ม่านทิวาพชร {{{ชุดอัญมณีเหนือกาล}}}สนพ.อรุณ
รัตติกาล ทิวา สนธยา สามเวลาที่อยู่คู่โลกมาแต่บรรพกาล
ตำนานบทใหม่แห่งอัญมณีเหนือกาลจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!
ตำนานบทใหม่แห่งอัญมณีเหนือกาลจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!
Tags: โมรารัตติกาล มรกตสนธยา มนตรามุกจันทรา มายาไฟในดวงตา ม่านธาราเร้นดาว อัญมณีเหนือกาล มนตราอัญมณี
ตอน: บทที่ 1 กำไลหงส์ทิวา
๑
กำไลหงส์ทิวา
“กำไลหงส์ทิวาที่หายสาบสูญไปพร้อมกับคุณธศิญา”
ดวงตากลมโตของหญิงสาวเป็นประกายสนใจขึ้นมาทันทีเมื่ออ่านข้อความที่เขียนอยู่ใต้ภาพในหนังสือเล่มหนึ่งจบ ภาพนั้นคือกำไลทองคำขาวหน้ากว้างประมาณหนึ่งนิ้ว ประดับเพชรเม็ดเล็กๆทั่ววง หน้ากำไลทำเป็นรูปตัวหงส์ชูคองดงาม
ต้องมีปริศนาซ่อนอยู่เบื้องหลังกำไลวงนี้แน่ๆ!
ชลันธรพบหนังสือเล่มนี้โดยบังเอิญบนชั้นวางขณะเดินดูหนังสือเกี่ยวกับอัญมณีในห้องสมุดจันทบุรีบ้านเกิดของเธอ เพื่อหาข้อมูลไปเขียนนิยายซึ่งแรงบันดาลใจมาจากการที่ครอบครัวสะสมอัญมณีนั่นเอง
สันปกหนาสีม่วงเข้มของหนังสือปริศนามีพลอยสีใสเม็ดเล็กๆที่เธอไม่แน่ใจว่าคืออัญมณีชนิดไหน มันฝังประดับเป็นรูปตัวหงส์ส่องประกายวิบวับล้อแสงไฟ แต่ไม่มีชื่อหนังสือปรากฏ ความโดดเด่นของหนังสือทำให้หยิบมันติดมือกลับมาอ่านที่โต๊ะ เมื่อนั่งลงก็เปิดอ่านอย่างไม่รอช้า เพียงหน้าแรกก็เจอเรื่องน่าสนใจเสียแล้ว
เมื่อพลิกหน้าถัดไป หน้ากระดาษสีเหลืองเก่านั้นพูดถึงธศิญา บุตรสาวผู้ว่าการเขตราศิ ซึ่งเป็นเขตการปกครองหนึ่งในประเทศภูทิวา เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นตอนที่ปาลทัต ผู้ว่าการเขตปาณษา พร้อมด้วยดุริยะผู้เป็นพี่ชาย เดินทางมาเยี่ยมเยียนเขตราศิเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีที่มีต่อกันมาโดยตลอด เมื่อดุริยะพบธศิญาก็เกิดถูกตาต้องใจทันที และรู้ว่าปาลทัตผู้เป็นน้องมีท่าทีสนใจเธอเช่นกัน เขาจึงชิงบอกน้องชายถึงความต้องการที่จะแต่งงานกับธศิญา
ในขณะปาลทัตที่มีภรรยาอยู่แล้ว และเป็นถึงบุตรสาวของท่านศุรเยศ ผู้นำประเทศภูทิวา จึงหักห้ามใจเสีย หลังดุริยะได้ทำความรู้จักกับธศิญา ไม่นานก็รีบให้ผู้ใหญ่มาเจรจาสู่ขอทันที
“อ้าว” ชลันธรทำหน้างง เมื่อพลิกหน้าถัดไปกลับพบว่าไม่มีเนื้อหาต่อจากนั้น พอกรีดหน้าหนังสือดูทั้งเล่ม ก็เจอแต่ความว่างเปล่า อะไรกันเนี่ย เรื่องกำลังน่าติดตามเลย
ด้วยความค้างคาใจ หญิงสาวจึงเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ พร้อมกับนำหนังสือสีม่วงเข้มไปสอบถาม
ร่างเพรียวดูสดใสและกระฉับกระเฉงในชุดจั๊มสูทเสื้อแขนสั้นกางเกงขายาวสีฟ้าอ่อนตัดจากผ้าชีฟอง คาดด้วยเข็มขัดสีน้ำตาลเส้นเล็กเก๋ไก๋ ผมยาวสีดำขลับที่มัดรวบเป็นหางม้าเผยให้เห็นใบหน้าหวานรูปไข่ชวนมอง
เมื่อมาถึงเคาน์เตอร์ เธอก็พบชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังก้มๆเงยๆอยู่แถวนั้น จึงเอ่ยเรียก
“คุณคะ ขอโทษนะคะ...”
ฝ่ายนั้นเงยหน้าขึ้นมามองเธอ เขาเป็นชายวัยประมาณสามสิบ ผิวสีแทน ใบหน้ามีหนวดเคราบางๆ ทำให้ยังเห็นความคมเข้มเข้าขั้นหล่อเหลาแบบเชื้อสายแขก ดวงตาสีเทาเจือสีสนิมเหล็กอ่อนๆ จมูกโด่ง ผมสีดำยาวเกือบถึงอกทำเป็นทรงเดร็ดล็อกส์ ท่าทางของเขาดูมึนๆอย่างไรชอบกล ดีที่แต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตและกางเกงสแล็คดูเรียบร้อย
“คุณเป็นเจ้าหน้าที่ใช่ไหมคะ” ชลันธรถามเพื่อความมั่นใจ
ชายหนุ่มยิ้มกว้างให้เธอจนเห็นฟันขาวเรียงกันสวย “ใช่ครับ มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า” น้ำเสียงของเขาแฝงรอยอารมณ์ดี
นักเขียนสาวแอบขำในใจ ดูๆไปเขาก็เหมือนพวกศิลปินเรกเก้ที่ไม่ได้จริงจังกับชีวิต ล่องลอยไปเรื่อยๆตามแต่ใจต้องการ ไม่น่าเชื่อว่าจะมาทำงานที่มีระบบระเบียบในห้องสมุดได้
“พอดีเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้หายไปเกือบทั้งเล่มเลยน่ะค่ะ ไม่ทราบว่ามีเล่มอื่นอีกหรือเปล่า ฉันอยากยืมกลับไปอ่านที่บ้าน” ชลันธรวางหนังสือที่ถือมาลงบนเคาน์เตอร์และเปิดให้ชายหนุ่มดู
“โอ้ หนังสือบ้าอะไรเนี่ย หายไปตั้งหลายหน้า” เจ้าของผมถักเดร็ดล็อกส์ส่ายศีรษะไปมา ก่อนเงยหน้าขึ้นบอก “ไม่เป็นไรนะครับ เรามีเล่มใหม่ แต่ว่าต้องรอนิดนึง ยังไงคุณเอาเล่มนี้ไปก่อนแล้วกัน” มือหนาวางลงบนหนังสือสีม่วงเข้ม
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรอเล่มใหม่เลยดีกว่า” เขาก็แปลกคน เนื้อหามีไม่กี่หน้า เธอจะเอาไปทำไมเล่า
“ไม่ได้หรอกครับ กฎสำหรับหนังสือเล่มนี้คือถ้าจะแลกเล่มใหม่ที่เป็นก๊อปปี้เดียวกัน ต้องเอาเล่มเดิมที่ชำรุดหรือหน้าขาดหายไปมาแลกครับ” เขาพูดจบก็ขยิบตาพร้อมเปิดยิ้มละไม
ชลันธรขมวดคิ้วมุ่น ดวงตากลมเบิกขึ้นนิดๆ “มีกฎแปลกๆแบบนี้ด้วยเหรอคะ” ตั้งแต่มาใช้บริการ เธอก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน อ้อ ไม่เคยเจอเจ้าหน้าที่คนนี้ด้วย
“กฎสำหรับหนังสือที่หายากน่ะครับ ตกลงว่าไงครับ ยังอยากได้เล่มนี้อยู่หรือเปล่า ถ้าไม่ก็ไม่เป็นไรนะ” เจ้าหน้าที่หนุ่มดวงตาเป็นประกายวิบวับราวกับกำลังวางแผนบางอย่างอยู่
นักเขียนสาวตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่ง ด้วยความที่อยากอ่านเรื่องราวของกำไลหงส์ทิวาและธศิญาต่อมากจึงพยักหน้าเบาๆ “อืม ก็ได้ค่ะ แล้วฉันจะได้เล่มใหม่เมื่อไหร่”
“ไม่เกินสามวันครับ ฝากเบอร์คุณไว้สิครับ แล้วผมจะโทร.ไปแจ้งเอง” พร้อมกับพูด เจ้าตัวหยิบกระดาษและปากกาขึ้นมาวางบนเคาน์เตอร์อย่างกระตือรือร้น
ชลันธรเขียนชื่อและเบอร์ติดต่อลงไป ก่อนจะเลื่อนคืนให้ “ขอบคุณมากนะคะ”
“ด้วยความยินดีครับ” เขารับคำด้วยท่าทีเป็นมิตร
ชลันธรเดินหันหลังออกมาพลางส่ายหัวน้อยๆ ท่าทางบ้าๆบอๆ จะได้เรื่องหรือเปล่าเนี่ย
ตอนเย็นเมื่อแม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารเสร็จ สมาชิกในบ้านอิสระธาราทุกคนก็เข้ามานั่งอย่างพร้อมหน้า บรรยากาศของการรับประทานอาหารยังคงอบอวลไปด้วยความสุขเช่นทุกวัน
“ลัน หนูอิง ช่วยกันพูดไม่ให้มีนกลับไปทำงานหน่อยสิ อุตส่าห์หลอกล่อไว้ได้ตั้งนาน แต่สุดท้ายก็ดึงดันจะไปจนได้” ชลธิศ[1]เอ่ยขึ้นพลางมองชลันธรและพริบดาวหลานสาวตัวจ้อยตาละห้อยเพื่อขอกำลังเสริม
แม้มาริณจะยังอยู่ที่นี่อีกสามวัน หลังจากลางานเพื่อแต่งงานและใช้สิทธิ์ลาพักร้อนต่อรวมเวลากว่าสองอาทิตย์แล้ว แต่มันก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเขา เพราะกว่าเธอจะกลับมาอีกทีก็ต้องรอวันหยุดอาทิตย์หน้า ห่างกันตั้งหลายวันแน่ะ เขาคงขาดใจก่อนพอดี ครั้นจะตามไปอยู่กรุงเทพฯ ทางนี้ก็มีกิจการเรือประมงที่ทิ้งไม่ได้
ชลธิศเคยบอกคนรักว่าไม่จำเป็นต้องทำงานแล้ว เพราะเขาจะดูแลเธอเอง แต่หญิงสาวก็ไม่ยอม อ้างว่าไม่อยากโดนคนนินทาว่าเกาะสามีกิน โธ่ ใครจะพูดยังไงก็ช่างเขาสิ ในเมื่อสามีคนนี้ยินดีเลี้ยงดูภรรยาเต็มที่ ไม่ต้องไปลำบากลำบนกับงานประจำอย่างที่เป็นอยู่
“คุณลัน หนูอิง อย่าไปช่วยนะคะ ถ้ามีนไม่ได้ทำงานก็เหงาแย่สิคะ” มาริณซึ่งทำงานเป็นนักข่าวอยู่สถานีวิทยุชื่อดังในกรุงเทพฯบอก ก่อนจะหันไปโยนค้อนใส่สามี
“ไม่เหงาหรอกน่า แค่นั่งมองหน้าหล่อๆของผมแป๊บเดียวก็หมดวันแล้ว แต่ถ้าเกลี้ยกล่อมดีๆแล้วไม่อยู่ ผมก็มีไม้ตายที่จะทำให้มีนอยู่ เห็นทีหนูอิงต้องมีน้องแล้วละ” ชลธิศมองภรรยาด้วยดวงตาเป็นประกายพราวระยับกรุ้มกริ่ม
“บ้า! พูดอะไรเนี่ย” มาริณค้อนควัก ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานข้าวด้วยความเขิน
พูดถึงเรื่องมีลูก หญิงสาวก็นึกถึงพี่สาวทั้งสองคนขึ้นมาทันที พี่สาวคนโต…มัชฌิตา ตอนนี้ใช้ชีวิตครอบครัวกับอัคนิผู้เป็นสามีอยู่ที่อินเดีย มาริณเคยเจอชายหนุ่มมาแล้ว เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตามีพลังอำนาจร้อนแรงดุจเปลวเพลิง ไม่น่าแปลกใจเลยที่สาวแกร่งอย่างพี่สาวเธอจะตกลงปลงใจกับผู้ชายที่มีเสน่ห์เหลือร้ายคนนี้ ทว่าจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีวี่แววว่าทั้งสองจะมีอัคนิและมัชฌิตาตัวน้อยๆออกมาวิ่งเล่นในวังเมห์ฮราเลย ชีวิตที่มีกันสองคนตามประสาคู่รักก็ดูหวานชื่นและเร่าร้อนจนน่าอิจฉา
ส่วนมุกดาพี่สาวคนรองของมาริณมีคู่ชีวิตผู้แสนอ่อนโยนและช่างเอาใจใส่เป็นที่สุด เรียกว่าผู้หญิงหลายคนอดอิจฉาไม่ได้ เพราะความรักของทั้งสองหวานจนมดยังต้องอาย และก็ไม่เกินความคาดหมายของมาริณเมื่อตอนนี้มุกดาตั้งท้องได้สามเดือนกว่าแล้ว แถมข่าวคราวล่าสุดจากพี่สาวของเธอยังบอกว่าเด็กในครรภ์ตอนนี้เป็นฝาแฝดเสียด้วย คู่ของพี่สาวคนรองยามนี้เลยวุ่นวายอยู่กับการเตรียมตัวเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ และในอนาคตคงมีความวุ่นวายอีกมากมายตามมาเมื่อต้องรับมือกับการเลี้ยงเจ้าตัวน้อยพร้อมกันถึงสองคน แน่นอนว่าวาริทผู้เป็นสามีคงจะเป็นผู้ช่วยมือดี คอยดูแลภรรยาและลูกอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
แล้วเธอล่ะ จะใช้ชีวิตคู่ไปก่อนเหมือนพี่สาวคนโต หรือมีลูกเลยแบบพี่สาวคนรองดีนะ
“กำลังคิดว่าจะมีลูกกี่คนอยู่เหรอครับที่รัก” เสียงที่มีแววยียวนนิดๆนั้นทำให้มาริณหลุดจากความคิด
เธอค้อนขวับก่อนตอบ “เปล่าสักหน่อย ทำเป็นมารู้ความคิดคนอื่นนะ”
ชลันธรมองพี่ชายและภรรยาด้วยความอิ่มเอมใจ แม้สองคนนี้จะขัดคอกันเล็กๆน้อยๆประจำ แต่เรื่องราวที่ร่วมฝ่าฟันมาก่อนจะแต่งงานก็ได้พิสูจน์แล้วว่าทั้งสองรักกันมากจนยอมแลกได้แม้กระทั่งชีวิตเพื่อกัน
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ชลันธรก็ขึ้นมาอาบน้ำบนห้องนอน ก่อนที่สิบห้านาทีต่อมา นักเขียนสาวจะมานั่งหน้าจอโน้ตบุ๊กสีขาวคู่ใจในชุดนอนสบายๆ ด้านขวามือบนโต๊ะทำงานคือหนังสือสีม่วงเข้มที่ยืมมาจากห้องสมุด
กำไลหงส์ทิวา คุณธศิญา คุณดุริยะ คุณปาลทัต เขตราศิ เขตปาณษา ประเทศภูทิวา...เธอจะต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ให้ได้
ว่าแล้วก็จรดนิ้วเรียวลงบนแป้นพิมพ์ เข้าเว็บไซต์ที่ใช้ค้นหาข้อมูล ไม่นานผลลัพธ์ก็ปรากฎขึ้นบนหน้าจอ
ชลันธรนิ่วหน้าเล็กๆ มีแค่เว็บไซต์เดียวที่มีข้อมูลเหรอเนี่ย แต่เอาเถอะ ดีกว่าไม่มีเลยแล้วกัน
เมื่อหญิงสาวคลิกเข้าไปดูก็พบว่าข้อมูลในเว็บไซต์นั้นมีเท่าๆกับหนังสือเล่มสีม่วง นั่นคือหลังจากดุริยะส่งผู้ใหญ่มาเจรจาเรื่องการแต่งงานกับธศิญาก็ไม่มีเรื่องราวต่อจากนั้นเลย
“อะไรเนี่ย!” เธอทำหน้ามุ่ย ทางเดียวที่จะรู้มากขึ้นคือต้องรอหนังสือเล่มใหม่จากเจ้าหน้าที่คนนั้นหรือนี่ เฮ้อ หวังว่าเขาจะรับผิดชอบหาหนังสือมาให้เธอตามที่บอกนะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------
[1] ชลธิศ มาริณ และพริบดาว ตัวละครจากเรื่องม่านธาราเร้นดาว (นวนิยายชุดมนตราอัญมณี)
กำไลหงส์ทิวา
“กำไลหงส์ทิวาที่หายสาบสูญไปพร้อมกับคุณธศิญา”
ดวงตากลมโตของหญิงสาวเป็นประกายสนใจขึ้นมาทันทีเมื่ออ่านข้อความที่เขียนอยู่ใต้ภาพในหนังสือเล่มหนึ่งจบ ภาพนั้นคือกำไลทองคำขาวหน้ากว้างประมาณหนึ่งนิ้ว ประดับเพชรเม็ดเล็กๆทั่ววง หน้ากำไลทำเป็นรูปตัวหงส์ชูคองดงาม
ต้องมีปริศนาซ่อนอยู่เบื้องหลังกำไลวงนี้แน่ๆ!
ชลันธรพบหนังสือเล่มนี้โดยบังเอิญบนชั้นวางขณะเดินดูหนังสือเกี่ยวกับอัญมณีในห้องสมุดจันทบุรีบ้านเกิดของเธอ เพื่อหาข้อมูลไปเขียนนิยายซึ่งแรงบันดาลใจมาจากการที่ครอบครัวสะสมอัญมณีนั่นเอง
สันปกหนาสีม่วงเข้มของหนังสือปริศนามีพลอยสีใสเม็ดเล็กๆที่เธอไม่แน่ใจว่าคืออัญมณีชนิดไหน มันฝังประดับเป็นรูปตัวหงส์ส่องประกายวิบวับล้อแสงไฟ แต่ไม่มีชื่อหนังสือปรากฏ ความโดดเด่นของหนังสือทำให้หยิบมันติดมือกลับมาอ่านที่โต๊ะ เมื่อนั่งลงก็เปิดอ่านอย่างไม่รอช้า เพียงหน้าแรกก็เจอเรื่องน่าสนใจเสียแล้ว
เมื่อพลิกหน้าถัดไป หน้ากระดาษสีเหลืองเก่านั้นพูดถึงธศิญา บุตรสาวผู้ว่าการเขตราศิ ซึ่งเป็นเขตการปกครองหนึ่งในประเทศภูทิวา เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นตอนที่ปาลทัต ผู้ว่าการเขตปาณษา พร้อมด้วยดุริยะผู้เป็นพี่ชาย เดินทางมาเยี่ยมเยียนเขตราศิเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีที่มีต่อกันมาโดยตลอด เมื่อดุริยะพบธศิญาก็เกิดถูกตาต้องใจทันที และรู้ว่าปาลทัตผู้เป็นน้องมีท่าทีสนใจเธอเช่นกัน เขาจึงชิงบอกน้องชายถึงความต้องการที่จะแต่งงานกับธศิญา
ในขณะปาลทัตที่มีภรรยาอยู่แล้ว และเป็นถึงบุตรสาวของท่านศุรเยศ ผู้นำประเทศภูทิวา จึงหักห้ามใจเสีย หลังดุริยะได้ทำความรู้จักกับธศิญา ไม่นานก็รีบให้ผู้ใหญ่มาเจรจาสู่ขอทันที
“อ้าว” ชลันธรทำหน้างง เมื่อพลิกหน้าถัดไปกลับพบว่าไม่มีเนื้อหาต่อจากนั้น พอกรีดหน้าหนังสือดูทั้งเล่ม ก็เจอแต่ความว่างเปล่า อะไรกันเนี่ย เรื่องกำลังน่าติดตามเลย
ด้วยความค้างคาใจ หญิงสาวจึงเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ พร้อมกับนำหนังสือสีม่วงเข้มไปสอบถาม
ร่างเพรียวดูสดใสและกระฉับกระเฉงในชุดจั๊มสูทเสื้อแขนสั้นกางเกงขายาวสีฟ้าอ่อนตัดจากผ้าชีฟอง คาดด้วยเข็มขัดสีน้ำตาลเส้นเล็กเก๋ไก๋ ผมยาวสีดำขลับที่มัดรวบเป็นหางม้าเผยให้เห็นใบหน้าหวานรูปไข่ชวนมอง
เมื่อมาถึงเคาน์เตอร์ เธอก็พบชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังก้มๆเงยๆอยู่แถวนั้น จึงเอ่ยเรียก
“คุณคะ ขอโทษนะคะ...”
ฝ่ายนั้นเงยหน้าขึ้นมามองเธอ เขาเป็นชายวัยประมาณสามสิบ ผิวสีแทน ใบหน้ามีหนวดเคราบางๆ ทำให้ยังเห็นความคมเข้มเข้าขั้นหล่อเหลาแบบเชื้อสายแขก ดวงตาสีเทาเจือสีสนิมเหล็กอ่อนๆ จมูกโด่ง ผมสีดำยาวเกือบถึงอกทำเป็นทรงเดร็ดล็อกส์ ท่าทางของเขาดูมึนๆอย่างไรชอบกล ดีที่แต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตและกางเกงสแล็คดูเรียบร้อย
“คุณเป็นเจ้าหน้าที่ใช่ไหมคะ” ชลันธรถามเพื่อความมั่นใจ
ชายหนุ่มยิ้มกว้างให้เธอจนเห็นฟันขาวเรียงกันสวย “ใช่ครับ มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า” น้ำเสียงของเขาแฝงรอยอารมณ์ดี
นักเขียนสาวแอบขำในใจ ดูๆไปเขาก็เหมือนพวกศิลปินเรกเก้ที่ไม่ได้จริงจังกับชีวิต ล่องลอยไปเรื่อยๆตามแต่ใจต้องการ ไม่น่าเชื่อว่าจะมาทำงานที่มีระบบระเบียบในห้องสมุดได้
“พอดีเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้หายไปเกือบทั้งเล่มเลยน่ะค่ะ ไม่ทราบว่ามีเล่มอื่นอีกหรือเปล่า ฉันอยากยืมกลับไปอ่านที่บ้าน” ชลันธรวางหนังสือที่ถือมาลงบนเคาน์เตอร์และเปิดให้ชายหนุ่มดู
“โอ้ หนังสือบ้าอะไรเนี่ย หายไปตั้งหลายหน้า” เจ้าของผมถักเดร็ดล็อกส์ส่ายศีรษะไปมา ก่อนเงยหน้าขึ้นบอก “ไม่เป็นไรนะครับ เรามีเล่มใหม่ แต่ว่าต้องรอนิดนึง ยังไงคุณเอาเล่มนี้ไปก่อนแล้วกัน” มือหนาวางลงบนหนังสือสีม่วงเข้ม
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรอเล่มใหม่เลยดีกว่า” เขาก็แปลกคน เนื้อหามีไม่กี่หน้า เธอจะเอาไปทำไมเล่า
“ไม่ได้หรอกครับ กฎสำหรับหนังสือเล่มนี้คือถ้าจะแลกเล่มใหม่ที่เป็นก๊อปปี้เดียวกัน ต้องเอาเล่มเดิมที่ชำรุดหรือหน้าขาดหายไปมาแลกครับ” เขาพูดจบก็ขยิบตาพร้อมเปิดยิ้มละไม
ชลันธรขมวดคิ้วมุ่น ดวงตากลมเบิกขึ้นนิดๆ “มีกฎแปลกๆแบบนี้ด้วยเหรอคะ” ตั้งแต่มาใช้บริการ เธอก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน อ้อ ไม่เคยเจอเจ้าหน้าที่คนนี้ด้วย
“กฎสำหรับหนังสือที่หายากน่ะครับ ตกลงว่าไงครับ ยังอยากได้เล่มนี้อยู่หรือเปล่า ถ้าไม่ก็ไม่เป็นไรนะ” เจ้าหน้าที่หนุ่มดวงตาเป็นประกายวิบวับราวกับกำลังวางแผนบางอย่างอยู่
นักเขียนสาวตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่ง ด้วยความที่อยากอ่านเรื่องราวของกำไลหงส์ทิวาและธศิญาต่อมากจึงพยักหน้าเบาๆ “อืม ก็ได้ค่ะ แล้วฉันจะได้เล่มใหม่เมื่อไหร่”
“ไม่เกินสามวันครับ ฝากเบอร์คุณไว้สิครับ แล้วผมจะโทร.ไปแจ้งเอง” พร้อมกับพูด เจ้าตัวหยิบกระดาษและปากกาขึ้นมาวางบนเคาน์เตอร์อย่างกระตือรือร้น
ชลันธรเขียนชื่อและเบอร์ติดต่อลงไป ก่อนจะเลื่อนคืนให้ “ขอบคุณมากนะคะ”
“ด้วยความยินดีครับ” เขารับคำด้วยท่าทีเป็นมิตร
ชลันธรเดินหันหลังออกมาพลางส่ายหัวน้อยๆ ท่าทางบ้าๆบอๆ จะได้เรื่องหรือเปล่าเนี่ย
ตอนเย็นเมื่อแม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารเสร็จ สมาชิกในบ้านอิสระธาราทุกคนก็เข้ามานั่งอย่างพร้อมหน้า บรรยากาศของการรับประทานอาหารยังคงอบอวลไปด้วยความสุขเช่นทุกวัน
“ลัน หนูอิง ช่วยกันพูดไม่ให้มีนกลับไปทำงานหน่อยสิ อุตส่าห์หลอกล่อไว้ได้ตั้งนาน แต่สุดท้ายก็ดึงดันจะไปจนได้” ชลธิศ[1]เอ่ยขึ้นพลางมองชลันธรและพริบดาวหลานสาวตัวจ้อยตาละห้อยเพื่อขอกำลังเสริม
แม้มาริณจะยังอยู่ที่นี่อีกสามวัน หลังจากลางานเพื่อแต่งงานและใช้สิทธิ์ลาพักร้อนต่อรวมเวลากว่าสองอาทิตย์แล้ว แต่มันก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเขา เพราะกว่าเธอจะกลับมาอีกทีก็ต้องรอวันหยุดอาทิตย์หน้า ห่างกันตั้งหลายวันแน่ะ เขาคงขาดใจก่อนพอดี ครั้นจะตามไปอยู่กรุงเทพฯ ทางนี้ก็มีกิจการเรือประมงที่ทิ้งไม่ได้
ชลธิศเคยบอกคนรักว่าไม่จำเป็นต้องทำงานแล้ว เพราะเขาจะดูแลเธอเอง แต่หญิงสาวก็ไม่ยอม อ้างว่าไม่อยากโดนคนนินทาว่าเกาะสามีกิน โธ่ ใครจะพูดยังไงก็ช่างเขาสิ ในเมื่อสามีคนนี้ยินดีเลี้ยงดูภรรยาเต็มที่ ไม่ต้องไปลำบากลำบนกับงานประจำอย่างที่เป็นอยู่
“คุณลัน หนูอิง อย่าไปช่วยนะคะ ถ้ามีนไม่ได้ทำงานก็เหงาแย่สิคะ” มาริณซึ่งทำงานเป็นนักข่าวอยู่สถานีวิทยุชื่อดังในกรุงเทพฯบอก ก่อนจะหันไปโยนค้อนใส่สามี
“ไม่เหงาหรอกน่า แค่นั่งมองหน้าหล่อๆของผมแป๊บเดียวก็หมดวันแล้ว แต่ถ้าเกลี้ยกล่อมดีๆแล้วไม่อยู่ ผมก็มีไม้ตายที่จะทำให้มีนอยู่ เห็นทีหนูอิงต้องมีน้องแล้วละ” ชลธิศมองภรรยาด้วยดวงตาเป็นประกายพราวระยับกรุ้มกริ่ม
“บ้า! พูดอะไรเนี่ย” มาริณค้อนควัก ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานข้าวด้วยความเขิน
พูดถึงเรื่องมีลูก หญิงสาวก็นึกถึงพี่สาวทั้งสองคนขึ้นมาทันที พี่สาวคนโต…มัชฌิตา ตอนนี้ใช้ชีวิตครอบครัวกับอัคนิผู้เป็นสามีอยู่ที่อินเดีย มาริณเคยเจอชายหนุ่มมาแล้ว เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตามีพลังอำนาจร้อนแรงดุจเปลวเพลิง ไม่น่าแปลกใจเลยที่สาวแกร่งอย่างพี่สาวเธอจะตกลงปลงใจกับผู้ชายที่มีเสน่ห์เหลือร้ายคนนี้ ทว่าจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีวี่แววว่าทั้งสองจะมีอัคนิและมัชฌิตาตัวน้อยๆออกมาวิ่งเล่นในวังเมห์ฮราเลย ชีวิตที่มีกันสองคนตามประสาคู่รักก็ดูหวานชื่นและเร่าร้อนจนน่าอิจฉา
ส่วนมุกดาพี่สาวคนรองของมาริณมีคู่ชีวิตผู้แสนอ่อนโยนและช่างเอาใจใส่เป็นที่สุด เรียกว่าผู้หญิงหลายคนอดอิจฉาไม่ได้ เพราะความรักของทั้งสองหวานจนมดยังต้องอาย และก็ไม่เกินความคาดหมายของมาริณเมื่อตอนนี้มุกดาตั้งท้องได้สามเดือนกว่าแล้ว แถมข่าวคราวล่าสุดจากพี่สาวของเธอยังบอกว่าเด็กในครรภ์ตอนนี้เป็นฝาแฝดเสียด้วย คู่ของพี่สาวคนรองยามนี้เลยวุ่นวายอยู่กับการเตรียมตัวเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ และในอนาคตคงมีความวุ่นวายอีกมากมายตามมาเมื่อต้องรับมือกับการเลี้ยงเจ้าตัวน้อยพร้อมกันถึงสองคน แน่นอนว่าวาริทผู้เป็นสามีคงจะเป็นผู้ช่วยมือดี คอยดูแลภรรยาและลูกอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
แล้วเธอล่ะ จะใช้ชีวิตคู่ไปก่อนเหมือนพี่สาวคนโต หรือมีลูกเลยแบบพี่สาวคนรองดีนะ
“กำลังคิดว่าจะมีลูกกี่คนอยู่เหรอครับที่รัก” เสียงที่มีแววยียวนนิดๆนั้นทำให้มาริณหลุดจากความคิด
เธอค้อนขวับก่อนตอบ “เปล่าสักหน่อย ทำเป็นมารู้ความคิดคนอื่นนะ”
ชลันธรมองพี่ชายและภรรยาด้วยความอิ่มเอมใจ แม้สองคนนี้จะขัดคอกันเล็กๆน้อยๆประจำ แต่เรื่องราวที่ร่วมฝ่าฟันมาก่อนจะแต่งงานก็ได้พิสูจน์แล้วว่าทั้งสองรักกันมากจนยอมแลกได้แม้กระทั่งชีวิตเพื่อกัน
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ชลันธรก็ขึ้นมาอาบน้ำบนห้องนอน ก่อนที่สิบห้านาทีต่อมา นักเขียนสาวจะมานั่งหน้าจอโน้ตบุ๊กสีขาวคู่ใจในชุดนอนสบายๆ ด้านขวามือบนโต๊ะทำงานคือหนังสือสีม่วงเข้มที่ยืมมาจากห้องสมุด
กำไลหงส์ทิวา คุณธศิญา คุณดุริยะ คุณปาลทัต เขตราศิ เขตปาณษา ประเทศภูทิวา...เธอจะต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ให้ได้
ว่าแล้วก็จรดนิ้วเรียวลงบนแป้นพิมพ์ เข้าเว็บไซต์ที่ใช้ค้นหาข้อมูล ไม่นานผลลัพธ์ก็ปรากฎขึ้นบนหน้าจอ
ชลันธรนิ่วหน้าเล็กๆ มีแค่เว็บไซต์เดียวที่มีข้อมูลเหรอเนี่ย แต่เอาเถอะ ดีกว่าไม่มีเลยแล้วกัน
เมื่อหญิงสาวคลิกเข้าไปดูก็พบว่าข้อมูลในเว็บไซต์นั้นมีเท่าๆกับหนังสือเล่มสีม่วง นั่นคือหลังจากดุริยะส่งผู้ใหญ่มาเจรจาเรื่องการแต่งงานกับธศิญาก็ไม่มีเรื่องราวต่อจากนั้นเลย
“อะไรเนี่ย!” เธอทำหน้ามุ่ย ทางเดียวที่จะรู้มากขึ้นคือต้องรอหนังสือเล่มใหม่จากเจ้าหน้าที่คนนั้นหรือนี่ เฮ้อ หวังว่าเขาจะรับผิดชอบหาหนังสือมาให้เธอตามที่บอกนะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------
[1] ชลธิศ มาริณ และพริบดาว ตัวละครจากเรื่องม่านธาราเร้นดาว (นวนิยายชุดมนตราอัญมณี)
บุลินทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 พ.ย. 2556, 13:18:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ธ.ค. 2556, 14:05:26 น.
จำนวนการเข้าชม : 2731
<< บทนำ | บทที่ 2 เสียงปริศนา >> |
บุลินทร 12 พ.ย. 2556, 13:29:48 น.
คุณ patok
หายไปนานทั้งคนอ่านคนเขียนใช่มั้ย อิอิ คราวนี้มาแบบยาวๆแล้วน้า
คุณ ดวงมาลย์
ขอบคุณครับ กดไลค์ ให้กำลังใจกันไปมา สู้ๆๆๆ
คุณ ภาวิน
สะบัดหน้าใส่เลยรึ ฮ่าๆๆ คราวหลังจะเขียนบทนำให้มากกว่าสิบบรรทัดนะ
คุณ อสิตา
ชดเชยด้วยการมาลงเร็วเป็นพิเศษแล้ววว
คุณ ริญจน์ธร
คราวหลังต้องซักสิบสองบรรทัด ฮ่าๆๆๆ
คุณ lovemuay
มีดราม่าแต่ไม่เยอะมากนะครับ ยังไงมีกุ๊กกิ๊กมากกว่าแน่นอน
คุณ Zephyr
เขาเรียกว่าอ่านแบบไม่กะพริบตา ยังไม่ทันกะพริบตาก็จบไง อิอิ
คุณ นปารมี
ขอบคุณครับพี่มน ทุกคนพร้อมใจกันเมนต์เรื่องบทนำสั้น ฮ่าๆๆ
คุณ พันธุ์แตงกวา
ขอบคุณคร้าบ จบจากนายเบน มาอีกแนวนึงนะครับ
คุณ goldensun
มีปมกำไลหงส์ทิวาเพิ่มมานิดๆนะครับ เอ๊ะ เรียกปมรึเปล่า ยังไม่ได้เผยอะไรมาก แค่นิดๆริงๆ ฮ่า มาร่วมลุ้นกันต่อครับ
คุณ ketza
คุณเกตซ่าได้ข่าวว่ามีการโพสต์ภาพหลอนทวงนิยายอสิตากับริญจน์ธรใช่ม้าย ฮ่าๆๆๆ
คุณ เคียงเขม
ตอนที่ 1 มาต่ออย่างรวดเร็วครับบบบ
คุณ patok
หายไปนานทั้งคนอ่านคนเขียนใช่มั้ย อิอิ คราวนี้มาแบบยาวๆแล้วน้า
คุณ ดวงมาลย์
ขอบคุณครับ กดไลค์ ให้กำลังใจกันไปมา สู้ๆๆๆ
คุณ ภาวิน
สะบัดหน้าใส่เลยรึ ฮ่าๆๆ คราวหลังจะเขียนบทนำให้มากกว่าสิบบรรทัดนะ
คุณ อสิตา
ชดเชยด้วยการมาลงเร็วเป็นพิเศษแล้ววว
คุณ ริญจน์ธร
คราวหลังต้องซักสิบสองบรรทัด ฮ่าๆๆๆ
คุณ lovemuay
มีดราม่าแต่ไม่เยอะมากนะครับ ยังไงมีกุ๊กกิ๊กมากกว่าแน่นอน
คุณ Zephyr
เขาเรียกว่าอ่านแบบไม่กะพริบตา ยังไม่ทันกะพริบตาก็จบไง อิอิ
คุณ นปารมี
ขอบคุณครับพี่มน ทุกคนพร้อมใจกันเมนต์เรื่องบทนำสั้น ฮ่าๆๆ
คุณ พันธุ์แตงกวา
ขอบคุณคร้าบ จบจากนายเบน มาอีกแนวนึงนะครับ
คุณ goldensun
มีปมกำไลหงส์ทิวาเพิ่มมานิดๆนะครับ เอ๊ะ เรียกปมรึเปล่า ยังไม่ได้เผยอะไรมาก แค่นิดๆริงๆ ฮ่า มาร่วมลุ้นกันต่อครับ
คุณ ketza
คุณเกตซ่าได้ข่าวว่ามีการโพสต์ภาพหลอนทวงนิยายอสิตากับริญจน์ธรใช่ม้าย ฮ่าๆๆๆ
คุณ เคียงเขม
ตอนที่ 1 มาต่ออย่างรวดเร็วครับบบบ
ดวงมาลย์ 12 พ.ย. 2556, 13:35:33 น.
ไลค์ร้อนๆ มาเสิร์ฟจ้า
ไลค์ร้อนๆ มาเสิร์ฟจ้า
อสิตา 12 พ.ย. 2556, 13:52:13 น.
ฉันว่าเจ้าเฟอร์คงจะตามมาเสพตามิตรต่อในเรื่องนี้ แล้วก็นอกใจอัคน้อยเป็นครั้งที่สิบ
ฉันว่าเจ้าเฟอร์คงจะตามมาเสพตามิตรต่อในเรื่องนี้ แล้วก็นอกใจอัคน้อยเป็นครั้งที่สิบ
Zephyr 12 พ.ย. 2556, 14:00:17 น.
คราวก่อนลงสั้น
คราวนี้ลงหลังมะม้ากับพี่มูนนะ
ปรับเลยๆๆๆๆๆ
ลงสองตอนรวด ปฏิบัติ ฮ่าๆๆๆๆ
แอร๊ ตามิตรทำอะไรอีกละ ผลุบๆโผล่ๆเรื่องนู้นที เรื่องนั้นที เรื่องนี้อีกที
ลำบากเนอะ เป็นคนคอยตบๆผลักๆให้ดวงชะตาเข้าร่องเข้ารอย
ว่าแต่นางเอกคือลันเหรอเนี่ย
คราวก่อนลงสั้น
คราวนี้ลงหลังมะม้ากับพี่มูนนะ
ปรับเลยๆๆๆๆๆ
ลงสองตอนรวด ปฏิบัติ ฮ่าๆๆๆๆ
แอร๊ ตามิตรทำอะไรอีกละ ผลุบๆโผล่ๆเรื่องนู้นที เรื่องนั้นที เรื่องนี้อีกที
ลำบากเนอะ เป็นคนคอยตบๆผลักๆให้ดวงชะตาเข้าร่องเข้ารอย
ว่าแต่นางเอกคือลันเหรอเนี่ย
patok 12 พ.ย. 2556, 16:10:45 น.
ชลันธร ทราบเรื่องอความารีนรึเปล่าคะ ?
ทำไมรู้สึกแปลกๆ คือ แบบว่า อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่า น่าติดตามเรื่องของชลันธรต่อไปมากๆค่ะ แต่เรื่องของพี่เชนกับหนูมีน ไม่น่าสนใจแล้วอ่ะ เหอะๆ ความรักหมดโปรโมชั่นแหงๆ 555+
ชลันธร ทราบเรื่องอความารีนรึเปล่าคะ ?
ทำไมรู้สึกแปลกๆ คือ แบบว่า อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่า น่าติดตามเรื่องของชลันธรต่อไปมากๆค่ะ แต่เรื่องของพี่เชนกับหนูมีน ไม่น่าสนใจแล้วอ่ะ เหอะๆ ความรักหมดโปรโมชั่นแหงๆ 555+
lovemuay 12 พ.ย. 2556, 22:40:46 น.
หนังสือหน้าที่ขาดไป คือรอนางเอกมาดำเนินเรื่องต่อรึป่าวคะ? อิอิ
หนังสือหน้าที่ขาดไป คือรอนางเอกมาดำเนินเรื่องต่อรึป่าวคะ? อิอิ
goldensun 13 พ.ย. 2556, 18:02:09 น.
มิตรทิ้งร้านกาลเวลามาได้ด้วย ลันจะได้ยืมหนังสือแถมกำไลรึเปล่า เล่นเอาสะดุดตา สะดุดใจซะขนาดนี้
มิตรทิ้งร้านกาลเวลามาได้ด้วย ลันจะได้ยืมหนังสือแถมกำไลรึเปล่า เล่นเอาสะดุดตา สะดุดใจซะขนาดนี้
นักอ่านเหนียวหนึบ 13 พ.ย. 2556, 22:43:52 น.
เพ่มิตร เรื่องนี้มาแนวจิ๊กโก๋ นะเพ่ ตอนนี้ปรับร้านอัญมณีเป็นห้องสมุดแทนแล้วเหรอฮ้าฟฟฟ
อ่านพร้อมกัน สามเรื่อง มันซึมซาบได้ดีจริงๆ
เพ่มิตร เรื่องนี้มาแนวจิ๊กโก๋ นะเพ่ ตอนนี้ปรับร้านอัญมณีเป็นห้องสมุดแทนแล้วเหรอฮ้าฟฟฟ
อ่านพร้อมกัน สามเรื่อง มันซึมซาบได้ดีจริงๆ
พิชญ์ณปภา 27 ธ.ค. 2556, 14:12:01 น.
ชื่อเพราะยังเลย ม่านทิวาพชร
ชื่อเพราะยังเลย ม่านทิวาพชร