Sweet Taste รสหวาน...บันดาลรัก
คนหนึ่งคนออกตามหาผู้หญิงที่มีแต่ความลับเพื่อที่ราคาแพง

คนหนึ่งคนถูกเรียกมาให้ปกป้อง ไม่ให้แผนการขายที่สำเร็จ

คนหนึ่งคนยังสนุกกับการเดินทาง แต่ไม่รู้ทำไมชีวิตถึงเริ่มวุ่นวายเมื่อมาถึงปักกิ่ง สถานที่สุดท้ายที่จะมาก่อนเธอกลับไทย

คนหนึ่งคนเติบโตมาในครอบครัวใหญ่ถูกเลี้ยงมาเป็นคนงานในบ้าน ทั้งที่เจ้าตัวรู้ว่าใครเป็นพ่อ แต่เพราะครอบครัวจะทำร้ายคนอื่น เธอจึงไม่อยากให้พ่อหย่อนขาไปในนรก

คนหนึ่งคนมีแต่ความแค้น ปลูกฝังในหัวไม่สิ้นสุด รู้แค่ว่าเกลียด และต้องทำลาย

คนห้าคนในวังวนใกล้กัน ผจญอันตราย และเรื่องราวสุดจะคาดเดา กลับมีความหวานก่อเกิดขึ้นทีละนิดในใจของแต่ละคน...มารู้ตัวอีกที ความรัก ก็เกิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
Tags: Sweet รสหวาน ภีม พรพิรุณ ปุณณ์ แพรระพี

ตอน: แกล้งป่วย (ตอนจบ)

ปุณณ์รู้สึกว่าเวลาที่ผ่านมาสองอาทิตย์โดยปราศจากเงาของพรพิรุณมันน่าทรมานมากขึ้นตามลำดับเวลา เพราะที่บ้านของเขากำลังยุ่งอยู่กับการซื้อธุรกิจของธวัชเดชา และผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งของดีเอส ตามที่ตาและคุณชาติต้องการให้เป็น

ปุณณ์ยอมลงมาช่วยธุรกิจของครอบครัวเต็มตัว เพราะปริญญาโทจากทางญี่ปุ่นจริงๆ ได้มาตั้งแต่หลายเดือนก่อน เพียงแต่ยังสนุกกับการท่องเที่ยว ใช้ชีวิตเสรี จนกระทั่งมาพบกับพรพิรุณ

ผู้หญิงคนนั้นไม่คิดถึงเขาบ้างเลยหรือไง...

“ใจลอยไปไหนคะพี่ปูน”

ปาริตาสวมชุดลำลองเรียบง่าย มองหน้าญาติผู้พี่กำลังเหม่อ มือยืนล้วงกระเป๋า เป็นอย่างนี้บ่อยๆ เวลาที่ไม่ต้องทำอะไร “ทำไมไม่ตามหาพี่อุ่นคะ ทุกอย่างก็จบหมดแล้ว”

ปุณณ์ถอนหายใจ ที่ผ่านมาตัวเองทำมาใช่ว่าจะไม่ตาม แต่บางครั้งก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากจุดไหน ทั้งนี้ทั้งนั้นเหตุผลสำคัญของเขาก็คงเพราะ...ไม่แน่ใจว่าจริงๆ แล้วพรพิรุณต้องการพบกันจริงๆ หรือเปล่า “พี่เองก็เริ่มจนปัญญา ตอนนี้แค่หลับตาพี่ก็เห็นแต่หน้าอุ่น”

ท่าทางหงอยเหงาของผู้ชายอายุย่างยี่สิบหกคงไม่หายถ้าไม่ไปพบคนที่พกพาหัวใจของตัวเองหายเข้ากลีบเมฆไปด้วย ปาริตานั่งลงสบายบนม้านั่งยาวอีกด้าน แตะหลังมือปุณณ์เบาๆ อย่างปลอบใจ “ถึงมิลันไม่อยู่ แต่มิลันเอาใจช่วยพี่ปูนกับพี่อุ่นนะคะ ไว้แต่งงานเมื่อไหร่อย่าลืมบอกมิลันนะคะ มิลันจะรีบมางานแต่งงานของพี่ปูนทันที”

“มิลันกับแม่ไม่อยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ พี่จะขอให้ปู่ กับพ่อของมิลันอยู่ด้วยก็ได้” ปุณณ์มองบ้านหลังใหญ่โตที่มักจะมีหลายชีวิตเดินกันให้วุ่นไปมา บ้านของเขาเองก็มีสองหลัง หลังนี้ กับอีกหลังที่เขาอยู่แต่เกิดกับพ่อแม่ พี่ชาย และมีองศาอีกคน

“มิลันจะไปใช้ทุน ก่อนจะเรียนต่อค่ะ ถ้ามีเวลาว่างมิลันจะกลับมาเยี่ยมนะคะ”

“จะเรียนต่ออะไรล่ะ จากนี้คงเหนื่อยน่าดู”

“จิตเวชค่ะ แต่คงหลังจากใช้ทุนก่อน มีที่หนึ่งใช้ทุนหนึ่งปีแล้วเรียนต่อได้ ว่าจะไปเรียนที่นั่นค่ะ”

“เพราะ...” ปาริตาพยักหน้ารับ บุคคลที่หญิงสาวนึกถึง เพื่อพี่สาวของเธอ ส่วนหนึ่งที่ทำให้แพรระพีเป็นแบบนี้ ก็มาจากเธอด้วยเช่นกัน “อีกนานเลยสินะ กว่าจะสบาย”

“เป็นหมอก็ต้องยอมเหนื่อยค่ะ ดีเท่าไหร่แล้วที่เรียนจบหกปีมาได้”

ปุณณ์มองหน้าปาริตาอย่างเสียดาย “เรื่องพี่ภีม มิลันไม่คิดใหม่หน่อยเหรอ นั่นก็ต้องการหมอนะ” พยายามสื่อว่าหมอในที่นี้หมายถึงตัวบุคคล มากกว่าสายอาชีพ

“ยังไม่อยากคิดเรื่องอื่นค่ะ พี่ปูนเอาแต่พูดเรื่องโน้นเรื่องนี้ ทำไมไม่ไปหาพี่อุ่นสักทีคะ ระวังนะเดี๋ยวพี่อุ่นจะไปเจอใครใหม่อย่าหาว่ามิลันไม่เตือน” โยนเรื่องออกไปให้ไกลตัวมากที่สุด ปุณณ์มองค้อนปาริตาที่ให้ตายยังไงในสายตาตนก็น่ารักกว่าองศาเดือดหลายขุม แต่มาพูดเตือนแบบนี้คนไร้หนทางได้แต่ถอนหายใจยาว

“พี่กลับมาอีกทีคงไม่ได้เจอมิลันแล้วใช่ไหม”

“ค่ะ ไว้เจอกันงานแต่งของพี่ปูน วันเดียวกับพี่ย่าใช่ไหมคะ”

“หืม”

ปาริตาหัวเราะขำกับอาการไม่รับรู้ใดๆ ของปุณณ์ หยิบซองสีชมพูที่เอาติดตัวมาด้วยส่งให้ปุณณ์ดู “อย่าทำให้งานล่มนะคะ แล้วก็ห้ามบอกพี่ย่าด้วย ทางนั้นพยายามเก็บไว้เป็นความลับจนกว่าพี่ปูนจะตามหาพี่อุ่นเจอ แต่มิลันอยากเอามาให้พี่ปูนดูก่อน จะได้มีกำลังใจ”

ยิ้มหวานทิ้งท้ายก่อนปล่อยให้หลานชายคนเล็กแห่งดีเอสได้เปิดดูการ์ดสีหวานแสนสวย ที่มีรูปคู่ของคนสองคู่ ที่สำคัญคือ รูปคู่ด้านขวาของการ์ดเป็นรูปที่เขาจ้องตากับพรพิรุณที่เขาเก็บไว้ในกระเป๋าเงิน

คนมองสะดุ้งโหยง รีบหยิบกระเป๋าเงินมาเปิดดูรูปสำคัญของตนเอง เพิ่งรู้ตัวว่าโดนใครสักคนจัดการอัดเป็นการ์ดนี้ พร้อมระบุวันเวลา สถานที่ที่จะจัดงานมงคลสมรสชัดเจน กระดาษที่ควรเป็นการ์ดมีรูปโดเรมอนแทนที่ ปุณณ์หยิบมาดูอย่างหัวเสีย ข้อความหลังกระดาษทำให้เก้าอี้ร้อนขึ้นมาฉับพลัน

‘ถ้าหาอุ่นไม่ทันในสามวันนี้ จะส่งอุ่นไปทำงานต่างประเทศอีกรอบ ทีนี้ให้อยู่ยาวไม่กลับ หรือรีบๆ หา จะได้มาลองชุดกันสักที ฤกษ์ดีปลายปีนี้’


ปาริตารีบกลับเข้ามาด้านใน คนรอสังเกตการณ์อยู่มองเห็นท่าทางลุกขึ้นวิ่งไปที่รถแล้วสตาร์ทออกไปถึงกับจับมือหลานสาวมาเขย่าขึ้นลงด้วยความดีใจ

“ไม่ทำให้รู้ว่าหนูย่าทำ ป้าคงจัดการไม่ได้ทางสะดวก ทางนั้นก็ไม่ยอมช่วยอะไรเลย” ปุณนาบ่นอุบ ปล่อยให้ปาริตาขำคิก มองการจับคู่ที่ต้องใช้แรงกระตุ้นปุณณ์พอสมควร

ทางปุณณ์เองก็ดูจะคิดถึงพรพิรุณ แต่ที่ไม่ยอมออกตามหาจริงๆ จังๆ อ้างโน่นนี่ เป็นเพราะกลัวว่าพรพิรุณจะไม่ได้อยากเจอตัวเองจริงๆ ปาริตาเองก็ไม่รู้ว่าแผนล่อให้ปุณณ์ออกไปตามหาพรพิรุณครั้งนี้จะสำเร็จไหม

“วางแผนอะไรกันหรือเปล่าคะเนี่ย” อิศยาเยี่ยมหน้ามาจากด้านหลังกลุ่ม ส่งเสียงหึ จนคนสองคนที่สุมหัวกันกระเจิง คุณปุณนาหยิบพัดมาพัดบริเวณหน้าไปมา มองค้อนว่าที่สะใภ้คนโปรดที่ชอบแกล้งตนเสมอ แต่ใครอีกคนที่เดินตามหลังอิศยามาทำให้ปุณนาตาโต ปล่อยพัดร่วงจากมือ

ปาริตาเองอาการไม่ต่างกันนัก รีบมองออกไปนอกบ้านที่เพิ่งมีคนขับรถออกไป

“พี่อุ่น คือว่า...มาได้ยังไงคะ”

พรพิรุณยิ้มค้าง ทวนประโยคที่ออกจะทักทายแปลกหู เธอรึอุตส่าห์ทนเสียงตื๊อของอิศยาไม่ไหว ทั้งยังรู้สึกว่าถ้าเธอไม่ออกมาแสดงตัว ใครแถวนี้จะคิดเอาคำสุดท้ายที่เธอพูดไว้ที่ปักกิ่งมาคิดจริงจัง

‘แล้วถ้าความสุขของฉันคือการไม่มีปูนล่ะ’

‘ผมจะถอย และหายไปจากชีวิตอุ่น’

ดูท่าคนที่เอาแต่ความสุข ความต้องการของเธอเป็นใหญ่จะไม่ได้รับรู้เลยว่าเธอก็แค่หยั่งเชิง เคยคิดจินตนาการตามละครหลังข่าวที่อิศยานั่งดูว่าท้ายที่สุดพระเอกก็จะตามหานางเอกพลิกแผ่นดิน นักสืบจากไหนก็จ้างให้ควานหา ที่ไหนที่นางเอกไปสุดท้ายพระเอกก็จะเดาได้ เจอกันก็โผเข้ากอด แต่นี่ผ่านมาเกินครึ่งเดือน ปุณณ์กลับนิ่งใส่ จนเธอทนไม่ไหวเอง

พรพิรุณยกมือไหว้ผู้ใหญ่ตรงหน้า พอตั้งสติได้รีบโผเข้ากอดร่างของเธอไว้แน่น “ทำไมหนูเพิ่งมาลูก โถ่ มาช้าไปแค่ก้าวเดียว”

“หมายความว่าไงคะคุณแม่ มาช้า ปูนไม่อยู่เหรอคะ” อิศยาเป็นกระบอกเสียงแทน เริ่มมองหญิงวัยกลางคนเริ่มคร่ำครวญ กอดพรพิรุณไว้แน่น กระซิบบางอย่างข้างหูให้พรพิรุณได้ยินเพียงคนเดียว ก่อนที่ว่าที่สะใภ้คนโปรดของเธอจะทำเสียเรื่องไปกันใหญ่

“จริงเหรอคะ...แล้วปูน คือ...”

“รีบไปนะลูก รีบไป แม่ไม่มีแรงไปเจอหน้าลูกชาย สภาพเขาตอนนี้ดูไม่ได้จริงๆ” คนทำหน้าร้องไห้ละครใหญ่เรียกคนขับรถประจำตัวให้รีบพาพรพิรุณไปส่งโดยด่วน

ภาพพรพิรุณหน้าซีดตกใจ มือสั่นรีบวิ่งออกไปไม่ได้ทำให้คนพามาแตกตื่น อิศยากอดอกเขม้นมองคุณแม่ของคนรัก หรี่ตาลงอย่างจับผิด ปาริตาเองก็พลอยหลบตาด้วยนิสัยโกหกคนไม่เป็น

“อะแฮ่ม...คุณแม่พูดอะไรให้อุ่นเข้าใจผิดหรือเปล่าคะ ก่อนจะมาที่นี่ย่าเพิ่งโทรถามพี่ปั้นว่าปูนอยู่ไหม พี่ปั้นบอกว่าอยู่ แล้วนี่อะไร วางแผนอะไรกัน”

คุณปุณนากลับสีหน้าเจ้าเล่ห์ปกติ มองค้อนคนรู้ทัน “ก็คนแถวนี้ไม่ยอมช่วยสักที แม่ก็ต้องออกโรง ใครจะไปคิดว่าไปปุ๊บ ลูกย่าก็พาหนูอุ่นมาเลย คลาดกันนิดเดียว อุตส่าห์ให้เจ้าปูนออกจากบ้านไปตามหาหนูอุ่นได้แล้วแท้ๆ”

“แล้วคุณแม่บอกอะไรอุ่นคะ เกี่ยวกับที่เตี๊ยมกับปูนไว้หรือเปล่า”

“ก็บอกว่าปูนไปอยู่คอนโด นอนป่วยหนัก ไม่มีคนดูแล ไอ้เราจะไปก็งานยุ่ง”

อิศยามองคนงานยุ่ง เพราะมัวแต่ไปเข้าร้านเสริมสวย ออกสังคม หน้าเคร่งเครียดถึงพลอยยิ้มเจ้าเล่ห์ หลุดหัวเราะในลำคอ รู้สึกยิ่งอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ นิสัยจอมวางแผนของคุณปุณนาจะพานถ่ายทอดมาให้เธอไปโดยไม่รู้ตัว

“ก็ไม่บอกย่า งานนี้ย่าเองเห็นด้วยแล้วค่ะ งานแต่งงานปลายปีนี้จะได้แต่งพร้อมๆ ไปเลย เตรียมงานคนเดียวเหนื่อยก็เหนื่อย พี่ปั้นเองจะได้มีกระสอบทรายไปรับหน้าพ่อของย่าเพิ่มอีกคน”

สองสาวต่างวัยหัวเราะคิกคัก กอดกันกลมกับความสำเร็จขั้นแรกในเรื่องความเห็นตรงกัน คุณปุณนารีบโทรไปรายงานความเคลื่อนไหวกับทางปุณณ์ บอกแผนการทั้งหมดให้ทางนั้นเตรียมรับมือ ทุกอย่างอยู่ในสายตาของปาริตา

หญิงสาวมองแล้วได้แต่ยิ้มแหย ความน่ากลัวของคนบ้านนี้แผ่กระจายจนเธอรู้สึกได้

“น้องมิลันคะ พวกเราไม่ได้น่ากลัวอะไรหรอกค่ะ ออกจะรักกัน นะคะคุณแม่” อิศยาทำเสียงหวานกับคุณปุณนา ผู้ที่ทำให้ชีวิตการทำงานของเธอเหนื่อยขึ้นมาเท่าตัว “ให้อุ่นมาช่วยงานย่านะคะ”

“ได้ไงลูกย่า อุ่นเขาต้องตระเวนชิมอาหาร คงไม่ว่างมานั่งโต๊ะทำงานหรอกลูก”

คุณปุณนาหัวเราะเสียงสูงเหมือนแม่มดใจร้าย ปล่อยให้คนทำงานงกๆ ทุกวันหน้าหงิก ย่นจมูก

ไอ้ที่บอกว่าอยู่ข้างเดียวกันขอคืนคำ...คอยดูงานนี้จะไปเสี้ยมคุณขจรให้รับขวัญหลานเขยหนักๆ

นึกแล้วชีช้ำสงสัยจะเสียอันดับว่าที่ลูกสะใภ้คนโปรดเสียแล้ว...


คอนโดมิเนียมใจกลางเมือง โถงกว้างสว่างไสวด้วยโคมไฟ เป็นหนึ่งในธุรกิจของดีเอส พนักงานของทางคอนโดเพียงแค่เห็นหน้าพรพิรุณถึงกับปิดปากส่งเสียงกรี๊ดอย่างลืมตัว ในมือยังมีนิตยสารสวีทเมจิกฉบับล่าสุดพร้อมประวัติชีวิตแบบละเอียดของเธออยู่ในนั้น

แม้ใจจริงจะร้อนรนเหมือนถูกจุดเผาด้วยความห่วงคนบนห้องมากแค่ไหน แต่ก็ยังต้องปั้นหน้ายิ้มเบิกบาน เสียเวลายืนแจกรายเซ็น แลกกับการไม่ขอถ่ายรูป คนทางคอนโดบอกย้ำว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครตามที่คนขับรถที่เดินมาด้วยการขู่ไว้ให้ ไม่อย่างนั้นพวกหล่อนจะถูกไล่ออก ส่งคีย์การ์ดกับกุญแจห้องของปุณณ์มาให้พรพิรุณได้เดินขึ้นไปเพียงคนเดียว

พรพิรุณหันมองคนขับรถ เริ่มสงสัยกับการมาที่นี่ ทำไมดูจะไม่มีใครห่วงอาการของปุณณ์สักนิด...หรือว่า

คนที่ไม่ได้เกิดมาโง่จนดูไม่ออกว่าใครๆ ก็มีพิรุธกับเธอเดินสงบอย่างใจเย็น เข้าไปในลิฟต์แก้ว เก็บสีหน้าเอาเรื่อง จนอยากจะฉีกอกคนบางคนไว้ในใจ

ประตูลิฟต์เปิดที่ชั้นเก้า พรพิรุณหายใจเข้าปอดลึกๆ ยาวๆ ทีหนึ่ง ไม่ให้ตัวเองกระโจนใส่ผู้ชายอย่างปุณณ์ นอกจากไม่ตามหาเธอ ยังมีหน้ามาแกล้งป่วย หลอกให้เธอเป็นห่วงแทบแย่ พรพิรุณกระหน่ำกดออดหน้าห้องไม่ยั้งมือ ก่อนจะหลบเข้าด้านข้างไม่ให้คนหน้าห้องได้เห็นตัวเอง

พรพิรุณรออยู่ชั่วอึดใจ อารมณ์คิดถึงแปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์โกรธขึ้นมาไม่รู้ตัว และเพียงแค่ประตูเปิดออก ผู้ชายที่ออกมาผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าแดงก่ำ สภาพอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเยี่ยมหน้าออกมา รอยยิ้มยิ้มออกมาแกนๆ เสียงแหบแห้ง

“ผมตาฝาดใช่ไหม...อุ่น”

จากที่โกรธมากมายอารมณ์นั้นถูกแทนที่ด้วยความห่วง มองแขนที่กางออก ทำหน้าอ้อนของคนตัวโต พรพิรุณถึงกับอ่อนใจ แต่สำนึกว่าที่นี่มีกล้องวงจรปิด ร่างสูงเพรียวถึงยอมเดินเข้าห้องมากกว่ามายืนกอดกันกลมให้เป็นขี้ปากชาวบ้าน

โดยไม่รู้ตัว...ว่าติดกับศิษย์เอกเรื่องแอ็คติ้งของอิศยาเข้าแล้ว


ถึงแม้จะได้รับการเทรนต์ก่อนที่พรพิรุณมาถึงได้พักหนึ่ง ปุณณ์ก็จัดการได้ไม่มีขาดตกบกพร่อง หลังจากเอาผ้าชุบน้ำร้อนแปะศีรษะกับแขน ต่อด้วยไดร์เป่า สุดท้ายจัดการเปิดแอร์เย็นฉ่ำ พอพรพิรุณมาก็แค่เอาผ้าร้อนๆ ไปซ่อน หน้าตอนนี้ก็แดงแบบธรรมชาติไปแล้วเรียบร้อย

แต่ดูสิ ขนาดเห็นหน้ากันในรอบครึ่งเดือน คิดถึงแทบแย่ พรพิรุณกลับเมินเดินเข้าห้องเฉย

“กินยาหรือยัง”

“กินแล้วครับ” พูดเสร็จ ทำทีเข่าอ่อน จนพรพิรุณต้องรีบมาประคอง อุณหภูมิร้อนบริเวณผิวหน้า หลังจากแก้มของอีกฝ่ายจงใจลงมาแนบกับแก้มของเธอร้อนจัด หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน มองคนดื้อดุ

“ทำไมไม่ไปหาหมอ อยากป่วยตายหรือไง ที่ปักกิ่งก็ทีหนึ่งละ ทำเก่งดูแลตัวเองได้ตอนสู้กับพวกขี้เมา มาตกม้าตายเพราะไม่รู้ว่ายากินยังไง”

ปุณณ์ทำทีซบไหล่คุณหมอจำเป็นเรียกคะแนนสงสาร แอบสูดกลิ่นกายหอมเฉพาะที่ตนเฝ้าคิดถึงมานานให้ชุ่มปอด ถ้ามีพรพิรุณอยู่ใกล้ๆ ต่อให้ด่าจนหูชา เขาก็ยอม แค่ได้รู้ว่ายังคิดถึงกัน ปุณณ์รู้สึกอยากกระโจนเข้าใส่ตั้งแต่นาทีแรกที่เห็นหน้าด้วยซ้ำ ถ้าไม่เกรงว่าต้องเล่นเป็นคนป่วย ไม่อยากนั้นจากด่า ตนอาจกลายเป็นคนที่ถูกฆ่าหมกห้องแทน

“ตอนนี้ไม่กล้าออกจากห้องเลย...กลัวจะเข้าไปกอดทุกคนที่ผ่านเข้ามา” ยื่นหน้ากระซิบชิดผิวแก้มเนียนที่อยากฝังจมูกลงไปแรงๆ แต่ต้องอดทนไว้ “ผมเห็นแต่หน้าคุณ...แค่อุ่นคนเดียว”

พรพิรุณใช้ตัวเองเป็นไม้ค้ำชั่วคราว พาร่างที่ครั้งนี้ดูทิ้งน้ำหนักมาที่เธออย่างจงใจ แถมยังมาพ่นลมหายใจร้อนๆ ให้ขนคอลุก ประโยคดูอ้อนออเซาะของคนป่วยพาให้คนฟังหน้าร้อน ไม่รู้ว่าไข้ถ่ายทอดมาที่หน้าเธอได้รวดเร็วขนาดนี้

ปุณณ์มองผลงานตัวเองอย่างพอใจ ห้องมืดๆ ที่ปิดม่านลดความสว่าง มีแอร์เย็นๆ เปิดไว้ในห้องนอนเรียบ แต่งแบบเอิร์ทโทน เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เน้นที่ใช้สอยได้จริง มีเพียงแค่โทรทัศน์ฝังผนังขนาดสี่สิบนิ้ว โฮมเธียเตอร์ครบชุด กับมุมหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นที่เขาสะสมมาแต่เด็กอยู่อีกมุม นอกจากนั้นทั้งห้องก็มีแค่เตียงนอนขนาดใหญ่

ร่างสูงของปุณณ์ถูกวางลงบนที่นอนใหญ่ พรพิรุณจัดที่นอนให้เรียบร้อย ห่มผ้าให้คนป่วย หยิบรีโมทมาเพิ่มอุณหภูมิห้องไม่ให้คนป่วยหนาวจนสั่น สายตามองปุณณ์ด้วยความรักไม่ปิดบัง ปุณณ์รู้สึกว่าตนเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก หลังมือเย็นของพรพิรุณแตะวัดไข้บนศีรษะเขา

“เดี๋ยวเอาผ้าเช็ดตัวหน่อยนะ ดูสิหน้าแดงจัง”

ผ้าร้อนๆ โปะหน้าไม่แดงปุณณ์ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร แต่เห็นท่าทางเป็นห่วงเป็นใยของคนที่เขาไม่มั่นใจว่าต้องการพบกันหรือเปล่า นาทีนี้ปุณณ์ก็รับรู้ได้โดยทันที ถ้ารู้ว่าพรพิรุณใส่ใจเขาขนาดนี้ บุกบ้านไปนานแล้ว

เริ่มไม่อยากป่วย...แต่อีกใจก็ยังอยากมีชีวิต หากความจริงเปิดเผย ล่ะก็ ปุณณ์กลืนน้ำลายลงคออึกโต เรียกวิญญาณตุ๊กตาทองคำเข้าสิง

เสียงเคลื่อนไหวในห้องน้ำหยุดลงไปพักหนึ่ง ปุณณ์ใช้ศอกดันตัวเองขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอน ก่อนรีบกลับตัวลงนอนเมื่อพรพิรุณออกมาพร้อมอ่างใส่น้ำ ชายหนุ่มแกล้งหลับตาขณะที่พรพิรุณมานั่งอยู่ข้างๆ ก่อนสะดุ้งสุดตัวเมื่อผ้าร้อนจัดโปะลงบนหน้า

มือของปุณณ์จับผ้าร้อนๆ โยนทิ้งไปคนละทาง อาการแสบร้อนบนหน้ายังไม่หายไป มองหน้าพรพิรุณด้วยสายตาสงสาร “อุ่น ผมร้อนนะครับ มีอุ่นกว่านี้ไหม” ทำเสียงต่ำแหบเครือ โดยไม่ทันเห็นรอยยิ้มมุมปากของหญิงสาว

“ร้อนเหรอคะปูน” เสียงหวานบาดหูจนปุณณ์พยักหน้า ไม่เห็นว่าเงาหัวกำลังหาย เพียงแค่พรพิรุณยืนขึ้น และ

ซู่...น้ำเย็นจัดทั้งอ่างราดลงบนหัวของปุณณ์ จัดการสวมแช่ไว้บนหัวคนขี้โกหก ไม่พูดพร่ำอะไรอีก ร่างเพรียวของหญิงสาวลุกขึ้น เดินออกไปจากห้อง

คนโดนทั้งของร้อน และน้ำเย็นจัดสาดใส่ รีบจัดการหยิบอ่างเล็กบนหัวออก เริ่มรู้ตัวว่ากระแสโกรธลอยกรุ่นในห้อง พานให้ขาที่ทำท่าไร้เรี่ยวแรงพุ่งทะยานคล่องตัวไปถึงตัวคนที่กำลังเปิดห้อง กอดรัดไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“ผมขอโทษที่โกหก ผมแค่อยากเจออุ่น อยากกอดอุ่น อยากให้แน่ใจว่าอุ่นอยากเจอผม อยากให้มีผมในชีวิตของอุ่น”

“ต้องลงทุนแกล้งป่วย ใช้ไดร์เป่า ใช้ผ้าร้อนๆ มาทำให้ตัวร้อน ให้ฉันเป็นห่วงนายแทบตายอย่างนั้นเหรอ รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงนายแค่ไหน” คนเจอหลักฐานชิ้นโตจากการหาผ้าสะอาดมาใช้ ก่อนพบหลักฐานพวกนี้ซุกซ่อนอยู่หลังประตูห้องน้ำ หากไม่สังเกต ก็คงไม่พบ ถามเสียงเครือโดยไม่ต้องแกล้ง ดวงตาแวววาวไปด้วยหยาดน้ำทั้งเสียใจ และผิดหวัง

ปุณณ์กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น กลัวคนที่เขาคิดถึงเดินหายไปจากชีวิตอีก “ผมขอโทษ ผมขอโทษจริงๆ” จูบขมับอย่างคิดถึง และในใจอยากให้คำขอโทษที่บอกออกไปจริงใจมากที่สุด

มือยึดไหล่บางไว้แน่น “รู้ไหมว่าถ้าผมมั่นใจในที่หัวใจของอุ่น ผมจะไม่มีวันถอย หรือไปไหนอีก” อาการก้มหน้าไม่ยอมสบตา แต่แก้มเริ่มแดงน้อยๆ เรียกรอยยิ้มของปุณณ์ให้กำลังใจเพิ่มขึ้น มือหนาช้อนคางเรียว พูดคำสำคัญที่เขารู้แน่ชัดตั้งแต่ได้พบพรพิรุณที่ปักกิ่ง

“ผมรักอุ่น...มันคือความจริงที่สุด ใช้ชีวิตของผมสาบาน”

พรพิรุณยกนิ้วทาบริมฝีปากของปุณณ์ น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ รอยยิ้มแต้มบนใบหน้า ทำให้พรพิรุณงดงามมากขึ้น

“อยู่กับฉันไปนานๆ ได้ไหม ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อฉัน แต่มีลมหายใจเพื่อฉันได้หรือเปล่า”

คำถามที่ไร้คำตอบ นอกจากริมฝีปากร้อนทาบลงมาบนริมฝีปากอวบอิ่ม ความคิดถึง ความรักถูกถ่ายทอดออกมาสัมผัสกัน ความหวานของพรพิรุณถูกตักตวงจากปุณณ์ได้ไม่รู้จักอิ่ม แต่เหมือนบางอย่างจะขัดจังหวะลมหายใจ ปุณณ์ถอนหน้าออกมาดื้อๆ ทำอารมณ์คนที่กำลังเคลิ้มต้องลืมตาขึ้นมอง

ผู้ชายตัวโตจมูกแดง...กำลังทำหน้าทรมาน พร้อมกับ

ฮัดชิ่ว!

ปุณณ์ทำหน้าปูเลี่ยน รู้ฤทธิ์แกล้งป่วย กับน้ำเย็นจัดของพรพิรุณกำลังเล่นงาน “ท่าทางจะป่วยจริงแล้ว...ฮัดชิ่ว!”
พรพิรุณหัวเราะเสียงใส ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เดินออกไปนอกห้อง ปล่อยให้คนโดนหวัดมาขัดเวลาหวานทำหน้าหงุดหงิด

“คุณพยาบาลสุดสวยต้องรับผิดชอบนะครับ”

คุณพยาบาลหันหน้ามามองค้อนคนที่ตามติดไม่ยอมปล่อยให้หนีง่ายๆ เอะอะกอด เอะอะหอม จนคนโดนเริ่มเหนื่อยใจกับนิสัยแสดงความรักของปุณณ์ ขนาดจะเป็นหวัดยังหื่นไม่เลิก

“เดี๋ยวก็เป็นหวัดไปด้วยหรอก”

“มันเป็นวิธีแสดงความรับผิดชอบหรอก” พูดจบปุณณ์ก็มาต่อความหวานที่ถูกขัดจังหวะด้วยการจามไม่ให้ขัดช่วง ใช้เวลาไม่นานก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี ยกเว้นคำสั่งเสียงแผ่ว ตาปรือมองมาดูยั่วคนมองเป็นที่สุด แต่ก็ขัดใจกับคำสั่งนั่นเหมือนกัน

“ถ้ามากกว่านี้ก่อนแต่ง นายตายแน่”

เอาน่า...อย่างน้อยก็มีเรื่องน่ายินดีอีกเรื่อง “แต่งงานกับผมนะ แต่งก่อนปลายปีก็ได้ ตัดหน้าคู่พี่ปั้นกับย่าไปเลย แม่ผมจัดให้ได้”

พรพิรุณไม่ตอบนอกจากหอมแก้มเป็นรางวัลคนช่างคิด “พี่ปั้นได้ฆ่าปูนตายคางานแน่ๆ”

“งานนี้ไอ้ปูนยอม”

สองเสียงหัวเราะประสานออกมา ความรักที่เติบโตในใจผลิบานในใจพรพิรุณ พรพิรุณไม่รู้ว่าเธอรักปุณณ์ตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะเป็นครั้งแรกที่รู้ว่าเขาเจ็บตัวเพื่อเธอที่เฉียนเหมิน หรือครั้งต่อมาที่เขาเอาตัวบังระเบิดไว้ให้ การวิ่งหนีผู้ร้ายเขาก็ไม่วายอุ้มเธอหนีทั้งที่ยังเจ็บไม่หาย และการเจ็บตัวครั้งล่าสุดกับการไปชิงความลับของเธอมา

เขาทำให้เธอดูมีค่า เป็นผู้หญิงคนสำคัญที่เขาอยากปกป้องไว้ไปตลอด เธอเองก็รักเขา...

“ปูนขอบคุณนะ”

“ขอบคุณอะไร” ก้มหน้าพูดชิดริมฝีปากสีเชอร์รี่ ดวงตาเว้าวอนรอฟังคำตอบที่จะไปทำให้หัวใจอบอุ่น

“สำหรับทุกอย่าง...และความรัก ขอบคุณจริงๆ”

ปุณณ์ดึงร่างบางมากอดไว้แนบอก ความสุขแสนหวานในชีวิตที่เขาไม่เคยพบเจอ วันนี้พอได้พบ ก็รู้ว่ามันมีความสุขเพียงใด ถึงต้องเจอเรื่องเลวร้ายมากมายแค่ไหน งานนี้ก็คุ้ม

ได้แต่กระซิบบอกคำหวานซ้ำๆ ข้างหูหญิงสาว

“ผมรักอุ่น”

..........................................................
รอตอนพิเศษนะคะ ไม่คิดว่าตอนนี้จะจบแล้ว ฮา
คุณ ร้อยวจี ดีใจที่ชอบนะคะ สองตอนนั้นแก้ปมเรื่องค่ะ แต่ตอนนี้ขอมาเพิ่มความหวานชดเชยที่ต้นเรื่องจนถึงกลางเรื่องไม่ค่อยหวาน ฮา รอตอนพิเศษนะคะ
คุณ wind พาตอนจบมาส่งค่ะ เรื่องของมิลันกับภีมรวบไปเรื่องหน้าเลย เป็นสวีทสุดท้ายค่ะ ^_^
คุณ ใบบัวน่ารัก คนเขียนชอบสร้างเรื่องเยอะค่ะ ฮา ปรบมือ ไม่รู้มีใครสังเกตไหม อุ่นเป็นพี่ปูน อิอิ เป็นพี่เดือนค่ะ มีตอนหนึ่งในสวีทเมจิกบอกไว้ตอนช่วงแรกๆ ที่ย่าเจอปูน ปูนเป็นน้องเดือน แต่ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด ภีม มิลัน แปะโป้งเรื่องหน้าค่ะ
คุณ ปรางขวัญ มิลันคงไม่ถึงขนาดแก้แค้น แต่แค่ไม่สนใจ เรื่องหน้าค่ะ บอกได้คำเดียวว่าพี่ภีมของทุกคนอายุสามสิบกว่าแล้วแน่ๆ
คุณ alittledog มิลันใจแข็งแน่นอน พี่ภีมเจ้าชู้เหมือนเดิมด้วย เอ๊ะ รออ่านตอนพิเศษเรื่องนี้ก่อนเนอะ
คุณ ameerah มาทำให้พี่ปั้นกับหนูย่าน่าสงสารในเรื่องนี้กันต่อเนื่อง แต่งช้ากว่าคู่นี้อีกเหรอ ฮา คนเขียนใจร้ายสุดๆ ทรมานพี่ปั้นหนูย่าไปไหน รอตอนพิเศษกันนะคะ
มาถึงตอนจบแล้ว เรื่องนี้สั้นกว่าเรื่องแรกเยอะ จากจำนวนหน้ายังไม่นับตอนพิเศษ ก็เกือบร้อยหน้าเอสี่เอง ขอบคุณที่รักกันมากขนาดนี้ค่า แอบมีทำคนอ่านหายไปเพราะพระเอกดันเป็นปูน ขอโทษอีกครั้งค่ะ เรื่องหน้าของพี่ภีมมิลันเต็มตัว ไม่มีหลอกแน่นอน ^_^ รอตอนพิเศษของเรื่องนี้กันก่อนนะคะ




ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ต.ค. 2556, 01:35:54 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ก.พ. 2558, 22:15:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 1930





<< ความบาดหมาง   ตอนพิเศษ งัดข้อเรื่องแต่งงาน >>
ร้อยวจี 28 ต.ค. 2556, 02:57:43 น.
สนุกค่ะ คุณแม่สามีเจ้าเล่ห์ไม่เลิก พอกับหนูย่าเลย ช่างเป็นแม่ผัวกับลูกสะไภ้ที่เข้ากันได้ดีจริงๆ ตอนนี่สั้นหน่อยไม่เป็นไรแต่ถ้าทำหนังสือเอาสองเรื่องมาทำเป็นเล่มเดียวกันก็ไม่เลวนะคะ ไม่ขาดตอนดี รอตอนพิเศษค่ะ


ใบบัวน่ารัก 28 ต.ค. 2556, 07:15:57 น.
อะๆๆ จบเร็วจัง ยังไม่เห็นฉากง้อนานๆๆๆ
อุ่นยังไม่ได้ทำขนมเลย ลืมหมดแล้วหรือ
แก๊ง6หนุ่มก็น่าสนใจนะคะ จองหมดนะคะ


OhLaLa 28 ต.ค. 2556, 11:34:39 น.
ปูนน่ารักตลอด แต่มาเสียเซลฟ์ตรงไม่กล้าตามหาอุ่นนี่สิ แต่ยังไงก็จบพร้อมกับความหวาน รอตอนพิเศษนะคะ


wind 28 ต.ค. 2556, 12:18:37 น.
จบซะแล้ว พี่น้องบ้านนี้น่ารักจริงๆ รออ่านตอนของมิลันค่ะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 28 ต.ค. 2556, 13:51:10 น.
ตามมาอ่านรวดเดียวค่าาา แบบแว่......
พี่ภีมดูแบดบอยสุดบรรยายจิงๆ
ส่วนนายปูน ก็นะ น่ารักเกินบรรยายย เห้อออ อิจฉาสาวๆ ในเรื่องจิงจิ๊งงงง


alittledog 28 ต.ค. 2556, 21:11:58 น.
หนูอุ่นดีน่ารักมากๆ


ameerah 28 ต.ค. 2556, 23:22:45 น.
และแล้วก้อมีฉากสวีทของนายปูนกะอุ่น ถึงจะไม่มากแต่ก้อน่ารักอยู่ดี


ผักหวาน 7 ธ.ค. 2556, 15:10:24 น.
วุ๊ย กว่าจะรักกันได้ ต้องให้คุณแม่ ว่าที่พี่สะใภ้ น้องมิลันสุมหัว เอ้ย วางแผนหาทางช่วยอยู่นานเชีย หุหุ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account