Uluru ด้วยรักนิรันดร์
ตอนที่ความรักนั้นจบลง
ชีวิตของผมก็เหมือนไม่อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป ...
นานเท่านาน ...
หัวใจจมดิ่งลงไปสู่เบื้องลึกของความทรงจำอันเจ็บปวด
ตอนที่คุณหายไป ...
ชีวิตผมบาดเจ็บจนลืมไปว่ามันสามารถรักษาได้

นานเท่านาน ...
หัวใจได้เยียวยาด้วยหัวใจ ...
แล้วเราคงข้ามผ่านมันไปด้้วยกัน ...
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 24 : การตามหา

ขอบระเบียงหลังห้องที่ติดลูกกรงเหล็กดัด เป็นที่ตั้งกระถางแคคตัสของเกม ส่วนบนซี่ลูกกรงก็แขวนเฟินข้าหลวงขนาดจิ๋วในลูกตีนเป็ดน้ำห้อยย้อยเป็นสาย เกมชอบต้นไม้เล็กๆ และชอบรบเร้าไปเดินตลาดขายต้นไม้แถวตลาด อตก. แม้ชายหนุ่มจะชอบการอยู่เงียบๆ ดูทีวีหรือหนังอยู่ในห้องตอนวันหยุดมากกว่าก็อดไม่ได้ที่จะต้องพาหญิงสาวไปบ่อยๆ

“มาแล้วก็ไม่ได้ซื้ออะไรซักหน่อย มาเดินๆ ดูนั่นดูนี่ แล้วก็ไม่เอาซักอย่าง” ชายหนุ่มบ่นเซ็งๆ ระหว่างเดินกลับมาขึ้นรถไฟฟ้า
“อย่าบ่นไปหน่อยเลยน่า ก็มันยังไม่เจอของที่อยากได้นี่นา” เกมมักเถียง
“ก็แล้วอยากได้อะไร? ต้นใหญ่ๆ ซื้อไปก็ไม่มีที่ปลูก” เขาสู้
“ก็ไม่ได้จะเอาต้นใหญ่ๆ แค่ดูๆ ไว้เผื่อวันไหนพี่ไนท์กับเกมซื้อบ้านกัน จะได้รู้ว่าจะปลูกอะไร?”
“จะมีปัญญาซื้อหรือเปล่าก็ไม่รู้?” พีรพงษ์เอ่ยลอยๆ
“ก็คิดว่ามีปัญญาซื้อซะสิ” หญิงสาวดุ หน้าเง้าชวนทะเลาะ
“โอ๋ๆๆ จ้า... แม่สาวน้อย เดี๋ยววันหลังคิดเรื่องนี้กันนะ” เขาง้อ

เกมออกแรงบีบมือที่จูงกัน ชายหนุ่มออกแรงบีบตอบกลับ ความจริงทั้งสองคนไม่ค่อยชอบการพูดคุยเรื่องครอบครัวนัก พีรพงษ์เคยเล่าให้เกมฟังว่าพ่อกับแม่แยกทางกัน พ่อของเขาเสียด้วยอุบัติเหตุไปตอนเขากำลังจะจบชั้นมัธยมปลาย พอพ่อตายแม่ก็เป็นคนมาดูแลต่อ แต่ตัวเขาเองเรียนโรงเรียนประจำตั้งแต่ชั้นประถมเลยไม่ค่อยได้ใกล้ชิดพ่อมากนัก กับแม่ยิ่งแล้วใหญ่หลังจากพ่อตาย เขาเลยรบกวนแม่แค่ค่าเทอมเท่านั้น ส่วนเรื่องแม่กับลุงตุลย์คบหากัน เขาไม่ได้นึกใส่ใจ ขณะที่เกมไม่มีทั้งพ่อและแม่ เกมมีแต่ป้าที่คอยดูแล ป้าเป็นเหมือนแม่และพ่อของเกม เกมโตมากับคำพูดของญาติพี่น้องคนอื่นๆ ทั้งในฝั่งพ่อและแม่ว่าเป็นเด็กที่โตมาเพราะความใจแตกของเด็กวัยรุ่นสองคน

“พี่ว่าเกมมาอยู่กับพี่นี่เค้าเรียกใจแตกมั้ย?” หญิงสาวถาม
“ไม่ใช่มั้ง? ใจแตกมันใช้กับเด็กวัยรุ่นนู่น...” พีรพงษ์ตอบ สายตามองหน้าจอคอมพิวเตอร์
“อันนั้นมันก็ใช่ แต่เกมหมายถึงการที่เกมมาอยู่กันแบบนี้โดยที่ทั้งบ้านพี่และบ้านเกมไม่รู้เนี่ย คนอื่นเค้าจะมองว่าเกมใจแตกหรือเปล่า?”
“คนอื่นนี่ใครล่ะ?” เขาถาม
“คนอื่นก็แบบ... แบบ... พวกเพื่อนพี่อะไรอย่างเนี้ย” เกมว่า
“เพื่อนพี่ไม่มีใครรู้นะ หรือถึงมันรู้ก็คงไม่คิดแบบนั้นมั้ง คนที่รู้ว่าพี่กับเกมเป็นแฟนกันก็รู้หมดแหละว่าเรารักกันขนาดไหน”
“แล้วพวกเพื่อนๆ เกมล่ะ?” เขาขอถามบ้าง
“ส่วนใหญ่เกมมีแต่เพื่อนที่ทำงาน แต่มันไม่สนใจเรื่องคนอื่นหรอก” เธอว่า
“งั้นจะสนใจทำไมเรื่องนี้”
“ก็แบบ...”
“แล้วคนข้างห้องล่ะ พี่ว่าเค้าจะมองเกมแบบนั้นมั้ย?” เกมยังขอต่อคำ

ชายหนุ่มหมุนเก้าอี้กลับมาทางคนรัก เกมนั่งอยู่ที่ขอบเตียงทำหน้าหงิกหน้างอ พีรพงษ์มองหญิงสาวด้วยสายตาอ่อนโยน

“แล้วมาอยู่ด้วยกันเกมมีความสุขมั้ย?” เขาถามจริงจัง
“มีสิ ก็เกมรักพี่ไนท์นี่นา”
“พี่ก็มีความสุขที่สุดที่เกมอยู่ด้วยกันตอนนี้” เขายิ้ม ยื่นมือออกไปให้หญิงสาวรับ แล้วดึงตัวเธอเข้ามาหา เกมถูกกอดอยู่บนตักของเขา สองแขนของชายหนุ่มโอบกอดคนรักไว้อย่างถนุถนอม
“งั้นก็เลิกคิดเรื่องคนอื่นจะมองจะคิดยังไงได้แล้วนะสาวน้อย” พีรพงษ์บอก หญิงสาวรับคำในลำคอ
....................

พีรพงษ์นอนแผ่หลาบนเตียงพลาสติก เขาไม่ชอบการว่ายน้ำซึ่งเป็นสิ่งที่เกมชอบ หลายอย่างที่เขาชอบแต่เธอไม่ชอบ หลายอย่างที่เธอชอบแต่เขาไม่ชอบ การมีชีวิตคู่กันต้องแบ่งรับแบ่งสู้กับสิ่งที่อีกฝ่ายชอบให้ได้ ชายหนุ่มว่ายน้ำไปกลับได้ 3 รอบตอนที่เกมว่ายไป 5 รอบแล้ว เมื่อเกมกลับมาแตะขอบสระตอนจะเริ่มรอบที่ 6 เธอก็พบเขานอนหมดสภาพอยู่บนเตียงนอนที่ข้างแนวรั้ว

ทั้งสองคนมักหาเวลามาว่ายน้ำในช่วงเช้าของวันหยุด สระว่ายน้ำของสโมสรหมู่บ้านไม่ไกลที่พักนักเป็นที่ประจำ ค่าบริการแพงหน่อยแต่ไม่มีเด็กเล็กส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวให้หนวกหู

“ไม่ว่ายแล้วเหรอ?” เธอถาม หย่อนตัวลงนั่งที่เตียงข้างๆ
“ไม่ล่ะ” เขาตอบ หยิบขนมปังกรอบเข้าปากเคี้ยวหยับๆ
“พรุ่งนี้ไปออกบูธที่เพชรบุรี เกมไม่อยู่สองสามวัน อยู่ได้นะ?”

งานของเกมต้องออกไปทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ต่างจังหวัดบ่อยครั้ง ถ้าจังหวัดใกล้ๆ หญิงสาวก็ไปแค่วันหรือสองวันกลับ แต่ถ้าโปรเจคยาวๆ ก็ต้องไปเป็นสัปดาห์ พีรพงษ์ก็จะใช้เวลาช่วงที่เกมไม่อยู่แบบเหงาๆ เพราะตั้งแต่เริ่มคบหากับเกม เขาก็ห่างเหินจากเพื่อนฝูงทั้งหมด แม้แต่เพื่อนที่ทำงานเขาก็ไม่ค่อยได้สุงสิงด้วย

พีรพงษ์มองหน้าหญิงสาวคนรัก ทำตาละห้อย ไม่รู้เหมือนกันว่าระหว่างเกมกับเขา ใครติดใครมากกว่ากัน? พอเอาแต่มองหน้าไม่พูดไม่จาอะไร หญิงสาวก็ปลอบโยนด้วยความห่วงใยว่าจะโทรศัพท์มาคุยด้วยบ่อยๆ เขาได้แต่ยิ้มแห้งๆ

เกมเพิ่งจะหย่อนตัวลงไปในสระว่ายน้ำอีกครั้ง ร่างของหญิงเธอพุ่งไปในผืนน้ำ ชายหนุ่มมองตามร่างเล็กๆ ในสระค่อยๆ ว่ายไกลออกไป
....................

แดดรอบบ่ายรุนแรงจนทำเอาตาพร่า พีรพงษ์ยกกาแฟเย็นที่มีแต่น้ำสีน้ำตาลนวลขึ้นดูด น้ำแข็งในกาแฟละลายราวกับตอนสั่งมาไม่มีมันอยู่ เขาเพ่งสายตาไปที่หญิงสาวผมสีน้ำตาลที่ว่ายน้ำอยู่ในสระ ภาพของเกมที่ผุดมาในความคิดหลุดเลือนหายไป

ด้วยความคิดที่กลับมาอยู่ในปัจจุบัน พีรพงษ์หยิบโทรศัพท์มาลองโทรหาหญิงสาวที่เขาอยากพบอีกครั้ง สัญญาณดังขึ้นแต่มีเสียงตอบรับเป็นภาษาอังกฤษ เป็นเสียงตอบรับอัตโนมัติเพื่อบอกว่าหมายเลขนี้ไม่สามารถติดต่อได้ ความรู้สึกของชายหนุ่มไม่ต่างจากโลกที่ค่อยๆ แตกจากนั้นก็สลายร่วงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ความรู้สึกเจ็บปวดพยายามบอกว่า บางทีเขาคงต้องยอมรับว่าการจะได้เจอเกมอีกสักครั้งเป็นสิ่งที่ไม่เคยถูกกำหนดไว้

เมื่อกลับที่พักชายหนุ่มแจ้งกับไมค์ว่าจะต้องขึ้นเครื่องตอนเช้า ไมค์รับปากว่าจะติดต่อรถบัสไปสนามบินให้ทันที ชายหนุ่มขอบคุณแล้วเข้าห้องเพื่อเริ่มเก็บของ เสื้อผ้ารอซักสามชุดส่งกลิ่นนิดหน่อย ถุงเท้าคู่ที่ถูกซักน้ำสบู่และตากลมไว้ทั้งวันแห้งสนิทไม่ส่งกลิ่นมากนัก มีแต่คู่ที่ใส่ไปอูยูรูเมื่อวานที่ต้องห่อใส่กระดาษไว้กันกลิ่น เขายัดเสื้อผ้าและของฝากใส่กระเป๋าเดินทาง เอกสารที่ต้องใช้ขึ้นเครื่องถูกตรวจสอบว่ายังอยู่ดีและเก็บเข้ากระเป๋าใส่แท็บเล็ต เสร็จแล้วก็ทิ้งตัวนอนบนเตียง

ยังไม่ทันหลับตา เสียงโทรศัพท์ที่ดังกะทันหันทำเอาเขาลุกพรวดพราดขึ้นมารับ ความคาดหวังว่าจะเป็นสายของเกมทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง

“ฮัลโหล ขอสายไนท์ครับ” เสียงต้นสายเป็นผู้ชาย ทักมาเป็นภาษาไทย
“ครับ ผมไนท์ครับ”
“ผมต็อดเป็นเพื่อนจูนนะครับ” ฝ่ายนั้นบอก
“ครับ”
“คุณจะมาซิดนี่ย์วันไหนเหรอ?”
“พรุ่งนี้ช่วงเที่ยงๆ คงเดินทางถึง ทำไมเหรอครับ?” เขาบอก
“จูนเค้าวานให้ผมช่วยดูแลคุณตอนอยู่ซิดนี่ย์น่ะ”
“ขอบคุณครับ”
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวคุณมาพักที่บ้านผมจนถึงวันเดินทางกลับแล้วกัน”
“จะไม่รบกวนไปเหรอครับ?” พีรพงษ์เกรงใจ
“ไม่เป็นไร คนไทยด้วยกันช่วยๆ กันไป อีกอย่างก็แค่ไม่กี่วันไม่ใช่เหรอ?”
“ครับ วันจันทร์บ่ายๆ ก็กลับเมืองไทยแล้ว”
“วันนี้วันพฤหัส พรุ่งนี้ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แล้วก็จันทร์ก็แค่สามคืนเอง สบายมาก!” อีกฝ่ายนับวัน
“ขอบคุณล่วงหน้าครับ” พีรพงษ์เอ่ย

เมื่อมีที่พักในซิดนี่ย์แน่นอนแล้ว ข้อมูลที่พักที่หาไว้ก่อนมาก็ไม่ต้องใช้ การเตรียมตัวเดินทางพรุ่งนี้ก็วางแผนไว้เรียบร้อย กว่าจะมืดยังมีเวลานิดหน่อยแต่ก็ไม่เสียหายที่จะเขียนรายงานการรักษาสภาพจิตตัวเองกลับไปหาหมอสุรพิชัยสัปดาห์ละครั้งตามที่รับปากไว้

ตอนที่เขาตัดสินใจมาออสเตรเลีย ส่วนหนึ่งก็เป็นผลจากการที่คุณหมอแนะนำว่าให้เผชิญหน้ากับสิ่งที่เก็บอยู่ในความคิด หมายถึงการจินตนาการว่าได้เจอหน้าเกมอีกครั้ง บางครั้งคนเราก็ครุ่นคิดวุ่นวายอยู่กับเรื่องที่ไม่รู้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ความคิดกังวลแบบนั้นนำไปสู่ความกวาดกลัวในภายหลัง ตอนที่คุณหมอบอกว่าบางครั้งอาการที่เป็นอยู่เกิดจากความฝังใจเรื่องที่คิดไปเอง จินตนาการไปเองจนกดดันความรู้สึกข้างใน แล้วก็คิดทบไปทบมาจนจิตใจเคยชินที่จะส่งความคิดมาบั่นทอนจิตใจตัวเองตลอดเวลา

ในรายงานฉบับที่แล้วก่อนเดินทางมา เป็นตอนที่เขาเล่าเรื่องไปเจอจูนที่เชียงใหม่ให้คุณหมอได้รับรู้ มีคำแนะนำที่ดีจากคุณหมอว่าเมื่อกลับมาจากออสเตรเลียให้ลองไปหาเธออีกครั้ง

“อูยูรูของจริงเหมือนภาพที่เคยเห็น แต่ต่างจากที่จินตนาการไว้มากครับคุณหมอ ใหญ่กว่าที่คิด สูงกว่าที่คิด มีพลังอำนาจมากกว่าที่คิด ขอเล่าย้อนถึงตอนเครื่องบินบินสูงอยู่บนฟ้า ทะเลทรายเกรตวิคตอเรีย(ชื่อเรียกของพื้นที่ตรงกลางออสเตรเลีย) ผมรู้สึกตัวเองตัวเล็กจิ๋วมาก เมื่อคิดว่าพื้นแผ่นดินนี้กว้างใหญ่ และโลกนี้ยิ่งใหญ่จริงๆ

ได้รู้จักเด็กหนุ่มสาวจากญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่ง เด็กคนหนึ่งมาที่นี่ด้วยความคิดคล้ายๆ ผม เราพูดคุยกันหลายเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่เชื่อมเราด้วยกัน
ผมเป็นลมหน้ามืดไปหนึ่งครั้ง อาจจะเพราะตากแดดร้อนหรือไม่ก็นอนไม่พอ (แต่บนเครื่องผมหลับสนิทดี) หลับเป็นตายหนึ่งคืนกับมีอาการนอนไม่หลับหนึ่งคืน ไม่รู้ว่าเพราะผิดเวลาหรือว่าความเจ็บป่วยส่วนตัว

ลองโทรศัพท์หาเกม แต่ติดต่อไม่ได้ ไม่มีอีเมล์ตอบกลับ ผมจะมีเวลาอยู่ที่ซิดนี่ย์ 3 วันก่อนกลับเมืองไทย ได้ที่พักของคนไทยด้วยกันแถวๆ ทางเหนือของซิดนี่ย์

ผมรู้สึกแปลกๆ ว่าจะไม่ได้เจอเกม พอคิดว่าจะไม่ได้เจอ มันทำให้รู้สึกมวนท้อง ต้องพักความคิดครู่หนึ่งถึงจะรู้สึกเป็นปกติ โอกาสไม่ได้เจอสูงมาก ถ้าต้องเดินทางกลับโดยไม่เจอกันก็คิดว่าจะยกให้เป็นความเชื่อส่วนตัวว่า “คำตอบถูกกำหนดมาแล้วว่าให้สิ้นสุดเท่านี้”

พีรพงษ์กดปุ่มส่งข้อความเมื่อพิมพ์เสร็จ เสียงข้างนอกดังมาเบาๆ เป็นเสียงของโลกที่กว้างใหญ่ ใหญ่จนเหลือเชื่อที่ความบังเอิญจะพาคนตัวเล็กๆ สองคนให้เดินทางมาเจอกันได้หลายๆ ครั้ง
....................

จากช่วงนี้ไปคงสามารถลงนิยายให้อ่านได้ต่อเนื่องจนจบ ซึ่งช่วงสุดท้ายนี้จะเหลืออีกไม่กี่บทเท่านั้น ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ



นรมันร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ต.ค. 2556, 08:15:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ต.ค. 2556, 08:15:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 890





<< บทที่ 23 : อูยูรู เบส วอล์ก(3)   บทที่ 25 : ซิดนี่ย์ วอล์ก(1) >>
Hibara 24 ต.ค. 2556, 09:07:56 น.
แปะไว้ก่อน...

ช่วงนี้ขยันลงนะคะ


นรมันร์ 24 ต.ค. 2556, 10:03:03 น.
จะได้ลุยเรื่องอื่นที่สุกงอมแล้วบ้างน่ะ... โดยเฉพาะเรื่อง "ล่าสมบัติบรรพกาล" กับ "รักร้ายสายลับ"


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account