^วันอยากเขียน^
รวมเรื่องสั้น ฉบับลิขิตราค่ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว จับเรื่องสั้นมารวมกันไปเลยดีกว่า
Tags: เรื่องสั้น ลิขิตรา
ตอน: What is love???(2)
ชุดกระโปรงยาวลากพื้นสีขาวสะอาด ประดับด้วยลูกไม้ฝรั่งเศสกับไข่มุกแท้สีครีมเงาสวยจากมิกิโมโตะ ข้าวของล้ำค่า เงินตรามากมี นี่อาจเป็นยอดปรารถนาของผู้หญิงสักคน แต่แปลกที่ฉันได้แต่นั่งมองภาพตัวเองในกระจกแล้วอดจะถอนใจเบา ๆ ไม่ได้
ข้อความเตือนเรื่องเฮียเล้งยังถูกส่งมาเป็นระยะ และฉันก็ไม่เคยให้เขาได้เห็น ได้รู้
ผู้ชายอย่างเฮียเล้ง ควรค่ากับคำว่ามังกร ที่แย่คือ...เขาพึงใจจะเป็นมังกรที่ผงาดเคียงจันทร์ มากกว่าจะหาหงส์งามมาเคียงคู่
หากเขารู้ว่ามีใครคิดระรานคนที่เขาเลือก เกรงว่าคนที่เดือดร้อนคงไม่ใช่ฉัน
“หมิงเยว่...เฮียให้เวลาเธออีก 2 นาที” เสียงทุ้มตวัดกึ่งดุ กึ่งเอาแต่ใจตัวเองทำให้ฉันเปิดประตูห้องออกไปเผชิญหน้ากับเขาทันที
มังกรเกเรของฉันอยู่ในชุดสากลสีขาว ร่างสูงสง่าของเขาข่มให้ฉันรู้สึกเหมือนนางกำนัลที่อยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ เชื่อเถอะ...ถ้าถามพนักงานในบริษัทเขา ณ วินาทีที่ผู้ชายคนนี้สวมวิญญาณผู้บริหารเต็มตัว เขาก็คงละม้ายคล้ายฮ่องเต้ผู้ทรงอำนาจในราชวงศ์โบราณนั้นล่ะ
ยิ่งอยู่ในชุดสากลเรียบกริบ กับใบหน้าเรียบเฉยเช่นนั้น ฉันก็เป็นแค่พระจันทร์ดวงเล็ก ๆ ในกำมือเขาเท่านั้น
ฉันยื่นมือไปแตะข้างแก้มเขาทั้งสองข้าง แกล้งบอกกึ่งกระเง้ากระงอด “ยิ้มหน่อยสิคะ เดี๋ยวคนก็เข้าใจว่าฉํนบังคับเฮียมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกันพอดี”
“ให้เขามาว่า แล้วเฮียจะบอก ว่าเฮียเป็นฝ่ายบังคับเธอเอง” เขาบอกเสียงเรียบ ก่อนจะเอ่ยคำที่ทำให้ฉันตัวชาวาบ “You were proposed, not the proposer.”
ไม่พูดเปล่า เฮียเล้งยกโทรศัพท์เครื่องเล็กของฉันขึ้นตรงหน้า ข้อความที่ถูกส่งมามากมายจากหมายเลขปลายทางที่ฮ่องกงนั้น มีเพียงข้อความเดียวที่ฉันตอบกลับไป “ทำไมไม่บอกเฮีย”
ฉันเหยียดริมฝีปาก กึ่งขันกึ่งหยัน “เพราะหนูเลือกแล้วที่จะแต่งงานกับเฮีย ไม่ว่าคำของใครก็เปลี่ยนความตั้งใจนี้ไม่ได้ และเมื่อหนูเลือกจะยืนอยู่ข้างเฮีย ก็ต้องหัดเมินเฉยต่อข้อความงี่เง่าพวกนี้ให้ได้ด้วยเหมือนกัน”
นี่เป็นอีกครั้งที่ผู้หญิงตรงหน้าทำให้เขาต้องทอดถอนใจปนประหลาดใจ นับตั้งแต่สองปีก่อนที่ได้พบเธอ กี่คราวแล้วที่เด็กคนนี้ทำให้เขาคล้ายผู้ชายโง่งมที่ไม่คุ้นชินกับการเดินข้าง ๆ ผู้หญิงอย่างเธอ แต่ก็ไม่เคยสักครั้งที่จะเห็นเธอเป็นอย่างผู้หญิงทั่วไป
คงเพราะเหตุนี้...เขาถึงยอมให้เธอเลือกมาเดินข้าง ๆ
2 ปีแล้ว นับจากวันที่เด็กสาวในชุดเสื้อคอเต่าสีแดงเดินเข้ามาในห้องอาหาร ใบหน้านั้นไม่ได้สวยงามหมดจดอย่างผู้หญิงที่เขาเคยพบกา แต่แววตากึ่งหน่ายกึ่งเศร้าที่ดูเหม่อลอยในบางคราวนั้นต่างหากที่สะดุดตาเขา ตัวเธออยู่ตรงหน้าเขา หน้าโต๊ะอาหารที่แปะฉากการดูตัวไว้อย่างเปิดเผย แต่ใจเธอดูไม่ได้ใส่ใจเขาสักนิด
ขณะที่สายตาเธอสนใจแค่น้องสาวเขา กับเรื่องราวความมุ่งมั่นในการวางแผนชีวิต ตั้งแต่เมื่อไร...สายตาเขากลับวนเวียนไปหาเธออยู่เสมอ
ดวงตาเหม่อปนเศร้าคู่นั้นบอกว่าเธอมีบางเรื่องราวในใจ ทำให้เขาต้องหาทางสืบหาจนรู้ว่าหัวใจเธอวางไว้กับใครที่ไม่คู่ควร
เขาไม่เคยถูกปฏิเสธ โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง แต่เธอ...ดูเหมือนไม่ใยดี และทำท่าจะหลุดลอยหากเขาไม่คิดคว้า
บางอย่างเตือนเขา...หากปล่อยดวงจันทร์อย่างเธอไปอยู่ในมือแมวงี่เง่า มังกรอย่างเขา...จะมีกรงเล็บไว้เพื่ออะไร!
เล้งจ้องหน้าหญิงสาวดวงดวงตาคมจัด แววบางอย่างในตาคู่นั้นให้ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยจนเธอหน้าแดงจัด หัวใจเต้นรัวเป็นจังหวะประหลาด
อาจเพราะเขาอยู่ในชุดเจ้าบ่าวสีขาวหากใบหน้าได้รูปกับดวงตาเรียวเฉียงพาดตรงยังให้ความรู้สึกสูงศักดิ์ที่ยากจะเข้าถึง ขณะที่เธออยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวเข้ากับผิวเนียนราวไข่มุกที่ประดับร้อยบนชุด เหมือนนางสนมกับราชา อยู่เคียงข้างด้วยหน้าที่มากกว่าหัวใจ
หมิงเยว่ถอนใจเบา ๆ นึกขันความเดียงสาของตัวเอง
การเดินข้างเขาอย่างปลอดภัย...คงต้องแลกด้วยความรักชั่วนิรันดร์ของเธอ
จากชุดเจ้าสาวสีขาว กลับเปลี่ยนเป็นชุดยกน้ำชาอย่างจีน กีเพ้าแบบประยุกต์สีแดงสดแต่งกระโปรงลูกไม้โปร่งเป็นตะข่ายแบบที่เธอเคยเปิดนิตยสารชี้บอกว่าสวยดี
ทันทีที่เธอเดินออกมา ชายหนุ่มก็ได้แต่ยืนนิ่งมองอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะพาเธอไปถ่ายภาพต่อ
ทุกอย่างควรจบลงเม่อทั้งคู่เดินออกมาจากเวดดิ้งสตูดิโอ เธอจะกลับไปนอน เตรียมพร้อมสำหรับเวรในโรงพยาบาลคืนพรุ่งนี้ ส่วนเขาก็กลับไปทำงาน ดูแลธุรกิจที่ล้ำค่า หรือกระทั่งผู้หญิงที่ควงเล่นของเขาต่อ
“อาหารญี่ปุ่นไหม? ” คำถามนั้นทำให้เธอเลิกคิ้วมอง
“เฮียไม่ได้อยากหาที่คุยเรื่องคุณนางแบบฮ่องกงที่ส่งข้อความหาหนูใช่ไหม” เธอหัวเราะเบา ๆ “ไม่ได้สลักสำคัญขนาดนั้น อย่าโกรธเลยค่ะ...บางครั้งผู้หญิงเราก็ทำอะไรงี่เง่าเพราะต้องการความรักและอยากเป็นเจ้าของ”
เล้งหน้าตึงขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “เฮียอยากกินข้าวกับเธอโดยไม่ต้องมีธุระอื่นไม่ได้หรือ”
นานแล้วที่เขากับเธอไม่ได้ร่วมโต๊ะอาหารกันเพียงลำพัง
หญิงสาวอมยิ้ม ก่อนพยักหน้ารับ “ได้ค่ะ...แลกกับการที่หนูจะเห็นผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ในวงการของเธอต่อไปเท่าที่เธอจะยืนได้”
เธอเอ่ยอย่างรู้เท่าและตามทัน เมื่อผู้หญิงคนนั้นกล้าวุ่นวายกับเธอข้ามหน้ามังกรอย่างเขา คนอย่างเล้งไม่มีวันปล่อยให้อำนาจเขาถูกท้าทายแม้จะเป็นจากผู้หญิงที่เคยนอนร่วมเตียง เล้งถอนใจเบา ๆ
“เธอควรห่วงตัวเองก่อนคนอืนนะ หมิงเยว่”
“หนูมีเฮียเล้งคอยห่วงอยู่แล้ว...” เธอเอ่ยพลางยื่นมือไปกุมมือเขา นิ้วแทกกอดกระชับนิ้วมืออย่างเหนียวแน่น “จะต้องกลัวอะไรอีกล่ะคะ”
อีกครั้งที่หญิงสาวถามคำเดิม “หนูเมาต่อหน้าเฮียได้ใช่ไหมคะ”
แทนคำตอบ เล้งหันไปสั่งเหล้าเชอรี่มาให้เธอ คล้ายจะท้าทาย หญิงสาวหัวเราะ “นี่เหมาะกับหลังอาการมากกว่านะคะ”
“เฮียเตรียมไว้ให้ เผื่อเธออยากเข้าหอก่อนแต่งงาน”
“เฮียไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น” หมิงเยว่ยิ้มตอบได้ทันที
เล้งแค่นหัวเราะ เหยียดริมฝีปาก “อย่าไว้ใจผู้ชาย...หมิงเยว่”
“หนูไม่ได้ไว้ใจ...แต่เพราะวางทั้งใจไว้กับเฮียแล้วต่างหาก”
แปลกที่คำพูดประโยคเดียวของผ้หญิงคนหนึ่ง ทำให้เขารู้สึกเหมือนหัวใจกำลังฟูอยู่ในอก เป็นความปลาบปลื้มประหลาดที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นได้
ไม่บ่อยครั้งที่เธอพบเขา และเมื่อพบกันแล้ว...พวกเขาสื่อสารกันในความเงียบ
ความเงียบที่โรยตัวเข้ามาบนโต๊ะอาหาร ไม่ได้น่าอึดอัด แต่คล้ายจะอวลด้วยความรู้สึกบางอย่าง หมิงเยว่แค่อมยิ้มบาง ๆ
“เฮียว่าแปลกไหม...หนูมีความสุขเมื่ออยู่ข้าง ๆ เฮีย”
เพราะเหล้าหรือบรรยากาศก็ไม่รู้ แต่หมิงเยว่อยากบอกเขา
ไม่จำเป็นหรอกความรัก...แค่เรามีความสุขอยู่ข้าง ๆ กัน
นั่นเป็นอีกคืนที่หญิงสาวฝันประหลาด เธอทำแมวหล่นหาย มีแต่มังกรตัวโตจอมเกเรที่โอมกอดดวงจันทร์ไว้
เสียงทุ้มของใครบางคนกระซิบเบา ๆ อยู่ข้างหู
“...ไม่ต้องรักก็ได้...หากเธอมีความสุข”
“...อยู่ข้าง ๆ เฮียนะ...หมิงเยว่...”
ช่างเถอะความรัก ช่างเถอะนิยาม
แค่เรามีความสุขเมื่ออยู่ข้าง ๆ กัน แค่หัวใจที่วางไว้ให้กัน เพียงเท่านี้ยังนิยามสิ่งใดอีก
-----
บางครั้งไอซ์ก็รู้สึกตัวเองไม่ค่อยเข้าใจความรักของคนคู่นี้ แต่ไม่รู้ทำไม ไอซ์กลับมีความเชื่ออย่างหนึ่ง
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจะรักและอยู่เคียงข้างกันตลอดไป
ข้อความเตือนเรื่องเฮียเล้งยังถูกส่งมาเป็นระยะ และฉันก็ไม่เคยให้เขาได้เห็น ได้รู้
ผู้ชายอย่างเฮียเล้ง ควรค่ากับคำว่ามังกร ที่แย่คือ...เขาพึงใจจะเป็นมังกรที่ผงาดเคียงจันทร์ มากกว่าจะหาหงส์งามมาเคียงคู่
หากเขารู้ว่ามีใครคิดระรานคนที่เขาเลือก เกรงว่าคนที่เดือดร้อนคงไม่ใช่ฉัน
“หมิงเยว่...เฮียให้เวลาเธออีก 2 นาที” เสียงทุ้มตวัดกึ่งดุ กึ่งเอาแต่ใจตัวเองทำให้ฉันเปิดประตูห้องออกไปเผชิญหน้ากับเขาทันที
มังกรเกเรของฉันอยู่ในชุดสากลสีขาว ร่างสูงสง่าของเขาข่มให้ฉันรู้สึกเหมือนนางกำนัลที่อยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ เชื่อเถอะ...ถ้าถามพนักงานในบริษัทเขา ณ วินาทีที่ผู้ชายคนนี้สวมวิญญาณผู้บริหารเต็มตัว เขาก็คงละม้ายคล้ายฮ่องเต้ผู้ทรงอำนาจในราชวงศ์โบราณนั้นล่ะ
ยิ่งอยู่ในชุดสากลเรียบกริบ กับใบหน้าเรียบเฉยเช่นนั้น ฉันก็เป็นแค่พระจันทร์ดวงเล็ก ๆ ในกำมือเขาเท่านั้น
ฉันยื่นมือไปแตะข้างแก้มเขาทั้งสองข้าง แกล้งบอกกึ่งกระเง้ากระงอด “ยิ้มหน่อยสิคะ เดี๋ยวคนก็เข้าใจว่าฉํนบังคับเฮียมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกันพอดี”
“ให้เขามาว่า แล้วเฮียจะบอก ว่าเฮียเป็นฝ่ายบังคับเธอเอง” เขาบอกเสียงเรียบ ก่อนจะเอ่ยคำที่ทำให้ฉันตัวชาวาบ “You were proposed, not the proposer.”
ไม่พูดเปล่า เฮียเล้งยกโทรศัพท์เครื่องเล็กของฉันขึ้นตรงหน้า ข้อความที่ถูกส่งมามากมายจากหมายเลขปลายทางที่ฮ่องกงนั้น มีเพียงข้อความเดียวที่ฉันตอบกลับไป “ทำไมไม่บอกเฮีย”
ฉันเหยียดริมฝีปาก กึ่งขันกึ่งหยัน “เพราะหนูเลือกแล้วที่จะแต่งงานกับเฮีย ไม่ว่าคำของใครก็เปลี่ยนความตั้งใจนี้ไม่ได้ และเมื่อหนูเลือกจะยืนอยู่ข้างเฮีย ก็ต้องหัดเมินเฉยต่อข้อความงี่เง่าพวกนี้ให้ได้ด้วยเหมือนกัน”
นี่เป็นอีกครั้งที่ผู้หญิงตรงหน้าทำให้เขาต้องทอดถอนใจปนประหลาดใจ นับตั้งแต่สองปีก่อนที่ได้พบเธอ กี่คราวแล้วที่เด็กคนนี้ทำให้เขาคล้ายผู้ชายโง่งมที่ไม่คุ้นชินกับการเดินข้าง ๆ ผู้หญิงอย่างเธอ แต่ก็ไม่เคยสักครั้งที่จะเห็นเธอเป็นอย่างผู้หญิงทั่วไป
คงเพราะเหตุนี้...เขาถึงยอมให้เธอเลือกมาเดินข้าง ๆ
2 ปีแล้ว นับจากวันที่เด็กสาวในชุดเสื้อคอเต่าสีแดงเดินเข้ามาในห้องอาหาร ใบหน้านั้นไม่ได้สวยงามหมดจดอย่างผู้หญิงที่เขาเคยพบกา แต่แววตากึ่งหน่ายกึ่งเศร้าที่ดูเหม่อลอยในบางคราวนั้นต่างหากที่สะดุดตาเขา ตัวเธออยู่ตรงหน้าเขา หน้าโต๊ะอาหารที่แปะฉากการดูตัวไว้อย่างเปิดเผย แต่ใจเธอดูไม่ได้ใส่ใจเขาสักนิด
ขณะที่สายตาเธอสนใจแค่น้องสาวเขา กับเรื่องราวความมุ่งมั่นในการวางแผนชีวิต ตั้งแต่เมื่อไร...สายตาเขากลับวนเวียนไปหาเธออยู่เสมอ
ดวงตาเหม่อปนเศร้าคู่นั้นบอกว่าเธอมีบางเรื่องราวในใจ ทำให้เขาต้องหาทางสืบหาจนรู้ว่าหัวใจเธอวางไว้กับใครที่ไม่คู่ควร
เขาไม่เคยถูกปฏิเสธ โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง แต่เธอ...ดูเหมือนไม่ใยดี และทำท่าจะหลุดลอยหากเขาไม่คิดคว้า
บางอย่างเตือนเขา...หากปล่อยดวงจันทร์อย่างเธอไปอยู่ในมือแมวงี่เง่า มังกรอย่างเขา...จะมีกรงเล็บไว้เพื่ออะไร!
เล้งจ้องหน้าหญิงสาวดวงดวงตาคมจัด แววบางอย่างในตาคู่นั้นให้ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยจนเธอหน้าแดงจัด หัวใจเต้นรัวเป็นจังหวะประหลาด
อาจเพราะเขาอยู่ในชุดเจ้าบ่าวสีขาวหากใบหน้าได้รูปกับดวงตาเรียวเฉียงพาดตรงยังให้ความรู้สึกสูงศักดิ์ที่ยากจะเข้าถึง ขณะที่เธออยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวเข้ากับผิวเนียนราวไข่มุกที่ประดับร้อยบนชุด เหมือนนางสนมกับราชา อยู่เคียงข้างด้วยหน้าที่มากกว่าหัวใจ
หมิงเยว่ถอนใจเบา ๆ นึกขันความเดียงสาของตัวเอง
การเดินข้างเขาอย่างปลอดภัย...คงต้องแลกด้วยความรักชั่วนิรันดร์ของเธอ
จากชุดเจ้าสาวสีขาว กลับเปลี่ยนเป็นชุดยกน้ำชาอย่างจีน กีเพ้าแบบประยุกต์สีแดงสดแต่งกระโปรงลูกไม้โปร่งเป็นตะข่ายแบบที่เธอเคยเปิดนิตยสารชี้บอกว่าสวยดี
ทันทีที่เธอเดินออกมา ชายหนุ่มก็ได้แต่ยืนนิ่งมองอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะพาเธอไปถ่ายภาพต่อ
ทุกอย่างควรจบลงเม่อทั้งคู่เดินออกมาจากเวดดิ้งสตูดิโอ เธอจะกลับไปนอน เตรียมพร้อมสำหรับเวรในโรงพยาบาลคืนพรุ่งนี้ ส่วนเขาก็กลับไปทำงาน ดูแลธุรกิจที่ล้ำค่า หรือกระทั่งผู้หญิงที่ควงเล่นของเขาต่อ
“อาหารญี่ปุ่นไหม? ” คำถามนั้นทำให้เธอเลิกคิ้วมอง
“เฮียไม่ได้อยากหาที่คุยเรื่องคุณนางแบบฮ่องกงที่ส่งข้อความหาหนูใช่ไหม” เธอหัวเราะเบา ๆ “ไม่ได้สลักสำคัญขนาดนั้น อย่าโกรธเลยค่ะ...บางครั้งผู้หญิงเราก็ทำอะไรงี่เง่าเพราะต้องการความรักและอยากเป็นเจ้าของ”
เล้งหน้าตึงขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “เฮียอยากกินข้าวกับเธอโดยไม่ต้องมีธุระอื่นไม่ได้หรือ”
นานแล้วที่เขากับเธอไม่ได้ร่วมโต๊ะอาหารกันเพียงลำพัง
หญิงสาวอมยิ้ม ก่อนพยักหน้ารับ “ได้ค่ะ...แลกกับการที่หนูจะเห็นผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ในวงการของเธอต่อไปเท่าที่เธอจะยืนได้”
เธอเอ่ยอย่างรู้เท่าและตามทัน เมื่อผู้หญิงคนนั้นกล้าวุ่นวายกับเธอข้ามหน้ามังกรอย่างเขา คนอย่างเล้งไม่มีวันปล่อยให้อำนาจเขาถูกท้าทายแม้จะเป็นจากผู้หญิงที่เคยนอนร่วมเตียง เล้งถอนใจเบา ๆ
“เธอควรห่วงตัวเองก่อนคนอืนนะ หมิงเยว่”
“หนูมีเฮียเล้งคอยห่วงอยู่แล้ว...” เธอเอ่ยพลางยื่นมือไปกุมมือเขา นิ้วแทกกอดกระชับนิ้วมืออย่างเหนียวแน่น “จะต้องกลัวอะไรอีกล่ะคะ”
อีกครั้งที่หญิงสาวถามคำเดิม “หนูเมาต่อหน้าเฮียได้ใช่ไหมคะ”
แทนคำตอบ เล้งหันไปสั่งเหล้าเชอรี่มาให้เธอ คล้ายจะท้าทาย หญิงสาวหัวเราะ “นี่เหมาะกับหลังอาการมากกว่านะคะ”
“เฮียเตรียมไว้ให้ เผื่อเธออยากเข้าหอก่อนแต่งงาน”
“เฮียไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น” หมิงเยว่ยิ้มตอบได้ทันที
เล้งแค่นหัวเราะ เหยียดริมฝีปาก “อย่าไว้ใจผู้ชาย...หมิงเยว่”
“หนูไม่ได้ไว้ใจ...แต่เพราะวางทั้งใจไว้กับเฮียแล้วต่างหาก”
แปลกที่คำพูดประโยคเดียวของผ้หญิงคนหนึ่ง ทำให้เขารู้สึกเหมือนหัวใจกำลังฟูอยู่ในอก เป็นความปลาบปลื้มประหลาดที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นได้
ไม่บ่อยครั้งที่เธอพบเขา และเมื่อพบกันแล้ว...พวกเขาสื่อสารกันในความเงียบ
ความเงียบที่โรยตัวเข้ามาบนโต๊ะอาหาร ไม่ได้น่าอึดอัด แต่คล้ายจะอวลด้วยความรู้สึกบางอย่าง หมิงเยว่แค่อมยิ้มบาง ๆ
“เฮียว่าแปลกไหม...หนูมีความสุขเมื่ออยู่ข้าง ๆ เฮีย”
เพราะเหล้าหรือบรรยากาศก็ไม่รู้ แต่หมิงเยว่อยากบอกเขา
ไม่จำเป็นหรอกความรัก...แค่เรามีความสุขอยู่ข้าง ๆ กัน
นั่นเป็นอีกคืนที่หญิงสาวฝันประหลาด เธอทำแมวหล่นหาย มีแต่มังกรตัวโตจอมเกเรที่โอมกอดดวงจันทร์ไว้
เสียงทุ้มของใครบางคนกระซิบเบา ๆ อยู่ข้างหู
“...ไม่ต้องรักก็ได้...หากเธอมีความสุข”
“...อยู่ข้าง ๆ เฮียนะ...หมิงเยว่...”
ช่างเถอะความรัก ช่างเถอะนิยาม
แค่เรามีความสุขเมื่ออยู่ข้าง ๆ กัน แค่หัวใจที่วางไว้ให้กัน เพียงเท่านี้ยังนิยามสิ่งใดอีก
-----
บางครั้งไอซ์ก็รู้สึกตัวเองไม่ค่อยเข้าใจความรักของคนคู่นี้ แต่ไม่รู้ทำไม ไอซ์กลับมีความเชื่ออย่างหนึ่ง
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจะรักและอยู่เคียงข้างกันตลอดไป

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 พ.ย. 2556, 12:04:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 พ.ย. 2556, 12:08:58 น.
จำนวนการเข้าชม : 2092
<< What is Love???(1) | เรียนคุณเพื่อนชายที่เคารพ! >> |


sai 9 พ.ย. 2556, 13:08:58 น.
คิดถึงคุณไอซ์จังเลยค่ะๆๆๆๆๆ
คิดถึงคุณไอซ์จังเลยค่ะๆๆๆๆๆ

คิมหันตุ์ 9 พ.ย. 2556, 15:35:06 น.
น่าสนใจสุดๆละ...สองคนนี้ ฮ่า
น่าสนใจสุดๆละ...สองคนนี้ ฮ่า



goldensun 11 พ.ย. 2556, 12:29:24 น.
น่าจะเป็นอีกรูปแบบนึงของความรักนะคะ
น่าจะเป็นอีกรูปแบบนึงของความรักนะคะ



pandepam 31 ธ.ค. 2556, 18:35:31 น.
คิดถึงคุณ ลิขิตรา ค่ะ ^^
คิดถึงคุณ ลิขิตรา ค่ะ ^^

konhin 3 เม.ย. 2557, 00:59:25 น.
เก๋มาก
เก๋มาก
