Sweet Taste รสหวาน...บันดาลรัก
คนหนึ่งคนออกตามหาผู้หญิงที่มีแต่ความลับเพื่อที่ราคาแพง

คนหนึ่งคนถูกเรียกมาให้ปกป้อง ไม่ให้แผนการขายที่สำเร็จ

คนหนึ่งคนยังสนุกกับการเดินทาง แต่ไม่รู้ทำไมชีวิตถึงเริ่มวุ่นวายเมื่อมาถึงปักกิ่ง สถานที่สุดท้ายที่จะมาก่อนเธอกลับไทย

คนหนึ่งคนเติบโตมาในครอบครัวใหญ่ถูกเลี้ยงมาเป็นคนงานในบ้าน ทั้งที่เจ้าตัวรู้ว่าใครเป็นพ่อ แต่เพราะครอบครัวจะทำร้ายคนอื่น เธอจึงไม่อยากให้พ่อหย่อนขาไปในนรก

คนหนึ่งคนมีแต่ความแค้น ปลูกฝังในหัวไม่สิ้นสุด รู้แค่ว่าเกลียด และต้องทำลาย

คนห้าคนในวังวนใกล้กัน ผจญอันตราย และเรื่องราวสุดจะคาดเดา กลับมีความหวานก่อเกิดขึ้นทีละนิดในใจของแต่ละคน...มารู้ตัวอีกที ความรัก ก็เกิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
Tags: Sweet รสหวาน ภีม พรพิรุณ ปุณณ์ แพรระพี

ตอน: คนมีความลับ

เขมรัฐเป็นคนที่ทางวสุธรยอมส่งมาช่วยงานสำคัญของทางปุณณ์ แฟ้มเอกสารมากมาย รวมทั้งการถูกลูกค้าหลายรายยกเลิกการเข้าพัก เลิกจอง หรือแม้แต่พนักงานที่ขวัญเสีย ส่วนหนึ่งยอมลาออกไป ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับดีเอส ก็เหมือนโดมิโน ถึงที่อื่นจะไมได้ระเบิด แต่มันรวมหมายถึงความเชื่อมั่นทั้งหมด ผู้รับบริการไม่ไว้วางใจว่าจะไม่เกิดกรณีแบบนี้กับโรงแรมดีเอสในที่อื่น

คนที่ยังร่างกายเพิ่งฟื้นคืนได้ไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ขมวดคิ้ว ตามร่างกายยังมีผ้าพันแผลพันตามตัวร่างกายพิงพนักเก้าอี้หนังสีหน้าเครียด แต่แค่ขมวดคิ้ว อาการปวดหัวก็แล่นจี๊ด งานแรกที่ครอบครัวโยนมาให้เปรียบเหมือนหินยักษ์ที่เขาต้องก้าวข้ามไป

“เราต้องแก้ข่าว จับตัวคนร้ายให้ได้ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ของโรงแรมดีเอส”

“เราจับคนร้ายไม่ได้ครับ ไม่ใช่ไม่อยากทำ แต่ทำไม่ได้”

“เพราะอะไรครับ”

“เพราะ...” เหตุผลที่เขมรัฐเล่าออกมา ทำให้ปุณณ์รู้สึกว่าเหตุผลตรงๆ ของโลกใบนี้ใช่ว่าจะเข้าใจอะไรขึ้นมาได้ง่ายๆ...โดยเฉพาะไอ้เรื่องที่ว่าด้วยความรัก ความแค้น ไม่มีสีขาว สีดำจริงๆ ตรงกลางของโลกมันยังมีสีเทาซุกซ่อนอยู่อย่างแยบยล


“คุณโกหกฉันหรือเปล่าคะ” ปาริตาถามอย่างสงสัย ไม่คิดว่าเรื่องที่ปุณณ์เอามาเล่าบอกถึงความจริงนั้น จะมาบอกสบายๆ ตรงขั้นบันไดที่เกิดระเบิด ทำเหมือนมานั่งผ่อนคลายแต่เรื่องที่ว่ามามันสำคัญต่อชีวิตเธอ “แม่ของฉันเป็นคนในเดชอนันต์สิทธิ์ คุณเห็นฉันดูไม่ทันคนเหรอคะ”

“มันเป็นเรื่องจริง นี่พี่จะทำยังไงให้มิลันเชื่อดีล่ะ คุยกับแม่ไหม ตอนนี้น้าลันเองก็อยู่ที่บ้านใหญ่แล้ว พี่เพิ่งคุยถามความจริงจากทางนั้นมาเหมือนกัน”

ปาริตาทำหน้าเหมือนโดนผีหลอกกลางวันแสกๆ คุณหมอที่ไม่เคยสงสัยในชาติตระกูลตัวเอง ก้มหน้ายอมรับในความเป็นมาของตน ไม่ดิ้นรนไขว่คว้าอยากมีอยากได้ ไม่เรียกร้องอะไรจากคนเป็นพ่อ นอกจากตั้งใจเรียนหนังสือจนจบ ไม่ทำให้ใครต้องมาว่าถึงแม่เธอได้

แล้วนี่คืออะไร...

เรื่องเล่ามากมายจากปากของปุณณ์ดูผ่อนคลายเหมือนเล่าสักเรื่อง เริ่มตั้งแต่มารดาของเธอรักกับพ่อ ก่อนจะโดนหลอกใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจจนพลาดพลั้งมีเธอ ไปอยู่ในบ้านของธวัชเดชา แต่ไม่ได้ถูกเชิดหน้าชูตาเพราะมาทีหลัง แต่ความจริงเลือดของแม่ไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่ากันเลย ที่ทุกคนทำอะไรไม่ได้มันเป็นทั้งคำสัญญาที่ตาเคยขอไว้ และเหตุผลหลักจริงๆ เลยนั้นมันคือเธอและแม่

เดชอนันต์สิทธิ์ถึงไม่กล้าสั่งสอนธวัชเดชาขั้นรุนแรงเสียที

ปุณณ์มองท่าทีไม่ตีโพยตีพายรับเรื่องราวดังผู้ใหญ่คนหนึ่งอย่างมีสติอดภูมิใจไม่ได้ ได้น้องสาวน่ารักมาเพิ่มหนึ่งคน และถ้าให้ดีปาริตาอาจเป็นกาวเชื่อมของคนทั้งสองตระกูล ยุติความบาดหมางที่มีมาทั้งหมดก็ได้

“จากนี้เรียกพี่ว่าพี่ปูนนะ มีน้องน่ารักไม่เหวี่ยงไม่วีน ดีกว่าปีศาจองศาเยอะ” ชื่อลูกพี่ลูกน้องทางสายพ่อถูกยกมา รายนั้นเจอกันกี่ครั้งก็ปะทะกันแหลก มีมาดีขึ้นหน่อยตอนเป็นแม่คน และต้องทำดีต่อหน้าสามีไม่ให้คราบปีศาจหลุด

ปาริตาทำหน้าสงสัย ปุณณ์หัวเราะเบาๆ “ไว้กลับไทย จะแนะนำครอบครัวให้รู้จักนะมิลัน”

ยกมือขึ้นยีผมนุ่มของคุณหมอคนเก่ง ชีวิตที่ลำบากมาตลอดของแม่ลูกคู่นี้ เหมือนทองถูกห่อผ้าไว้ ได้รับการเปิดตัวเสียที

“พี่ปูนคะ อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใครได้ไหม”

“ทำไมล่ะ ป่านนี้ใครๆ ก็น่าจะรู้หมดแล้ว”

“มิลันไม่อยากได้รับสิทธิ์พิเศษในการเป็นคนของสองตระกูล มิลันต้องการเป็นแค่หมอธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้มาเรียกร้องหาความจริงค่ะ แค่ไม่ให้คุณศานติทำผิดมากไปกว่านี้”

ปุณณ์ลูบผมปาริตาอย่างเบามือ “พี่เข้าใจ มันเป็นความลับของพวกเรานะ”

“ขอบคุณค่ะ...พี่ปูน”


หายไปไหน...ถึงไม่ได้อยากห่วง แต่คนที่โหมงานในห้องเล็กกับลูกน้องคนสนิทของวสุธรตั้งแต่เช้าจนบ่ายแก่ ร่างกายก็ยังไมได้แข็งแรง ไม่อย่างนั้นจะยกหน้าที่พยาบาลพิเศษมาให้ทำไม ถ้าตัวเองจะเป็นคนไข้ที่วิ่งวุ่นไปทั่วแบบนี้

พรพิรุณนึกหงุดหงิด นับตั้งแต่วันที่เธอโดนมัดมือชก ขโมยจูบไปแบบที่ไม่ทันตั้งตัว ปุณณ์ก็ประกาศหน้าตายว่าเธอต้องเป็นพยาบาลพิเศษของเขา ตามติด ยกเว้นเวลาที่ตนทำงาน ถึงมีเวลาอิสระของตัวเอง

ถาดยา และอาหารถูกเดินมาเบื่อ ถามหาพนักงานโรงแรมจนรู้ว่าผู้บริหารคนเก่งมานั่งเล่นอยู่หน้าทางขึ้น

“พี่เข้าใจ มันเป็นความลับของพวกเรานะ”

“ขอบคุณค่ะ...พี่ปูน”

ประโยคลับลมคมใน และอาการที่ดูเป็นกันเองดังในจังหวะที่เธอเดินมาถึงบันไดขั้นแรกพอดี มือของปุณณ์ลูบหัวปาริตา รอยยิ้ม และดวงตาดูสว่างไสวจนพร่างพราย พรพิรุณเม้มปากแน่น เริ่มรู้สึกตัวเองอยู่ผิดที่ผิดเวลา รีบหันหลังกลับไปก่อนที่จะเข้าไปทำลายโลกแสนสวยของคนทั้งคู่

แต่มันเหมือนมีเมฆขมุกขมัวมาลอยเอื่อยในใจของเธอแทนเสียได้ ไม่เข้าใจจริงๆ

“เจอเจ้าปูนหรือยัง อ้าว...” ภีมเดินตามออกมา เพิ่งคุยกับทีมออกแบบเพิ่มเติม พรพิรุณหน้าเรียบสนิทไม่หือไม่อือ แต่มือเผลอกำถาดไว้แน่น จนชายหนุ่มต้องยืดคอขึ้นมองตัวต้นเหตุทั้งสองคน “ดูเหมาะสมกันดีนี่นา เจอกันแปบๆ เล่นหัว ยิ้มใส่กันแล้ว”

ภีมว่าอย่างสังเกต แต่ไม่ได้วางใจในพฤติกรรมของปาริตาสักนิดเดียว ถ้าปาริตาฝ่าด่านเดชอนันต์สิทธิ์เข้ามาถึงด่านชั้นในได้เมื่อไหร่ ในฐานะคนของธวัชเดชาต้องเล่นหนักกว่าเรื่องระเบิดแน่

ผู้หญิงคนนี้ไว้ใจไม่ได้มากขึ้นทุกที แต่อดทำตัวหมาหวงก้างกับพรพิรุณไม่ได้

“ทำไมไม่ให้มิลันทำล่ะ นั่นน่ะหมอ คงพอดูแลคนเจ็บได้อยู่ คุณอุ่นไม่ต้องเดือดร้อนเสียเวลาเขียนงานด้วย”

คนถูกย้ำเรื่องงานมองตาเขียวปั้ด อารมณ์โดนกวนให้ขุ่นคลักมากขึ้น เห็นหน้าภีมอารมณ์เสียหนัก ส่งถาดในมือให้ภีมไปถือไว้แทน “ฝากด้วยนะคะ จะไปเขียนงานลับ”

“ทำไมไม่ลองเอางานมาช่วยดีเอสล่ะ”

“ยังไง”

“กู้ชื่อดีเอส ด้วยการให้คุณแนะนำอาหารของทางดีเอสไง” คนที่มองผลประโยชน์ตัวเองเป็นหลักยักคิ้วข้างเดียวเป็นต่อ งานจากทางองศาเขาไม่ลืมแน่นอน

“อยากทำก็ทำเองค่ะ ไม่มีใครสั่งฉันได้ ส่วนนั่นน่ะบอกเขาด้วยว่าฉันไม่ทำหน้าที่พยาบาลแล้ว เบื่อคนไข้แบบเขา เดี๋ยวก็คงหาคนใหม่ได้เอง”

คนโดนสั่งรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เหมือนโดนพายุอารมณ์หน้ากลัวเข้าไปลูกหนึ่ง มองอาการเหมือนคนกำลังหึงเดินจากไป ขมวดคิ้วมองตาม จากประสบการณ์อันช่ำชองบอกได้คำเดียวว่ามีบางอย่างผิดปกติในใจของพรพิรุณแน่นอน แต่อาจอยู่ในช่วงสับสน ไม่เข้าใจ และไม่รู้ตัว

อย่างนี้มันน่าเติมเชื้อ...

“อุ่นให้เอามาให้ บอกด้วยว่าเบื่อที่ต้องมาดูแลคนแบบนาย ไปละ อย่างนี้ทางน่าจะสะดวก” ผิวปากกวนอารมณ์ จนคนรับรู้เรื่องราวผุดลุกรวดเร็ว หน้าเบ้ อาการเจ็บแล่นมาจากด้านหลัง ทรงตัวได้แบบไม่มั่นคง มองสิ่งที่พรพิรุณเตรียมไว้ให้ ก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองมัวแต่ตามหาปาริตาด้วยเรื่องสำคัญจนลืมว่าพรพิรุณบังคับให้นั่งรอทานข้าวกลางวันในห้อง

กระดกยาหลายเม็ดลงคอหมด ตามด้วยน้ำในแก้ว ไม่สนอาหารจานเดียว รีบเดินเร็วตามไป ปล่อยให้ปาริตาต้องมองคนตัวร้ายสร้างเรื่องวุ่นอย่างภีม ที่กำลังเดินกลับมาหน้าสะใจ

“ทำไมไปทำให้เขามีปัญหากันแบบนั้นคะ แย่มากๆ”

“ใครกันแน่ลองคิดให้ดีๆ อุ่นมาเห็นภาพบาดตาบาดใจคงทนไม่ไหว”

“อะไรนะคะ...หรือว่า” ปาริตาทำหน้าอึ้งไปนิด ก่อนจะรับรู้ว่าที่จริงอาจเป็นเธอก็ได้ที่ทำให้พรพิรุณไม่เข้ามาหาปุณณ์ “ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ”

“รู้ก็อย่าทำอีก” ภีมทำเสียงดุ ตีหน้าขรึมแต่ในใจหวังผลตามเคย “อยากทำมานี่ ว่าง” ยกมือขึ้นลูบศีรษะนุ่มบ้าง

สัมผัสอุ่นวาบแล่นจับความรู้สึกจนถึงใจ ปาริตามองผู้ชายที่คงจะตั้งใจแกล้งเธอเล่น แต่แววตา และน้ำเสียง หรือจะหัวใจของเธอ มันเต้นแปลกๆ

“คุณเคยทำคุกกี้ไหมคะ”

“ถามทำไม”

“เผื่อฉันเคยกินคุกกี้ของคุณ”

ภีมจ้องตาใกล้ห่างกันแค่จมูกกั้น ทำเสียงหึในลำคอ “ผมเกลียดขนม และรสหวานทุกชนิด เกลียดมาก”

ปาริตาไม่รู้หรอกว่าเขาใช่พี่คุกกี้คนนั้นหรือเปล่า แต่ดวงตาที่มีบาดแผลหนักอย่างกับคนผ่านเรื่องราวหนักหนามาสะท้อนออกมาจนเธอเหมือนถูกเข็มทิ่มตำตามไปด้วย ความเจ็บปวดในเรื่องที่เขาเกลียดมันมีสาเหตุมาจากอะไร

แล้วจะผิดไหมที่เธออยากเป็นหมอ รักษาโรคของเขา

“อยู่ไห้ห่างๆ เจ้าปูนไว้”

“ทำไมคะ”

ภีมคิดวิธีและเหตุผลออกสดๆ ร้อนๆ ในการดึงปาริตาออกห่างปุณณ์ ในช่วงเวลาที่เขายังไม่ใจเจ้าหล่อน

“ผมคิดว่าผมอาจชอบคุณ” แก้มสีนวลขึ้นสีอ่อนน่ามอง มุมปากของภีมกระตุกยิ้มร้าย

จะกระชากหน้ากากคนร้าย ต้องทำให้ตายใจ แล้วเชือดตอนหลับ


ไม่ได้โกรธ ไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งนั้น พรพิรุณข่มความหลากหลายความรู้สึกประดังเข้ามาให้แน่นิ่ง นอนก้นเหมือนที่แล้วๆ มา ที่เธอรู้สึกหงุดหงิดก็เพราะปุณณ์เป็นคนไข้ที่ห่วยแตกต่างหากล่ะ

หญิงสาวหยิบกระเป๋าสะพายข้างที่บรรจุสมุดบันทึกเตรียมทำงานของตัวเองตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่มาถึงปักกิ่ง หากไม่เกิดเรื่องวุ่นวายมากมายจนปลีกตัวไปไหนไม่ได้แบบนี้

ปล่อยให้คนเจ็บไม่เจียมตัวทำงานจนอาการหนักก็ช่าง เธอเองก็หมดความอดทนเหมือนกัน

“โอ๊ย!” เสียงคุ้นหู และจำได้ขึ้นใจแม้จะเป็นแค่เสียงอุทาน ร่างบางในชุดเสื้อกันหนาวหนาชั้นเดียว พอให้สู้กับอากาศเย็นของปลายหนาวได้รีบวิ่งออกมาเปิดประตูห้องที่เธอพักอยู่กับปาริตา

ร่างของผู้ชายที่นั่งหอบหายใจแรงนั่งเหยียดขายาวอยู่หน้าประตูห้องตรงข้ามซึ่งเป็นของเขากับภีม มือกุมแผลด้านหลังสีหน้าเจ็บปนเหนื่อย ดูทรมานจนพรพิรุณลืมความรู้สึกหม่นในใจไปสิ้น

“ไปทำอะไรมา”

“วิ่งขึ้นมา กลัวจะไม่เจอ”

“วิ่ง!” พรพิรุณมองคนวิ่งขึ้นมาห้าชั้น อยากยกมือตีเขาเหมือนเด็กทำผิด ทำไมเขาชอบทำให้เธอโกรธอยู่เรื่อย แต่พอรู้ว่าอยากพบเธอ หัวใจก็พลันเต้นแปลก เหมือนจะลอยได้

“งอนอะไรผม เรื่องมิลันหรือไง”

“คุณไม่ได้มีความสำคัญกับฉันขนาดนั้น” เชิดหน้าตอบ ค่อยๆ ยอบตัว พยุงร่างที่เหนื่อยให้ลุกขึ้นตามความเคยชิน ร่างกายของเธอหายเกือบเป็นปกติ ในขณะที่ปุณณ์ออกแนวดื้อด้าน ฝืนร่างกายเสมอ

“แต่อุ่นสำคัญกับผมนะ”

“ฉันไม่อยากรู้” ตวัดตามองค้อน ในหัวพลันนึกเรื่องที่เขามีความลับระหว่างปาริตา ใจมันก็เหมือนร้อนรนพิกล “รีบๆ กลับห้องแล้วนอนพักซะ เลิกทำให้ฉันเสียเวลาสักที”

“จะไปไหน”

“แล้วทำไมต้องรายงานคุณด้วย” พรพิรุณเม้มปากเป็นเส้นตรง ไมได้รู้เลยว่ากำลังถูกปุณณ์มองด้วยดวงตาพราวระยับ เป็นประกายอารมณ์ดี และเพียงแค่ผินหน้าขึ้นมา แก้มนิ่มก็ถูกชิงสูดดมไปฟอดใหญ่

“อยากรู้อะไรไหม ถามสิแล้วผมจะบอก ต่อให้เป็นความลับ ผมก็จะหาวิธีอื่นบอกคุณ”

“เลิกพูดเถอะ” หญิงสาวแยกเขี้ยวขู่ฟ่อ ใช้มือหยิกเอวคนชอบฉวยโอกาสกับเธอจนร้องโอดโอย “จะกลับเข้าห้องไหม ถ้าไม่จะปล่อยทิ้งไว้ตรงนี้”

คนจะโดนทิ้งรีบกระชับเอวเล็กเข้าหาตัว ลอยหน้าลอยตา “อยากพักผ่อนกับพยาบาลคนพิเศษ ถือเป็นวิธีรักษาอาการเจ็บป่วยอย่างหนึ่งนะ” ยิ้มหวานส่งท้ายให้คนมองใจแกว่งไกว โยกไปมา “ผมอยากเห็นเวลาอุ่นทำงาน”

พรพิรุณกลายเป็นไม้พยุงสุดวิเศษที่ส่งกลิ่นหอมหวานได้ดียิ่งกว่าน้ำมันหอมระเหยชนิดไหนในโลก และสัมผัสนุ่มเพียงแค่มือของพรพิรุณคอยพยุงเขาไว้ มันเป็นความหวานที่นับวันปุณณ์รู้สึกว่าตัวเองเสพติดมากขึ้นทุกที อยากจะคอยชิมความหวานจากคนไม่หวานตรงนี้เสมอ

ถึงจะเจ็บตัวบ้างก็ช่าง น้ำผึ้งหวานๆ จะได้ก็ต้องรบกับตัวผึ้งซะก่อน แต่พอดีเขาต้องการทั้งตัวผึ้ง และน้ำหวาน ไม่ว่าอะไรก็ชอบทั้งนั้น

“นี่คุณ!” คนโดนขโมยหอมแก้มอีกข้างร้องโวยอีกรอบ ฟาดมือใส่ต้นแขนที่มั่นใจว่าไม่มีแผลแรงทีหนึ่ง

ทำไงได้ ก็มันอดใจไม่ไหว...ปุณณ์กลั้นยิ้มอารมณ์ดี ที่ไหนที่มีพรพิรุณ เขาก็ไปได้ทั้งนั้น

.....................................................................
คุณ ร้อยวจี จะให้ปูนเพิ่มระดับความหวานเป็นระดับขึ้นไปนะคะ ฮิ้วว ครอบครัวนี้เขาเหนียวแน่นกันตั้งแต่เรื่องหนูย่าแล้วเนอะ เจ้าเล่ห์ทั้งตระกูล
คุณ ใบบัวน่ารัก คนที่อ่านแค่สามตอนแรก อ่านตอนล่าสุดอาจจะงง ฮา เป็นงี้ไปได้
คุณ alittledog นายปูนยังคงความน่ารักไปได้เรื่อยๆ ฮา
คุณ ameerah พอป่วยปูนทำอะไร อุ่นเอาคืนได้ไม่ถนัดเลยค่ะ
คุณ OhLaLa อีกไม่นานปูนอาจกลายร่างเป็นกระสอบทรายให้อุ่น ถ้าหายเมื่อไหร่ค่ะ ฮา
ขอบคุณที่ยังอ่านกันเหมือนเดิมค่า รีบมาลงไว้ ก่อนไปงานหนังสือพรุ่งนี้ อาจเดินสวนกับใครบ้างก็ได้ ^_^



ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ต.ค. 2556, 01:55:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ต.ค. 2556, 01:55:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 1514





<< เพื่อนตาย(ไม่อยากเป็น)   ความอบอุ่น >>
wind 23 ต.ค. 2556, 02:51:40 น.
ผู้ชายบ้านนี้น่ารักทุกคนเลย


ร้อยวจี 23 ต.ค. 2556, 06:24:11 น.
โอเคค่ะ แบบนี่ช๊อบชอบ อ่านไปยิ้มไปมีความสุขค่ะ


ใบบัวน่ารัก 23 ต.ค. 2556, 07:07:56 น.
ยัง งง อยู่ ปรับใจไม่ทัน อีกใจก็เชียร ภีม
อีกใจเชียรปูน
อุ่น ชอบใครเราก็ชอบคนนั้นตามอุ่นนะ


ameerah 23 ต.ค. 2556, 08:32:24 น.
ผู้ชายตระกูลนี้มีความสามารถพิเศษในการบังคับคนจริงๆ เลยตั้งแต่ตอนพี่ปั้นกะหนูย่า แล้วนี่อุ่นก้อโดนนายปูนอีกคน


OhLaLa 23 ต.ค. 2556, 21:25:02 น.
ปูนจะน่ารักไปไหน ชอบปูนที่รู้สึกอะไรก็แสดงออกไปมีถึงเนื้อถึงตัว ดีที่ยังเจ็บไม่งั้นน่วมแน่น


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account