ปมร้าย หัวใจเสน่หา
รัชต์ วิศวกรหนุ่มออกตามหาความจริงเกี่ยวกับการตายของ ดวงดาว น้องสาวที่ตำรวจลงความเห็นว่าเธอฆ่าตัวตาย แต่อยู่ๆเขาก็ได้พบกับรักแรกอีกครั้งเธอเป็นคนช่วยเขาตามหาความจริง แต่ความจริงที่ว่ากลับทำให้เขาไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว!!
Tags: ปมร้ายหัวใจเสน่หา

ตอน: ตอนที่ 10 ฝืนตัวเอง


นัทโทรศัพท์ไปหาเพื่อนสนิทตั้งแต่เช้าแม้ว่าจะอยู่ในห้องของเอลิน อีกทั้งเจ้าของห้องก็ยังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงปล่อยให้เขาต้องนอนหนาวอยู่บนโซฟานอกห้องแต่เมื่อนึกถึงคำพูดของหนึ่งเดียวเมื่อคืนก็กลับทำให้รู้สึกโมโหเหมือนกัน เมื่อปลายสายรับโทรศัพท์เขาก็รีบพูดขึ้นทันที
“รัชต์ เรื่องกีน่ะ ฉันเจอคนที่จะช่วยให้นายรู้แล้วว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด”ดูเหมือนว่าเสียงทางนั้นจะเงียบไปไม่ตอบกลับจนนัทเริ่มรู้สึกแปลกใจ
“มันสายไปแล้วละนัท ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นอีก”คำตอบนั้นทำให้นัทนิ่งไปบ้าง เขาไม่คิดว่าเพื่อนสนิทจะเลิกยุ่งกับกีรติได้เพราะตลอดเวลารัชต์ไม่เคยลืมผู้หญิงที่ชื่อ กีรติเลยซักนาทีเดียว
“นายหมายความว่ายังไง เกิดอะไรขึ้น”
“ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่ทิ้งฉันไปครั้งที่สองหรอกนะ คนที่ฉันบอกรักไปถึงสองครั้งแต่ก็ไม่สามารถรั้งเธอไว้ได้เลย ”
“แต่ว่า ”
“พอเถอะ ฉันไม่อยากฟังอะไรอีกแล้ว ฉันเหนื่อย ขอโทษนะนัทแค่นี้ก่อนได้ไหม”รัชต์วางสายไปแล้วแต่นัทก็ยังคงถือโทรศัพท์มือถืออยู่อย่างนั้น เขางงกับเรื่องที่เกิดขึ้น อยู่ดี ๆ กีรติก็หายตัวไปอีกครั้ง นั่นเป็นเหตุผลที่เพียงพอที่จะทำให้รัชต์โกรธกีรติแต่เขาก็ยังไม่เชื่ออยู่ดีที่กีรติจะทิ้งรัชต์ไป เขาดูออกว่าเธอรักเพื่อนสนิทเขาเช่นเดียวกันแต่เพราะอะไรทำให้เธอถึงทิ้งไป นัทธีวางโทรศัพท์มือถือลงข้างกายไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเกิดเรื่องขึ้นมากมายขนาดนี้ คำพูดของหนึ่งเดียวยังคงก้องอยู่ในหัวของเขา ”ผมเคยเป็นสุภาพบุรุษมาพอแล้วแต่เพราะสิ่งนี้ทำให้ผมเสียคนรักไปดังนั้นต่อไปนี้ผมจะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว”แววตาที่จริงจังของเด็กหนุ่มทำให้เขาหน้าตึงได้ เหมือนหยามกันซึ่ง ๆ หน้าเลยด้วยซ้ำ แต่ทำไม เขาต้องรู้สึกเหมือนถูกหยามด้วยเล่า เพราะเอลินก็เป็นเพียงแค่เพื่อนเท่านั้นไม่ใช่หรือ?

หลายสัปดาห์ผ่านไปแม้ว่าจะไม่มีข่าวของกีรติเลยแต่รัชต์ก็ยังคงดำเนินการคดีของดาวต่อไป ความเชื่ออย่างหนึ่งที่เขายังคงคิดอยู่เสมอก็คือ กีรติจะกลับมาเมื่อเขาต้องการเธอ รัชต์เดินเข้าไปในตึกสูงใหญ่ตรงหน้าหลังจากที่ตำรวจโทร.มาแจ้งเรื่องความคืบหน้าคดีของดาวนายตำรวจหนุ่มคนนั้นยืนส่งยิ้มให้เขาตั้งแต่เดินเข้าไปในตึก
“สวัสดีครับคุณรัชต์ใช่ไหมฮะ” คำทักนั้นทำให้รัชต์แปลกใจ
“ครับ ”
“ผมชื่อสุดเขต ผมเป็นคนดูแลคดีของคุณดวงดาวครับ ผมอยากเจอคุณมานานแล้ว เพราะผมไม่เคยเจอญาติผู้ตายคนไหนที่อึดเท่าคุณเลยจริง ๆ นะ”
“หมายความว่ายังไงครับ”
“ก็ แค่หมอชันสูตรแล้วก็ตำรวจสรุปว่าฆ่าตัวตายเรื่องก็จบแล้วนะครับ แต่คุณไม่เป็นอย่างนั้นแถมยังมีการส่งข้อมูลคดีเข้ามาให้ตำรวจอีกด้วย”คำพูดนั้นทำให้รัชต์หยุดเดิน
“ผมไม่ได้ส่ง ”คำตอบทำให้นายตำรวจหนุ่มหันไปมองคนพูด
“แล้วใคร?”คำถามนั้นรัชต์หาคำตอบได้ไม่ยากแต่เขากลับรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเมื่อรู้ความจริงข้อนี้
“ผมรู้ว่าใคร ช่างมันเถอะครับแล้วเรื่องเป็นยังไงบ้างครับหมวด ”
“สารวัตรให้ผมตามคุณมาเพื่อชี้แจงครับเกี่ยวกับเรื่องนี้เราต้องเริ่มต้นสืบใหม่หมดเพราะทางนิติเวชส่งเรื่องมาแล้ว ที่เชิญมาให้ปากคำด้วยครับ”
“สารวัตรเป็นคนสอบหรือเปล่าครับ”
“เปล่าครับ ตอนนี้เธออยู่ที่เชียงใหม่ มารับตำแหน่งใหม่ฟิตน่าดูเลย ”รัชต์เลิกคิ้วสูง
“เธอ? ”
“ครับ สารวัตรกีรติ สุวัจนาภรณ์ เป็นผู้หญิง สวย น่ารัก เอ้อ เปล่าครับผมหมายความว่าเธอ เก่ง ”รัชต์รู้สึกเหมือนตัวกลายเป็นหินอีกครั้ง
“ใช่ เก่งมาก เก่งจนสามารถหลอกใครได้ตามใจตัวเองน่ะสิ ”รัชต์รำพึง เขารู้สึกเจ็บร้าวในหัวใจไปหมดที่โดนกีรติหลอก เมื่อเข้าไปในห้องรัชต์นั่งลงตรงข้ามกับนายตำรวจหนุ่มเขาก็ถามเหมือนอย่างที่เคยถามเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้
“ก่อนหน้าที่ดาวจะตาย เธอโทรศัพท์มายืมเงินสองหมื่นแต่ผมเห็นว่าสำหรับเด็กมหาวิทยาลัยมันไม่จำเป็นผมก็เลยไม่ให้แต่หลังจากนั้นแค่สามวันผมก็ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจเรื่องเธอฆ่าตัวตาย”
“คุณรู้ไหมว่าน้องสาวมีเรื่องกลุ้มใจอะไรอยู่”
“ผมไม่รู้เรื่องของเธอเลย เราแยกกันอยู่ตั้งแต่สิบปีที่แล้วเพราะพ่อกับแม่เราหย่ากัน ผมย้ายมาอยู่กับแม่ที่กรุงเทพฯ ส่วนดาวอยู่กับพ่อที่เชียงใหม่จนจบมัธยมเธอก็ย้ายมาเรียนที่กรุงเทพฯครับ เราเพิ่งติดต่อกันไม่นาน ”
“งั้นเหรอครับ แปลกจังนะ”
“ใช่ มันอาจะเป็นที่ผมเองที่ไม่ใส่ใจเรื่องของน้องสาวตัวเองเลย”
“อย่าโทษตัวเองเลยนะครับ มันเป็นเรื่องที่เรามักจะมองข้ามอยู่เสมอ เอาละครับแล้วคุณพอจะรู้ไหมว่าใครที่สนิทกับน้องสาวของคุณบ้าง” รัชต์ทำหน้าคิด นิ่งนานก่อนจะเอ่ยขึ้นมา
“ผมได้ยินว่าเธอสนิทกับคนที่ชมรมบาสเกตบอลมหาวิทยาลัย แล้วก็มีเพื่อนสนิทที่ชื่ออาร์มซึ่งตอนนี้เขาเสียชีวิตไปแล้ว”
“เสียใจด้วยนะครับ งั้นแล้วเรื่องเที่ยว คุณรู้บ้างไหมว่าน้องสาวคุณชอบเที่ยวกลางคืน”
“ครับ รู้เหมือนกัน”
“แล้วเรื่องแฟนเธอละ”
“อันนี้ผมไม่รู้เลย เธอไม่พูดเรื่องนี้กับผมเลย ถ้าเราคุยกันก็จะเป็นเรื่องอื่น ๆ เสียมากกว่า” สุดเขตพยักหน้ารับก่อนจะปิดแฟ้มตรงหน้าลงเพราะอย่างไรรัชต์ก็ยังตอบเรื่องเดิม ๆ
“แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าเธอไม่ได้ฆ่าตัวตาย ”
“เพราะเธอคือน้องสาวของผม ผมจะไม่เชื่อจนกว่าจะพิสูจน์ให้ได้ว่าเธอฆ่าตัวตายเอง ”
“อืม ครับ”
“แล้วเหตุจูงใจละ คุณพอจะนึกออกบ้างไหม”
“ไม่ครับ ”
“เฮ่อ คุณพูดอย่างนี้ก็พูดได้สิครับ อย่างน้อยก็น่าจะรู้เรื่องที่น่าจะเป็นปมซักหน่อย”
“ผมรู้ว่าทำให้คุณตำรวจลำบากใจ แต่ผมก็อยากบอกเหมือนกันแต่ว่ามันมืดแปดด้าน” สุดเขตมองรัชต์แล้วก็ถอนหายใจ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“ความรู้สึก มันไม่ได้ช่วยให้ใครพ้นผิดได้หรอกนะครับ แค่นั้นมันไม่พอหรอก ”คำพูดนั้นกระทบใจรัชต์พอสมควร
“ผมกลับได้หรือยังครับ”
“เชิญครับ”สุดเขตผายมือเชิญ รัชต์ออกไปจากห้องได้ เมื่อประตูปิดไม่เห็นร่างของรัชต์แล้วสุดเขตก็หันไปมองที่ประตูด้านข้าง ประตูนั้นถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงของกีรติในชุดลำลอง
“ผลที่เชียงใหม่เป็นไงบ้างครับสารวัตร”
“อย่าประชดได้ไหม ”
“อ้าว ไม่ได้ประชดครับแต่ถามจริงๆ”
“ก็ได้เรื่องอยู่เหมือนกัน”กีรติพูดพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้แม้ว่าเธอจะรู้สึกได้ว่าสุดเขตไม่ได้เป็นตำรวจไม่ดีแต่เขาก็ไม่ได้เปิดใจอย่างที่เธอต้องการซักเท่าไหร่
“เขาเป็นคนดีมากเลยนะครับ แต่การเป็นคนดีเนี่ยแหละคือปัญหา ”กีรติไม่พูดอะไรนั่งฟังสุดเขตพูดอยู่เงียบๆ
“ บางอย่างมันก็ซ่อนอยู่ในมุมมืดโดยที่เรามองไม่เห็น แล้วสารวัตรละครับ คิดว่าจะสืบต่อไปหรือเปล่า คดีนี้ คุณก็คงรู้ว่ามันจะเจอตออะไร ”กีรติหันขวับไปมองหน้าสุดเขตอีกครั้ง
“นายรู้เรื่องอะไรบ้าง ”
“ผมก็รู้แค่ ที่ท่านสารวัตรรู้นั่นแหละ เพราะผมเองก็ เคยทำคดีนี้มาก่อน แต่ก็ได้แค่ ยืนอยู่เฉย ๆ คุณเองถ้าไม่อยากหลุดจากตำแหน่งละก็ แม้จะเส้นใหญ่แค่ไหน มันก็ปิ๋วได้เหมือนกันนะครับ”สุดเขตลุกขึ้นพร้อมกับถือแฟ้มงานออกไปจากห้องปล่อยให้กีรตินั่งคิดอยู่อย่างนั้น
“เส้นใหญ่อย่างนั้นเหรอ ฉันมันก็คงเป็นแค่หมากเกมส์หนึ่งมากกว่าที่จะอยู่ในถ้วยก๋วยเตี๋ยว ”กีรติรู้ดีว่าตอนนี้นอกจากที่เธอต้องต่อสู้กับคดีแล้วยังต้องต่อสู้กับความรู้สึกของคนรอบข้างอีกมากมาย
“จากสภาพการณ์ที่เห็น ดวงดาวไม่ได้ต่อสู้กับคนร้ายแสดงว่าคนร้ายต้องเป็นคนรู้จักกันดี ดาวไม่ได้สวมเสื้อ ร่องรอยที่แขนมีรอยขูดกับผนังตึก ที่ข้อมือมีรอยเขียวช้ำคล้ายถูกมัดด้วยเชือกและไม่มีการคลายกลับสู่ปกติแสดงว่าเธอเสียชีวิตก่อนที่จะถูกจับแขวนคอตาย”กีรติพูดพร้อมกับยื่นเอกสารให้สุดเขตดู ชายหนุ่มมองสารวัตรใหม่ด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะเชื่อนัก
“แล้วทำไมต้องแขวนคอตายนอกหน้าต่างด้วยเล่า คนร้ายน่าจะรู้นะว่าเป็นจุดสังเกตได้ดีเลย เขาอาจถูกจับได้”
“แต่ก็จับไม่ได้ เพราะไม่มีรอยนิ้วมือเลย เขารู้ดีว่าตำรวจจะต้องตรวจสอบอะไรบ้าง ส่วนปัญหาที่ว่า เพราะห้องพักนั่นไม่มีคานให้ผูกเชือกไงละ ที่ ๆ เดียวที่เห็นในเวลาเร่งรีบก็ต้องเป็นหน้าต่างห้องที่มีลูกกรง แต่เขาลืมไปว่าแรงผู้หญิงที่ไหนจะงัดลูกกรงออกได้ ”กีรติบอก สุดเขตขมวดคิ้ว
“สารวัตรเห็นที่เกิดเหตุแล้วอย่างนั้นหรือครับ”กีรติอยากจะบอกว่าเธออยู่ที่นั่นหลายเดือนเลยทีเดียว
“อืม ด้วยความรีบร้อนเขาน่าจะลืมไป ”
“แต่การที่เขารู้เรื่องตำรวจดี คนร้าย อาจจะเป็นตำรวจก็ได้ ”สุดเขตพูดออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเขาเดาเรื่องนี้มานานเพราะอะไรทำไมถึงสืบไม่ได้และทุกเรื่องที่เขาตามดูเหมือนมีทางตันไปเสียหมด กีรติแววตาลุกโชนด้วยความสนใจเมื่อได้ยินประโยคนั้น ใช่ คนร้ายอาจจะเป็นตำรวจไม่อย่างนั้นคงไม่เก็บหลักฐานอย่างดีเช่นนั้นแน่ ๆ

รัชต์นั่งดื่มอยู่ในร้านอาหารตั้งแต่กลับมาจากการให้ปากคำเขาไม่คิดว่าตัวเองจะกลายเป็นคนโง่อย่างนั้นโดนกีรติหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย
“พอได้แล้วนะคะ”เสียงหวานนั้นดังขึ้นพร้อมกับมือเรียวที่เอื้อมไปคว้าแก้วเครื่องดื่มออกจากมือของรัชต์ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมอง ปานใจส่งยิ้มให้พร้อมกับนั่งลงตรงกันข้าม
“ทำไมรัชต์ไม่ยอมรับโทรศัพท์เราเลย แถมยังหายหน้าไปเลยด้วยซ้ำ รู้ไหมปานเป็นห่วงรัชต์มากเลยนะ” สีหน้าของปานใจนั้นบ่งบอกว่าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ รัชต์ถอนหายใจยาวเขาไม่อยากยุ่งกับใครอีกแล้ว
“ขอโทษนะปาน ฉันไม่คิดว่าจะพูด แต่ฉันก็ไม่อยากให้เธอคิดอะไรกับฉันมากกว่าเพื่อนเลย ฉันไม่อยากให้เธอหวังอะไรจากฉัน ฉันไม่สามารถรักใครได้อีก ฉันขอโทษ ”สายตาปานใจเศร้าไปแวบหนึ่งก่อนที่เธอจะพยายามยิ้มออกมาอย่างเต็มที่
“ไม่เป็นไรจ๊ะ ปานไม่เคยคิดที่จะหวังให้รัชต์หันมามองอยู่แล้วเพราะรู้ว่ารัชต์รักใคร แต่ตอนนี้ให้ปานอยู่เป็นเพื่อนรัชต์นะ รัชต์คงต้องการใครซักคนอยู่เป็นเพื่อนแน่ ๆ “ปานใจเอื้อมมือไปกุมมือชายหนุ่มไว้ รัชต์รู้สึกซึ้งในน้ำใจของปานใจแต่ตอนนี้เขาอยากได้ไออุ่นจากมือของใครคนหนึ่งมากกว่า
“กีน่ะ เขามีคนรักเยอะแยะมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะ รัชต์ตัดใจดีกว่าเพราะยิ่งรักมันก็ยิ่งเจ็บ ตอนนี้ยิ่งไปเป็นนักร้องด้วยแล้วก็ยิ่งมีคนมาติดพันเยอะ ปานรู้มาว่ามีนายตำรวจคนหนึ่งมาติดพันด้วยละ ที่ปานพูดเนี่ยก็เพราะเป็นห่วงรัชต์ ปานไม่อยากให้รัชต์เจ็บปวดยิ่งรัชต์เจ็บปวดมากแค่ไหน ปานก็เจ็บมากกว่า”คำพูดนั้นทำให้รัชต์สะท้อนหัวใจ จะมีใครรักเขาเหมือนปานใจอีกไหม แต่ถึงร้อยถึงพันคนที่รักเขามากมายแค่ไหนสุดท้ายเขาก็ไม่สามารถสุขใจได้อยู่ดี
“ขอโทษนะ ”รัชต์เอ่ยคำนั้นอีกครั้ง แต่หญิงสาวส่ายหน้าจนผมยาวปลิวสลวยเต็มกลางหลัง
“ฮื้อ บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร”เธอพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไรจริง ๆ

กีรติเดินเข้ามาในสถานีตำรวจที่ซีประจำอยู่ เธอตั้งใจที่จะมาหาเขาสิ่งหนึ่งที่ทำให้ต้องมาหาเขาก็เพราะนายตำรวจที่รับทำคดีนี้มาตั้งแต่แรกก็คือ ซี
“สวัสดีคะพี่ซี”เธอเอ่ยทักพร้อมกับส่งยิ้มให้ ซียิ้มกว้างเขาดีใจมากเมื่อเห็นว่าเป็นกีรติ ไม่คิดว่าเธอจะมาหาเขาได้
“อ้าว กี พี่ตามหากีแทบแย่หายไปไหนมาไม่เห็นไปร้องเพลงเลย”กีรติยิ้มแต่สายตาพยายามจับจ้องความผิดปกติบนใบหน้าของคู่สนทนา
“นึกว่าพี่รู้แล้วเสียอีกคะ ว่าที่ผ่านมากีหายไปไหน”ซีหน้าเปลี่ยนเมื่อได้ยินประโยคนั้น
“พี่จะรู้ได้ยังไงละ”เขาตอบพร้อมกับยิ้มเจื่อน ๆ
“เปล่าหรอกคะ กีแค่แอบคิดว่าพี่น่าจะรู้เพราะที่ผ่านมาไม่ว่ากีอยู่ที่ไหนพี่ซีก็รู้ไปหมด” ซีหัวเราะ
“ช่วงนี้พี่งานยุ่งน่ะ มีหลายคดีที่ต้องสะสาง”
“รวมถึงคดีของดวงดาวด้วยหรือเปล่าค่ะ”ชื่อของดวงดาวทำให้ซีหยุดชะงักการกระทำที่ทำอยู่หันมามองกีรติแววตาขึงเครียด
“เราไปคุยกันที่อื่นดีไหม ”
“ได้ค่ะ ” ซีเดินนำออกมาเมื่อได้ยินคำตอบรับของกีรติ เขาพาเธอไปที่รถขับออกมายังร้านอาหารแห่งหนึ่งไม่ไกลจากสถานีตำรวจมากนัก ความสงบและบรรยากาศของร้านทำให้กีรติเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาบ้าง แต่ระหว่างเดินเข้าไปในร้านเธอก็สวนกับรัชต์และปานใจ ปานใจส่งยิ้มให้พร้อมกับเหลือบตาไปมองคนที่อยู่ด้านหลัง
“อ้าว กี มาทานข้าวเหรอจ๊ะ”ปานใจส่งเสียงทักกีรติก่อน กีรติถอนหายใจรู้ดีว่าปานใจตั้งใจมากแค่ไหนที่จะแสดงละครฉากนี้
“ใช่ ”กีรติตอบสั้นและห้วน รัชต์มองผ่านหญิงสาวไปยังนายตำรวจหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหมือนกับคำพูดหนึ่งที่ปานใจพูดแต่มันเสียดแทงเข้าไปในหัวใจของเขา
“สบายดีไหม ไม่เจอกันนานเลยนะจ๊ะ”ปานใจยังถามอีกเหมือนกับต้องการจะรั้งให้กีรติเกิดความรู้สึกอึดอัดใจมากยิ่งขึ้นเพราะรัชต์เองก็หันหน้าออกไปอีกทางไม่สบตากับกีรติเลยแม้แต่น้อย
“อืม แล้วเธอละ ”
“ดีจ๊ะ นี่ก็มาเป็นเพื่อนรัชต์กินข้าวด้วยกันแล้วกีละ มากับแฟนเหรอจ๊ะ” ปานใจเน้นคำว่าแฟนจนทำให้รัชต์หันกลับมามองคนทั้งคู่อีกครั้ง เขาต้องการที่จะฟังคำตอบจากปากกีรติมากว่าสิ่งอื่นใด จะเพราะเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้กีรติกลายมาเป็นตำรวจแต่แค่เธอพูดว่าผู้ชายข้าง ๆ เธอไม่ใช่คนสำคัญสำหรับเธอแค่นั้นก็เท่ากับยกความเจ็บปวดและอึดอัดออกจากหัวใจเขาแล้ว
“คงไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องรู้มั้งปาน ฉันขอตัวนะ ”กีรติไม่แม้แต่จะมองหน้ารัชต์ ชายหนุ่มพยายามเก็บความเจ็บปวดที่มันเสียดแทงจนเจ็บหนักอยู่ในตอนนี้ เธอทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนเดินจากไปพร้อมกับนายตำรวจหนุ่ม เดินจากไปโดยที่มองไม่เห็นเขาเลย
กีรติเดินมาถึงโต๊ะด้านในของร้านโดยมีซีเดินตามมานั่งตรงกันข้ามเขาเหลือบไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ปานใจอีกครั้ง ระหว่างนั้นกีรติก็ก้มลงกดปุ่มเล็กๆบนเครื่องบันทึกเสียงในกระเป๋าเบา ๆ
“พี่ซีคะ ”เสียงเรียกนั้นทำให้นายตำรวจหนุ่มหันกลับมาหากีรติอีกครั้ง
“พี่คิดว่า ผู้ชายคนนั้น คุ้นๆนะ”
“แน่ใจเหรอคะว่าแค่คุ้น ”
“นี่กีพูดแปลก ๆ มาหลายครั้งแล้วนะ มีอะไรหรือเปล่า”
“พี่ก็น่าจะรู้ว่ากีหมายความว่ายังไง พี่เป็นคนรับคดีดาวมาตั้งแต่แรก เพราะมันอยู่ในท้องที่ของพี่ที่รับผิดชอบ ทำไมถึงจะจำพี่ชายของดาวไม่ได้เหรอคะ”ซีนิ่งชั่งใจที่จะตอบหญิงสาว
“โอเค พี่จำได้ แล้วยังไง คดีมันจบแล้ว พี่ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องจดจำเขา”
“เพราะอะไรคะ หรือเพราะพี่รู้จักกับดาวมาก่อนหรือเปล่า”สายตาของกีรติเข้มและพยายามคาดคั้นคนตรงหน้าเต็มที่แต่ดูเหมือนซีจะไม่พยายามที่จะตอบอะไรเกินจำเป็น
“นี่เป็นการสอบปากคำนอกสถานที่หรือเปล่า สารวัตร ”คำเรียกสรรพนามใหม่นั้นไม่ได้ทำให้กีรติแปลกใจเธอรู้ว่าซีคงรู้ตั้งแต่ต้นแล้วไม่เช่นนั้นคงไม่พาเธอมาที่ร้านอาหารนี้อย่างแน่นอน
“กีคงไม่กล้าทำอย่างนั้นหรอกมั้งคะพี่ซี ”
“พี่อยากบอกกีแค่ว่า อย่าพยายามกับคดีนี้อีกเลยเพราะคนที่จะเจ็บที่สุดไม่ได้มีแค่พี่ชายของดาวหรอกนะ แต่อาจจะรวมไปถึงตัวกีเองด้วย ”
“พี่ซีหมายความว่ายังไง ใครเป็นคนฆ่าดาว” ซีมองหน้าหญิงสาวนิ่ง

รัชต์เดินมาถึงรถของตัวเองด้วยความรู้สึกมึนงงปานใจเดินตามมาติด ๆ แต่เมื่อเห็นรัชต์ซึ่งอยู่ๆ ก็หยุดเดินเสียอย่างนั้นทำให้เธอแปลกใจ
“เป็นอะไรเหรอรัชต์”เขาหันไปมองปานใจสีหน้าบ่งบอกถึงความสับสน
“โทษทีนะปาน เรามีธุระ เธอกลับแท็กซี่ได้นะ เดี๋ยวฉันเรียกให้”ว่าแล้วเขาก็โบกมือเรียกแท็กซี่ที่กำลังแล่นผ่านมาแล้วเปิดประตูรถให้เพื่อนสาวอย่างดี ปานใจมองรัชต์ด้วยความโมโห เพราะกีรติ เพราะผู้หญิงคนนั้นทำให้รัชต์ทิ้งเธอ รัชต์วิ่งกลับเข้าไปในร้านอาหาร กวาดสายตามองหากีรติ เธอนั่งอยู่ในสุดของร้านเขาตรงเข้าไปหาคนทั้งคู่เมื่อถึงตัวกีรติรัชต์ก็คว้ามือเธอขึ้นมาแทบจะเรียกได้ว่าเป็นการกระชาก กีรติหันไปมองตามแรงที่ถูกดึง
“นี่นายทำอะไรน่ะ!!”ซีคว้าแขนรัชต์อีกข้างหนึ่งสีหน้าเข้ม
“โทษที ผมมีเรื่องที่ต้องเครียกับผู้หญิงคนนี้”
“ผมว่า คุณปล่อยเธอดีกว่านะไม่อย่างนั้นคุณได้นอนเล่นในห้องขังแน่ ๆ”
“คุณอย่ายุ่งดีกว่า มันเป็นเรื่องของผมกับกีแค่สองคน ”รัชต์พูดเสียงเข้ม กีรติถอนหายใจยาวบิดแขนออกจากการเกาะกุมของรัชต์
“พอทีเถอะรัชต์ เลิกทำตัวแบบนี้เสียที การที่ฉันทิ้งนายไม่ได้ทำให้นายรู้อะไรบ้างเลยหรือไง ฉัน ไม่ได้ รัก.นาย แค่นี้นายคงจะเข้าใจอะไรขึ้นนะ ที่ผ่านมาฉันไม่อยากให้นายรู้สึกไม่ดีก็เลยไม่พูด ตอนนี้เข้าใจแล้วก็ปล่อยมือฉันซะ กลับไปในที่ ๆ นายควรอยู่ อย่ามายุ่งกับฉันอีกเลย กลับไปทำในสิ่งที่นายควรจะทำ”ปลายประโยคนั้นเบาลงมือของรัชต์แทบจะเรียกได้ว่าหมดแรงปล่อยมันลงแนบลำตัวเหมือนกับทั้งอย่างขาวโพลนไปหมด แค่คำว่าไม่รักเท่านั้นที่ก้องอยู่ในหู ดังอยู่อย่างนั้น กีรติหันไปคว้าแขนซีเดินเลี่ยงออกมา ซีมองคนทั้งคู่แล้วก็หัวเราะในลำคอเบาๆเมื่อเดินไปถึงรถซีเปิดประตูแล้วหันไปมองรัชต์ที่ยังยืนอยู่ในร้านแล้วกลับมามองกีรติ
“ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้นะกี พี่ไม่ได้ตาบอด”
“เรื่องอะไรเหรอคะ”กีรติถามตีหน้าตาย
“ไม่ต้องฝืนตัวเองขนาดนี้ก็ได้ แล้วพี่ก็ไม่มีข้อมูลอะไรจะให้กีแล้ว ”ซีขึ้นนั่งประจำที่นั่งคนขับเมื่อกีก้าวขึ้นมานั่งข้าง ๆ เขาจึงพูด
“พี่เคยคิดว่า การตามตื้อกีเป็นเรื่องง่าย ๆแต่จริง ๆแล้วมันไม่ใช่เพราะกีมีคนที่อยู่ในใจนานแล้ว ถ้าทำเพื่อเขาแล้วมาหลอกใช้พี่ก็อย่าคิดว่าจะได้ข้อมูลอะไรไป นอกเสียจากกีจะยอมแต่งงานกับพี่จริงๆ”กีรตินั่งนิ่งกับคำต่อรองจากปากของซี
“พี่เป็นอะไรกับดาว ตอบคำถามกีได้ไหมแค่ประโยคเดียวพี่เป็นอะไรกับดาว ”กีรติยกรูปถ่ายในกระเป๋าชูให้ซีดู รูปถ่ายที่เธอได้จากสมุดบันทึกของดาว หน้าเขาเจื่อนลงเมื่อเห็นรูปคู่ระหว่างเขาและดาวก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ
“แค่รูปใบนี้ อาจจะทำให้พี่เด้งได้ ไม่ต้องถึงขนาดแต่งงานกับพี่ละมั้งค่ะ”ซีถอนหายใจยาวก่อนจะสตาร์ทรถขับออกไปเขาพยายามหาคำพูดบางอย่างขึ้นมาพูดให้มันนิ่มนวลที่สุด
“เอาละ พรุ่งนี้พี่จะไปมอบตัว แต่พี่อยากถามกีว่า กีเคยสงสัยไหม ว่าทำไมพี่ถึงได้เจอกีได้ สงสัยบ้างไหมว่า รูปใบนั้นทำไมถึงเหลืออยู่ใบเดียว ถ้ามีแค่พี่ แล้วใครเป็นคนถ่ายรูปใบนั้นเพราะในรูปมันคือห้องของดาว ”ซียิ้มแต่กีรติกลับขมวดคิ้วมันเป็นเรื่องที่เธอสงสัยเช่นกัน
“กีเป็นคนเก่งนะ เสียดาย มันเหมือนดาบสองคม ถ้าไม่มีคดียาเสพย์ติดเมื่อสิบปีก่อนก็คงไม่มีกี พี่เองก็เหมือนกัน ถ้าไม่มีคดีนั้นก็ไม่มีพี่ พี่มีหน้าที่ดูแลลูก ๆ ของท่านทุกคน ลูกท่านทุกคนต้องอยู่ในความรับผิดชอบของพี่ ดังนั้นการถ่ายรูปร่วมกับเพื่อนๆของลูกท่านคงไม่ผิดใช่ไหม”สายตาคู่นั้นทำให้กีรตินิ่งพยายามนึกว่าสิ่งที่ซีพูดนั่นคืออะไรกันแน่ เขารู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ เขาเป็นใครกันแน่ ซีมีหน้าที่ดูแลลูก ”ท่าน” พ่อของเธออย่างนั้นหรือ?

รัชต์ไม่รู้ว่าตัวเองขับรถออกมาจากร้านอาหารตั้งแต่เมื่อไหร่เพราะในหัวเขามีแต่ภาพที่กีรติบอกว่าไม่รักเท่านั้นเอง เธอพูดต่อหน้าผู้ชายอีกคน มันเจ็บแปลบที่หน้าอกจนแทบจะทนไม่ไหว รัชต์มองถนนตรงหน้าว่างเปล่า เขาไม่เหลือใครอีกแล้ว ไม่เหลืออะไรเลย ครอบครัวที่ไม่มีใครเหลืออยู่ ที่ผ่านมาสิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกมีคุณค่าและเดินต่อไปได้ก็คือ ความรักของเขาที่มีให้กีรติไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีเขาก็ไม่สามารถลบมันออกไปได้สิ่งเดียวที่ทำให้เขาลืมเธอได้ก็คือการไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป ตอนนี้เขาเชื่อแล้วว่า ดาวอาจจะฆ่าตัวตายจริง ๆ การที่ไม่เหลือใครมันเจ็บปวดแต่การที่ถูกคนรักทิ้งมันเจ็บปวดและทรมานยิ่งกว่า รัชต์หลับตาลงช้า ๆ ปล่อยให้น้ำตาไหลลงปล่อยมือจากพวงมาลัย ปล่อยให้ทุกอย่างดับวูบลง ถ้าเผื่อว่ามันจะช่วยให้เขาลืมเธอ ลืมประโยคที่บอกว่า ไม่ได้รัก ลืมทุกอย่างให้หมด ลืมไปพร้อมกับชีวิตของเขาเอง!! .



ณิชนิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 มิ.ย. 2554, 17:26:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 มิ.ย. 2554, 17:26:23 น.

จำนวนการเข้าชม : 1912





<< ตอนที่ 9 ตามหาความจริง    ตอนที่ 11 แผลที่หัวใจ >>
lovemuay 16 มิ.ย. 2554, 19:49:47 น.
เฮ้ย รัชต์อย่าเพิ่มยอมแพ้ดิ
กำลงสนุกเลยค่ะ มาต่อเร็วๆนะ ^^


ปูสีน้ำเงิน 16 มิ.ย. 2554, 20:07:27 น.
โหดร้ายเกินไปแล้วนะยัยกี


saralun 17 มิ.ย. 2554, 08:34:10 น.
อ่า รัชต์ใจเย็น ๆ อย่าพึ่งใจร้อนสิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account