กรุ่นไอรักหลังลมร้อน
สบายๆ คลายเครียด..
Tags: สาวขอนแก่นเข้ากรุง

ตอน: ตอนที่ 5 : สิ่งที่ได้รู้

วันนี้อากาศค่อนข้างหนาวกว่าทุกวัน..คนางค์ตื่นแต่เช้าเพราะนัดรถบริษัทฯ ให้มารับตอนเจ็ด
โมงครึ่งเพื่อจะเดินทางไปยังจังหวัดชลบุรี หญิงสาวแต่งตัวทะมัดแมง..เสื้อเชิ๊ตแขนยาวเบา
บางสีม่วงอ่อนสอดทับไปในกางเกงสีเปลือกมังคุด..มีสูทสั้นเข้ารูปสีเดียวกันกับกางเกงคลุม
ทับเสื้อเชิ้ตอีกชั้นนึง..บรรจงรวบผมที่ยาวดำขลับขมวดเป็นมวยไว้ที่ท้ายทอย..เผยหน้าผากก
ลมมลให้ได้ยล..

คนางค์ไม่ใช่คนสวยที่มองเพียงครั้งเดียวแล้วสะดุดตา..แต่ต้องมองหลายๆ หนถึงจะเห็นความ
คมของเครื่องหน้าที่ซ่อนอยู่..ไม่ว่าจะเป็นเรียวคิ้วธรรมชาติที่โก่งราวคันศรไม่ต้องพึ่งพา
อุปกรณ์ตกแต่ง หรือดวงตาขาวใส มีนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มบ่งบอกถึงคนมีสุขภาพพลานามัยดี
หรือแม้กระทั่งริมฝีปากอวบอิ่มก็เจือด้วยสีชมพูตามธรรมชาติ..ฟันขาวเรียบกริบเรียงเป็น
ระเบียบ ยิ่งเวลาหญิงสาวยิ้มลักยิ้มจะเผยออกมาทั้งสองข้าง..มองดูแล้วน่ารัก น่าค้นหาซะ
มากกว่าคำว่าสวย..หญิงสาวแต่งหน้าเบาบาง บรรจงฉีดน้ำหอมที่น้าสาวซื้อมาฝาก..ซึ่งนานๆ
ถึงจะใช้ซักครั้งนึง กลัวหมด!..หันไปคว้ากระเป๋าหยิบแฟ้มเอกสารเดินฉับๆ ไปหยิบรองเท้า
คัตชูคู่เก่าที่ใช้ตอนสมัยเรียนมาสวม..เป็นอันเสร็จและก็ก้าวเดินออกจากห้อง..ล๊อคห้องเสร็จ
สรรพก็เดินลงมารอชั้นล่างของอพาทเม้นท์ที่เช่าอยู่..ซักครู่รถที่นัดไว้ก็เลี้ยวเข้ามาตามเวลา
นัดหมาย คนขับเดินลงจากรถมาเปิดประตูหลังให้

"หวัดดีครับคุณนาง..วันนี้แต่งตัวซะสวยเชียวทำเอาลุงเกือบจำไม่ได้"

"หวัดดีค่ะลุงแสง...พูดจริงเป่าอย่าหรอกให้นางดีใจเก้อน้า" หญิงสาวยิ้มแป้นเห็นลักยิ้มบุ่ม
พร้อมกับเดินไปปิดประตูหลังที่แสงเปิดไว้ให้

"นางนั่งหน้ากับลุงแสงดีกว่า..นั่งคนเดียวข้างหลังมันเหงา..เปลี่ยวเอกา..อยากมีคนอยู่ใกล้ๆ
อิอิ!" หัวเราะเจ้าเล่ห์ออกมา..แสงอมยิ้มเดินอ้อมไปนั่งประจำที่คนขับ

"คุณนางนี่ตลกจัง!..เจ้าชู้ด้วยนาลุงว่า..อย่างงี้หนุ่มๆไม่ติดกันเกรียวเหรอครับ..สวยๆ คล่องๆ
แถมตลกอย่างเงี้ยหนุ่มๆ สมัยนี้เค้าชอบ" พูดเสร็จก็เคลื่อนรถออกจากลาน

"และหนุ่มข้างๆ ละค้า..ชอบเป่า!" ทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ย แสงหัวเราะเสียงดัง

"นั่นไง!..หยอดคนแก่อีกแล้ว..อย่าหาเหาใส่หัวให้ลุงเลยคุณนาง...เดี๋ยวยัยแก่ที่บ้านมันจะตบ
ลุงเอา" หญิงสาวยิ้มแป้น

"แสดงว่าป้ารักลุงมากๆเลยนะน่ะ..น่ารักจัง!" แสงอมยิ้มสายตาก็มองถนนเบื้องหน้า..

"มันเลยพ้นขีดความรักมาแล้วล่ะครับคุณนาง..ตอนนี้มันอยู่ด้วยความเข้าใจกันมากกว่า..อยู่กิน
กันมาตั้งยี่สิบสามสิบปีลูกโตจนเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้ว..เดี๋ยวมันก็ต้องแยกย้ายกันไปมี
เย้ามีเรือนเป็นของตัวเอง..เพราะฉะนั้นลุงกับป้าก็ต้องเกาะๆ กันไว้ก่อนจะได้อยู่เป็นเพื่อนกัน
ตอนแก่ชรา" คนางค์นั่งยิ้มพริ้ม เอนตัวพิงเบาะ

"ฟังแล้วนึกถึงพ่อกับแม่นาง..ไม่รู้ป่านนี้เป็นไงบ้าง..ตั้งแต่มาทำงานยังไม่ได้ติดต่อกลับไปบ้าน
เลยค่ะ"

"บ้านคุณนางอยู่ที่ไหนครับ" แสงส่งเสียงถามมา..สายตาก็ยังจดจ่ออยู่บนถนน คนางค์ยิ้มแป้น
คำถามถูกใจ รีบพูดออกมาอย่างเร็ว

"พระธาตุขามแก่น..เสียงแคนดอกคูน..ศูนย์รวมผ้าไหม..ร่วมใจผูกเสี่ยว..เที่ยวขอนแก่น
นครใหญ่ ไดโนเสาร์ลือก้อง..เหรียญทองมวยโอลิมปิก..เย้!!!" ยกมือชูแขนประมาณว่าได้
เหรียญทอง..แสงหัวเราะออกมาเสียงดัง

"ตกลงมันจังหวัดไหนครับนั่น..ลุงฟังไม่ทัน" คนางค์หน้างอ

"ลุงแสงอ่ะ! ไม่เคยได้ยินเหรอคะ..คำขวัญเค้าออกจะเด่นดัง" แสงเกาหัวแกรกๆ

"ลุงไม่ค่อยจะรู้ไอ้เรื่องคำขง คำขวัญอะไรหรอกครับคุณนาง..แต่ถ้าถามเรื่องเส้นทางของ
จังหวัดในประเทศไทยเนี่ย..ลุงบอกได้" หญิงสาวอมยิ้ม

"ขอนแก่นค่ะ..นางเกิด..โต..และก็เรียนจบที่ขอนแก่น"

"อ้าว! แล้วคุณนางมาทำงานที่นี่ได้ยังไงล่ะครับ..เท่าที่ลุงรู้บริษัทฯ ไม่ได้มีสาขาอยู่ที่จังหวัด
ขอนแก่นนา..หรือว่ามาสมัครที่กรุงเทพฯ"

"พ่อนางฝากให้ค่ะ..เผอิญพ่อมีเพื่อนทำงานอยู่ที่บริษัทฯ นี้..คุณลุงอำนาจผู้จัดการฝ่ายบุคคล
นั่นแหละค่ะ"

"อ๋อ! คุณอำนาจ" แสงพยักหน้า มือก็ตบไฟเลี้ยว พลางส่งเสียงมาใหม่

"คุณนางหิวหรือเปล่าครับ..จะให้ลุงแวะที่ไหนหรือเปล่า"

"ยังไม่หิวค่ะ..ลุงแสงตีรถตรงไปชลบุรีเลยก็ได้" นั่นแหละ แสงถึงได้หันไปจดจ่อถนนหนทาง
เบื้องหน้าใหม่...คนางค์หยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาเปิดดู..นั่งไล่อ่านทบทวนสัญญาทั้งหมด...อื้อ
หือ! สี่ร้อยไร่..เยอะไม่ใช่เล่นนะเนี่ย ที่ดีซะด้วยติดทะเลเลย..............


#####################################################


"หวัดดี!...เจ้าธันไม่อยู่เหรอ" เสียงดลชัยลอยมา ปานระวีเลขาสาวของธันวาเงยหน้าขึ้นมอง..
จ้องนิ่ง!

"แกล้งถามหรือเปล่าคะ" ย้อนถามเสียงเรียบ..ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ นั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำ
งานของหญิงสาว

"เบื่อจังคนรู้ทัน" หญิงสาวก้มหน้าทำงานต่อ..ดลชัยเหลือบตามองนิดนึง มือก็หยิบที่ทับ
กระดาษขึ้นมากำเล่น บรรยากาศอยู่ในความเงียบสงบได้ยินเสียงเข็มนาฬิกาเดิน ติ๊ก! ติ๊ก..
แล้วชายหนุ่มก็ค่อยๆส่งเสียงทำลายความเงียบขึ้นมา

"ไปกินข้าวมั๊ย!" หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเลิกคิ้วส่งให้

"มื้อไหนคะ!"

"จะเอามื้อไหนล่ะ..ใกล้ๆ หน่อยนี่ก็กลางวัน..แต่ถ้าไกลอีกหน่อยนี่ก็ค่ำ..แต่ถ้าจะให้ดีเอาทั้ง
สองมื้อเลยเป็นไง" จ้องหน้าหญิงสาวนิ่ง...ดูจะเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มไม่เคยเบื่อซักครั้งกับการจ้อง
มองหญิงสาวตรงหน้า..ผมหยักศกน้อยๆ ซอยสั้นมีปอยผมละต้นคออยู่หน่อยๆ..ใบหน้าสะอาด
สะอ้าน ผิวขาวอมชมพูเลือดฝาดทำให้ใบหน้านั้นดูอ่อนเยาว์ลงไปอีก

"ดิฉันต้องทำงานค่ะไม่ว่าง..ไว้วันหลังดีกว่า!" พูดออกมาเบาๆ ชายหนุ่มขมวดคิ้วเริ่มไม่
สบอารมณ์

"เมื่อไหร่ล่ะปาน...ผมจะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่..คุณจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน" ชายหนุ่ม
ไม่ค่อยเข้าใจหญิงสาวตรงหน้านัก..ดูจะบอกปัดปฏิเสธเขาอยู่ตลอดเวลา มันพลอยทำให้เขา
หัวเสียทุกครั้งแต่ไม่เคยละความพยายามตามตื้ออยู่ตลอด..จนวันนี้ชายหนุ่มเริ่มอ่อนใจถึงเอ่ย
ปากถามขึ้นมา..หญิงสาวจ้องหน้าชายหนุ่มนิ่งยิ้มบางๆส่งให้

"อย่ารอเลยค่ะคุณดล..ดิฉันก็เป็นของดิฉันแบบนี้แหละ..ตัวตนของดิฉันมันเป็นแบบนี้จริงๆ..
มันคงไม่เปลี่ยนไปเป็นแบบอื่นหรอก"

"และอะไรล่ะ..สาเหตุอะไรมันถึงทำให้คุณเป็นแบบนี้..คุณจะปิดกั้นตัวเองกับคนทั้งโลกไม่ได้
หรอกนะปาน..คุณต้องเปิดรับบ้าง ปล่อยมันออกมาบ้าง" พูดจบก็ลุกจากเก้าอี้..สีหน้าระเหี่ยใจ
เต็มที

"คุณเก็บไปคิดดูนะปาน..ส่วนไอ้เรื่องรอหรือไม่รอน่ะมันเป็นเรื่องการตัดสินใจของผม..คุณไม่
มีสิทธิ์มาคิดแทนผม" เดินหน้าบึ้งออกจากห้องไป..หญิงสาวนั่งนิ่ง..ฉันกำลังทำอยู่คุณดล..ฉัน
กำลังพยายาม....


#####################################################


"พี่ภีม..จะไปไหนคะ" ภีมกำลังจะก้าวเข้าลิฟท์..มีอันต้องหยุดชะงักรีบหันมามองต้นเสียง เห็น
เมษาวิ่งมาหาอย่างไว

"เบาๆ ยัยษาเดี๋ยวล้ม"ส่งเสียงปรามออกมา

"จะไปไหนคะ"

"ไปไซท์งานที่จังหวัดนนท์...มีอะไรหรือเปล่า" เลิกคิ้วถามมา

"รีบไปหรือเปล่าคะ"

"ทำไม!"

"ษาจะชวนทานข้าวน่ะ..วันนี้ษาไม่มีเพื่อนเลยไปไหนกันหมดก็ไม่รู้..พี่ธันก็ไม่อยู่ด้วย" บ่น
งึม งำ หน้าตาเป็นจวัก.. ภีมเลิกคิ้วนิดนึง

"หายงอนแล้วเหรอ!..เมื่อวานพี่ชวนคุย..ชวนนั่งทำเป็นหยิ่ง" หญิงสาวค้อนควับ!

"ยังงอนอยู่..มีอย่างเหรอไปกับเราดันกลับกับคนอื่น" ภีมหัวเราะเสียงดัง ยักคิ้วส่งให้

"อ๊ะ! ช่วยไม่ได้คนนั้นเค้าสาวและก็สวยด้วย..เรามันยังเป็นเด็กกะโปโลอยู่เลยไม่น่าสนใจ"
เมษาหน้างอ ส่งเสียงโอดครวญมาอีกระรอก

"พี่ภีมอ่ะ..ษาโตแล้วนะทำงานแล้วด้วย ชอบมองษาเป็นเด็กอยู่เรื่อย" ภีมอมยิ้มบางๆ เอื้อมมือ
มาขยี้ศรีษะน้องสาวเพื่อนเบาๆ

"จะรีบโตไปไหน..เป็นเด็กน้อยของพี่ไปอย่างงี้ไม่ดีกว่าเหรอ" เมษายิ้มพริ้ม

"ไม่เอา!..จำคำที่ษาเคยบอกพี่ภีมไว้ไม่ได้เหรอ..เจ้าชายของษาน่ะคือพี่..เพราะฉะนั้นเจ้าหญิง
องค์นี้ก็ต้องรีบโตตามเดี๋ยวเจ้าชายจะแก่หงำเหงือกซะก่อน" ชายหนุ่มยืนอมยิ้ม..ละมือจาก
ศรีษะหญิงสาว ลูบเบาๆ ไปบริเวณแก้มใส

"แก่แดด!" พึมพำออกมา หญิงสาวย่นจมูกส่งให้

"ตกลงพี่ภีมรีบไปหรือเปล่าคะ" ทวงถามมาอีก

"ไม่รีบเท่าไหร่...กินก่อนได้" หญิงสาวยิ้มแป้น รีบหันไปกดลิฟท์ใหม่ แล้วประตูก็เปิดออก คว้า
มือชายหนุ่มควับ

"ไป! งั้นรีบไปษาหิวแล้ว" ลากชายหนุ่มเข้าไปในลิฟท์ด้วยกัน......



#####################################################


เสียงรองเท้าดังก๊อก! แก๊ก! ทำให้แสงเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือพิมพ์แล้วก็ยิ้มล่าออกมา

"คุณนางเสร็จแล้วเหรอครับ!" คนางค์เดินยิ้มแป้นเข้ามาหา มือก็หอบแฟ้มกลับมาด้วย

"เสร็จแล้วค่ะ...ไวมั๊ยคะแค่ครึ่งวันก็เสร็จสรรพ...มือชั้นนี้แล้ว จิ๊บจ๊อย!" ยักไหล่ยิก ยิก แสง
หัวเราะเสียงดัง

"แล้วนี่จะกลับเลยหรือเปล่าครับ..หรือว่าต้องแวะที่อื่นอีก" คนางค์ยิ้มพริ้ม ทะเล! ทะเล! ฉันจะ
ได้เห็นทะเลแล้ว..รีบทำหน้าประจบ

"ลุงแสงค้า...คือนางอยากจะรบกวนลุงแสงน่ะค่ะ"

"ยินดีครับ..คุณนางจะให้ลุงทำอะไรก็ว่ามา" คนางค์ยิ้มปูเลี่ยน ปูเลี่ยนส่งให้

"คืองี้ค่ะ...คือตั้งแต่เกิดมานางยังไม่เคยสัมผัสทะเลตัวเป็นๆ ซักครั้งน่ะค่ะ..เคยเห็นแต่ใน
หนังสือในทีวี..ก็เลยอยากจะให้ลุงแสงแวะไปซักนิดนึง...ขอโอกาสนางซักน้อย...ขอให้ได้
แตะซักหน่อย..เอามือจับซักนิด..มันก็จะเป็นบุญหัวของนางไม่น้อยเลยค่ะ" อ้อนยาวทำตัวบิด
ไปบิดมา...แสงหัวเราะเสียงดัง ขำสำบัดสำนวนและก็กริยาท่าทางของหญิงสาวตรงหน้า..ดูจะ
เป็นคนที่มีอารมณ์ขันล้นเหลือซะจริงๆ นั่งรถมาด้วยกันคุยจ้อไม่มีหยุด..พลอยทำให้เขาขับรถ
เพลิน..ถึงที่หมายอย่างเร็ว

"ได้สิครับไม่มีปัญหา เดี๋ยวลุงจะพาคุณนางทัวร์เอง..แต่ต้องรอสมาชิกอีกคนนะครับ" คนางค์
เลิกคิ้วส่งให้ งง!

"ใครคะ!"

"คุณยุธน่ะครับ" หญิงสาวยิ่งเลิกคิ้วหนักขึ้นไปอีก

"อ้าว!..พี่ยุธมาที่นี่ด้วยเหรอคะ" ยุธดนัย ลูกชายของนายอำนาจ เพื่อนพ่อคนางค์ เป็นวิศวกร
ลูกน้องใต้บังคับบัญชาของภีมอีกทีนึง

"ครับ..คุณยุธมาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว..ลุงเป็นคนขับรถมาให้..และลุงก็ตีรถกลับกรุงเทพฯเลย
เพื่อจะไปรับคุณนางมาวันนี้ไงครับ" คนางค์พยักหน้าเพิ่งเข้าใจ

"โน่น! พูดถึงก็เดินมาโน่น" หญิงสาวหันไปมองบ้าง..เห็นยุธดนัยกำลังเดินเข้ามา..แต่มีอันต้อง
ตาเบิกโพรง..เพราะข้างๆ ยุธดนัยมีชายหนุ่มอีกคนเดินมาด้วย...หญิงสาวเพ่งมองเต็มสตรีมเท่า
ที่สายตาจะเบิ่งได้..อย่าบอกนะว่าใช่! จ๊ากกก!..ตาย! ตาย! ตาย!..นายธันวา!..ทำไมฉันถึงได้
ดวงซวยขนาดนี้ เมื่อวานเจอหน้ากันครึ่งค่อนวันยังไม่พออีกใช่มั๊ย!..เฮอะ!..ให้ดิ้นตายเถอะ..
พระเจ้าจะกลั่นแกล้งสาวน้อยตาดำๆคนนี้ไปถึงไหน..ไม่ให้โอกาสให้หายใจหายคอบ้างเลยใช่
มั๊ย!..โอดครวญในใจ แล้วสองหนุ่มก็เดินมาถึง

"เอาตามที่พี่บอกเลยนะยุธ..ฝากบอกภีมมันด้วย..เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่เข้าไปแจงรายละเอียดกับมัน
เอง"

"ครับ! เดี๋ยวผมไปเกริ่นกับพี่ภีมไว้ก่อน" ยุธดนัยรับคำเสร็จ ก็หันมาเห็นคนางค์เข้า

"อ้าว!นาง..เสร็จแล้วเหรอคอยนานหรือยัง" เสียงทักของยุธดนัยทำให้ธันวาหันมามองบ้าง..มีอันต้องเลิกคิ้วออกมา!

"เธอมาทำอะไรที่นี่น่ะ" คนางค์ยิ้มแหยส่งให้

"คะ คือ นาง..เอ๊ย!..ฉะ ฉัน..เอ๊ย! ดิฉันมาทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแทนคุณดลน่ะค่ะ..พอดี
คุณดลติดธุระด่วนมาไม่ได้..เธอก็เลยส่งดิฉันมาทำแทน..แหะๆ" หัวเราะมาเบาๆ ธันวาขมวดคิ้ว

"เรียบร้อยแล้วเหรอ!"

"คะ ค่ะ..เรียบร้อยแล้ว" ทำหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยม..

"ไหนเอาสัญญามาดูซิ" ขอดูดื้อๆ คนางค์เริ่มขมวดคิ้วบ้าง..อะไรล่ะตานี่จะมาดูอะไรกันตอนนี้
กลับไปค่อยดูก็ได้..ต่อว่าเค้าในใจ..มือก็ค่อยๆยื่นแฟ้มส่งให้ ชายหนุ่มเอื้อมมือมารับ นึกขึ้น
ได้หันไปหาแสงกับยุธดนัยที่ยืนรออยู่

"ลุงแสงพาคุณยุธกลับไปก่อนไป..เดี๋ยวผมพาเค้ากลับเอง" คนางค์ตาเหลือก...ไม่นะ!...ม่าย
ยยย! หันหน้าเลิกลั่ก รีบส่งเสียงมาอย่างไว

"คะ คือ..เดี๋ยวนะ..นาง..เอ๊ย! ดิฉันกลับพร้อมพี่ยุธ กับลุงแสงก็ได้ค่ะ..ไม่รบกวนคุณธันวา
หรอกค่ะ..กลับด้ายย!" พยักหน้ายิก ยิก เห็นด้วยกับคำพูดตัวเองจัด ชายหนุ่มเริ่มไม่
สบอารมณ์

"เธอจะมาให้เค้าคอยเธออยู่คนเดียวได้ไง...เค้ามีงานมีการต้องไปทำกัน" ยุธดนัยหัวเราะส่งมา

"ผมอยู่รอได้ครับพี่ธัน..ไม่นานไม่ใช่เหรอ!" ธันวาตวัดสายตามามองเสียงเริ่มเข้ม

"ไม่ต้อง!..กลับไปกันก่อน..เดี๋ยวฉันพาเค้ากลับเอง..ไม่รู้ว่าสัญญาทำรัดกุมหรือเปล่า มั่วหรือ
เปล่าไม่รู้..นี่เจ้าดลมันปล่อยเธอมาได้ยังไงที่ตั้งหลายร้อยไร่..เดี๋ยวต้องโทรฉะมันซักหน่อย
และ" บ่นงึมงำ คนางค์เริ่มหน้าหงิก

"รัดกุมค่ะดิฉันอ่านดูแล้วไม่มีปัญหาอะไร..ที่สำคัญดิฉันไม่ได้เป็นคนร่าง..ทีมกฎหมายของคุณ
ดลเป็นคนร่างค่ะ..เพราะฉะนั้นถ้าคุณธันวาเชื่อฝีมือคุณดลและทีมงาน..ก็ไม่น่าจะมีปัญหา
อะไร..เพราะดิฉันเป็นแค่คนกระทำการแทนเท่านั้น..เป็นแค่ผู้รับมอบอำนาจให้กระทำการแทน
เท่านั้น" พูดยาวเน้นน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ..ชายหนุ่มยักไหล่

"ยังไงก็ต้องอ่านก่อน..เดี๋ยวผิดไปแล้วแก้ไขไม่ทัน" หญิงสาวนิ่วหน้า แหม!ตานี่กวนโอ๊ยนัก..
และจะจ้างไว้ทำไมน่ะเฮอะ! นักกฎหมายประจำบริษัทฯน่ะ..นั่งแต่งเองเลยดีกว่ามั๊ย!..

"ไปเจ้ายุธกลับไปก่อน..ไม่ต้องรอ" นั่นแหละสองคนถึงจะขยับเดินไปที่รถได้..หญิงสาวมอง
ตามสายตาละห้อย..อยากจะร้องไห้..ทะเล! ทะเล! พระเจ้า ทะเลกำลังจะหลุดลอยไป..
ฮือๆๆๆ...และก็นึกขึ้นได้รีบขยับขา..แต่คนข้างๆ จับข้อมือไว้ก่อน คนางค์สะดุ้งโหยง

"จะไปไหน"

"อะ เอ่อ..จะ จะไปเอากระเป๋าค่ะ..มันอยู่ในรถ" นั่นแหละชายหนุ่มถึงปล่อยมือได้..รีบวิ่งดุ๊กๆ
ตามหลังมา แสงหันมาเห็นเข้าก็ส่งยิ้มให้

"อ้าวคุณนาง!..ตกลงกลับด้วยกันเหรอครับ"

"เปล่าค่ะ!..กลับด้วยได้ก็ดีสิคะ..นี่นางกลับมาเอากระเป๋าอ่ะ" ยุธดนัยเห็นใบหน้าเข้าก็หัวเราะ
ออกมา

"เป็นอะไรนาง!..หน้างอเป็นตะปูโดนตอกเลย..พี่ธันเค้าไม่มีอะไรหรอกก็คงอยากจะให้อยู่ด้วย
กันก่อนเผื่อสัญญามันผิดจริงๆ จะได้ช่วยกันแก้ไขน่ะ" คนางค์ยิ้มแหยๆ ..พยักหน้าหงึก หงึก

"นางก็หวังว่ามันคงจะเป็นอย่างง้านนน!"

"นี่เธอ!..ได้หรือยัง..งานฉันมีอีกเยอะนะ" เสียงชายหนุ่มลอยมา หญิงสาวทำปากขมุบขมิบ

"จอมบงการ!" บ่นออกมาเบาๆ..ค้อนกับลมส่งไป แสงกับยุธดนัยหัวเราะเสียงดัง..

"นางไปก่อนนะคะ..แล้วเจอกันพรุ่งนี้ค่ะ" รีบหันหลังเดินกลับ..ธันวายืนหน้าบึ้งรออยู่...

"ชักช้า!..ยืดยาด!..ทำอะไรให้มันเร็วๆหน่อย" บ่นมาอีกระรอก..หญิงสาวเดินหน้าคว่ำเข้ามา
หา...

"ได้แล้วใช่มั๊ย!"

"ค่ะ"

"งั้นไป!" หญิงสาวตาเหลือก..ส่งเสียงละล่ำละลักส่งมา

"ปะ..ไปไหนคะ" ชายหนุ่มทำปากจึกจัก เห็นท่าทางของหญิงสาวตรงหน้าแล้วขัดใจเป็นยิ่งนัก

"ทำไมต้องทำท่าทำทางขนาดนั้นด้วย..ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่ะ..น่าเบื่อ!" บ่นงึมงำ! เดิน
ลิ่วๆ คนางค์ขมวดคิ้ว..เป็นอะไรอีกล่ะตานี่..เดินไม่รอเลย!

"เร็ว!..ยืนบื้ออยู่ได้" หันหลังกลับมาอีก..นั่นแหละถึงก้าวขาเดินได้.

"ผีเข้า..ผีออก" เดินบ่นพึมพำ..ค้อนใส่หลังคนเดินหน้าควับๆ

"บ่นอะไร" หญิงสาวสะดุ้งโหยง

"ปะ..เปล่า..บ่นอะไรที่ไหนล่ะ..ไม่มี๊!" สั่นหน้าอย่างเร็ว ชายหนุ่มทำหน้าเซ็ง!

"ไป! งั้นไปขึ้นรถ"

"ตกลงจะไปไหนคะ..คุณยังไม่บอกดิฉันเลย"

"นี่เลิกแทนตัวเองว่าดิฉันซะทีได้มั๊ย..เมื่อวานนี้ยังเรียกตัวเองว่าฉันอยู่เลย..สมองมันกลับหรือ
ไง" ทำตาขวางส่งให้อีก..คนางค์เลิกคิ้ว..อ้าว!ตานี่ทำไมปากเสียอย่างงั้นล่ะ..เดี๋ยแม่ก็ไม่ขึ้น
ซะเลยนี่..

"ขึ้นรถ!" ส่งเสียงมาอีกระรอก..หญิงสาวรีบกุลีกุจอขึ้นไปนั่งอย่างไว รัดเข็มขัดอย่างเร็ว และก็
นั่งกอดกระเป๋านิ่ง..สายตาเหลือบมองคนข้างๆไปด้วย

"ตกลงเราจะไปไหนกันคะ..และ..แล้วไม่ดูสัญญาเหรอ!"

"หิว! กินข้าวก่อน..ไม่หิวหรือไงเที่ยงกว่าแล้ว..เดี๋ยวค่อยไปดูที่ร้านอาหาร" ปากพูดปาวๆ สาย
ตาจ้องไปบนถนนเบื้องหน้า..แล้วบรรยากาศในรถก็อยู่ในความสงบอีกครั้งนึง..

"กรี๊ดดดดด!" ธันวาสะดุ้งโหยงรถเป๋ไปข้างนึงรีบดึงพวงมาลัยกลับ

"เป็นอะไรอีกยัยบ้า..กรี๊ดซะเสียงดัง..หูแทบแตก!"กระชากน้ำเสียงส่งมาพยายามประคองรถ
ให้กลับมาอยู่เลนเดิม

"ทะเล! ทะเล! ทะเลอ่ะ!" น้ำเสียงตื่นเต้น..ยกมือชี้โบ้ ชี้เบ้ไปข้างซ้ายตัวเอง..ใบหน้ายิ้มพริ้ม
นัยน์ตาพราว เห็นลักยิ้มบุ๋มทั้งสองข้าง..ธันวาขมวดคิ้วส่งให้

"ทะเลแล้วยังไง..มันแปลกตรงไหนทำเป็นไม่เคยเห็นไปได้..ยัยบ๊อง" หันกลับไปมองถนน
หญิงสาวยังยิ้มแป้นอยู่

"ก็ไม่เคยอ่ะ" ชายหนุ่มหันมามองทำหน้าตาฉงน

"จริง!..ฉันยังไม่เคยเห็นทะเลจริงๆ ซักครั้งเลย..อยากเห็นมานานแล้ว" หันเอาหน้าไปแนบกับ
กระจกนั่งยิ้มพริ้มจ้องมองนิ่ง..ชายหนุ่มส่ายหน้าหันกลับมามองถนนใหม่..ดูเหมือนหญิงสาวจะ
มีเรื่องให้เขาแปลกใจได้ไม่หยุดหย่อน เขาไม่อยากจะเชื่อ!..ประเทศนี้ยังมีผู้หญิงที่ตกยุค
อย่างยัยนี่หลงเหลืออยู่อีกเหรอ..หันกลับมามองหญิงสาวใหม่เห็นยังนั่งเอาหน้าแนบกระจกอยู่
ก็ส่งเสียงเปรยออกมา

"นี่! ไม่ต้องเอาหน้าไปแนบขนาดนั้นก็ได้ กระจกฉันเป็นรอยหมด"

"ฉันอยากเห็นนี่" แล้วก็หันควับมาหาชายหนุ่มทันที

"นี่!นี่! จอดให้ฉันลงไปดูหน่อยนะ..แป๊บเดียวเอง..นะคุณ"

"หิว!" คำเดียวสั้นๆ หันกลับไปมองถนนใหม่..หญิงสาวหน้างอ..ไม่มีน้ำใจเลย! รีบส่งเสียงไป
ใหม่

"งะ..งั้นเอาอย่างงี้ก็ได้คุณปล่อยฉันไว้ที่นี่..พอคุณทานเสร็จแล้ว คุณก็มารับฉันตรงนี้..คุณจะ
ได้ไม่มีคนนั่งขัดลูกหูลูกตาเวลาทานข้าวไง..จะได้เจริญอาหาร..แหะๆ" ยิ้มพริ้ม! คิดว่าทาง
เลือกนี้น่าจะ Work สุดๆชายหนุ่มคงจะตกลง

"เสียเวลา!" หญิงสาวขมวดคิ้ว..มันเสียเวลาตรงไหนอ่ะ! ก็แค่ชลอรถ..และก็ยืดเท้าไปเหยียบ
เบรกเท่านั้นเอง..ธันวาเห็นหญิงสาวเงียบไปเลยหันมอง..เห็นนั่งขมวดคิ้วมุ้นก็ถอนหายใจ
เฮือก!

"ไปกินข้าวก่อนเดี๋ยวค่อยมาดู..มันไม่หนีเธอไปไหนหรอก" นั่นแหละหน้าบานเป็นจานเลย

"จริงนะ!..คุณอย่าหรอกฉันนะ..กรี๊ดด! ทะเล ทะเล ทะเล..ฉันจะได้เห็นทะเลในระยะเผาขน
แล้ว"ส่งเสียงดีใจสุดๆ ชายหนุ่มหัวเราะ หึหึ ยัยต๊องเอ๊ย! ยิ่งกว่าเด็กสามขวบ...ชายหนุ่มขับรถ
ตีโค้งเข้าไปจอดที่ลานจอดรถหน้าร้านอาหารหรู..ดูจะเป็นร้านที่คึกคักเป็นพิเศษ..เพราะแขก
ต่างชาติเต็มไปหมด..และจะเป็นแถบโซนยุโรปทั้งนั้นด้วย เพราะมีแต่ผมสีอ่อนๆ..ผมดำแทบ
จะไม่มีให้เห็น..บริกรเดินนำหนุ่มสาวไปนั่งที่โต๊ะ!

"จะกินอะไร" ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม

"มันมีอะไรมั่งอ่ะ!" พูดเสร็จก็ชะโงกหน้าข้ามโต๊ะมาดูเมนูที่อยู่ในมือชายหนุ่ม

"อื้อหือ! มีแต่อาหารฝาหรั่งทั้งนั้นเลยอ่ะ...ฉันไม่เคยกินหรอก"บ่นพึมพำ และก็เงยหน้าขึ้นถาม
บริกร

"มีราดหน้ามั๊ยน้อง"

"มีครับ"

"งั้นเอาราดหน้าทะเลไม่ใส่ผักหนี่งนะจ๊ะ....ห้าม!ใส่ผักมานะ..ถ้าใส่มาเดี๋ยวพี่จะโกรธ" ทำหน้า
ทำตาจริงจัง..บริกรยืนอมยิ้มพยักหน้ารับคำ หงึก หงึก ธันวาสั่งของตัวเองบ้าง แล้วก็เสร็จ
สรรพ..ชายหนุ่มหยิบแฟ้มสัญญาขึ้นมานั่งอ่านเฉยไม่ได้สนใจหญิงสาวที่นั่งอยู่บนโต๊ะด้วย
เลย คนางค์นั่งนิ่งรู้สึกอึดอัดไม่ใช่น้อย..มองซ้ายทีขวาที นั่งดูลูกค้าที่จะมีเข้ามาอยู่เรื่อยๆ แล้ว
ใบหน้าก็ยิ้มแฉ่งออกมาชะโงกหน้า เอื้อมมือมาสะกิดแขนชายหนุ่มยิก ยิก

"นี่!นี่!" ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมอง ขมวดคิ้วส่งให้

"บอกไม่เคยจำใช่มั๊ย!..ว่าเวลาเรียกฉันน่ะให้เรียกชื่อ..ความจำมันสั้นหรือไง!..มีอะไร!" หญิง
สาวหุบยิ้มฉับ ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม

"กะ..ก็คือฉันจะบอกว่า..ถ้าข้ามถนนไปมันจะเป็นทะเลใช่มั๊ยอ่ะ...ทีนี้ระหว่างรออาหารฉันขอ
ข้ามไปดูก่อนได้หรือเปล่า..คุณก็อ่านสัญญาไป..เดี๋ยวฉันรีบไปรีบมาไม่นานหรอก..นะคะ"
พยักหน้าหงึก หงึก อยากไปจัด

"เอาไว้ก่อน..กินข้าวก่อนค่อยไป" ก้มหน้าอ่านสัญญาต่อทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..หญิงสาว
หน้ามุ้ย ถอนหายใจเฮือก..ถอยหลังมานั่งพิงพนักเก้าอี้ต่อ....

"ธันวา!" เสียงทักสำเนียงแปล่งๆ ลอยมา ทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองพอเห็นบุรุษตรงหน้าก็
ยิ้มกว้างออกมา รีบลุกขึ้นยืนตบหลังตบไหล่กันใหญ่พ่นภาษาอังกฤษออกมาอย่างไว คุยกัน
หัวเราะกันเสียงดัง.. คนางค์ที่นั่งอยู่บนโต๊ะถึงกับเลิกคิ้ว ทึ่ง!..ชายหนุ่มพูดได้ชัดเจนมาก
เหมือนเป็นภาษาเกิดเลยก็ว่าได้สำเนียงไม่ผิดเพี้ยน..ถ้าได้ยินแต่เสียงก็คงนึกว่าเป็นคน
สัญชาติอังกฤษโดยแท้..ซึ่งตรงกันข้ามกับชายผิวขาวตรงหน้าเสียอีก สำเนียงออกจะแปลกๆ
ซะด้วยซ้ำ..ธันวาชวนบุรุษต่างชาตินั่งลง..และก็หันมาทางหญิงสาวเพิ่งนึกได้ ลืมสนิท!..ชาย
หนุ่มหันไปพ่นภาษาอังกฤษกับชายชาวต่างชาติต่อ

"ราดอฟ..นี่คุณคนางค์ผู้ช่วยของนายดล!"

"และนี่ก็ราดอฟเพื่อนฉันสมัยเรียน..คนเยอรมัน" ราดอฟส่งยิ้มให้ ยื่นมือออกมาจับมือหญิง
สาว

"สวัสดีครับ..คุณคนางค์" หญิงสาวยิ้มหวาน พูดออกไปบ้าง

"Guten tag, Sehr erfreut. (สวัสดีค่ะ, ยินดีที่ได้รู้จัก)"ธันวากับราดอฟถึงกับเลิกคิ้วแปลกใจ
ยิ่งคนหลังหัวเราะออกมาเสียงดัง

"Oh, Sie sprechen gut Deutsch. (โอ้, คุณพูดภาษาเยอรมันได้ดีนี่)" หญิงสาวอมยิ้มเห็นลัก
ยิ้มบุ่ม

"Danke, Ich spreche nur ein bisschen (ขอบคุณค่ะ, ดิฉันพูดได้แค่นิดหน่อย)" ราดอฟ
กำลังจะพ่นออกมาใหม่..แต่ธันวาขัดขึ้นซะก่อน

"พูดภาษาอังกฤษ...ฉันฟังไม่รู้เรื่อง..ไม่มีมารยาท!" พูดเสียงแข็งใส่ราดอฟ มีปลายหางตา
มามองคนางค์ด้วยเหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่าคนไม่มีมารยาทน่ะคือเธอ..หญิงสาวยิ้มแห้งๆ..
ราดอฟหัวเราะเสียงดังพ่นภาษาอังกฤษออกมาตามคำสั่ง

"นายนี่ยังเหมือนเดิมเลยไม่เคยเปลี่ยน..พูดจาตรงซะเหลือเกิน" พูดจบก็หันมาหาหญิงสาว
ข้างๆ

"อย่าถือสานะครับ..ไอ้นี่มันเป็นอย่างงี้ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว" หญิงสาวยิ้มตาหยี

"ไม่ถือค่ะ..ชินแล้ว..แฮะๆ" หัวเราะออกมาเบาๆ ราดอฟยิ้ม..ถูกใจสาวตรงหน้าเป็นยิ่งนัก..หน้า
ตาน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม..แววตาฉลาดทันคนเวลาพูดก็ไม่หลบตาดูเป็นตัวของตัวเองดี..เขาเคย
เปรยๆ กับธันวาไว้..ถ้าเขาจะหาผู้หญิงมาเป็นแม่ของลูกซักคนเขาจะเลือกสาวไทยเนี่ยแหละ..
เพราะประทับใจในกริยาท่าทางของแม่ธันวาตอนไปเยี่ยมลูกชายที่ประเทศอังกฤษสมัยที่เรียน
อยู่ด้วยกัน...

"สำเนียงภาษาอังกฤษของคุณคนางค์เพราะดีนะครับ..เหมือนสาวไอริช" หญิงสาวเลิกคิ้ว

"เหรอคะ..ขอบคุณมากค่ะ"

"ภาษาเยอรมันก็ด้วย..สำเนียงเหมือนเจ้าของภาษาเลย..เคยไปเยอรมันหรือเปล่าครับ!"
คนางค์อมยิ้มนัยน์ตาพราวระยับ..ธันวาเห็นเข้าก็ขัดลูกหูลูกตาเป็นยิ่งนักกำลังจะอ้าปากออก
มา..แต่บริกรนำอาหารเข้ามาเสริฟซะก่อน..

"นายจะสั่งอะไรหรือเปล่าราดอฟ"

"หึ!ไม่ต้อง..ฉันสั่งแล้วแต่นั่งอยู่โต๊ะโน้น..พอดีเห็นนายเข้าก็เลยเดินมาทัก..นี่ทิ้งแขกไว้นาน
แล้วเดี๋ยวต้องกลับไปที่โต๊ะ!"ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืน

"เดี๋ยวก่อนกลับเยอรมันฉันโทรหานะธันวา..ขอทำธุระให้พ่อก่อน..พอดีบินมาด่วนเลยไม่ได้
บอกแก" ธันวาเลิกคิ้ว

"อ้าว!..นายจะไปเลยเหรอน่ะ"

"อึมม์!"หันหน้ามาหาคนางค์ยื่นมือส่งให้ พูดภาษาเยอรมันส่งมา

"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ!..แล้วเจอกันเร็วๆนี้..คราวหน้าผมจะซักประวัติให้ละเอียดยิบเชียว"
คนางค์หัวเราะเสียงดัง

"ยินดีค่ะ" ราดอฟยิ้มพริ้มเดินมาตบหลังธันวาหนึ่งที แล้วก็เดินออกไป..หญิงสาวนั่งอมยิ้ม

"นั่งยิ้มอยู่ได้จะดีใจอะไรนักหนา..เค้าชมหน่อยทำเป็นยิ้มปากกว้างไปถึงรูหู..ออกนอกหน้า"
ชายหนุ่มหมั่นไส้พูดลอยๆออกมา และก็ก้มหน้าจัดการกับจานของตัวเอง..คนางค์หุบยิ้มฉับ!
เป็นอะไรอีกล่ะ..ฉันไปเหยียบตาปลานิ้วเท้าข้างไหนให้อีก..ค้อนประหลับประเหลือกส่งให้ ก้ม
หน้าจะตักราดหน้าในจานก็อุทานออกมาเบาๆ ธันวาเงยหน้าขึ้นมอง..เห็นหญิงสาวหันหน้า
เลิกลั่ก

"เป็นอะไร"

"ฉันจะหาไอ้เด็กเสริฟคนนั้นอ่ะจะเฉ่งซักหน่อย..บอกว่าไม่เอาผัก..ไม่เอาผัก ดันใส่คะน้ามาซะ
เยอะเลยอ่ะ" นั่งหน้ามุ้ย ชายหนุ่มทำปากจึกจัก

"ไม่กินก็เขี่ยทิ้งไป..ทำเป็นเรื่องมากไปได้" หญิงสาวตาเบิกโพลง

"ได้ไง..เราไม่ได้เป็นคนผิดนะเขาต้องรับผิดชอบสิ..และจะเขี่ยทิ้งได้ไงเสียดายอ่ะ..ชามตั้ง
หลายเลยนะเนี่ย..ฉันว่าร้านอย่างเนี้ยอย่างน้อยๆ ก็เกินร้อยล่ะ" บ่นงึมงำมาอีก..ชายหนุ่มนั่ง
จ้องนิ่ง และก็ถอนหายใจออกมาดังเฮือก! เลื่อนจานตัวเองมาตรงหน้าคนางค์

"อ่ะ! ใส่มา..ไม่กินอะไรก็ใส่ลงมาไม่ต้องพูดมาก" นั่นแหละ หญิงสาวยิ้มแป้น รีบกุลีกุจอ
ยักย้ายถ่ายเทอย่างเร็ว...มีการเอาส้อมไปจิ้มชิ้นเนื้อในจานชายหนุ่มด้วย จึก! จึก! และก็ยิ้มยิง
ฟันส่งให้

"น่าอร่อยเนอะ!" แต่ชายหนุ่มไม่ยิ้มด้วยนั่งมองนิ่ง คนางค์หุบยิ้มทันที

"ฉันไม่กินของคุณหรอกน่า..ทำมาเป็นมอง!" ทำปากขมุบขมิบ..งก!..ค่อยๆเลื่อนจานกลับคืน
มาให้ชายหนุ่มตรงหน้า และก็ก้มหน้าก้มตากิน ซักครู่มีอันต้องเงยขึ้นมาเพราะชายหนุ่มเฉือน
เนื้อในจานตัวเอง ตักมาวางใส่ไว้ในจานหญิงสาว

"อ่ะ! ลองดู" หญิงสาวก้มลงมอง รีบเอ่ยปากออกมา

"ไม่เป็นไรค่ะ..นาง เอ๊ย! ฉันไม่กินหรอก..คุณกินเถอะ" กำลังจะตักส่งคืน ชายหนุ่มเริ่มไม่
สบอารมณ์ขมวดคิ้วมุ้น

"กินๆ ไปเถอะน่า..เรื่องมาก" นั่นแหละชะงักกึกนั่งหน้างอ..ชอบว่าฉันเรื่องมากอยู่เรื่อยเลย..
ฉันไม่ได้ขอซักหน่อยแค่เปรยๆ เฉยๆ อ่ะ..ตัวเองนั่นแหละยื่นส่งมาให้เอง..ยังจะมาว่าคนอื่น
เค้าอีกไม่กินซะเลยดีมั๊ยเนี่ยปล่อยให้มันแห้งคาจานไปเลย..เงยหน้าขึ้นค้อนส่งให้ชายหนุ่ม
แต่ยังไม่ครบวงดีก็ต้องมีอันก้มหน้าลง อึยส์..มองอยู่เหรอ!..ค่อยๆเอาส้อมจิ้มชิ้นเนื้อสี่เหลี่ยม
ลูกเต๋าส่งเข้าปาก แค่รสชาติที่แตะเพียงปลายลิ้นถึงกับทำให้ คนางค์เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม
ใหม่..ธันวายังคงจ้องมองอยู่ดูปฎิกิริยาของหญิงสาว..คนางค์เคี้ยวหงับ หงับ..นุ่มอ่ะ!ทำไมเนื้อ
มันนุ่มจัง! รีบกลืนลงคอดังเอื้อก!

"อร่อยอ่ะ!"ธันวาเลิกคิ้ว

"สั่งเพิ่มมั๊ยล่ะ" หญิงสาวก้มลงมองจานราดหน้าของตัวเอง นึกเสียดายเป็นยิ่งนัก

"อันนี้ยังไม่หมดเลย..ไม่เอาดีกว่า" ส่ายหัวหงึกหงัก ชายหนุ่มเริ่มรำคาญ..ยัยบ้าเอ๊ย! เรื่องมาก
จริงเชียว..และก็หันไปเรียกบริกรสั่งเพิ่มอีกจาน คนางค์นิ่วหน้า

"ก็บอกว่าไม่เอาไง..ถ้ากินไม่หมดทำไง"

"ฉันจะสั่งกินเอง" ส่งเสียงเข้มกลับมา หญิงสาวหน้าแดงเขิลล์!..รีบก้มหน้างุดสนใจกับราดหน้า
ของตัวเองต่อ..บรรยากาศบนโต๊ะอยู่ในความเงียบสงบ มีเพียงเสียงช้อนส้อมกระทบกับจาน
เท่านั้น..เสียงพูดของบุคคลทั้งสองไม่มีออกมาซักคำ..ซักครู่บริกรก็นำอาหารที่ธันวาสั่งเพิ่มมา
เสริฟ..หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง..เห็นควันลอยฉุยอยู่เหนือจานก็ยิ้มส่งให้ชายหนุ่ม

"ท่าทางจะร้อนเนอะ" นั่งยิ้มพริ้ม ชายหนุ่มไม่ยิ้มตอบ..แกล้งไม่สนใจซะงั้นเล่นเอาหญิงสาว
หน้าเหวอ..หุบยิ้มฉับ..เออ!ทีหลัง..อย่ามาง้อแล้วกัน..แม่จะนิ่งเงียบเป็นเป่าสากเลย..เหลือบตา
ขึ้นมองบุคคลตรงหน้าต่อ..เห็นธันวาค่อยๆเฉือนเนื้อในจานออกเป็นชิ้นๆพอคำ และก็เลื่อนจาน
มาไว้กลางโต๊ะ

"อ่ะ! ช่วยกินหน่อย" พูดเสร็จก็จิ้มชิ้นเนื้อส่งเข้าปากตัวเอง ก้มอ่านสัญญาต่อ..คนางค์ขมวด
คิ้ว เริ่มไม่แน่ใจว่าชายหนุ่มจะมาไม้ไหน..แต่ควันในจานและชิ้นเนื้อที่ชุ่มไปด้วยน้ำเกรวี่ มัน
เรียกร้องเชิญชวนซะเหลือเกิน

"ฉันช่วยก็ได้ นี่เห็นแก่คุณนะ..เสียดายของน่ะกินทิ้งกินขว้างน่าเสียดาย" ว่าแล้วก็จิ้มส่งเข้า
ปาก..ธันวาไม่โต้ตอบยังนั่งอ่านสัญญาเฉย...คนางค์จิ้มอีกชิ้นส่งเข้าไปใหม่..อื้อหือ! นุ่มจังเลย
อ่ะ..น่าตบรางวัลให้พ่อครัวซะหน่อย..สุดยอดด! เคี้ยวหงุบหงับ กลืนเอื้อกรีบส่งเสียงมาอย่าง
ไว

"นี่คุณ!..เนื้ออะไรอ่ะ..ทำไมมันนุ่มจัง" ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองยกน้ำขึ้นดื่มพูดเนิบๆ ส่งมา

"แกะ" คนางค์ตาเบิกโพลง ละล่ำละลักส่งเสียงถามมา

"กะ..แกะ..ไอ้ตัวขาวๆ น่ารักๆ ขนฟูๆ หยอยๆ หางกุดๆ มีจงอยผมปรกอยู่บนหน้าผากน่ะนะ"
ชายหนุ่มพยักหน้าส่งให้

"โอ้พระเจ้า..ตาย! ตาย! ตาย!..นี่ฉันกินของน่ารักๆ อย่างงั้นเข้าไปได้ยังไงเนี้ย" บ่นพึมพำ จ้อง
มองชิ้นเนื้อในจานนิ่ง "และดูสิ..ทำซะไม่เหลือวี่แววเลยว่ามันเคยเป็นไอ้ตัวน่ารักมาก่อน" ชาย
หนุ่มส่ายหน้าส่งให้ เซ็งจัด!

"ติ๊งต๊อง!..เธอจะให้เค้าเสริฟเธอทั้งตัวหรือไง คิดเป็นเด็กปัญญาอ่อนไปได้..ประสาท!" ก้ม
หน้าอ่านสัญญาต่อ..คนางค์นั่งหน้าคว่ำจ้องคนก้มหน้าเขม็ง..เก่งจริงอย่าก้มสิ!..เงยขึ้นมา..
อิโธ่! ไม่กล้า!..ไม่กล้า!..ไม่รู้จัก คนางค์ศิษย์ไอ้เปี๊ยกซะแล้ว! เหมือนจะรู้ตัวธันวาเงยหน้าขึ้น
มอง..หญิงสาวปรับสีหน้าแทบไม่ทันก้มหน้าก้มตา..กินไอ้จานที่อยู่ตรงหน้าอย่างเร็ว...ซักพักก็
เสร็จพากันเดินออกมาจากร้าน..คนางค์เดินตามชายหนุ่มต้อยๆ กำลังจะอ้าปากเตือนถึงเรื่อง
ทะเลที่เขาสัญญาเอาไว้ก็ต้องมีอันเงียบไป เพราะมีโทรศัพท์เรียกเข้าเครื่องธันวาซะก่อน

"ครับ!..อยู่ชลบุรีครับ!" ปากพูดสายตาก็เหลือบมองหญิงสาว ที่กำลังบอกใบ้กับชายหนุ่มชี้มือ
ชี้ไม้ข้ามถนนไปอีกฝั่งนึง จะขอข้ามไปก่อน..ชายหนุ่มยังไม่ทันจะอ้าปากอนุญาต..หญิงสาว
รีบเดินไปชิดขอบถนนแล้วจดๆ จ้องๆจะข้ามถนน..รถสวนไปสวนมาขวักไขว่...ธันวายังคง
มองอยู่ปากก็กรอกใส่โทรศัพท์

"ครับ!...เสร็จแล้วครับกำลังจะกลับ!" ปริ้นนนนน! เสียงแตรรถดังยาว ทำให้ธันวาหยุดชะงัก
การพูดทันที..ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเห็นรถสองแถวขับมาอย่างเร็วอีกเพียงนิดเดียวก็จะชนแล้ว..
แต่เดชะบุญหญิงสาวไวกว่าข้ามไปอยู่อีกฝั่งเป็นที่เรียบร้อย..ชายหนุ่มขมวดคิ้วนิ่วหน้า บ่นออก
มาเสียงดัง

"ยัยบ้าเอ๊ย! ข้ามถนนไม่ดูตาม้าตาเรือ"แต่คนางค์ไม่ได้ยินเพราะเสียงคลื่นกะทบฝั่งมันกวักมือ
เรียกอยู่ มีหันมาโบกมือหยอยๆ ส่งให้ชายหนุ่มด้วยประมาณว่าฉันมาถึงอย่างปลอดภัยแล้ว..
และก็รีบเดินลงไปอย่างไว..ซึ่งผิดกับคนฝั่งตรงข้ามยังคงยืนหน้ามุ้ย บ่นงึมงำไม่เลิก

"เฟอะฟะ! ก่อแต่เรื่องไม่จบไม่สิ้น" แล้วก็นึกขึ้นได้รีบยกโทรศัพท์ขึ้นมาพูดต่อ...

หลังจากที่ข้ามถนนมาได้คนางค์รีบเดินลงมาบนหาดอย่างไว..หญิงสาวยิ้มแป้นได้เห็นในสิ่งที่
อยากจะเห็นใกล้ๆแล้ว..น้ำทะเลตอนบ่ายๆนี่มันช่างสวยงามเป็นยิ่งนัก แสงแดดมันสะท้อน
กระทบผืนน้ำระยิบระยับ..คลื่นลมไม่แรงมาก ผู้คนบางตา..คนางค์ถอดรองเท้าอย่างไวพับขา
กางเกงขึ้นมาถึงหัวเข่าค่อยๆ ก้าวเดินลงไปริมหาด หยุดยืนนิ่งปล่อยให้เกรียวคลื่นฝอยๆ
กระทบหลังเท้าเบาๆ..หญิงสาวหัวเราะคิก คิก..และก็ยิ้มพริ้มออกมา ไอ้เปี๊ยก! ในที่สุดฉันก็ได้
แตะแล้ว..ทะเลตัวเป็นๆ โอ้พระเจ้าความรู้สึกมันดีจัง! ทรายละเอียดยิบเลยล่ะแก..น้ำใสแจ๋ว
เชียว...หญิงสาวก้มลงเอามือจุ่มลงไปในน้ำ..และก็ยกขึ้นมาแตะบนปลายลิ้น..ทำหน้าแหยๆ
แหวะ! เค็มจริงๆ ด้วย..

"สกปรก" เสียงชายหนุ่มลอยมา คนางค์หันไปมอง..ธันวามายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่
รู้ ..หญิงสาวส่งยิ้มให้รีบละล่ำละลักส่งเสียงออกไป

"นี่คุณ..ฉันได้จับทะเลจริงๆ แล้วนะ..มันเค็มด้วย!" ยิ้มนัยน์ตาพราวระยับ..ชายหนุ่มพยักหน้า
ส่งให้

"ก็ดี!...งั้นก็กลับได้แล้วสิจะมามัวรีรออะไรอยู่" หญิงสาวหุบยิ้มฉับ! ทำหน้าทำตาเศร้า

"ขออีกนิดไม่ได้เหรอ!..เพิ่งจะบ่ายโมงกว่าเอง ขออีกแป๊บเดียว..นะคะ" อ้อนส่งมา ชายหนุ่ม
ถอนหายใจเฮือก

"ฉันให้เวลาเธออีกครึ่งชั่วโมงแล้วกัน สั่งลากันให้พอ" ว่าแล้วก็หันหลังจะเดินไปนั่งบนเตียงผ้า
ใบริมหาด..คนางค์ยิ้มแป้นดีใจสุดๆ..รีบหยิบรองเท้าเดินตามต้อยๆ และก็วางไว้แทบเท้าชาย
หนุ่ม ธันวาขมวดคิ้ว

"ฝากด้วยค่ะเดี๋ยวหาย!..รองเท้าคู่โปรดซื้อมาหลายบาท..เสียดาย! แหะๆ" ยิ้มพริ้ม พูดเสร็จก็
หันควับ!เดินลงไปริมทะเลต่อ ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ เอนตัวลงนอนหยิบแว่นกันแดดขึ้น
มาสวม..นอนไปได้ซักพักเสียงโทรศัพท์ก็เรียกเข้า ธันวาดูเบอร์แล้วก็ยิ้มออกมา

"ว่าไง"

"พี่ธันอยู่ไหนอ่ะ!" เสียงสิงหาลอยมาจากปลายสาย

"ชลบุรี..มีอะไร"

"ไปทำอะไรอยู่ชลบุรี" ธันวาทำปากจึก จัก

"ทำงานสิวะ!..มาดูที่..แกมีอะไร" ปลายสายหัวเราะคิกคัก..

"จริงง่ะ!..พาสาวไปเที่ยวหรือเปล่า..แล้วทำมาเป็นฟอร์มว่าไปทำงาน" ธันวาขมวดคิ้ว เริ่มไม่
สบอารมณ์

"อย่ามามั่ว..มีอาไร๊!" เสียงเริ่มสูง

"คุณธันวาคะ!..ฉันเสร็จแล้วกลับกันได้เลยค่ะ" เสียงคนางค์ลอยมา ธันวาเหลือบตามองเห็น
หญิงสาวกำลังเดินลิ่วๆ เข้ามาหา ผมที่รวบเป็นมวยไว้หลุดลุ่ยออกมาหมด เสื้อสูทตัวนอกที่
สวมทับเมื่อสักครู่ก็ถูกถอดออกเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตเบาบางพับแขนเสื้อไว้ที่
ข้อศอก สอดปลายเสื้อไว้ในกางเกงเท่านั้น ทำให้รูปร่างที่ดูบอบบางอยู่แล้วของหญิงสาวดูเล็ก
ลงไปอีก..เดินยิ้มหน้าแป้นแล้นเข้ามาหา พอเห็นชายหนุ่มคุยโทรศัพท์อยู่ก็รีบหุบปากฉับ!

"เสียงใครพี่ธัน!..นั่นแน่! เดาไม่ผิดจริงๆด้วย..ทำมาเป็นปิด"

"แกมีอะไรก็พูดๆ มา..อย่ามาเดาสุ่มสี่ สุ่มห้า" กระชากน้ำเสียงส่งไป..สายตาก็มองหน้าคนางค์
นิ่งขมวดคิ้วนิดนึง..มีอันต้องอมยิ้มออกมา เห็นทรายติดอยู่บนแก้มขวาเป็นปื้น

"ผมจะโทรมาบอกว่า..บริษัทฯ อิสระ พร๊อพเพอตี้ ตกลงจะเซ็นสัญญาซื้อที่ดินที่ตรังแล้วนะ
ฮะ..พอดีเมื่อวานว่าจะบอกแต่ลืมสนิท ยัยษามันชวนคุยจนลืมไปหมด..นึกขึ้นได้ก็เลยรีบโทร
มาบอกพี่ไว้ก่อน" ธันวายิ้ม ลุกขึ้นจากเตียงผ้าใบ

"เก่ง!..แกโทรไปบอกเจ้าดลเลยนะเดี๋ยวฉันจะลงไปกับมันเอง" กรอกเสียงไปในโทรศัพท์
พร้อมกับเดินเข้ามาหาคนางค์

"เรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้วฮะ..ผมโทรบอกพี่ดลเรียบร้อยแล้วเพิ่งวางสายจากพี่ดลเมื่อกี้นี้เอง
พอเสร็จสรรพก็โทรมาหาพี่นี่แหละ"

"แกนัดเค้าเซ็นสัญญาวันไหน" ยื่นมือมาตรงแก้มขวาคนางค์..หญิงสาวตาเหลือกผงะหน้าหนี
งง! ชายหนุ่มขึงตาใส่ ส่งเสียงออกมาเบาๆ

"ทราย!..จะเอาทรายออกให้" หญิงสาวยืนนิ่ง ตกใจ! ปล่อยให้ชายหนุ่มลูบมือมาบนแก้มนวล..

"อะไรพี่ธัน..เอาทรายอะไรออก" ปลายสายส่งเสียงถามมา..

"เปล่า!..ตกลงแกนัดเค้าไว้วันไหน" ถามส่งไปใหม่ไม่สนใจที่จะตอบน้องชายสักนิด..มือก็ยัง
คงปัดทรายบนแก้มออกให้หญิงสาว..คนางค์ใจเต้น ตึก ตึก ขาก้าวไม่ออกซะงั้น

"วันมะรืน..ผมนัดเค้าไว้วันนั้น"

"เออ! งั้นแค่นี้นะ"

"ดะ..เดี๋ยวพี่ธัน..เมื่อกี้นี้ทรายอะไร..เอาทรายอะไรออก" ยังข้องใจอยู่ส่งเสียงถามมาอย่างไว
ธันวาขมวดคิ้วใส่โทรศัพท์

"เอ๊ะไอ้นี่!..บอกว่าไม่มีอะไร..แค่นี้นะ"กดวางสายฉับ! จ้องหน้าหญิงสาวนิ่งมือยังคงอยู่ที่แก้ม
นวล..ค่อยๆเลื่อนช้าๆ มาบริเวณไรผมแถวขมับลูบไล้เบาๆ ปัดฝุ่นทรายที่เกาะอยู่ออกให้..พูด
น้ำเสียงเนิบๆ ส่งมา

"ทำตัวเหมือนเด็กๆ..ไม่รู้จักระมัดระวังตัวเอง..ใครจะมาดูแลให้ตลอด" คนางค์เลิกคิ้ว เริ่มงง!
ไม่เข้าใจ..ส่งเสียงละล่ำละลักออกมา

"คะ..คะ..ค้า!" ชายหนุ่มชะงักทันที..ละมือจากใบหน้าหญิงสาว

"เสร็จแล้วใช่มั๊ย!"หญิงสาวพยักหน้ายิก ยิก

"ไป..งั้นกลับ!" คว้าข้อมือหญิงสาวหมับ! จะลากไปด้วยกันแต่คนางค์ขืนตัวไว้ก่อน

"ดะ..ดะเดี๋ยวค่ะ..ระ รองเท้ายังไม่ได้หยิบเลย" รีบก้มลงหยิบอย่างไว เงยขึ้นมาได้ก็ยิ้ม
เผล่ออกมา

"สะ..เสร็จแล้วค่ะ แหะๆ" นั่นแหละถึงจะพากันเดินกลับได้ ชายหนุ่มจับมือหญิงสาวไว้ซะแน่น
จะพาข้ามถนน คนางค์ทำหน้าแหย ๆ

"คุณ!..ไม่ต้องจูงฉันขนาดนั้นก็ได้..ฉันข้ามเองเป็น" ชายหนุ่มหันมามองตาขวาง

"เมื่อกี้เกือบตายยังไม่สำนึกอีก..เดินไม่ดูตาม้าตาเรืออยากเป็นผีเฝ้าถนนหรือไง" คนางค์ทำ
หน้าเจี๋ยมเจี้ยม พึมพำออกมาเบาๆ

"ก็ข้ามไปได้อ่ะ..ไม่เห็นเป็นไรเลย" บ่นงึมงำ..และก็ต้องกระโดดเหยงๆ เพราะความร้อนบนพื้น
ถนนมันเริ่มมีปฎิกิริยากับเท้าเปล่าเปลือยของหญิงสาว ชายหนุ่มหันมามอง

"เป็นอะไร"

"ร้อน!" ธันวาขมวดคิ้ว

"ยัยบ้าเอ๊ย!..และรองเท้ามีทำไมไม่ใส่..ถืออยู่ได้" หญิงสาวหน้างอ

"เท้ามันเปรอะทราย..เดี๋ยวรองเท้าฉันก็เปื้อนกันพอดีสิ" ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือก

"งั้นก็ทนร้อนไปเถอะ" หญิงสาวหน้ามุ้ย..มองถนนซ้ายทีขวาที..เมื่อไหร่มันจะหมดนะ มันจะวิ่ง
อะไรกันนักหนา รำพึงรำพันในใจ ซอยเท้าพรึบๆอยู่อย่างงั้น ยืนนิ่งไม่ได้มันร้อน..ชายหนุ่ม
กระตุกข้อมือเป็นสัญญาณว่าข้ามได้..หญิงสาวรีบเดินขนาบข้างอย่างไว..ชายหนุ่มยังคงจับข้อ
มือไว้แน่นพาเดินมาที่รถ

"นี่!นี่!..ขอฉันไปล้างเท้าในร้านอาหารก่อนได้มั๊ยอ่ะ..เดี๋ยวรถคุณเปื้อน" ธันวาโบกมืออย่างไว

"ไม่ต้อง! ไม่เป็นไร "

"มันเหนียวเท้าอ่ะ..นะ" ส่งเสียงมาอีก..ชายหนุ่มถอนหายใจอีกระรอก

"เรื่องมากจริงๆเลยแม่คุณ..ตามใจ! เร็วๆนะถ้าช้าฉันจะปล่อยเธอไว้ที่นี่แหละ" ขู่มาอีกคำรบ
นึง คนางค์รีบเดินอย่างเร็วเข้าไปในร้านอาหาร..หายไปพักใหญ่ๆ และก็กลับออกมา เปิดประตู
ก้าวขึ้นรถอย่างไว

"เสร็จแล้วค่ะ..โกอะเฮด ทู แบ๊งค๊อก" ยิ้มแป้นส่งให้ มือก็จัดแจงรัดเข็มขัดนิรภัยอย่างขะมัก
เขม้น..ชายหนุ่มเหลือบตามอง ส่งเสียงมาเบาๆ

"ติ๊งต๊อง!" สายตากลับไปมองถนนใหม่ หญิงสาวทำหูทวนลมถือซะว่าไม่ได้ยินแล้วกัน..นั่งเฉย
ไม่พูดอะไรออกมาซักคำ..บรรยากาศอยู่ในความเงียบสงบอีกครั้งนึง..นั่งมาได้เกือบครึ่งชั่ว
โมงคนางค์เริ่มอึดอัด..เหลือบตามองคนข้างๆ เห็นนั่งขับเฉยก็เริ่มหน้างอ..นั่งอยู่ได้ไง..เพลง
เพลิงก็ไม่เปิดฟัง..ปล่อยให้มันเงียบอยู่ได้..เหลือบไปมองใหม่เห็นชายหนุ่มหันมามองอยู่ก่อน
แล้ว รีบหันกลับทันที..

"เมื่อกี้คุยอะไรกับ ราดอฟ" ชายหนุ่มส่งเสียงถามมา คนางค์เลิกคิ้ว

"ก็ทักทายกันปกติธรรมดา..ก็เหมือนคุณทักทายเค้านั่นแหละ" ชายหนุ่มนิ่วหน้า

"ไม่ใช่..ก่อนที่มันจะกลับน่ะ..ฉันเห็นมันพ่นภาษาเยอรมันออกมาซะไฟแลบ..เธอก็หน้ายิ้ม
แป้นเชียว..คุยอะไรกัน" หญิงสาวนั่งอมยิ้ม

"อ๋อ! เค้าบอกว่าเราคงได้เจอกันอีกเร็วๆนี้..และก็คราวหน้าเค้าจะซักประวัติฉันอย่างละเอียด
ยิบเลย..ฉันก็เลยบอกเค้าไปว่า..ยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งค่ะ..พร้อมเสมอ" ใส่ไข่เพิ่มไปอีกนิด
หน่อย ชายหนุ่มขมวดคิ้วหันมามอง

"ชอบเค้าเหรอไง..เปิดทางให้ซะขนาดนั้น" หญิงสาวยิ้มแป้น

"ก็น่ารักดีค่ะ..รูปร่างดีหน้าตาก็หล่อเหลาเอาการอยู่..อัธยาศรัยก็ใช้ได้..ไม่น่าจะมีปัญหา
อะไร" ชายหนุ่มหันกลับไปมองถนนใหม่ หัวเราะออกมาเบาๆ

"ระวังหน่อยนะ..ราดอฟมันออกจะเจ้าชู้อยู่ซักหน่อย..ยังไงก็อย่าให้เสียชื่อเสียงสาวไทยล่ะ"
ประชดประชันกลับมาอีกระรอก..หญิงสาวขมวดคิ้วบ้าง..เริ่มเข้าใจความคิดของชายหนุ่มที่นั่ง
ข้างๆ

"ขอบคุณค่ะ..จะจำไว้" ชายหนุ่มเหลือบตามองนิดนึง เห็นหญิงสาวนั่งหน้าเชิดคิ้วขมวดอยู่ ก็ส่ง
เสียงออกมาเนิบๆ

"ทำไมถึงพูดเยอรมันได้..ไปเรียนมาจากไหน" ชายหนุ่มชวนคุยหวังจะทำให้บรรยากาศที่เริ่ม
อึมครึมมันผ่อนคลายขึ้น

"พอดีแถวบ้านมีโรงเรียนสอนศาสนามาตั้งอยู่ค่ะดิฉันก็เลยได้เรียน..แล้วซิสเตอร์ที่สอนก็เป็น
คนเยอรมันด้วย..ก็เลยได้หัดพูดหัดเขียนอยู่บ่อยๆ" นั่งคอแข็ง หน้าเชิดตอบกลับมา

"รวมถึงภาษาอังกฤษด้วยหรือเปล่า"

"ค่ะ!รวมด้วย" ชายหนุ่มเหลือบตามอง เห็นหญิงสาวยังนั่งหน้ามุ้ยอยู่ถามคำตอบคำ..ก็เริ่มไม่
สบอารมณ์

"เป็นอะไร!"

"เปล่า!"

"และนั่งหน้าเชิดทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ทำไม..กิริยาท่าทางอย่างเงี้ยไม่เหมาะกับเธอหรอก
น่ะ..อย่าทำ..ขอร้อง" หญิงสาวนิ่งเงียบไม่โต้ตอบออกมาซักแอะ ยิ่งทำให้ชายหนุ่มฉุนกึก

"นี่! มีปัญหาอะไรก็พูดๆ ออกมา..อย่ามานิ่งเงียบอย่างงี้ฉันไม่ชอบ" คนางค์ยิ่งปิดปากแน่น
ธันวาเหลือบตามองอีกครั้ง และก็ถอนหายใจออกมาดังเฮือก

"อ่ะ! ขอโทษแล้วกัน..ฉันพูดอะไรผิดไปก็ขอโทษ" ปัง!!!! เสียงเหล็กกระทบเหล็กดังอยู่ข้าง
หน้ามอเตอร์ไซด์หมุนคว้าง รถเก๋งที่ชนเหยียบคันเร่งมิดขับหนีออกไปแบบไม่คิดชีวิต หญิง
สาวตาเบิกโพลง ส่งเสียงออกมาอย่างดัง

"ไม่!..โอ้พระเจ้า...จอด!..จอด!..จอด! คุณ..จอดซิ" หันมาเร่งยิก ยิก ชายหนุ่มพยักหน้าส่งให้

"รู้แล้ว..ใจเย็นๆ คนางค์!" ชายหนุ่มค่อยๆ ชะลอรถจอดเทียบฟุตบาท..หญิงสาวรีบลงจากรถ
อย่างไว ธันวาถึงกับขมวดคิ้วออกมารีบลงตามไปอีกคน เห็นหญิงสาวไปยืนข้างๆ คนเจ็บเรียบ
ร้อยแล้ว..มอเตอร์ไซด์กระเด็นตกคูไปอยู่อีกฝั่งนึง บ่งบอกถึงการปะทะกันอย่างแรง..คนางค์
นั่งลงข้างๆ คนเจ็บ เลือดนองเต็มพื้นไปหมด..หญิงสาวเห็นเลือดเท่านั้นแหละหน้าเริ่มซีด แต่ก็
ยังคงทำใจดีสู้เสือ..เขย่าตัวคนเจ็บเบาๆ

"คุณ! เป็นยังไงบ้าง" คนเจ็บหันมามอง สีหน้าสีตาบ่งบอกถึงความเจ็บปวดไม่ใช่น้อย พูดไม่
ออกไม่รู้จะบอกยังไงมันเจ็บระบมไปหมด..ธันวาเดินมานั่งข้างๆ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง

"คุณ! คุณโทรเรียกรถพยาบาลสิ..โทรบอกตำรวจด้วยนะ..บอกว่ารถที่ชน ยี่ห้อ Honda civic สี
ตะกั่ว ทะเบียน กรุงเทพ กษ-3487" พูดระรัวเร็วออกมา ชายหนุ่มฟังถึงกับขมวดคิ้วไม่อยากจะ
เชื่อ ชั่วเวลาเพียงไม่กี่วินาที หญิงสาวสามารถบอกถึงรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆได้ โดยไม่
สะดุดซักนิดพูดได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนกับผ่านสายตามาซักสามสี่หนอย่างงั้น..ชายหนุ่ม
โทรหาตำรวจแจ้งรายละเอียดตามที่คนางค์บอกมาทั้งหมด และก็หันกลับมาหาใหม่ เห็นหญิง
สาวนั่งหน้าซีดมองมือตัวเองนิ่งอยู่...

"เป็นอะไร" คนางค์เงยหน้าขึ้นมอง ส่งเสียงละล่ำละลักออกไป

"ละ..ละ..เลือดอ่ะ" ธันวาขมวดคิ้ว เห็นเลือดของผู้บาดเจ็บติดอยู่ที่อุ้งมือของหญิงสาวเป็นวง
กว้าง

"นั่งรออยู่นี่..เดี๋ยวฉันไปเอากระดาษทิชชู่มาเช็ดให้..เฮ้ย!"อุทานออกมาเสียงดัง..ยื่นมือไป
ประคองหลังหญิงสาวอย่างไว..เป็นลม!..ดีที่นั่งอยู่ใกล้ๆกันไม่อย่างงั้นมีได้หัวน๊อกพื้นไปอีก
ราย..ชายหนุ่มจับหญิงสาวเอนพิงตัวเองไว้..

"ยัยบ้าเอ๊ย!..มาเป็นลมอะไรตอนนี้..นี่เธอ!..เธอ!..คนางค์..นาง" ตบหน้าคนางค์เบาๆ หญิงสาว
คงยังไม่ฟื้นนั่งแน่นิ่งเอนพิงตัวชายหนุ่มอยู่อย่างงั้น..ธันวาโบกไม้โบกมือพัดให้เบาๆ แล้วเสียง
ไซเลนของรถพยาบาลก็ดังเข้ามาเป็นระยะๆ ซักพักก็มาจอดตรงที่เกิดเหตุ นำคนป่วยขึ้นรถ
เสร็จสรรพ..พยาบาลก็ถือสำลีจุ่มแอมโมเนียมาจ่อที่จมูกหญิงสาว ซักครู่คนางค์ก็ฟื้นคืนสภาพ
เหมือนเดิมแต่ใบหน้ายังคงซีดอยู่...พยาบาลยิ้มส่งให้

"กลัวเลือดเหรอคะ" คนางค์ยิ้มแหยๆ พยักหน้าหงึก หงึก ทำเอาคนที่ประคองอยู่ข้างหลัง
หัวเราะ หึ หึ ยัยเบื้อก!..ออกจะเก่งกล้าสามารถทุกอย่าง..ดันกลัวเลือด!..ดูจะมีเรื่องให้ฉัน
เซอร์ไพรซ์ได้ไม่หยุดหย่อนซะจริงๆ หัวเราะเบาๆ ออกมาอีกครั้ง หญิงสาวได้ยินหันหน้ามา
มอง นวลแก้มปะทะกับปลายจมูกของคนที่นั่งอยู่ข้างหลังเข้าเต็มลัก..ธันวาเลิกคิ้วอมยิ้มนิดๆ
คนางค์หน้าแดงรีบเขยิบจะลุกขึ้น ชายหนุ่มส่งเสียงออกมา..

"ลุกไหวแล้วเหรอ"

"วะ ไหวค่ะ" รีบลุกอย่างเร็ว ชายหนุ่มลุกตามขึ้นมาบ้างเห็นหญิงสาวจะยกมือขึ้นมาดูอีก ธันวา
รีบดึงมือไว้

"ยังไม่ต้องดูเดี๋ยวได้เป็นลมไปอีก..ไปล้างมือก่อน" จูงมือหญิงสาวมาที่ท้ายรถ เปิดฝา
กระโปรงหลังหยิบขวดน้ำที่อยู่หลังรถออกมา

"อ่ะ! ยื่นมือมา" หญิงสาวทำตามแต่โดยดี พยายามไม่เหลือบแลไปยังมือที่ก่อเหตุ ชายหนุ่ม
อมยิ้มเอื้อมมือมาถูออกให้..แล้วก็เสร็จสรรพ...

"รออยู่นี่แหละ..เดี๋ยวฉันเอากระดาษทิชชู่มาให้" แล้วก็หายวับไป ซักครู่ก็กลับมาใหม่พร้อม
กระดาษทิชชู่ในมือยื่นส่งให้หญิงสาว คนางค์รีบรับมาเช็ดอย่างไว...

"เสร็จแล้วใช่มั๊ย" คนางค์พยักหน้าหงึก หงึก

"งั้นไป!..ตำรวจเค้าเชิญไปสอบนิดหน่อย..ตอนนี้เค้าจับไอ้รถคันนั้นได้แล้ว" หญิงสาวยิ้มแป้น

"เหรอคะ!..ดีๆ ต้องเอาให้เข็ดหลาบ..ไอ้พวกชนแล้วหนีเนี่ย..ฉันละเกลียดนักไม่มนุษย์ธรรม"
เรี่ยวแรงเริ่มกลับมาอีกระรอกพากันเดินไปขึ้นรถ..ทั้งสองใช้เวลาอยู่บนโรงพักอีกประมาณซัก
ครึ่งชั่วโมงได้ก็พากันเดินออกมาจากข้างใน หญิงสาวส่งเสียงปาวๆ

"ไม่อยากจะเชื่อโลกมันกลมดีแท้..ตาพีรยศนี่เป็นลูกของคุณพนาที่ออกไปจริงๆเหรอคะ" ชาย
หนุ่มพยักหน้าส่งให้ เดินอ้อมไปนั่งประจำที่คนขับ..หญิงสาวนึกถึงหน้าคนที่เป็นพ่อแล้วก็
พึมพำในใจ...พ่อลูกหน้าตาขี้โกงทั้งคู่..เมื่อกี้ตอนอยู่บนโรงพักไอ้ตัวลูกทำให้คนางค์ฉุนขาด
มาทีนึงแล้ว..เล่นข่มขู่คนางค์ต่อหน้าตำรวจช่างไม่ได้กลัวเกรงหน้าอินทร์หน้าพรมใดๆทั้งสิ้นคง
ถือว่าพ่อตัวเองใหญ่..รวยมั่งคั่งนึกจะกดขี่ข่มเหงใครๆก็ได้..แต่พีรยศรู้จักคนางค์น้อยไป..หญิง
สาวไม่เคยยอมให้ใครมากด หรือว่าข่มอยู่แล้ว ตอกกลับไปด้วยเรื่องกฎหมายเป็นชุดๆ มีกี่
มาตราที่ว่าด้วยเรื่องการข่มขู่ หญิงสาวงัดออกมาใช้หมด บทลงโทษที่อยู่ในหัวมันแล่นออกมา
เป็นกระสายไม่มีสะดุด..เล่นเอาพีรยศนั่งอ้าปากหวอพูดไม่ทัน..ตำรวจบนโรงพักถึงกับเงียบไป
ชั่วขณะเหมือนนั่งฟังคนางค์ติวข้อสอบให้โดยปริยาย..ธันวากับสารวัตรนั่งอมยิ้มนิ่งฟังคนางค์
พูดจ๋อยๆไม่ขัดซักคำ..สารวัตรเห็นควรแก่เวลาแล้วนั่นแหละถึงได้ลุกขึ้นมา..นำตัวพีรยศไป
ฝากขังไว้ก่อนรอจนกว่าจะมีญาติมาประกันตัว..

หญิงสาวนั่งนิ่งมาในรถไม่พูดอะไรออกมาซักคำ..ผิดกับตอนที่อยู่บนโรงพักหน้ามือเป็น
หลังมือ..ชายหนุ่มเหลือบตามอง

"เป็นอะไรนั่งนิ่งเชียว" หญิงสาวหันมามองบ้าง

"คุณเชื่อมั๊ยไอ้นายนั่นน่ะ..ไม่เกินคืนนี้หรอกเดี๋ยวก็ได้ออกมาขับรถป๋อโฉบไปโฉบมา..พลอย
ทำให้คนอื่นเดื่อดร้อนอีกแน่ๆ" ธันวาหันมาเลิกคิ้วส่งให้ หญิงสาวพยักหน้ายิก ยิก

"จริงๆ เงินมันหนาไง..แค่ควักออกมาไม่กี่หมื่นกี่พันก็ฟาดหัวคนอย่างพวกฉันได้ไม่ยากเย็น..
ยอมความกันง่ายๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น" ชายหนุ่มนั่งฟังนิ่ง หญิงสาวยังคงส่งเสียงมาเนิบๆ

"คนเรามันต่างกันที่ฐานะจริงๆ..เพียงแค่ไอ้เงินนี่เท่านั้นแหละมันเป็นตัวแบ่งแยกอย่างชัดเจน
จริงๆ..พลอยทำให้ศักดิ์ศรีที่มันมีอยู่กันทั่วทุกคน ถูกลิดรอนไปเพราะไอ้ตัวเงินนี่แท้ๆ..ต่อให้มี
อุดมการณ์ติดตัวติดหัวมาก็เถอะ ก็ยังแพ้ราบคาบ..ความอยากได้อยากมี อยากถีบให้ตัวเองสูง
ขึ้น อยากหนีจากความยากจน อยากไปให้พ้นจากความเจ็บป่วยมันอยู่เหนือกว่าคำว่า
อุดมการณ์อยู่หลายขุมนัก..ฉันถึงเรียนกฎหมายไง อยากเป็นทนาย อยากดึงศักดิ์ศรีของความ
เป็นคนที่มันค่อยๆ เลือนหายออกไปจากกลุ่มคนหมู่มาก ที่ดูเหมือนจะมีศักดิ์ศรีเพียงน้อยนิด
จากสายตาของบุคคลบางกลุ่ม..ให้มันกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง..ถึงจะเป็นเพียงแค่หนึ่งแรง
แต่ฉันก็อยากทำ" ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกตามองถนนเบื้องหน้า..คนางค์!เธอยังอ่อนต่อโลก
นัก ชีวิตจริงมันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ..มันโหดร้ายกว่าที่เธอคิดเยอะ......



กรกนก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 มิ.ย. 2554, 16:23:39 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 มิ.ย. 2554, 16:23:39 น.

จำนวนการเข้าชม : 1646





<< ตอนที่4: ความบังเอิญ   ตอนที่ 6 :จุดเริ่มต้น >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account