รักใจร้าย
คียุล ซูเปอร์สตาร์ต้องรักษาภาพลักษณ์ดุจเจ้าชาย แตกต่างจากตัวตนที่แท้จริง ซ้ำร้ายยังต้องแสดงตัวเป็นคู่จิ้นวายตามใจแฟนคลับ ท่ามกลางความแก่งแย่งชิงดีในวงการบันเทิงเกาหลี เขาได้พบกับนัชชา สาวสวยบริสุทธิ์ผู้ต้องตกเป้าหมายการฆาตกรรม...
Tags: ดารา, เกาหลี

ตอน: ความรับผิดชอบ

2.
ผิวที่ข้อมือของนัชชาเริ่มพองและบวมแดงจากรอยไหม้

“เธอจะเป็นอะไรมากไหมครับ เมื่อไหร่หมอจะมา”

“รอสักครู่ค่ะ เราตามคุณหมอแล้ว”

“แต่นี่ก็นานแล้วนะครับ” คียุลเถียงอย่างร้อนรนทั้งที่เพิ่งผ่านไปได้แค่สองนาที “คุณจะไม่ทำอะไรเลย
หรือ”

“คุณออกไปรอข้างนอกดีกว่าค่ะ” พยาบาลต้อนเขาไปที่ประตู “ไม่งั้นคนไข้จะยิ่งใจเสียนะคะ เดี๋ยวคุณ
หมอก็จะมาแล้วละค่ะ”

คียุลร้อนรนจนพยาบาลไล่เขาไปรอนอกห้อง พักใหญ่ทีเดียวหล่อนจึงเข็นรถพานัชชาที่มีผ้าพันมือหนาเตอะออกมา

นัยน์ตาช้ำพราวด้วยหยาดน้ำมองเขาอย่างตัดพ้อ ก่อนที่นัชชาจะก้มหน้าลง เหมือนไม่อยากเห็นเขาอีกต่อไป แม้คียุลจะพร่ำบอกว่า “ผมจะดูแลคุณเอง”

ระหว่างที่นัชชาอยู่ในห้องฉุกเฉิน อึนฮวานั่งรถเมล์กลับไปไขกุญแจล็อคเกอร์ นำกระเป๋าของเพื่อนมาให้ที่โรงพยาบาล เมื่อเจ้าหน้าที่ถามหาเจ้าของไข้ จึงมีแต่คียุลคนเดียวเท่านั้น แต่ถึงอย่างไร เขาก็ตั้งใจจะช่วยเธอเพื่อไถ่โทษอยู่แล้ว อย่างที่ลั่นวาจาไว้ว่า “ผมรับผิดชอบทั้งหมด”

และเขาก็ทำตามที่พูด เจรจากับพยาบาลและลงชื่อเป็นเจ้าของไข้ ก่อนจะไปจ่ายเงิน รับยา และฟังเภสัชกรอธิบายยืดยาว

ซึงฮวาน หนึ่งในกลุ่มผู้จัดการของวงสตาร์ปริ้นส์เพิ่งจะมาถึงเมื่อเรื่องเรียบร้อยแล้ว บริษัทนี้มีผู้จัดการหลายคน สลับสับเปลี่ยนกันทำหน้าที่ ในวันที่เกิดเรื่อง คียุลขอเวลาส่วนตัว กว่าจะติดต่อผู้จัดการได้ จึงใช้เวลานานกว่าปกติ

แน่นอนว่าซึงฮวานไม่อยากให้คียุลเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็เห็นด้วยกับเหตุผลของนักร้องหนุ่มที่ว่าเขาควรดูแลคนเจ็บตามสมควร เพราะถ้าข่าวออกไป ก็แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ ไม่ได้ทอดทิ้ง

เมื่อคียุลอ้างอย่างนี้ ซึงฮวานจึงต้องยอมพานัชชาไปส่งที่หอพัก ตลอดทางที่นั่งอยู่ในรถ คนเจ็บซบหน้ากับไหล่อึนฮวา แทบจะหลับไปด้วยฤทธิ์ยา

เมื่อถึงตึกอพาร์ทเม้นท์กลางเก่ากลางใหม่ที่นัชชาเช่าอยู่ คียุลจึงต้องอุ้มเธอขึ้นไปส่ง เขามองไปรอบห้องเล็กซอมซ่อที่มีแต่สิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตแล้วก็รู้ได้ทันทีว่านัชชาต้องอยู่อย่างประหยัดเพียงไร

แผลที่มือคงเจ็บปวดจนทำงานไม่ได้ไปอีกหลายวัน...คียุลโมโหตัวเองนัก แต่ตอนนี้เขาคงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าช่วยเหลือเบื้องต้น

“คุณกลับไปได้แล้ว” อึนฮวาบอกเสียงเรียบ ไม่มีทีท่าตื่นเต้นดาราเลยสักนิด

“ใช่” ซึงฮวานเห็นด้วย

“เธอจะเป็นอะไรมากไหม...” เขานึกเป็นห่วง

“ฉันจะดูแลนัชชาเอง คุณไปเถอะ” สีหน้าบึ้งตึงของอึนฮวาแสดงชัดว่าไม่อยากให้คียุลอยู่ต่อไป เขาจึงบอกลาโดยทิ้งหมายเลขโทรศัพท์ไว้ ทั้งของผู้จัดการ และเบอร์ที่เขาใช้ติดต่อเรื่องทั่วไป

ซึงฮวานถลึงตาใส่ เป็นเชิงห้ามไม่ให้คียุลติดต่อกับคนนอกมากเกินไป แต่ชายหนุ่มไม่สนใจ เขาส่งกระดาษแผ่นนั้นให้อึนฮวาพร้อมกับบอกว่า

“มีอะไรก็โทร.หาผม หรือพี่ซึงฮวานก็ได้นะ”

แฟนคลับส่วนใหญ่คงกรีดร้องแทบสลบถ้าได้เบอร์ส่วนตัวของเขาอย่างนี้ แต่อึนฮวาเพียงแค่วางกระดาษจดเบอร์ไว้บนโต๊ะข้างเตียง

คียุลมองตาม นึกสงสัยว่าทำไมเจ้าหล่อนไม่เก็บใส่กระเป่าไว้ แล้วเขาก็ชะงักเมื่อเห็นริบบิ้นสีม่วงเส้นเล็กบางร้อยอยู่ในห่วงจี้รูปมงกุฎสีทองประดับคริสตัล

สัญญลักษณ์ของ “พริ้นเซส” !

นัชชาเป็นแฟนคลับของเขา...เธอจะผิดหวังไหมนะที่สตาร์ปริ้นส์ตัวจริงไม่ใช่เจ้าชาย...

“ถ้าคุณกลับไป ฉันจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้นัชชา แล้วก็กลับห้องบ้าง ฉันเหนื่อยเต็มทีแล้วนะ” เสียงขุ่นๆ ของอึนฮวาไล่จนเขาแทบวิ่งลงบันได

แต่ความห่วงใยยังคงติดค้าง...

ปกติคียุลเป็นคนไม่คิดมาก เพราะกลัวไม่หล่อและไม่อยากใช้สมองโดยไม่จำเป็น แค่ท่องเนื้อเพลงและซ้อมท่าเต้นก็เหนื่อยพออยู่แล้ว เมื่อเขาไปทำงานในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นด้วยสีหน้าอิดโรยกังวล จนลีดเดอร์หัวหน้าวงเอ่ยปากถาม

“นอกจากเมาค้าง นายยังมีเรื่องอื่นในใจใช่ไหม”

กงซู หัวหน้าวงที่เป็นพี่ใหญ่ เป็น “ฮยอง” ของทุกคน จุดเด่นของเขาในภาพที่แสดงออกผ่านสื่อและบนเวที คือความสุขุม น้ำเสียงก้องกังวานมีอำนาจ แววตาลึกซึ้งช่างคิด เขาไม่ได้หล่อหวานอย่างหนุ่มเกาหลีทั่วไป แต่ก็ดูดีและเข้มสมกับเป็นผู้นำ ตัวกันชนระหว่างฝ่ายประธานบริษัทและผู้จัดการ กับน้องๆ ของเขา กงซูสนิทกับน้องทุกคน เพราะดูแลกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กฝึกหัด

เมื่อพี่ใหญ่เอ่ยปากถาม คียุลจึงต้องตอบตามตรง ก่อนจะสรุปเหตุการณ์ให้ฟังสั้นๆ

เสน่ห์อย่างหนึ่งของสตาร์ปริ้นส์เกิดจากความรักผูกพันของพี่น้องในวง ที่ฝ่าฟันอุปสรรคและไล่ตามความฝันด้วยกันมาตลอด ใครมีปัญหาอะไรปรึกษาได้เสมอ และครั้งนี้ก็เช่นกัน มินซู สมาชิกอีกคนรีบเข้ามารับฟัง ตามด้วยซองเจ ที่ขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินว่ามี “แฟนคลับผู้หญิง” เข้ามาเกี่ยวข้อง!

“ต้องรับผิดชอบ” กงซูถอนใจ “แต่ก็ระวังหน่อย อย่าให้เป็นข่าวได้”

“ที่จริง นายปล่อยให้แมเนเจอร์ฮยองจัดการไม่ดีหรือ” มินซูออกความเห็น “เผื่อฮยองส่งคนไปดูแลเขา เราจะได้ไม่ต้องยุ่ง เดี๋ยวแฟนคลับรู้เข้า”

“นั่นสิ ไม่เห็นจะต้องลงไปทำอะไรเองขนาดนั้น” ซองเจย้ำด้วยน้ำเสียงสะบัดสะบิ้งแกมรำคาญ อยากตัดปัญหาให้จบเร็วที่สุด

“ไม่ได้”

“ทำไมล่ะ” นัยน์ตาคมของกงซูเหมือนจะมองทะลุถึงจิตใจ จนไม่มีใครจะโกหกเขาได้

“เขาเป็นพริ้นเซส”

“โอ...” กงซูส่ายหน้า “เรื่องใหญ่แล้วซี”

สตาร์ปริ้นส์แคร์แฟนคลับเสมอ แม้จะมีรำคาญหรืออึดอัดกับกลุ่มที่ตามติดทุกหนแห่งบ้าง แต่ก็เข้าใจดีว่าเป็นเพราะความรักคลั่งไคล้

“ท่าทางเขา...เสียใจ...ผิดหวัง...เรียกว่าหมดศรัทธาก็คงจะได้”

“นายต้องดูแลเขานะ” กงซูย้ำ “พริ้นเซสของเรา...” สำหรับกงซูแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าพริ้นเซส เพราะเขาถือว่าพวกเธอสนับสนุน ให้ทั้งกำลังใจ ลงคะแนนโหวต ไปดูคอนเสิร์ต ซื้อตั้งแต่ซีดีไปจนถึงหนังสือนิตยสารและร่วมการประมูล อีกทั้งยังคอยติดตามเวลาไปออกงานต่างๆ จัดกิจกรรมชูป้ายเชียร์ในคอนเสิร์ต ตลอดจนส่งข้าวส่งขนม อย่างเวลากงซูไปจัดรายการโทรทัศน์ บรรดาพริ้นเซสโดยเฉพาะอย่างยิ่งเว็บมาสเตอร์หรือหัวหน้ากลุ่มแฟนคลับก็จะจัดข้าวกล่อง ขนมนมเนย เค้กสวยหรูและเครื่องดื่มไปบริการคนทั้งแผนก ทำให้สตาร์ปริ้นส์มีหน้ามีตามาตลอด แล้วอย่างนี้ กงซูจะไม่รักสุดหัวใจได้อย่างไรกัน

ทุกครั้งที่มีเรื่องสะเทือนอารมณ์ในกลุ่มแฟนคลับ กงซูเป็นต้องพยายามไกล่เกลี่ย หากมีภาพหลุดของสมาชิกในวงกับสาวคนไหน ก็ต้องรีบแก้ข่าวออดอ้อนงอนง้อ ทั้งในทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ค หรือไซเวิลด์ที่เปรียบได้กับโฮมเพจส่วนตัว แทบว่าไม่ยอมปล่อยให้มีปัญหาข้ามคืน
เพราะกงซูยอมเสียพริ้นเซสไปไม่ได้แม้แต่คนเดียว!

“ถ้าเขาไปฟ้องร้อง หรือให้ข่าวออกสื่อละก็ จะยิ่งแย่ไปใหญ่” กงซูพึมพำก่อนจะถามต่อไปว่า “เขาเมนนายใช่ไหม” ในที่นี้ คำว่าเมน หมายถึงศิลปินหลักสุดโปรดในวง ซึ่งคำตอบสั้นๆ จากคียุลก็คือ “ครับ”

“นายก็ควรจะพูดให้เขาเข้าใจ ว่าทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ และเราพร้อมจ่ายค่ารักษาพยาบาล”

นัชชาคงไม่ต้องการเงินจากเขา...คียุลคิด...แต่ถ้อยคำที่พูดออกมากลับกลายเป็น “แล้วพริ้นเซสคนอื่นๆ จะไม่โกรธหรือครับ ถ้าผมไปสนใจเธอ อีกอย่าง ทางบริษัทอาจจะไม่พอใจ เราควรจะคุยกับฮยองผู้จัดการก่อนหรือเปล่า” คียุลเรียกผู้จัดการว่าฮยองหรือพี่อย่างสุภาพเสมอ

“ถ้ามีเรื่องหลุดไปเราก็อธิบายได้ แต่ทางที่ดีนายก็ไม่ควรจะให้คนรู้มากนัก ส่วนฮยอง ฉันจะคุยเอง” กงซูบอก “ทำให้เธอเข้าใจว่าเราเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ใช่ขี้เมาเละเทะไม่รับผิดชอบ”

ภาพพจน์เจ้าชายสำคัญเหลือเกินสำหรับกงซู ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องรักษาไว้ให้ได้!

คียุลถือว่าคำสั่งนี้เปรียบเสมือนใบอนุญาตให้เขาติดต่อกับนัชชาได้ตามสบาย แต่ยังไม่ทันจะคิดหาทางต่อ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นขัดจังหวะ

ชื่อขึ้นที่หน้าจอว่า “เจนนี่”

พอเห็นเข้า ซองเจก็สะบัดหน้าเดินออกไป เพราะไม่อยากจะทนฟัง!

กงซูยื่นหน้ามามอง ก่อนจะสบตาคียุลแล้วยิ้มมีเลศนัย ขยับตัวเบียดเข้ามาใกล้อีกนิด ตั้งใจฟังอย่างไม่ปิดบังเลย

“ครับ” คียุลเก็บสีหน้าเรียบเฉย แต่พอพี่ชายจ้องมอง แววตาคมสวยก็อดระริกไหวไม่ได้

“เหนื่อยจัง” ปลายสายอ้อน “เย็นนี้ว่างทานกาแฟด้วยกันไหมคะ”

“มะ...ไม่...”

“อย่าปฏิเสธนะ เจนนี่ไม่ไหวแล้วจริงๆ มีเรื่องอยากคุยอยากปรึกษามากมายเลย” เพราะอยู่กันคนละฝั่งของเมือง คียุลจึงไม่รู้ว่า เจนนี่พูดอยู่ในหมู่สไตลิสต์และช่างแต่งหน้าขาซุบซิบ ด้วยความจงใจที่จะให้ข่าวแพร่ออกไป

“ไม่ใช่ไม่อยากเจอนะครับ” เขาเองก็อดใจอ่อนกับน้ำเสียงนั้นไม่ได้ “แต่ช่วงนี้แฟนคลับตามเยอะมาก”

“ดีสิคะ” เจนนี่กลับว่าไปเสียอย่างนั้น “ถูกต้องตามนโยบายบริษัทเรา”

ที่จริง กงซูไม่เห็นด้วยนักหรอกที่ท่านประธานเล่นจับคู่หลานสาวกับคียุล

แม้แต่ความรัก ก็ไม่มีสิทธิ์เลือกทางเดินของตัวเองอย่างนั้นหรือ หัวหน้าใหญ่ถอนหายใจ นี่เขาขายวิญญาณให้ซาตานไปแล้วใช่ไหม...
ถ้าวันหนึ่งน้องชายไปพบใครที่ชอบจริงๆ จะทำอย่างไร...

แต่คิดในอีกแง่หนึ่ง คียุลอาจโชคดี ที่มีเจนนี่ไว้ใกล้ตัว ไม่ผิดทั้งกฏบริษัท และยังอาจทำให้มีข่าวซุบซิบเรียกความสนใจ จนมีงานนอกเหนือจากกลุ่มแฟนคลับเพิ่มขึ้นมา อย่างหนัง ละคร โฆษณา ทั้งในและนอกประเทศ

กงซูมองน้องชายคุยกับนางเอกสาวแล้วก็ถอนหายใจ จะว่าไป เขาอาจคิดมากเองคนเดียวก็ได้ คียุลออกจะเพียบพร้อมทั้งเก่ง พื้นฐานฐานะดี มีความรู้ ร้องเพลงก็สุดยอด แล้วยังมีคู่ควงเป็นสาวสวยเซ็กซี่

ไม่เหมือนกับหัวหน้าที่ต้องแบกภาระไว้บนบ่าจนไหล่ลู่ วันๆ กังวลเรื่องทุกคนไปหมด...

เสียงคียุลนัดกับสาวทำให้กงซูหงุดหงิดไม่น้อย เจนนี่บอกว่าให้ไปที่ห้อง “เซฟเฮ้าส์” จะได้ไม่มีใครเห็น แต่คียุลกลับบอกว่าอยากดูหนังเรื่องใหม่มากกว่า

สองคนนัดแนะกันต่อหน้ากงซู

“คุณให้พี่ผู้จัดการไปซื้อตั๋วรอไว้” คียุลเป็นจอมวางแผนในทุกสถานการณ์อยู่แล้ว “ซื้อที่ติดกันนะครับ แล้วคุณเข้าไปก่อน ให้พี่เขารอผมในห้องน้ำชาย ผมรับตั๋วแล้วจะเข้าไปหา ผมจะออกมาตอนหนังใกล้จบ แล้วให้พี่เขาไปรับคุณ พาดาอยากทานอะไรนอกจากป๊อปคอร์นหรือเปล่า ผมจะได้ซื้อเข้าไป”

แน่นอนว่าความหวานเซ็กซี่ของเจนนี่ทำให้คียุลหลงใหลได้ไม่ยาก แม้หล่อนจะมาชอบเขาก่อน แต่ความเป็นผู้ชายที่หัวใจยังโสดก็อดหวั่นไหวไม่ได้

“แค่คุณมา ฉันก็ไม่อยากได้อะไรอื่นแล้วค่ะ”

“งั้นคืนนี้พบกันครับ” คียุลกดโทรศัพท์ตัดสายแล้วหันมาจ้องหน้ากงซู

“ฟังสนุกไหมพี่”

“สนุกสิ” อีกฝ่ายยิ้มหวาน “นายนี่วางแผนเก่ง ไว้มาช่วยฉันนะ ถ้าฉันไปเจอใครเข้า”

“น้องเล็กวงฟลาวเวอร์เกิร์ลไงพี่ เขามองพี่ตาแป๋วทุกครั้งที่ขึ้นเวทีเดียวกัน”

“อือ” กงซูพึมพำ “แต่ฉันว่าอยู่อย่างนี้ก็ดีแล้ว ไม่อยากมีเรื่องปวดหัว”

“ความรักของพี่มอบให้พริ้นเซส” คียุลล้อเลียน แต่ลึกลงไปในใจ ก็รู้ได้ว่าเป็นเรื่องจริง พี่ชายของเขาทุ่มทั้งชีวิตให้วงและแฟนคลับ อย่างที่เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าศิลปินแบบนี้มีอยู่จริง

“สำหรับตอนนี้ ฉันอยากเต็มที่กับคนที่รักเราอย่างจริงใจก่อน” หัวหน้าวงสรุปก่อนจะตัดบทด้วยการเลี่ยงไปในครัว ทิ้งให้น้องชายมองตามพร้อมกับคำถามที่ว่า

แล้วพี่ไม่เหงาบ้างหรือครับ...



ไอลี่
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 พ.ย. 2556, 20:49:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 พ.ย. 2556, 20:49:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 851





<< เจ้าชายแสงดาว   พิษไข้ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account