Sweet Taste รสหวาน...บันดาลรัก
คนหนึ่งคนออกตามหาผู้หญิงที่มีแต่ความลับเพื่อที่ราคาแพง

คนหนึ่งคนถูกเรียกมาให้ปกป้อง ไม่ให้แผนการขายที่สำเร็จ

คนหนึ่งคนยังสนุกกับการเดินทาง แต่ไม่รู้ทำไมชีวิตถึงเริ่มวุ่นวายเมื่อมาถึงปักกิ่ง สถานที่สุดท้ายที่จะมาก่อนเธอกลับไทย

คนหนึ่งคนเติบโตมาในครอบครัวใหญ่ถูกเลี้ยงมาเป็นคนงานในบ้าน ทั้งที่เจ้าตัวรู้ว่าใครเป็นพ่อ แต่เพราะครอบครัวจะทำร้ายคนอื่น เธอจึงไม่อยากให้พ่อหย่อนขาไปในนรก

คนหนึ่งคนมีแต่ความแค้น ปลูกฝังในหัวไม่สิ้นสุด รู้แค่ว่าเกลียด และต้องทำลาย

คนห้าคนในวังวนใกล้กัน ผจญอันตราย และเรื่องราวสุดจะคาดเดา กลับมีความหวานก่อเกิดขึ้นทีละนิดในใจของแต่ละคน...มารู้ตัวอีกที ความรัก ก็เกิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
Tags: Sweet รสหวาน ภีม พรพิรุณ ปุณณ์ แพรระพี

ตอน: ความอบอุ่น

การนั่งรถใต้ดินในต่างแดนไม่ได้ทำให้คนสองคนที่ใช้ชีวิตในต่างประเทศนึกกลัว พรพิรุณเองเคยขึ้นมาแล้วหลายครั้งในแต่ละประเทศ แต่ปัญหาสำคัญตอนนี้คือปริมาณคนที่ค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะเวลาเย็นย่ำ คนจีนแห่กันเลิกงานพร้อมๆ กัน

“คนเยอะจังเลยนะครับ” ปุณณ์พูดชิดศีรษะนุ่มของผู้หญิงที่กลายมาอยู่ในอ้อมกอดเขาไปโดยปริยาย ชิดด้านในรถไฟ ป้องกันการพลัดหลง หรือโดนฝูงชนจำนวนมากทำให้แตกออกจากแถว

“ขากลับแท็กซี่นะ ไม่เอาแล้วมึนหัว” รีบเดินนำเมื่อถึงสถานีที่ต้องลง เป็นสถานีปลายทางจำเป็นต้องนั่งรถเมล์ต่อยาวมาอีกหน่อย

“ว่าแต่เราจะไปไหน”

พรพิรุณเหลือบตามองคนพูดเพียงนิด ทำเสียงฮึขึ้นจมูก หมั่นไส้คนเจ็บที่หาเรื่องวุ่นวายจนตามเธอมาจนได้ “ฉันจะมาทำงาน ไม่อยากทำตัวว่างงานเหมือนใครแถวนี้”

“ก็กลัวทำงานมากๆ แล้วใครแถวนี้จะหงุดหงิด” ปุณณ์ตอกกลับนิ่มๆ ริมฝีปากเป็นรอยยิ้มยามเห็นคนถูกยั่วให้หงุดหงิดเม้มปาก เชิดคอมองออกนอกหน้าต่างแทน

“เคยมาแถวนี้เหรอครับ”

“เคยมาเรียนเทคคอร์สระยะสั้นภาษาจีน แก้เบื่อค่ะ ออกหาร้านอร่อยๆ มาเขียนคอลัมน์”

ปุณณ์เก็บความสนใจ และความชอบของพรพิรุณ อยู่ญี่ปุ่นวันๆ ก็ใช้ชีวิตเรียน เที่ยว เล่น หนีงานที่บ้านเป็นปกติ จนตอนนี้เหมือนจะหนีต่อไปไม่ได้ในเวลาที่ที่บ้านกำลังโดนทำร้ายจากคนนอก

พรพิรุณลุกขึ้นยืนรอเมื่ออีกไม่กี่ป้ายจะถึงจุดหมายของเธอ เพื่อให้คนเจ็บไม่ต้องฉุกละหุกจนเคลื่อนไหวปุบปับพานเจ็บตัว

ถนนใหญ่แบ่งเป็นสองเลนชัดเจนโดยไม่ต้องมีเกาะกลางถนน แต่จะมีเกาะกลางเล็กๆ คั่นสำหรับเลนรถเล็กวิ่งถึงจะเป็นฟุตบาทไว้ให้เดิน ไฟตามถนนเปิดสว่างหลังที่ฟ้ากำลังเริ่มมืดถึงจะเป็นเวลายังไม่ถึงหกโมงเย็นดี ด้วยอากาศหนาวในปลายฤดูหนาว

“รออยู่ตรงนี้ก่อนนะ”

“ไม่!” ปฏิเสธไปแต่คนที่บอกให้รอก็วิ่งย้อนกลับขึ้นไป พรพิรุณกระชับเสื้อที่ดูบางไปสำหรับอากาศที่เย็นมากขึ้น ไม่อุ่นเหมือนเวลาอยู่ในโรงแรม มือเริ่มเย็นจนซีด จนต้องยกมาเป่าให้อุ่นขึ้น กอดอกอดทนรอคนที่ติดสอยห้อยตามมา

ผ้าพันคอถักสีฟ้าขาวราวกับน้ำทะเลเป็นตัวคลื่นพาดลงบนคอ คนตัวโตพันให้จากด้านหลัง พรพิรุณรู้สึกอุ่นวาบ ความหนาวเหน็บกายหายเกือบเป็นปลิดทิ้ง แต่มีอุณหภูมิร้อนๆ แล่นขึ้นมาจับบนหน้าแทน

ปุณณ์ค่อยๆ พันให้อย่างทะนุถนอม กลัวคนหน้าซีดจะอุ่นไม่พอ จับหมุนมาเผชิญหน้า หยิบหมวกไหมพรมสีรุ้งสดใสจับใส่บนศีรษะให้ไม่ต่างจากพรพิรุณเป็นตุ๊กตาน่ารัก มีชีวิตได้แต่กระพริบตามอง และแก้มแดง ไม่รู้ว่าด้วยอุณหภูมิต่ำกว่าสิบองศา หรือเพราะเขา ปุณณ์ก็ไม่กล้าเข้าข้างตัวเอง แต่แค่ได้ทำก็มีความสุข

จับมือเย็นเฉียบจนน่ากลัวใส่ถุงมือหนังที่ตนพกมาไว้ไม่ให้ร่างกายได้หนาวเหน็บ “จะเป็นพยาบาลของผมก็ต้องร่างกายแข็งแรงๆ รู้ไหม ป่วยเอาเดี๋ยวคนเจ็บต้องมานั่งพยาบาลแทน”

ตุ๊กตาน่ารักมองค้อนเข้าให้ เบี่ยงตัวออก ไม่อยากสบตามุ่งมั่นที่พยายามมาสั่นคลอนจิตใจของเธอได้รู้จักเหนื่อย ปุณณ์หัวเราะเบาๆ ไม่ว่าอะไรกับอาการเงียบไม่พูดจา คว้ามืออุ่นที่มีถุงมือหนังกั้นผิวเนื้อของปุณณ์ไว้

“มาจับมือฉันทำไม ใครอนุญาต”

“ก็ผมหนาว หนาวจนเจ็บกระดูกแล้วนะครับ”

พรพิรุณมองคนช่างสำออยอย่างหมั่นไส้ มองแสงไฟประดับถนน ขี้เกียจเถียงกับคนหาข้ออ้างไปเรื่อย “ได้แค่จับมือนะ ถ้ามายุ่มย่ามมากกว่านั้น ฉันเตะคุณแน่”

“แค่นี้ผมก็ไม่หนาวแล้ว”

ปุณณ์ลอบมองหน้าบูดบึ้งของคนข้างกาย กระชับมือเล็กให้แน่นขึ้น โดยที่ไม่มีการชักมือกลับ ตาเล็กยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ร่างกายไม่หนาวอีกต่อไป


สมุดบันทึกประจำกายถูกบันทึกหน้าเตาย่างหอยย่างแสนอร่อย ร้านหอยย่างข้างมหาวิทยาลัยชื่อดังของชานเมืองปักกิ่ง จำนวนคนที่เข้ามาทานมีไม่น้อย รสชาติอร่อย ที่สำคัญถูก

ปุณณ์ยิ้ม มองภาพถ่ายจากกล้องโพลาลอยต์สีขาวทำงานถ่ายอย่างตั้งใจ ในขณะที่มือของปุณณ์กลายเป็นนายแบบจำเป็นต้องมาเข้ากล้อง

“รู้จักที่นี่ได้ยังไงครับ มันดีมากๆ เลย”

พรพิรุณยิ้มแก้มปริ คีบหอยเชลล์ร้อนๆ ป้อนใส่ปากนายแบบที่ในจานไม่มีที่ว่าง แน่นไปด้วยเปลือกหอย “เคยมาก็ต้องเคยกินสิ โชคดีที่ร้านยังอยู่”

“เวลาจะเอาเรื่องพวกนี้ไปลงคอลัมน์ได้ขอก่อนไหมครับ”

“สวีทเมจิกจะทำเรื่องขอให้ ฉันก็แค่ส่งข้อมูล ส่วนใหญ่ก็ให้ลงทั้งนั้นแหละค่ะ ฉันเขียนแนะนำไม่ได้เขียนติเตียน เป็นการโฆษณาร้านให้ฟรีๆ ด้วยซ้ำ”

เก็บสมุดบันทึกแนบรูปถ่ายลงในกระเป๋า ปุณณ์รีบเช็ดมือไปมาให้สะอาด เอื้อมมาคว้ากล้องถ่ายรูปบนโต๊ะไปถือไว้ เจ้าของกล้องหันขวับมองวาวโรจน์

“ผมขอค่าจ้าง”

“อะไรล่ะ ฉันก็ป้อนให้คุณกินไปตั้งหลายคำนะ”

ปุณณ์ทำเป็นไม่ได้ยิน กวักมือเรียกเด็กในร้านมาด้วยท่าทีเป็นกันเอง รอยยิ้มของเด็กหญิงวัยรุ่นยิ้มรับ เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มท่าทางดีทำท่ากดชัตเตอร์ให้เธอถ่ายรูปให้

เมื่อจัดแจงคนถ่ายภาพให้ได้ ทีนี้ปุณณ์ก็หันมาเจรจากับสาวงามหน้าบึ้งตึง ผู้ไม่ชอบเอาหน้าตัวเองออกสื่อ เขยิบเข้าไปใกล้ เอามือโอบเอวพรพิรุณ ในจังหวะที่หญิงสาวหันมาเตรียมอาละวาด ช่วงนาทีที่ตาสบตา เสียงกล้องก็ทำงาน

เด็กสาวส่งภาพมาให้บนโต๊ะ แต่ปุณณ์กลับส่งสัญญาณ ด้วยการยกนิ้วชี้ขออีกรูป ซึ่งเธอรับรู้โดยดี

“ไม่เอาแล้ว ไม่ถ่าย”

“แค่รูปเดียว ผมอยากเก็บรอยยิ้มของคุณไว้”

“ทำไมเล่า ไปเก็บจากคนอื่นสิคะ” ส่งเสียงประชดกลับมา

“ไม่เหมือนวันแรกที่เราเจอกันเลย นับวันคุณยิ่งไม่ยิ้มให้ผม” ปุณณ์ประท้วงบ้าง นึกย้อนไปทำไมจะไม่รู้ว่าพรพิรุณถึงได้ทำตัวปั้นปึ่งใส่ เธอคงไม่ชอบวิธีรุกจนน่ากลัวของเขา ไม่เหมือนบทเพื่อนพระเอกผู้เจียมตัว

ก็ใครใช้ให้เธอน่ารักกันเล่า

“แน่ใจว่าจะไม่ยิ้ม”

“แน่”

จากท่าทีรั้นไม่ยอม ปุณณ์จึงยอมแก้วิกฤตให้เป็นโอกาส ทำปากบึ้งปากงอเสียเอง หันคอไปอีกด้านให้น้องในร้านได้ถ่ายเสียที

ภาพเหมือนท่าถ่ายรูปของคู่รัก รูปหนึ่งแสดงความรักกันดวงสายตาที่จดจ้อง กับอีกรูปที่หันหน้าหนีกันคนละทาง ปุณณ์ส่งรูปใบหลังให้พรพิรุณเก็บไว้โดยที่เจ้าตัวเต็มใจยัดเยียดให้ในมือ ส่วนตัวเองเลือกเก็บรูปแรกเข้ากระเป๋าเงิน

“ก็แค่รูปถ่าย”

ปุณณ์หัวเราะกับอาการหัวเสียของคนโดนถ่ายรูป ปุณณ์ยกกระเป๋าเงินที่มีรูปคู่ภาพสบตาให้พรพิรุณได้เห็น ก่อนยกรูปขึ้นจรดริมฝีปากไปบนแก้มของพรพิรุณในรูป ด้วยรอยยิ้มตรึงตรา และคนที่มองอยู่หน้าพานแดงเถือก ร้อนวูบเหมือนจะเป็นไข้

“สำหรับผมมันไม่ใช่แค่รูปถ่าย แต่มันเอาไว้ให้คิดถึงคุณ”


“เฮ้อ อิ่มจัง”

ปุณณ์ลูบท้องมีกล้ามของตนเหมือนเด็กหลังจากเดินเตร่ริมทางเท้า ซื้อของทานตามทางเป็นเพื่อนพรพิรุณ ในมือคนบอกว่าอิ่มมีกล่องขนมเค้กสองเจ้าที่ตั้งห่างกันเพียงแค่หนึ่งช่วงตึกติดมือมา

“เห็นกินตลอดทาง”

“จะได้บรรยายรสชาติได้ว่าอร่อยไหมไง อุ่นน่ะโชคดีมีหนูทดลองตัวโตๆ คอยกินแทนให้”

คนโชคดีมองคนทำหน้าระรื่นที่บังอาจเอามือเธอไปซุกไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ชตัวหนาของเขาแบบถือวิสาสะมานานหลายนาทีอย่างหมั่นไส้ แต่ก็มีความอบอุ่น

เธอเดินทางรอบโลกมาหลายปี ไม่เคยรู้สึกเหงา ไม่เคยรู้สึกว่าต้องมีลูกมือมาคอยเดินเคียงข้าง หรือช่วยเหลือกัน แต่ยามนี้พรพิรุณเริ่มกลัว ว่าถ้าต่อจากนี้เธอยังเดินทางต่อไป ในเส้นทางของเธอที่ไม่มีเขา

เธออาจจะเริ่มเหงาขึ้นมา...

ความเงียบจากคนข้างกายทำให้พรพิรุณต้องเงยหน้ามอง ปุณณ์หยุดเดินบริเวณหน้ากระจกใสบานใหญ่ของห้างสรพสินค้าเล็กๆ แถบชานเมือง พรพิรุณไม่รู้ว่าเขามองอะไร ผู้หญิงสวยที่เพิ่งออกมาจากด้านใน หรือจะเป็นสาวผมทองที่เดินสวนกันไปดีล่ะ

คนนึกไปต่างนานาหน้าเริ่มเรียบนิ่ง อยากดึงมือคืนจากอุ้งมือใหญ่กลับถูกกระชับจนกำไว้แน่น และประโยคของเขาก็ทำให้ขนคอของพรพิรุณลุกชัน

“เราถูกตาม มันมีปืน”

พรพิรุณมองเงาในกระจกที่อยู่ถัดจากเธอไปไม่กี่ก้าว ท่าทีของผู้ชายผิวคล้ำร่างท้วมยืนทำทีเป็นหันมองดูฟ้า ดูอย่างอื่น แต่ข้างหลังกางเกงกลับมีปืนเหน็บเอวไว้ ถึงจะมองเห็นได้ไม่ชัดเจน

มือเล็กกระชับมือใหญ่ด้วยความกลัวจับใจ โชคดีที่ทางนั้นบีบมือเบาๆ พอให้รู้ว่าเขาจะยังอยู่ตรงนี้

“ทำยังไงดี” ปากสีเชอร์รี่กล่าวอย่างกังวล ผินมองหน้าที่เริ่มมีไรหนวดขึ้นจางๆ โดยที่เขายังคงสังเกตคนร้ายผ่านกระจก

“คงต้องวิ่ง”

“เอ๊ะ”

“รถสีดำทะเบียน....” ถูกพูดถึงชัดเจน “จอดอยู่มุมถนนนี้ให้รีบวิ่งไปให้ถึง”

“ทำไมถึงไว้ใจได้”

“คุณเขมรัฐส่งคนตามพวกเราตลอดเวลา อุ่นคิดว่าผมจะไม่ห่วงความปลอดภัยของคุณหรือไง” ปุณณ์รีบเดินเร็วขึ้น แต่ก้าวเพียงก้าวเดียว คนอีกหลายสิบคนก็มุ่งตรงมาที่ทั้งคู่ ชายหนุ่มมองใบหน้าที่วิตกกังวล หน้านิ่วคิ้วขมวด ปากขบไว้ ดูก็รู้ว่าเธอเครียดมากแค่ไหน

“วิ่งนะ”

พรพิรุณบีบมือตอบกลับไป ก่อนที่สองขาของคนทั้งคู่จะวิ่งแบบไม่คิดชีวิต คนหลายคนด้านหลังวิ่งฮือตามมา หลายคนชูปืนขึ้นขู่ใครก็ตามไม่เกี่ยวข้องกรีดร้อง ถอยหลบออกไป

เท้าเล็กที่ซอยถี่จนเสียจังหวะสะดุดเชือกรองเท้าผ้าใบจนล้มกลิ้ง กระเป๋าหลุดมือกระเด็นไปไกล ปุณณ์รีบก้มลงดู ความกลัวแล่นมาจับจิต ปุณณ์ตั้งใจจะวิ่งกลับไปเอากระเป๋าที่มีของสำคัญของพรพิรุณอยู่ ถึงรู้แน่ว่าจะไม่ทัน เพราะพวกมันกำลังมาถึงตัว

“ไม่ต้องแล้ว รีบไปเถอะ”

ปุณณ์ช้อนตัวคนขาเจ็บขึ้นอุ้ม ไม่สนว่าพรพิรุณจะประท้วงเพราะรู้ว่าเขายังไม่หายเจ็บ แต่คนที่เจ็บกลับกัดฟันทนต่ออาการเจ็บแล่นมาตามเส้นประสาท เห็นรถสีดำแล่นมาจอดเทียบตรงหน้าร่นระยะทางการวิ่งของทั้งคู่ลง

ประตูรถเปิดรอ ปุณณ์สอดตัวเข้าไป วางร่างของพรพิรุณลงบนเบาะนั่ง ตัวเองขึ้นตามประตูรถปิด ในขณะที่คนขับสั่งเสียงเครียดไปตามโทรศัพท์

“ปิดประตูตีแมวได้เลย”

“ปูนจะมาอุ้มฉันทำไม ปูนยังเจ็บไม่หายเลยนะ” พรพิรุณตั้งสติได้ก็เริ่มว่า เมื่อรถแล่นมาได้ระยะหนึ่ง คนที่ยังเจ็บแปลบด้านหลังอยู่บ้างแต่เริ่มทุเลาลงยิ้มปลอบใจ กุมมือเย็นเฉียบไว้ให้รู้ว่าเขาปกป้องเธอสำเร็จ

“กระเป๋านั่นผมขอโทษนะอุ่นที่เอามาคืนให้คุณไม่ได้”

“ช่างมันเถอะ ชีวิตคนสำคัญกว่า”

ปุณณ์หันกลับมายิ้มตาเป็นประกาย จงใจเอนซบลงบนตักอุ่นของพรพิรุณ เหมือนได้ยาดีบรรเทาความเจ็บลง “เจ็บขาไหม”

“ไม่หรอก” พรพิรุณไม่รู้จะว่าอะไรคนช่างออเซาะ ที่พอหนุนตักเธอไปไม่กี่นาทีก็หลับตาลง ออกแนวกินอิ่มนอนหลับ ปล่อยให้คนมองต้องยิ้มออกมา แต่น่าเสียดายที่คนนอนหลับกลับไม่ได้เห็นมัน

โดยที่ในเวลาไม่นานพรพิรุณอาจต้องเดินเสี่ยงลงไปในทางเลือกระหว่างอนาคต กับหัวใจของเธอเอง

................................................
คุณ wind พี่น้องบ้านนี้น่ารักคนละสไตล์ คนพี่เหมือนหนูย่าค่อยๆ ไปนั่งในใจพี่ปั้น แต่รายเจ้าปูนนี่พอรู้ว่าชอบ ก็เน้นพุ่งชนค่ะ ฮา
คุณ ร้อยวจี มาหวานๆ ให้ทั้งตอน ไว้ไปดราม่ากันต่อตอนหน้านะคะ อีกแล้วเหรอ
คุณ ใบบัวน่ารัก มาๆ ชอบตามอุ่น เดี๋ยวภีมไว้บทหน้านะคะ
คุณ ameerah ที่สองพี่น้องคุมคนอื่นอยู่หนึ่งเจ้าเล่ห์ สองหน้าหนาค่ะ โดยเฉพาะคนน้อง เหตุผลที่สองเป็นหลัก ฮา
คุณ OhLaLa เขียนไปก็เริ่มรู้สึก ทำไมผู้ชายคนนี้ขี้อ้อนขนาดนี้ ฮา ต้องรอดูว่าตอนต่อๆ ไปจะน่วมไหมนะคะ



ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ต.ค. 2556, 03:05:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ก.พ. 2558, 22:15:15 น.

จำนวนการเข้าชม : 1384





<< คนมีความลับ   การตัดสินใจ >>
ใบบัวน่ารัก 24 ต.ค. 2556, 07:22:09 น.
เอากระเป๋าอุ่นคืนมาาาาาาาาา
มีรูปที่ถ่ายกะปูนอยู่ด้วยเอาคืนมานะะะะะะะะะ


ร้อยวจี 24 ต.ค. 2556, 13:33:13 น.
หวานค่ะ แต่ตื่นเต้นที่โดนตามล่ามากกว่า หวังว่่าเกมปิดประตูตีแมวจะจัดการกับพวกคิดร้ายได้นะคะ รอตอนต่อไปค่ะ


OhLaLa 24 ต.ค. 2556, 21:01:40 น.
เดตของปูนกับอุ่นนับเป็นเดตที่หวานระทึก 555


ameerah 25 ต.ค. 2556, 00:24:06 น.
คู่นี้เวลาจะได้หวานที่ไรต้องมีเรื่องตื่นเต้นทุกที ปูนแมนมากกก อุ้มอุ่นทั้งที่ตัวเองยังเจ็บอยู่ แอบปลื้มนายปูน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account