่ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เค้าค้าง อยากอ่านต่อ งานหนังสือมีแล้วใช่มั้ย
พรุ่งนี้ไปสอยเลย สัญญา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account