สัญญารักจอมโหดแดนเถื่อน
"พี่สตรองไม่มีวันลืมน้องฟาง วันใดน้องฟางเดือดร้อนพี่สตรองจะมาหา" มันคือคำสัญญาก่อนจากลา
ของปรินทร์ที่มีให้ลษิดาเด็กสาวกำพร้าก่อนจากลาเมื่อสิบห้าปีก่อน
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 3

ตอนที่ 3
ตนัยเข้ามาในห้องของลษิดาอย่างง่ายดายเพราะด้านในไม่มีกลอนแล้วเปิดไฟให้สว่างเพื่อจะได้มอง
เห็นเธอชัดๆ อีกอย่างคืนนี้เขาจะเสพสุขกับเธอได้เต็มที่เพราะวรดาปูทางไว้เรียบร้อยแล้วจึงไม่ต้องกลัวอะไร
ร่างสูงโปร่งเดินเข้าไปใกล้เตียง พลางจ้องมองร่างงามอรชรที่ไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัวก่อนนั่งลงบนเตียง สายตา
หื่นกระหายจ้องมองร่างงามไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ว่าจะเป็นผิวเรียบเนียนใสอมชมพู ทรวงอกอวบงามชูชัน
ด้วยวัยสาวสะพรั่ง เห็นแล้วชักอดใจไม่ไหวจึงยื่นมืออันสั่นเทาไปด้วยอารมณ์หื่นกระหายไปสัมผัสเบาๆ ไล่ตั้งแต่
ใบหน้างามเนียนลงมาเรื่อย

“จุ๊ๆ สวยจริงๆ ทั้งเนียน ทั้งนุ่ม ขาวใส น่าสัมผัส ลอกคราบออกจะสวยแค่ไหน แม่คุณเอ๋ย โอ๊ยสวรรค์กำ
ลังจะมาเยือนฉันแล้ว” เสียงสั่นพร่าด้วยเพลิงตัณหายามมือสัมผัสต้องร่างงามจนแทบรั้งรอไม่ได้จึงรีบแกะกระดุม
เสื้อนอนของลษิดาเผื่อให้เห็นเนื้อแท้ทว่าได้แค่สองเม็ดก็ถูกมือบางปัดออกพร้อมกับการรู้สึกตัวตื่นเต็มที่ของเธอทันที
ดวงตากลมโตคู่งามจ้องมองหน้าผู้บุกรุกอย่างตกใจ

“เข้ามาได้ยังไง คุณตนัย ออกไปนะ” เสียงใสตวาดดังๆพลางทำท่าจะหนี

“เข้ามาเพราะแรงคิดถึงสิจ๊ะ ป้าชาดาไม่อยู่แล้วไม่มีใครคุ้มครองน้องฟางคนสวยได้นอกจากพี่บิ๊กคนนี้
แล้วไม่ต้องหนีหรือตะโกนขอความช่วยเหลือให้เสียเวลาเพราะไม่มีใครได้ยินหรอก มามะมาสู่อ้อมอกพี่ดีกว่าแล้ว
พี่จะสอนให้รู้จักสวรรค์บนดิน เอาให้ร้องครวญครางไม่หยุดเลย” ร่างสูงโปร่งขยับเข้าใกล้หยอกล้อเหยื่อแสนสวย
ก่อนจะลงมือจริง

“ไม่ ไอ้คนชั่ว ฉันยอมตายดีกว่าให้แกคุ้มครอง” ลษิดาแม้จะกลัวแต่กลับกล้าก่นดาท้าทายอีกฝ่าย ต่อให้
ต้องตายก็ไม่มีวันยอมตกเป็นของผู้ชายเลวๆคนนี้

“จุ๊ๆ คนสวยทำตัวไม่น่ารักเอาเสียเลย สงสัยชอบความรุนแรงได้เลยพี่บิ๊กจัดให้” แววตาวาวโรจน์ปนหื่นจ้อง
มองเหยื่อแสนสวยพลางกระชากร่างมากอดและปล้ำจูบทว่าลษิดากลับดิ้นไม่ยอมแล้วใช้ฟันกัดไหล่อีกฝ่ายแรงๆ
จนเนื้อแทบหลุด

“โอ๊ย อีนี่กล้ากัดกู” แล้วเผลอปล่อยร่างบาง หญิงสาวจึงฉวยจังหวะนี้วิ่งหนีไปที่ประตูแต่อีกฝ่ายกลับไว
รีบคว้าชายเสื้อนอนไว้หากลษิดาไม่ยอมขืนตัวแรงๆเพื่อจะหนีจึงทำให้เสื้อขาดจนเห็นแผ่นหลังเรียบเนียนขาวใส
อมชมพูดเห็นแล้วตนัยกลับยิ่งมีอารมณ์อยากกระชากร่างงามเข้ามาฟัดให้หนำใจหากเธอไม่ดิ้นหนีจนไปชนกับ
กำแพงเนื้ออันแข็งแกร่งของคนตัวสูงใหญ่แล้วโอบกอดร่างบางสั่นระริกไว้ในอ้อมกอด

“ปล่อยนะไอ้คนชั่ว ช่วยด้วยๆ” ด้วยความกลัวว่าจะเป็นอีกคนที่คิดมารังแกถึงที่ผสมกับตกใจจึงทำให้
ลษิดาทั้งดิ้นทั้งทุบตีเจ้าของอ้อมกอด

“ไม่ต้องกลัวนะน้องฟางคนดีของพี่สตรอง พี่มาช่วยน้องฟางแล้ว” ทันทีที่ได้ยินเสียงอบอุ่นปลอบประโลม
ของคนซึ่งจากไปนานสิบกว่าปี ร่างบางถึงกับชาวาบอย่างคาดไม่ถึง แล้วความรู้สึกทั้งหลายทั้งมวลประดังเข้าสู่
ใจก่อนมือเรียวสวยจะกอดร่างแกร่งไว้แน่น ราวกับกลัวว่ามันจะเป็นแค่ความฝัน พลางซบหน้าปล่อยให้น้ำตาไหล
ริน สักพักก็ถูกผลักออกพร้อมเสื้อแจ๊กเกตสีดำตัวใหญ่คลุมทับลงมาบนไหล่บอบบางอย่างอ่อนโอน

“ถอยไปก่อนน้องฟาง พี่ขอจัดการกับชายโฉดนี่ก่อน” ปรินทร์อยากปลอบอยากพูดคุยอะไรหลายๆอย่างกับ
ลษิดาหากสายตาไม่บังเอิญเห็นตนัยเดินเข้ามาหาในท่าทีคุกคามและเขาจะไม่มีวันปล่อยให้มันได้อยู่ทำชั่วอีก

“ที่แท้ก็ซ่อนชู้รักไว้นั่นเอง ถึงไม่ยอมกู ถ้ามึงฉลาดก็อย่ายุ่งกับของๆกู ไม่อย่างนั้นมึงไม่ตายดีแน่” ตนัยยัง
ไม่รู้ว่านรกกำลังจะมาเยือนจึงทำตัวเป็นนักเลงโตข่มขู่อีกฝ่าย

“ถ้าอยากรู้ใครไม่ตายดีก็เข้าซิ” ปรินทร์ยินนิ่งเฉยรอให้อีกฝ่ายพุ่งเข้าหาและตนัยก็ทำตามคำท้าออกหมัด
ใส่ร่างสูงใหญ่แต่ชกได้แค่ลมเพราะอีกฝ่ายไวมากและกลับเป็นฝ่ายโดนชกที่ท้องจนจุกลงไปนอนดิ้นด้วยความเจ็บ
ปวดแต่ยังไม่หนำใจ เขากระชากคอเสื้อขึ้นมาแล้วพูดใส่หน้า “มึงดีแต่รังแกผู้หญิง เก่งนักใช่มั้ย ทำไมไม่สู้ล่ะ
ไอ้หน้าตัวเมีย”

“มึงเป็นใครกันแน่ กล้ามาทำร้ายกู มึงรู้มั้ยกูเป็นใคร” แม้เจ็บเจียนตายตนัยยังกล้าขู่

“มึงเป็นใครไม่สำคัญสำหรับกู เพราะกูจะทำให้มึงรู้ว่านรกบนดินมีจริง แต่กูจะให้โอกาสมึงสู้ ถ้าสู้กูได้ก็
ออกจากห้องนี้ไปแต่ถ้าไม่ได้ก็สลบคาตีนกูนี่ ไอ้หน้าตัวเมีย” หน้าตาปรินทร์ดูดุดันน่ากลัวมากลษิดาเห็นแล้วได้
แต่เอามือปิดปากด้วยความกลัวแต่ไม่กล้าร้องสักคำ

“มึง กูจะเอามึงให้ตาย” ตนัยถูกดูหมิ่นหนักเข้าก็เกิดอาการฮึดโกรธจัดจึงหยิบปืนในกระเป๋ากางเกงมาหมาย
จะยิงอีกฝ่ายให้ตายทว่ากลับถูกฝ่าเท้าของปรินทร์เตะกระเด็นตกพื้นไป และเขาก็ไม่ปล่อยตนัยอีกต่อไป ร่างสูงเดิน
เข้าไปใกล้จัดการอัดร่างสูงโปร่งชนิดไม่ยั้งแม้อีกฝ่ายจะพยายามสู้ก็สู้ไม่ไหวแต่เขายังไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดกระทั่งร่าง
บางเข้าไปฉุดรั้งไว้

“พอได้แล้วค่ะพี่สตรอง ขืนซ้ำอีกเขาตายแน่ แค่นี้ก็ไม่มีแรงทำร้ายใครได้อีก ปล่อยไปเถอะ” ลษิดาไม่
อยากให้มีการฆ่ากันตายต่อหน้าเธอ และไม่อยากให้คนที่เพิ่งได้พบหน้าอีกครั้งต้องเป็นฆาตรกรด้วย

“ก็ได้ ถือว่าแกโชคดีเพราะน้องฟางขอไว้ แต่ขอหมัดสุดท้ายก็แล้วกัน” หมัดหนักๆเสยเข้าที่คางแค่
หมัดเดียวตนัยซึ่งอยู่ในอาการปางตายก็สลบไม่รับรู้อะไรอีก

พอเห็นชายโฉดสลบไปแล้วปรินทร์จึงหันมาให้ความสนใจหญิงสาวเจ้าของห้อง ดวงตาคมเข้มจ้องมอง
ไปทั่วร่างบางอรชรงดงามตั้งแต่หัวจรดเท้า ลษิดาโตแล้วสวยงามน่ารักน่าหลงใหลยิ่งกว่าตอนเป็นเด็กอีก มิน่าเล่า
คนพวกนั้นถึงจ้องจะทำร้ายนัก แต่ตอนนี้ดวงตากลมโตคู่สวยกลับจ้องมองเขาเหมือนไม่แน่ใจและหวาดหวั่นยิ่ง
นัก ใช่ลษิดากำลังกลัวๆว่า ผู้ชายหน้าตาดีหาตัวจับยากที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอและจ้องมองเธอนั้นจะใช่พี่สตรองที่
คอยปกป้องน้องฟางจริงๆหรือไม่ เพราะเขาเปลี่ยนไปมาก จากรูปร่างสูงเพรียวก็กลายเป็นสูงใหญ่แข็งแกร่ง หน้าตา
แม้มีเค้าเดิมอยู่แต่ก็เปลี่ยนไปจนเธอเกือบจำไม่ได้ เมื่อครู่เพราะตกใจบวกกับกลัวพอได้ยินเสียงอันคุ้นเคยจึงลืม
ตัวกอดร่างแกร่งไว้แน่นเพื่อยึดเป็นที่คุ้มภัย ยอมรับเวลานี้เธอสับสนไม่แน่ใจและหวาดระเวงไปหมด

“น้องฟาง จ้องหน้าพี่สตรองแบบนี้ พี่คิดค่าเสียหายนะ” จากท่าทีดุดันน่ากลัวก็แปรเปลี่ยนเป็นขี้เล่นรวม
ถึงนัยน์ตาแข็งกร้าวก็อ่อนลงยามทอดมองใบหน้างดงามฉายแววสับสนซึ่งผู้สูงวัยกว่าเข้าใจดีว่าเพราะอะไร
การพบหน้ากันในเวลาที่ลษิดากำลังหวาดผวาคงสร้างความสับสนหวาดหวั่นให้เธอไม่น้อย

“คุณใช่พี่สตรองแน่นะ ถ้าไม่ใช่ก็อย่าหลอกกันเลยค่ะ ฉันไม่อยากเสียใจซ้ำสองอีก ฉันเสียใจกับการตาย
ของแม่มากพอแล้ว อย่าให้ฉันต้องเสียใจเพราะถูกหลอกว่าพี่สตรองกลับมาหาน้องฟางอีกทั้งที่เป็นแค่การหลอก
ลวง” ลษิดาบอกตามตรงและนั่นก็ทำให้อีกฝ่ายสงสารจับใจ เข้าใจแล้วตลอดเวลาที่จากกันลษิดาไม่เคยลืมเขา
เหมือนที่เขาไม่เคยลืมเธอเช่นกัน

ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปใกล้ร่างบางพลางจ้องมองดวงตากลมโตคู่สวยฉายแววหวาดหวั่นอ้างว้างจนเห็น
ได้ชัดแล้วโอบกอดไว้แนบอกพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนครั้งลษิดายังเป็นเด็ก “น้องฟาง พี่สตรอง
เคยสัญญาว่า วันใดน้องฟางเดือดร้อนหรือถูกใครรังแก พี่จะกลับมา ขออย่างเดียวอย่าร้องไห้เพราะร้องไห้เท่า
กับแช่งพี่ให้ตายแล้วพี่จะไม่ได้กลับมาหาน้องฟางอีก เวลานี้พี่กลับมาแล้ว ไม่มีใครรังแกน้องฟางได้อีกแล้ว”

พอเขาพูดจบสองมือเรียวสวยของลษิดาก็โอบกอดร่างแกร่งสูงใหญ่ไว้แน่นราวกับกลัวว่ามันจะหลุดลอยไป
อีกเพราะเป็นคำพูดที่พี่สตรองของเธอพูดก่อนจากไป

“พี่สตรองกลับมาแล้วจริงๆ อย่าทิ้งน้องฟางไปอีกนะ ที่นี่ไม่มีใครต้องการน้องฟาง ทุกคนต่างขับไล่ใสส่ง
และคืนนี้ถ้าพี่สตรองไม่มา น้องฟาง..อาจ..” เธอพูดได้แค่นั้นน้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่อาย ปรินทร์กอดรัดคนใน
อ้อมกอดแน่นขึ้นนัยน์ตาวาวโรจน์เมื่อนึกถึงคนที่คิดร้ายลษิดา เขาไม่ปล่อยไว้แน่

“ไม่เอาไม่ร้องแล้ว เด็กขี้แย พี่ไม่ทิ้งน้องฟางไปอีกแล้ว” มือแข็งแรงดันร่างบางออก จ้องมองใบหน้าเปื้อน
น้ำตาแล้วยิ้มให้ ก่อนที่นิ้วเรียวแกร่งจะค่อยๆไล่น้ำตาให้แต่พอใบหน้าคมเข้มขยับเข้าใกล้ใบหน้างามเนียนใสก็รีบ
ชบลงกับอกแกร่งแข็งแรงอีกครั้ง

“หึหึ น้องฟางโตแล้วหวงแก้มแฮะ ตอนเด็กๆพี่สตรองหอมบ่อยๆยังไม่เห็นว่าเลย หวงแบบนี้พี่เลยไม่รู้ว่า
แก้มน้องฟางตอนโตจะหอมนุ่มเนียนเหมือนตอนเด็กมั้ย แต่หน้าเลอะน้ำตาแบบนี้คงเค็มมากกว่าหอมมั้ง” เขายั่ว
เย้าคนขี้อายเลยได้ผลตอบแทนเป็นกำปั้นทุบแรงๆบนอกแกร่งแทน

หัวใจของลษิดาในตอนนี้ช่างอบอุ่นยิ่งนัก พี่ชายแสนดีคอยปกป้องน้องฟางกลับมาหาแล้วแต่เขาจะอยู่ปก
ป้องเธอได้ตลอดหรือไม่ เธอเริ่มไม่แน่ใจในโชคชะตาอีกครั้งจนอดแหงนหน้ามองดวงตาคมสีนิลเข้มราวกับต้องการ
ค้นหาตอบซึ่งปรินทร์ก็สังเกตได้จากแววตาหวาดหวั่นขาดความมั่นใจในดวงตากลมโตคู่สวยจึงยิ้มแล้วถามขึ้น

“น้องฟางมีอะไรอยากถามพี่ ก็ถามมาตรงๆ”

“พี่สตรองแค่มาช่วยน้องฟางแล้วจะจากไปอีกใช่ไหมคะ” เสียงหวานใสนั้นเบายิ่งนักกลัวคำตอบที่ได้รับ
จะเป็นสิ่งที่เธอกลัวทว่าอีกฝ่ายกลับส่ายหน้าแล้วตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเพื่อให้เธอหายหวาดกลัว

“ไม่หรอก พี่จะพาน้องฟางไปอยู่ด้วย ตามคำขอร้องของน้าดาและความตั้งใจของพี่ ถ้าน้าดายังอยู่
พี่คงแค่แวะมาเยี่ยมบ่อยๆ แต่น้าดาสิ้นแล้วพี่รู้น้องฟางไม่มีใคร พี่จะมารับไปอยู่ด้วย ว่าแต่น้องฟางยินไปอยู่กับพี่
กับแม่พี่ไหม ถึงอย่างไรน้องฟางก็อยู่บ้านนี้ไม่ได้อีกแล้ว ไม่ปลอดภัย ถ้าไม่สะดวกที่จะไปอยู่กับพี่ พี่จะหาที่อยู่
ให้ใหม่จากนั้นค่อยว่ากันอีกที แต่พี่ไม่ยอมให้น้องฟางอยู่ตามลำพังแน่ พี่เป็นห่วง หวงมากด้วย”

“นอกจากแม่แล้ว ก็ไม่มีใครดีกับน้องฟางเท่าพี่สตรอง ไม่ให้น้องฟางไปอยู่กับคนที่หวังดีกับเราแล้วจะให้
ไปอยู่ที่ไหนกับใครคะ อย่างน้อยก็ดีกว่าอยู่กับคนที่อยากขับไล่และคิดร้ายตลอดเวลา” ลษิดาบอกตามตรง ชีวิตไม่
มีทางเลือกให้ลูกกำพร้าอย่างเธอมากนักหรอก

“น้องฟางโตแล้วจริงๆ แต่เป็นคนโตที่คิดมาก เลิกคิดมากได้แล้ว ต่อไปชีวิตน้องฟางต้องดีขึ้น พี่ให้สัญ
ญา ตอนนี้น้องฟางไปเปลี่ยนชุดเก็บของใช้เท่าที่จำเป็นแล้วรอพี่ที่ห้อง พี่ขอส่งไอ้คนชั่วนี่ไปคืนต้นสังกัดก่อนแล้ว
จะกลับมารับ” เขาเอ็ดเล็กน้อยในความช่างคิดของเธอก่อนไปลากร่างไร้สติออกจากห้องขณะที่ลษิดาได้แต่สงสัย
ใครกันต้นสังกัดที่ส่งตนัยเข้ามาลวนลามเธอ
===========
ร่างสูงใหญ่พาร่างไร้สติของตนัยมาหยุดอยู่หน้าห้องซึ่งยังคงเปิดไฟอยู่และปรินทร์พอจะเดาได้ว่าเป็นห้อง
ของทานุในเรือนใหญ่หากยังไม่ได้ย้ายห้องไปไหน เขาเคยอยู่ที่นี่มาเกือบสองปีจึงรู้จักแทบทุกที่ในบ้านนี้ดีแล้วจัด
การวางร่างไร้สติไว้หน้าห้องก่อนหยิบปากกาที่สั่งทำพิเศษเป็นได้ทั้งอาวุธและสารพัดประโยชน์มาเขียนบนเสื้อของ
ตนัยเขียนเสร็จก็เดินไปยืนหน้าประตูห้องแล้วเคาะดังๆ

ก๊อกๆๆๆ

ด้านคนที่อยู่ในห้องซึ่งหลับไม่ค่อยสนิทนักเพราะใจคิดอยากไปดูให้เห็นกับตากับความหายนะของลษิดา
ครั้นพอได้ยินเสียงเคาะประตูก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วตะโกนถามออกไป

“ใครนะ” เงียบไม่มีเสียงตอบจึงคิดล้มตัวลงนอนต่อแต่เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นติดๆกันอีก

ก๊อกๆๆๆๆ

คราวนี้เจ้าของห้องทนไม่ไหวลุกพรวดไปที่ประตูแล้วเปิดออกทันทีแต่กลับไม่พบใคร
“ใคร แน่จริงโผล่หน้ามาสิ อย่าให้ฉันรู้นะว่าใครกล้ามากวนฉัน” วรดาตะโกนดังๆอย่างหัวเสีย เธอไม่เคย
กลัวอะไรอยู่แล้ว ทว่าทุกอย่างรอบตัวยังคงเงียบจึงทำให้หงุดหงิดนักแต่พอจะปิดประตูกลับเข้าห้องพลันสายตา
ก็สะดุดเข้ากับร่างโชกเลือดของตนัยเข้าเพราะมีคนใจดีเปิดไฟทางเดินให้สว่างเพื่อให้เธอเห็นและที่ตกใจไปกว่า
นั้นคือบนเสื้อของเขามีข้อความเขียนอยู่

ขอส่งมอบชายโฉดอดีตชู้รักแต่เป็นกิ๊กในปัจจุบันของสะใภ้เลวแห่งสิทธิไพศาลคืนให้ ขอเตือนอย่าได้
คิดอะไรชั่วๆอีก ไม่อย่างนั้นเบื้องหลังอันโสมมที่ไม่อยากให้สามีรู้อาจได้รู้ จากสตรอง

วรดาแทบกรี๊ดกับข้อความนั้นแต่ระงับเสียงไว้กลัวคนอื่นมาพบเข้าจึงก้มลงดูร่างที่นอนสลบอยู่หน้าห้อง
ร่างสูงโปร่งของตนัยนั้นชอกช้ำเหมือนถูกทำร้ายมาอย่างหนักจนอดสงสัยไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ให้ไปเข้าหา
ลษิดาทำไมถูกทำร้ายได้ มันเป็นใครกันช่างบังอาจนักที่คิดช่วยลษิดาและมาทำร้ายตนัยได้

“นี่ๆ รู้สึกตัวเสียทีสิ ผู้ชายอะไรไม่ได้ความ ให้ไปจัดการกับนังฟางกลับถูกทำร้ายเอง ห่วยสิ้นดี ฟื้นสิ”
วรดาเขย่าตัวตนัยแรงๆพลางส่งเสียด่าว่าไปด้วยและเสียงเธอคงดังไม่น้อยจึงทำให้ปิยดาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องวรดา
นักได้ยินเข้าจึงค่อยๆเปิดประตูออกมาและย่องมาใกล้เพื่อแอบดูโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว

“คุณตนัยรีบๆฟื้นสิ อย่าทำให้ฉันเดือดร้อนนะ ไอ้ผู้ชายเฮงซวยไม่ได้เรื่องสักอย่างอุตส่าห์ปูทางให้ยังปล่อย
ให้ตัวเองถูกทำร้ายแถมยังทำตัวให้เป็นหลักฐานมาขู่ฉันอีก ถ้าไม่ตื่นฉันฆ่าคุณแน่” วรดาตะโกนดังๆอย่างโกรธจัด
พร้อมเขย่าร่างบอบช้ำแรงๆ สักพักตนัยก็รู้สึกตัว

“โอ๊ยเจ็บ แล้วนี่ฉันมาอยู่นี่ได้ไง ไอ้หมอนั่นมันจับฉันมานี่เหรอ” ตนัยรู้สึกเจ็บไปทั่วร่างและแปลกใจที่ตัว
เองมานอนอยู่หน้าห้องวรดาได้ อีกทั้งเธอยังอยู่ในอาการโกรธแค้นเขาด้วย

“ยังจะมาถามอีก คุณมันไม่ได้เรื่องให้ไปเสพสุขกับนังฟางกลับปล่อยให้ตัวถูกทำร้ายแถมหาเรื่องเดือดร้อน
มาให้ฉันด้วย บอกมานะมันเป็นใคร” วรดาตวาดถามอย่างเอาเรื่อง

“ดาด้าเธอพูดเรื่องอะไรฉันทำอะไรให้เธอเดือดร้อน ฉันเองต่างหากที่เดือดร้อนเพราะเธอ ไหนบอกทางสะ
ดวก แล้วปล่อยให้คนมาช่วยยายนั่นได้ยังไง” ตนัยตะคอกกลับอย่างหงุดหงิดเช่นกัน

“ดูเสื้อตัวเองเสียก่อน มันเขียนประจานเห็นๆยังจะมาว่าฉันอีก คนมาช่วยนังฟางอะไรฉันไม่รู้เรื่อง”
พอวรดาบอกตนัยจึงก้มลงดูเสื้อแล้วพบข้อความเข้าถึงกับแปลกใจ ผู้ชายคนนั้นรู้ได้ยังไงว่าวรดาวางแผนให้เขา
เข้าหาลษิดา มิน่าเล่าวรดาถึงเดือดร้อนนักถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปเธอเดือดร้อนแน่

“ดาด้า คืนนี้ฉันคงไปไหนไม่ไหว ขอพักห้องเธอก่อน ส่วนเธอรีบไปจับตัวชายชู้ของยายนั่นเสีย มันคงยังไม่
ไปไหนมั้ง แล้วฉันจะโทรให้คนของฉันมาช่วยด้วย ถ้าไม่อยากเดือดร้อนก็รีบทำ ฉันต้องเอาคืนมันให้สาสมสอน
ให้รู้จักคนอย่างตนัย” ตนัยแม้จะเจ็บแต่ไม่วายคิดแก้แค้นคนที่ทำร้ายเขาจนร่างกายบอบช้ำแถมใบหน้าแตกยับ
ทั้งยังขวางเขาไม่ให้ปลุกปล้ำลษิดาด้วย

“จะบ้าเหรอพักห้องฉันเกิดใครเห็นเข้า ฉันจะตอบอย่างไร” วรดาไม่ยอม

“เลือกเอาจะให้ฉันไปพักที่อื่นแล้วใครมาเห็นข้อความบนเสื้อเข้าหรือจะให้พักห้องเธอ ผัวเธอยังไม่กลับ
กลัวอะไร ฉันไม่อยู่นานหรอก รอให้คนของฉันมารับก็จะไป อย่ามัวพูดมาก รีบไปขวางมันไว้ก่อนที่จะหนีไป
เชื่อว่า มันยังอยู่ในบ้านนี้” ตนัยขู่กลับ วรดาจึงยอม พลางประคองเขาเข้าไปในห้องและรีบไปหาลษิดาที่ห้องจึง
ไม่เห็นปิยดาซึ่งแอบฟังอยู่ลอบยิ้มพลางเดินตามไปให้เห็นกับตาว่าใครที่มาช่วยลษิดาไว้
==========
ปรินทร์กลับมาหาลษิดาที่ห้องอีกทีก็พบว่าหญิงสาวจัดของเสร็จแล้วและเปลี่ยนเป็นชุดสีดำทั้งชุดนั่งรอ
เขาอยู่ ที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องเก็บของอะไรมากเพราะเธอยังไม่ได้เอาของออกจากกระเป๋ามากนัก เนื่องจากไม่คิด
จะอยู่บ้านนี้นานนักจึงไม่เสียเวลามาก พอเห็นเขากลับมาก็ยิ้มให้

“เสร็จแล้วค่ะ ไปกันหรือยังคะ”

“เร็วดี ก่อนไปพี่อยากไปกราบอัฐฐิน้าดาสักหน่อย น้องฟางพาพี่ไปที”

“ได้ค่ะ” ลษิดาว่าแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าเดินทางแต่ปรินทร์กลับไวกว่าคว้าไปแทนแล้วบอกว่า “น้องฟาง
เดินนำไปก็พอ”

ลษิดาพาปรินทร์มาที่ห้องของชาดาในเรือนปีกไม้ซึ่งวรดายังไม่ได้ย้ายเข้ามาอยู่และเชื่อว่าไม่มีใครกล้ายึด
ห้องของชาดาไปทำอย่างอื่นแน่เพราะทานุห้ามใครยุ่งกับห้องมารดาและเก็บอัฐฐิของท่านไว้ที่นี่

“แม่คะ ฟางพาพี่สตรองมากราบแม่ค่ะ” ลษิดาบอกกับรูปของชาดาที่ตั้งอยู่เหนือโถบรรจุอัฐฐิในตู้ไม้สีน้ำ
น้ำตาลซึ่งดูเหมือนตู้โชว์มากกว่าจะเป็นตู้เก็บอัฐฐิ

“น้าดาครับ ผมสตรองมากราบน้าดาครับ ผมเสียใจที่ไม่รีบมาหาน้าดาก่อนหน้านี้ น้าดาหลับให้สบาย
นะครับ ไม่ต้องห่วงน้องฟาง ผมให้สัญญาผมจะปกป้องแก้วตาดวงใจของน้าดาแทนน้าดาเอง ไม่ยอมให้ใครรังแก
อีก” ปรินทร์บอกพลางก้มลงกราบอัฐฐิผู้ตายด้วยความเคารพจากใจจริงก่อนหันมาพูดกับลษิดา “น้องฟางกราบ
ลาน้าดาแล้วเรารีบไปกันดีกว่า พี่ไม่อยากให้มีใครตื่นมาเห็นเข้า”

ดวงตากลมโตทอดมองไปรอบๆห้องมารดาอีกครั้งก่อนมาหยุดอยู่ที่รูปชาดาสักพักแล้วก้มลงกราบ
อัฐฐิของผู้ตาย

“แม่คะ ฟางกราบลาแม่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากบ้านนี้ไป หากฟางมีวาสนาขอให้ได้กลับมาบ้านนี้อีก
ฟางจะมากราบแม่อีกครั้ง ฟางอยากเอาอัฐฐิแม่ไปบูชาด้วยแต่ฟางรู้ตัวดีค่ะว่าลูกเลี้ยงอย่างฟางไม่มีสิทธิ์ แต่
ฟางจะเก็บความรักของแม่ไว้ติดตัวฟางตลอดไป” เอ่ยจบร่างบางก็ก้มกราบรูปชาดาอีกครั้งก่อนจะถูกมือใหญ่
แข็งแรงจูงออกจากห้องขืนอยู่ต่อลษิดาได้หลั่งน้ำตาอีกแน่เพราะนัยน์ตาเธอชักจะมีน้ำตาเคลอแล้ว

ทั้งคู่ออกมาจากเรือนปีกไม้กำลังจะไปที่ประตูก็พบวรดากับเหล่าชายฉกรรจ์สี่ห้านายยืนขวางอยู่
“โอ๊ะโอ สงสัยเราสองคนจะยิ่งใหญ่มากนะ ถึงมีคนมายืนตั้งแถวส่งเราด้วยน้องฟาง” ปรินทร์หันไปพูด
กับลษิดาซึ่งกำลังตกตะลึงเพราะไม่คิดว่าวรดาจะรู้และพาคนมาดักไว้และคนพวกนี้ก็ไม่ใช่คนงานในบ้านด้วย

วรดาเองก็ตกตะลึงไม่คิดจะเจอผู้ชายหน้าตากับบุคลิกดูดีหาตัวจับยาก ผู้ชายคนนี้ดูดีไปทุกส่วน
นังกาฝากนี่มีคนรักหน้าตาดีอย่างนี้เชียว แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่ยอมให้ไปจากบ้านนี้แน่และเธอจะอาศัยคน
ของตนัยช่วยกำจัดแทน พวกนี้มันนักเลงโตทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว

“สำคัญตัวเองผิดไปมั้ง คนร้ายที่บุกรุกเข้าบ้านคนอื่นยามวิกาลใครมันจะยินดีต้อนรับ นังฟางแกนี่มัน
กตัญญูจริงๆคุณแม่ตายไม่ทันไรก็พาชู้รักมาขโมยของในบ้าน แกคงคิดว่าบ้านสิทธิไพศาลกระจอกนักใช่มั้ยนึก
จะพาใครมาก็มาได้ แกคิดผิดแล้ว ฉันไม่มีวันปล่อยให้พวกแกรอดไปแน่” วรดาขู่ขณะที่ลษิดาตกตะลึงอย่างคาด
ไม่ถึงจะถูกใส่ความ แล้ววรดารู้ได้อย่างไรว่ามีคนบุกรุก ใครบอก หรือว่า...

“คุณดาด้า คุณรู้ได้ยังไง” ลษิดาโพล่งถามตรงๆเธอพอจะคาดเดาอะไรได้แล้วเหมือนกัน

“ฉันเป็นเจ้าของบ้าน ใครเข้าออกในบ้านทำไมจะไม่รู้ คิดว่าพาชู้รักเข้ามาบ้านแล้วฉันจะไม่รู้เรอะ”
วรดาคิดว่าตัวเองเป็นต่อจึงเย้ยอีกฝ่ายขณะที่ปรินทร์เริ่มหมายหัวหญิงชั่วคนนี้ไว้เรียบร้อยแล้วหากยังไม่หยุดทำชั่ว
อีก เขาจะไม่ปล่อยไว้แน่

“น้องฟางนิ่งไว้ ผู้หญิงร้ายกาจคนนี้พี่จัดการเอง ผมขอเตือนไว้ก่อนนะถ้าฉลาดก็จงหลีกทางเสีย ไม่อย่าง
นั้นความเลวระยำที่ปกปิดปิดไว้อาจปิดไม่อยู่ เหมือนอดีตชู้รักใครบางคนที่อาการปางตาย จริงมั้ยครับคุณผู้หญิง”
ดวงตาคมเข้มยามจ้องหน้าวรดาดูน่ากลัวมาก

“แก..แก บังอาจมากบุกรุกบ้านคนอื่นยังกล้ามากล่าวหาเจ้าของบ้านอีก พวกแกยืนเซ่ออยู่ทำไมจัดการ
เก็บมันเสีย ส่วนนังนี่ ฉันจะจับไปให้นายแกเอง” วรดาโกรธจัดหันไปไล่บี้กับคนของตนัยที่มัวแต่ยืนเฉยไม่ลงมือเสีย
ที เหล่าชายฉกรรจ์พอเห็นสีหน้ากับน้ำเสียงเกรี้ยวกราดของวรดาก็รีบหยิบปืนออกมาเล็งไปที่ร่างสูงใหญ่ทันที
ขณะที่ปรินทร์ยิ้มเย็นๆใส่พวกมันไม่กลัวสักนิดแต่เขาสัมผัสได้คนตัวบางข้างกายนั้นอยู่ในอาการตกตะลึงหวาดกลัว
ใบหน้าสวยใสงดงามนั้นขาวซีด มือบางที่เขากุมอยู่เย็นเฉียบด้วยความกลัว เขาจึงดึงร่างบางเข้ามากอดไว้แนบอก
พร้อมเสียงปลอบประโลมดังขึ้น

“ไม่ต้องกลัวน้องฟาง ไม่มีใครทำอะไรพี่สตรองได้หรอก ถ้ากลัวก็หลับตาเสีย”

“จะตายอยู่แล้วยังมาทำหวานปลอบกันอีก พวกแกเมื่อไหร่จะยิงมัวแต่เล็งอยู่นั่นแหละ” วรดาหงุดหงิดนัก
จึงตะคอกสั่งย้ำและคำสั่งของเธอก็ได้สมใจเมื่อเสียงปืนดังลั่นให้ได้ยินทันที

เปรี้ยง! แต่ไม่ใช่ปรินทร์ที่ล้มกลับเป็นพวกมันซึ่งไม่มีใครรู้ว่ากระสุนมาจากไหน แต่กลับทำให้วรดาหน้าซีด
จัดด้วยความกลัวเป็นครั้งแรกได้

“น้องฟางลืมตาได้แล้ว รอพี่เดี๋ยวถึงเวลาจัดการกับหญิงชั่วแล้ว” ปรินทร์บอกคนในอ้อมกอดแล้วดันร่างบาง
ออก พลางสาวเท้าเข้าหาวรดาซึ่งทำท่าจะวิ่งหนี หน้าตาของเขาในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับฆาตรกรโหดก็ว่าได้

“อย่านะ อย่าทำอะไรฉันเลย แกจะไปไหนก็ไปเถอะ” วรดาวิงวอนกลัวลนลานพลางขยับตัวหนี

“รู้จักขอความปราณีเหมือนกันนี่ ทีแรกทำไมไม่คิดให้ดี ผมให้โอกาสแล้วไม่เอาเอง โอกาสหมดแล้ว
ไม่ต้องกลัวผมแค่สั่งสอนให้จำเท่านั้น ให้เลือกเอา ระหว่างพิการ หรือปางตายเหมือนชู้รัก ผมนับหนึ่งถึงสามจบ
ต้องเลือก ไม่อย่างนั้นผมจะเลือกให้เอง หนึ่ง...สอง...” ร่างสูงใหญ่ของปรินทร์ขยับเข้าไปใกล้เรื่อยๆขณะนับ

“ไม่ ฉันไม่เลือก ช่วยด้วย น้องฟางช่วยพี่ด้วย อย่าให้มันทำร้ายพี่ ถึงอย่างไรพี่ก็เป็นสะใภ้คุณแม่นะ” วรดา
เมื่อรู้ว่าหมดที่พึ่งจึงรีบเข้าไปหาลษิดาวิงวอนขอให้ช่วย ทว่าลษิดายังคงยืนเฉย จนเธอนึกเจ็บใจตัวเองที่ไม่น่าคิด
วางยาคนของในบ้านให้หลับเพื่อปูทางสะดวกให้ตนัยแต่ผลกลับนำภัยมาสู่ตัวเอง ตอนนี้ไม่มีใครช่วย

“พี่สตรอง พาน้องฟางไปจากนี่เถอะ อย่าทำร้ายคนในบ้านนี้เลย อย่างน้อยคุณดาด้าก็เป็นลูกสะใภ้คุณแม่
และเป็นเมียพี่นุ” ในที่สุดลษิดาก็ยอมเป็นฝ่ายขอร้องร่างสูงใหญ่

“ได้ น้องฟางจะได้ตามที่ขอ แต่ผู้หญิงคนนี้จิตใจชั่วร้ายเกินไป พี่ขอสั่งสอนเล็กๆน้อยๆก็แล้วกัน” ปรินทร์
ขยับเข้าใกล้ร่างเย้ายวนของวรดา

“แก แกจะทำอะไรฉัน” วรดาร้องลั่นพลางถอยหนีแต่ไม่พ้นเมื่อถูกมือแข็งแรงกระชากเสื้อขาด และจับตัว
มามัดกับต้นไม้ใหญ่หน้าเรือนปีกไม้ เอาเศษเสื้อที่ขาดยัดปากไม่ให้ร้องและมัดปาก จากนั้นก็หยิบปากกาชนิดพิเศษ
มาเขียนข้อความติดหน้าผาก

‘ฉันมันหญิงชั่ว ร่วมมือกับกิ๊กเก่าทำร้ายคนอื่นเวลาผัวไม่อยู่บ้าน นี่คือผลกรรมของฉัน อย่าได้สงสารฉัน
มันสมควรแล้ว’

วรดาจ้องมองปรินทร์ตาแทบถลนแต่ทำอะไรไม่ได้และเธอไม่รู้ว่าเขาเขียนอะไรไว้บนหน้าผากเธอ
“อยู่สำนึกผิดจนกว่าฟ้าจะสว่าง ให้คนในบ้านตื่นมาช่วยเองนะ หาคำตอบให้ดีนะครับคุณผู้หญิงคนชั่ว”
ร่างสูงเดินไปหาลษิดาซึ่งยืนนิ่งตะลึงกับการกระทำของปรินทร์แต่ไม่ถามไม่พูดสักคำแม้ใจจะมีคำถามกับเรื่อง
ที่เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าเรื่องใครยิงชายฉกรรจ์ทั้งหมดให้ล้มลง ทำไมพี่สตรองของเธอถึงได้ดูร้ายนักกับผู้หญิง
อย่างวรดา และวรดาใช่คนที่ส่งตนัยเข้าไปปล้ำเธอหรือเปล่า แต่ในเวลานี้เธอคงพูดได้แค่

“ลาก่อน”
---------------------------
คงดีไม่น้อยถ้าเรามีใครสักคนคอยดูแลคุ้มครองเหมือนพี่สตรองคอยดูแลน้องฟาง คิกๆๆๆๆๆๆ
ใครอยากหวานก็รอตอนหน้านะคะแต่ชีวิตมันไม่ง่ายอย่างที่คิด



เพลงใบไม้
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ต.ค. 2556, 18:16:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ต.ค. 2556, 18:16:22 น.

จำนวนการเข้าชม : 2010





<< ตอนที่ 2   ตอนที่ 4 >>
goldensun 29 ต.ค. 2556, 19:18:05 น.
บอกได้คำเดียว สะใจจังค่ะ ประทับใจกับฝีมือพี่สตรอง
ตนัยมาปล้ำสาว ยังอุตส่าห์พกปืนมาด้วย แถมลูกน้องมาไวจัง หรือพามาด้วยคะ


konhin 29 ต.ค. 2556, 21:20:03 น.
โหย โหดดี


คนที่รอมานาน 30 ต.ค. 2556, 06:31:11 น.
คุณพี่สตรองสุดยอดมากค่า โหวตให้เป็นพระเอกในใจเลยจ้า


ผักหวาน 14 พ.ย. 2556, 14:07:16 น.
พี่สตรองเข้าใจเขียนประจานจัง อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account