♥ ♥ ♥ หัวใจร้อยดาว [ชุด ทางลัดสลัดโสด สนพ.อรุณ] ♥ ♥ ♥
อะไรนะ! ถ้าไม่แต่งงานภายในเก้าสิบวัน

เธอต้องขึ้นคานไปตลอดชีวิตเหรอ บ้าไปแล้ว!



ดอกเตอร์ โมนา วิมาลิน อยากอุทานเป็นภาษาต่างดาวชะมัด

แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ ที่ไม่เชื่อเรื่องงมงาย

แต่รุ่นพี่ที่เจออาถรรพ์ก็ขึ้นคานกันไปแล้วถ้วนหน้า

เธอจะเสี่ยงเป็นคนต่อไปจริงเหรอ...



นับว่าพระเจ้ายังไม่ใจร้ายจนเกินไป

เพราะท่านส่ง ชัชวิน มาจีบเธออย่างออกนอกหน้า

ตามมาด้วย เมอร์ซิเออร์ โนแอล เดอแบร์มองต์ สุดหล่อ

แถมยังมี เอกชัย เทรนเนอร์หล่อล่ำ

กับ กฤต นักดนตรี อารมณ์ศิลป์มาให้เลือกพร้อมเพรียง



โมนาไม่ได้โชคดีขนาดนั้น

เพราะระหว่างหาทางลงจากคาน

เธอกลับต้องเผชิญปัญหาเรื่องการงานหนักหน่วง



ในท่ามกลางมรสุมที่พัดจนเธอซวนเซ

โมนาจึงได้เห็นความรักของใครบางคน...ชัดเจนขึ้นในหัวใจ

อยากรู้ก็แต่ว่า...อีกฝ่ายจะรักเธอมากพอ

และชวนเธอลงจากคานทันเวลาไหมหนอ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต

หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น

ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

เตรียมยิ้มและหัวเราะไปกับ ดอกเตอร์สาวตัวกลม ที่จะทำให้คุณเข้าใจนิยามของความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง

หัวใจร้อยดาว - เจ้าสาวร้อยชั่ง ในชุดทางลัดสลัดโสด


เขียนโดย สิริณ - ดวงมาลย์

จ่อคิววางแผงต่อจาก ใต้ปีกรักสีเพลิง เลยค่ะ

เชิญติชมกันได้เต็มที่เช่นเคย



ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย

ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ

(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )

ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ

www.facebook.com/SirinFC
Tags: โนแอล โมนา ขิมคราม รอยตะวัน สลัดโสด

ตอน: ตอนที่ ๑๑ (จบตอน)

พนิดาและตุลยาผลัดกันมองนาฬิกาที่ข้อมือซ้ำๆเพราะเลยเวลานัดมาเกือบชั่วโมงแล้ว แต่โมนาก็ยังไม่มาปรากฏตัวเสียที ทั้งที่ปกติหญิงสาวเป็นคนตรงต่อเวลา และไม่เคยเบี้ยวนัดเพื่อนโดยไม่บอกล่วงหน้าอย่างนี้มาก่อน

“ด้าลองโทร.หาถังถังอีกครั้งซิ ตุ่นว่านี่มันชักจะผิดปกติแล้วนะ” ตุลยาเพื่อนร่วมเผชิญอาถรรพ์ซุ้มเล็บมือนางกับโมนาพยักพเยิดไปที่โทรศัพท์ด้วยสีหน้ากังวล

พนิดาโทร.ออกซ้ำเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน และผลลัพธ์ที่ได้ก็เหมือนเดิม “ฉันว่าถังถังมันจงใจหลบหน้าเรานะ มันปิดเครื่อง ไม่ใช่โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ”

“หรือเราจะบุกไปหาถังถังที่คอนโดดี” ตุลยาออกความเห็น

“อย่าดีกว่า การที่ถังถังหลบหน้าเรา อาจแปลว่ามีเรื่องบางอย่างที่ไม่อยากให้เรารู้ ขืนเราบุกไปที่คอนโด อาจทำให้ถังถังอึดอัดก็ได้นะ” พนิดาปรามด้วยเหตุผล เพราะหลายปีที่คบหาเป็นเพื่อนกัน โมนามักจะมีช่วงเวลาที่หายตัวไปจากกลุ่มเพื่อนฝูง ไม่ส่งข่าว ติดต่อไม่ได้อยู่เนืองๆ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจดี เพราะความเป็นเพื่อนสำหรับพวกเธอ ไม่ได้วัดว่าต้องเจอกันบ่อยแค่ไหน แต่มีความหมายตรงทุกครั้งที่กลับมาเจอกัน บรรยากาศเดิมจะคงอยู่ และทุกคนก็สนิทสนมกันได้ราวกับไม่เคยห่างไกลไปไหนเลยต่างหาก

หลังจบมื้ออาหาร ขณะสองสาวกำลังจะสั่งของหวาน เงาสูงของผู้ที่ทั้งคู่กำลังคอยอยู่ก็ทาบทับมาที่โต๊ะ “อย่าโกรธฉันนะด้า ตุ่น ทีแรกฉันกะจะเบี้ยวนัดพวกแก แต่ฉันกลัวพวกแกเป็นห่วง ก็เลยตัดสินใจมาเอาป่านนี้น่ะ” โมนาว่าเสียงอ่อยพลางนั่งลงยังเก้าอี้ที่ว่าง

“มีอะไรหรือเปล่าถังถัง ทำไมถึงไม่อยากมาเจอพวกเรา” ตุลยาข้องใจ

โมนาชั่งใจครู่เดียว แล้วจึงโพล่งออกมาโดยไม่มีการอารัมภบท “ผู้ชายที่ฉันเคยเล่าให้ฟังตอนงานแต่งด้าว่าเป็นแฟนฉันน่ะ เราเลิกกันแล้ว” โมนาสบตาเพื่อนทีละคนนิ่งๆ ก่อนเริ่มต้นเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองฟังอย่างละเอียด แล้วลงท้ายด้วยการสรุป “ฉันเพิ่งรู้วันนี้แหละว่าเขาไม่ใช่แค่นอกใจฉันไปมีผู้หญิงคนอื่นและหวังปอกลอกเงินของฉัน ความจริงแล้วเขาไม่เคยรักฉันด้วยซ้ำ แต่เห็นฉันเป็นสะพานทอดไปสู่การโกงบริษัทต่างหาก”

“ใจเย็นก่อนนะถังถัง บางทีอาจมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ได้” พนิดารีบปลอบเมื่อเห็นเพื่อนสาวคนเก่งฮึดฮัดเหมือนอยากอาละวาดเต็มที

“เขารับสารภาพขนาดนั้นแล้ว ยังจะมีเรื่องเข้าใจผิดตรงไหนได้อีก” โมนาเอนพิงพนัก แววตาแห้งแล้ง “ฉันไม่อยากมาเจอพวกแก เพราะรู้ว่าถ้ามาแล้วก็คงอดไม่ได้ต้องเล่าเรื่องห่วยๆนี่ให้ฟัง ฉันรู้นะว่าพวกแกจะไม่สะใจ ไม่สมเพชฉันหรอก แต่ฉันก็อดอายไม่ได้อยู่ดีว่ะ เสียหน้าชิบเป๋งเลย อ้วนอย่างนี้แล้วยังหวังว่าจะมีผู้ชายหล่อๆมารักอีก หวังสูงไม่เจียมตัวเลย” โมนางึมงำ

“ใครมันตาต่ำไม่รักแกก็ช่าง แต่จำไว้ว่าพวกเรารักถังถังนะ” ตุลยาดึงโมนาไปกอดพร้อมกับลูบหลังเบาๆ

รอยสัมผัสอบอุ่นจากคนที่ปรารถนาดีต่อกันอย่างจริงใจ ทำให้โมนารู้สึกไม่โดดเดี่ยวเดียวดายอย่างที่ผ่านมา หญิงสาวยกมือขึ้นกอดเพื่อนนิ่งๆเพื่อเติมโพรงว่างในหัวใจให้เต็มตื้นขึ้น

“ฉันสบายใจขึ้นแล้ว ขอบใจแกสองคนมากนะ” โมนาขืนตัวออกจากอ้อมกอดของตุลยา ส่งยิ้มยืนยันอีกคำรบ แล้วจึงหันไปยกมือเรียกพนักงาน “เอ้อ...น้องคะ ขอเมนูด้วยค่ะ”

กองชมอ้าปากค้าง ขณะพนิดาอดรนทนไม่ได้ “องค์ลงหรือวะถังถัง ทำไมอารมณ์แกเปลี่ยนเร็วอย่างนี้ล่ะ”

“ฉันหิว” คำตอบสั้นแต่ได้ใจความครบถ้วน เจ้าตัวกางเมนูเปิดอ่านทีละรายการอย่างใคร่ครวญ แล้วเงยขึ้นถาม “ตุ่นว่าสตูไก่ไม่ติดหนังกับหมูอบราดซอสเกรวี่อย่างไหนแคลอรีน้อยกว่ากัน”

“แกเคยห่วงเรื่องแคลอรีด้วยเหรอ” ตุลยาฉงนหนัก เพราะปกติโมนามักจะตะลุยเปิดเมนูแล้วจิ้มๆๆทุกรายการที่ต้องการมากกว่า

โมนาหงุดหงิดเมื่อไม่ได้คำตอบ จึงหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปจากเมนูแล้วกดปุ่มยุกยิกอยู่คนเดียว

“แกทำอะไรน่ะถังถัง” ตุลยาสงสัย เมื่อเพื่อนคนที่เคยพูดเก่งที่สุดในกลุ่ม จู่ๆก็กลับทำท่าทางแปลกๆเช่นนี้

“ฉันหาตัวช่วยอยู่” โมนาปล่อยให้เพื่อนสงสัยไม่ถึงครึ่งนาที คำอธิบายก็มาถึงในรูปของเสียงเรียกเข้าทางโทรศัพท์ “มาละ!” โมนาพยักพเยิดด้วยรอยยิ้ม ก่อนกดปุ่มรับสาย แถมยังเอาโทรศัพท์ไปแนบหูโดยไม่ทักทายสักคำ แค่ไม่ถึงอึดใจ เพื่อนคนที่อวบที่สุดในกลุ่มก็ ‘หัวเราะ’!

“ฉันก็กะแล้วว่าคุณต้องไม่เห็นด้วยกับทั้งสองเมนู โอเค ขอบคุณมาก แค่นี้นะ” เธอตัดการติดต่อแล้วหันไปสั่งพนักงาน “เอาสเต๊กปลาดอรี่ย่างเกรียมๆ” โมนาทวนความจำ “เสิร์ฟน้ำสลัดมาข้างๆนะคะ อย่าราดมาล่ะ”

เพียงพนักงานรับรายการเรียบร้อยและค้อมศีรษะเดินพ้นโต๊ะไป สองสาวก็ตั้งป้อมซักทันที

“เมื่อกี้แกคุยกับใคร” กองเชียร์ถามขึ้นแทบจะพร้อมกันเลยทีเดียว

“ฉันกำลังอยู่ในโปรแกรมลดน้ำหนักอย่างเคร่งครัด เมื่อกี้ฉันคุยกับผู้คุมให้อนุมัติรายการอาหารเย็นไง”

“ผู้คุมที่ว่า ถังถังหมายถึงเทรนเนอร์ฟิตเนสเหรอ” ตุลยาทำท่าสนใจ

“เขาไม่ใช่เทรนเนอร์ของฉัน” โมนากลอกตาไปมาอย่างจนคำอธิบาย สุดท้ายจึงอุบอิบ “เขาเป็นเพื่อนที่ออฟฟิศน่ะ เรามีข้อตกลงกันนิดหน่อย คือเขาจะช่วยให้ฉันผอม สวย มีเสน่ห์ แล้วก็สอนวิธีอ่อยผู้ชายให้ฉันน่ะ”

“แล้วแกต้องแลกเปลี่ยนอะไรกับเขา” พนิดาเท้าข้อศอกลงบนโต๊ะ ตั้งใจฟังเต็มที่

“แพนด้า แกรู้ได้ไงว่าฉันต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”

“นี่มันมุกคลาสสิกในละครนะถังถัง แกไม่รู้ได้ไงวะ” เจ้าสาวที่เพิ่งเข้าหอเมื่อสองอาทิตย์ก่อนโวย

“ฉันเคยดูละครที่ไหนเล่า พวกแกก็รู้” โมนาโวย เพราะถูกส่งเข้าคอนแวนต์แบบโรงเรียนประจำตั้งแต่เล็ก แถมยังต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ มิตรแท้ของเธอจึงเป็นซีรี่ส์ต่างประเทศมากกว่าละครไทย

ตุลยาพยักหน้า “โอเค แกไม่รู้ว่านี่มันเหมือนมุกในละคร ตุ่นเข้าใจ ว่าแต่ข้อแลกเปลี่ยนที่ถังถังต้องทำให้ชายหนุ่มปริศนานี่คืออะไร ไหนบอกมาดิ๊”

โมนาถอนใจ “ฉันต้องหาที่พักให้เขา ซักผ้า รีดผ้า ถูบ้าน ล้างจาน แล้วก็ทำอาหารให้เขากิน”

“นี่มันสัญญาทาสชัดๆเลยนะถังถัง” พนิดาครวญแทน “ขนาดฉันยังไม่ต้องทำให้ผัวขนาดนี้เลยนะ”

ตุลยาตีแขนคนมีสามีแล้วทันที “เฮ้ย! ที่นี่มีเราแค่สามคน จำไว้ว่าคนแต่งงานแล้วจัดเป็นชนกลุ่มน้อย ไว้รอให้เราอยู่กันครบทั้งแก๊ง แล้วแกค่อยพูดคำว่าผัวออกมา แกพูดแกไม่อาย แต่ตุ่นฟังแล้วตุ่นเขินเว้ย”

พนิดาหัวเราะแก้เก้อ “เออๆ โทษที ฉันลืมตัวไปหน่อย ต่อเลยถังถัง ผู้ชายคนนี้รู้ไหมว่าแกรวย”

“รู้ดิ” โมนารีบส่ายหน้าปรามเมื่อเพื่อนทำท่ารู้ทัน “หยุดเลย ไม่ใช่อย่างที่พวกแกคิดแน่นอน เขาไม่ได้คิดมาปอกลอกฉันแน่ๆ เราเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น นึกออกไหมที่เขาเรียกว่าเรามีผลประโยชน์ต่างตอบแทนน่ะ”

“ไม่ว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นใครนะ บอกได้เลยว่าเขาฉลาดไม่เบา ที่ขุดข้อแลกเปลี่ยนมาต่อรองจนถังถังยอมทำตามได้น่ะ” พนิดาทำสีหน้าครุ่นคิด

ตุลยาฉุกใจ ชี้ไปยังสูทตัวหลวมที่สาวอวบสวมเป็นประจำ “แล้วเนี่ยเหรอ ที่ถังถังบอกว่าเขาจะทำให้แกผอม สวย มีเสน่ห์น่ะ ตุ่นไม่เห็นว่าแกจะเปลี่ยนไปตรงไหนเลย”

“ฉันยังไม่ผอมเลย จะรีบซื้อเสื้อผ้าใหม่ทำไม เปลืองเงิน”

“อืม...ก็มีเหตุผลนะ” ตุลยาพยักหน้าเห็นด้วย

“ปฏิบัติการกระโดดลงคานของฉันตอนนี้เท่ากับต้องเริ่มต้นใหม่ ไม่น่าสนใจหรอก ขอรู้เรื่องแกดีกว่าตุ่น ทางลัดสลัดโสดของแกไปถึงไหนแล้ว เล่าให้ฟังบ้างสิ”

เมื่อถึงคราวตัวเองต้องเป็นคนแถลงบ้าง ตุลยาจึงยิ้มแหย สายตาเพื่อนคาดคั้นจนไม่อาจบิดพลิ้ว จึงจำต้องเริ่มต้นด้วยการเท้าความ “ถังถังกับแพนด้าจำพี่บีได้ไหม”

สองสาวพยักหน้าหงึกๆทันควัน ใครบ้างจะลืมลง พี่บีหรืออชิระคือหนุ่มรุ่นพี่ที่ตุลยาเคยปิ๊งสมัยเรียนปีสอง โชคร้ายที่วาเลนไทน์ปีนั้น ขณะตุลยาตั้งใจจะสารภาพรักกับชายหนุ่ม แต่เพื่อนกลับต้องไปเห็นภาพบาดตา เมื่อเขากอดอยู่กับพี่สาวของตัวเองเต็มตา ตุลยาอกหักยับเยิน เรียกได้ว่ารักษากันมาแรมปีกว่าจะหายจากความเจ็บปวด จู่ๆเพื่อนมาเอ่ยถึงอย่างนี้...ท่าจะไม่ดีเสียแล้ว

ตุลยายิ้มแหยเมื่อสารภาพเสียงอ่อย "ตอนนี้พี่บีเป็นเจ้าของบริษัทที่ตุ่นทำงานอยู่"

"หา!" สองสาวอุทานพร้อมกัน

เจ้าของเรื่องพยักหน้าจ๋อย "ใช่ มันแย่อย่างที่ถังถังกับแพนด้าคิดนั่นแหละ และที่แย่ยิ่งกว่านั้นก็คือ ตุ่นเพิ่งรู้ตัวว่ายังทำใจเรื่องเขาไม่ได้เลย จะลาออกก็ไม่ได้ พี่บีท้าทายว่าถ้าตุ่นลาออก แปลว่าตุ่นไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา แถมยังปรามาสด้วยว่า คนที่ถูกเด้งออกจากงานถึงสิบสองครั้งในเวลาแปดปี ไม่มีบริษัทไหนกล้ารับเข้าทำงานอีกแล้ว นอกจากบริษัทของเขา"

"เฮ้ย! เป็นสถานการณ์ที่โหดร้ายที่สุดเลยนะตุ่น อยู่ใกล้ก็เจ็บ จะหนีไปอยู่ไกลๆก็ไม่ได้" โมนาโอดแทนเพื่อน

"อืม" ตุลยาถอนใจ "ตุ่นเลยต้องยอมทนทำงานที่นั่นไปก่อน คิดว่าใกล้ๆกันเป็นบริษัทโมเดลลิ่ง บางทีอาจจะมีนายแบบหล่อๆสักคนที่เป็นรักแท้ของตุ่นหลงอยู่ในนั้น แต่ที่ไหนได้ สรุปแล้วมีแต่พวกเก้งกวางทั้งบริษัท"

“นั่นปะไร ฉันกะแล้ว” พนิดาถอนใจเฮือก นึกไม่ผิดว่าต้องเป็นอีหรอบนี้

“พวกแกไม่ต้องเป็นห่วงนะ ความจริง...ตอนนี้ก็มีใครบางคนเข้ามาในชีวิตตุ่นเหมือนกัน เพียงแต่ยังไม่แน่ใจว่ามันจะไปได้ไกลถึงไหน”

“งั้นก็ดีสิตุ่น ไม่ว่าคนคนนี้จะเป็นใคร ฉันเชียร์เต็มที่ แกจะได้ไม่ต้องปวดใจเพราะพี่บีอีก” โมนาให้กำลังใจ

“ตุ่นต้องตัดใจจากพี่บีให้ได้ เพราะเขาเป็นผู้ชายต้องห้ามสำหรับตุ่น” ตุลยาย้ำให้ตัวเองฟังดังๆ

คำบอกเล่านั้นทำให้โมนาต้องเอื้อมมาบีบกระชับมือเพื่อนไว้ด้วยแววตาเห็นใจ “เอาน่า ตุ่นอย่าคิดมากอีกเลย อดีตก็ปล่อยมันไปซะ แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ดีกว่า อย่างน้อยตอนนี้ตุ่นก็มีใครบางคนที่อาจจะเป็นเจ้าบ่าวในอนาคตโผล่เข้ามาในชีวิตแล้ว อย่าปล่อยให้หลุดมือล่ะ ขอแค่มีความหวังเพียงเศษเสี้ยว เราสองคนจะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด...ใช่ไหมตุ่น”

“แน่นอนอยู่แล้วถังถัง เวลายังเหลืออีกเยอะ หนทางยังอีกยาวไกล เราต้องไปถึงเส้นชัยแน่ๆ ตุ่นจะลองพยายามดูอีกสักตั้ง” ตุลยาหมายมาดด้วยรอยยิ้มมั่นใจ

มีเพียงพนิดาที่เอนพิงพนักเก้าอี้มองสองสาวที่อยู่ในโลกของความฝันด้วยความหนักใจ จริงอยู่ว่าเก้าสิบวันมันนานพอที่จะให้ผู้หญิงตกหลุมรักกับใครสักคนได้ แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันจะเป็น ‘ความรัก’ ไม่ใช่แค่ความหลงใหล หรือแค่การคว้า ‘ใครก็ได้’ เพียงเพื่อจะได้ไม่ต้องขึ้นคาน

ในฐานะของคนที่แต่งงานแล้ว แม้จะมีประสบการณ์ชีวิตครอบครัวแค่สองสัปดาห์ แต่พนิดารู้ว่า การขึ้นคาน นั้นดีกว่าเป็นม่ายหย่าสามี เพราะสาวโสดทั้งสองกรณีล้วนต้องเหงาอยู่คนเดียว ต่างกันตรงที่เคสแรก...พูดได้เต็มปากว่า ‘เลือกเยอะ’ ส่วนคนหลัง ไม่ว่าเหตุผลของการร้างราจะเป็นข้อไหน ความหมายทั้งหมดก็รวมได้แค่ว่า ‘เลือกคนผิด!’


(จบตอน)


ตอนนี้มีตุลยาโผล่มารับเชิญด้วยนะคะ
อยากชวนเพื่อนๆไปติดตามชะตากรรมสลัดโสดของตุลยาแบบเต็มๆ
ที่ "เจ้าสาวร้อยชั่ง" ด้วยค่ะ
ตอนนี้ ดวงมาลย์ เอานิยายมาลงในเว็บเลิฟแล้วน้า ^_^



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 พ.ย. 2556, 00:18:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 พ.ย. 2556, 00:20:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 1648





<< ตอนที่ ๑๑ (ครึ่งแรก)   ตอนที่ ๑๒ >>
konhin 8 พ.ย. 2556, 00:39:36 น.
ไปปิดบังโนเอลให้เค้าเข้าใจผิดเพิ่ม เฮ้อ แล้วนายโนเอลโครตสองหน้าเลยอ่ะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 8 พ.ย. 2556, 01:01:54 น.
ติดไปแล้วทั้งสองเรื่องค่าาาา^^


ree 8 พ.ย. 2556, 03:17:17 น.
เพื่อนแก๊งนี้วิถีชีวิตน่าสนใจมั่ก


Pat 8 พ.ย. 2556, 06:09:45 น.
กองชมอ้าปากค้าง ขณะที่พนิดาอดรนทนไม่ได้. กองชม


ดวงมาลย์ 8 พ.ย. 2556, 07:49:44 น.
ยายตุ่นมาแล้ว คิคิ แอบหนีเจ้าทองมาเม้าท์กับเพื่อน เป็นกำลังใจให้ถังถังและยายตุ่นกันต่อไปนะคะ ยังมีเรื่องราวสนุกสนานอีกเพียบค่ะ


ดวงมาลย์ 8 พ.ย. 2556, 08:08:48 น.
อ้อ...ลืมบอกไปค่ะ ว่าพี่บีที่ถูกกล่าวถึงในฉากนี้กำลังปรกฏตัวอยู่ในตอนล่าสุดของเจ้าสาวร้อยชั่งนะคะ


Zephyr 11 พ.ย. 2556, 10:56:05 น.
กลัวตัวเองเสียหน้า เลยยิ่งทำให้สงสัย
เฮ้อ ถ้าเชื่อใจว่าเป็นเพื่อนกันจริงก็เปิดอกคุยกันเถออะ


ketza 10 ธ.ค. 2556, 13:53:53 น.
สองสาววิ่งหนีความโสดดดดดดดด


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account