กรุ่นไอรักหลังลมร้อน
สบายๆ คลายเครียด..
Tags: สาวขอนแก่นเข้ากรุง

ตอน: ตอนที่ 8 ลางบอกเหตุ

ชายหนุ่มประทับนิ้วชี้ทาบทับลงบนริมฝีปากหญิงสาวเบาๆ ส่งเสียงออกมาเนิบๆ

“อยู่เฉยๆ คนดี!..ไม่ต้องพูดแล้ว” หน้าใกล้กันแค่คืบ..คนางค์ยังคงจ้องธันวาอยู่อย่างงั้น..
สะอื้นเฮือกๆ ดวงตากลมโตเริ่มออกอาการช้ำ ขนตาจับกันเป็นแพร..นิ้วเรียวยาวเริ่มเคลื่อน
จากริมฝีปาก..บรรจงเกลี่ยน้ำตาบนแก้มนวลออกให้...

“มันไม่มีอะไรหรอกคนางค์..มันอยู่ของมันเฉยๆ..ร้อยวันพันปีฉันไม่เคยเห็นมันทำอะไรผู้คน
เลย..วันนึงร้องนับหนได้มั้ง..อย่างที่บอกไงมันเป็นตุ๊กแกแก่ๆ ที่มีอายุมากแล้ว..ตัวมันอาจจะ
ใหญ่ดูน่าเกลียดน่ากลัวไปซักหน่อย..แต่มันไม่ทำอะไรเราหรอก..เลี้ยงไว้ดูเล่นซักตัวเถอะ”

“ละ..ละ..เลี้ยงไว้ดูเล่น!” หน้าเริ้มเบ้ น้ำตาเริ่มคลออีกครั้ง..คนางค์ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
กับหูเมื่อสักครู่นี้..ธันวาหัวเราะเบาๆ กับกิริยาท่าทางของหญิงสาวตรงหน้า

“ฉันพูดเล่น!..จริงๆแล้วไอ้เจ้าตัวเนี้ยมันอยู่มาก่อนฉันอีกนะไม่ยอมไปไหน..ฉันก็เลยปล่อยไว้
อย่างเงี้ยแหละสงสารมัน..และก็เอาไว้เฝ้าบ้านด้วยน่ะ”

“อะ..เอาไว้ฝะ..เฝ้าบ้านด้วย” สะอื้นไม่หยุด..อยากจะเอาหัวไปโขกกำแพงสักสามสี่รอบ..เผื่อ
การรับฟังมันจะดีขึ้น..เธอเชื่อว่าหูของเธอต้องเฝื่อนไปแน่ๆ ชายหนุ่มอมยิ้ม

“ล้อเล่น!..สรุปมันไม่มีอะไรหรอก..ไม่มีพิษสงค์ใดๆทั้งสิ้น..เพราะฉะนั้นเลิกร้องไห้ได้แล้ว..
คนดี” ค่อยๆ เกลี่ยน้ำตาออกให้ หญิงสาวยังคงจ้องหน้าชายหนุ่มอยู่อย่างงั้น..ก้อนสะอื้นยังมี
ออกมาเป็นพักๆ

“ตะ..ตะ ตัวมันเป็นจุดๆ สะ..สีเขียวๆ”

“ก็จะให้มันเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าสีน้ำเงินหรือไงล่ะ..ธรรมชาติของมันคนางค์..อย่าไปสนใจมัน
เลย”

“มะ..มันน่าเกลียด”ยังไม่หยุด ธันวาเลิกคิ้วหัวเราะออกมาเบาๆ อีกครั้ง

“เธอนี่! ตื้อไม่เลิกแฮะ”

“มะ..มะ..มัน” หญิงสาวนิ่งอึ้งตะลึงงัน!..เสียงหลุดหายไปซะเฉยๆ เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่ว
ขณะ..บรรยากาศโดยรอบเหมือนจะหยุดการเคลื่อนไหว..แวบแรกความคิดของชายหนุ่มเพียง
แค่จะขู่ทำให้เด็กดื้อตรงหน้าสงบลงเท่านั้น แต่การณ์กับเป็นเช่นนั้นไม่..เมื่อได้สัมผัสกับรั้งตัว
เองไว้ไม่อยู่..ชายหนุ่มยังคงเฝ้าวนเวียนดื่มชิมริมฝีปากน้อยๆได้รูปอยู่อย่างงั้น..เหมือนเป็นน้ำ
บ่อสุดท้ายที่เขาเดินทางมาไกล..ถ้าพลาดน้ำบ่อนี้ไปเขาคงอดตายเป็นแน่แท้...

ตะ!!..ตะ!!..ตั๊ก!!..แก...ตั๊กแก!!!! เสียงกามเทพตัวน้อยที่ออกจะน่าเกลียดน่ากลัวซักหน่อย..
เจื้อยแจ้วออกมา..เหมือนจะประท้วงหนุ่มสาวตรงหน้าให้หันมาสนใจฉันหน่อยซะอย่างงั้น..

หนุ่มสาวสะดุ้งโหยง! หลุดออกจากพวังทันที..ยืนจ้องหน้ากันนิ่ง ไม่มีเสียงออกมาซักแอะจาก
ปากของคนทั้งคู่..ความร้อนเริ่มขึ้นบนใบหน้าของคนางค์..ต่อมอะดีนาลีนฉีดพล่าน..หน้าเริ่ม
ซับสีเลือด..ธันวาเห็นเข้าก็อมยิ้ม

“เป็นอะไร!” หญิงสาวใจเต้นเป็นกลองระรัว เขิลล์บุคคลตรงหน้าเป็นยิ่งนัก

“ยะ..อย่าทำ..บะ..แบบนั้นอีก” ชายหนุ่มยิ้มในหน้าเลิกคิ้วส่งให้

“ทำไม!”

“ฉะ..ฉัน..หะ..หายใจไม่ออก” จ้องตาแป๋วแหว่ว..เลือดฟาดยังคงซับอยู่บนใบหน้านวลลออ..
ธันวาหัวเราะออกมาเบาๆ เคาะหน้าผากคนตรงหน้าไปหนึ่งที

“ต๊อง!” ละแขนออกจากรอบเอวหญิงสาว..เคลื่อนมาคว้าข้อมือแทน พาเดินเข้ามาในห้องรับ
แขกด้วยกัน..คนางค์เดินตามต้อยๆ หน้าเริ่มมุ้ย! ขัดใจคนเดินหน้าซะเหลือเกิน ปากเริ่มกลับ
คืนมาเหมือนเดิม

“นี่!..เลิกว่าฉันซักทีได้มั๊ย..พ่อแม่ฉันญาติโกโหติกา..หรือแม้กระทั่งเพื่อนสนิท มันยังไม่ว่าฉัน
เยอะเท่าคุณเลย..เก็บกดอะไรนักหนา!” บ่นปาวๆ คนเดินหน้าไม่สนใจจับตัวหญิงสาวให้นั่งลง
บนโซฟา..แล้วก็พาตัวเองเดินออกไป..หญิงสาวขมวดคิ้วไม่เข้าใจ!..

“อะไรอีกล่ะตานี่!..ลากคนอื่นเอามาปล่อยทิ้งไว้แล้วก็เดินจากไปอย่างเงี้ยเหรอ! จอมบงการ!..
นึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของบริษัทฯ งั้นใช่มั๊ย..จะทำอะไรก็ทำได้ตามสะดวกเลยงั้นสิ!” บ่นพึมพำ
หน้าคว่ำ..นึกถึงเรื่องเมื่อซักครู่ขึ้นมาหน้าเริ่มแดงอีกระลอก..นั่งทำหน้าไม่ถูกอยู่อย่างงั้น..ซัก
แป๊บก็ค่อมตัวลงก้มหน้าหัวมุดไปบนเบาะ..เขิลล์!!! พระเจ้า! ครั้งแรกด้วยอ่ะ!..ฮือๆๆ มือก็ทุบ
ไปบนเบาะเบาๆ

“เป็นอะไร” คนางค์รีบดีดตัวผลึงลุกขึ้นอย่างไว นั่งตัวตรงเด่ว! เพ่งสายตาที่ไม่ค่อยจะเที่ยงตรง
มองไปเบื้องหน้าเห็นชายหนุ่มประคองถาดเดินเข้ามา..และก็ค่อยๆ ก้มวางลงบนโต๊ะกระจกเตี้ย

“เป็นอะไร..เมื่อกี้เห็นก้มฟุบไป” คนางค์สั่นหัวยิก ยิก

“เปล่า!” ทำหน้าไร้เดียงสา ธันวายกแก้วเครื่องดื่มเอามาวางไว้ให้ตรงหน้า

“อ่ะ! กินซะ” หญิงสาวขมวดคิ้ว ทำหน้าไม่ไว้ใจ

“ใส่ยาอะไรลงไปหรือเปล่า!..หวังจะเครมฉันใช่มั๊ย” ชายหนุ่มถอนหายใจดังเฮือก เริ่มไม่
สบอารมณ์เอนตัวพิงโซฟาฝั่งตรงข้าม

“นี่ยัยบ๊อง!..อย่าตื่นตูมนักเลยน่ะ..จืดชืดเป็นมันแกวโลละสองสามบาทอย่างงั้น..มันไม่ดึงดูด
ให้ฉันกลับไปลองอีกหนนึงหรอก” หญิงสาวสะอึกกับคำพูดของคนตรงหน้า..รู้สึกหน้าชาๆยังไง
ไม่รู้..รีบลุกขึ้นจากที่นั่งทันที..

“ฉันก็ไม่ได้หวังจะให้คุณมาลองอะไรฉันอีกหรอกนะ” ถ้าคำพูดมันออกมาเป็นไฟได้..ชายหนุ่ม
ตรงหน้าคงจะดำเป็นตอตะโกไม่มีเหลือหลอ..โกรธ!!! จะก้าวเดินออกไปแต่โดนชายหนุ่มคว้า
ข้อมือไว้ซะก่อน

“จะไปไหน”

“กลับ!” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว

“แล้วมาหาฉันทำไม” หญิงสาวคอแข็ง..เริ่มเข้าใจ

“นี่คงคิดว่าฉันมาอ่อยเหยื่อคุณถึงที่ล่ะสิ..ใช่มั๊ย!..บ้าเอ๊ย!” สบทออกมาเบาๆ พยายามดึงมือ
ออก แต่ดึงเท่าไหร่ก็ไม่หลุดชายหนุ่มจับไว้ซะแน่น..

“ใช่ที่ไหนเล่า!..เธอนี่คิดอะไรเป็นตุเป็นตะ..นั่งลงก่อน!”

“ไม่!”

“คนางค์”

“ไม่! ไม่! ไม่! ปล่อยยยย..ปล่อยฉันสิไอ้บ้านี่” จะก้มลงกัด..ธันวารีบส่งเสียงมาอย่างไว

“นี่ยายบื้อ!..อย่าคิดว่าจะได้แอ้มเนื้อฉันอีกนะ..คราวนี้พ่อจะจัดการไม่เลี้ยงเลย” ได้ผล! หญิง
สาวชะงักงัน มองชายหนุ่มตาขวาง

“ก็ปล่อยฉันซักทีสิ..จะรั้งไว้ทำไมฉันจะได้ไปให้พ้นซักที”

“ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง..นั่งลงก่อน”

“ไม่!” ยังดื้ออยู่

“คนางค์”

“ไม่เอ๊า!!!..ฉันจะไปเก็บของ..ฉันแค่จะมาถามว่าคุณไม่กลับกรุงเทพฯ วันนี้ใช่มั๊ย..ถ้าหยั่งงั้น
ฉันจะกลับก่อน” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว

“ไม่!” หญิงสาวตาเหลือกไม่เข้าใจ

“อะไรไม่!..คุณจะอยู่คุณก็อยู่ไปหน้าที่ฉันหมดแล้ว..ฉันจะกลับก่อน” ส่งเสียงปาว ๆ มือก็แกะ
นิ้วของชายหนุ่มที่เกาะแน่นอย่างกับตุ๊กแกบนข้อมือของเธออย่างไว

“ไม่ต้อง!..กลับพร้อมกันพรุ่งนี้”

“และทำไมต้องกลับพร้อมกันพรุ่งนี้..ฉันไม่มีอะไรต้องทำแล้วนี่”ยืนขมวดคิ้วนิ่วหน้าอยู่อย่าง
งั้น

“พรุ่งนี้มีงาน..เธอต้องอยู่ช่วยฉันก่อน”

“งานอะไร!..ไม่เห็นคุณดลบอก!” ธันวาถอนหายใจออกมาอีกเฮือก

“เถอะน่า!..ฉันสั่งอะไร..เธอก็ทำตามนั้นแล้วกัน..อย่าเรื่องมาก!” หญิงสาวหน้าบึ้ง

“งั้นก็ปล่อยฉันซักทีสิ..ฉันจะได้กลับห้องซะทีจับไว้อยู่ได้..ปล่อยยย!” นั่นแหละถึงหลุดออก
จากพันธนาการส่งค้อนให้ชายหนุ่มหนึ่งวง..รีบหันหลังเดินกลับออกไป..ชายหนุ่มทำหน้าเซ็งนั่ง
ยกนิ้วขึ้นอุดหูไว้รอท่า

กรี๊ดดดด!!!! เสียงกรี๊ดดังลั่ง พร้อมกับตัวที่วิ่งกลับมายืนอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มหน้าตาเลิกลั่ก!
ตุ่มขนตามไรแขนตั้งชันอย่างเห็นได้ชัด! พูดน้ำเสียงระล่ำระลักออกมา

“ตะ..ตะ..ตุ๊ก..มะ..เมื่อกี้..ฉันกะ..เกือบจับมัน...วะ..แว่นฉันอยู่ไหน” ชายหนุ่มพะเยิกหน้าไป
บนโต๊ะ..คนางค์รีบเดินไปหยิบมาสวมอย่างไว เดินกลับมาหาชายหนุ่ม

“คะ..คุณ..คุณไปส่งฉันหน่อยสิ..แค่หน้าประตูเอง!..นะ” พยักหน้ายิก ยิก หน้าเริ่มซีด ชาย
หนุ่มส่ายหน้าหวังจะแกล้ง..หญิงสาวหน้าเสีย..เอาไงดี! หันซ้ายหันขวาเลิกลั่กแล้วสายตาก็
พลันเห็น..เดินไปยังประตูกระจกบานเลื่อนรีบเปิดออกอย่างไว..ชายหนุ่มขมวดคิ้วความคิดเริ่ม
ทันหญิงสาวเบื้องหน้า..รีบลุกตามแต่สะดุดขาโต๊ะกระจกเตี้ยซะก่อน..รีบกระเสือกกระสนลุก
ขึ้น..

“คนางค์..ยะ..อย่า!..มันสูง!!” ไม่ทันซะแล้ว!..หญิงสาวกระโดดลงไปนั่งพับเพียบอยู่บนพื้นเป็น
ที่เรียบร้อย..ชายหนุ่มหน้าซีด!ใจตกไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม..

“นาง!..เป็นอะไรหรือเปล่า!” ส่งเสียงถามมาจากบนระเบียง..หญิงสาวไม่ตอบ ลุกขึ้นได้ก็
กระโผลกกระเผลกเดินจากไป..

“ยัยบ้าเอ๊ย!..ชอบก่อแต่เรื่องเจ็บตัวนัก..หาแต่เรื่องเดือดร้อนมาได้ไม่หยุดหย่อน” ยืนสบท..
กร่นด่าตามหลังหญิงสาวอยู่อย่างงั้น..หญิงสาวเดินบ่นงึมงำมาตลอดทาง...

“อุ้ยส์..เจ็บอ่ะ” เดินก้นเบี้ยวเป็นปูเสฉวน

“ใจดำ!..ปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ โดดลงมาได้!..ก้นฉันเป็นอะไรมั่งหรือเปล่าไม่รู้..ดีนะ! มีแต่
ทราย..ถ้าเจอหินเข้าไปหมอคงไม่รับเย็บ!” บ่นกระปอด กระแปดเป็นหมีกินผึ้ง..แล้วก็ถึงห้อง
พัก..เดินตรงไปหยิบเป้ไปเก่งมานั่งบนเตียงรูดซิบเปิดออก..ค้อนตาคว่ำใส่กระเป๋าซะอย่างงั้น..

“ยังไงล่ะทีนี้!..ไม่มีเลย!..แล้วฉันจะเอาอะไรใส่กัน..ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่สี่ชิ้นเท่านั้นเองอ่ะ..
สงสัยจะต้องตัดใบตองมาห่อหุ้มซะล่ะมั้ง!..หรือว่าจะกลับด้านใส่ดี..เอ๊ะ!หรือว่าจะโนทั้งบรา
และก็โนทั้งบีดี” หน้าคว่ำบ่นงึมงำอยู่คนเดียว เอามือทุบหมอนผลั่วๆ ส่งเสียงดังลั่น!!

“ฮือๆ คุณดลนะ..คุณดล..ต่อไปนางไม่เอาอีกแล้วนะไอ้มาแบบกะทันหันแบบนี้อ่ะ..ไม่ได้
เตรียมตัวอะไรเลย..แถมยังเปลี่ยนแปลงอะไรต่อมิอะไรซะดื้อๆ ไม่มีบอกกล่าว..ถึงจะรักคุณ
ดลแค่ไหนก็เถอะ นางก็ไม่เอาอีกแล้ว” หน้างอเป็นจวักอยากจะร้องไห้..สายตาเหลือบไปเห็น
โทรศัทพ์ก็ยิ้มพริ้มออกมา..อยากจะหาเพื่อนระบาย..ยัยแจ๊ด! นึกได้ดังนั้นก็กดปุ่มเปิดเครื่อง
ทันควัน! ยังไม่ทันจะต่อเบอร์ถึงแจ๊ดก็มีเสียงเรียกเข้า คนางค์นั่งมองดูชื่อ..ฉับพลัน!! หน้าที่
คว่ำเริ่มหงายขึ้นทันทีรีบส่งเสียงไปอย่างไว

“ไอ้เปี๊ยก!”

“เออ! ฉันเอง!..เป็นห่าอะไรวะนาง..ทำไมแกไม่เปิดเครื่อง..โทรหาเป็นชาติแล้วเนี่ย” เสียง
ห้าวๆรอดมาตามสาย..น้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาซะอย่างงั้น..น้ำเสียงอย่างงี้แหละที่เธอต้องการตอน
นี้

“ไอ้ปะ..เปี๊ยก”

“เออ!สิโว๊ย!..ฮ่วยยย!..ทำไม!..อยู่กรุงเทพฯไม่ถึงเดือน..ทำเป็นลืมชื่อฉันไปแล้วหรือไง
ไอ้นาง!เรียกซ้ำซากอยู่นั่นแหละ”

“ไอ้ปะ..เปี๊ยก!..ฮือๆๆ” ร้องไห้ออกมาซะงั้น

“อ้าวเฮ้ย!..ไอ้นี่..ฟอร์มเปล่าว้า!..ร้องไห้เหรอน่ะ”

“เออ!” สะอื้นเฮือกๆ

“ขี้ไม่ออกเหรอ..ท้องผูกหรือไง..หรือว่าลำไส้ใหญ่ไม่ทำงาน..ฮะ!” เท่านั้นแหละ คนางค์ถึงยิ้ม
ออกมาได้หัวเราะหึ หึ ส่งไปเบาๆ..มือก็เช็ดน้ำตาปร้อยๆ ปลายสายอมยิ้มส่งเสียงถามมาเนิบๆ

“เป็นอะไรไอ้นางงานเยอะเหรอ..ฉันบอกแล้วว่าอย่าไปเรียนมัน..ไอ้กฎมง..กฎหมายเนี่ย..มัน
เป็นวิชาที่ว่าด้วยเรื่องของชาวบ้านเค้า..แม่งเครียดว่ะ..เห็นมั๊ยทำงานยังไม่ถึงเดือนนั่งร้องไห้
ระงม!..ฉันเตือนแกแล้วนะโว๊ย!”

“ไอ้เปี๊ยก!!” ยังสะอื้นอยู่ ปลายสายทำเสียงจึก จักในลำคอ

“เป็นห่าอะไรวะ...จะพูดอะไรก็พูดๆมา..เรียกแต่ชื่ออยู่นั่นแหละ..ค่าโทรศัพท์แพงนะโว๊ย!..
เดี๋ยวปั๊ดวางซะเลยนี่” คนางค์หน้าเบ้..รีบพูดอย่างไว

“ไอ้เปี๊ยก..ครั้งแรกของฉัน..มันสูญเสียไปซะแล้ว” ปลายสายขมวดคิ้วมุ้น

“อะไร..ครั้งแรกอะไร”

“กะ..ก็ครั้งแรกอ่ะ” ปลายสายตาเหลือก

“ฮะ!..แกอย่าบอกนะว่า..โธ่ไอ้นาง!..แกไปทำอีท่าไหนเข้าทำไมไม่ดูแลตัวเองให้ดีเฮอะ..ฉัน
บอกแล้วว่ากรุงเทพฯ มันไม่ศรีวิไลอย่างที่แกคิดหรอก..บอกว่าให้รอฉันก่อนแกก็ไม่เชื่อรั้นจะ
เข้าไปก่อนดีนัก..เป็นไงล่ะ!..และใคร..ไอ้คนไหนที่มันทำแกฮะ” ถามมาดังลั่น

“จะ..เจ้านายฉัน”

“ใคร!..ไอ้เจ้าคุณดลอะไรที่แกบอกว่าดีนักดีหนาน่ะเหรอ..นั่นไงฉันว่าแล้วดีแต่เปลือกน่ะสิ”
หญิงสาวหน้ามุ้ย สะอื้นเฮือกๆ

“ไม่ใช่..เจ้านายอีกคนนึง”

“ใคร!..และทำไมแกไม่เห็นเคยบอกฉัน เฮอะไอ้นาง!” ตะโกนถามมาอีกระลอก เล่นเอาหญิง
สาวผงะหน้าหนี

“นี่ไอ้เปี๊ยก!..แกจะแหกปากเสียงดังทำไม..ฉันได้ยินโว๊ย!! หูไม่ได้หนวก” พูดสวนกลับไป
ทันควัน..เริ่มไม่สบอารมณ์

“เออๆ.. มาบอกมา!แกไม่ต้องมาทำเปลี่ยนเรื่อง” ส่งเสียงถามอีก..น้ำเสียงหรี่ลงเล็กน้อย

“คุณธันวา..เจ้าของบริษัทฯ”

“ป๊าดดด! เจ้าของบริษัทฯ อย่างงี้ปล่อยไว้ไม่ได้..ต้องฟ้องให้เข็ด!..มันบอกจะรับผิดชอบแก
หรือเปล่าไอ้นาง..แต่แกไม่ต้องไปกลัวมันนะออกเป็นออก...แกกลับมาทำงานที่บ้านเรานี่..
เดี๋ยวฉันไปรับแกเองแม่ฉันเพิ่งออกรถใหม่อิซูซุป้ายแดงเชียวนะโว๊ย!! เป็นแคปด้วยนั่งได้สี่
คน..ส่วนไอ้เรื่องเด็กอ่ะนะไม่ต้องไปง้อมัน..เดี๋ยวฉันรับเป็นพ่อให้ไม่ต้องคิดมาก!..เรื่องแค่เนี้ย
จิ๊บ จ๊อยยย!” คนางค์หน้าเบ้ถอนหายใจเฮือก..น้ำตาหยุดไหลเรียบร้อยแล้ว..หลังจากได้ยินไอ้
คนปลายสายพร่ามซะยาว

“แกเป็นบ้าอะไร ไอ้เปี๊ยก!..แกคิดอะไรอยู่”น้ำเสียงเนือยเต็มที่

“แหมไอ้นี่!..ยังมีหน้ามาถาม ก็วางแผนให้แกไงวางอนาคตให้ลูกแกน่ะ..มันเกิดมาจะได้ไม่มี
ปมด้อย..มีพ่อกับแม่อยู่กันครบ!” หญิงสาวเกาหัวแกรกๆ..อารมณ์เต่าฉุนเริ่มโชยออกมา..

“ลูกบ้านแกน่ะสิ!..ฉันบอกแกที่ไหนว่าจะมีลูก..พูดไปเรื่อยไร้สาระ”

“อ้าวไอ้นาง!..เดี๋ยวตบกบาลแยกแตกหมอไม่รับเย็บเลยนี่..ก็เสือกร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร..
คร่ำครวญว่าครั้งแรก..ครั้งแรก..ใครจะไปตรัสรู้ละโว้ย!..ก็คิดไปไกลถึงเรื่องพรรคนั้นน่ะสิ..
บอกไม่เคลีย์เดี๋ยวพ่อขับป้ายแดงไปเสยถึงที่เลยนี่” คนางค์ค้อนตาคว่ำใส่โทรศัพท์

“เออๆ ขอโทษๆ ฉันผิดเอง!”

“แล้วเป็นห่าอะไร..ไอ้ครั้งแรกน่ะ!” ส่งเสียงถามมาอีก หญิงสาวหน้าร้อนวูบ วาบขึ้นมาทันที
เขิลล์ขึ้นมาซะอย่างงั้น...ส่งเสียง งุ้ง งิ้ง ออกมาเบาๆ

“โอน อูบ!” เล่นเอาคนปลายสายตาเหลือก..ขนาดเอาหูแนบแทบจะปิดครบทุกรูมันก็ยังได้ยิน
ไม่ถนัด..ตะโกนถามกลับมาเสียงดัง

“ฮะ!!!...พูดอะไรวะไอ้นาง..ไม่เห็นรู้เรื่อง” หญิงสาวมองโทรศัพท์ตาขวาง ค่อยๆ ส่งเสียงออก
ไปใหม่

“โอน!!..อูบ!!..อี่!! อากกกก!!”

“ฮะ!!..ตรง..ตูด..เป็นขี้กลาก!!” คนางค์ตาเบิกโพลง ส่งเสียงไปอย่างไว

“มะ ..ไม่!”

“ฮ่วยยย!! ป๊าดดโธ้!..ทำมาเป็นเขิลล์..ครั้งแรกก็อย่างงี้แหละ..ไม่เคยเป็นล่ะสิท่าเลยตกใจ
ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร..แล้วเสือกเป็นตรงไหนไม่เป็นเสือกไปเป็นตรงตูด..เวง!!..ทำไมไม่โทร
มาถามฉันตั้งแต่แรกวะฉันเป็นบ่อยเรื่องเนี้ย..เซียน!..นี่เลยแกไปที่ร้ายขายยานะ..บอกเค้าว่า
ซื้อซีมาโลชั่นขวดนึง..เอากลับมาทาที่บ้านอย่าไปทาประเจิดประเจ้อล่ะอายเค้า!..แปะเดียว
เห็นผลมันจะค่อยๆ ลอกออกมาเป็นสะเก็ดๆ..เดี๋ยวก็หาย..เชื่อฉัน!”

“ไม่ใช่!!!” ตวาดแว๊ดออกไป..เพิ่งจะมีช่องเข้า “ไอ้บ้านี่!..เป็นกลากบ้าอะไรล่ะ..ฉันไม่สกปรก
อย่างแกหรอก” น้ำเสียงหงุดหงิดเต็มที่..พูดไม่เข้าใจกันซักที

“อ้าว! แล้วเป็นอะไรล่ะวะ..คุยกันเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วเนี่ย..แม่งไม่รู้เรื่องซักที” เริ่มมีอารมณ์
มั่ง..หงุดหงิด หงุดหงิด คนางค์หน้ามุ้ย! ส่งเสียงออกมาเบาๆ

“โดนจูบที่ปาก”

“ฮะ!..ไม่ได้ยิ้น”

“โดนจูบที่ปาก!!!!” เท่านั้นแหละปลายสายเงียบไปแป๊บนึง..แล้วก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น!!!
หญิงสาวต้องเบนหูออกจากโทรศัทพ์

“ขำอะไรนักหนาไอ้เปี๊ยก!”

“ตลกว่ะ..ไอ้ฉันก็นึกว่าเรื่องอะไร..ร้องไห้จะเป็นจะตาย” คนางค์หน้านิ่ว ล้มตัวลงนอนบนเตียง

“ก็มันครั้งแรกนะ”

“ครั้งแรกแล้วไง..มันก็ต้องมีครั้งแรกทั้งนั้นแหละ” หญิงสาวตาโต

“แต่ครั้งแรกมันต้องกับคนที่เราชอบสิ” ยังเถียงมาอีก..ปลายสายทำเสียงจึกจักในลำคอส่งมา

“แกก็ชอบฉัน..ทำไมไม่มาครั้งแรกกับฉัน”

“มันไม่เหมือนกัน..แกมันเป็นเพื่อน!..มันต้องกับคนที่ไม่ใช่เพื่อน”

“อันนี้ก็ไม่ใช่เพื่อน..เป็นเจ้านาย!!...เหอะน่า! แล้วแกรู้สึกยังไงตอนนั้นน่ะ!” หญิงสาวนอนเกา
หัวแกรกๆ เกิดอาการ งง! กับไอ้คนปลายสายซะเหลือเกิน..ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยมีครั้งไหนที่
ไอ้เพื่อนชายคนนี้จะตอบคำถามเธอได้ตรงคำตอบ และก็เคลีย์ กระจ่างใสซักเรื่อง..มีแต่จะแถ
ออกนอกเรื่องทุกครั้งไป..ครั้งนี้ก็เหมือนกันเธอปรึกษาอยู่ดีๆ กลับโดนมันย้อนถามกลับมาซะ
อย่างงั้น..

“ว่าไง ไอ้นาง!”

“ไม่รู้” ปลายสายหัวเราะคิก คิก

“อะไรไม่รู้..มันต้องมีรู้สึกมั่งล่ะว้า..อ่ะเอางี้แกมีปฎิกิริยายังไงบ้างตอนนั้นน่ะ” หญิงสาวนอนกัด
ปากนิ่ง คิดใหญ่

“ฉันอึ้ง”

“แกทำอะไรไม่ถูก”

“ใช่ๆ ฉันทำอะไรไม่ถูก” พยักหน้ายิกๆ เห็นด้วย ปลายสายกลั้นหัวเราะส่งเสียงออกมาใหม่

“เพราะว่ามันเป็นครั้งแรกของแก”

“ใช่ๆ มันเป็นครั้งแรกของฉัน” พยักหน้าอีกครั้ง เห็นด้วยอีกระลอก

“เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดมาก..ถือซะว่ามันเป็นบทเรียนไง..พอมีครั้งหน้าแกจะได้ตั้งตัวได้ทัน..
แก้ไขสถาณการณ์ได้ถูกจุด..ไม่ต้องอึ้งตลึงงันอยู่อย่างงี้” คนางค์พยักหน้ายิก ๆ เห็นด้วย ซัก
แป๊บก็ขมวดคิ้ว งง!

“ตะ..แต่ฉันเป็นผู้หญิงนะ..ฉันเสียหาย!”

“เหอะน่า!...คิดอะไรมากวะ!..ถือว่าทำบุญทำทาน..ครั้งหน้าก็ระวังๆ หน่อยแล้วกัน..ผู้ชายมัน
ไม่ดีเหมือนฉันทุกคนหรอก เฮอะๆๆ ” คนางค์ทำตาขวางใส่โทรศัพท์

“ไม่อายปากบ้างหรือไงวะเปี๊ยก..ดีเข้าตัวชั่วให้คนอื่นน่ะ..ชอบจังนะ” ปลายสายหัวเราะเสียงดัง

“เออๆ..ฉันจะบอกแกว่า..ผู้ชายน่ะอย่าไปไว้ใจมันมาก แม้กระทั่งฉันก็เถอะ..รู้หน้าไม่รู้ใจโว๊ย!
เวลามันมีอารมณ์ขึ้นมา..มันก็ฉุดไม่อยู่เหมือนกัน..ประมาณว่าจิตเบื้องลึกมันตื้นเขิลล์น่ะ..กด
เท่าไหร่มันก็ไม่จม สติมันจะหายไปหมด กระเจิดกระเจิงไม่มีทิศทาง..มันก็เลยควบคุมตัวเอง
ไม่อยู่บ้างเป็นบางขณะ..เพราะฉะนั้นแกต้องรู้จักระวัง! รักษาตัวเองด้วย..” คนางค์ถอนหายใจ
เฮือก

“เออ!..ฉันจะระวัง!..แต่มันคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วล่ะมั้ง...เพราะว่า!..เค้าบอกฉันเหมือน
มันแกว”

“ฮะ!!” ถามออกมาเสียงดัง คนางค์ทำปากจึก จัก ขัดใจ

“หูหนวกหรือไงไอ้เปี๊ยก ฮะๆ อยู่ได้..และก็ตะโกนซะเสียงดังขี้หูสะเทือนหมด”

“ก็แกพูดอะไรล่ะเมื่อกี้..ฟังไม่ทัน”

“มันแกว!...เค้าบอกว่าฉันจืดชืดเหมือนมันแกวโลละสองสามบาท” เท่านั้นแหละปลายสายขำ
ก๊ากกก

“ขำว่ะ!...อย่างงี้มันหยามนะโว๊ย..แกต้องทำให้เค้าเปลี่ยนเป็นกิโลละร้อยให้ได้นะไอ้นางฉันว่า
แกทำได้อยู่แล้ว..ไมงั้นเสียชื่อเด็กขอนแก่นหมด...” แล้วก็เงียบไป หญิงสาวเงี่ยหูฟังใหญ่ ได้
ยินเสียงแม่ของเพื่อนชายล้งเล้งมาไกลๆ คนางค์เริ่มหัวเราะออกมาเบาๆ ไอ้คนปลายสายรีบ
ระล่ำระลักส่งเสียงออกมาอย่างไว

“จ๊ากก!! คุณนายสมรกลับมาแล้ว...แค่นี้ก่อนนะไอ้นางเดี๋ยวคุณนายท่านสวดฉันยับ..เมื่อเดือน
ที่แล้วล่อซะสองพันสี่โทรศัพท์หาสาว..เกือบหลบฝาหม้อไม่ทัน..เขวี้ยงอย่างกับนักกีฬา
ซีเกมส์..ดีนะฉันมันนักกีฬาโอลิมปิคสปีดสุดฝีตีน..แค่นี้นะโว๊ย!! เดี๋ยวแอบแม่มาโทรหาใหม่..
คิดฮอดเด้อ!!” แล้วปลายสายก็วางหูไป คนางค์ยังคงนั่งอมยิ้มอยู่อย่างงั้น..ความเครียดมันเริ่ม
บรรเทาเบาบางลงไปได้บ้าง..ยกนาฬิกาขึ้นดู..อึยส์ จะห้าโมงแล้ว!! รีบลุกพรวดพราดออกจาก
เตียง..ยืนหันซ้ายหันขวาเลิกลั่ก..เอาไงดี!..ที่นี่มันจะมีเสื้อผ้าขายมั๊ยเนี่ย! นึกได้ดังนั้นก็คว้า
กระเป๋าสตางค์เดินออกจากห้องทันที..

หญิงสาวเดินเลาะมาตามทางเรื่อยๆ..ร่องรอยของการระบมที่ก้นยังมีให้เห็น สังเกตุได้จากการ
เดิน..ไม่ค่อยจะตรงทางดีนักมือคลำสะโพกเป็นปร้อยๆ..เสียงกระโดดน้ำตูมๆ ดังเข้ามาเป็น
ระยะๆ ใกล้เข้ามาทุกทีๆ..ช่วงเย็นดูคนจะพลุกพล่านมากกว่าเดิม..ที่สระน้ำแขกชาวต่างชาติยัง
นอนเอกเขนกกันอยู่ถึงแม้จะเป็นหน้าหนาวก็เถอะ..แต่อากาศไม่สอดคล้องกับฤดูซักเท่าไหร่
ยังคงอบอุ่นถึงร้อนเลยทีเดียว..หญิงสาวเห็นสระน้ำก็ยิ้มกว้างออกมาชอบมากๆ..เมื่อซักครู่
ตอนเดินมาตามธันวาไม่ได้สังเกตุเต็มๆ ตา..สระกว้างใหญ่แทบจะกินเนื้อที่หนึ่งในสามของ
พื้นที่รีสอร์ทก็ว่าได้..น้ำใสแจ๋วเห็นกระเบื้องสีฟ้าอ่อนเบื้องล่าง..หญิงสาวก้มตัวลงเอามือกวัก
น้ำเล่นอยู่อย่างงั้น..เฮ้อ! อยากกเล่นอ่ะ!

“อยากเล่นเหรอคะ คุณคนางค์!” เสียงบุษบงลอยมา..ทำเอาคนางค์สะดุ้งโหยงตัวแทบจะล่วง
ไปในสระ ดีที่จิกปลายเท้าไวทัน

“อุ้ย! ขอโทษค่ะ..ดิฉันไม่ได้ตั้งใจ..” คนางค์หันมายิ้มแหยๆ ให้

“ไม่เป็นไรค่ะ!..นางกำลังคิดอะไรเพลินๆ ด้วยน่ะค่ะ..เลยตกใจเล็กน้อย ” ยิ้มยิงฟันขาวจั๊ว!
บุษบงส่งยิ้มตอบ

“คุณคนางค์ไม่ลงสระซักนิดเหรอคะ..จะได้สดชื่น” คนางค์หัวเราะออกมาเบาๆ

“อยากลงเหมือนกันน่ะค่ะ..แต่นางไม่ได้เตรียมชุดมา..ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเท่าที่คุณบุษเห็นนี่
แหละ”บุษบงเลิกคิ้ว คนางค์พยักหน้ายิก ยิก

“จริงๆ ค่ะ!..คือคุณดลไม่ได้บอกนางว่าจะต้องค้างด้วย..นางก็เลยไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย..
เพิ่งจะรู้ก็เมื่อซักครู่นี่เองค่ะ..นี่นางก็กะจะมาถามคุณบุษเหมือนกันว่าที่นี่มีร้านขายพวกเสื้อผ้า
ให้นักท่องเที่ยวบ้างหรือเปล่าคะ”

“มีค่ะ!..แต่มันจะเป็นจำพวกเสื้อยืดสกรีน..และก็ผ้าพื้นเมืองนะคะ..เชิญทางนี้ค่ะ” ผายมือเดิน
นำหน้า ..บุษบงพามาด้านข้างของที่ทำการรีสอร์ท..มีร้านเล็กๆขายของฝากอยู่ตรงหัวมุม
คนางค์เลือกได้สองสามชิ้น เดินแตร่ไปแถวๆ มุมที่ขายชุดว่ายน้ำ ยกป้ายขึ้นดูก็ตาโตเท่าไข่
ห่าน..โอ้โห!! พันสี่..ป๊าดด!..ใส่แล้วลอยอยู่ในน้ำได้เลยมั้งเนี่ย..ฮ่วยยย! รีบปล่อยมืออย่างไว
กระเถิบถอยออกมา..

“เป็นยังไงคะคุณคนางค์ ไม่ถูกใจเหรอคะ” คนางค์หัวเราะออกมาเบาๆ

“ถูกใจค่ะ แต่มันไม่ถูกเงิน..พอดีนางเพิ่งเริ่มทำงานเดือนนี้น่ะค่ะเงินเดือนยังไม่ได้รับเลย..ตอน
นี้ก็ใช้ทุนของตัวเองอยู่ด้วย..เดี๋ยวมันจะหมดซะก่อนไม่ชนเดือนมันจะยุ่ง” บุษบงยิ้มพริ้ม ถูก
อัธยาศรัยสาวน้อยตรงหน้าซะเหลือเกิน พูดจาตรงดีไม่มีวางฟอร์มเหมือนสาวๆ เมืองกรุงส่วน
มากที่เธอเคยเห็น

“ถ้าคุณคนางค์ไม่รังเกียจนะคะ..ดิฉันมีชุดว่ายน้ำส่วนตัวสำรองค่ะยังไม่ได้ใช้เลย..คือแบบว่า
ซื้อมาแล้วมันใส่ไม่ได้น่ะค่ะมันเล็กไปหน่อย..แต่คิดว่าคุณคนางค์น่าจะพอดี..เดี๋ยวดิฉันเดินไป
หยิบที่ห้องมาให้” คนางค์ยิ้มปูเลี่ยนๆ

“มันจะดีเหรอคะคุณบุษ..รบกวนคุณบุษเปล่าๆ นางไม่เล่นก็ได้ค่ะแค่มีโอกาสได้มาเห็นก็ดีถม
ไปแล้ว”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ..ไม่รบกวนอะไรเลย..เดี๋ยวดิฉันมานะคะ” ว่าแล้วก็เดินออกไป คนางค์ยืน
สำรวจทิวทัศน์อยู่สักครู่ บุษบงก็กลับมา ถือห่อผ้ากลับมาด้วยยื่นส่งให้หญิงสาว

“เอ่อ! ไม่ทราบคุณบุษเห็นคุณสิงหาบ้างมั๊ยคะ”

“เห็นค่ะ! เธอเพิ่งขับรถออกไปเมื่อซักครู่นี้เอง คุณคนางค์ต้องการอะไรหรือเปล่าคะ” คนางค์
ขมวดคิ้วมุ่น

“คือนางจะมาส่งข่าวน่ะค่ะว่า..ตกลงนางเลื่อนกลับกรุงเทพฯเป็นพรุ่งนี้”

“อ๋อ! คุณสิงหาทราบเรื่องแล้วค่ะ..พอดีคุณธันวาเธอเดินมาบอก” คนางค์พยักหน้าเข้าใจ

“เชิญคุณนางตามสบายนะคะ..เดี๋ยวดิฉันขอตัวก่อน”ว่าแล้วก็จะผละออกไป นึกอะไรได้ก็ชะงัก
กึกรีบหันกลับมาใหม่ พลอยทำให้คนางค์ชะงักตามไปด้วย

“ลืมบอกค่ะ..คืนนี้เวลาหนึ่งทุ่มทางรีสอร์ทจัดปาร์ตี้ริมหาดให้แขกที่มาเข้าพักที่นี่ค่ะ..เชิญคุณ
คนางค์ด้วยนะคะ” คนางค์ยิ้มรับยืนมองส่งจนบุษบงลับหายไป..ค่อยๆหันหลังกลับ มีอันต้อง
สะดุ้งอีกครั้ง ธันวามายืนข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้..ชายหนุ่มยืนจ้องมองนิ่ง

“เมื่อกี้เป็นอะไรมากหรือเปล่า” ถามออกมาเบาๆ หญิงสาวปิดปากทำตาหลี่ๆใส่ไม่ไว้ใจ..ถอย
ออกมาสองก้าว

“ถามทำไม!..หวังจะแอ้มหวานฉันอีกใช่มั๊ย!..ขอบอก!!..ถ้าคราวนี้นังนางมันอยู่เฉยๆนะจับถ่วง
น้ำได้เลย..แม่จะกัดไม่เลี้ยงเลยด้วย” ขู่..มีขู่!..ธันวาถอนหายใจเฮือก..เอือม!..หันไปมองทาง
อื่นซะอย่างงั้น..กลัวเกิดอารมณ์..อารมณ์อยากบีบคอคน ค่อยๆ เค้นเสียงรอดไรฟันออกมา

“หัวสมองเธอนี่มัน Memory ได้นิดเดียวเท่านั้นใช่มั๊ย!..ฉันหมายถึงไอ้เรื่องนั้นเมื่อไหร่ล่ะ..เก็บ
ไว้ให้ไอ้ดลสุดที่รักของเธอคนเดียวเถอะ..ครั้งเดียวก็เกินพอ” ว่าแล้วก็หันควับ หญิงสาวตาโต
กำลังจะอ้าปาก แต่ธันวาหันกลับมาซะก่อนหน้าบึ้ง

“อ้อ!..ไปขอยามง ยาหม่อง..หรือไม่ก็น้ำมันมวยที่Front เตรียมไว้ก่อนแล้วกัน..เผื่อคืนนี้เกิด
เจ็บสะโพกเจ็บขาขึ้นมามันจะยุ่ง..เดี๋ยวเป็นอะไรไป..แห้งตายคาห้องไม่มีคนเห็น” เตรียมตัวจะ
เดินจากไป คนางค์ตาเหลือกรีบส่งเสียงระล่ำระลักออกมา โกรธ!!!

“นะ..นะ..นี่” ชายหนุ่มหันกลับมาอีกครั้ง

“ลืมบอก!..คืนนี้หนึ่งทุ่มมาเจอที่ริมหาดด้วย..อย่าช้าล่ะ!..หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็โทรมาบอกไว้
ที่ Front ฉันจะได้เตรียมมด เตรียมหมอมาเก็บศพได้ทัน” ว่าแล้วก็เดินดุ่ยๆ ไม่สนใจคนางค์ที่
ยืนอ้าปากหวอ ตาเหลือกอยู่อย่างงั้น ชายหนุ่มเดินหายไปแล้วนั่นแหละ สติของหญิงสาวถึง
กลับคืนมาอีกครั้งนึง..ยืนหน้าคว่ำ บ่นงึมงำ

“คนผี!..ตัวเองเป็นคนผิดแท้ๆ ยังมีหน้ามาว่ากะแนะกะแหนคนอื่นเค้าอีก..วุ้ยยย!” หงุดหงิด!
หงุดหงิด!..เตะก้อนหินก้อนเล็กๆ ที่เรียงกองอยู่ปลายเท้ากระเด็นกระดอนออกไปสามสี่หลา
ประมาณว่าก้อนหินก้อนนั้นเป็นชายหนุ่มที่เพิ่งเดินจากไป

“นี่แน่..ปากดีนัก!..เดี๋ยวถ้าเข้ามาก้าวร้าวทางคำพูดอีกนะ..แม่จะเตะให้กระเด็นไปไกลไม่เห็น
หัวเลย!” ทำหน้าทำตาสะใจสุดๆ พยักหน้าหงึกๆ คิดว่าวิธีนี้ท่าทางจะ Work..และก็เดินกลับ
ห้องอย่างมาดมั่น...

ธันวาเดินหน้านิ่วคิ้วขมวดเข้ามาในห้องทำงาน..บุษบงที่กำลังเก็บเอกสารเข้าตู้ เงยหน้าขึ้นมอง
ถึงกับเลิกคิ้วแปลกใจ..เพราะตั้งแต่ที่เธอมาทำงานที่นี่ไม่เคยมีซักครั้งที่เจ้านายหนุ่มจะแสดงสี
หน้าสีตาบ่งบอกอารมณ์ได้มากมายขนาดนี้ วางเฉยตลอดดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่..ซึ่งผิด
กับขณะนี้หน้ามือเป็นหลังมือ..เหมือนเรื่องที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่..คงเป็นเรื่องที่หนักหนา
สากรรจ์ไม่น้อยเลยทีเดียว..หญิงสาวจัดแฟ้มเอกสารเข้าที่เรียบร้อยก็ค่อยๆเดินออกมาจาก
ห้อง ปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งใช้สมาธิอยู่ในห้องตามลำพัง..

ธันวานั่งนิ่ง..ซักครู่ก็ถอนหายใจเฮือกออกมา..เอนตัวพิงพนักเก้าอี้นั่งทอดหุ่ยอยู่อย่างงั้น..เขา
ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ไม่เคยมีครั้งไหนที่อารมณ์เขาจะหลุดได้มากมายขนาดนี้..ทำตัวเหมือน
ไม่ใช่สุภาพบุรุษ ที่แม่เขาเคยพร่ำสอนเป็นนักเป็นหนาว่าต้องให้เกรียติ์สุภาพสตรี..ไม่ค่อน
ขอดค่อนแคะ..กระแนะกระแหน..หรือว่าร้ายในทางไม่ดีเสียๆ หายๆ ทำให้ผู้หญิงต้องเจ็บช้ำ..
เรียกได้ว่าคำสั่งสอนมันถูกปลูกฝังให้อยู่ในหัวมาตั้งแต่เล็กๆ ปฏิบัติเชื่อฟังมาตลอด..แต่วันนี้
มันไม่เป็นอย่างงั้นแล้ว..ไม่สิ! ต้องตั้งแต่ยัยบื้อนั่นก้าวเข้ามาในบริษัทฯ อารมณ์ของเขาจะ
หลุดแหกโค้งออกมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันนี้รู้สึกจะหนักหนากว่าทุกวัน....

ภาพหญิงสาวกระโดดลงจากระเบียงแบบไม่ยี่ระต่อความสูง ยังคงวนเวียนอยู่ในสมองไม่หาย
ไปไหน..เจ้าหล่อนทำเอาเขาใจหายใจคว่ำ..ถึงกับรีบวิ่งออกจากบ้านตามมาติดๆ หวังจะมาดู
อาการ..กำลังจะเคาะประตูก็ได้ยินเสียงยัยบ้านั่นคุยโทรศัทพ์กับเพื่อนรักของเขาเสียงดังลั่น..
น้ำเสียงสนิทสนมต่อว่าต่อขาน..ถึงขั้นบอกรักกันแล้ว..รีบชักมือกลับ..ชั่วขณะนั้นรู้สึกเดือด
ดานขี้นมาทันทีรีบเดินผละออกมา..ไม่อยากจะเชื่อ!..เพียงแค่ระยะเวลาไม่ถึงเดือน ยายบื้อนั่น
ทำให้เพื่อนรักของเขาที่มีใจปฏิพัทธ์กับปานระวีมาครึ่งค่อนปีเปลี่ยนแปลงไปได้ เขาไม่อยาก
จะคิดว่าระหว่างทั้งสองมีอะไรมากไปกว่าเจ้านายหนุ่มกับผู้ช่วยสาวหรือเปล่า!..ธันวายังคงนั่ง
นิ่งขบคิดอยู่อย่างงั้น..


#####################################################

“อื้อหือ!..ทำไมมันโป้ขนาดนี้อ่ะ!” คนางค์บ่นพึมพำออกมา หลังจากหยิบแว่นขึ้นมาสวม..มอง
จ้องตัวเองในกระจกอย่างเต็มที่..ทูพีชแบบเรียบสีดำสนิทเกาะแนบอยู่บนเรือนร่าง..เรียกว่า
เกาะเลยก็ว่าได้..ชุดที่บุษบงบอกว่าเล็ก..พอมาอยู่บนตัวคนางค์มันกับพอดีเปี๊ยบ..ตัวเสื้อ
กระชับแค่รอบทรวงอกเท่านั้น ไม่มีแขนมีแค่เชือกเส้นเล็กๆ ประมาณไส้ไก่คล้องมาผูกที่ต้น
คอ..กางเกงว่ายน้ำเว้าที่โคนต้นขาสูง..ทำให้คนางค์ไม่มั่นใจตะหงิดๆ หันซ้ายหันขวาดูใน
กระจกเลิกลั่ก

“ทำไมมันสูงจัง..จะเล่นดีมั๊ยเนี่ย” ชักเริ่มไม่อยากจะเล่นแล้ว ไม่มั่นใจ!..แต่สมองส่วนที่อยาก
ยังคงมีอยู่ ยังคงสั่งมาเรื่อยๆ ไอ้นาง!นานทีปีหนแกถึงจะได้มีโอกาสนะ..คิดดีๆ..คิดดีๆ..

“เอาก็เอาวะ..จะหกโมงแล้วด้วยคงไม่ค่อยมีคนแล้ว” นึกได้ดังนั้นก็เดินไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำ
ขึ้นมาสวมทับ..คว้าผ้าเช็ดตัวติดมาด้วยแล้วก็เดินออกจากห้อง..บรรยากาศภายนอกเริ่มมืด
แล้ว เนื่องจากเป็นหน้าหนาวมันเลยมืดเร็วกว่าปกติ..คนางค์เดินเข้ามาบริเวณสระน้ำ..ยังคงมี
ชาวต่างชาตินั่งเล่น นอนเล่นกันประปราย ..รอบๆ สระกว้างเริ่มเปิดสปอร์ตไลท์สีส้มเป็นจุดๆ
บริเวณใต้น้ำก็มีดวงไฟติดเป็นระยะๆ คนางค์เดินเอาผ้าเช็ดตัวมาวางไว้ที่เตียงไม้ห่างไกลผู้คน
มาหน่อย..ถอดแว่นตาออก..มองซ้ายมองขวา เห็นไม่มีคนสนใจก็ค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมออก
จากตัว..เสียงน้ำแตกกระจายทำให้คนางค์หันไปเพ่งมอง..มีคนเล่นอยู่ในสระแล้วประมาณ
สองถึงสามคนก็เลิกสนใจ หยิบหนังยางที่เอามาด้วยรวบผมหนาเป็นหางม้าไว้ข้างหลัง..ค่อยๆ
ก้าวเดินออกมาริมสระ นั่งลงหย่อนขาลงไปในน้ำ และก็ต้องเลิกคิ้ว

“อึมม์!..ไม่เย็นแฮะ! อุ่นเชียว” ค่อยๆเลื่อนตัวลงไปตรงนั้นแหละ..ไม่ได้เดินไปตรงบันได และ
ก็จ๋อมหายไป...หญิงสาวกดตัวเองจมไปจนถึงก้นสระ..ซักครู่ก็ค่อยๆถีบตัวเองขึ้นมาเหนือน้ำ

“เฮ้อ!” อมยิ้มพริ้มถูกใจเป็นยิ่งนัก น้ำอุ่นกำลังได้ที่..ว่ายกลับไปกลับมาอยู่บริเวณนั้นแหละ
ซักแป๊บก็หยุด เหนื่อย! เอาคางเกยขอบสระไว้..ร้องเพลงงุ้ง งิ้งสบายอารมณ์..เพียงชั่วครู่
คนางค์ก็ถีบตัวออกจากขอบสระค่อยๆ กรรเชียงไปอีกด้านนึง...

“ว่ายน้ำเก่งนี่” หญิงสาวสะดุ้งโหยง สมาธิแตกกระเจิง รีบทรงตัวในน้ำหันหน้าไปมองตามเสียง
เห็นธันวาเกาะขอบสระมองมาที่เธออยู่ ผมเปียกลู่แนบศรีษะ เหมือนกับเล่นน้ำก่อนที่เธอจะมา
ได้ซักพักแล้ว คนางค์นิ่วหน้า รีบหันหลังจะถอยทัพกลับ

“ไม่ว่ายต่อล่ะ” ส่งเสียงถามมาอีก

“ฉะ..ฉันจะไปว่ายตรงนั้น” ชี้นิ้วไปตรงบริเวณที่วางผ้าไว้ รีบถีบตัวตีจาก

“ขี้ขลาด!” ส่งเสียงไล่หลังมาอีก ว่ายตามมาด้วย..คนางค์แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินซะงั้น..รีบจ้ำ
อย่างเร็ว และก็ถึง...ไม่เอาแล้ว!ขี้นดีกว่า..ใจเต้นตึ๊กตั๊ก!..รีบดันตัวเองขึ้นจากขอบสระ..แล้วก็
ต้องตาเหลือกทันที โอ้! ม่ายยย! พระเจ้า!! รีบจ๋อมลงไปอยู่ในน้ำใหม่ เกาะขอบสระไว้ซะ
แน่น..ธันวาที่มองอยู่ใกล้ๆ ส่งเสียงถามออกมา

“เป็นอะไร”

“ไม่!..ถะ..ถอยออกไป”รีบไล่อย่างไว

“คนางค์..เป็นอะไร” กระเถิบเข้ามาอีก

“ไม่!! อย่าเข้ามานะ” ชายหนุ่มเริ่มขมวดคิ้ว อารมณ์ฉุนเริ่มมา

“นี่ยัยเบื้อก!..เป็นบ้าอะไร..บอกๆมาซะก็สิ้นเรื่องจะได้ช่วยได้”

“ดะ..เดี๋ยวฉันทำเอง..คะ คุณ..ถอยออกไปก่อน”

“ไม่!..บอกมาก่อน” ไม่พูดเปล่ากระเถิบเข้ามาซะชิด แกะแขนของหญิงสาวที่เกาะขอบสระ
อย่างแน่นแน่นออก คนางค์ตกใจ..

“ไม่!! ยะ อย่า!” มือหลุดแน่แล้ว..ก็เลยรีบโผมากอดคอชายหนุ่มแทน เล่นเอาเกือบจมน้ำกัน
ทั้งคู่ ดีที่ธันวาทรงตัวไว้ทันขวากวัดแกว่งอยู่ใต้น้ำ

“ยัยบ้า..เล่นอะไรน่ะเฮอะ!..เดี๋ยวก็ได้จมน้ำด้วยกันทั้งคู่หรอก” คนางค์ยังกอดคอชายหนุ่มนิ่ง
เกาะเป็นเขียดตะปาดแนบตัวชายหนุ่มอยู่อย่างงั้น แทบจะไม่มีช่องว่างระหว่างตัวให้ได้เห็น
แนบสนิทเหมือนเอากาวตาช้างมาติดไว้

“เป็นอะไร” ส่งเสียงถามมาอีก

“คะ..คุณพาฉันขึ้นไปข้างบนหน่อยได้มั๊ย” ส่งเสียงมาจากซอกคอ ชายหนุ่มขมวดคิ้ว

“ทำไม! ปวดขาเหรอ ใช่ไอ้ที่เธอกระโดดลงมาจากระเบียงเมื่อเย็นนี้เหรอเปล่า”

“มะ..ไม่”

“และเป็นอะไรล่ะ..ถ้าไม่บอกฉันก็ไม่พาขึ้น” คนางค์อยากจะร้องไห้ค่อยๆส่งเสียงออกมาเบาๆ

“คะ คือ..เสื้อฉัน..ละ หลุด”

“ฮะ!” ถามกลับมาใหม่ไม่แน่ใจ

“เสื้อมันหลุด!!! เชือกที่ผูกไว้มันหลุด..คุณพาฉันขึ้นหน่อยสิเร็ว!” ชายหนุ่มเลิกคิ้วอมยิ้ม จะ
ผงะตัวออกมามอง..หญิงสาวตกใจ!!

“จะทำอะไร!” ยิ่งกระชับอ้อมกอดรอบคอชายหนุ่มแน่นเข้าไปอีก เล่นเอาธันวาเกือบทรงตัวไม่
อยู่ หัวเราะออกมาเบาๆ

“ฉันหายใจไม่ออก..กอดซะแน่นอย่างงั้นจะว่ายไปยังไงเล่า..คลายๆหน่อย”

“ไม่!..ไม่เอ๊า! ถ้าฉันคลายคุณก็เห็นของฉันหมดน่ะสิ!” ยังส่งเสียงออกมาอีกน้ำเสียงขัดใจเต็ม
ที่..ชายหนุ่มอมยิ้ม ยัยเบื้อกเอ๊ย!..ไอ้ที่เธอกอดฉันอยู่นี่ก็เล่นเอาฉันจินตนาการกว้างไกลไป
ถึงไหนต่อไหนแล้ว..ซ่อนรูปเหมือนกันแฮะยัยนี่!

“ฉันไม่ดูเธอหรอกน่า..เห็นสวยๆมามากกว่านี้อีก..แค่เนี้ยเด็กๆ” เท่านั้นแหละไอ้ที่เก็บกดมา
ตั้งแต่ตอนบ่ายแก่ๆ แตกผลั่วขึ้นมาทันที..อ้าปากงับไปที่ไหล่ซ้ายชายหนุ่มอย่างแรง

“โอ้ย!! ยัยบ้า ปล่อยย!..เจ็บ” หญิงสาวรีบถอยออกมา..ปล่อยแขนออกจากธันวาทันที..หน้า
แดงเป็นลูกตำลึง อาการอายกับอาการโกรธมันผสมปนเปกันไปหมด..แต่ดูเหมือนอย่างหลังจะ
มีมากกว่า รีบชักแขนซ้ายขึ้นมาปิดป้องร่างกาย..ว่ายด้วยแขนขวาข้างเดียวกระดืบไปได้หน่อย
ก็ต้องหยุดชะงัก เพราะวงแขนแข็งแรงรวบมาที่เอวน้อยๆของเธอซะก่อน

“ปล่อยฉันนะ..ฉันจะขึ้น”

“อย่าหวังเลย!..ทำฉันเจ็บแล้วคิดจะหนีเหรอ” ขู่ออกมาเบาๆ ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์..กระชับเอว
หญิงสาวไว้ซะแน่น..คนางค์ตีบ่าชายหนุ่มผลั่วๆ

“ปล่อยย!” ชายหนุ่มไม่ฟังเสียง..ว่ายพาหญิงสาวลอยวืดมาติดอยู่ที่ขอบสระ หันหน้ามาเผชิญ
กัน คนางค์เริ่มใจไม่ดี..ลมหายใจหอบด้วยความเหนื่อยอ่อน..มือซ้ายก็ยังปิดป้องอยู่อย่างงั้น
ยื่นแขนขวาไปข้างหลังเกาะขอบสระไว้ซะแน่น

“จะ..จะทำอะไรฉัน” ธันวาอมยิ้มเลิกคิ้วส่งให้ เอาแขนทั้งสองคร่อมตัวหญิงสาวเอื้อมมาจับ
ขอบสระไว้เพื่อพยุงตัวในน้ำ

“จะอบรมกริยามารยาท ของลูกผู้หญิงให้ซะหน่อย” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ้น

“ไม่จำเป็น”

“จำเป็นสิ!..จำเป็นมากด้วย..ทำคนอื่นเค้าเจ็บก็ต้องขอโทษ” คิ้วที่ขมวดเริ่มพันกันยุ่ง ไม่สบ
อารมณ์

“ไม่!..ทีคุณยังว่าฉันตั้งหลายครั้งหลายหน..ฉันยังไม่เห็นบังคับให้คุณต้องมาขอโทษฉันเลย..
ถือว่าครั้งนี้เจ๊า!กันไป” ธันวาหัวเราะออกมาเบาๆ

“มันเหมือนกันที่ไหนล่ะ..เธอทำฉันเจ็บตัว”

“คุณก็ทำฉันเจ็บใจ..เกิดมาไม่เคยมีใครมาว่าฉันเหมือนกับที่คุณทำกับฉันเลย..ไม่ชอบ!
เกลียด หรือว่ารำคาญกันก็บอกกันดีๆ ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมาว่าประชดประชัน กระแนะ
กระแหน..ทำเหมือนกับฉันไม่มีค่าไล่กันเหมือนหมูเหมือนหมาอย่างงั้น..ฉันทำงานแรกเงิน
เดือนคุณนะ..ไม่ได้นั่งกินเงินเดือนฟรีๆ อย่างน้อยๆ ก็ให้เกรียติ์ฉันหน่อย..ถึงแม้ตำแหน่งงาน
ฉันมันจะแค่ลูกกระจ๊อกก็เถอะ” น้ำเสียงเริ่มสั่นเคลือ น้ำตาออกมาคลอที่ปลายหายตา ธันวา
จ้องมองนิ่ง ส่งเสียงออกมาเบาๆ

“ขอโทษ” คนางค์จ้องหน้าชายหนุ่มนิ่งเช่นกัน..สูดน้ำมูกฟึดฟัด..และก็รีบเปลี่ยนสายตาไป
มองทางอื่นที่ไม่ใช่บุคคลตรงหน้า

“ยกโทษ” พูดเสร็จก็หันหน้าเลิกลั่ก “ฉันจะขึ้นแล้ว..ฉันหนาว! แล้วก็เมื่อยด้วย” ธันวาเลิกคิ้ว
อมยิ้ม

“ได้ไง!...ฉันขอโทษเธอแล้ว..ทีนี้ถึงตาเธอบ้าง” หญิงสาวทำปากจึก จัก

“ฉันหนาว!..ฉันจะขึ้น” ยังดื้ออยู่

“คนางค์” ส่งเสียงเตือนมาเบาๆ

“ก็ได้ๆ ขอโทษ!..ขอโทษ!” หน้างอเป็นจวัก ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ เลื่อนแขนมาสอด
เอวคนางค์อย่างไว..ทำเอาหญิงสาวหลุดผลั่วออกจากขอบสระทันที..ตกใจ!!..กอดคอชาย
หนุ่มแน่น ธันวาใช้แขนแข็งแรงแวกว่ายพาหญิงสาวไปยังราวบันได คนางค์ค่อยๆ ไต่ขึ้นมา..มี
ธันวาไต่ตามมาจากข้างหลัง พอขี้นไปยืนบนสระได้ หญิงสาวก็เตรียมโกยอ้าวทันที..แต่ชาย
หนุ่มจับแขนไว้ก่อน

“เดี๋ยว!..จะวิ่งทะเล่อทะล่าไปแบบนั้นน่ะเหรอ..ไม่อายคนอื่นเค้าบ้างหรือไง” คนางค์กำลังจะอ้า
ปากตอบ..ไม่ทัน! ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัวสีขาวที่พาดไว้บนเก้าอี้..เอามาพันไว้รอบ
ตัวให้ซะก่อน ไม่เพียงเท่านั้นการกระทำถัดไปของธันวา..ถึงกับทำให้คนางค์อึ้งอีกระลอก..
ธันวาค่อยๆ เกลี่ยหยดน้ำที่เกาะพราวอยู่บนใบหน้าออกให้อย่างเบามือ..โน้มใบหน้าเข้ามา
ใกล้..ประทับริมฝีปากไว้บนหน้าผากกลมมลของหญิงสาว เอื้อนเอ่ยออกมาเบาๆ

“รีบไปอาบน้ำและก็เช็ดผมให้แห้ง!..อากาศเย็นลงแล้ว..เดี๋ยวจะเป็นหวัดไปซะก่อน..เด็ก
น้อย!” เคาะหน้าผากหญิงสาวเบาๆ หนึ่งที และก็เดินผละจากไป..หญิงสาวยังยืนนิ่งอยู่อย่าง
งั้น ซักครู่คิ้วก็เริ่มขมวด..บ่นงึมงำออกมา

“เด็กน้อย!...ฉันเนี่ยนะเด็กทำงานแล้วด้วย!..แล้วก็น้อยตรงไหนอ่ะ!..ไอ้เกริกมันยังบอกเลยว่า
กำลังดีฝาหรั่งชอบ..บ้าเอ๊ย!” ตบต้นขาผาง “อย่างงี้มันหยามกันชัดๆ” หงุดหงิดอย่างแรง..เดิน
ไปหยิบข้าวของบ่นงุ้ง งิ้ง ไปตลอดทาง....


#####################################################

“คุณนาง..ทางนี้ครับ” คนางค์ชะงักกึก หันไปมองตามเสียงเห็นสิงหา นั่งโบกมือเรียกเย้วๆ อยู่
บนโต๊ะใกล้ ๆ เตาย่างอาหารทะเล..มีเวศน์ และก็บุรุษอีกหนึ่งคน นั่งรวมอยู่ในนั้นด้วย หญิง
สาวอมยิ้มเดินเข้าไปหา

“แต่งสถานที่ได้น่ารักจังเลยค่ะคุณสิงห์..นางเดินออกมาเห็นตลึงเลย จัดได้สวยมากประทับใจ
จัง” สิงหาหัวเราะออกมาเบาๆ

“นี่แหละครับคือสิ่งที่พวกเราทีมงานทุกคนต้องการ..ทำเพื่อให้แขกทุกคนประทับใจ จะได้กลับ
มาใช้บริการกับเราอีก” ขยิบตาส่งให้คนางค์หนึ่งที เล่นเอาบุรุษที่นั่งข้างๆหัวเราะออกมา เคาะ
หัวสิงหาอย่างแรง

“นี่แหนะไอ้สิงห์!..กับแขกเหรื่อยังทำเจ้าชูใส่..เดี๋ยวพี่ธันมาฉันจะฟ้อง” สิงหาหน้ามุ้ยเกราหัว
แกรกๆ..

“เอาตรงไหนเขกวะน่ะ...เจ็บชิปป๋ง!”อมยิ้มกันทั้งโต๊ะ สิงหาหันมาหาคนางค์อีกรอบ แนะนำ
บุรุษนิรนามให้หญิงสาวได้รู้จัก

“คุณนางครับ..นี่เจ้าลักษณ์ครับเป็นครูสอนดำน้ำที่นี่..อยู่หน่วยพละฮะ..ว่าด้วยเรื่องกิจกรรม
เค้าจะถนัด..เพราะฉะนั้นถ้าคุณนางยังดำน้ำไม่เป็นหรือไม่คล่อง...ก็ปรึกษาเค้าได้เลยครับ”
คนางค์ยกมือขึ้นไหว้..เออหนอ! บริษัทฯ นี้เค้าช่างเลือกเฟ้นพนักงานที่จะมาทำงานดีซะเหลือ
เกิน..หน้าตาหล่อๆ ทั้งน้านน!..

นั่งคุยกันได้สักพัก ก็ต้องแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะว่าแขกเริ่มทยอยเข้ามาใน
งาน..บนโต๊ะเหลือแค่สิงหา กับคนางค์เพียงสองคน

“คุณนาง!..เปลี่ยนเป็นแก้วนี้ดีกว่า..น้ำอัดลมอย่าไปทานเลยมันอ้วน..ทานน้ำผลไม้ดีกว่า”
สิงหาค่อยๆ เลื่อนแก้วน้ำสีอำพัน วางไว้ตรงหน้าคนางค์

“ขอบคุณค่ะ..นี่คุณธันวายังไม่มาเหรอคะ” สอดส่ายสายตาหาใหญ่

“ยังครับ..ยังคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องทำงานอยู่เลย..สายด่วนจากกรุงเทพฯ..สาวๆน่ะฮะ” คนางค์
พยักหน้าหงึก หงึก เป็นที่เข้าใจ มือก็ยกแก้วขึ้นดื่ม หน้าเริ่มเบ้

“นะ..น้ำผลไม้เหรอคะทำไมมันแปลกๆ” สิงหาอมยิ้ม

“พั๊นซ์น่ะครับ..มีแอลกอฮอร์นิดหน่อยผสมอยู่ในนั้นด้วย” คนางค์ตาเหลือก ชายหนุ่มหัวเราะ
เสียงดัง

“นิดเดียวเองฮะ..เชฟเค้าผสมไว้ให้พวกผู้หญิงน่ะครับ..ไม่เมาหรอกผมรับรอง” คนางค์ยิ้มปู
เลี่ยน ปูเลี่ยนส่งให้..ไม่อยากจะเอ่ยปากบอกว่าเธอนั้นแพ้แอลกอฮอร์มากแค่ไหน เพราะที่
ผ่านมา..ตอนสมัยที่ยังเรียนอยู่เคยหลงกินเข้าไปไม่ถึงค่อนแก้วก็เกิดอาการหน้าแดงเป็นลูก
ตำลึง..อยากจะนอนอยากจะหลับซะให้ได้..แถมมีอาการพูดมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย..ทั้งหลาย
ทั้งปวงที่เกิดขึ้นเธอไม่รู้ไม่เห็นกับตัวเองหรอก..ไอ้เปี๊ยกมันมาบอกหลังจากตอนที่สร่างเมาเป็น
ที่เรียบร้อย..ก็เลยหลีกเลี่ยงมาตลอดไม่พยายามที่จะแตะอีก..นั่งขมวดคิ้วนิ่วหน้าอยู่อย่างงั้น
คิดหนัก..จะกินดีไม่กินดี!..เอาวะ!..ครั้งนี้คงไม่เป็นไรหรอกมั้งมีน้ำผลไม้มากกว่าตั้งครึ่ง..คงจะ
ไม่เมาหรอก..นึกได้ดังนั้นก็ยกแก้วขึ้นดื่มใหญ่ อึก อึก อึก!..หมดแก้ว!!..อร่อย! สิงหาหัวเราะ
ออกมาเบาๆ ส่งเสียงถามมา

“อร่อยใช่มั๊ย!” หญิงสาวพยักหน้ายิก ยิก ส่งยิ้มพริ้ม

“ค่ะ!”

“มา! งั้นมาเติมใหม่” จะดึงแก้วออกจากมือ..คนางค์ฝืนไว้เล็กน้อย

“จะดีเหรอคะ!” ชายหนุ่มขยิบตาส่งให้..พูดน้ำเสียงกระซิบออกมาเบาๆ

“ดีมากๆ..เชื่อหัวคนหล่อเถอะ!..ไม่เมาชัวร์”

“งะ..งั้น..งั้นไม่เกรงใจล่ะน้า!!!” รีบประคองแก้วส่งให้อย่างไว..ยิ้มหวานเชียว!..สิงหาเห็นกิริยา
ท่าทางคนตรงหน้าก็หัวเราะตาแทบจะปิด

“อย่าบอกนะฮะว่าเมาแล้ว” หญิงสาวส่ายหัวอย่างไว..หน้าร้อนวาบ! วาบ!

“ไม่เมา!..ยากส์!!” สิงหายังยิ้มอยู่

“รอสักครู่นะครับ..เดี๋ยวผมมา”

“ค่ะ!..นางรอได้!” ยิ้มพริ้มส่งให้อีกระลอก..ชายหนุ่มหัวเราะเดินห่างออกไป..หญิงสาวนั่งมอง
คนโน้น คนนี้ไปทั่ว..บรรยากาศรอบๆ ตัวดูจะคึกคักขี้นเรื่อยๆ..เสียงเพลงทำนองสนุกสนานดัง
อยู่ตลอดไม่มีว่างเว้น แขกบางกลุ่มถึงกับลุกขึ้นเต้นตามจังหวะเพลงปล่อยอารมณ์เต็มที่..
คนางค์นั่งอมยิ้มกระดิกขาตามทำนองเพลงอยู่ใต้โต๊ะปากก็ส่งเสียงตามบ้างเป็นระยะๆ

“กินอะไรหรือยัง” เสียงคุ้นหูลอยเข้ามา..พร้อมกับตัวที่นั่งลงมาข้างๆ หญิงสาวหันไปมองพอ
เห็นว่าเป็นธันวาก็ยิ้มหวานเชื่อมส่งให้

“กินแล้ว!!” ชายหนุ่มเลิกคิ้ว..นั่งจ้องหน้าหญิงสาวนิ่ง..ยื่นมือมาแตะที่ใบหน้าเบาๆ

“เป็นไข้หรือเปล่า..ทำไมหน้าแดง”

“เปล่า!!” หน้ายังเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม..ธันวาหัวเราะเบาๆ..ติ๊งต๊องจังยัยนี่! นั่งยิ้มเป็นเด็กๆ..
เหลือบมองกลับมาอีกหน..เพิ่งสังเกตุว่าจานข้างหน้าหญิงสาวยังคงขาวสะอาดหมดจด เหมือน
ยังไม่ได้ผ่านการใช้งาน..ก็ขมวดคิ้วส่งเสียงถามใหม่

“กินข้าวแล้วเหรอ..ไม่เห็นจานมันจะเปรอะเปลื้อนซักนิด..หรือว่าเค้ามาเก็บไปแล้ว” คนางค์
ส่วยหัวหงึก หงัก

“ยังไม่ได้กิน!!” มีอันต้องเลิกคิ้วอีกครั้ง

“อ้าว!..เมื่อกี้ถามบอกว่ากินแล้ว..ไป!..ลุก” ขยับตัวลุกจากเก้าอี้ หันมาพยักหน้าชวนหญิงสาว
ให้ลุกตามขึ้นมาด้วย

“ไปไหนอ่ะ!” ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือก

“ไปหาอะไรกิน” หญิงสาวพยักหน้ายิก ยิก รีบลุกขึ้นอย่างไว..เกิดอาการเซเล็กน้อย ธันวารีบ
ยื่นมือมาจับแขนไว้

“เป็นอะไร” คนางค์ยิ้มแหยๆ ส่งให้

“เวียนหัว!” ธันวาจ้องหญิงสาวนิ่ง ส่งเสียงถามออกมาเนิบๆ

“จะนั่งรออยู่ตรงนี้มั๊ย..เดี๋ยวฉันไปตักมาให้”

“ไม่เป็นไร! ฉันไปด้วย!”

“งั้นไป” ว่าแล้วก็เอื้อมมือ มาจับมือหญิงสาวจูงไปด้วยกัน..อากัปกริยาของบุคคลทั้งคู่ไม่ได้
รอดพ้นสายตาของรีเซฟชั่นสาวนามว่าดาหลาไปได้..รีบเดินมาหาบุษบงที่กำลังต้อนรับแขก
ชาวต่างชาติอย่างไว

“พี่บุษ..พี่บุษ..เห็นยัง!” สะกิดแขนบุษบง ยิก ยิก หญิงสาวรีบหันมาหาสาวน้อยตรงหน้า

“อะไร..ยัยดาว”

“นั่นน่ะ!..คุณธันกับคุณคนางค์” บุษบงหันไปมองตาม..เห็นธันวาจูงมือคนางค์เข้าไปที่โต๊ะวาง
อาหาร กิริยาท่าทางเหมือนคู่รักกันก็ไม่ปาน..

“เห็นมั๊ยล่ะพี่บุษ..หนูว่าแล้วเชียวแฟนกันชัดๆ หนูอิจฉาคุณคนางค์จังเลยอ่ะ” บุษบงยิ้มในหน้า
ส่งเสียงออกมาเนิบๆ

“เค้าจะเป็นแฟนกันมันก็เรื่องของเค้า..เธอจะไปอิจฉาเค้าทำไมล่ะดาว!..เราอยู่ส่วนของเราไม่ดี
กว่าเหรอ!” ยังคงจ้องมองอยู่อย่างงั้น..ดาหลาหันมองเพื่อนรุ่นพี่ตรงหน้าก็ถอนหายใจออกมา
ดังเฮือก!

“ใครเป็นแฟนกับใคร” เสียงห้าวดังข้ามไหล่มา..ทำเอาบุษบงสะดุ้งเฮือก!..หันไปมองเห็นสิงหา
ยืนถือเหยือกพั๊นซ์พร้อมแก้วอยู่ในมือ..ดาหลายิ้มล่า

“คุณธันวากับคุณคนางค์ค่ะคุณสิงห์...หนูเห็นเดินจูงมือกันต้อยๆ พากันไปที่โต๊ะวางอาหาร..
ตรงโน้นค่ะ”

“ดาว!” บุษบงปรามออกมาเบาๆ สิงหาเลิกคิ้วหันไปมองบ้างแล้วก็ยิ้มพริ้มถูกใจ..ส่งเสียงออก
มาบ้าง

“เธอว่าใช่เหรอดาหลา..”

“หนูว่าใช่เกินเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์!..แค่นี้ก็มั่นใจมากแล้ว..ชัวร์” สิงหาหัวเราะ

“ฉันว่าใช่เกินร้อยเปอร์เซ็นต์..มั่นใจมากๆ..ยิ่งกว่าชัวร์” หันมาขยิบตาให้บุษบงด้วย..แล้วก็เดิน
จากไป....


#####################################################

“อะไรอ่ะ!” เสียงคนางค์ถามคนเดินหน้าที่กำลังละเลียดตักของในถาดขึ้นมาใส่จานตัวเอง

“ปูผัดผงกระหรี่” คนางค์ยี้หน้าสั่นหัวยิก ยิก ไม่เอา!..ถือจานเดินตามต้อยๆ

“อะไรอ่ะ!” ส่งเสียงถามใหม่

“ผัดหน่อไม้ทะเล” หญิงสาวเบ้หน้า..สั่นหัวยิก ยิก ไม่รู้จัก! และก็เดินตามต่อ

“อะไรอ่ะ!” ธันวาเหลือบตามองคนข้างหลัง มือก็ค่อยๆตักเอามาไว้จานตัวเอง ปากก็เอ่ยออก
มาเบาๆ

“ผัดสามสหาย” คนางค์ขมวดคิ้ว ไม่เคยได้ยิน!..ไม่เอา! รีบเดินตามติดอย่างไว กำลังจะอ้า
ปากถามต่อ แต่คนเดินหน้าหันควับมาซะก่อนเล่นเอาหญิงสาวสะดุ้ง

“จะถามอีกนานมั๊ย!..เดินวนจะรอบโต๊ะอยู่แล้ว..ฉันไม่เห็นเธอตักอะไรซักทีมีแต่ข้าวเปล่าน่ะ..
ไม่กินเหรอไง” คนางค์หน้ามุ้ย

“ก็มันไม่ชอบนี่!”

“กินๆ ไปเถอะ..อย่าเรื่องมาก” ว่าแล้วก็เดินผละออกไป ปล่อยหญิงสาวให้ยืนหน้านิ่วอยู่อย่าง
งั้น..ซักครู่ก็หันไปมองอาหารใหม่..ค่อยๆหยิบถ้วยขึ้นมาตักต้มยำ..เลือกเอาแต่น้ำอย่างเดียว..
สายตาเหลือบไปเห็นของทอดวางอยู่ใกล้ๆ ก็หยิบขึ้นมาชิ้นนึงจ้องมองใหญ่ แปลกใจ!

“กรรเชียงปูครับ!” คนางค์หันมาหาต้นเสียง..เห็นลักษณ์ยืนอมยิ้มอยู่ก็ส่งเสียงถามออกไป

“เป็นยังไงคะ”

“ก็ทำมาจากขาปูเอาไปชุบแป้ง และก็ทอด” คนางค์พยักหน้า เพิ่งเข้าใจ

“อ้อ! ขาปูชุบแป้งทอด..แหม!เรียกซะหรู” ยิ้มยิงฟันส่งให้..ลักษณ์หัวเราะออกมาเบาๆขำ..วิชา
ว่าด้วยเรื่องอาหารยังคงดำเนินไปอีกประมาณสิบนาทีได้..คนางค์ถึงเดินกลับมาที่โต๊ะ..สองพี่
น้องที่กำลังนั่งคุยกันอยู่หยุดชะงักทันที..หันมามองหญิงสาวกันทั้งคู่

“หายไปเลยครับคุณนาง..ผมนึกว่าเจ้าลักษณ์มันจับตัวไว้ซะแล้ว” สิงหาอมยิ้ม หญิงสาวหัวเราะ
ออกมาเบาๆ ..ค่อยๆ วางจาน กับถ้วยไว้บนโต๊ะ

“คุณลักษณ์แกเก่งนะคะ..ถามอะไรตอบได้หมด เหมือนพวกกุมารเลยรอบรู้จัง” สิงหาหัวเราะ
เสียงดัง

“เปรียบเปรยซะ..นี่ถ้าเจ้าลักษณ์มาได้ยินไม่รู้มันจะดีใจหรือเสียใจกันแน่...อ่ะ! นี่ครับพั๊นซ์น้ำ
หยั่งเมื่อกี้นี้” สิงหาเลื่อนแก้วส่งให้..ธันวาเงยหน้าขึ้นมอง..เห็นคนางค์ยิ้มแป้นยกขึ้นดื่มอย่าง
ไว..ก็ขมวดคิ้วออกมา..

“นี่!..ท้องว่างรีบกินเข้าไปเดี๋ยวก็เมาเท่านั้น!..กินข้าวซะก่อน” คนางค์ค่อยๆ วางแก้วลง

“ไม่เมา! คุณสิงห์บอกว่ามีแอลกอฮอล์นิดเดียว..กินแล้วไม่เมา”ธันวาถอนหายใจเฮือก..หันไป
ส่งสายตาเข้มให้น้องชาย..สิงหาเห็นเข้าหัวเราะออกมาเบาๆ ยักไหล่ส่งให้..ธันวาหันมาหาหญิง
สาวตรงหน้าใหม่

“ไม่รู้แล้วทำอวดฉลาด..กินข้าวซะก่อน” ส่งเสียงเตือนมาอีก..คนางค์หน้ามุ้ยตักข้าวเข้าปาก
แบบเซ็งๆ ยกแก้วขึ้นจิบควบคู่ไปด้วย..สองพี่น้องนั่งคุยเรื่องงานงุ้ง งิ้งกันอยู่สองคน..หญิง
สาวกินข้าวเสร็จก็มองบรรยากาศโดยรอบ ซักครู่เริ่มมีอาการตาปรือ..ง่วง! ธันวาเหลือบตามา
มองพอดี

“ง่วงหรือยัง!” หญิงสาวพยักหน้าหงึก หงัก

“ไป!..เดี๋ยวฉันไปส่ง” ลุกเดินกันมาทั้งคู่..สิงหาอมยิ้มมองส่งบุคคลทั้งสองจนลับสายตา..แล้ว
ก็หัวเราะออกมาเบาๆ...งานนี้ชัวร์แหง่มๆ พี่ชาย..สงสัยจะสละโสดซะแล้วล่ะมั้ง!....

“นี่เธอ!..เดินให้มันตรงทางหน่อยได้มั๊ย..ทางเท้ามีให้เดินไม่เดิน..ไปเดินบนหญ้าเดี๋ยวก็ตาย
หมดเท่านั้น” หญิงสาวทำปากจึก จัก เดินกลับขึ้นมาบนทางเท้าใหม่ บ่นงึม งำออกมาเบาๆ

“ขี้บ่น..ยิ่งกว่าผู้หญิงอีก”

“อะไร” คนางค์หันควับมาทันที

“บอกว่า..ขี้บ่นยิ่งกว่าผู้หญิงอีก..ระวังเน้อ! บ่นมาก! ผู้หญิงที่ควงด้วยจะหนีหายไปหมด ทน
ปากไม่ไหว..เป็นห่วงน่ะ” หัวเราะเสียงดังสะใจ..ชายหนุ่มอมยิ้ม

“ไม่ต้องมาเป็นห่วงฉันหรอก..เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ” หญิงสาวหน้านิ่ว

“ทำไม!..จะว่าฉันเป็นมันแกวโลละสองสามบาทอีกใช่มั๊ย..ขอบอก!..ตอนนี้มีคนบอกว่าระดับ
ฉันน่ะมันกิโลละร้อยแล้ว..หวานจับใจ”เท่านั้นแหละตัวแทบปลิว ธันวาผลักหญิงสาวไปพิงต้น
สัตยบรรณใหญ่อย่างไวแขนกางกั้นไว้..พูดน้ำเสียงรอดไรฟันออกมา

“ใคร!..เจ้าลักษณ์หรือว่าเจ้าสิงห์..ที่มันบอกว่าหวานจับใจน่ะเฮอะ..แล้วไปให้เค้าชิมมาตอน
ไหน” หญิงสาวอึ้ง..

“จะ..จะทำอะไรฉัน” ไม่เคยเห็นอารมณ์ของชายหนุ่มเป็นแบบนี้มาก่อน ธันวายังคงจ้องมาที่
เธอนิ่ง

“ว่าไง!..ไปให้เค้าชิมมาตอนไหน” จ้องตาหญิงสาวนิ่ง..ถามน้ำเสียงคาดคั้นส่งมาอีก

“เอ่อ!..ฉะ ..ฉัน”

ปังงง!!!!!! เสียงปืนลั่นดังสนั่นที่ข้างหู คนางค์นิ่งไปชั่วขณะ..รู้สึกตัวอีกทีก็นอนอยู่บนพื้นมีชาย
หนุ่มโอบประคองตัวเองไว้อยู่ด้านบน..คนางค์ตาเบิกโพลงกำลังจะกรี๊ดดออกมา แต่ชายหนุ่ม
ไวกว่าเอามือปิดปากหญิงสาวกระซิบส่งมาเบาๆ

“ชุว์ ชุว์..เงียบๆ” ธันวาค่อยๆ กวาดตามองไปยังต้นตอกระสุนที่วิ่งผ่านมาเมื่อซักครู่นี้ ไม่มีทีท่า
ว่าจะมีสิ่งมีชีวิตสิ่งสถิตอยู่ตรงแถบนั้นซักคน..ค่อยๆปล่อยมือออกจากปากหญิงสาว...

“ละ..ละ..เลือด” ชายหนุ่มหันหน้ามองขมวดคิ้วส่งให้

“เธอโดนกระสุนตรงไหนหรือเปล่า!” ค่อยๆประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง..คนางค์หน้าซีด
สีหน้ายังคงตื่นตระหนก

“มะ..ไม่..ละเลือดคุณ...คุณเลือดไหลที่แขน..หะ..ห้ามเลือดก่อน” หน้าตาเหยเก..จะร้องไห้
มือก็สาระวนอยู่ที่แผลของชายหนุ่มตรงต้นแขน..ธันวาส่งน้ำเสียงปลอบประโลมออกมาเบาๆ

“ไม่เป็นไร!..ฉันไม่เป็นไร..คนางค์”

“มะ..ไม่..เลือดไหลไม่หยุดเลย”น้ำเสียงสั่นเคลือ..เอามือของตัวเองกดบาดแผลให้ชายหนุ่ม
ธันวาจ้องหน้าคนางค์นิ่ง...ซักแป๊บเสียงสิงหากับลักษณ์ ก็ตะโกนโวกเวกมา

“วู้! พี่ธัน! อยู่ไหน” ธันวาค่อยๆประคองคนางค์เดินออกไปหากลุ่มของสิงหาที่กำลังเดินเข้ามา
มีบุษบงเดินตามมาด้วย

“คุณบุษ..เดี๋ยวพาคุณคนางค์ไปพักผ่อนนะ..และก็ติดต่อจองไฟล์ทกลับกรุงเทพฯให้เธอด้วย..
เอาเป็นเที่ยวแรกเลย”

“ค่ะ” บุษบงรับคำเดินมาประคองคนางค์ไว้..คนางค์ยืนนิ่งอึ้ง ส่งเสียงออกมาเบาๆ

“เอ่อ..คุณธันวา..ฉะ..ฉัน” ชายหนุ่มมินำพาเสียงคนางค์แม้แต่น้อย หันมาหาบุษบงอีกครั้งนึง

“อ้อ!..รบกวนช่วยล้างเลือดออกจากมือเธอด้วยนะครับ!..เดี๋ยวจะเป็นลมไปซะก่อน!” พูดเสร็จ
ก็เดินจ้ำอ้าวจากมา..พร้อมๆ กับกลุ่มน้องชาย...

“จับได้หรือเปล่า!” ธันวาหันหน้ามาถามสิงหาที่เดินตามมาด้วยกัน น้องชายพยักหน้ารับ

“ได้ฮะ..พี่เวศน์วางคนไว้ทุกจุด..หนีไม่รอด” ธันวายิ้มน้อยๆ

“ดีมาก!” ชายหนุ่มหันมาหาลักษณ์ที่เดินอยู่อีกข้างนึง

“เจ้าลักษณ์แกโทรประสานงานเจ้าหน้าที่ในเมืองหรือยัง”

“เรียบร้อยแล้วฮะ..เดี๋ยวคงจะถึง” ธันวาหัวเราะออกมาเบาๆ สีหน้าเย็นเฉียบ

“แจ่ม!..ที่นี้เราจะได้รู้ซักทีว่ามันใช่อย่างที่เราคิดหรือเปล่า”.....



กรกนก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 มิ.ย. 2554, 21:37:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 มิ.ย. 2554, 21:37:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 1911





<< ตอนที่ 7 : กามเทพแผลงศร   ตอนที่ 9 : ความรู้สึก >>
kitty 13 มิ.ย. 2554, 22:57:35 น.
มาแว้ว ๆ


MDDC 13 มิ.ย. 2554, 23:01:11 น.
ตลกอ่ะ มันแกวโลละสองสามบาท สนุกดี
แต่คำสะกดผิดมีเยอะนะคะ


ปลาวาฬสีน้ำเงิน 13 มิ.ย. 2554, 23:27:13 น.
สนุก อ่ะ ชอบ นาง ม๊าก มาก ...


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account