ปมร้าย หัวใจเสน่หา
รัชต์ วิศวกรหนุ่มออกตามหาความจริงเกี่ยวกับการตายของ ดวงดาว น้องสาวที่ตำรวจลงความเห็นว่าเธอฆ่าตัวตาย แต่อยู่ๆเขาก็ได้พบกับรักแรกอีกครั้งเธอเป็นคนช่วยเขาตามหาความจริง แต่ความจริงที่ว่ากลับทำให้เขาไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว!!
Tags: ปมร้ายหัวใจเสน่หา

ตอน: ตอนที่ 9 ตามหาความจริง

รัชต์นั่งมองห้องที่ว่างเปล่านั้นด้วยความรู้สึกเจ็บปวดจนแทบอยากจะร้องไห้ออกมา ก่อนหน้านี้เขาดีใจที่ได้รับเอกสารจากนิติเวชเรื่องการชันสูตรศพของดาวอีกครั้งเขาต้องการที่จะมาบอกกีรติเป็นคนแรกแต่ทว่ามันก็สายไป สายไปแล้ว เขารู้แล้วว่าความรักของเขาไม่มีค่าเพียงพอที่จะรั้งเธอเอาไว้ มันไม่สามารถทำให้เธออยู่กับเขาตลอดไปได้ ตอนนี้เขาอยากรู้แค่ว่ากีรติกลับมาเพื่ออะไร กลับมาเพื่อทำให้เขาเจ็บปวดอีกครั้งอย่างนั้นหรืออย่างไร เขาไม่คู่ควรพอที่จะได้รักเธออย่างนั้นหรือเปล่า ซองสีน้ำตาลบนโต๊ะทำให้เขาเดินเข้าไปดู หน้าซองเขียนชื่อเขาไว้เมื่อเปิดออกมาก็เจอเอกสารมากมายเกี่ยวกับข้อสงสัยการตายของดวงดาว

‘รัชต์ ขอโทษด้วยที่ไปโดยไม่ลาแต่ฉันรู้ว่าถ้าบอกนายตรง ๆ มันอาจจะไม่เป็นไปอย่างที่ฉันตั้งใจไว้ ฉันต้องไปจริง ๆ เอกสารที่อยู่ในซองนี้เอาให้ทางนิติเวชเพื่อเป็นข้อมูลนะฉันเตรียมไว้ให้หมดแล้ว คำว่ารักมันห่างไกลจากความเป็นจริง ถ้าเรายังเป็นเพื่อนกันมันอาจจะดีกว่านั้น ฉันอยากให้นายออกมาจากความเจ็บปวดและการโทษตัวเองเสียทีนะ ออกมาจากความมืดเสียทีเหมือนกับตอนนี้ที่ฉันกำลังทำอยู่เช่นกัน ขอบใจกับสิ่งที่นายยังมีให้ฉันเสมอ กีรติ คนที่นายไม่ควรจำ’ รัชต์กำจดหมายนั้นแน่นแทบจะเป็นการขยำทิ้งมากกว่า

“คนที่ฉันไม่ควรจำอย่างนั้นหรือ ”เขาหัวเราะในลำคอเหมือนกับเยาะเย้ยตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“เธอคือคนที่ฉันจดจำมาตลอด เธอเองก็รู้ว่าฉันทำไม่ได้ ฉันไม่เคยลืมเธอเลยแม้ซักวินาทีเดียว เธอกลับมาทำไมอีกในเมื่อทิ้งไปแล้วเธอกลับมาเพื่ออะไร กลับมาทำร้ายฉันอีกครั้งด้วยความหวังลม ๆ แล้ง ๆ อย่างนั้นหรือไง ”

รัชต์หันหน้าออกไปที่หน้าต่างน้ำใส ๆนั้นไหลออกมาจากดวงตาที่แสดงถึงความเจ็บปวด ครั้งที่สองแล้วที่เขาเสียน้ำตาให้กับผู้หญิงคนนี้ เขาจะไม่ตามหาเธออีกแล้วเหมือนครั้งก่อน เป็นเหมือนคนบ้าที่คอยตามหากีรติอยู่ตลอดเวลาหนึ่งปีเต็ม จนไม่เป็นอันเรียน การหักดิบความรักมันเป็นไปได้ยากเขารู้ แต่การรักผู้หญิงคนนี้ทำให้เขามีแต่ความเจ็บปวด เจ็บปวดที่รักเธอ เจ็บปวดที่ไม่สามารถทำให้เธอรักเขา มันเจ็บปวดที่สุด

นัทนั่งมองผลไม้บนโต๊ะอาหารด้วยความรู้สึกรอคอยแต่ไม่ใช่อาหารที่อยู่ตรงหน้าแต่คนที่บอกว่าจะเล่าเรื่องให้ฟังต่างหากที่เขารอ เอลินตักเนื้อแก้วมังกรเข้าปากคำแรกก็เห็นสายตาเข้ม ๆ ของนัทธีเลยรู้ว่าควรพูดเรื่องที่สัญญาได้แล้ว

“ฉันเจอกีที่เอธิโอเปียตอนที่ไปทำงานปีแรก ๆ กับรุ่นพี่เราไปทำสารคดีกันที่นั่น ส่วนกีเธอไปเป็นอาสาสมัครนักศึกษาของมหาวิทยาลัยไปเก็บข้อมูลวิจัย”

“นักศึกษาอย่างนั้นเหรอ?”

“ใช่ จำได้ว่าเธอบอกว่าเรียน อ่า กฎหมาย แต่สีหน้าไม่ได้รู้สึกภูมิใจเท่าไหร่ มันเศร้า ๆ จริง ๆฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะรู้จักกีนักหรอกเพราะเขาออกจะเงียบขรึมดูลึกลับทำให้ฉันไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้ ตอนแรกก็นึกว่าเขาหยิ่งแต่จริง ๆมันไม่ใช่ เราสนิทกันเพราะมีอะไรที่เหมือน ๆ กัน ความรู้สึกผิดมันทำให้คนเราเปลี่ยนไป”

“คนเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้หรอกนะ มีแต่ปัจจุบันเพราะฉะนั้นการที่เราเห็นปัจจุบันที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ก็ย่อมเจ็บปวด เสียใจแต่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากพูดประโยคนั้นซ้ำ ๆ กัน คนเรามักจะรู้ตัวเมื่อสายไปแล้วเสมอ ”นัทพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด ส่วนเอลินนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาทำให้รู้สึกเจ็บปวด ครั้งหนึ่งเธอก็เคยพูดประโยคหนึ่งซ้ำไปซ้ำมา แต่มันก็ได้แค่พูดในใจเท่านั้นเอง

“ส่วนเรื่องของกี ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าความเป็นมานั้นเป็นอย่างไร”

“แสดงว่ากีก็ไม่ได้ติดคุกในความหมายจริง ๆ ”

“แต่เธอฆ่าคนจริง ๆ…เพราะกีเล่าให้ฟังว่าเธอขับรถชนเด็กกลุ่มที่ทำร้ายน้องชายเธอตาย เด็กหนึ่งในนั้นตาย แต่เพราะอะไรบางอย่างทำให้เธอไม่มีความผิดตามกฎหมาย ฉันว่าถ้าเพื่อนของคุณนัทรักเธอจริง ๆ ก็ไม่ต้องคิดถึงอดีตหรอกคะ มันก็แค่อดีตปัจจุบันต่างหากที่เขาต้องทำให้ดีที่สุด”นัทเลิกคิ้วสูงเขายังไม่ได้บอกซักคำว่า รัชต์รักกี แล้วเอลินรู้ได้อย่างไร

“ผมยังไม่ได้บอกเลยนะครับว่ารัชต์รักกี ”เอลินเลิกคิ้วเหมือนรู้ตัวว่าพลาดไป

“ ฉันมีสัมผัสที่หก อ่านจิตได้นะจะบอกให้ ”นัทหัวเราะกับท่าทางของหญิงสาว

“บ้าน่า เอาเหอะ แล้วถ้าผมให้คุณช่วยไปเจอกีอีกครั้งจะได้ไหม เพราะตอนนี้เขาอยู่กับเพื่อนผมบางทีคุณอาจจะช่วยให้พวกเขาสมหวังก็ได้” เอลินมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยอาการชั่งใจ

“อืม ที่คุณอยากช่วยพวกเขาเพราะอะไรเหรอ กีรติเป็นคนน่ารักคุณไม่หลงรักเธอมั่งเหรอ”เอลินพูดทั้งจิบน้ำไปด้วยท่าทางเรียบเฉยแม้ว่าคำถามนั้นจะทำให้คู่สนทนาแทบจะหยุดการกระทำทุกอย่าง

“ผม ไม่แย่งคนรักของเพื่อนหรอกนะ ”เอลินเลิกคิ้วสูง

“นั่นไม่ใช่คำตอบ ถ้าบังเอิญ วันหนึ่ง คุณมีสิทธิ์มากกว่าเพื่อนคุณ คุณจะยังทำเพื่อเพื่อนคุณอีกหรือเปล่า”

“มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม ที่คงบอกกับคนอื่นไม่ได้หรอกนะ”นัทพูดด้วยสีหน้าจริงจังจนคนฟังรู้สึกตัวเหมือนหินเพราะชาไปหมดทั้งร่าง เอลินหัวเราะกลบเกลื่อน

“พูดแค่นี้ทำเป็นโมโหนะคะคุณนัท โอเค ฉันจะเลิกถาม เพราะตอนนี้ฉันรู้คำตอบอยู่แล้ว ได้ ฉันจะช่วยแต่ไม่รู้ว่าจะทันการณ์หรือเปล่านะ ” นัทพยักหน้ารับ

“ขอบคุณครับ”

“แต่ ฉันมีเรื่องหนึ่งขอพูดก่อนได้ไหม”เอลินนั่งตัวตรง นัททำหน้าสงสัยว่าเอลินจะพูดเรื่องอะไร เอลินนิ่งไปครู่หนึ่งเหลือบตามองคนตรงหน้าเหมือนกับชั่งใจอะไรซักอย่าง

“ฉันคิดว่า ฉันชอบคุณนะ ” นัทหัวเราะเมื่อได้ยินประโยคนั้น

“ครับ ผมก็ชอบคุณเหมือนกัน คุณเป็นเพื่อนที่ดีมากเลย”

“ชอบแบบผู้หญิงกับผู้ชาย ไม่ได้ชอบแบบเพื่อนค่ะ ”คำสารภาพนั้นทำให้นัทแทบสำลักน้ำที่กำลังดื่มอยู่เงยหน้ามองเอลินที่ทำหน้าเฉย ‘ เธอเป็นลูกครึ่ง เลยพูดอะไรตรง ๆ แบบนั้น ’นัทบอกตัวเอง

“เอ่อ คือ ”นัทรู้สึกว่าอยู่ดีๆตัวเองก็กลายเป็นคนติดอ่างเสียอย่างนั้น

“ไม่เป็นไรค่ะ ลินไม่ได้หวังจะให้คุณตอบกลับมาเสียหน่อย แค่อยากบอกน่ะคะ จะเป็นยังไงต่อไปก็เป็นสิทธิ์ของคุณ เพราะลินเป็นแค่คนนอก น้อง ๆ”เธอหันไปเรียกบริกร

“เก็บเงินจ๊ะ ”

“วันนี้ฉันเลี้ยงนะคะ เธอวางเงินไปที่จานใบเสร็จก่อนจะลุกขึ้นทำให้นัทเหวอลุกขึ้นด้วยมองคนตรงหน้าอาการค้าง

“พอดีนึกได้ว่ามีธุระต่อขอโทษนะคะที่ไม่ได้ไปส่ง ”เอลินเดินออกไปแล้วแต่นัทก็ยังยืนอยู่ที่เดิมเขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร อึ้งตั้งแต่ตอนที่ได้ยินเธอบอกความรู้สึกแล้วได้แต่มองเธอเดินจากไปอย่างนั้น

เอลินขึ้นรถได้ก็ถอนหายใจยาว วันหยุดของเธอที่หมดไปกับการอยู่บนเวทีบรรยายประสบการณ์ชีวิตกับเด็กนักศึกษาที่มองเธอเป็นสนามประลองความรัก และจบลงด้วยความเจ็บปวดที่ได้รู้ว่าเป็นคนอื่นกับผู้ชายเซ่อ ๆ คนหนึ่ง เธอก้มลงเปิดลิ้นชักเก็บของหน้ารถ รูปถ่ายที่มีนัทเป็นนายแบบยังอยุ่ในนั้นเธอไม่ได้ให้เขาอย่างที่ตั้งใจ ครั้งแรกที่เจอผู้ชายคนนี้เธอนั่งมองท้องฟ้าอยู่ในสวนสาธารณะ ส่วนเขาก็เดินไปมาพูดคุยกับคนแถวนั้นด้วยรอยยิ้มและเพราะรอยยิ้มนั้นทำให้เธออยากจะยิ้มด้วย แต่ก็คงไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด ...เพราะเธอเป็นอย่างนี้มันเป็นอย่างนี้มานานทำให้ใคร ๆ ก็เข้าใจผิด เพราะอย่างนี้ทำให้เธอผิดหวัง อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ทำผิดซ้ำสองอย่างที่ผ่านมาปล่อยให้มันเลยตามเลยจนรู้ว่าผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่สุดแม้ว่าอยากจะกลับไปแก้ไขอดีตแค่ไหนก็ทำไม่ได้พรวิเศษที่มีอยู่ก็ไม่ได้ช่วยให้เธอสมหวัง เอลินขับรถไปเรื่อย ๆโดยไม่คิดจะจอด

กีรติเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่นั้นด้วยแววตามุ่งมั่นบางอย่างเปรียบเทียบกับบ้านไม้เก่า ๆ สองชั้นที่เคยเป็นที่ซุกหัวนอนไม่ได้เลย ความยากลำบากของเด็กสองคนซึ่งเติบโตขึ้นมา มาถึงตอนนี้ ใครจะรู้ว่าเด็กคนนี้จะกลายเป็นลูกนายตำรวจใหญ่ กีรติอยากหัวเราะเยาะตัวเองจริง ๆ

“สวัสดีพี่สาว ”เสียงเด็กหนุ่มร่างสูงผิวขาวผมสีดำยืนส่งยิ้มให้ กีรติก้มลงมองเท้าเด็กหนุ่มคนนั้นเพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง

“ทำไมต้องมองเท้าก่อน ผมชื่อสองเป็นน้องชายคนสุดท้องของบ้านนี้ฮะ ยินดีที่มีพี่สาว พี่กี”สองยื่นมือมาให้กีแสดงความเป็นมิตรเธอเอื้อมมือจับมือนั้นเบา ๆ ความรู้สึกอุ่น ๆนั้นทำให้รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนจริง ๆ

“จ๊ะ”

“อ้าว กีมาแล้วคะคุณ”นิตยาแม่เลี้ยงของกีเอ่ยเรียกผู้เป็นสามี เอกพลเดินออกมาจากบ้านเขามองบุตรสาวที่เกิดกับหญิงสาวชาวบ้านระหว่างที่ออกไปทำคดียาเสพติดเมื่อสิบปีที่แล้วแม้จะเสียใจอยู่ลึก ๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“เป็นไงบ้างจ๊ะเหนื่อยไหมแล้วกระเป๋าเราละ”นิตยาถามพร้อมทั้งลูบแขนกีรติเบา ๆ

“ไม่มีค่ะ กีมีแค่นี้แหละ มีแต่ตัว”คำพูดนั้นทำให้กระทบไปถึงผู้เป็นพ่อ

“งั้นก็เข้าบ้านได้แล้ว”เสียงนั้นออกจะห้วน สองทำหน้าเหรอหราหันมาพยักเพยิดกับกี

“พ่อก็เป็นอย่างนี้แหละพี่ ยิ่งกับพี่หนึ่งนะ ยิ่งเข้มงวดกว่านี้อีก”กีขมวดคิ้วเธอพอจะรู้อยู่เช่นกันว่ามีน้องชายต่างมารดาสองคนคือ หนึ่งและสอง หนึ่งนั้นเป็นนักศึกษาที่ออกจะเป็นคนเกเรหน่อยทำให้พ่อต้องเก็บกวาดอยู่บ่อย ๆ ส่วนสองเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลของมหาวิทยาลัยสร้างชื่อเสียงให้ผู้เป็นพ่อเสมอ ต่างกันจนทำให้เธอแปลกใจ ทั้งกีรติและหนึ่งเดียวต่างก็ต้องให้พ่อเก็บกวาดความสะอาดในชีวิตให้

“พรุ่งนี้เข้าไปที่ทำงานนะพ่อจะพาไปหาพี่เลี้ยง ”

“ค่ะ”กีรติรับคำนิ่งเรียบ

“แล้วนี่ไอ้เจ้าหนึ่งไปไหนวันนี้วันอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ”เอกพลหันไปถามภรรยา

“ไปฟังบรรยายค่ะเห็นว่าที่มหาวิทยาลัยมีกิจกรรมน่ะคะ”

“ไปกิจกรรมหรือไปเที่ยวกันแน่ วันหยุดไม่เคยอยู่บ้านเลยเหลวไหลจริง ๆ “เสียง
บ่นนั้นทำให้กีรติมองหน้าพ่อหัวเราะในลำคอ เธอจงใจทำให้ท่านเห็น

“อย่ามองพ่อแบบนั้นนะกีรติ ”

“มองแบบไหนเหรอคะ กีไม่เห็นจะรู้สึกเลยหรือพ่อรู้สึกค่ะ ”สีหน้าของเอกพลไม่พอใจมากแต่ก็เก็บไว้เพราะเขาเองก็ยังรู้สึกผิดต่อกีรติเช่นกัน

“เอ่อ ทานข้าวกันดีกว่านะคะ หนูกีทานข้าวกลางวันมาหรือยังจ๊ะ”นิตยาหันมาถามลูกเลี้ยงด้วยน้ำเสียงเอ็นดู กียิ้มรับ

“ค่ะ กีขอพักผ่อนดีกว่าคะเพราะสองสามวันนี้กียังไม่ได้นอนเลย”กีรติบอก แม่เลี้ยงสาวจึงเดินนำพาเธอไปที่ห้อง กีรติมองห้องกว้างๆนั้นเปรียบเทียบกับบ้านที่เคยอยู่ ต่างกันสิ้นดี

“กี หนู่อย่าอคติกับพ่ออีกเลยนะ พ่อเขารักหนูนะแม้ว่าจะไม่ได้แสดงออกก็ตาม”

“เหรอคะ แม้ว่าหนูจะเป็นหนึ่งในแผนการของเขาน่ะเหรอคะ แม้ว่าเขาจะปล่อยให้ลูกชายอีกคนตายงั้นเหรอคะ กีให้อภัยเขาแต่ให้รู้สึกดีๆด้วยคงไม่ได้ กีทำใจไม่ได้จริง ๆคะ แต่กีเองก็คงไม่ต่างจากเขานักหรอก ”ท้ายประโยคนั้นดูเจ็บปวดและเศร้าไป นิตยามองลูกเลี้ยงด้วยความสงสารครั้งแรกที่เจอกันเมื่อเจ็ดปีก่อนกีรติในชุดนักเรียนเสื้อเปื้อนเลือดร้องไห้ปานจะขาดใจมือไม้สั่นไปหมด ปากพูดแค่ชื่อของน้องชายแต่เลือดที่อยู่บนตัวเธอกลับไม่ใช่เลือดของน้องชาย เป็นเลือดของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่เธออุ้มเขาขึ้นรถมาส่งโรงพยาบาล กีรติขับรถชนเด็กคนนั้น เขาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นพ่อของเธอก็จัดการเก็บกวาดเรื่องให้กีรติพ้นผิด กีรติก็เฝ้าโทษตัวเองมาตลอด

“กีเคยคิดว่า ให้ติดคุกยังดีเสียกว่าอยู่อย่างนี้ ”คำพูดนั้นแม้จะมีรอยยิ้มอยู่บนหน้าแต่นิตยาก็รู้ว่ามันไม่ได้น่ายิ้มเลยซักนิด

เอลินไม่รู้ตัวเลยว่ามานั่งที่ร้านเหล้าได้อย่างไร ก็เพราะเธอเป็นอย่างนี้ สภาพไม่มีความเหมือนผู้หญิงเลยซักนิดตั้งแต่เกิดมาเธอก็ไม่เคยคิดจะแต่งตัวสวย ๆเหมือนคนอื่นเขา ชอบการผจญภัย ชอบทำงานที่เดินตามความฝัน ชอบนอนมองท้องฟ้า ชอบดื่มกับเพื่อนๆ ที่ผ่านมาเพราะความเคยชินทำให้เรียนรู้บทเรียนบางอย่าง รู้เมื่อมันสายไปแล้ว ในวันแต่งงานของเพื่อนสนิท เธอรู้ว่าเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน เพราะเธอรักเขา วันนั้นเธอไม่แม้จะพูดอะไรออกมา ได้แต่ยิ้มให้กับความสุขของเพื่อน ยิ้มรับ แม้ว่าน้ำตาจะไหล แถมยังต้องเล่นเปียโนเพลงรักให้คู่บ่าวสาวในงานอีก คืนนั้นเองเธอก็ได้ยินประโยคหนึ่งจากทาคุยะ

“ฉันเคยชอบเธอนะเอลิ แต่ก็รู้ว่าเธอไม่ได้มองฉันอย่างนั้น เราเป็นเพื่อนกัน มันก็ทำให้ฉันต้องหันไปมองผู้หญิงคนอื่น ฉันเคยคิดอิจฉาผู้หญิงที่เข้าใกล้เธอจนแอบด่าตัวเองว่าเป็นบ้าไปแล้ว เพราะฉันเป็นผู้ชายทำไมถึงได้คิดบ้า ๆอิจฉาผู้หญิงที่เข้าใกล้เพื่อนตัวเอง แต่ฉันก็ดีใจนะที่ชอบเธอได้เป็นเพื่อนกับเธอ เพราะเธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉัน คืนนี้ฉันตัดสินใจที่จะบอกเธอเพราะมันเป็นคืนที่ฉันมีความสุขที่สุด ก่อนที่ฉันจะมีครอบครัว ฉันอยากให้เธอรู้ แม้ว่าฉันจะทรยศเธอก็ตาม”เอลินนึกถึงคำพูดนั้น เพราะคำว่าสายไป มันทำให้เธอหยุดอยู่แค่นั้นตัดสินใจที่จะขอย้ายตัวเองมาที่ประเทศไทย แต่หลังจากที่ทาคุยะเดินทางไปฮันนีมูนก็เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิต เขาเสียชีวิต ส่วนนานาโกะภรรยาของเขาปลอดภัยพร้อมกับลูกในท้อง ตอนนั้นเองเธอรู้แล้วว่าทำไมทาคูยะถึงได้บอกว่าตัวเขาทรยศเธอ อยู่ในงานศพเธอยืนดูรูปถ่ายใบหน้ายิ้มแย้มของเขา ได้แต่บอกรักในใจ พูดซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น เอลินมองแก้วในมือแล้วก็หัวเราะ

“นี่ไง เพื่อนที่เหลือของฉัน .”เธอพูดกับแก้วเครื่องดื่มในมือนั้นเบา ๆ

“ไม่คิดเลยจะเจอพี่สาวที่นี่”เสียงทุ้มหนึ่งดังขึ้นอยู่ด้านหลังของเอลิน แม้ไม่หันไปมองเธอก็พอจะรู้ว่าเป็นใคร

“แล้วนายละ มาทำอะไรแถวนี้”

“ผมก็มาตามปกติของผมนั่นแหละแล้วพี่ละ ดื่มไปเท่าไหร่แล้ว พอดีกว่านะ”หนึ่งเดียวแย่งแก้วในมือของหญิงสาวมาแต่เธอดึงกลับคืนไป

“เรื่องของฉันน่า นายจะไปทำอะไรของนายก็ไปเถอะปล่อยฉันไว้นี่แหละ ”หนึ่งเดียวมองสภาพของผู้หญิงที่เท่ห์มากในสายตาของเขาเมื่อช่วงเช้าเปรียบเทียบกับตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยทีเดียว

“จริง ๆคุณก็คือผู้หญิงคนหนึ่ง ”เอลินหันมามองหนึ่งเดียว

“รู้ไหม นายเป็นคนแรกที่พูดอย่างนี้ บอกว่าฉันเป็นผู้หญิง ดีใจเป็นบ้าเลย”หนึ่งเดียวหัวเราะแม้จะรู้ว่านั้นเป็นคำพูดประชดประชันมากกว่าจะรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้กำลังอกหัก ทำไมเขามักจะเจอผู้หญิงที่รักชายอื่นก่อนหน้าเขาเสมอ

“ผู้หญิงน่ะอ่อนไหวง่าย จริง ๆ คุณเป็นอย่างนั้นแม้ว่าภายนอกจะไม่เหมือนก็เถอะ ”

“นายเรียนจิตวิทยามาหรือไง”

“เปล่า ผมแค่ รู้จักผู้หญิงดีเท่านั้นเอง เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งรักมากจนทิ้งอนาคตของตัวเองเพื่อคนที่เธอรัก ”

“นายหมายถึงใครเหรอ”

“เพื่อนผมเอง แค่ยกตัวอย่างน่ะ เห็นแล้ว ผมสงสารมากกว่า ”

“เฮ้ๆๆ ไม่ต้องมาสงสารฉันเลยนะ ฉันไม่มีอะไรน่าสงสารหรอก”เอลินดักคอแม้จะเริ่มลืมตาไม่ขึ้นแล้วก็ตาม

“ผมไม่ได้พูดอย่างนั้นซักคำนะพี่สาว ”พูดจบเมื่อหันไปมองคู่สนทนาก็รู้ว่าเธอหลับไปแล้ว เขามองเห็นโทรศัพท์มือถือที่อยู่บนโต๊ะจึงคว้ามากดโทร.หาเบอร์ล่าสุดปลายสายนั้นกดรับแต่ไม่ทันที่หนึ่งเดียวจะพูดอีกฝ่ายกลับพูดขึ้นมาก่อน

“เอลิน ผมขอโทษ คือ ขอเวลาผมหน่อยได้ไหม มัน ”หนึ่งเดียวเลิกคิ้วเขาพอเข้าใจแล้วว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้เอลินมานอนหลับอยู่ที่นี่

“ค่อยขอโทษตอนที่เธอฟื้นดีกว่านะฮะ เพราะตอนนี้เธอเมาอยู่ที่ร้าน ผมจะพาเธอกลับแต่ไม่รู้จะพากลับที่ไหนเลยลองโทร.หาใครซักคนดู”

“รอที่นั่นเดี๋ยวผมไป อยู่ที่ไหนนะ”เสียงนั้นออกจะห้วนและดุจนหนึ่งเดียวขนลุก เด็กหนุ่มบอกชื่อร้านและที่ตั้งให้ปลายสายรู้แล้วจึงวางโทรศัพท์หันไปมองผู้หญิงข้าง ๆ

“เสียดายจังน๊า ”เขาบ่นเบาๆ ไม่นานนัทก็มาถึงร้านเขากวาดสายตาไปรอบ ๆร้านก็เห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งอยู่ข้าง ๆเอลินที่ฟุบนอนอยู่บนโต๊ะแขนของหนุ่มคนนั้นโอบบ่าเอลินไว้มันขัดตาพิกล เขาตรงรี่ไปหาคนทั้งคู่

“โทษทีเอามือออกได้ไหม ”หนึ่งเดียวขยับแขนออกจากคนข้าง ๆ นัทขยับเข้าไปช้อนตัวเอลินขึ้นมาอุ้มไว้

“ขอบใจนะ เรียกพนักงานไปเก็บเงินข้างนอกด้วย”

“ไม่เป็นไรผมจ่ายให้แล้ว ”

“งั้นคุณก็ไปเอากับผม”

“บอกแล้วว่าไม่เป็นไร ถือว่าเลี้ยงคุณลิน ”นัทขี้เกียจจะเถียงกับหนึ่งเดียวแถมคนที่อยู่ในอ้อมแขนก็ใช่ว่าจะเบาเลยอุ้มเอลินออกไปจากร้านเมื่อวางเธอไว้ในรถเขาก็ถอนหายใจยาว มองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความรู้สึกสับสน

“ถ้าเธอตื่นบอกว่าผม หนึ่งเดี่ยวจะโทร.หานะครับ ”เด็กหนุ่มบอกพร้อมส่งยิ้มให้แต่นัทกลับรู้สึกว่านั่นเป็นรอยยิ้มของการเยาะเย้ยมากกว่าความจริงใจ

“อืม แล้วจะบอกให้พอดีเธออาจจะนอนขี้เซาหน่อยต้องขอโทษนะไอ้หนู พรุ่งนี้เช้าจะบอกให้ละกัน”นัทยิ้มพูดสีหน้าเป็นต่อ หนึ่งเดียวมองหน้านัทก่อนจะอมยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“คุณรู้ไหม คนโง่เนี่ยมักจะมองไม่เห็นอะไรที่อยู่ใกล้ตัว แล้วคนที่ฉลาดคือคนที่ยอมรับในสิ่งที่เป็นอยู่ ในเมื่อผมยอมรับที่บอกว่าชอบพี่ลินก็เป็นไปตามความหมายนั้น ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง ไม่ว่าคุณกับเธอจะเป็นอะไรกัน ในเมื่อผมชอบก็จะเป็นอย่างนั้น ผมรู้ว่ามาช้าและผิดเวลาแต่ผมก็ชอบเธอ ผมจะทำทุกอย่างให้เธอหันกลับมามองผมให้ได้ ผมเคยเป็นสุภาพบุรุษมาพอแล้วแต่เพราะสิ่งนี้ทำให้ผมเสียคนรักไปดังนั้นต่อไปนี้ผมจะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว ขอโทษที่อาจจะทำให้คุณรู้สึกไม่พอใจ แต่ผมก็เป็นของผมอย่างนี้ ไว้เจอกันใหม่นะพี่ชาย ”หนึ่งเดียวยิ้มให้แต่นัทกลับยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น เขานึกโมโหกับคำพูดเหล่านั้นของหนึ่งเดียวแต่มันก็ทำให้เขาสำนึกได้ว่าเขาทำอะไรผิดพลาดไป เขาเผลอแสดงด้านไม่ดีของตัวเองออกไป อยู่ ๆ ปากมันก็พูดไปอย่างนั้น อยู่ ๆมันก็พูดออกไป สิ่งเหล่านั้นมันถูกสั่งการจากอะไร นัทธีเริ่มไม่เข้าใจตัวเองแล้วเช่นกัน






ณิชนิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 มิ.ย. 2554, 10:47:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 มิ.ย. 2554, 10:47:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 1974





<< “ตอนที่ 8 สิ่งที่เหลืออยู่”    ตอนที่ 10 ฝืนตัวเอง >>
lovemuay 12 มิ.ย. 2554, 18:41:32 น.
ก้เพราะเกิดชอบเอลินแล้วยังไงหล่ะ พี่นัท ^^


ปูสีน้ำเงิน 12 มิ.ย. 2554, 22:28:34 น.
รักเอลินเข้าแล้วอ่ะดิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account