รักดังฝัน
เขา นิมมาน อดีตชาติเป็นถึงพระยานิมมาน ผู้ที่มีใจปฏิพัทธ์ต่อลูกสาวของศัตรู จนตัวตาย เขาก็พร้อมยกวิญญา แก่ยาใจที่รักสมิตาเพียงผู้เดียว แต่ผ่านมาพันปี นิมมานก็พบว่าความรักของเขาหมดลง ไอ้รักนิรันดร์ไม่มีจริงหรอก “ชาตินี้เจ้าจะแต่งงานกับใครก็ช่าง แต่ก่อนเจ้าจะพบกับไอ้มนุษย์เนื้อคู่ของเจ้า ข้าจะทำให้เจ้ารักข้าให้ได้ก่อน”

เธอ สมิตานัน ผู้หญิงสวย ดำรงตำแหน่งพิธีกรรายการดัง หลอนดีนัก...เดี๋ยวจัดให้ แต่จริงแล้ว คนที่ทำเก่งหน้าจอ แท้จริงกลับกลัวผีขึ้นสมอง ทั้งที่ไม่เคยเจอ แต่พอปุบปับกระหน่ำได้เจอจริง สมิตานันก็อยากให้ทุกอย่างเป็นแค่ฝัน...เอ หรือที่จริงเธอไม่ได้ฝัน


Tags: หลอนโรแมนติก แฟนตาซี นิมมาน สมิตา

ตอน: บทที่ 21 : การเฝ้ารอ

ปัง! กระสุนหนึ่งนัดยุติบทสนทนา ไม่มีการเอ่ยเตือนล่วงหน้า สมิตานันพยายามฉุดแขนของนิมมานให้หลบมาพร้อมกัน แต่กลายเป็นว่าเธอถูกเขาผลักให้ห่างจากร่างเขาจนกระเด็นไปอีกด้าน โชคดีที่ยังพยุงกายไว้ได้ หญิงสาวมือเย็นเฉียบ เผลอยกมือเช็ดกับกางเกงของตัวเองไปมา ดวงตาไม่กล้าเคลื่อนย้ายจากเหตุการณ์ตรงหน้า เธอเห็นว่าตรงแขนของนิมมานมีดวงเลือดแดงเกิดขึ้น แต่ใบหน้าเรียบเฉย ดวงตาคมปลาบดูอันตรายเพิ่มมาเท่าตัว

“พอเถอะครับ เลิกตอนนี้ผมจะไม่เอาเรื่องลุง”

เสียงของเขามั่นคง แต่สำหรับคนที่นั่งฟังอยู่ตรงนี้น้ำตานองหน้า สมิตานันหยัดกายขึ้นยืนทั้งที่ขาสั่น แต่เธอทอดทิ้งนิมมานไปไมได้ เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันมาจากการกระทำของเธอ เป็นผลกรรมจากอดีตที่เธอต้องได้รับ ครั้งหนึ่งเธอคงไปสร้างความแค้นไว้ เรื่องครั้งนั้นเหมือนเกิดขึ้นไม่นานมานี้ทั้งที่ผ่านไปนับพันปี เธอไปแก้ไขให้นิมมานกับสมิตาสมหวัง แต่ได้ทำให้แผนการของสุกรี เธอพอจะจำได้แล้ว

ปลายกระบอกปืนหันชี้ไปมา ความระแวงของศุภวัฒน์เด่นชัด “ฉันน่าจะฆ่าแกไปตั้งแต่ที่นิมมานมันไม่อยู่กรุงเทพ แต่ฉันไม่ทำ ฉันอยากให้มัน” ปลายกระบอกปืนหันตรงจ่อหน้าผากของนิมมานดวงตาอาฆาต “แค้นให้มาก กับการเห็นเมียรักตาย แล้วมันค่อยตายตาม”

“ฆ่าฉันคนเดียวเถอะค่ะ เพราะฉันเรื่องทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้” สมิตานันรวบรวมแรงใจก่อนก้าวไปข้างหน้า จับมืออันสั่นเทาของศุภวัฒน์ไว้แน่น ยกมันขึ้นจ่อศีรษะของตัวเอง ทั้งที่หัวใจกำลังเต้นช้าลง รู้สึกเครียดจนอยากอาเจียนออกมาตลอดเวลา

“ตี้”

“พี่ปอมไม่ต้องยุ่ง...มันเป็นเรื่องของตี้กับเขา” สมิตานันกัดฟันพูด ท่าทีสงบเยือกเย็นแบบที่เธอไม่รู้ว่ามาได้อย่างไหร่กำลังเกาะกุมจิตใจ คล้ายมีเกราะป้องกัน บางทีหากเธอต้องตายไป เธออาจไม่รู้สึกเสียดายชีวิตอีก พันปีของนิมมานเทียบไม่ได้กับความรักของเธอเลย

“ไม่!”

“หยุด...แล้วก็เลิกพูดซะ ฉันมีวิธีตายดีๆ มานำเสนอเมียแกแล้ว ในเมื่ออยากโง่ตายเร็วๆ ฉันจะสนองให้”

เลือดในกายของสมิตานันยิ่งเย็นเฉียบ มือกำเข้าหากันไว้ข้างหลัง เวลานี้แค่ควบคุมร่างของตัวเองไม่ให้สั่นเธอยังทำแทบไม่ได้ “ฉันรู้ว่าถ้าฉันตาย คุณจะไม่ปล่อยพี่ปอมไป”

“เมียหลานรักฉันไม่โง่หรอกเรอะ”

คำชมนั่น...เธอไม่ดีใจสักนิด กระบอกปืนกดเข้ามากลางหว่างคิ้วมากขึ้น เขามีโอกาสเหนี่ยวไกได้ตลอดเวลา ยิ่งตอนนี้เขากำลังง้างนกรอเอามัจจุราชมาพรากลมหายใจของเธอเต็มที่ หากเธอตายไป จะมีใครหาว่าเธอบ้าฆ่าตัวตายด้วยการเดินหาลูกตะกั่วด้วยขาสองข้างนี้เองหรือเปล่า...แต่เธอก็โง่ โง่ที่เต็มใจออกมาเอง

“พี่ปอมหนีไป”

“แกต้องดูเมียแกตาย จะไม่มีใครไปไหนทั้งนั้น หุบปากเธอซะ” ศุภวัฒน์ดวงตาสีดำของเขาเก็บกักความแค้นจนคล้ายว่าเธอเห็นประกายไฟในตาคู่นี้ ทำไมเวลานับพันปีถึงได้ไม่จบไม่สิ้นด้วยบ่วงเวรกรรม

“ฉันอโหสิกรรมให้”

“อย่ามาทำตัวนางเอกแถวนี้...เดินไป” สมิตานันทำใจยอมรับเคราะห์กรรมของตนเอง เธอไม่รู้หรอกว่าหากเธอไมไปแก้ไขเรื่องของนิมมานกับสมิตา ปัจจุบันเรื่องราวจะเป็นไปทางไหน แต่หากให้เธอคิดเลือกได้ เธอก็จะแก้ไขอยู่ดี อย่างน้อยๆ เธอก็ไม่ต้องทำให้ใครรอเธอถึงพันปี ไม่ได้ทรยศ และทำให้บ้านเมืองล่มสลาย อย่างน้อยๆ สงครามก็จบลง บ้านเมืองอยู่ต่อมาได้อีกนับร้อยปี แต่ไม่ได้สูญสลายไป

แค่นั้นเธอก็รู้สึกว่าเธอได้ช่วยเหลือชีวิตคนมากมาย แม้ว่าสุดท้ายจะต้องกลับมาตายเพราะคนที่ขาดผลประโยชน์จากอดีตก็ตามที

ทุกย่างก้าวของสมิตานันเดินเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปยังลำธารที่ไหลเชี่ยวอยู่ไม่ไกลจากซากปรักหักพังนัก เธอรู้ว่าที่นิมมานไม่กล้าทำอะไรก็เพราะปืนที่จ่อศีรษะเธออยู่ แต่ไม่ว่าจะปืน หรือน้ำที่มีโขดหินเป็นชั้นๆ ยามต้องไหลไปตามน้ำ สุดท้ายคนที่ว่ายน้ำไม่ชำนาญอย่างเธอก็อาจไม่รอด ภาพภูตดูแลทะเลผู้หญิงตนนั้นยามฉุดกระชากเธอลงไปในความมืดมิดและเย็นจัด มีความหมายมาดคือการช่วงชิงลมหายใจของเธอกลับมาในความทรงจำแจ่มชัด

คงเพราะว่าเคยเกือบตายมาแล้วครั้งหนึ่ง...เธอจังปราศจากการเผชิญหน้ากับสิ่งนั้นอีกครั้ง

“อย่าทำแบบนั้น ยังไงลุงก็ไม่ปล่อยใครรอด”

“ถ้าพี่ปอมมีจังหวะ ตี้ฝากซัดหน้าลุงเขาสักทีนะคะ เอาให้แรง ให้ตื่นจากความโลภ ความโง่ และบ้าอำนาจเสียที” ความเยือกเย็นตอกกลับไป ก่อนที่จะหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับปืนตรงขมับนั้น มีรอยยิ้มมุมปากฉายชัด ดวงตาท้าทาย และไม่กลัวสิ่งอื่นใดอีกต่อไป

“ทำไม”

หญิงสาวหัวเราะในลำคอ ทุกความทรงจำที่เธอทำสูญหายไป กลับมาแล้ว และไม่ใช่เพียงแค่ความทรงจำที่กลับมา สิ่งพิเศษที่ทำให้เธอพบกับนิมมานก็กำลับมาด้วย... พวกเขามาช่วยเธอ

“ลองถามพวกเขาสิคะลุง” พูดเสียงเบา ยกมือขึ้นสูง ใช้นิ้วโป้งชี้ออกไปทางด้านหลังบริเวณที่ควรจะเป็นพื้นดินว่างเปล่า แสงส่องสะท้อนจนมองเห็นร่างโปร่งแสงสว่างของสิ่งที่เคยมีชีวิตยืนทำหน้าเหี้ยม โกรธแค้นมองตรงมา ดวงตาทุกคู่แดงก่ำ ศุภวัฒน์ตาเหลือก สองมือผลักร่างเพรียวของคนชักนำให้เขาพบเจอสิ่งอันตรายตกลงน้ำสุดแรงเกิด

ปืนถูกยิงไปในอากาศธาตุแบบจงใจ ศุภวัฒน์สาดกระสุน แต่พวกกระสุนเหล่านั้นวิ่งผ่านร่างโปร่งนั้นไปโดยไม่มีอะไรสูญหาย ซ้ำร้ายวิญญาณยังลอยข้ามฟากพูดเสียงกดต่ำ ยะเยือก รุมล้อมจนศุภวัฒน์ต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนออกไป

“เจ้าบังอาจทำร้ายเจ้านาง ริอาจเอาแผ่นดินเกิดของข้าไปทำประโยชน์ขนาดฆ่าลูกฆ่าหลาน อย่าได้หวังว่าข้าจะปล่อยเจ้าไป มนุษย์โลภ”

เสียงเบาหวิวไม่ต่างจากสายลมพัดผ่านหูของนิมมานไป ในเวลานี้เขาไม่สนใจสิ่งใดอื่นอีกนอกจากร่างที่พอตกลงไปในน้ำก็ถูกพัดหายไปจากสายตา ขนาดเขากระโดดลงมาช่วยแทบจะทันทีแล้ว สายน้ำกลับพัดพาสมิตานันหายไปจากการมองของเขาโดยเร็ว

หัวใจของนิมมานเต้นแรงและหนักจนเจ็บแปลบที่ซี่โครง การดำน้ำเป็นเวลานาน ทำให้เพิ่มอาการปวดศีรษะ หูอื้อ สองมือควานหาร่างที่ยิ่งว่าย ร่างของเขาก็เริ่มซวนเซไปตามแรงน้ำ แขนข้างหนึ่งยังรู้สึกถึงความเจ็บได้ชัดยิ่งขึ้นเมื่อความเย็ดพัดผ่าน กรีดบริเวณแผลตอกย้ำว่าเขายังมีชีวิต

ร่างสูงตัดสินใจขึ้นมาหายใจด้านบนอีกครั้ง ถือโอกาสมองหาว่ามีร่างของภรรยาเขาอยู่ด้านบนหรือไม่ มีเพียงความว่างเปล่า ดวงใจของเขาเหมือนถูกแช่แข็ง ความกลัวตามติดเป็นเงา ตัดสินใจกอบโกยอากาศออกซิเจนเข้าปอด เข้าปากด้วยเวลาเสี้ยววินาที มุดกลับไปใต้น้ำอีกครั้งหนึ่ง

ตี้ ตี้อย่าเป็นอะไรนะ...พี่จะอยู่ยังไง บุญกุศลอะไรที่พี่เคยทำ พี่ขอแลกกับชีวิตของตี้

เสียงในใจของนิมมานร้องเพรียกหา สายตาพยายามปรับในความมืดของสายน้ำที่ลงลึก ภาพร่างสีขาวจมดิ่งลงไปนอนอยู่ข้างก้อนหินทั้งที่เขาลงมาก่อนหน้าแล้วเที่ยวหนึ่งแต่ไม่พบปรากฏขึ้น ดวงตาหลับพริ้มผมเปียกลู่ ที่สำคัญคือผิวซีด และเย็นจัดเมื่อเขาไปถึงแล้วรีบว่ายพาฝ่าสายน้ำแรงขึ้นมา แขนมีกล้ามรัดเอวเล็กไว้แนบกาย เขาต้องการได้ยินเสียงหัวใจของเธอเต้นเพื่อความมั่นใจ...แต่ไม่มีเลย

พอสูดอากาศหายใจได้ มือบนฝั่งก็เอื้อมมาคว้าขึ้นไป นิมมานมองตามพอรู้ว่าเป็นวารีน้าอริที่แม้ไม่ถูกกันแต่ในยามนี้เขาก็ไม่เห็นใครพอจะวางใจได้ อย่างน้อยๆ วารีคือคนที่อยู่ดูแลสมิตานันในช่วงเวลาที่ภรรยาของเขามาตามหาความจริงที่นี่

นิมมานส่งร่างเย็นเฉียบของสมิตานันให้วารีช่วงดึงขึ้นไปนอนบนพื้นดินอย่างปลอดภัย ก่อนที่ตัวเขาจะโหนตัวเองตามขึ้นมา สีหน้าร้อนรน ไม่คิดอะไรอื่นนอกจากต้องแน่ใจก่อน ว่าหัวใจของสมิตานันยังคงเต้นอยู่

วารียกมือข้างซ้ายของคนจมน้ำมาจับก่อนสีหน้าจะแย่ลง “ยังเต้นอยู่”

นิมมานสบถออกมา สองมือเริ่มทำการปั๊มหัวใจภรรยา เม้มปากแน่น ทั้งที่กระบอกตาร้อนผ่าว หากยกหัวใจให้สมิตานันได้เขาก็จะทำ

“ตี้ได้ยินเสียงพี่ไหม...ฟื้นสิ”

“เดี๋ยวปอม รีบพาตี้ไปโรงพยาบาลเถอะ แล้วปฐมพยาบาลในรถเอา ตี้ไม่ฟื้นขึ้นมาง่ายๆ แน่”

“ทำไม...ทำไมตี้จะไม่ฟื้น” น้ำตาลูกผู้ชายหยดลงมาเกินกว่าจะอดกลั้น แต่พอเห็นท่าทางเอาจริงของผู้เป็นน้า แม้ว่าจะโกรธกันมาอย่างไร แต่ดวงตาที่เชื่อถือได้ตรงหน้าบอกให้เขาจงเชื่อหล่อนเสีย

“รีบไปเถอะ...อย่าถามอะไรมาก”

ชายหนุ่มตัดใจ รีบช้อนร่างเย็นเฉียบวิ่งออกไป วารีรั้งรอ หันหลังกลับมามองด้วยดวงตาครุ่นคิด...หวังว่าที่เธอเห็นเมื่อครู่จะเป็นภาพลวงตา ผู้หญิงที่ยืนอยู่อีกฝั่ง ดวงหน้าขาวซีด ดวงตาเหม่อลอย ใบหน้าที่เห็นเป็นของสมิตานันนั้น จะเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา

แต่ขนาดนึกปลอบใจ ทำไมถึงไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย

“ผ่านมันมาให้ได้ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเองนะ ตี้”


“วันนี้พอแค่นี้นะครับ” การประชุมประจำเดือนจบลง คนสั่งการทำหน้านิ่งได้ไม่นาน ดวงตาเหนื่อยล้าก็จู่โจม ไม่รู้ป่านนี้พวกลูกน้องในบริษัทจะมองเจ้านายอย่างเขาที่ใช้เวลาประชุมผ่านคอมพิวเตอร์มาสองสัปดาห์นี้อย่างไร...แต่ใครจะคิดอย่างไรก็ช่าง

เพราะเขาไม่อยากคลาดสายตาจากสมิตานันไปเลยแม้แต่วินาทีเดียว...คอมพิวเตอร์พกพาถูกปิดโปรแกรม และเก็บเข้าที่ ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแถบดำลุกขึ้นยืน หอบสัมภาระกลับเข้ามาด้านในห้อง หลังจากนั่งอยู่ในส่วนระเบียงของห้องพักนานกว่าสองชั่วโมง เขาไม่อยากแบ่งงาน หรือภาระให้กับพ่อมากไป ทั้งที่ท่านเริ่มวางมือไปมากแล้ว เข้าต้องรับผิดชอบงานได้ดีดังเดิม ถึงจะรู้สึกห่อเหี่ยว ไร้เรี่ยวแรง หรือหมดกำลังใจขนาดไหนก็ตาม

สองสัปดาห์...สองสัปดาห์ที่เขาไม่เห็นดวงตามีประกายของสมิตานันลืมตื่น นับจากวันนั้นที่จมน้ำ ภรรยาของเขาก็อยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัว ถึงจะหายใจได้ปกติ แต่ไม่ยอมตื่นขึ้นมา

ร่างกายที่จมน้ำฟื้นตัวคืนจนเป็นปกติ ทุกอย่าง...ยกเว้น การลืมตา

นิมมานนั่งลงข้างเตียงคนป่วย จับมืออุ่นที่ไม่ได้เย็นเฉียบน่ากลัวอย่างวันนั้นมาแนบแก้มสากของตนไว้อย่างแสนรัก หัวใจของเขาเจ็บปวดทุกครั้งที่ต้องทนมองเห็นร่างของภรรยานอนแน่นิ่งไม่ได้สติ มีเพียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ที่ทำให้เธอคล้ายเพียงคนนอนหลับ

แต่หลับลึกเกินไปหรือเปล่า... “พี่รอตี้อยู่นะ รออยู่เสมอ” เอื้อมตัวไปสัมผัสบนขมับทิ้งรอยอุ่นไว้ ให้ซึมซาบไปถึงใจสมิตานัน “เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้นะ”

ความเงียบจากอีกฝ่ายเป็นความเหงาลึกในใจของนิมมานโดยไม่รู้ตัว เหงา และทรมาน เขายินดีให้สมิตานันลืมเขาไปตลอดชีวิต ดีกว่าการไม่มีตัวตนให้เขาได้กอด ได้ทำทุกอย่างเพื่อเธอ แผลกายของเขาตอนถูกยิงหายไปแล้ว ที่ตัวของสมิตานันก็หายเรียบร้อยดี แต่แผลที่ใจเขายังฝังลงไปเรื่อยๆ ความหวังของเขาไม่เคยลด แต่มันกลับเพิ่มต่อไปไม่ไหว

ขอเพียงแค่ทุกวันที่เขาตื่นนอน ยังพบว่าเธอหายใจ มันเป็นของขวัญที่วิเศษมากเกินกว่าที่เขาจะกล้าขออะไรเพิ่มเติม...เขารู้ว่าเขาโลภ แต่เขาไม่กล้าขออะไรเพิ่ม กลัวคนโลภจะไม่ได้แม้แต่ลมหายใจของสมิตานันไว้กล่อมหลับข้างกาย

ยิ้มให้เหมือนว่าเธอลืมตาขึ้นมามอง เก็บลูกผมให้เข้าข้างหูกลัวเธอจะรู้สึกรำคาญ...ที่ทำอยู่ เขาไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเลย

นิมมานผละไปห้องน้ำ หยิบกะละมังใส่น้ำ และผ้าสะอาดของทางโรงพยาบาล กิจวัตรประจำวันที่เขาเริ่มจะชิน สามวันจึงจะอุ้มร่างของสมิตานันมาสระผม วันพรุ่งนี้เขาเองก็จะพาเธอออกจากโรงพยาบาลกลับบ้าน...บ้านที่เป็นทั้งของเขาและเธอ

ผ้าสีขาวบิดน้ำพอหมาดซับใบหน้าขาวสีซีดขาดเลือดฝาดไปอย่างเบามือ ตั้งแต่หน้าผากไล่ลงมาตามโหนกแก้ม ปลายคาง ก่อนเช็ดตามคอ ตามแขน แก้เชือกผูกเสื้อคนไข้โรงพยาบาล จัดการเช็ดผิวเนื้อที่อุ่นลงน้ำหนักเบา สายตาคนเช็ดคอยเลื่อนมาสบใบหน้าหลับพริ้มด้วยรอยยิ้มอ่อน

คนหลับคงไม่รู้ว่าเขาต้องรวบรวมแรงกายแรงใจแค่ไหนไม่ให้อ่อนแอต่อหน้าเธอ ถ้าหากไม่หวัง เขาก็คงอยู่อย่างไร้จิตวิญญาณ “พี่อยากจะถามตี้...ว่าตี้อยากกินอะไร เที่ยวที่ไหน จะทำอะไรแย่แล้วนะตี้ หรือโกรธที่พี่เลื่อนฮันนีมูน สัญญาเลยถ้าพี่ฟื้นตี้จะรีบพาคุณไปฮันนีมูนสักครึ่งโลก”

“ฮ่าๆๆ” คนพูดติดตลกปลอบใจตัวเองหันคอมองหาเสียงหัวเราะหวานหูจากทางด้านหลัง แต่ว่างเปล่า...บางที เขาอาจหูฝาด หรือคิดมากจนหูเพี้ยนเพราะอยากได้ยินเสียงสมิตานันจนเกินไป

“พี่รักตี้นะ” เช็ดตัว และเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดโรงพยาบาลชุดใหม่ มีกลิ่นหอมสะอาด อย่างที่เขาขอให้แม่บ้านของโรงพยาบาลซักแยกด้วยผงซักฟอก ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นโปรดที่สมิตานันชอบใช้ เขาอยากให้เธอมีความสุข

แม้ในยามหลับ หรือกำลังฝันอยู่ที่ไหนก็ตาม...ทิ้งรอยนุ่มของริมฝีปากไว้ที่ส่วนเดียวกันของคนหลับตาพริ้มชั่วครู่ ก่อนจะนั่งลงหยิบหนังสือมานั่งอ่านให้ฟังอย่างที่ชอบทำ

...........................................................
ใกล้จบจริงๆ แล้วสำหรับเรื่องนี้ค่า

คุณ konhin เดี๋ยวตอนหน้าจะมาเฉลยให้หมดเปลือกนะคะ โผล่มาแวบๆ แล้วจากไป ตัวร้ายตัวนั้นเป็นตัวหนึ่งในอดีตค่ะ

คุณ mhengjhy มาเฉลยบ้างนิดหน่อย รู้สึกว่าคงอัดตูมเดียวเฉลย ฮา

คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ ตี้อยากจำอดีตได้ไงคะ ฮา แต่ตอนนี้คงไม่สำคัญแล้ว ใช่เลยช่วงนี้แอบมาช้าลง ลืมเนื้อเรื่องเลยเหรอ ใกล้จบแล้วค่ะ อีกนิดเดียว พาพี่ปอมมาให้กรี๊ดเล่นแล้ว

ขอบคุณทุกคนที่ยังเข้ามาอ่านกันค่า ช่วงนี้อัพช้าไปหน่อย (ตามสถิติของตัวเอง) แต่ยังไงก็สู้ให้จบแน่นอน ช้ายังไงทวงได้ค่า ฮา ช่วงนี้กำลังชอบหนังสือแนวดิสโทเปีย (เผยความลับไปหน่อย ฮา)




ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 พ.ย. 2556, 00:34:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 พ.ย. 2556, 00:34:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 1392





<< บทที่ 20 : ปล่อยอดีต   บทที่ 22 : บทลงโทษของเวลา >>
นักอ่านเหนียวหนึบ 30 พ.ย. 2556, 01:24:03 น.
ไรเตอร์ทำเค้านำตาซึม
เอาอีกแล้วนะ แกล้งพี่ปอมอีกแล้ว
ไรเตอร์นิสัยไม่ดี เอ๊ะ หรือตี้นิสัยไม่ดีนะ
หนีไปเที่ยวเล่นคนเดียวเรื่อยเลย
รีบกลับมาได้แล้วนะตี้ คนที่คอย เค้าเหนื่อยมากกว่าเธออีกนะ รู้มั้ย
อินง่ะ สงสารพี่ปอม ><


konhin 30 พ.ย. 2556, 06:46:50 น.
โหยยยย มองในมุมพี่ปอม พี่แกน่าสงสาร


mhengjhy 30 พ.ย. 2556, 08:41:12 น.
สงสารพี่ปอมมมม


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account