รักดังฝัน
เขา นิมมาน อดีตชาติเป็นถึงพระยานิมมาน ผู้ที่มีใจปฏิพัทธ์ต่อลูกสาวของศัตรู จนตัวตาย เขาก็พร้อมยกวิญญา แก่ยาใจที่รักสมิตาเพียงผู้เดียว แต่ผ่านมาพันปี นิมมานก็พบว่าความรักของเขาหมดลง ไอ้รักนิรันดร์ไม่มีจริงหรอก “ชาตินี้เจ้าจะแต่งงานกับใครก็ช่าง แต่ก่อนเจ้าจะพบกับไอ้มนุษย์เนื้อคู่ของเจ้า ข้าจะทำให้เจ้ารักข้าให้ได้ก่อน”

เธอ สมิตานัน ผู้หญิงสวย ดำรงตำแหน่งพิธีกรรายการดัง หลอนดีนัก...เดี๋ยวจัดให้ แต่จริงแล้ว คนที่ทำเก่งหน้าจอ แท้จริงกลับกลัวผีขึ้นสมอง ทั้งที่ไม่เคยเจอ แต่พอปุบปับกระหน่ำได้เจอจริง สมิตานันก็อยากให้ทุกอย่างเป็นแค่ฝัน...เอ หรือที่จริงเธอไม่ได้ฝัน


Tags: หลอนโรแมนติก แฟนตาซี นิมมาน สมิตา

ตอน: บทที่ 5 : ภูตขี้อิจฉา

อาหารอย่างง่าย แกงจืดแตงกวาหมูยัดไส้ ไข่เจียวหมูสับ และผักผักรวมมิตรถูกนำมาจัดเรียงบนโต๊ะอาหารขนาดเล็กไม่เกินสี่คน สมิตานันส่งข้าวพูนจานให้แขกจำเป็นของบ้านด้วยความเต็มใจ

“ขอโทษนะคะที่ทำหมอธีโดนเจ้าถึกทั้งข่วนทั้งกัด”

“ไม่เป็นไรครับ เล็กน้อย ดูลักษณะแล้วอายุแมวก็ไม่ได้มากอะไร คงยังไม่ถึงกับบ้าหรอกครับ มันก็ปกติดีทุกอย่าง อาจจะแค่ไม่ชอบขี้หน้าผม”

“นั่นแหละค่ะแมวบ้า คนเขาช่วยมีสิทธิ์อะไรไปทำร้าย ไม่สำนึกบุญคุณคนเลยจริงๆ สักวันก็คงกระโดดงับฉันด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ” ย่นคอทำท่าแชยง ทั้งที่ตรงตักมีเจ้าเหมียวตัวน้อยมองขึ้นมา และแค่สมิตานันสบตากับถึก เสียงๆ หนึ่งก็ดังก้องในหัวของเธอ

“ข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก...อย่ากลัวไปเลย”

พรึ่บ...ร่างระหงสวมชุดลำลองลุกขึ้นยืนทันควันด้วยความตกใจ แมวบนตักร่วงไปนอนกองกับพื้น ร้องครางหงิงเจ็บปวด เธอร้องว้ายเบาๆ ตกใจรีบก้มลงไปดูอาการอย่างเป็นห่วง พบว่าร้องครางหงิงไปได้หน่อย เจ้าแมวก็อ้าปากกว้างหาวยาวยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกน่ารัก ไม่นานก็วางคางเกยกับขาหน้าหลับตาลงตรงใต้โต๊ะทานข้าว

“ถึก...ขอโทษนะ”

เหมียวว... ครางหงิงตอบรับมาเบาๆ ให้สมิตานันยิ่งยิ้มแก้มปริ ยืดร่างขึ้นยืนเต็มความสูง นั่งลงบนเก้าอี้ของเธอ ประกายตาหวานชื่นชมของแขกทำให้คนถูกจ้องเผลออายม้วน

“ฉันทำอะไรผิดหรือเปล่าคุณธี”

“ไม่หรอกครับ ผมก็แค่คิดว่าคุณตี้ดูอ่อนโยนขึ้น”

เสียงหวานหัวเราะตอบกลับไป ไม่ได้นั่งให้ใครมาส่งประกายตาแปลกแบบนี้นับตั้งแต่เริ่มทำรายการหลอนดีนัก ไม่ใช่ว่าเธอขี้ริ้วอะไร เพราะตั้งแต่มัธยมจนถึงมหาวิทยาลัยเธอเป็นดาวเด่นของสถานศึกษาเสมอ แต่ปีสุดท้ายตอนเรียนมหาวิทยาลัย บูรณ์ รุ่นพี่คณะที่จบไปนานหลายปีก็มาขอให้เธอร่วมรายการหลอนดีนักด้วยกัน เพราะเห็นผลงานจากการดำเนินงานตามงานในมหาวิทยาลัย แล้วเข้าตา

ไม่ต้องรอนาน หรือกะสวยเล่นตัว สมิตานันก็ตกลงง่ายดาย เธอเองก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นในเรื่องแนวนี้เหมือนกัน ถึงเพื่อนๆ พี่ๆ ในกองถ่ายจะพบเรื่องหลอนๆ หลังจากนั้น มีอะไรตามกลับบ้าน พานให้สาวๆ แห่งหลอนดีนักมีแต่คนดูรายการ แต่ปราศจากคนมาจีบ

“ตี้อ่อนโยน ไม่เคยมีใครชมมาก่อนเลยนะคะคุณธี มีแต่บอก น่ากลัว ทำรายการผีๆ สงสัยจะโหด จิตแข็ง เอาจริงๆ เลยนะคะ กลัวขึ้นสมองมากๆ” เสตักอาหารไม่ให้บรรยากาศดูหวานแหววจนเธอหายใจไม่ออก มีผีมาทำให้ตื่นเต้น ยังคุ้นเคยกว่า

“ผมดูรายการหลอนดีนักเพราะคุณตี้ครับ”

ช้อนที่กำลังตักข้าวเข้าปากหยุดค้าง มือนิ่ง ดวงตาเบิกกว้างตกใจ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะถูกจู่โจมเอาง่ายๆ แบบนี้ นานเท่าไหร่ที่เธอไม่พบเจอเรื่องแบบนี้กันนะ... ผู้ชายที่มีดวงตาจริงใจ ไม่ทำตัวเป็นผู้ชายใจเร็ว หรือรูปการเจ้าชู้หวังร้าย อย่างที่ปาริตาโดนรบกวนชีวิตอยู่บ่อยๆ ด้วยหนุ่มแบดบอย

“ตี้นึกว่าดูเพราะเนื้อหารายการเสียอีก...ไม่ชอบเจ๊มลบ้างเหรอคะ”

สไตลิสต์คนเก่งที่รู้จักกันดีในวงการถูกพูดถึง ธนิทธิหัวเราะสุภาพ “จริงๆ ทุกคนทำให้รายการผีเป็นรายการที่ครบรสเรื่องความกลัวนะครับ แต่พอเห็นหน้าคุณตี้ ผมลืมกลัวทุกที”

“อะฮ้า...สงสัยหน้าฉันมียันต์แปะห้ามกลัวแน่ๆ ค่ะ”

“คุณตี้ยังไม่มีใครใช่ไหมครับ”

ข้าวที่พร่องไปเกือบครึ่งจานหยุดชะงักเหมือนโดนกดปุ่มปิดอีกครั้ง สมิตานันหัวเราะไม่ออก ปากอยากออกปฏิเสธ แต่ในเมื่อตอนนี้เธอเองยังไม่มีใครจริงๆ จะโกหกทำไม ในเมื่อธนิทธิเองก็ไม่ได้ผิดอะไร

“จีบฉันเหรอคะ หรือแค่ถามเอาขำ...ฉันจะได้หัวเราะ”

“ถามจริงครับ” ดวงตาไม่เร่งรัด รอยยิ้มแต้มใบหน้าปลอบให้เธอวางใจ ในที่สุดสมิตานันก็พยักหน้ายอมแพ้

“ยังค่ะ...ว่างเลย เห็นไหม” ยกมือขึ้นปัดไปที่ว่างข้างตัว “แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายนะคะ”

“ผมชอบที่คุณตี้เป็นแบบนี้ครับ ผมจะใช้ความพยายาม”

“กินข้าวดีกว่าเนอะ” บรรยากาศเจือความหวานจางๆ และรอยยิ้ม สมิตานันมองกล่องของขวัญที่เธอเห็นเมื่ออาทิตย์ก่อนมาอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง เพราะว่าตอนนั้นเธอเป็นลมไปถึงไม่ได้หยิบกลับมา เขายังมีน้ำใจเอามาให้อีก...จะว่าไป เขาก็น่ารักดี


พื้นที่ว่างข้างกายหญิงสาวที่จริงมีชายร่างใหญ่ยืนเท้าสะเอว ทำหน้ายักษ์กลืนไปกับอากาศธาตุด้วยอยู่กันคนละมิติ และนิมมานไม่อยากให้สมิตานันกินข้าวไม่ลง หรือเป็นลมหน้าทิ่มไปในจานข้าว เขารึอุตส่าห์ตามเธอมาตลอด ยังไม่รู้ตัว พอเจอหมอนี่ยิ้มให้หน่อย อ่อนหวาน น่ารัก เป็นหญิงสาวบอบบางขึ้นมาเชียว

หมั่นไส้...แมวนั่นก็ด้วย เดินไม่ดูตาม้าตาเรือให้รถชน ถ้าเขาไม่สิงร่างแล้วช่วยทำให้ร่างกายจากเจ็บหนักทุเลาลงบ้าง แต่มันเป็นสาเหตุทำให้คนสองคนที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลได้พบกันในที่สุด

จะยืมร่างสิงบ่อยๆ เลยเจ้าถึก

“รถคันนั้นมา แมวตัวนั้นก็มาปรากฏพอดี ไม่แปลกเหรอนิมมาน”

คราม ยมทูตหนุ่มไขว่ห้างบนขอบหน้าต่าง มองบทสนทนาลื่นไหล บรรยากาศของคนสองคนสุดแสนเป็นใจ ดวงตาก็เผลอมองนิมมานด้วยความเป็นห่วง

ภูต แต่อารมณ์ก็ยังติดมนุษย์มา ไม่เคยปล่อยวาง โดยเฉพาะกับสมิตานัน ปากบอกไม่รัก หมดความพิศวาสมานาน แต่ท่าทางเกลียดขี้หน้าธนิทธิก็ยังมี ผู้ชายที่มาพรากสมิตานันไปจากอ้อมอกของนิมมาน ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน

“ฬาฬีสินะ”

“นางไม่อยากให้เจ้าทิ้งความเป็นภูต ในฐานะเคยเกือบเป็นภรรยาของเจ้า ไม่แปลกที่นางจะหวงเจ้า”

“ข้าไม่เคยรักนาง” นิมมานตอบชัดเจน เรื่องฬาฬีสำหรับเขามันเล็กเมื่อเทียบกับการช่วงชิงความรักของสมิตานันมาครอบครองเพื่อปลดปล่อยตัวเอง หลายๆ ชาติที่ผ่านมา เขาทำได้แค่ขัดขวางไม่ให้ธนิทธิได้สมหวังกับสมิตานัน แต่ชาตินี้เขาจะขอลงแข่งด้วย

ความรักที่เป็นบ่วงรัดเขาจนหลุดพ้นจากความเป็นภูตไม่ได้ ต้องได้รับสิ่งแลกเปลี่ยนอันเท่าเทียมมาปลดปล่อย...ความรักของสมิตานันคนเดียวเท่านั้น

สมิตานันกำลังแกะของขวัญด้วยความระมัดระวังจนนิมมานอดรนทนไม่ได้ สร้างภาพลวงตาให้หญิงสาวได้เห็นจี้หัวใจเพชรเม็ดสวยเป็นอย่างอื่น


“ว้าย...” โยนกล่องลงไปกลางโต๊ะ สีหน้าตื่นตะลึง ภาพหนอนยั้วเยี้ย น่าขนลุกขนพองจนสมิตานันหลับตา พยายามตั้งสติ ตรวจพินิจว่านี่คือความจริง

หัวใจเพชรห้อยหลุดออกมาจากกล่อง เกือบลงไปในถ้วยแกงจืด เป็นความจริงที่ตอกย้ำสมิตานันให้รู้ว่าเธอหลอนไปเอง หญิงสาวยิ้มเจื่อน รีบหยิบสร้อยมาวางลงตรงหน้าตัวเอง ก้มหน้าพูดเสียงอ่อย “ขอโทษนะคะ พอดีช่วงนี้ฉันชอบเห็นภาพหลอน เจอเรื่องแปลกๆ บ่อยๆ”

“คุณตี้ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ...ผมเป็นห่วง”

เพล้ง...จานหล่นจากชั้นวางลงแตกบนพื้นทั้งที่บ้านปิดหน้าต่าง ลมไม่ได้เข้ามาพัดแน่นอน สมิตานันยกมือปิดปาก บรรยากาศยะเยือกน่าขนลุก ราวกับมีใครมาหายใจรดต้นคอเธอนั้นบอกชัดว่าไม่ปกติ...และการที่เห็นสร้อยเพชรเป็นหนอน เธอคงไม่ได้หลอนไปเอง

“คุณธีกลับไปก่อนได้ไหมคะ...ไว้เจอกันใหม่”

“แต่ว่า...”

“บ้านนี้เลี้ยงกุมารค่ะ นี่ก็คงป่วนตามประสาเด็กดื้อ เกเร ฉันขอปราบเด็กเกเรก่อนนะคะ” ดุนหลังแขกให้รีบออกไปก่อนสิ่งเหนือธรรมชาติจะสำแดงอภินิหารอะไรออกมาอีก เหตุผลแถๆ ของเธอถูกหยิบยกมาแบบทันด่วน

“ผมเป็นห่วงคุณตี้”

“ฉันเป็นห่วงคุณธีมากกว่าค่ะ ฉันกลัวคุณจะโดนทำร้าย ไม่ต้องห่วงนะคะ กุมารบ้านนี้กลัวฉัน” สมิตานันนึกถึงเสียงปริศนาที่มาพูดผ่านหูให้เธอได้ยินบ่อยๆ ก็พอนึกออกว่าใคร หรืออะไร ทำให้เกิดเรื่องพวกนี้

ผู้ชายในความฝัน...นายผีตัวพ่อแน่ๆ

“นี่เบอร์ผม มีอะไรโทรมาได้ทุกเมื่อนะครับ” ส่งนามบัตรมาให้ สายตาที่บอกชัดว่าเขาเป็นห่วงจริงๆ ไม่มีวี่แววแอบแฝงทำให้หญิงสาวซึ้งใจ กล่าวขอบคุณจากใจจริง ยืนส่งจนธนิทธิเดินลับตาไป

เดินกลับเข้ามา ความตั้งใจคือหาเรื่องเฉ่งอะไรก็ตามที่มาป่วนบ้านอันน่ารักของเธอ ยกมือบีบนวดขมับสองข้างบีบย้ำๆ ให้สภาพจิตใจเตรียมพร้อมรบกับสิ่งที่ตาคนทั่วไปมองไม่เห็นเสียที มัวแต่ตกใจ เป็นลม กลัวมาตลอดไปเพื่ออะไร ถ้าคนพวกนี้ตั้งใจทำร้ายเธอจริง เธอคงตายดับไปนานแล้ว

ในเมื่อเขาตั้งใจกวนประสาทเธอ มาเปิดหน้าคุยกันให้รู้แล้วรู้รอดไป

“ว้าย...” นามบัตรในมือโดนกระตุกไปอย่างแรง โชคดีที่สมิตานันคว้าไว้ได้ทันก่อนหลุดจากมือ แรงดึงจากอีกฝั่งเกินรอยนิ้วว่ากำอยู่แน่น

“นี่ อย่ามาลอบกัดกันอย่างนี้สิ ทำไม รักฉันหรือไง ถึงได้ขัดขวางฉันกับคุณธี หรือว่ามีอะไรสงสัยมากกว่านั้น แต่ตอนนี้ฉันสงสัยเต็มแก่ว่านิมมาน หรือหิมพานต์นะ จะขึ้นมาจากนรก หรือตกจากสวรรค์ก็ช่าง ต้องการอะไรคะ ถ้าไม่พอใจมาวางมวยกันก็ได้นะ...เห็นอย่างนี้ ตอนนี้ฉันสู้ผีนะเออ”

สมิตานันกระชากกระดาษเพื่อให้หลุดจากมือที่มองไม่เห็น ในที่สุด มันก็มา แต่เพียงครึ่งเดียว เศษกระดาษแผ่นเล็กอีกด้านถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนถูกโปรยขึ้นไปในอากาศให้ร่วงใส่หัวเธอ

อารมณ์กลัวคราวนี้ปลิดปลิวไปตามกระดาษ ความโกรธแทนที่ ใบหน้ามีระดับความร้อนไล่ลามเลียถึงหู

“นิสัยเสีย อะไรที่ต้องการอย่าหวังว่าฉันจะทำให้ ฉันกลัวผี แต่ผีแบบนี้ฉันเกลียด”

ปึ้ก...เดินหน้าไปอีกเพียงก้าวเดียว หญิงสาวก็กระแทกโดนบางสิ่งที่มองด้วยตาไม่เห็นจนหน้าเบ้ จะเดินเบี่ยง ต้นแขนของเธอทั้งสองข้างก็ถูกสัมผัสเย็นเฉียบของเขากอบกุมไว้แน่น โดยไม่รู้ตัว เนื่องจากตามองไม่เห็น แรงรัดรอบเอวบางของเธอ และลมหายใจเย็นยะเยือกที่กำลังเป่ารดอยู่ข้างหูยามนี้...ช่างน่ากลัวอย่างประหลาด แต่ใจของเธอกลับเต้นรัว

“ถ้าข้าบอกไปเจ้าจะให้ข้าได้หรือ ในเมื่อสิ่งที่ข้าต้องการตอนนี้เจ้ากำลังมอบไปให้คนอื่น สมิตา เจ้าจะรักข้าได้ไหม ปลดปล่อยข้าด้วยความรักของเจ้า ถ้าเจ้ามอบให้ข้าได้ ข้าจะไม่อยู่ให้เจ้ารบกวนอีกเลย ข้าสาบาน”

ปลายนิ้วทั้งสิบนิ้วเย็นเฉียบไม่แพ้ลมหายใจของอีกฝ่ายอันน่ายะเยือก ใจของสมิตานันเต้นช้าลงด้วยความรู้สึกไม่เข้าใจ ทำไมความตื่นเต้นที่เธอควรจะดีใจกับการถูกคนมาขอความรัก ถ้าเพียงแต่เขาจะเป็นคน เธอคงจะยินดี

“มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ในวันที่ฉันรักท่าน ท่านก็จะหายไป ปล่อยให้ฉันทนทุกข์กับการรักข้างเดียวไปจนตายน่ะสิ” เป็นสรรพนามเดียวที่สมิตาคิดออก อิทธิฤทธิ์เอย หน้าตา หรือเครื่องแต่งกาย แตกต่างจากผีตนอื่นที่เธอเคยเห็น

“สมิตา”

“คำพูดเห็นแก่ตัวแบบนั้นแสดงว่าท่านไม่ได้รักฉันจริง ก่อนจะขอให้ใครรัก ท่านควรรักเขาก่อน แต่อย่ามารักกับมนุษย์อย่างฉัน ฉันไม่ต้องการเสียใจ”

“ก็ข้ามันเป็นภูตที่เห็นแก่ตัว ถึงได้เฝ้ารอความรักของเจ้ามานับพันปี”

พันปี...คำๆ นี้กระชากใจสมิตานันอย่างจัง ความเจ็บปวดในกระแสเสียงเข้มดูรวดร้าว สิ้นหวัง และเธอเป็นสาเหตุทั้งหมด ตั้งแต่แรกเริ่ม

“ทำไมต้องรอนานขนาดนั้น ไม่จำเป็นสักนิด ยังไงสุดท้ายฉันก็ไม่ได้รักท่าน”

อ้อมกอดที่รัดร่างเธอแน่นขึ้น จนคล้ายว่ากระดูกในกายจะแตกหัก สมิตานันเม้มปากอดทน ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอออกมาอีก ยิ่งรู้แน่ชัดว่าเขาจะไม่มีวันทำร้ายเธอให้ตายตกตามกัน เธอยิ่งอยู่เหนือเกมของเขา

“ข้าเองก็แค่เคยโง่รักเจ้า...ตอนนี้คนอย่างเจ้าจะไม่มีวันทำให้ข้ารักได้อีก”

“แน่ใจเหรอคะ” เชิดหน้าถามท้าทาย โดยไม่รู้เลยว่าจังหวะที่เงยขึ้นไปนั้นตรงพอดีกับริมฝีปากสีเข้มเย็นเฉียบของนิมมานแบบพอดีพอดี ความนุ่มของผิวปากถูกกดลงมาย้ำให้หญิงสาวที่สติครบถ้วนตัวแข็งค้าง และเริ่มสั่น คล้ายจะเป็นลม

ผีชีกอ...ไม่รักแล้วจูบทำไม ไอ้ผีตัวพ่อปากไม่ตรงกับใจ ปล่อยสิโว้ยยย กรี๊ดดด

เพราะพูดไม่ได้ ความคิดของสมิตานันจึงทำงานแทน การพบนิมมานหลายครั้งทำให้มั่นใจได้ว่าเขาอ่านใจเธอได้ และก็จริง หญิงสาวเป็นอิสระ แรงรัด หรือสัมผัสกดย้ำตรงริมฝีปากของเธอแต่สั่นคลอนไปถึงใจหายไป

“อย่าคิดว่าจะรอด”

กรี๊ดดดด...

เสียงกรีดร้องในความคิดทำให้สมิตานันอยู่รอดปลอดภัยเขาได้ในตอนนี้ หญิงสาวหัวเราะสะใจ แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ความว่างเปล่าที่คิดว่าน่าจะมีนิมมานยืนอยู่

“ชาติหน้าค่อยมาทำให้ฉันรักใหม่นะ บาย” ท้ายเสียงสะบัด ยกมือประกอบ ก่อนสะบัดหมุนตัวเดินขึ้นห้อง ราวกับเดินแคชวอร์กก็ไม่ปาน คนที่มองเหตุการณ์แบบตามติดอยู่ตลอดหัวเราะครืนอย่างกลั้นไม่อยู่

คนถูกหัวเราะส่งเสียงฮึ่มฮั่มไม่พอใจ “ตลกตรงไหนมิทราบท่านยมทูต”

“ตรงไอ้ผีตัวพ่อปากไม่ตรงกับใจล่ะมังท่านนิมมาน” ครามหัวเราะลั่น ปล่อยให้ภูตหนุ่มอีกตนยืนเท้าสะเอวแค้นเคืองคนปฏิเสธรักเขา

จะไม่รอให้ถึงชาติหน้าอีก...ก่อนอื่น เตรียมไปเรียนรู้ความรักของเขาในอดีตได้เลย สมิตาที่รัก

นิมมานมองไล่สายตาขึ้นไปด้วยความหมายมาด ความต้องการแรงกล้าที่จะพิชิตความรักจากใจของสมิตานันในชาตินี้มากที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็น...เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่เขาสื่อสารกับเธอได้โดยปกติ ถึงมันจะทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดระคนมีความสุขก็ตาม

ทุกครั้งที่อยู่ใกล้เจ้าหล่อน ความรู้สึกสุขทุกข์ปรากฏชัดในใจเขาอยู่แล้ว

เสียงตึงตังวิ่งกลับลงมา ความว่างเปล่าที่เห็นไม่ได้ทำให้สมิตานันสบายใจสักนิด ก็ที่จริงพื้นที่ว่างๆ มันว่างจริงเสียที่ไหน การอยู่คนเดียวในบ้านมันไม่ได้น่ากลัวเท่ากับการมีอะไรที่ไม่ใช่มนุษย์มาอยู่ร่วมด้วย หญิงสาวอุ้มแมวที่เธอจัดการสวมปลอกคอกันเลียขึ้นอุ้มแนบอกอย่างระวัง สายตาดำขลับมองมาร้องเบาๆ ว่ารับรู้ ก่อนอิงคอแนบแขนของเธอ ดวงตาปิดสนิท

“หมดฤทธิ์แล้วสิถึก มาอยู่เป็นเพื่อนกันเนอะ บ้านนี้ผีหื่น”

มีเพื่อนเป็นแมวก็ยังดีกว่ามีเพื่อนเป็นผี...

เสียงหัวเราะดังมาอารมณ์ดีจากมุมครัวของบ้าน สมิตานันสะดุ้งโหยง ตั้งสติให้แน่วแน่ และมั่นคงที่สุด รีบเดินกลับขึ้นห้องของตัวเอง

คนที่เพิ่งเข้าสิงแมวไปเมื่อชั่วโมงก่อนมองคนหัวเราะตาขวาง ส่งเสียงหึในลำคอ

“เจ็บไหม โดนเข็มจิ้มมานี่”

“หึ...ข้าไม่กลัวอะไรแหลมๆ นั่นหรอก”

“ดิ้นพล่านขนาดนั้น สงสัยถ้าไม่ได้อยู่ในมือแม่นางสมิตา เห็นทีว่าคงออกฤทธิ์เดชเต็มกำลัง” ครามเลิกคิ้วมองกวนอารมณ์ “จริงไหมแมวถึก”

“ถึก แปลว่าอะไร” คนที่ไม่ได้คลุกคลีกับมนุษย์ดังเช่นที่ครามชอบสอดส่องความเป็นไปในโลกอดถามออกไปไม่ได้

ครามทำหน้าเคร่งจริงจัง แต่ในใจกำลังหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง

“ถึก แปลว่าแข็งแรง แข็งแรงมากๆ” ส่วนใหญ่ใช้กับเพศหญิง ยมทูตหนุ่มละคำสำคัญไว้ในใจ ปล่อยให้นิมมานได้รู้เท่าที่จำเป็น

“ข้าชอบนะ มันเข้ากับข้าดี” นิมมานยิ้มบางเบา ไว้ต้องหาโอกาสกลับไปสิงร่างเจ้าแมวน้อยอีกหลายๆ รอบ การอยู่ในอ้อมแขนสมิตานัน เป็นพื้นที่ที่เขาชอบเป็นพิเศษ

...........................................................................................
คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ ต้องรอดูว่าจะรักกันยังไง นิมมานคงไม่ยอมให้หมอกับตี้รักกันง่ายๆ เนอะ ส่วนพุทธา เกิดมาเพื่อช่วยค่ะ
คุณ ปอกะเจา ถึกน่ารัก ลดความน่ากลัวของนิมมานได้เยอะเลย ฮา แมวแบบถึกหาไม่ยากเนอะ ต้องหยิ่งๆ หน่อย เชิดนิดๆ แต่ถ้ามาแบบนิมมานมาเอง มองไม่เห็น แต่หลอนๆ
คุณ รักเร่ ยินดีต้อนรับมากๆ ค่า ดีใจที่ชอบถึกนะคะ นิมมานก็น่ารักนะ (เหรอ) ฮา
ขอบคุณทุกคนที่เมนท์ ไลค์ และนักอ่านเงาทุกท่านค่า ^^



ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 พ.ย. 2556, 00:21:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 พ.ย. 2556, 00:21:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 1464





<< บทที่ 4 : เจ้าถึก   บทที่ 6 : ผีทะเล >>
ใบบัวน่ารัก 5 พ.ย. 2556, 06:53:58 น.
จะเป็นผี หรือเป็นภูต
หรือถึก


ปอกะเจา 5 พ.ย. 2556, 09:51:42 น.
นางเอกด่าได้ถูกใจมากค่ะ 55555 หวังว่านิมมานจะเลิกหลอกตัวเองสักทีว่าไม่รักนะคะ / คุณครามก็ขำได้ใจมากค่ะ ปลื้มมมมม


นักอ่านเหนียวหนึบ 5 พ.ย. 2556, 12:38:41 น.
อิตาหมอหมานี่นะ ไม่เร็ว
เพิ่งจะแนะนำตังจริงๆ จังๆ ก็มาขอคบกะเค้าซะแล้วววว
ชริ!!!!


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account