กรุ่นไอรักหลังลมร้อน
สบายๆ คลายเครียด..
Tags: สาวขอนแก่นเข้ากรุง

ตอน: ตอนที่ 7 : กามเทพแผลงศร

“มีกระเป๋าที่โหลดมากับเครื่องหรือเปล่า” ธันวาหันหน้ามาถาม หลังจากพากันลงมาจาก
เครื่อง คนางค์สั่นหัวยิกๆ

“ไม่มีค่ะ..มีมาใบเดียว..ใบเนี้ย” หันหลังโชว์เป้ใบเก่ง..ชายหนุ่มเลิกคิ้วแปลกใจเล็กน้อย

“งั้นไป!”ว่าแล้วก็เดินนำอย่างไว..มีคนางค์วิ่งตามดุ๊กๆ อยู่ข้างหลัง

“คู๊ณ!!..ช้าๆหน่อยสิ..ไม่ทัน!” ชายหนุ่มหันมามองนิดนึง..เปรยออกมาเบาๆ

“ขาสั้น” หญิงสาวเบรกเอี๊ยดด!!! ก้มลงมองขาตัวเองทันที..ฉันเนี่ยนะขาสั้น ดูตรงไหนอ่ะสูง
กว่ามาตรฐานสาวไทยอีกนะ..เงยหน้าขึ้นมาส่งค้อนไล่หลังคนตัวสูง..ตัวเองน่ะสิไม่เหมือนม
นุษย์มนาเค้าขายาวเป็นตะเกียบ ยืนหยุดค่อนขอดเค้าในใจอยู่อย่างงั้นแหละ ธันวาหันมามอง
ขมวดคิ้วส่งให้

“นี่! ยัยเต่า! จะหยุดยืนอีกนานมั๊ย...เวลาฉันมีค่านะทำอะไรให้มันเร็วๆ หน่อย..เอี้ยมเฟี้ยม..
ต้วมเตี้ยม..เตาะแตะ..เป็นเด็กสามขวบไปได้” พูดเสร็จก็หันกลับทันที คนางค์หน้ามุ่ยรีบเดิน
ตามต้อยๆ..ปากบ่นงึมงำไปตลอดทาง...ริมฝีปากไม่เห็นบาง..แต่ไหงทำไมปากจัดอย่างงั้นก็
ไม่รู้..ยิ่งกว่าผู้หญิงอีก....

โป๊กกก!!!!!!

“โอ๊ยยยย!” ชนเข้ากับประตูกระจกใส..หน้าผงะหงายหลัง..เสียงร้องดังลั่นทำให้ชายหนุ่มหัน
กลับมามองอีกครั้งหนึ่ง เห็นหญิงสาวยืนกุมหน้าอยู่หลังประตูต้นเหตุ..ก็รีบเดินย้อนกลับมาหา

“เจ็บหรือเปล่า!”

“เจ็บ!!” เอามือกุมหน้าอยู่อย่างงั้นแหละ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือก!

“เฟอะฟะ..เดินแค่นี้ก็ต้องให้ชนไม่เห็นหรือไงบานใหญ่ออกขนาดนี้” มือหลุดออกจากใบหน้า
ทันที

“ก็ไม่เห็นน่ะสิ!..ถ้าเห็นจะชนเหรอ..ถามมาได้” น้ำเสียงเริ่มดัง พาล! มองชายหนุ่มตาขวาง มือ
ก็นวดหน้าผากปร้อยๆ ธันวาส่ายหน้าเอือมระอาเต็มที่ ยัยบ๊องเอ๊ย! มีเรื่องให้ต้องเจ็บตัวได้
ตลอดเวลาสิน่า!

“ไหนดูซิ” จับมือคนางค์ให้ออกจากใบหน้า เห็นหน้าผากกลมมลเริ่มปรากฏร่องรอย สังเกตได้
จากความโหนกนูนที่เริ่มเพิ่มพูนขึ้นมา ชายหนุ่มอมยิ้มมุมปากนิดๆ คนางค์เห็นเข้าค้อนตาคว่ำ

“ยิ้มอะไร!”

“เปล่า!” ยื่นมือมาเขยิบแว่นตาบนใบหน้าหญิงสาว ให้กลับมาตั้งอยู่บนดั้งเหมือนเดิม

“กระเปิ๊บ! กระป๊าบ!ไม่เคยเปลี่ยน!..ดีนะกระจกไม่แตก” ส่งเสียงพึมพำออกมา คนางค์หน้าบึ้ง
หนักขึ้นไปอีก

“คุณไม่มาโดนอย่างฉันไม่รู้หรอกน่ะ..มันเจ็บนะ..และทำไมต้องเช็ดซะใสขนาดนั้นด้วยก็ไม่รู้..
มองไม่รู้เลย!..สงสัยวันๆ คงจะเช็ดแต่กระจกอย่างเดียวล่ะมั้งมันถึงใสขนาดนี้” พาลใส่คนเช็ด
กระจกซะอย่างงั้น..ยืนมองชายหนุ่มตาขวางไม่เลิก..อีตาบ้านี่ก็อีกคน..คนไม่ห่วง!..ห่วง
กระจก! ค้อนใส่ชายหนุ่มควับๆ..ธันวาถอนหายใจอีกระลอก ไม่รู้จะสงสารหรือจะสมน้ำหน้า
หญิงสาวตรงหน้าดี...

“เดินไม่ดูที่ดูทางเอง..ยังไปพาลใส่คนอื่นเค้าอีก..คนเค้าเดินกันเกลื่อนไปหมดไม่เห็นเค้าเป็น
อะไรเลย..มีแต่เธอนี่แหละซุ่มซ่าม!...ไป!..รีบไปได้แล้วเดี๋ยวไม่ทัน” ว่าแล้วก็คว้าข้อมือ
คนางค์ลากไปด้วยกัน..หญิงสาวตัวแทบลอยตามแรงดึงของชายหนุ่ม

“คู๊ณ!!..ไม่ต้องลากก็ได้ฉันเดินเองได้”

“เอาไว้ก่อน!..เดี๋ยวค่อยไปเดินเองหลังจากที่ฉันเซ็นต์สัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้วโน่น!..ตอนนี้
ต้องลากไว้ก่อนไม่ไว้ใจเดี๋ยวทำฉันเสียเวลาอีก..ธุรกิจฉันหลายล้านไม่อยากให้มันพังเพราะ
ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียว” หญิงสาวหน้ายู่..ขี้บ่น!..อะไรจะกันนักกันหนา!..กะอีแค่เสียเวลา
ห้านาทีสิบนาทีนี่นะ..มันถึงกับจะทำให้ธุรกิจพังเชียวเหรอ!..โอเวอร์! ค้อนใส่หลังคนเดินหน้า
อีกระลอก...

“พี่ธัน! ทางนี้” หันไปมองหาต้นเสียงกันทั้งคู่ ธันวายิ้มจับข้อมือหญิงสาวกระชับมากยิ่งขึ้นพา
เดินเข้าไปหาชายหนุ่มหน้าตาดีเบื้องหน้า

“ว่าไง! เจ้าสิงห์มาเองเลยเหรอ”

“เข้ามาในเมืองพอดีฮะ..เลยอาสามารับเอง” ปากพูดกับพี่ชาย..แต่สายตามิได้พลาดไปจาก
หญิงสาวตรงหน้าแม้แต่น้อย..เลิกคิ้วอมยิ้มให้คนางค์ หญิงสาวยิ้มพริ้มส่งให้ สิงหาสกิดแขนพี่
ชายยิกๆ พยักพเยิดหน้ามาทางคนางค์

“ใครฮะ!..ไม่แนะนำผมหน่อยเหรอ” ธันวาเลิกคิ้วหันมามองตามสายตาน้องชาย เห็นคนางค์ยิ้ม
ยิงฟันส่งให้สิงหาอยู่ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ยัยต๊องเอ๊ย! ยิ้มซะ! ส่งเสียงเข้มออกมา

“นี่คุณคนางค์ผู้ช่วยเจ้าดล..ส่วนนี่ก็สิงหาน้องชายฉัน..หนึ่งในผู้บริหารของ TD Goup”

“หวัดดีครับคุณคนางค์!..ยินดีที่ได้รู้จักครับ” คนางค์ยิ้มแป้นรีบแกะข้อมือออกจากมือธันวาเป็น
การใหญ่ ยกมือขึ้นไหว้สิงหาทันที

“สวัสดีค่ะคุณสิงหา..ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ..มีอะไรให้นาง และทีมงานทางด้านกฎหมายรับ
ใช้บอกได้เลยนะคะพร้อมบริการเต็มที่..ไม่มีอิดเอื้อน ไม่มีอิดออด ไม่แชเชือน..ไม่บิดเบือน
ความจริง..พร้อมเสมอค่ะ” ยืนยิ้มพริ้ม สิงหาหัวเราะก๊ากก!ขำ! ธันวาพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ
ขัดลูกนัยน์ตาเป็นยิ่งนัก

“จะคุยกันอีกนานมั๊ย!..เดี๋ยวก็ไม่ทันพอดี..แกนัดเค้าไว้กี่โมงเจ้าสิงห์” สิงหายังคงอมยิ้มอยู่

“บ่ายสองโมงฮะ..เจอที่รีสอร์ทเลย”

“งั้นไป!..ต้องข้ามเรืออีกเดี๋ยวไม่ทัน” ว่าแล้วก็เปิดประตูหลังให้คนางค์ขึ้นไปนั่ง ส่วนตัวเองขึ้น
ไปนั่งหน้าข้างๆ น้องชายที่ประจำตำแหน่งสารถี

“แขกเยอะมั๊ยช่วงนี้” ธันวาแหงะหน้ามาถาม

“เรื่อยๆ พี่..ช่วงนี้หน้าหนาวแขกน้อยกว่าปกติหน่อยส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติซะมากกว่า..
ผมก็วิ่งขึ้นวิ่งลง ภูเก็ต กระบี่ และก็ตรังนี่แหละ เทียวไปเทียวมาอยู่อย่างเงี้ยตัวดำเป็นเหนียง
แล้ว..เริ่มเบื่อแล้วอ่ะ!..พี่ธันมาแทนมั่งดิ..ให้ผมไปนั่งกรุงเทพฯ มั่ง นะฮะ” หันมายิ้มแป้นกับ
พี่ชาย...ธันวาหัวเราะออกมาเบาๆ ตาก็มองถนนเบื้องหน้า

“เบื่อจริงๆ เหร้อ!..อย่ามาพูดเลยเหม็นขี้ฟันว่ะ..ชอบล่ะสิไม่ว่า..พอประชุมทีไรไม่เห็นแกพูด
ออกมาซักที ปากปิดแนบสนิทเชียว พอพ่อถามฉันไม่เห็นแกบอกท่านไปอย่างงี้เลย” สิงหา
อมยิ้ม จะมีครั้งไหนบ้างมั๊ยที่เขาจะปิดความคิดไม่ให้พี่ชายได้รู้บ้าง..ดูจะรู้ทันความคิดเขาไป
ซะหมด..นี่ล่ะมั้งที่เค้าว่าคนเกิดก่อนมีชัยไปกว่าครึ่ง.. สิงหาไม่ชอบนั่งทำงานอยู่กับที่ในห้อง
แคบๆ สี่เหลี่ยมๆ ชอบที่จะเดินทางอยู่เรื่อยๆ ยิ่งอยู่กับธรรมชาติเป็นสิ่งที่เขาชอบมากที่สุด
และดูเหมือนธันวาจะรู้ด้วย..พอบริษัทฯ ประมูลซื้อรีสอร์ทที่จังหวัดตรังได้ ธันวาก็ส่งสิงหาลง
มาควบคุมที่นี่ทันที พร้อมกับดูแลสาขาของ TD Group ที่แผ่ขยายคลอบคลุมมาถึงทางใต้ไป
ในตัว.....

“ทางโน้นขยับตัวบ้างมั๊ย!” ธันวาส่งน้ำเสียงถามมาเนิบๆ หนุ่มผู้น้องหน้าเครียดขึ้นทันที

“เงียบฮะ!..ไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย..ไม่รู้ว่าคลื่นสงบ ก่อนที่พายุจะเข้าหรือเปล่า..มันเงียบผิด
ปกติ..แต่ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนะฮะ..ให้เจ้าลักษณ์กับพี่เวศน์ไปติดต่อผู้ใหญ่ในเมืองไว้เรียบ
ร้อยแล้ว..เดี๋ยวมีเหตุมาแล้วมันจะยุ่งภายหลัง..ป้องกันไว้ก่อน” ธันวาพยักหน้านิดๆ สายตา
มองออกไปเบื้องหน้าในหัวมีแต่เรื่องให้ต้องขบคิดอยู่ตลอดเวลา สิงหาแหงะหน้ามามองพอ
เห็นใบหน้าพี่ชายก็อมยิ้มส่งให้

“ไว้ใจผมหรือเปล่า!” ธันวาถอนหายใจเฮือก! เอนศีรษะพิงพนักยิ้มออกมานิดๆ

“แกทำตัวน่าไว้ใจหรือเปล่าล่ะ!” หนุ่มผู้น้องหัวเราะเบาๆ

“โถ่พี่ชาย! ของหวานน่ะ..ขอผมมั่งเหอะ อย่าให้แต่ของขมนักเลย และก็ต้องไปนั่งขบคิดอยู่
ตลอดเวลาว่าพี่มันชมหรือมันด่าวะ...เอาคำง่ายๆอ่ะ! ไม่ต้องแบบเลี่ยนๆ ก็ได้..ชมน้องซะบ้าง
ผมไม่เหลิงหรอก..นะพี่ธันนะ..พี่ชายสุดหล่อของน้องสุดที่เลิฟ” มีเสียงหัวเราะคิกๆ ส่งมาจาก
เบาะหลัง นั่นแหละสองหนุ่มข้างหน้าถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีหญิงสาวอีกนางนึงนั่งอยู่ในรถด้วย..
เพราะตลอดเวลาที่คุยกันระหว่างพี่น้องไม่มีเสียงออกมาซักแอะจากปากของหญิงสาว..ทำตัว
ล่องหลไร้วี่แวว..คนางค์นั่งฟังตลอดเก็บข้อมูลระหว่างพี่น้องเข้าหัวเป็นที่เรียบร้อย..ฟังจากการ
พูดของทั้งสองดูจะเป็นพี่น้องที่สนิทกันมาก..น้องชายท่าทางจะเคารพนับถือเชื่อฟังพี่ชายมิใช่
น้อย..คนน้องท่าทางจะขี้เล่นหน่อยๆ ด้วย..ผิดกับผู้พี่หน้ามือเป็นหลังมือ...

สิงหาเหลือบตามองกระจกมองหลัง เห็นหญิงสาวนั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชึ้..เอาหน้าแนบกระจกมอง
ดูวิวข้างทาง ก็อมยิ้มส่งเสียงถามออกไป

“คุณคนางค์เคยลงมาตรังหรือยังครับ!” หญิงสาวหันหน้ามามอง

“ยังค่ะ!..นางยังไม่เคยมา” สิงหายิ้มแป้น มือก็ตบไฟเลี้ยวเข้าท่าเรือ

“ดีครับ! เดี๋ยวถ้าเสร็จธุระแล้ว..ผมจะเป็นไก่พาเที่ยวเอง” ยักคิ้วแผล๊บๆ ใส่กระจกมองหลังส่ง
ให้คนางค์ หญิงสาวหัวเราะออกมา

“ขอบคุณมากค่ะ”

“ยินดีครับ!” ธันวาที่นั่งฟังอยู่ด้วยส่งเสียงออกมาเนิบๆ

“งานไม่มีทำหรือไง” สิงหาจอดรถหันมายิ้มส่งให้

“แหมพี่ธัน! คุณคนางค์เพิ่งจะเคยมาครั้งแรก..เราเป็นเจ้าของบ้านที่ดีก็ต้องต้อนรับขับสู้หน่อยสิ
พี่..แขกจะได้มาเยือนบ่อยๆ เค้าเรียกว่าสร้างแรงดึงดูดใจ ทีหลังเธอจะได้กลับมาอีก” จบด้วย
การยักคิ้วส่งให้พี่ชายอีกหนึ่งแพล๊บ!

“ไปพี่ลงๆ ถึงแล้ว..ผมให้เจ้าแจ๊คมันจอดเรือรออยู่ที่ท่าแหนะ” พูดเสร็จก็หันหน้ามาหาคนางค์

“เชิญครับคุณคนางค์..เดี๋ยวเราจะต่อเรือข้ามไปเกาะกัน” คนางค์พยักหน้ายิ้มแป้นรีบเปิดประตู
ลงจากรถอย่างไว..ธันวาลงมายืนรออยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวรีบเดินไปยืนข้างๆ ส่งยิ้มให้ อารมณ์
ดี!ตาเป็นประกายเพราะเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกตอยู่ใกล้แค่เอื้อม ธันวาเหลือบตามองหญิงสาว
นิดนึง..ยัยนี่..หน้าตาแววตาเปิดเผยซะเหลือเกิน..ดูรู้หมดว่าคิดอะไรอยู่..ช่างไม่เหมาะกับ
อาชีพที่ทำเลยจริงจริ๊ง..ชายหนุ่มส่ายหน้าอีกระลอก สิงหาล๊อครถเสร็จเรียบร้อยก็เดินมา
สมทบ ออกเดินไปบนสะพานปลาพร้อมกัน

สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้าที่ขายของที่ระลึก บ้างก็ขายอาหารทะเล อาหารสด ดูจะมี
คนเดินเข้าออกกันขวักไขว่..คนางค์เห็นถึงกับยิ้มแป้น..หญิงสาวไม่ค่อยได้เจอบรรยากาศแบบ
นี้..ไม่เคยได้สำผัสถึงกลิ่นไอ และก็วิถีชีวิตของชาวประมงมาก่อน..มันเลยเป็นสิ่งที่จะดูตื่นตา
ตื่นใจ แถมยังทำให้ตื่นเต้นทุกชั่วขณะ..

ไอ้เปี๊ยกเอ๊ย!..ให้ตายเหอะ! บรรยากาศมันได้อารมณ์จริงๆ ไอ้ที่เค้าเขียนไว้ในหนังสือว่าชีวิต
ของชาวเล..มันจะเป็นสีฟ้า ฉาบด้วยสีเขียวอ่อนน่ะ..มันเป็นอย่างงั้นจริงๆ..ดูมันสดใสและก็เย็น
ตาสบายใจซะเหลือเกิน ผู้คนก็สวยๆ หล่อคมเข้มกันทั้งนั้น..ไหนใครบอกนะว่าคนทางใต้ดุ!..
ฉันคนนึงล่ะขอเถียงเลย..หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับแขกจะตายไป!..นี่ถ้าฉันเลือกเกิดได้..
หรือจับพลัดจับผลูให้ต้องย้ายพำนักที่พักอาศัยนะ..ฉันขอมาตั้งรกรากอยู่ที่นี่แหละ..ขอหลบ
แดดร้อนๆจากบ้านเรา..มาผึ่งรับลมร้อนๆ เคล้ากลิ่นเค็มของน้ำทะเลที่ดูจะเขียวดั่งมรกตล้ำค่า
และก็คงจะลึกเกินจะหยั่งถึง ณ ที่แห่งนี้แหละ เฮ้อ!..ฉันหลงเสน่ห์ทะเลตรังซะแล้วล่ะ
ไอ้เปี๊ยก!..

“จะไปไหนน่ะ!” คนางค์สะดุ้งโหยง หลุดจากพวัง

“คะ คะ ค้า” รีบหันซ้ายหันขวา หาเลิกลั่ก

“ทางนี้..ยัยเบื้อก!” คนางค์รีบหันหลังควับ ตามเสียงเห็นธันวายืนขมวดคิ้วนิ่วหน้าอยู่ หญิงสาว
ส่งยิ้มแหยๆ ให้อย่างไว รีบกระเถิบถอยหลังมายืนใกล้ๆ ธันวายังคงยืนมองอยู่ ส่งเสียง
ถามออกมา

“จะเดินไปไหนน่ะ!..เดินลิ่วๆ เลย..เดี๋ยวก็ตกสะพานเท่านั้น..มันสุดสะพานแล้ว!!”

“คะ..คือ..จะไปดูว่าปลายสะพานมันมีอะไร แฮะๆ” ไถไปเรื่อย ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจ
เฮือก!

“ติ๊ง ต๊อง!” เปรยออกมาเบาๆ และก็หันกลับไปยังเรือที่จอดคอยอยู่..เรือไม่เล็กและก็ไม่ใหญ่
มากนัก นั่งได้ประมาณแปดถึงสิบคนเป็นสปีดโบ๊ท..สิงหาลงไปอยู่ในเรือเรียบร้อยแล้ว..มีหนุ่ม
น้อยหน้าตาคมเข้มทำหน้าที่ขับเรือ..

“ไป!..เธอลงไปก่อน..เดี๋ยวเฟอะฟะ..ก้าวพลาด! ฉันจะได้คุมหลังไว้ทัน” ยังไม่วาย..คนางค์
มองด้วยปลายหางตา อยากจะตอกกลับให้ซักลูกเหมือนกัน..แต่เกรงใจเพราะอยู่ต่อหน้าคน
อื่น กลัวธันวาจะเสียการปกครอง..เดี๋ยว!รอให้อยู่สองต่อสองก่อน ถ้าแหยมเข้ามาอีกนะ แม่จะ
สับให้เละเลย!..อาฆาตแค้นในใจ ขาก็ค่อยๆก้าวเดิน..

“มาครับคุณคนางค์..เดี๋ยวผมช่วย” สิงหายื่นมือมารับ คนางค์ยิ้มพริ้มเห็นฟันขาวจั๊ว!

“ขอบคุณมากค่ะ! คุณสิงหา” สิงหาหัวเราะเบาๆ ค่อยๆ ประคองกันลงมา

“ทีหลังเรียงสิงห์ เฉยๆก็ได้ครับคุณคนางค์..มันดูหนิดหนมหน่อย..เรียกสิงหาแล้วมันสะดุ้ง
ทุกที..ผมอยากจะเปลี่ยนหลายหนแล้ว..ไอ้ชื่อสิงหาเนี่ยไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ผมตั้งไปได้ยังไง..ชื่อ
มีตั้งร้อยตั้งพันชื่อตั้งเอาง่ายๆ ซะงั้น เกิดเดือนไหนก็ตั้งมันเดือนนั้นเลย..ดูสิครับดูพ่อกับแม่ผม
ทำ” คนางค์อมยิ้ม มือก็ค่อยๆปลดเป้ออกจากหลังแล้วก็หย่อนก้นนั่งลงบนเบาะ สิงหาเดินไป
นั่งฝั่งตรงข้าม...

“คุณสิงห์ก็เหมือนกันค่ะทีหลังเรียกนางเฉยๆ ก็ได้..จะได้ดูหนิดหนมเหมือนกัน” ยิ้มพริ้มส่ง
ให้ “ว่าแต่ถ้าจะเปลี่ยนชื่อ..คุณสิงห์จะเปลี่ยนเป็นชื่ออะไรล่ะคะ” คนางค์ยังคุยต่อ..ปลายหาง
ตาเห็นธันวาเพิ่งก้าวลงมาบนเรือ เดินมานั่งข้างๆ หญิงสาว

“ผมว่าจะเปลี่ยนเป็น August!” หญิงสาวหัวเราะเสียงดัง ขำ! ในตาพราวระยิบ

“อ้อ! ชอบอินเตอร์..ไม่ชอบของไทย!”

“ของไทยก็ชอบครับ..แต่เป็นบางอย่าง..ยกตัวอย่างเช่น สาวไทย!..ชอบมากกกก” คนางค์ได้
ฟังถึงกับเลิกคิ้วอมยิ้ม อือหือ! คนน้องนี่เจ้าชู้เอาเรื่องเหมือนกันแฮะ..ตาหวานเชียว..

“ดีค่ะ!..เดี๋ยวนี้หาผู้ชายที่ชอบผู้หญิงได้น้อยซะเหลือเกิน..ส่วนมากจะไปชอบพวกเดียวกันซะก็
เยอะ..ได้ฟังอย่างนี้ก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย..อย่างน้อยๆ ก็ยังมีอยู่ตรงนี้อีกหนึ่งคนที่ยังชอบผู้หญิง
อยู่!” ก๊ากกก สิงหาหัวเราะเสียงดัง ถูกใจ! ฉลาดพูดไม่เลวแฮะ..น่าค้นหา..ท่าทางจะมีอะไร
สนุกๆให้แกทำแล้วล่ะ..ไอ้สิงห์เอ๊ย!

“ใครบอกคุณนางล่ะครับ!..ว่าตรงนี้มีแค่หนึ่งคน..นั่งอยู่ข้างๆ คุณนางก็อีกคน..พี่ธันไงครับนั่น
น่ะตัวชอบผู้หญิงเลย” คนางค์หัวเราะ

“เหรอ! ค้า!!” แกล้งทำเสียงสูง ธันวาได้ฟังถึงกับเลิกคิ้วพยักหน้าส่งให้น้องชาย

“จะคุยก็คุยกันไป..ไม่ต้องเอาชื่อฉันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้มั๊ย..และเมื่อไหร่จะออกเรือซักที..
เจ้าแจ๊ค!ออกเรือได้แล้ว” ส่งเสียงตะโกนปาวๆ บอกหนุ่มน้อยนามว่าแจ๊ค ให้ออกเรือ

“คร๊าบบ!คุณธัน..ได้ตามประสงค์เดี๋ยวนี้..เดี๋ยวผมจะขับให้แล่นฉิวเหนือผิวน้ำเลย..ถึงที่หมาย
โดยเร็วไว คร๊าบบบ!” ส่งเสียงกลับมา..ธันวาหัวเราะ หึหึ ลุกขึ้นจากเบาะที่นั่ง เดินไปนั่งข้างคน
ขับ

“ไม่ต้องแล่นฉิวอย่างกับเหาะเหมือนคราวที่แล้วอีกล่ะ..เอาแค่พอประมาณ..ครั้งที่แล้วแทบ
ลากไส้ออกมากอง” แจ๊คหันมาหัวเราะส่งให้

“ก็ผมเห็นคุณธันด่วน!..ผมก็เลยจัดให้” หันไปควบคุมเรือต่อ..เรือแล่นไปด้วยความเร็วคงที่ ฝ่า
เกรียวคลื่นที่จะมีเข้ามาเป็นระลอกๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้างตามแต่กระแสลมจะพาไป..แต่ถึงกระนั้น
เรือที่แล่นไปด้วยความเร็วคงที่..มันก็ไม่ช่วยอะไรให้มันดีขึ้นมาเลย มันยังคงกระแทกกระทั้น
กับเกลียวคลื่นเบื้องล่างอยู่เป็นระยะๆ คลื่นลูกเล็กยังพอทำเนา แต่พอได้สัมผัสกับลูกที่ใหญ่
กว่า..ถึงกับทำให้คนที่ไม่เคยนั่งเรือเร็วอย่างคนางค์หัวสั่นหัวคลอน..จับราวเหล็กด้านข้างแน่น
กลัวจะหล่นลงไปบนผืนทะเลกว้าง..หน้าเริ่มซีดรู้สึกปั่นป่วนมวนในช่องท้อง..เหมือนกับเกรียว
คลื่นมันไปหมุนติ้วๆ อยู่ในช่องท้องก็ไม่ปาน..หน้าเริ่มหงิก..วุ้ย! พ่อคุณแม่คุณ ทำไมมัน
นานอย่างงี้อ่ะ..เมื่อไหร่จะถึงซักที อยากจะอ๊วก!! นึกได้ดังนั้นรีบลุกขึ้นยืนโผล่หน้าออกไป
นอกเรือ..โก่งคอเต็มที่..เริ่มทำบุญทำทาน บริจาคอาหารให้กับเหล่าฝูงปลาน้อยใหญ่ที่อยู่ใน
ทะเล (^ ^) สิงหาหันมามองมีอันต้อง เลิกคิ้วแปลกใจรีบเคลื่อนกายเข้ามาใกล้ๆ


“ไหวมั๊ยครับคุณนาง” หญิงสาวยังคงโก่งคออยู่..มันตีขึ้นมาอยู่ที่คอหอย..แต่พูดออกไปไม่ได้
ได้แต่พงกหัวหงึก หงัก ทำนองว่าไหว..สิงหาลูบหลังลูบไหล่ให้ใหญ่

“เป็นอะไร” เสียงธันวาลอยเข้ามา..ซักแป๊บก็ค่อยๆ เดินเข้ามาหาอีกคน

“สงสัยจะเมาเรือฮะ..ออกมาหมดไม่มีเหลือหลอ” ธันวาพยักหน้า หันไปตะโกนบอกแจ๊คให้
หยุดเรือก่อน

“บนเรือมีน้ำเปล่ามั๊ย..เจ้าแจ๊ค!”

“มีฮะ” แจ๊ครีบกุลีกุจอหยิบขวดน้ำ..พร้อมกับกระดาษทิชชู่เดินมาส่งให้ ธันวาเปิดฝาขวด และ
ก็ยื่นส่งให้คนางค์

“อ่ะ! กลั้วคอ..ล้างปากซะ” หญิงสาวรับมาแต่โดยดีรีบทำตามที่ชายหนุ่มบอกทันควัน..มีส่งยิ้ม
แหยๆ ให้ธันวาด้วย..ชายหนุ่มจ้องมองนิ่ง เห็นใบหน้าหญิงสาวยังคงความซีดอยู่

“ยังมีอาการอีกเหรอเปล่า” คนางค์พยักหน้ายิก ยิก

“มันยังมวนๆ อยู่ค่ะ..อยากจะอ๊วก!” สิงหาอมยิ้ม

“ยังไม่หมดกระเพาะอีกเหรอครับ..ผมเห็นออกมาไม่ใช่น้อย” หญิงสาวหันมายิ้มปูเลี่ยนๆ มือก็
เช็ดปากปร้อยๆ

“ไม่รู้ว่าหมดหรือยัง..แต่มันยังอยากจะออกอีกอ่ะค่ะ” สิงหาหัวเราะเสียงดัง..ธันวายังคงยืน
มองอยู่ส่งน้ำเสียงถามมาเนิบๆ

“ทนอีกสักครู่ได้หรือเปล่า..เดี๋ยวก็ถึงแล้ว”

“ได้ค่ะ..ไม่มีปัญหา” รีบพูดอย่างไว..ไม่อยากให้ตัวเองต้องมาเป็นภาระ ทำให้คนอื่นเดือด
ร้อน

“เวลานั่งเรือเร็วแบบเนี้ย..พยายามมองออกไปไกลๆ กว้างๆ อย่ามองที่จุดใดจุดนึงนานๆ มันจะ
ทำให้เมาเรือได้” ส่งน้ำเสียงเนิบๆ สอนมาอีกระลอก..หญิงสาวพยักหน้าหงึก ๆ เชื่อฟังอย่างว่า
ง่าย..สิงหาที่ได้ฟังด้วยถึงกับเลิกคิ้วอมยิ้ม..ไม่เคยได้ยินน้ำเสียงเอื้ออาทรแบบนี้ของพี่ชายมา
ก่อน..จะมีบ้างก็กับน้องสาวและก็กับแม่..แต่กับบุคคลภายนอก หรือแม้แต่ผู้หญิงที่พี่ชายคบ
อยู่ด้วย..เขาไม่เคยได้ยินสักครั้งจะมีก็ครั้งนี้แหละ ได้ยินสองรูหู ได้เห็นสองลูกกะตา..โดย
นิสัยลึกๆ ธันวาเป็นคนอ่อนโยนช่างเอาใจ คนในครอบครัวและก็เพื่อนสนิทจะรู้ดี..แต่กับบุคคล
ภายนอก หรือลูกน้องใต้บังคับบัญชาแล้ว ธันวาจะไม่ค่อยแสดงนิสัยด้านนี้ให้ได้เห็น..สิงหา
เลยแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง..นั่งยิ้มในหน้า อยากจะทดสอบปฏิกิริยาของพี่ชายอีกสักครั้ง..ส่ง
เสียงระร่ำระลักออกมา..

“หน้าผากคุณนางไปโดนอะไรมาครับเนี่ย..โนเชียว” เอื้อมมือจะไปแตะหน้าผากหญิงสาว
คนางค์หน้าเหวอ..ผงะหน้าหนีทันที กำลังจะอ้าปากแต่ไม่ทันคนที่ยืนอยู่ข้างๆ

“นี่เจ้าสิงห์!..เค้าเป็นผู้หญิงเกรงใจเค้าหน่อย..ถามเฉยๆ ก็ได้ไม่ต้องเอื้อมไปแตะเค้าขนาด
นั้น..ทำเป็นไอ้พวกปากว่ามือถึงไปได้” บ่นอุบมองน้องชายตาขวาง..สิงหากลั้นยิ้ม แกล้งเลิก
คิ้ว

“อุ๊ย! ขอโทษครับลืมตัวไปหน่อย..ว่าแต่ไปโดนอะไรมาครับ..โนเชียวเริ่มออกสีม่วงประปราย
แล้วด้วย” คนางค์หัวเราะเบาๆ ยกมือรูปหน้าผากปร้อยๆ

“ชนประตูกระจกที่สนามบินค่ะ..มันใสจัดเลยมองไม่ค่อยเห็น” สิงหาเลิกคิ้ว

“อ้อ!..ท่าทางจะชนแรง” แจ๊คที่ยืนฟังอยู่ด้วย คันปากยิบๆ อยากจะออกความเห็นด้วย

“แหม..คุณสิงห์ถามได้..โนขนาดนั้นผมว่ากระจกแตกไปแล้วมั้งป่านเนี้ย” เท่านั้นแหละ หันมา
มองแจ๊คเป็นตาเดียว..สายตาของแต่ละบุคคลบ่งบอกอารมณ์ที่อยู่ข้างในได้ดี..คนางค์หัวเราะ
ส่งยิ้มให้..ผิดกับสองหนุ่มแทบจะกลืนกินหัวแจ๊คเข้าไปเลยทีเดียว..แจ๊ครีบถอยตีจาก

“คร๊าบบบ! ไปแล้วคร๊าบบ มองอย่างกะจะกินหัวผมเข้าไปแหนะ..โหดทั้งพี่ทั้งน้อง” ว่าแล้วก็
ซอยเท้าถี่ไปนั่งประจำตำแหน่งสารถี ปากก็ส่งเสียงปาวๆ

“คุณธัน..ออกเรือเลยมั๊ยฮะ!”

“ออกเลย!” นั่นแหละ เรือถึงเริ่มเดินเครื่องอีกครั้ง..ธันวากลับมานั่งเบาะข้างๆ คนางค์เหมือน
เดิม บรรยากาศอยู่ในความเงียบสงบ มีแต่เสียงเดินเรือ และก็เสียงคลื่นกระทบใต้ท้องเรือเป็น
ระยะๆ หญิงสาวนั่งนิ่งทำตามที่ธันวาบอก..มองออกไปนอกเรือตลอดไม่พยายามหันมามองคน
ในเรือเลย..ถ้าเหลือบมองซักนิดจะเห็นชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ มองตัวเองเป็นระยะๆ คอยดู
ปฏิกิริยาของหญิงสาว..และฉันท์ใดก็ฉันท์นั้นถ้าธันวามองคนอื่นบ้างที่ไม่ใช่หญิงสาว..ก็จะเห็น
น้องชายตัวเองนั่งอมยิ้มมองเขาด้วยเช่นกัน..มันยังไงซะแล้วโว้ยพี่ชาย!!..สงสัยงานนี้มีลุ้น!!
นั่งยิ้มพริ้มอยู่คนเดียว...ซักครู่เรือก็เข้าเทียบท่าเป็นสะพานไม้ทอดยาวออกมาจากฝั่ง..คนบน
เกาะดูพลุกพล่านเหลือเกิน..คนางค์ถึงกับเบิกตาโพลง..โอ้โห! นี่ขนาดไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวนะ..
คนยังเยอะขนาดนี้..ถ้าเป็นฤดูท่องเที่ยวมันจะเยอะมากขนาดไหนเนี่ย..ยืนนิ่งอยู่อย่างงั้น
แหละ...

“ไปครับคุณนาง..เข้าไปข้างในกัน” คนางค์หลุดจากพวัง รีบเดินตามสิงหาต้อยๆ ธันวาเดินจ้ำ
อ้าวไปข้างหน้าแล้ว..ไม่ได้หยุดยืนรอ

“นั่นคุณธัน..เค้าจะรีบไปตามใครที่ไหนคะนั่น..เดินจ้ำอย่างกะใครเอาอะไรไปจี้ก้นไว้” สิงหา
หันมามองอมยิ้มเลิกคิ้วส่งให้ หญิงสาวเห็นเงียบไปเลยแหงะหน้ามาดู..เพิ่งรู้สึกตัวรีบเอามือปิด
ปากไว้

“นะ..นาง ขอโทษค่ะ..ละ ลืมตัวไปหน่อย..คือมันเคยปากน่ะค่ะ” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเสียง
ดัง

“ไม่เป็นไรหรอกครับ..น่ารักดี..ผมชอบ!!”คนางค์ยิ้มปูเลี่ยน ปูเลี่ยนส่งให้ “และก็คิดว่าพี่ธันก็
คงจะชอบด้วย” ประโยคหลังพึมพำเบา..เล่นเอาหญิงสาวเงี้ยหูฟังใหญ่ไม่ค่อยจะได้ยิน

“คะ..คะ..ค้า!!” ชายหนุ่มอมยิ้ม

“เปล่าครับ..ไม่มีอะไรหรอก..ไป!..เข้าไปข้างในกัน..เอาข้าวของไปเก็บก่อน..นี่กระเป๋าคุณ
นางมีมาใบเดียวเองเหรอครับ..ดูมันเล็กๆ เบาๆ จัง” มองสำรวจกระเป๋าคนางค์เต็มที่ หญิงสาว
ยิ้มแป้น

“ใบเดียวค่ะ มาแป๊บเดียวเอง..ตอนเย็นก็เดินทางกลับแล้ว..จะขนมาทำไมซะเยอะล่ะคะ..
หนัก!! แหะๆ” หัวเราะออกมาเบาๆ แก้เก้อ..สิงหามีอันต้องเลิกคิ้วอีกระลอก แปลกใจ! แต่ก็ไม่
ได้พูดอะไรรีบเดินนำ พาคนางค์เข้ามายังรีสอร์ท..คนางค์เห็นตัวรีสอร์ทถึงกับอุทานออกมา

“สวยจังเลยค่ะคุณสิงห์..รูปแบบคล้ายๆ ในหนังสือที่นางเคยเห็นทางแถบโซนอินเดียนั่นเลย
ค่ะ” สิงหาอมยิ้มในหน้า

“เหมือนเหรอครับ”

“ไม่ใช่ค่ะ..ไม่เหมือนซะทีเดียวแต่มีส่วนคล้าย..เข้าใจก่อสร้างนะคะมันสวยมากเลย” สิงหา
หัวเราะ เดินไปขอกุญแจห้องจากพนักงาน และก็เดินกลับมาหาคนางค์ที่ยังคงยืนยิ้มมอง
สำรวจรอบๆ อยู่

“ต้องยกความดีความชอบให้เจ้าของเดิมเค้าน่ะครับ..เค้าตกแต่งไว้ซะสวยเลย..กำลังจะเปิดทำ
การอยู่แล้วเชียว แต่ดันมีเหตุให้ต้องขายซะก่อน TD Group ก็เลยเข้ามาประมูล และก็ได้น่ะ
ครับ..เข้ามาต่อตรงโน้นนิดแต่งตรงนี้หน่อยก็เลยเป็นอย่างที่เห็นทุกวันนี้...ไปครับ!” สิงหาพยัก
หน้า พาคนางค์เดินไปด้วยกัน

“พนักงานเยอะมั๊ยคะ”

“ห้าสิบกว่าคนได้” คนางค์เลิกคิ้ว..สิงหาหันมาเห็นก็หัวเราะ

“น้อยไปเหรอครับ” หญิงสาวสั่นหัวหงึก ๆ มือก็ดันแว่นที่ทำท่าจะหล่นให้ขึ้นไปอยู่บนดั้ง

“เยอะค่ะ..ทำไมมันเยอะอย่างนั้นล่ะคะ”

“ที่นี่ทำครบวงจรน่ะครับ..เรียกว่าที่อื่นเค้ามีอะไรกันที่นี่มีหมด..ก็เลยต้องใช้พนักงานเยอะ..แต่
ส่วนมากพนักงานที่นี่ก็เป็นคนในพื้นที่ทั้งนั้นล่ะครับ..ไม่ค่อยจะมีคนต่างถิ่นเท่าไหร่..นโยบาย
ของพี่ธันเค้าน่ะครับ..สนับสนุนคนในพื้นที่ให้มีงานทำ” ยักคิ้วแพล๊บๆ ส่งให้คนางค์..หญิงสาว
หัวเราะเสียงดัง และก็เดินมาถึงที่พักเป็นเรือนหลังน้อย ที่ดูกระจุ่มกระจิ๋มมีต้นไม้ดอกไม้เขต
ร้อนปลูกเรียงรายอยู่หน้าบ้าน..คนางค์เห็นถึงกับอมยิ้มออกมา

“น่ารักอีกแล้วค่ะ..ปลูกได้น่ารักจัง” ชายหนุ่มอมยิ้มเอากุญแจไขประตูเปิดเข้าไป และก็หันมา
ยื่นกุญแจส่งให้

“ข้างหลังน่ารักกว่านี้ครับ..อ่ะนี่ครับกุญแจห้อง..เอาของไปเก็บในห้องก่อน..จะล้างหน้าล้างตา
ซะหน่อยก็ได้..แล้วค่อยไปเจอที่ล๊อบบี้ตอนเที่ยงครึ่งนะครับ”

“ค่ะ” สิงหายิ้มแป้น

“Good Trip ครับ!” คนางค์ขมวดคิ้ว รีบพยักหน้าอย่างไว ถึงจะงง! งวย! กับคำพูดของชาย
หนุ่มอยู่บ้างก็เถอะ

“ขอบคุณมากค่ะ” ชายหนุ่มอมยิ้มหัวเราะออกมาเบาๆ เดินผละจากไป คนางค์ยังคงขมวดคิ้ว
อยู่ ก้าวเข้าไปในห้อง ปิดประตูตามหลัง..

“พูดอะไรของเค้านะตานี่” บ่นงึมงำ มือก็จัดแจงเอาเป้ออกจากหลัง สายตาสำรวจไปรอบห้อง
ตาเป็นประกาย

“จัดห้องน่าอยู่จังเลยอ่ะ” มีอันต้องเบิกตาโพลงส่งเสียงกรี๊ดดด! ออกมา รีบวิ่งดุ๊กๆ ไปดูข้าง
หลัง

“โอ้พระเจ้า! น่ารักจังเลย” รีบเปิดประตูกระจกอย่างไว เป็นเทอเรสน้อยๆ ยื่นออกไปบนสนาม
หญ้าเขียวขจี มีดอกไม้เมืองร้อนแต่งแต้มเต็มไปหมด ถัดไปอีกนิดเห็นริมหาดที่เงียบสงบคลื่น
ไม่แรงมาก..ทรายสีขาวละเอียดระยิบระยับงามจับตา น้ำทะเลสีฟ้าต้องแสงแดดเป็นประกาย
คนางค์ยืนมองอมยิ้มพริ้ม..สงสัยตรงนี้ต้องเป็นหาดอีกฝั่งนึงแน่ๆ เลย ดูผู้คนไม่ค่อยพลุก
พล่าน..หญิงสาวกวาดตามองไปทั่ว และก็ต้องตาเหลือก..เห็นหญิงสาวชาวต่างชาติสองคน
นอนอาบแดดปลดช่วงบนออกหมด..รีบหันหลังกลับทันที

“อึยส์!..ถึงขนาดแก้ช่วงบนกันเลยเหรอ!..ใจถึงชิปเป๋ง” เดินกลับเข้ามาในห้อง..เหลือบดู
นาฬิกา รีบกุลีกุจอ ล้างหน้าล้างตาหวีผมซะใหม่..เดินไปหยิบเอกสารในเป้..กลับมาดูความ
เรียบร้อยหน้ากระจกอีกครั้งนึงและก็พาตัวเองไปที่ล๊อบบี้ตามเวลานัดหมาย เข้ามาถึงเห็นธันวา
กำลังยืนคุยอยู่กับหญิงชายสองคน..คนางค์เลยเดินเตร็ดเตร่อยู่ห่างๆ ชายหนุ่มเหลือบตามอง
พอดี กวักมือเรียกให้เข้าไปหา แนะนำให้รู้จักกับบุคคลทั้งสอง ผู้ชายชื่อนิเวศน์เป็นผู้จัดการคุม
รีสอร์ทอยู่ที่นี่ ส่วนอีกคนชื่อบุษบง ประชาสัมพันธ์สาวของรีสอร์ท หน้าตาคมขำ..ทั้งสองยิ้ม
ละไมส่งให้คนางค์

“ยินดีต้อนรับสู่ทะเลตรังรีสอร์ทค่ะคุณคนางค์..ขอให้มีความสุขกับช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่นะคะ”

“ขอบคุณมากค่ะ” คนางค์ยิ้มพริ้ม..ดูผู้คนที่นี่จะทำให้คนางค์ประทับใจซะเหลือเกินนอกเหนือ
จากสถานที่ และธรรมชาติที่สร้างสรรค์ความงดงามที่เห็นได้ทั่วไปบนเกาะแห่งนี้แล้ว..การต้อน
รับการเอาใจใส่ต่อแขกผู้มาเยือนของบุคคลที่นี่ก็มีล้นมากมายเหลือหลายไม่ได้ยิ่งหย่อนน้อย
ลงไปเลย..ตั้งแต่ระดับใหญ่ไล่มาถึงพนักงานระดับล่าง..คนางค์มิแปลกใจแล้วว่าทำไมแขกถึง
ได้เข้าเยอะทั้งๆ ที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว...

“หิวหรือยัง” เสียงธันวาถามส่งมา คนางค์ยิ้มแหยๆ..หิวมากกก!

“นะ..นิดหน่อยค่ะ” ค่อยๆ เอื้อนเอ่ยออกมา ปากไม่ตรงกับใจ ชายหนุ่มพยักหน้า หันไปหา
บุคคลทั้งสองที่ยืนอยู่ด้วย

“พี่เวศน์..คุณบุษอยู่ทานด้วยกันก่อนนะครับ!”

“เชิญตามสบายเลยครับคุณธัน..เดี๋ยวพี่กับเจ้าบุษขอตัวก่อน พอดีต้องดูแลแขกด้วย..มากัน
หลายคณะ ถ้าคุณธันต้องการอะไร ก็วอ.เรียกนะครับ” ชายพนุ่มพยักหน้า นั่นแหละทั้งสองคน
ถึงเดินผละออกไป

“ไป” ก้าวเดินฉับๆ นำหน้าอย่างไว หญิงสาววิ่งตามตามดุ๊กๆ..กริยาท่าทางของหนุ่มสาวไม่ได้
รอดพ้นจากสายตาพนักงานที่นี่ ต่างมองต่างอมยิ้มไปตามๆกัน พอเจ้าของสถานที่กับแขกสาว
พ้นเข้าห้องอาหารไปแล้วนั่นแหละเหมือนนกกระจอกแตกรัง

“แฟนคุณธันเหรอพี่บุษ” เสียงรีเซฟชั่นสาวนามว่าดาหลา..ถามออกมาอย่างไว พนักงานที่อยู่
ระแวกนั่นคอยเงี่ยหูฟังด้วย อยากรู้ความคืบหน้าของเจ้านายหนุ่ม..บุษบงหัวเราะเบาๆ

“เปล่า! เป็นนักกฎหมายประจำบริษัทจ๊ะ! ประจำอยู่สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพฯ ชื่อคนางค์..วันนี้
เค้ามีเซ็นต์สัญญาซื้อขายที่ดินในเมืองกันที่นี่..คุณคนางค์ก็เลยต้องลงมาตรังด้วย”

“อ้าว! และคุณดลสุดหล่อ..ไม่ลงมาแล้วเหรอพี่บุษ” ดาหลายังข้องใจ ขมวดคิ้วนิ่วหน้าส่งเสียง
ถามมาอีก

“หึไม่มา!..เห็นคุณธันบอกว่าติดธุระด่วนอะไรเนี่ยแหละ...เลยส่งคุณคนางค์ลงมาแทน” รีเซฟ
ชั่นสาวพยักหน้าหงึกๆ แล้วก็ยิ้มพริ้มออกมา

“ว่าแต่!..คุณคนางค์แกน่ารักดีเนอะ..เหมือนตุ๊กตาเลยอ่ะตัวนิดเดียว..ผิวนี้ขาวเนียนหยั่งกะ
เปลือกไข่แหนะ..ผมงี้ดำขลับเลยล่ะ..ตาแกก็โตบ๊องแบ๊วดีจัง..และพี่บุษเห็นตอนแกสะพายเป้
เข้ามามั๊ย” บุษบง อมยิ้มส่ายหัวส่งให้ยืนฟังนิ่ง

“เหมือนเด็กๆเลยอ่ะ..เป้งี้เหลืองแป๊ดมาเลยเดินมาพร้อมกับคุณสิงห์..ตอนแรกที่หนูเห็นนะหนู
นึกว่าเป็นแฟนของคุณสิงห์ซะอีกเพราะเห็นคุยกันกระนุ้ง กระนิ้งอย่างกะคู่รักแหนะ..แต่ไปๆ
มาๆ คุณธันแกมาถามหนูว่า..คุณคนางค์พักอยู่ห้องไหน..ใครพาไปส่ง..พอหนูบอกว่าคุณสิงห์
พาไปเท่านั้นแหละ แกทำท่าจะตามไปเลยนะเหมือนกับจะหวงยังไงไม่รู้..แต่พอดีคงเจอพี่
เวศน์กับพี่บุษก่อนน่ะแกก็เลยไม่ได้ไป..และเมื่อกี้นี้พี่เห็นมั๊ยถามคุณคนางค์น้ำเสียงเอื้ออาทร
มาก..หิวหรือยัง..เหมือนกับเป็นห่วงเป็นใยยังไงยังงั้นเลย..ไอ้หนูก็เลยนึกว่าเค้าเป็นแฟนกัน
น่ะ” เล่ายาวว บุษบงหัวเราะเสียงดัง ส่ายหัวส่งให้

“รู้สึกเรานี่จะเก็บทุกรายละเอียดเลยนะ..ได้ยินทุกคำพูด เก็บทุกกริยาท่าทาง..เค้าจะเป็นแฟน
กันหรือไม่ได้เป็นมันก็เป็นเรื่องของเค้า..ทำงานได้แล้ว..เดี๋ยวฟ้องพี่เวศน์เลยนี่” พนักงานแถวๆ
นั้น อมยิ้มหัวเราะไปตามๆกัน ดาหลาค้อนใส่ควับๆ

“พี่บุษอ่ะ..เดี๋ยวมีอะไรดีๆ หนูไม่เล่าให้ฟังเลยนี่..ขี้ฟ้อง!” บุษบงยักคิ้วส่งให้

“พี่ก็ไม่อยากจะฟัง!” กำลังจะผละไป

“รวมถึงเรื่องคุณสิงห์ด้วยหรือเปล่า” เสียงดาหลาลอยมาเบาๆ บุษบงหันกลับมามอง จ้องตาดา
หลานิ่ง

“โดยเฉพาะเรื่องนี้” แล้วก็เดินผละจากไป..ดาหลายังคงมองส่งจนบุษบงลับสายตา ถอน
หายใจออกมาดังเฮือก! แล้วก็กลับมาสนใจงานเบื้องหน้าต่อ......


####################################################


“อะไรนะ!..ทำไมธันไม่เห็นบอก..เธอโกหกหรือเปล่า” วิลดายืนขมวดคิ้วนิ่วหน้าอยู่หน้าโต๊ะทำ
งาน ปานระวี

“ทำไมดิฉันจะต้องโกหกล่ะคะ..ได้ประโยชน์อะไร” ปานระวีตอบกลับ..มองสบตาหญิงสาว
เบื้องหน้านิ่งไม่มีหลบตา..วิลดาซะอีกถึงกลับต้องเบนสายตาหนี ทำน้ำเสียงในลำคอหงุดหงิด
เต็มที่ ควานหยิบมือถือในกระเป๋าต่อตรงถึงตัวต้นเหตุ..ไม่มีสัญญาณ!

“ทำไมไม่ติดล่ะ!” ส่งน้ำเสียงกระแทกกระทั้น..มือก็เทียวกดไม่มีว่างเว้น..ซักแป๊บปลายสายก็
ตอบรับ หญิงสาวอมยิ้มขึ้นมาทันที

“ฮัลโหล!ธันเหรอคะอยู่ไหนคะเนี่ย.”

“....”

“ตรัง!ทำไมไม่บอกวิมั่งล่ะคะวิจะได้ลงไปด้วย” ส่งน้ำเสียงกระเง้ากระงอดออกไป สายตา
เหลือบเห็นปานระวีนั่งมองอยู่ก็ปลายหางตาส่งให้ควับนึง รีบหันหลัง

“....”

“แหม!ก็วิอยากไปด้วยนี่คะ..ระหว่างธันทำงานวิก็อยู่ที่รีสอร์ทก็ได้!” เดินวนอยู่หน้าโต๊ะปานระวี

“.....” วิลดาได้ฟังถึงกับทำเสียงจึกจักในลำคอ ขมวดคิ้วมุ้น

“ก็ได้ค่ะ...และนี่ธันจะกลับวันไหนคะเนี่ย..วันนี้เหรอเปล่า!”

“......” คิ้วที่ขมวดมุ้น เริ่มเลิกขี้นอย่างเห็นได้ชัด ปานระวีที่นั่งมองดูอยู่ถึงกับอมยิ้ม ก้มหน้าทำ
งานต่อ

“อะไรคะ..ยังกำหนดวันไม่ได้เหรอ อย่างงี้วิก็รอเงกเลยสิคะ...ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยววิตามลงไป”

“......” หญิงสาวหน้าคว่ำ

“ก็ได้ๆ แต่สัญญาก่อนนะคะ..ถ้ามาถึงกรุงเทพฯ แล้วโทรหาวิทันทีนะคะ”

“.....”

“ธัน ๆ คะ..เดี๋ยวก่อน” ปลายสายมีแต่เสียงตู๊ดๆ ส่งกลับมา หญิงสาวกระแทกกระทั้นปิดฝา
โทรศัพท์ฉับไม่สบอารมณ์ ส่งสายตาเขียวให้ปานระวี

“นี่เธอ!..ทีหลังเวลาหัวหน้าไปไหนน่ะหัดรายงานฉันบ้างก็ได้นะ..ไม่ใช่ปิดปากเงียบอย่างงั้น..
กะจะเก็บไว้คนเดียวเลยใช่มั๊ย!” ปานระวีเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มเอกสารส่งยิ้มเย็นๆให้

“คือเรื่องนี้เป็นอะไรที่อยู่นอกเหนือหน้าที่ของเลขาที่ดีค่ะ..กฎของเลขาที่ดีคือไม่เอาเรื่องของ
เจ้านายไปบอกผู้อื่นโดยที่ท่านไม่ได้สั่ง..ในกรณีนี้ก็เช่นกันคุณธันวาไม่ได้สั่งมันก็ถือว่านอก
เหนือหน้าที่..ดิฉันทำไม่ได้ค่ะ” ยิ้มหวานส่งให้อีกระรอกนึง..วิลดามองตาขวาง ฮึดฮัดกระฟัด
กระเฟียดเดินออกไปจากห้องทำงานของเลขาสาว ปานระวีนั่งมองตามหลังหัวเราะในลำคอ..
ก้มหน้าทำงานที่ยังค้างต่อให้เสร็จลุล่วง!...


#####################################################

การเซ็นต์สัญญาเป็นไปได้ด้วยดีไม่มีติดขัดคู่สัญญามาก่อนเวลานิดหน่อย..ทั้งสองฝ่ายดูจะ
พออกพอใจในข้อสัญญาที่ทำขึ้นไม่มีได้เปรียบเสียเปรียบกันมากนัก..คนางค์นั่งรวมอยู่ใน
กลุ่มด้วย..นั่งฟังนิ่งนึกชื่นชมธันวาอยู่ในใจ..คนางค์ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม บรัษัท TD Goup
ถึงได้เป็นกราฟขาขึ้นไม่มีตกลงเลยในระยะสี่ห้าปีหลังตามที่แจ๊ดเคยบอกไว้..ผู้บริหารไฟแรง
อย่างธันวาคงทำได้ไม่ยาก..ดูจากการพูดการจา..โน้มน้าวจิตใจคนได้ดีเหลือเกิน..ขนาด
คนางค์ยังนั่งฟังเพลินลืมเวลา เข้าใจธุรกิจที่ตัวเองทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น..ถ้าธันวาเปลี่ยนสาย
อาชีพไปเป็นอาจารย์ก็คงจะรุ่งแน่ๆ ทางสายงานนี้..คำพูดทุกอย่างมีหลักการหน้าเชื่อถือ ไม่มี
น้ำเสียงไม่แน่ใจที่ออกจากปากของชายหนุ่ม..ตรงนี้ด้วยล่ะมั้งมันเลยฟังดูมีน้ำหนัก....

“ขอบคุณมากครับ..หวังว่า TD Goup คงจะได้มีโอกาสรับใช้ อิสระ พร๊อบเพอตี้ ในวันข้างหน้า
นะครับ” ชายหนุ่มปิดประเด็น..ล่ำลากันพักใหญ่ คนางค์ยืนรวมอยู่ในกลุ่มด้วย เจ้านายใหญ่
ของ บริษัท คู่สัญญา หันมายิ้มใจดีส่งให้หญิงสาว

“หวัดดีนะครับคุณคนางค์..ถ้าเบื่อ TD Group หรือว่าอยากจะเปลี่ยนงาน..ยังไงก็แล้วแต่..นึก
ถึง อิสระ พร๊อบเพอติ้นะครับ ทางเรายินดีต้อนรับเสมอ” หนุ่มใหญ่รู้สึกถูกชะตาหญิงสาวเบื้อง
หน้าเป็นยิ่งนัก..พูดจาฉะฉาน..เข้าใจถึงวิชาชีพที่ตัวเองทำอยู่..สำเนียงภาษาอังกฤษของหญิง
สาวก็ดีมาก..เล่นเอาหุ้นส่วนชาวต่างชาติของเขาที่มาด้วยถึงกับเลิกคิ้วยกนิ้วให้..เขากำลังต้อง
การบุคลากรเยี่ยงหญิงสาวผู้นี้อยู่..

“ขอบคุณมากค่ะ” หญิงสาวตอบรับส่งยิ้มให้..ทั้งหมดเดินออกไปแล้วนั่นแหละ..คนางค์ถึงกลับ
เข้ามาในห้องอีกครั้งเก็บเอกสารใส่แฟ้ม..หน้ายิ้มแป้นนึกถึงถ้อยคำเมื่อกี้นี้แล้วรู้สึกปลื้มในใจ
ตะหงิด ๆ..ไอ้เปี๊ยก เพื่อนแกมันเก่งมั๊ยล่ะ..มีคนชวนไปทำงานด้วย กรี๊ดดด! ฉันอยากจะบ้า
ตาย..รู้สึกตัวลอยๆ ว่ะ!..เห็นมั๊ยความขยันของฉันมันเริ่มส่งผลแล้ว..อิอิ! ส่งเสียงหัวเราะออก
มาเบาๆ

“เป็นอะไรนั่งยิ้มไม่หุบ..ดีใจอะไรนักหนา” คนางค์เงยหน้าขึ้นมอง เห็นธันวายืนขมวดคิ้วพิง
ประตูจ้องมองอยู่ก็รีบรวบกระดาษที่เหลืออย่างไว

“เปล่าค่ะ!” ก้มหน้าหงุด เป็นอะไรอีกล่ะ..เมือกี้ยังอารมณ์ดีอยู่เลย หญิงสาวไม่เข้าใจบุคคล
เบื้องหน้าเป็นยิ่งนัก ดูอารมณ์จะแปลเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วซะเหลือเกิน

“ทำไม!..อยากไปทำงานกับเค้านักหรือไง..พอเค้าชวนไม่ขัดขืน แถมยังยิ้มซะปากจะฉีกไปถึง
รูหู”

“เปล่า!” ส่งเสียงหนักแน่นออกมา ชักเริ่มไม่สบอารมณ์ เงยหน้าขึ้นมาค้อนควับส่งให้ชายหนุ่ม
ที่ยังยืนนิ่วหน้ามองอยู่

“และทำไมไม่ปฏิเสธเค้าไป..หรือว่ามีไว้เผื่อเลือก” คนางค์หน้าเหวอ เกาหัวแกรกๆ เป็นอะไร
อ่ะตานี่..หรือว่า! และก็เริ่มยิ้มออกมา

“นั่นแน่..รู้สึกเสียดายฉันขึ้นมาล่ะสิ..เห็นฉันทำงานดีใช่มั๊ยล่ะ..เลยกลัวว่าฉันจะไปอยู่บริษัทฯ
อื่นใช่มั๊ย!..บอกมาซะดีๆ รู้น้า!” นั่งยิ้มพริ้ม ธันวาได้ยินถึงกับส่ายหน้า ยังจ้องมองหญิงสาวนิ่ง
อยู่ ส่งน้ำเสียงออกมาเนิบๆ

“เธอจะไปไหนก็เรื่องของเธอ..อย่าหลงตัวเองให้มากนักเลย..ชีวิตของเธอใครจะไปบังคับได้..
ก็ถ้าทางนั้นเค้าให้ข้อเสนอที่ดีกว่าก็ไปซะเถอะ”ช๊อค!! หญิงสาวนิ่งอึ้ง ธันวาเดินหายออกไป
จากห้องเรียบร้อยแล้ว..หญิงสาวยังคงนิ่งอยู่ รู้สึกเจ็บในใจจี๊ดๆ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ได้ ทั้งๆที่ก็โดนคำพูดแรงๆของชายหนุ่มต่อว่าอยู่บ่อยๆ..แต่คราวนี้มัน
แปลกๆ แค่คำว่าไปซะเถอะ!..มันกรีดย้ำเข้าไปถึงก้นบึ้งเลยทีเดียว..เหมือนตัวเองไม่มีความ
สำคัญยังไงไม่รู้..คนางค์รีบกระพริบตาปริบๆ ข่มคลื่นน้ำตาที่ตีขึ้นมาพาลจะหยด..ให้มันกลับ
ลงไปนอนเป็นก้นตะกอนอีกครั้ง..ค่อยๆ ลุกจากเก้าอี้ก้มลงหยิบแฟ้มขึ้นมาถือแนบอก เดิน
ออกมาจากห้อง กำลังจะพ้นประตูก็มีอันต้องผงะ หงายหลัง ชนสิงหาเข้าอย่างจัง

“อุ้ย! คุณนางขอโทษครับ” ชายหนุ่มรีบคว้าคนางค์ไว้อย่างไว..กำลังจะหล่นลงไปกองแล้ว

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ถามส่งมาอีกระรอก..รีบดึงตัวหญิงสาวขึ้นมา คนางค์ยิ้มแหยๆส่งให้

“มะ..ไม่เป็นไรค่ะ”

“ดูหน้าคุณนางซีดๆจังครับ”

“คะ..คือไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ” หางตาเหลือบเห็นธันวาเดินกลับเข้ามาหน้าบึ้งตึงไม่สนใจใคร..
ผ่านเธอกับสิงหาไปเฉยไม่มีทักทาย..บรรยากาศอยู่ในความเงียบสงบโดยฉับพลัน หันไปมอง
ธันวากันทั้งคู่เห็นชายหนุ่มหยิบแฟ้มเอกสารเดินย้อนกลับมา ก่อนจะผ่านไปมีส่งเสียง
เปรยออกมาเบาๆ

“จะจับ..จะกอดกันน่ะไม่มีใครว่าหรอกนะ..แต่หาที่ให้มันลับตาคนหน่อย..อย่าให้เด็กๆ มันมา
เห็นได้เดี๋ยวมันจะเอาไปเป็นเยี่ยงอย่าง” สายตาจ้องคนางค์เต็มที่ แล้วก็เดินผละออกไป สิงหา
ขมวดคิ้วมุ้น ก้มลงมองแขนตัวเองก็ต้องสะดุ้ง มันยังคงค้างอยู่ที่เอวของหญิงสาวรีบคลายอ้อม
กอดทันที..ขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่

“ขอโทษครับคุณนาง..เมื่อกี้ไม่ทันได้เอาออก..เลยพลอยทำให้พี่ธันเข้าใจผิดไปเลย” หญิง
สาวยิ้มปูเลี่ยน ปูเลี่ยนส่งให้

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ..ถึงไม่มีเรื่องนี้มันก็ต้องมีเรื่องอื่นเข้ามาอีกจนได้นั่นแหละค่ะ” ถอนหายใจ
ออกมาดังเฮือก..จะเดินผละออกไป

“จะไปไหนครับคุณนาง”

“นางจะไปเก็บของน่ะค่ะ..จะบ่ายสี่โมงแล้วเดี๋ยวมันไม่ทันไฟล์ทหกโมงเย็นค่ะ” สิงหาเลิกคิ้ว
สับสน!

“อ้าว! พี่ดลไม่ได้บอกเหรอครับ..ว่าพี่ธันเปลี่ยนไฟล์ทกลับเป็นพรุ่งนี้เย็น” คนางค์ตาเหลือก

“เปล่าค่ะ! คุณดลไม่ได้บอก..นี่นางไม่ทราบเรื่องเลยนะคะเนี่ย” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ้น

“หรือว่า..คือนางกลับวันนี้..และก็คุณธันกลับพรุ่งนี้มั้งคะ”ถามย้ำเผื่อความคิดตัวเองถูกต้อง
สิงหาหัวเราะเบาๆ ส่ายหัวให้

“อันนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ!..ผมว่าไปถามพี่ธันดีกว่าจะได้เข้าใจกันถูกต้อง” คนางค์
พยักหน้าหงึก หงึก เลิกคิ้วจ้องสิงหานิ่ง

“ไม่เดินไปด้วยกันเหรอคะ” สิงหาหัวเราะเสียงดัง

“แหะๆ อย่าหาว่าอย่างโง้น อย่างงี้เลยนะครับคุณนาง..คือผมยังไม่อยากเอาหน้าไปให้พี่ชาย
ผมเห็นตอนนี้น่ะครับท่าทางจะอารมณ์ไม่ดีอยู่..เดี๋ยวจะบูดกันไปใหญ่..เชิญคุณนางเถอะครับ..
เดี๋ยวผมจะรออยู่ตรงล๊อบบี้ ถ้าได้เรื่องยังไงก็เดินมาบอกแล้วกันจะได้จัดการได้ถูก” คนางค์
พยักหน้าหงึก หงึก กำลังจะเดินผละไปนึกขึ้นได้หันกลับมาใหม่

“แล้วเค้าอยู่ที่ไหนล่ะคะ”

“ไม่ริมสระน้ำก็ที่เรือนหลังใหญ่..ถัดจากหลังคุณนางไปนั่นแหละครับ” คนางค์พยักหน้า
อีกระรอก กอดแฟ้มแนบอก เดินตามหาชายหนุ่มที่สระน้ำไม่เห็น..ก็เลยแวะเอาเอกสารเข้าไป
เก็บในห้อง และก็เดินลัดเลาะตามทางเดินมาเรื่อยเสียงคลื่นซัดสาด คละเคล้ากับเสียงหัวเราะ
พูดคุยของบรรดาแขกที่เข้ามาพัก ดังเข้ามาให้ได้ยินเป็นระยะๆ..ซักครู่ก็เห็นบ้านไม้หลังใหญ่
คนางค์ถึงกับยืนดูนิ่ง...สวยจังเลยอ่ะ! ลายไม้สวยจัง! เดินเข้าไปรูปเนื้อไม้ขัดเงาเบาๆ ประหนึ่ง
ถ้าจับแรงๆ มันจะหลุดลอกออกมาซะอย่างงั้น

“คุณธันคะ” ส่งเสียงเรียกออกไป

“คุณธันอยู่หรือเปล่าคะ” ส่งเสียงเข้าไปอีก ก็ยังไม่มีวี่แววเจ้าของชื่อจะโผล่มาให้เห็นแม้แต่
น้อย หญิงสาวขมวดคิ้ว เห็นบานประตูเปิดแง้มๆ อยู่ ก็ค่อยๆ ผลักเข้าไปเดินตามช่องทางมา
เรื่อยๆ

“คุณธันคะ..อยู่หรือเปล่า” ในบ้านมีแต่ความเงียบสงบ คนางค์ค่อยๆ เดินสำรวจไปทั่ว รอยยิ้ม
เริ่มปรากฏบนใบหน้า...

“น่าอยู่จังเลยอ่ะ!” พื้นที่บริเวณบ้าน ตกแต่งเหมือนห้องชุดบนตึกสูงสุดของสำนักงานใหญ่ เน้น
โทนสว่างโดยใช้แสงจากธรรมชาติเข้ามาช่วย..ผนังด้านหน้ากรุกระจกหมดเห็นวิว ริมชายหาด
ได้อย่างชัดเจน..คนางค์ยืนมองอมยิ้มสักครู่ ก็ออกเดินต่อ...

“คุณธันคะอยู่หรือเปล่า” ส่งเสียงเรียกเป็นระยะๆ คิ้วเริ่มขมวด

“ไปไหนของเค้านะ” บ่นงึมงึม ชักเริ่มไม่แน่ใจว่าชายหนุ่มอยู่ในบ้าน เลยหันหลังกลับเดินไปยัง
ประตู และก็ต้องตาเบิกกว้าง..แค่คืบเท่านั้น ช๊อค!! ขาก้าวไม่ออกยืนตัวแข็งทื่อ

กรี๊ดดดด!!!!! ส่งเสียงดังลั่น

“เป็นอะไรคนางค์” เสียงธันวาดังมาจากข้างหลัง สักครู่ก็เข้ามาถึงตัวจับหญิงสาวไว้..คนางค์ยัง
คงกรี๊ดด!! ดังลั่นตัวสั่นงันงก น้ำตาไหลพลั๊กๆ

“คนางค์!” ค่อยๆจับหญิงสาวให้หันกลับมาหา คนางค์ยังคงส่งเสียงดัง..น้ำตาไหลไม่หยุด

“ไม่เป็นไร!..ไม่เป็นไรแล้วคนดี..จุ๊! จุ๊!” ดึงหญิงสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอด กดใบหน้าคนตัวน้อย
แนบอกไว้..ลูบหลังลูบศรีษะ ส่งเสียงปลอบประโลมเต็มที่ คนางค์เริ่มได้สติ แต่น้ำตายังคงมี
ไหลให้ได้เห็นเป็นระยะๆ ตัวยังสั่นเป็นลูกนกตกน้ำ..ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองพอเห็นว่าเป็นธันวาก็
ผวากอดไว้ซะแน่น!

“ไม่มีอะไรแล้ว..คนเก่ง!..ไหนบอกฉันซิกลัวอะไร” ก้มลงถามน้ำเสียงอ่อนโยน มือค่อยๆ
เกลี่ยน้ำตาที่เริ่มจะเบาบางลงแล้ว..คนางค์ค่อยๆเหลือบตามองไปยังประตูอีกครั้ง มีอันต้อง
สะดุ้งตกใจอีกระรอก

“ตะ..ตะ.ตุ๊ก..ฮือๆ ๆ” ซุกไปบนอกชายหนุ่ม..ทำนบที่พยายามกั้นเอาไว้เริ่มทลายออกมาอีก
ครั้งทีนี้หนักกว่าเดิมไหลเหมือนเขื่อนแตก! ชายหนุ่มจับหญิงสาวให้เงยหน้าขึ้น ถอดแว่นที่
เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของคนางค์เอาไปวางไว้บนโต๊ะข้างหลัง

“นาง..ไม่มีอะไรแล้วคนดี” พยายามดันหน้าที่ก้มงุดลงไปอีกระรอก ให้เงยกลับขึ้นมาอีกครั้ง
แต่หญิงสาวขืนตัวแน่น

“มะ..ไม่!..มะ..มะ..มันยังอยู่” ส่งเสียงระล่ำระลักออกมา ชายหนุ่มขมวดคิ้วถามส่งมาเบาๆ

“อะไรล่ะ!” คนางค์ชี้โบ้ชี้เบ้ไปตรงประตู น้ำตายังไหลอยู่ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด ธันวาหันไปมอง
ตามมือของหญิงสาว และก็เห็นตัวต้นเหตุเกาะอยู่หลังประตู..มีอันต้องถอนหายใจออกมาดัง
เฮือก..หัวเราะออกมาเบาๆ..ยายบ๊องเอ๊ย! กะไอ้แค่ตุ๊กแกแค่เนี้ย..ร้องไห้จะเป็นจะตาย! ชาย
หนุ่มอยากจะบีบคอหญิงสาวซะให้รู้แล้วรู้รอด..หัวเราะหึ หึ ออกมาอีกครั้ง

“มันไม่ทำอะไรหรอก..ก็แค่ตุ๊กแก” คนางค์ยังฝังใบหน้าไว้บนอกนั่นแหละ กอดไว้ซะแน่น
สะอื้นเฮือกๆ

“มันไม่ใช่..คะ..แค่..ตุ๊กแก..มะ..มันเป็นตุ๊กแก..ฮือๆ ๆ” ชายหนุ่มอมยิ้มส่ายหน้าให้กับความ
ดื้อดึงของหญิงสาวที่กอดตัวเองไว้ซะแน่น..ธันวาเชยคางหญิงสาวให้เงยขึ้นมามองหน้า พูดน้ำ
เสียงเนิบๆออกมา

“นาง..ฟังฉัน..ไอ้เจ้าตุ๊กแกตัวเนี้ยมันเป็นตุ๊กแกแก่ๆ..ไม่มีน้ำยาหรอก..มันทำอะไรไม่ได้”
คนางค์สะอื้นเฮือกๆ จ้องธันวานิ่ง ส่งเสียงออกมาอีกระลอก

“มะ..มันตัวใหญ่” ธันวาอมยิ้มมือก็เกลี่ยน้ำตาบนใบหน้าออกให้ ส่งเสียงออกมาเนิบๆ

“ใหญ่แต่ตัว..ไม่มีน้ำยา” หญิงสาวยังคงสะอื้นอยู่ สายตาก็ไม่ได้ละจากใบหน้าชายหนุ่ม

“ตัวทะ..เท่าแขนฉัน” ธันวาหัวเราะออกมาเบาๆ ขำกับอาการตื้อไม่เลิกของหญิงสาวตรงหน้า
จ้องริมฝีปากหญิงสาวนิ่ง ส่งน้ำเสียงออกมาเบาๆ

“ปล่อยมันไปเถอะ..สงสารมัน..มันแก่แล้ว”

“มะ..มัน..” บรรยากาศเงียบสงบขึ้นมาทันที..ได้ยินแต่เสียงนาฬิกาในห้องรับรอง..เดินตี๊ก
ต๋อก ติ๊ก ต๋อก..เป็นระยะ ๆ.........



กรกนก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 มิ.ย. 2554, 16:24:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 มิ.ย. 2554, 16:24:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 1848





<< ตอนที่ 6 :จุดเริ่มต้น   ตอนที่ 8 ลางบอกเหตุ >>
kitty 12 มิ.ย. 2554, 22:00:45 น.
รอตอนต่อไปคะ


ratchaneedee 12 มิ.ย. 2554, 22:07:12 น.
เอ่อ...แล้วคุณธันวา จะมีน้ำยาอะป่าวอะคะ


MDDC 13 มิ.ย. 2554, 01:01:01 น.
คนางค์ติงต๊องแต่น่ารักดี


ปอยอะนะ 13 มิ.ย. 2554, 10:13:27 น.
อยากอ่านอีก
มาต่อไวไวนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account