Sweet Diseases รสหวาน...ตราตรึงใจ
ภีมกำลังป่วยหนัก ไม่ใช่จากทางกาย แต่เป็นทางใจ

คนป่วยใจ รักษาด้วยจิตแพทย์ก็อาจจะหายได้ ยกเว้นว่าสาเหตุของการป่วยครั้งนี้

จะไม่ได้เริ่มมาจาก...คุณหมอ
Tags: ดราม่าโรแมนติก ภีม มิลัน รสหวาน

ตอน: บทที่ 1(100%): การเปลี่ยนแปลง

ชายหนุ่มเจ้าสำราญไม่เคยหยุดที่ใครจริงจัง จริงๆ เหตุผลมันไม่ใช่ไม่มี ภีมนึกถึงชีวิตตัวเองในอดีตก็เหมือนมีรสขมที่ไม่ใช่แอลกอฮอล์แล่นปราดขึ้นมา ภาพเด็กชายตัวอ้วนคนหนึ่งต่อให้รวยก็ไม่มีใครรักจริง ซ้ำยังโดนดูถูก วันที่ตาของเขาเสีย ก็คือวันที่เขาโดนผู้หญิงที่เป็นพี่สาวของปาริตาปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย และยังต้องทนรับสภาพ โทษตัวเองมาตลอดจนถึงวันนี้ว่าเขาเป็นคนทำให้ตาต้องตาย

ชายชราที่เอาแต่ทานขนมหวานฝีมือเขาเพื่อปลอบใจยามเขาทุกข์หรือเศร้า วันนั้นหลังจากที่ตาทานคุกกี้เขาไปบนเตียง ตาก็นอนหลับไปโดยไม่ตื่นอีก...ตลอดชีวิตของท่าน

เขามันก็แค่คนที่เกลียดในสิ่งที่กลัว...กลัวว่าสิ่งเหล่านั้นจะวกกลับมาทำร้ายเขาให้เจ็บแสบอีก จนกระทั่งมาพบกับปาริตา...เขาเองก็รู้สึกถึงความเจ็บลึกในหัวใจอีกครั้ง เพียงแต่เป็นเขาที่ก้าวพลาด ไม่ใช่หญิงสาว

รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองผิด แต่พอพบว่าใครอีกคนจัดการปิดประตูใส่หน้า ฉาบปูนทับปิดตัดโอกาสเขาทุกทางแบบนี้ ภีมถึงอยากประชดชีวิตเผื่อจะได้ลืมๆ ผู้หญิงคนนั้นไปได้บ้าง

แต่มันไม่ง่ายเลย

เขาคิดถึงความอ่อนหวาน ความใจดีมีเมตตา และพร้อมจะรับฟังเขาทุกเรื่อง คิดถึงดวงตาใสๆ ที่เว้าวอนถามเขาถึงเรื่องในอดีต...มันไม่มีอีกแล้ว

ยิ่งนานวันเขาก็ยิ่งรู้สึกก้าวไปไม่เคยถึงปาริตา

ภีมออกมาจากผับเมื่อหลายสิบนาทีก่อน ตั้งแต่ฟังสองพี่น้องตระกูลเดชอนันต์สิทธิ์ป่วนอารมณ์เขาก็เลยออกมาเสียเลย โทรศัพท์ก็สั่นตั้งแต่เขายังเดินไม่ถึงตัวรถ เขาก็แค่กรอกเสียงลงไปว่าวันนี้จะสนุก...เหมือนเดิม

สองคนนั้นคงไม่รู้หรอกว่าการกระทำของเขาที่แสดงออกทุกวันนั้น...ที่จริงมันก็แค่เรียกร้องความสนใจจากเพื่อนพ้องหรือน้องนุ่ง เขาไม่เคยทำอย่างที่นึกได้เท่าไหร่ ทำตัวให้ดูเสเพลไปวันๆ ควงสาวทานข้าว แต่พอจะลงเอยที่เตียง หัวใจของเขาก็พานหยุด ร่างกายไม่ยอมเคลื่อนไหว เขาไม่อยากให้ตัวเองทำผิดต่อปาริตาไปมากกว่านี้

ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเลยก็ตาม...ครั้งหนึ่งเขาเคยหวังว่าอาการบ้าๆ ซื้อผับ เที่ยวกลางคืน มั่วสาว ที่อย่างหลังเขาก็แค่เปลี่ยนสาวควงแต่ไม่มีอะไรเกินเลยมากมาย จะทำให้ปาริตาสนใจเขามากขึ้น อย่างน้อยๆ คนใกล้ชิดเจ้าหล่อนอย่างสองพี่น้องนั่นจะนำเรื่องไปถึงหู...ทุกอย่างเงียบสนิท

รถยุโรปเคลื่อนตัวมาจอดเลียบชิดฟุตบาทที่ทำเป็นซองสำหรับจอดรถผู้มาทำการรักษาในโรงพยาบาลรัฐ รถที่เห็นจึงค่อนข้างหนาตา ปาริตาคงไม่รับรู้ว่าตลอดมา คืนไหนที่เจ้าหล่อนต้องอยู่เวรคุมวอร์ด เขาก็มักจะมานอนอยู่หน้าอาคารรักษาเสมอ มันเป็นอย่างนี้มาได้หลายเดือน นับตั้งแต่ปาริตาเรียนจบ

เขาจะอยู่เฝ้าจนกว่าจะเห็นเธอเดินออกมาจากโรงพยาบาล และขึ้นรถเมล์กลับบ้านในตอนเช้า ผู้หญิงที่เจียมตัวมาเสมอ จากการเกิดมาเป็นลูกคนรวย แต่ก็ยังสำนึกว่าแม่ของตัวเองเป็นเพียงแม่บ้านที่มีหน้าที่เป็นเมียลับอีกคนหนึ่ง คนอื่นในบ้านพ่อของเธอไม่มีใครรับรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของใคร จนกระทั่งความจริงเปิดเผย ว่าตระกูลของพ่อ และตระกูลของแม่ซึ่งก็คือตระกูลของปัณณ์และปุณณ์นั้นมีความบาดหมางกันมานาน กว่าทั้งสองตระกูลจะลบความร้าวได้ พี่สาวของปาริตาก็ทนไม่ไหวจนเสียสติ ความแค้นที่ปลูกฝังมาผิดๆ กัดกร่อนจิตใจ และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ปาริตาเลือกเรียนทางด้านจิตเวช การทำงานโรงพยาบาลรัฐ ภีมเคยได้ยินปัณณ์เล่าว่า

‘มิลันเขาบอกว่าถึงจะลำบาก เหนื่อยกว่า เงินเดือนน้อยกว่า แต่มีโอกาสได้ช่วยคนมากกว่า ชาวบ้านตาดำๆ ไม่มีทางเข้าโรงพยาบาลแพงๆ ได้ ยิ่งทุกวันนี้สังคมมันเครียดมากขึ้น ไม่จำเป็นว่าคนที่มาหาจิตแพทย์ต้องเป็นบ้า แค่เขามีปัญหาก็มาคุยได้ แถมมิลันยังบอก ว่าตัวเองไม่ได้ขาดอะไร เงินทองก็มีแล้ว เลยอยากอุทิศตัวช่วยเหลือคนอย่างเต็มกำลัง ไงน้องฉันน่ะนางฟ้ามาเกิด เลือกรักษาแต่คน’

ภีมจำได้ดีว่าปัณณ์ยังตอกย้ำเขาด้วยประโยคหนึ่ง ‘แกควรทำตัวเหมือนคนป่วยน่าสงสาร หรืออย่างน้อยก็เป็นคนดีๆ ที่ควรค่าแก่การสนใจ ไม่ใช่เอาแต่ทำตัวเจ้าชู้ ไม่น่ารักษาแบบนี้’

ภีมอยากจะรู้นักหากเขาเลว และร้ายในสายตาของหญิงสาว เธอจะรักเขาได้หรือเปล่า จะเรียกร้องความสนใจจากคุณหมอได้เมื่อไหร่กัน

เขาก็คงเปรียบได้กับสิ่งมีชีวิตร้ายกาจ เป็นสีดำหม่นหมองในใจของปาริตา ไม่มีค่าควรแก่การใส่ใจ หรือรักษา

ภีมหยิบบราวน์นี่สีน้ำตาลเข้มที่แวะจอดซื้อที่ร้านสะดวกซื้อ หยิบขึ้นมากัดกินด้วยท่าทางปกติ ซึมซับรสชาติหวาน และเนื้อแป้งนุ่ม จากยี่ห้อแกรนด์เบเกอร์รี่ มีเจ้าของเป็นคนรักของปัณณ์ ไม่แปลกเลยที่ขนมปังไม่ใส่สารกันบูด จะทำให้เขาเลิกเกลียดรสหวานได้

ไม่ใช่ว่ามันอร่อยจนเขาลืมเรื่องทุกข์จากการเสียตาไป แต่เป็นเพราะเขาอยากเอาชนะสิ่งที่ตัวเองกลัวไม่ใช่ด้วยความเกลียด แต่เป็นด้วยความรักดู อย่างที่เขาคิดได้เอง...หลังจากมีปาริตาเป็นกำลังใจส่วนตัว สามปีที่เขาอดทนจนในที่สุด เขาก็ทำมันสำเร็จ แม้แต่คนรอบข้างก็ยังไม่มีใครรู้

เขาอยากบอกเรื่องนี้ให้ปาริตารู้คนแรก...

ภีมจิบน้ำเปล่าเย็นเฉียบที่ซื้อติดมาด้วยดื่มพอให้คอไม่แห้ง เอนเบาะลง สายตามองตึกใหญ่เกือบสิบชั้นที่มืดสนิท ยกเว้นตึกเล็กกว่าที่อยู่ข้างกัน มีป้ายไฟสว่างโร่ติดเหนือตึก ‘ฉุกเฉิน – อุบัติเหตุ’ ที่นั่นต่างหากที่ปาริตาอยู่

ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก อีกไม่กี่ชั่วโมงเธอก็จะออกมา การได้พบเจอปาริตาทุกเช้ามันเป็นเรื่องดีสำหรับเขาเสมอ...ถึงจะเป็นการพบกันที่ไม่เคยดีสักครั้ง

เปิดเพลงด้วยเครื่องเล่นเป็นทำนองเบาให้ดนตรีคลอไป ส่วนตัวเขาเอนตัวลงนอนราบไปกับเบาะ หลับตาพัก รอเวลาการมาของเธอเท่านั้น


คนไข้ที่กำลังอาละวาดทำลายล้างขนาดข้อมือโดนกรีดมาด้วยมือตัวเองจนเลือดกระเซ็นกระจายไปตามเสื้อผ้าของพยาบาล หมอ ไม่ต้องพูดถึงเตียงที่รองรับคนไข้สาวว่าบัดนี้นองไปด้วยเลือดแดงฉานนี้แค่ไหน

ต้องใช้บุรุษพยาบาลสองคน พยาบาลอีกสองคน รวมทั้งตัวเธอไปมะรุมมะตุ้มจับมัด และฉีดยาเพื่อให้คนตัวผอม หน้าโทรมได้ผ่อนคลายลง อารมณ์อาละวาดก็ลดลงเหลือแค่นอนหายใจเหนื่อยหอบ ขยับเขยื้อนลำบากด้วยการถูกยึดไว้กับเตียง

คุณหมอในชุดกาวน์สีขาวมีเลือดเปรอะตามตัวส่งคืนเข็มที่เพิ่งฉีดให้พยาบาล และเริ่มทำการห้ามเลือดบริเวณข้อมือของคนไข้ที่พยาบาลบอกมาว่าเกิดอาการเครียดจัด หลังจากตกงาน อกหัก ที่บ้านพ่อแม่ก็มาเลิกกันในระยะเวลาใกล้ๆ เธอจึงตัดสินใจคิดสั้นแบบนี้

โชคดีที่เธอเกิดนึกมีสติพอมาโรงพยาบาลด้วยตัวเอง แต่โชคร้าย พอมาถึงโรงพยาบาลเจ้าหล่อนก็เริ่มอาละวาด ร้องไห้ ทำลายข้าวของไปพอสมควร โชคดีที่เครื่องมือรักษาไม่ได้แพงอะไร ส่วนใหญ่เป็นรถเข็น ถาดบรรจุเครื่องมือ ที่ล้มระเนระนาด

“อยากตาย” คำสั้นๆ ของคนไข้ที่พูดรำพันมาเสียงแหบแห้งผลจากการกรีดร้องเรียกความสนใจจากคุณหมอที่เพิ่งแขวนถุงเลือดเพิ่มให้ร่างกายคนเจ็บ เมื่อพบว่าเธอเย็บแผลเรียบร้อย ทั้งยังรอดูว่าคนไข้พบเจออะไรมา เธอก็ก้มหน้าลงไป มองเสี้ยวหน้าซีดของผู้หญิงผมซอยสั้นคนนี้อย่างเห็นใจ

“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นคะ โลกนี้มันยังมีอะไรสวยงามน่าค้นหาอีกนะคะ คนทุกคนต่างพบเจอเรื่องทุกข์กัน ทุกข์มากทุกข์น้อย ไม่มีใครหนีพ้นหรอกค่ะ มันก็เหมือนความสุข สุขเล็กสุขมาก ยังไงก็อยู่ที่ความพอใจของแต่ละคน แต่ทุกอย่างมันไม่มีอะไรจียังหรอกนะคะ ทุกข์มันมาก็จะผ่านไป สุขมาทำให้เราชื่นใจ แต่ไม่นานมันก็จากเราไปอีก” คุณหมอจับขอบเตียงคนไข้ อธิบายเสียงแจ่มใส ไม่เพิ่มความหม่นหมองกดดันให้คนไข้ได้รับเพิ่มอีก

“แล้วต้องทำยังไง...ถึงไม่ทุกข์” คนไข้ร้องไห้ออกมา ดวงตาเหม่อมองเพดานและดวงไฟหลอดยาว ความว่างเปล่าของมันไม่ช่วยให้คนไข้รู้สึกปล่อยวางได้ “ฉันไม่เห็นใครเวลาทุกข์...ไม่รู้สึกถึงการมีตัวตนบนโลกใบนี้”

ปาริตามองตอบ ยิ้มน้อยๆ ให้กำลังใจ “คุณยังมีตัวคุณเองนะคะ...ตัวคุณคือตัวตนบนโลกใบนี้ เราจะไปแคร์สายตาคนทั้งโลกให้ตัวเองหนักอึ้งทำไมคะ เราใช้ชีวิตของเรา พยายามมีชีวิตให้ดี เราไม่จำเป็นต้องมองโลกใบนี้ในมุมเดียว ลองมองกลับกัน ถ้าเรามีชีวิตเพื่อให้ใครอีกหลายคนล่ะคะ คุณยังโชคดีที่ยังมีสติอยู่ ยังมีโอกาสมีชีวิตเพื่อคนอื่น” ถึงแม้ว่าก่อนหน้าทำลายล้างอะไรไปมากแค่ไหน แต่เธอก็ยืนยันได้ว่าคนไข้คนนี้แค่เครียด และต้องการให้คนสนใจ

“หมอพูดงง มีชีวิตเพื่อตัวเองเพื่อคนอื่น ไม่เห็นเข้าใจ”

“สายตาคนอื่น เสียงนินทา หรืออะไรก็ตามแต่อย่าไปสนใจหรือคาดหวังอะไรจากสิ่งเหล่านั้นค่ะ เราทำตัวของเราให้ดี ถ้ามีแรงพอก็ทำเผื่อแผ่ไปถึงคนอื่นบ้าง ตอนนี้คุณเองก็กำลังทำเพื่อคนอื่นอยู่นะคะ”

“ฉันเนี่ยนะ” คนไข้ถามเสียงเครือ “ไม่มีใครเห็นค่าฉัน”

“หมอไงคะ...ถ้าหากคุณเริ่มด้วยการเป็นคนไข้ที่น่ารักของหมอ เลิกวิตกกังวลใดๆ ไม่คิดทำร้ายตัวเองแบบนี้อีก หมอจะภูมิใจในตัวคุณมากนะคะ”

จมูกแดงๆ ของคนไข้ทำเสียงฟุดฟิด สูดเสียงดัง แต่สุดท้ายน้ำมูก และน้ำตาก็ยังคงไหลออกมาโดยที่คนไข้สาวปาดมันออกไปไม่ได้

“หมอรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงปล่อยให้ตัวเองตายไม่ลง”

“อะไรคะ”

“ในนั้น...มีสิ่งมีชีวิตที่ฉันเกลียดที่สุดในโลกอยู่” สายตาหลุบต่ำไปยังหน้าท้องแบนราบของตัวเอง ปาริตามองตาม ส่งสัญญาณไปทางพยาบาลเตรียมตรวจร่างกายคนไข้เพิ่มทันที รีบกลับมาสนใจคนไข้ที่เริ่มร้องไห้ตัวโยน “ฉันโดนไอ้นักเลงในซอยข่มขืนจนมีมัน...แต่ฉันฆ่ามันไม่ลง”

“คิดถึงลูกคุณไว้นะคะ เรื่องคดีข่มขืนคุณสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ทันที...ส่วนลูก หมอคิดว่าที่คุณตัดสินใจมาที่นี่ในวันนี้ คงพร้อมที่จะเก็บเขาไว้”

“ฮึก...ฉันก็ไม่แน่ใจนะหมอ ฉัน...ฉันไม่รู้”

“คุณบอกว่าอยากมีชีวิตให้ใครสนใจ คุณเริ่มจากการให้ความรัก ใส่ใจ และเลี้ยงลูกให้ดีเถอะค่ะ อะไรที่คุณเคยพบเจอมา คุณก็เปลี่ยนมันซะ อย่าให้ลูกพบความทุกข์ที่คุณได้รับ ฉันเชื่อว่าคุณจะทำมันได้ดีนะคะ ความสุขมันขึ้นกับความพอใจค่ะ ฉันเชื่อว่าคุณจะสร้างมันขึ้นมาได้พร้อมกับลูก”

“ฉันเป็นแม่ที่ดีได้เหรอ”

“มันเริ่มที่คุณค่ะ และวันนี้ที่คุณคิดถึงลูกจนมาที่นี่ แปลว่าคุณยังคิดถึงเขา”

ปาริตามองท่าทีสงบของคนไข้ ที่ค่อยๆ ผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย หญิงสาวก็สั่งตรวจร่างกายคนไข้แบบละเอียดอีกครั้ง พร้อมรับเป็นคนไข้ของเธอ กว่างานห้องฉุกเฉินจะเสร็จ ที่มีมาเรื่อยๆ ก็ผ่านไปอีกวัน ปาริตาเดินขึ้นวอร์ดตรวจคนไข้ด้วยเวรของอาจารย์หมอที่แลกให้เธอมาดูแทนวันนี้เสร็จ นาฬิกาก็เลยมาถึงสิบเอ็ดโมง

ร่างผอมในชุดกาวน์สั้นเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดกางเกงยีนส์สุดแสนจะธรรมดา นวดต้นคอไปมาอีกเล็กน้อยขับไล่อาการล้า วันหนึ่งวันนับจากเป็นหมอช่างยาวนานขึ้นสำหรับเธอ

“น้ำส้มคั้นสดฝีมือป้าแววค่ะ ป้าแกบอกวันนี้ไม่เห็นหมอลงมาสักที พอแกเจอมิ้มเลยคะยั้นคะยอให้เอามาให้หมอเลยค่ะ ไม่คิดเงินเหมือนเดิม มิ้มเลยพลอยได้อานิสงส์ของหมอมาขวดหนึ่ง” พยาบาลร่างท้วม ตัวหนาชูขวดน้ำส้มสองขวดในมือ ยิ้มเบิกบานรับอรุณทั้งที่ตลอดคืนก็เจอเคสหนักมาพร้อมกันกับเธอ หากไม่มีณชพรอยู่ด้วยเมื่อคืน บุรุษพยาบาลตัวผอมโย่งสองคนคงเอาคนไข้ไม่อยู่

ปาริตารับขวดน้ำส้มฝีมือแม่ค้ารถเข็นในโรงพยาบาลใช้หลอดดูดด้วยสีหน้าชื่นใจ นับตั้งแต่ครอบครัวพ่อของเธอตัดสินใจขายทุกอย่างทิ้ง เลิกเล่นธุรกิจ ไปหลบพักต่างจังหวัดกับแม่ของเธอ ทำไร่ทำสวนอย่างสงบ และพี่สาวของเธอ แพรระพีที่เพิ่งอาการดีขึ้นจนเกือบหายเป็นปกติไปอยู่ด้วย คนในบ้านธวัชเดชาก็โดนปล่อยคว้าง แยกย้ายกันไปด้วยเงินก้อนติดมือพอไปตั้งตัวได้

ป้าแววถือเป็นหนึ่งในแม่บ้านที่เธอเคารพรัก ถึงแต่เดิมป้าแววไม่เคยรู้ว่าเธอเป็นถึงลูกสาวของเจ้าของบ้าน เนื่องจากถูกเลี้ยงมาอย่างลูกคนใช้ แต่ป้าแววก็เลี้ยงเธอมา จนเธอเคารพรักเหมือนญาติผู้ใหญ่จริงๆ ขนาดเธอไปเรียนต่อไกลแค่ไหน พอกลับมาทำงานที่นี่ ป้าแววก็ยังมาขายน้ำผลไม้หน้าโรงพยาบาล ร้านรถเข็นเคลื่อนย้ายสะดวก เธอเคยคิดจะยื่นมือไปเปิดร้านให้ป้าแวว รายนั้นก็เอาแต่ปฏิเสธ บอกอยู่แบบนี้ก็ดี ได้คุยกับคนที่มีปัญหาหลากหลาย พอเจอแบบนี้ป้าแววจะรู้สึกว่าอย่างน้อยตัวเองยังโชคดี ไหนจะยังช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยการปลอบใจไปตามประสา

‘เผื่อป้าจะช่วยอะไรมิลันได้บ้างลูก หลานเหลินป้าก็ไม่มี มีแต่หนูที่ป้าห่วง ทำงานเหนื่อยๆ จะกินข้าวอิ่มไหม ปกติก็ไม่ค่อยทานอะไร อย่าขัดความต้องการคนแก่เลยนะ’

ปาริตาเลยคร้านจะขัด ในเมื่อเธอปฏิเสธความหวังดีของแววไม่ลงอยู่แล้ว อย่างน้อยๆ เธอก็ยังรู้สึกสุขใจจากการได้รับการดูแลนี้ ถึงจะพาลไม่พอใจใครอีกคนด้วยเรื่องของป้าแวว

“เจอเขาคนนั้นอีกแล้วด้วยค่ะ ซื้ออาหารมาจัดเรียงทานกับป้าแวว ขนาดมิ้มไปถึงเขายังเอ่ยชวนให้กินด้วยกันเลย แต่โดนป้าแววไล่ให้เอาเสบียงมาส่งหมอก่อน”

เขาคนนั้น...ทำให้รสชาติเย็นชื่นหวานอมเปรี้ยวของน้ำส้มคั้นสดดูจืดไปถนัด ปาริตาทำหน้าเรียบเฉย แววตาที่เคยมีประกายตาอ่อนโยนสดใสดังคนใจดีแห้งแล้ง ปฏิกิริยาต่อต้านเขาคนนั้นรุนแรงพอที่จะทำให้มิ้มเลิกเอ่ยชื่อจริงของภีมออกมาเวลาอยู่ต่อหน้าปาริตาไปโดยปริยาย

“มิ้มขอตัวไปงีบก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวอีกสองวันเจอกันนะคะหมอ” ณชพรยิ้มแหย รีบหลีกหนีคุณหมอไปยังห้องพัก ปล่อยให้ปาริตาได้จัดการชีวิตของตัวเองไป

คนเราบางครั้งก็แปลก...แก้ปัญหาให้ใครต่อใครได้ไม่มีปัญหา พอเจอเข้ากับตัว ปัญหาบางอย่างก็เรื้อรังได้นานปี
........................................................
สุขใจจังค่ะ สวีทสุดท้ายกลับมาทุกคนก็ยังรออย่างอบอุ่น...พาตอนที่หนึ่งส่วนที่เหลือมาลงค่า

คุณ ใบบัวน่ารัก พี่ปั้นมีลูกสองคน แต่ปูนมีคนเดียวค่ะ แต่ยังไม่บอกลูกใครแก่กว่ากัน ฮา ไว้เดี๋ยวพามาป่วนในเรื่องนี้

คุณ sai ดีใจที่ยังรอนะคะ หมูภีมเลิกเกลียดขนมหวานแล้ว ฮิ้ววว แต่มันยังเป็นความลับค่ะ

คุณ ร้อยวจี คนเขียนก็ดีใจมากกก(กอไก่ล้านตัว)ที่ยังรอค่ะ จะทยอยมานะคะ รอให้อีกเรื่องจบ จะมาอัพเรื่องนี้บ่อยขึ้นค่ะ คิดถึงคู่นี้จนต้องขุดขึ้นมาเขียนก่อนเวลา

คุณ ปรางขวัญ สวีทสุดท้าย จะหวานหรือเปล่า มาตามกันนะคะ ^^ ดีใจที่ยังรอค่ะ

คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ พาพี่ภีมมาทักทายเอฟซีค่ะ เอ๊ะ หรือยังไม่มาจากเรื่องโน้น ติดพันพี่ปอมอยู่ อยู่ลุ้นทั้งสองเรื่องไปเลยดีกว่า ฮา ตอนเรื่องของปูนมิลันยังแสดงความเย็นชาออกมาได้ไม่สะใจ เรื่องนี้พี่ภีมโดนจัดเต็มแน่ค่ะ (ขู่ๆ)

ขอบคุณทุกคนที่ยังรอคอยค่ะ ดีใจมากกก จะพยายามทำให้ไม่แพ้สองเรื่องแรกค่ะ แต่ความดราม่าเพิ่มขึ้นตามระดับ จะไม่ลืมว่าชุดนี้อยู่ในสวีทนะคะ แต่สวีทเรื่องนี้ถูกนิยายว่า...คนไม่ชอบขนมหวาน อันแรกลูกกวาด อันที่สองเป็นชอกโกแลต เจออันสุดท้ายอาจมีหงายเงิบ ฮา ขอบคุณทุกคอมเมนท์ ทุกคะแนนโหวต แล้วก็นักอ่านเงาทุกท่านด้วยค่า ดีใจที่ไม่ลืมกัน ^^



ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 พ.ย. 2556, 03:48:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 พ.ย. 2556, 13:24:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 1635





<< บทนำ + บทที่ 1 30%   บทที่ 2 (50%) : ไม่เต็มใจ >>
ใบบัวน่ารัก 23 พ.ย. 2556, 06:42:05 น.
พี่ปั้นแรงอ่ะ จัดหนัก จริง แฝดหรือ มีน้ำยาดีท้อง2ครั้ง
ปูนก็แรงเหมือนกัน
คนเค้ารอ หันมามองแล้วเปิดใจบ้างนะคะคุณหมอ
รอนานๆๆมันท้อ


konhin 23 พ.ย. 2556, 07:33:33 น.
ทักทายค่าาา แผล(ใจ)ถ้าไม่ใส่ยาไม่หายหรอกหมอ


ร้อยวจี 23 พ.ย. 2556, 09:02:13 น.
รอตอนต่อไปค่ะ


ปรางขวัญ 23 พ.ย. 2556, 12:48:38 น.
คุณหมอรักษาใจให้นายภีมด้วยนะ สงสาร อิอิ


sai 23 พ.ย. 2556, 13:45:32 น.
หมูภีมเริ่มน่าสงสารแล้วสิตอนนี้


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account