รักดังฝัน
เขา นิมมาน อดีตชาติเป็นถึงพระยานิมมาน ผู้ที่มีใจปฏิพัทธ์ต่อลูกสาวของศัตรู จนตัวตาย เขาก็พร้อมยกวิญญา แก่ยาใจที่รักสมิตาเพียงผู้เดียว แต่ผ่านมาพันปี นิมมานก็พบว่าความรักของเขาหมดลง ไอ้รักนิรันดร์ไม่มีจริงหรอก “ชาตินี้เจ้าจะแต่งงานกับใครก็ช่าง แต่ก่อนเจ้าจะพบกับไอ้มนุษย์เนื้อคู่ของเจ้า ข้าจะทำให้เจ้ารักข้าให้ได้ก่อน”
เธอ สมิตานัน ผู้หญิงสวย ดำรงตำแหน่งพิธีกรรายการดัง หลอนดีนัก...เดี๋ยวจัดให้ แต่จริงแล้ว คนที่ทำเก่งหน้าจอ แท้จริงกลับกลัวผีขึ้นสมอง ทั้งที่ไม่เคยเจอ แต่พอปุบปับกระหน่ำได้เจอจริง สมิตานันก็อยากให้ทุกอย่างเป็นแค่ฝัน...เอ หรือที่จริงเธอไม่ได้ฝัน
เธอ สมิตานัน ผู้หญิงสวย ดำรงตำแหน่งพิธีกรรายการดัง หลอนดีนัก...เดี๋ยวจัดให้ แต่จริงแล้ว คนที่ทำเก่งหน้าจอ แท้จริงกลับกลัวผีขึ้นสมอง ทั้งที่ไม่เคยเจอ แต่พอปุบปับกระหน่ำได้เจอจริง สมิตานันก็อยากให้ทุกอย่างเป็นแค่ฝัน...เอ หรือที่จริงเธอไม่ได้ฝัน
Tags: หลอนโรแมนติก แฟนตาซี นิมมาน สมิตา
ตอน: บทที่ 20 : ปล่อยอดีต
สมิตานันปล่อยลมออกจากปาก ลืมตาขึ้นมาจากการนั่งสมาธิอยู่ตรงพื้นที่ริมสระน้ำตามที่ได้รับการแนะนำจากหนุ่มรุ่นน้อง ภาพฐานเมืองโบราณเป็นเพียงซากอิฐมอญใหญ่สีแดง พื้นที่เรียบตรงหน้าถูกกรมศิลปากรตรวจสอบ และขุดค้น ล้อมรั้วป้องกันไม่ให้ใครเข้ามาวุ่นวายเพราะอาจเสี่ยงต่อการทำของโบราณนี้เสียหายได้
แต่เธอก็แค่ลอดรั้วเข้ามานั่งปุตรงนี้ ในช่วงเวลาที่กรมศิลปากรรอรัฐบาลอนุมัติงบให้มาทำการขุดค้นเพิ่มเติม การมานั่ง เดิน ยืน ไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกเห็นภาพประหลาดแปลกตาแต่อย่างใด สายตาของเธอตรงหน้าที่มองเท่าไหร่ก็รู้สึกไม่ต่างจากการนั่งมองโบราณสถานแห่งหนึ่ง รู้สึกผูกพันไหม เวลานี้เธอไม่มั่นใจจริงๆ
สามวันที่เธอเฝ้าตามหาบางสิ่งบางอย่างที่เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร เหมือนวิ่งตามเงาของกาลเวลา ที่ผ่านเลยไปแล้วอย่างโง่งม...เธอทำถูกจริงแล้วเหรอ ดวงตากลมโตเหม่อมองความเงียบสงบรอบด้าน มีเพียงสายลมเย็นพัดผ่าน
เวลาก็เปรียบดังสายลม พัดผ่านเลยไป สัมผัสไม่ได้ แต่ความเย็นของวายุนี้ก็คงเหมือนความทรงจำ มันฝังไว้ไม่ไหลไปตามกาล แต่เธอทำสิ่งนั้นหายไปถึงหนึ่งปี...และบางอย่างได้เพิ่มเข้ามาในชีวิตจนเธอตั้งตัวไม่ทัน
จะวิ่งตามหาอดีตไปทำไม ในเมื่อสุดท้ายถึงรู้เธอก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้...และต่อให้มีโอกาสเปลี่ยนแปลงอดีตได้อย่างที่พุทธาว่าเธอทำสำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่ง
ตอนนี้เธอกลัวเกินกว่าจะกลับไปทำแบบนั้นอีกครั้ง...กลัวจะต้องรับความจริงใหม่ๆ ในโลกใบเดิม แต่ไม่คุ้นเคยของเธอ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคนสำคัญคนนั้นก็คือ...เขา
เธอไม่ควรทำร้ายใครด้วยการถามหาสิ่งที่ผ่านมาแล้ว...แรกเริ่มการมาถึงที่นี่เธอพบน้าของนิมมานกำลังเดินตรวจตรางานทางนี้อยู่ แต่พอรู้จุดประสงค์การมาของเธอ วารียอมถอนคนออกไปจากพื้นที่ และอ้างว่ารองบมาทำเพิ่ม แต่จริงๆ วารีทำเพื่อเธอต่างหาก
สายตาเป็นประกายระยับตอนเธอบอกว่ามาเพราะรู้เรื่องบางอย่าง โดนตะล่อมถามจากวารีจนฝ่ายนั้นรู้ความจริงของเธอที่ว่าระยะเวลาหนึ่งของเธอนั้นหายไป
เธอรู้สึกเหมือนได้พบญาติผู้ใหญ่ที่เข้าใจ ไม่มองเธอเป็นตัวประหลาด หรือบ้า
หญิงสาวลุกขึ้นยืนอย่างตัดสินใจ มองซากปรักหักพัง และฐานเมืองเก่าด้วยหัวใจสงบนิ่งคล้ายจะจากลา เวลาอดีต ถ้ามันผ่านมาแล้ว เธอก็ควรปล่อยไป การรื้อฟื้นในเรื่องราวแบบนั้น มีแต่เหนื่อย และทำเขาเหนื่อยใจมากขึ้นเรื่อยๆ นิมมานไม่ได้ทำอะไรผิด และถ้าการเปลี่ยนแปลงของเธอทำไปเพื่อเขา การที่เขามีตัวตนอยู่กับเธอในตอนนี้ควรเป็นสิ่งวิเศษสุด
จะลองเชื่อโชคชะตา และชีวิตของเธอเอง
ลาก่อนอดีต...ที่จำไม่ได้
ปัง!
เสียงดังลั่นของอาวุธปืนทำให้คนได้ยินสะดุ้งโหยง ดวงตาหวาดหวั่น มองพื้นที่อันเงียบสงบตรงหน้าเริ่มตื่นตระหนก เสียงมันฟังดูไม่ไกลจากบริเวณที่เธออยู่นัก รอบด้านเป็นป่า มีเพียงทางเดิน และถนนสายเล็กที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อเดินทางมาที่นี่ของนักโบราณคดี
ใครกันมาที่นี่...สมิตานันเดินไปได้อีกไม่กี่ก้าว ก็โดนดึงร่างไปชิดอกใครสักคน เสียงเข้มดังขึ้นข้างหูหยุดเสียงร้องที่เกือบกรีดร้องออกมาให้หยุดลงในลำคอ
“พี่เองตี้”
นิมมานดึงร่างเพรียวออกสุดแขน สำรวจว่าเธอยังปกติดีถึงโล่งอก แต่สายตาก็ยังไม่วางใจ เอียงคอมองหาต้นเหตุเสียงว่าไม่ได้อยู่บริเวณใกล้กันนี้
“เกิดอะไรขึ้นคะ”
“พี่ก็ไม่รู้ แต่อย่าอยู่ที่นี่กันเลย” ชายหนุ่มกระชับมือเล็กไว้มั่น ใช้แขนข้างหนึ่งโอบร่างที่เขาทั้งหวงทั้งห่วงไว้แนบกาย อาการไม่ต่อต้าน ซ้ำยังปล่อยตัวเองซบอกเขาแบบนี้เรียกรอยยิ้มจากเขาได้ อารมณ์ขุ่นมัวในใจเหมือนโดนแสงอาทิตย์อันอบอุ่นส่องลงมากระทบ
สมิตานันพยักหน้าเห็นด้วย หัวใจของเธอเริ่มรู้สึกอุ่นวาบในเวลาที่เธอพร้อมที่จะเลือกเขาอย่างเต็มใจ...การใส่ใจ และตามหาเธออย่างเป็นห่วง ผู้ชายที่ชื่อว่าสามี ไม่ว่าเหตุผล หรือเรื่องเริ่มมาจากตรงไหน...เธอเชื่อว่าการตัดสินใจแต่งงานกับเขาต้องมาจากคำตอบรับในหัวใจของเธอเอง
“ขอโทษนะคะพี่ปอม”
“ตี้ไม่ได้ทำอะไรผิด” ตอบออกมาอย่างคนใจดี แต่น้ำเสียงแข็งๆ ห้วนๆ ไม่ต่างจากายขี้งอนอย่างไรอย่างนั้น
“ถ้าอย่างนั้นตี้ทำแบบเดิมได้ใช่ไหมคะ ยังไงก็ไม่ผิด”
นิมมานทำเสียงหึในลำคอ สายตาวาวโรจน์จ้องคนลอยหน้าลอยตาบอกจะทำพฤติกรรมเดิมใส่ เจ้าหล่อนคงไม่รู้ว่าเกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาห่วง และกังวลกับอาการแปลกๆ ของภรรยามากแค่ไหน
“เรื่องที่ตี้พูดพอๆ กับถ้าพี่บอกไปมีบ้านเล็กก็ไม่ผิดเลย”
ภรรยาคนสวยนึกหมั่นไส้ จู่ๆ ก็รู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของนิมมาน ถึงรู้ว่าเขาพูดออกมาด้วยอาการประชดประชันก็ตาม ไม่ว่ายังไงเรื่องแบบนี้เธอไม่ชอบให้พูดเล่น โดยเฉพาะเขา
สมิตานันนึกหงุดหงิดใจไปได้ไม่เท่าไหร่ เสียงปืนดังอีกครั้งก็ทะลุโสตประสาทเหมือนมันดังขึ้นอยู่ไม่ไกล ร่างเพรียวเผลอกระเถิบตัวเข้าไปชิดร่างใหญ่ของนิมมานพอให้รู้ว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียว อ้อมแขนแข็งแรงตอบรับด้วยการกระชับวงแขนแน่นขึ้น
แต่เรื่องที่เธอคาดไม่ถึงอยู่อย่างคงเป็นเสียงห้าวที่กำลังตะโกนลั่น อาการปวดหัวแล่นจี๊ดเพิ่มระดับจนนิ้วเล็กต้องจิกไปบนเนื้อเอวข้างตัวหนาของนิมมาน
“ลุงวัฒน์มาทำอะไรที่นี่”
“เพื่อจัดการหลานที่ไม่ได้เรื่องยังไงล่ะ” ศุภวัฒน์ชี้ปืนมายังสามีภรรยาที่กอดกันกลม ดวงตาอาฆาตชัดเจน “แกรู้ไหมว่าฉันซ่อนสถานที่นี้ไว้เพื่อทำอย่างอื่น มันยังทำอะไรได้อีกเยอะ จนกระทั่งแกที่มาฮุบมันไป ก่อนปล่อยที่ทำเลทองให้เป็นสถานโบราณไร้ราคา แกมันโง่”
สมิตานันเม้มริมฝีปากไว้ข่มกลั้นเสียงไม่ให้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เธอเจ็บจนเหมือนหัวใกล้จะแตกเป็นเสี่ยงๆ ภาพบางอย่างผุดขึ้นมาเหมือนว่าเธอกำลังเล่นเครื่องเล่นความเร็วสูง ผ่านภาพมากมายไปจนจับใจความ หรือเกินกว่าจะรับรู้ได้ว่าสิ่งที่เห็นคือภาพอะไร
“แกเป็นอะไรไปสักคน อะไรที่ฉันต้องการก็จะไม่มีใครมาขวางอีก...ฆ่าแกเสร็จ ฉันจะเอาแกทิ้งไว้ในป่า ปล่อยให้เน่าไป”
โรคจิต...สมิตานันปรือตาขึ้นมอง หน้าซีดเซียว อาการคลื่นเหียนจู่โจม เสียงหวานกะท่อนกะแท่น แต่ยอมพูดสิ่งที่คิดออกไป “พี่ปอม...หนีไป”
“ไปก็ต้องไปด้วยกัน”
“ตี้คงไปไม่ไหว”
นิมมานลดสายตาลงมองหน้าสวยแต่ขาวเป็นกระดาษด้วยความเป็นห่วง เหงื่อผุดเต็มขมับสองข้าง แต่อะไรก็คงไม่น่ากลัวเท่าของเหลวสีแดงที่ไหลช้าๆ จากรูจมูกข้างหนึ่ง
“ตี้!”
สมิตานันฝืนยืนไว้ ยิ้มให้ในเวลาไม่ควร “ก็ต้องหนีไปด้วยกัน ต้องหนีนะคะ มีชีวิต ต้องมีชีวิต”
“ตี้”
อาการปวดหัวเล่นงานอีกครั้ง คราวนี้ร่างบางทรุดฮวบลงกับพื้น มือกุมศีรษะ สายตามองศุภวัฒน์ด้วยความเข้าใจเป็นครั้งแรก...ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้มาจารกการเปลี่ยนแปลงของเธอเอง
“พี่ปอมอย่าทำให้ความพยายามของตี้สูญเปล่าสิคะ”
“หมายความว่ายังไง”
สติน้อยนิดถูกตรึงกับร่างไว้ด้วยความยากเย็น สมิตานันขยับริมฝีปากตามภาพในหัวที่แล่นช้าลงจนหยุด หัวใจของเธอเหมือนดอกไม้ที่ได้รับน้ำและแสงอาทิตย์ที่ชโลม
จำได้แล้ว...เธอจำความรักของนิมมาน ผู้ชายที่เธอรักได้แล้ว
...............................................................
ขอมาตอบคอมเมนท์ตอนเย็นนะคะ ขอตัวนอนก่อน ^^ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมากค่า
แต่เธอก็แค่ลอดรั้วเข้ามานั่งปุตรงนี้ ในช่วงเวลาที่กรมศิลปากรรอรัฐบาลอนุมัติงบให้มาทำการขุดค้นเพิ่มเติม การมานั่ง เดิน ยืน ไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกเห็นภาพประหลาดแปลกตาแต่อย่างใด สายตาของเธอตรงหน้าที่มองเท่าไหร่ก็รู้สึกไม่ต่างจากการนั่งมองโบราณสถานแห่งหนึ่ง รู้สึกผูกพันไหม เวลานี้เธอไม่มั่นใจจริงๆ
สามวันที่เธอเฝ้าตามหาบางสิ่งบางอย่างที่เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร เหมือนวิ่งตามเงาของกาลเวลา ที่ผ่านเลยไปแล้วอย่างโง่งม...เธอทำถูกจริงแล้วเหรอ ดวงตากลมโตเหม่อมองความเงียบสงบรอบด้าน มีเพียงสายลมเย็นพัดผ่าน
เวลาก็เปรียบดังสายลม พัดผ่านเลยไป สัมผัสไม่ได้ แต่ความเย็นของวายุนี้ก็คงเหมือนความทรงจำ มันฝังไว้ไม่ไหลไปตามกาล แต่เธอทำสิ่งนั้นหายไปถึงหนึ่งปี...และบางอย่างได้เพิ่มเข้ามาในชีวิตจนเธอตั้งตัวไม่ทัน
จะวิ่งตามหาอดีตไปทำไม ในเมื่อสุดท้ายถึงรู้เธอก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้...และต่อให้มีโอกาสเปลี่ยนแปลงอดีตได้อย่างที่พุทธาว่าเธอทำสำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่ง
ตอนนี้เธอกลัวเกินกว่าจะกลับไปทำแบบนั้นอีกครั้ง...กลัวจะต้องรับความจริงใหม่ๆ ในโลกใบเดิม แต่ไม่คุ้นเคยของเธอ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคนสำคัญคนนั้นก็คือ...เขา
เธอไม่ควรทำร้ายใครด้วยการถามหาสิ่งที่ผ่านมาแล้ว...แรกเริ่มการมาถึงที่นี่เธอพบน้าของนิมมานกำลังเดินตรวจตรางานทางนี้อยู่ แต่พอรู้จุดประสงค์การมาของเธอ วารียอมถอนคนออกไปจากพื้นที่ และอ้างว่ารองบมาทำเพิ่ม แต่จริงๆ วารีทำเพื่อเธอต่างหาก
สายตาเป็นประกายระยับตอนเธอบอกว่ามาเพราะรู้เรื่องบางอย่าง โดนตะล่อมถามจากวารีจนฝ่ายนั้นรู้ความจริงของเธอที่ว่าระยะเวลาหนึ่งของเธอนั้นหายไป
เธอรู้สึกเหมือนได้พบญาติผู้ใหญ่ที่เข้าใจ ไม่มองเธอเป็นตัวประหลาด หรือบ้า
หญิงสาวลุกขึ้นยืนอย่างตัดสินใจ มองซากปรักหักพัง และฐานเมืองเก่าด้วยหัวใจสงบนิ่งคล้ายจะจากลา เวลาอดีต ถ้ามันผ่านมาแล้ว เธอก็ควรปล่อยไป การรื้อฟื้นในเรื่องราวแบบนั้น มีแต่เหนื่อย และทำเขาเหนื่อยใจมากขึ้นเรื่อยๆ นิมมานไม่ได้ทำอะไรผิด และถ้าการเปลี่ยนแปลงของเธอทำไปเพื่อเขา การที่เขามีตัวตนอยู่กับเธอในตอนนี้ควรเป็นสิ่งวิเศษสุด
จะลองเชื่อโชคชะตา และชีวิตของเธอเอง
ลาก่อนอดีต...ที่จำไม่ได้
ปัง!
เสียงดังลั่นของอาวุธปืนทำให้คนได้ยินสะดุ้งโหยง ดวงตาหวาดหวั่น มองพื้นที่อันเงียบสงบตรงหน้าเริ่มตื่นตระหนก เสียงมันฟังดูไม่ไกลจากบริเวณที่เธออยู่นัก รอบด้านเป็นป่า มีเพียงทางเดิน และถนนสายเล็กที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อเดินทางมาที่นี่ของนักโบราณคดี
ใครกันมาที่นี่...สมิตานันเดินไปได้อีกไม่กี่ก้าว ก็โดนดึงร่างไปชิดอกใครสักคน เสียงเข้มดังขึ้นข้างหูหยุดเสียงร้องที่เกือบกรีดร้องออกมาให้หยุดลงในลำคอ
“พี่เองตี้”
นิมมานดึงร่างเพรียวออกสุดแขน สำรวจว่าเธอยังปกติดีถึงโล่งอก แต่สายตาก็ยังไม่วางใจ เอียงคอมองหาต้นเหตุเสียงว่าไม่ได้อยู่บริเวณใกล้กันนี้
“เกิดอะไรขึ้นคะ”
“พี่ก็ไม่รู้ แต่อย่าอยู่ที่นี่กันเลย” ชายหนุ่มกระชับมือเล็กไว้มั่น ใช้แขนข้างหนึ่งโอบร่างที่เขาทั้งหวงทั้งห่วงไว้แนบกาย อาการไม่ต่อต้าน ซ้ำยังปล่อยตัวเองซบอกเขาแบบนี้เรียกรอยยิ้มจากเขาได้ อารมณ์ขุ่นมัวในใจเหมือนโดนแสงอาทิตย์อันอบอุ่นส่องลงมากระทบ
สมิตานันพยักหน้าเห็นด้วย หัวใจของเธอเริ่มรู้สึกอุ่นวาบในเวลาที่เธอพร้อมที่จะเลือกเขาอย่างเต็มใจ...การใส่ใจ และตามหาเธออย่างเป็นห่วง ผู้ชายที่ชื่อว่าสามี ไม่ว่าเหตุผล หรือเรื่องเริ่มมาจากตรงไหน...เธอเชื่อว่าการตัดสินใจแต่งงานกับเขาต้องมาจากคำตอบรับในหัวใจของเธอเอง
“ขอโทษนะคะพี่ปอม”
“ตี้ไม่ได้ทำอะไรผิด” ตอบออกมาอย่างคนใจดี แต่น้ำเสียงแข็งๆ ห้วนๆ ไม่ต่างจากายขี้งอนอย่างไรอย่างนั้น
“ถ้าอย่างนั้นตี้ทำแบบเดิมได้ใช่ไหมคะ ยังไงก็ไม่ผิด”
นิมมานทำเสียงหึในลำคอ สายตาวาวโรจน์จ้องคนลอยหน้าลอยตาบอกจะทำพฤติกรรมเดิมใส่ เจ้าหล่อนคงไม่รู้ว่าเกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาห่วง และกังวลกับอาการแปลกๆ ของภรรยามากแค่ไหน
“เรื่องที่ตี้พูดพอๆ กับถ้าพี่บอกไปมีบ้านเล็กก็ไม่ผิดเลย”
ภรรยาคนสวยนึกหมั่นไส้ จู่ๆ ก็รู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของนิมมาน ถึงรู้ว่าเขาพูดออกมาด้วยอาการประชดประชันก็ตาม ไม่ว่ายังไงเรื่องแบบนี้เธอไม่ชอบให้พูดเล่น โดยเฉพาะเขา
สมิตานันนึกหงุดหงิดใจไปได้ไม่เท่าไหร่ เสียงปืนดังอีกครั้งก็ทะลุโสตประสาทเหมือนมันดังขึ้นอยู่ไม่ไกล ร่างเพรียวเผลอกระเถิบตัวเข้าไปชิดร่างใหญ่ของนิมมานพอให้รู้ว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียว อ้อมแขนแข็งแรงตอบรับด้วยการกระชับวงแขนแน่นขึ้น
แต่เรื่องที่เธอคาดไม่ถึงอยู่อย่างคงเป็นเสียงห้าวที่กำลังตะโกนลั่น อาการปวดหัวแล่นจี๊ดเพิ่มระดับจนนิ้วเล็กต้องจิกไปบนเนื้อเอวข้างตัวหนาของนิมมาน
“ลุงวัฒน์มาทำอะไรที่นี่”
“เพื่อจัดการหลานที่ไม่ได้เรื่องยังไงล่ะ” ศุภวัฒน์ชี้ปืนมายังสามีภรรยาที่กอดกันกลม ดวงตาอาฆาตชัดเจน “แกรู้ไหมว่าฉันซ่อนสถานที่นี้ไว้เพื่อทำอย่างอื่น มันยังทำอะไรได้อีกเยอะ จนกระทั่งแกที่มาฮุบมันไป ก่อนปล่อยที่ทำเลทองให้เป็นสถานโบราณไร้ราคา แกมันโง่”
สมิตานันเม้มริมฝีปากไว้ข่มกลั้นเสียงไม่ให้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เธอเจ็บจนเหมือนหัวใกล้จะแตกเป็นเสี่ยงๆ ภาพบางอย่างผุดขึ้นมาเหมือนว่าเธอกำลังเล่นเครื่องเล่นความเร็วสูง ผ่านภาพมากมายไปจนจับใจความ หรือเกินกว่าจะรับรู้ได้ว่าสิ่งที่เห็นคือภาพอะไร
“แกเป็นอะไรไปสักคน อะไรที่ฉันต้องการก็จะไม่มีใครมาขวางอีก...ฆ่าแกเสร็จ ฉันจะเอาแกทิ้งไว้ในป่า ปล่อยให้เน่าไป”
โรคจิต...สมิตานันปรือตาขึ้นมอง หน้าซีดเซียว อาการคลื่นเหียนจู่โจม เสียงหวานกะท่อนกะแท่น แต่ยอมพูดสิ่งที่คิดออกไป “พี่ปอม...หนีไป”
“ไปก็ต้องไปด้วยกัน”
“ตี้คงไปไม่ไหว”
นิมมานลดสายตาลงมองหน้าสวยแต่ขาวเป็นกระดาษด้วยความเป็นห่วง เหงื่อผุดเต็มขมับสองข้าง แต่อะไรก็คงไม่น่ากลัวเท่าของเหลวสีแดงที่ไหลช้าๆ จากรูจมูกข้างหนึ่ง
“ตี้!”
สมิตานันฝืนยืนไว้ ยิ้มให้ในเวลาไม่ควร “ก็ต้องหนีไปด้วยกัน ต้องหนีนะคะ มีชีวิต ต้องมีชีวิต”
“ตี้”
อาการปวดหัวเล่นงานอีกครั้ง คราวนี้ร่างบางทรุดฮวบลงกับพื้น มือกุมศีรษะ สายตามองศุภวัฒน์ด้วยความเข้าใจเป็นครั้งแรก...ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้มาจารกการเปลี่ยนแปลงของเธอเอง
“พี่ปอมอย่าทำให้ความพยายามของตี้สูญเปล่าสิคะ”
“หมายความว่ายังไง”
สติน้อยนิดถูกตรึงกับร่างไว้ด้วยความยากเย็น สมิตานันขยับริมฝีปากตามภาพในหัวที่แล่นช้าลงจนหยุด หัวใจของเธอเหมือนดอกไม้ที่ได้รับน้ำและแสงอาทิตย์ที่ชโลม
จำได้แล้ว...เธอจำความรักของนิมมาน ผู้ชายที่เธอรักได้แล้ว
...............................................................
ขอมาตอบคอมเมนท์ตอนเย็นนะคะ ขอตัวนอนก่อน ^^ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมากค่า

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 พ.ย. 2556, 02:58:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 พ.ย. 2556, 02:58:48 น.
จำนวนการเข้าชม : 1450
<< บทที่ 19 : ความจริงจากอดีต | บทที่ 21 : การเฝ้ารอ >> |

konhin 28 พ.ย. 2556, 04:39:37 น.
โอ้ มีตัวละครใหม่ ตามมาจากอดีตหรือเปล่าเอ่ย
โอ้ มีตัวละครใหม่ ตามมาจากอดีตหรือเปล่าเอ่ย


นักอ่านเหนียวหนึบ 29 พ.ย. 2556, 01:26:07 น.
ลุงวัฒน์คือคนที่ตีหัวตี้ ตอนย้อนอดีตกลับไปแน่เลย
แต่ทำไมตี้ถึงมีเอฟเฟค จากการย้อนอดีตละ
แล้วตี้พยายามอัลไล
เอ๊ะ ไรเตอร์มาอัพนิยายช้าไปป่าวว เค้ารู้สึกเหมือนจะลืมๆ เนื้อเรื่องเดิมไปละนะ
(เนียนนนนนนนนน) 5555
มาไวๆ น้าาา รอ
ลุงวัฒน์คือคนที่ตีหัวตี้ ตอนย้อนอดีตกลับไปแน่เลย
แต่ทำไมตี้ถึงมีเอฟเฟค จากการย้อนอดีตละ
แล้วตี้พยายามอัลไล
เอ๊ะ ไรเตอร์มาอัพนิยายช้าไปป่าวว เค้ารู้สึกเหมือนจะลืมๆ เนื้อเรื่องเดิมไปละนะ
(เนียนนนนนนนนน) 5555
มาไวๆ น้าาา รอ