มรกตสนธยา {{{ชุดอัญมณีเหนือกาล}}} สนพ.อรุณ
รัตติกาล ทิวา สนธยา สามเวลาที่อยู่คู่โลกมาแต่บรรพกาล
ตำนานบทใหม่แห่งอัญมณีเหนือกาลเจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!

...ผมอาจไม่ใช่เจ้าชายในฝัน
แต่คืนวันร่วมกันของเรายังไม่เพียงพอจะตัดสินอีกหรือ
ว่าผมมีค่าพอจะเป็นคนในชีวิตจริงของคุณ...

Tags: โมรารัตติกาล ม่านทิวาพชร มนตรามุกจันทรา มายาไฟในดวงตา ม่านธาราเร้นดาว คณิตา อัทธ์ อัญมณีเหนือกาล มนตราอัญมณี วาริท มุกดา

ตอน: บทที่ ๓/๒ สวัสดีปีใหม่ 2100

แม้คณิตาจะไม่ชอบแนวความคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ฉันชู้สาวของอัทธ์นัก แต่อย่างหนึ่งที่เธอต้องยอมรับคือความมีน้ำใจของอีกฝ่ายต่อผู้หญิงแปลกหน้าอย่างเธอ

“ออกไปท่องราตรีกันไหมคุณ”

หลังจากตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็เป็นฝ่ายชักชวนเธอเที่ยว

“อะไรนะคะ”

“คืนนี้เป็นคืนสิ้นปี ไม่มีใครอุดอู้อยู่ในห้องหรอก ความจริงผมจองโต๊ะที่ร้านอาหารริมทะเลไว้ด้วยตอนสามทุ่ม คุณไปเดตกับผมนะ”

คณิตาขมวดคิ้ว ไม่ชอบใจกับคำชวนของอัทธ์ “ไหนเราตกลงแล้วไงว่าเป็นเพื่อนกัน”

“เดตแบบเพื่อนก็ได้ นะครับ คุณเองก็ไม่ชอบแคปซูลอาหารไม่ใช่เหรอ ออกไปกินมื้อค่ำนอกบ้านดีกว่า” คำพูดหลอกล่อและน้ำเสียงอ้อนหน่อยๆ พาหัวใจคนฟังชักเอนเอียง

เธอเองก็อยากเห็นโลกอนาคตเช่นกัน

“ก็ได้ค่ะ แต่ว่าจะไม่เป็นไรใช่ไหมถ้าจะไปทั้งชุดนี้” หญิงสาวถามพลางก้มลงมองตนเอง

ชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสแล็กส์สีดำเข้ารูปดูเรียบร้อยเหมาะสมสำหรับการทำงาน แต่คงแปลกตาสำหรับผู้คนในยุคนี้

“ถ้าคุณไม่มั่นใจ เดี๋ยวผมซื้อเสื้อให้คุณใหม่แล้วกัน” อัทธ์เอ่ยอย่างใจป้ำ

“อย่าเลยค่ะ ฉันเกรงใจ” คณิตารีบปฏิเสธ ตัดสินใจจะออกไปท่องราตรีกับเขาทั้งชุดนี้นี่แหละ

ดังนั้นหลังฟังคำยืนยันหนักแน่น อัทธ์จึงพาเธอออกจากห้อง ชายหนุ่มเลือกใช้บริการรถไฟฟ้าแทนการถอยรถออกจากคอนโดมิเนียมในค่ำคืนที่คาดว่าการจราจรจะคับคั่ง ระหว่างการเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามายังร้านอาหารริมทะเล อัทธ์เล่าเรื่องราวหลายอย่างเกี่ยวกับโลกยุคใหม่ให้คนล้าหลังอย่างคณิตาฟัง

โลกในทุกวันนี้ก้าวหน้าไปไกลจนหญิงสาวรู้สึกเหมือนตนเองหลุดเข้ามาในดินแดนมหัศจรรย์จริงๆ รถไฟฟ้าและใต้ดินมากมายถูกสร้างขึ้นหลายสายเพื่อรองรับต่อการขยายตัวของประชากร และถึงแม้วันนี้จังหวัดอื่นๆในประเทศไทยจะมีการพัฒนาระบบคมนาคมก้าวไกลถึงขนาดมีรถไฟฟ้าใช้ในตัวจังหวัด แต่กรุงเทพมหานครก็ยังคงเป็นเมืองเอกนคร ไม่เปลี่ยนจากในยุคเธอ

อัทธ์พาหญิงสาวขึ้นรถ ลงรถ และต่อรถไฟฟ้าอยู่สามสาย ประมาณสี่สิบห้านาทีให้หลัง ทั้งสองเดินทางมาถึงสถานีปลายทาง

“ถ้าคุณทิ้งฉันตอนนี้ รับรองฉันกลับคอนโดฯไม่ถูกแน่ๆ” คณิตาสารภาพอย่างไม่นึกอาย เธอรู้สึกเวียนหัวไม่น้อยกับการขึ้นๆลงๆรถไฟฟ้าทั้งใต้ดินและบนดิน ดูมึนเสียจนนึกไม่ออกว่าผู้คนในยุคนี้จดจำเส้นทางได้อย่างไร

“ผมไม่ทิ้งคุณหรอกน่า” เขาหัวเราะเบาๆกับคำบ่นของเธอ แบฝ่ามือตนเองลงตรงหน้าหญิงสาว “จูงมือไหม”

“ฉันไม่ใช่เด็กนะคะ” เธอค้อนอีกฝ่ายไปทีหนึ่ง จึงได้ยินเสียงหัวเราะดังกว่าเดิม

อัทธ์ลดมือตัวเองลง ก่อนผายไปเบื้องหน้า “ถ้างั้นก็เชิญครับ คุณผู้หญิง”

หญิงสาวอยากจะค้อนใส่ท่าทีล้อเลียนของอีกฝ่ายนัก แต่ทันทีที่ประตูสถานีรถไฟฟ้าเปิดออก ภาพผืนน้ำซึ่งควรมีเพียงเส้นน้ำ ขอบฟ้า และทิวไม้ ถูกสิ่งก่อสร้างรูปทรงแปลกตาผุดขึ้นเรียงรายราวดอกเห็ด พวกมันเป็นอาคารขนาดไม่ใหญ่นักทรงครึ่งวงกลม มีลักษณะคล้ายลูกแก้วสีใส สูงประมาณตึกสามชั้น ตั้งโดดเด่นอยู่เหนือผืนน้ำ โดยมีท่อยาวใสขนาดประมาณอุโมงค์คนเดินเชื่อมอาคารแต่ละหลังเข้าด้วยกัน

“ไปเถอะคุณ ใกล้จะสามทุ่มแล้ว” อัทธ์เร่งคนยังยืนอึ้ง มองความเปลี่ยนแปลงของเมืองอย่างตะลึง

“ที่นี่คือกรุงเทพฯจริงๆใช่ไหม” อีกครั้งที่เธอถามคล้ายไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น

“ใช่สิคุณ”

“แล้วนั่นอะไรคะ” คณิตาชี้ไปยังบรรดาอาคารทรงครึ่งวงกลมทั้งหลาย

“ชุมชนบนน้ำไง”

“ในนั้นมีบ้านคนอยู่ด้วยเหรอคะ” หญิงสาวยังประหลาดใจ

“ครับ มีทุกอย่างทั้งบ้าน โรงเรียน วัด แล้วก็สถานีอนามัย มีชุมชนติดทะเลหลายแห่งเปลี่ยนมาก่อสร้างคอมมูนิตี้แบบนี้เพิ่มมากขึ้น”

คณิตาพยักหน้ารับรู้ ไม่นานอัทธ์ก็ชวนเธอก้าวลงเรือยนต์ลำเล็กแล่นออกจากท่า หญิงสาวกวาดตามองสิ่งก่อสร้างตรงหน้าอย่างตื่นตา พักใหญ่เรือยนต์จึงแล่นพาเธอมาจอดส่งยังท่าน้ำแห่งหนึ่งในบรรดาท่าน้ำหลายสิบแห่ง

อัทธ์ฉุดแขนเธอขึ้นจากเรือ ก่อนจะพาขึ้นอาคาร ภายในนั้นถูกปรับอุณหภูมิไว้ค่อนข้างเย็น มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีหน้าร้านค้าเรียงรายสองข้างทาง ชายหนุ่มพาเธอมาหยุดลงยังหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งมีบริกรปรากฏตัวอยู่ในรูปลักษณ์ภาพโฮโลแกรมหรือโปรแกรมสามมิติคล้ายเอวา ยืนต้อนรับอยู่ทางด้านหน้าร้าน ไม่นานทั้งคู่ก็เดินออกมานอกอาคารอีกครั้ง บริเวณนั้นถูกจัดเป็นโต๊ะขนาดสองคนนั่ง ตัวโต๊ะและเก้าอี้ทำจากแผ่นอะคริลิกใส สะท้อนแสงไฟจากภายใน เปล่งแสงสีฟ้าอ่อนๆ เลยออกไปจากบริเวณร้านอาหารคือท้องน้ำซึ่งยามนี้ไม่ได้มืดมิด เมื่อมันมีสภาพไม่ต่างจากจอสีดำขนาดยักษ์ กำลังฉายภาพโฮโลแกรมเป็นเวทีการแสดงหนึ่งซึ่งเนืองแน่นไปด้วยผู้ชม ขัดกับเสียงดนตรีคลาสสิกที่บรรเลงอยู่ภายในร้าน

คณิตาเก็บทุกภาพความประทับใจไว้ภายใต้สีหน้าตื่นเต้นและอาการกวาดตามองรอบกายตลอดเวลา จนกระทั่งเธอหันมาสบดวงตาคมของคนนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“จะทานอะไรดี”

“อย่าถามฉันเลย คุณสั่งเถอะ” เธอยิ้มแหยๆ มองแผ่นเมนูซึ่งมีลักษณะคล้ายอะคริลิกใส ปรากฏตัวอักษรวิ่งไปมาในมือชายหนุ่ม

“คุณทานได้ทุกอย่างใช่ไหม”

“ฉันไม่ทานเนื้อค่ะ”

อัทธ์พยักหน้ารับรู้ เลือกเมนูอาหารทะเลให้ทั้งเขาและเธอ คณิตามองท่าทีคล่องแคล่วของผู้ชายตรงหน้า และการทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ คอยบริการเธอตลอดระยะเวลาทานอาหารร่วมกันแล้วก็อดถามถึงสิ่งคาใจไม่ได้

“คุณอัทธ์ทำงานอะไรคะ” เธอถามระหว่างสองหนุ่มสาวกำลังนั่งรออาหาร

“ผมเป็นโปรแกรมเมอร์ครับ คุณล่ะ”

“ฉันทำธุรกิจส่วนตัวกับเพื่อนค่ะ เรามีร้านค้าออนไลน์สำหรับให้เช่าอุปกรณ์ตกแต่งงานแต่งงาน” หญิงสาวเล่าเรื่องราวชีวิตการทำงานของตนเองให้ชายหนุ่มฟัง



ระหว่างบริกรนำอาหารมาเสิร์ฟให้สองหนุ่มสาว ทั้งคู่พูดคุยกันหลายอย่างเกี่ยวกับเรื่องราวความแตกต่างของยุคสมัย จนกระทั่งบทสนทนาถูกขัดด้วยการปรากฏกายของหญิงสาวคนหนึ่ง

“อัทธ์” เสียงเรียกชื่อชายหนุ่มสั้นๆ ดังมาจากริมฝีปากเคลือบลิปติกสีม่วงอมชมพู เธอเป็นหญิงสาวอายุประมาณสามสิบกลางๆ หน้าตาสะสวย มีดวงหน้ารูปเพชรอยู่ในชุดเดรสสีม่วงเข้มรัดรูปทรงทันสมัย เข้ากับผมสีน้ำตาลแดงซอยยาวปรกต้นคอ

“พี่อันนา” ชายหนุ่มเอ่ยชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงค่อนข้างแปลกใจ “ผมไม่คิดว่าพี่จะขึ้นมากรุงเทพฯตอนสิ้นปี”

“มีเรื่องต้องสะสางนิดหน่อยน่ะ พอดีมากินข้าวกับเพื่อนแล้วเห็นนายนั่งอยู่เลยเดินมาทัก” หญิงสาวนามอันนากล่าวพลางปรายตามองคณิตา

และนั่นทำให้คณิตารู้สึกระวังตัวขึ้น เธอชักไม่ไว้ใจผู้หญิงที่วนเวียนอยู่ใกล้อัทธ์เท่าไร

“นี่คณิตา เพื่อนผมครับ” อัทธ์ตอบหญิงสาวผู้มาใหม่ทันที พลางแนะนำเธอให้รู้จักบ้าง “ตา นี่พี่อันนา พี่สาวผม”

หลังคำแนะนำ คณิตารีบยกมือไหว้อีกฝ่าย และหันมาสังเกตดูอย่างจริงจัง เธอพบว่าสองพี่น้องคู่นี้แทบไม่มีส่วนคล้ายคลึงกันเลย เมื่อดูอย่างไรอันนาก็ไม่มีเค้าความเป็นลูกครึ่งเหมือนอัทธ์

“ถ้างั้นพี่ไม่กวนนายแล้ว สุขสันต์วันปีใหม่นะ” แววตาจริงจัง ไร้แววขี้เล่นกวาดมองเธอแล้วหันไปสบตาน้องชาย

“ขอบคุณครับ พี่เองก็เช่นกัน หนูอัยย์สบายดีไหมครับ” อัทธ์เอ่ยถามถึงหลานสาวตัวน้อยวัยหนึ่งขวบ

“จ้ะ สบายดี แต่พี่ไม่ได้พาขึ้นมากรุงเทพฯด้วยหรอก แกอยู่กับพี่เลี้ยง”

อัทธ์เลิกคิ้วมองพี่สาวอย่างประหลาดใจ แต่เขาก็ไม่มีเวลาได้ซักถามมากนัก เพราะอันนาเป็นฝ่ายขอตัว เดินออกจากร้านไปเสียก่อน

“คนนี้พี่สาวแท้ๆของคุณเหรอ”

“พี่คนละแม่ครับ แม่ของพี่อันนาเสียตั้งแต่พี่เขาเพิ่งเกิด พ่อผมเลยมาแต่งงานใหม่กับแม่แล้วจึงมีผม”

“ถ้างั้นแม่ของคุณก็ไม่ใช่คนไทยสินะคะ”

“ครับ แม่ผมเป็นคนเยอรมัน แต่คุณอย่าถามนะว่าผมพูดเยอรมันได้ไหม เพราะตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยไปเยอรมันเลยสักครั้ง”

“อ้าว แล้วแม่คุณไม่กลับไปเยี่ยมบ้านทางฝั่งนู้นบ้างเหรอคะ”

“ถึงแม่ผมเป็นคนเยอรมันแต่ก็เกิดและเติบโตที่นี่ครับ อีกอย่าง...” คนกำลังยกแก้วไวน์ขึ้นจิบชะงักค้างไปนิดหน่อย ดวงตาสีน้ำตาลสวยซึ่งฉายแววขี้เล่นแปรเปลี่ยนเป็นหมองคล้ำ “พ่อกับแม่ผมเสียไปแล้ว ครอบครัวผมตอนนี้เหลือพี่อันคนเดียว แต่เธอก็ทำงานอยู่ต่างจังหวัด นานๆถึงจะขึ้นมากรุงเทพฯสักครั้ง” อัทธ์ตอบพร้อมเล่าถึงครอบครัวตนเองให้หญิงสาวฟัง

สำหรับอัทธ์ อันนาถือเป็นพี่สาวและครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ เนื่องจากบิดามารดาของพวกเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อห้าปีก่อน ทำให้สองพี่น้องคู่นี้ไม่หลงเหลือญาติหรือครอบครัวคนไหนอีก แต่กระนั้นทั้งอัทธ์และอันนาก็ต่างดำเนินชีวิตแบบทางใครทางมันตามค่านิยมของคนสมัยใหม่ที่ชอบใช้ชีวิตอย่างสันโดษ อัทธ์จำไม่ได้ว่าตนเองกับอันนาเริ่มห่างกันเมื่อไร บางทีมันน่าจะตั้งแต่พวกเขาเข้าเรียนมหาวิทยาลัย สองพี่น้องต่างวุ่นวายอยู่กับการเรียนและเพื่อนฝูงจนแทบไม่ได้ยุ่งเกี่ยวในชีวิตของกันและกัน ปีหนึ่งพบหน้ากันเพียงครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น

“ฉันขอโทษที่ถามถึงเรื่องสะเทือนใจ”

“ไม่เป็นไร มันผ่านมานานแล้ว คุณดีกว่า เล่าเรื่องครอบครัวให้ผมฟังบ้างสิ”

“ไม่มีอะไรน่าสนใจนักหรอก ป๊ากับแม่ฉันแยกทางกันเพราะแม่จับได้ว่าป๊าเอาน้องสาวของแม่มาเป็นเมีย ฉันเลยมีน้องชายต่างแม่อยู่คนหนึ่ง นอกจากนั้นฉันก็มีน้องสาวแท้ๆอีกคน ส่วนแม่ฉันแต่งงานใหม่กับผู้ชายแสนดีคนหนึ่งที่ฉันเรียกท่านว่าพ่อ” คณิตาเล่าเรื่องราวตัวเองอย่างย่อๆให้ชายหนุ่มฟัง

ท่าทีแข็งกระด้างยามเอ่ยถึงเรื่องบาดใจในอดีต ทำให้อัทธ์ไม่คิดซักไซ้เกี่ยวกับครอบครัวของหญิงสาวอีก ชายหนุ่มชวนคณิตาคุยเรื่องราวทั่วไปที่ไม่เกี่ยวกับเขาและเธอ ก่อนหญิงสาวจะตั้งข้อสังเกตหนึ่งขึ้น

“ที่นี่มีแต่คนสวยๆทั้งนั้นเลย” เธอบอกหลังจากแอบลอบมองโต๊ะข้างๆหลายโต๊ะ

ทั้งเกวลี อันนา และผู้หญิงอีกมากมายหลายคนที่เธอเห็นผ่านตาในค่ำคืนนี้ล้วนแต่หน้าตาดีเกินมาตรฐานสาวไทยทั้งนั้น

“สวยเหรอ ผมว่ามันออกจะเกลื่อนไปเสียมากกว่า คุณไม่เห็นเหรอว่าผู้หญิงสมัยนี้หน้าตาคล้ายๆกันเกือบหมด”

คำใบ้ของอัทธ์ทำให้หญิงสาวเข้าใจได้ไม่ยากนัก

“ศัลยกรรมเหรอคะ”

“ใช่ เดี๋ยวนี้ร้อยละเก้าสิบของผู้หญิงไทยล้วนเคยผ่านการศัลยกรรมมาแล้วไม่ต่ำกว่าหนึ่งครั้ง อย่างน้อยก็ต้องกรีดตาหรือไม่ก็เสริมจมูก” ท่าทีเล่าอย่างสบายๆของอัทธ์เปลี่ยนมาเป็นการจ้องหน้าเธอตรงๆ “แล้วคุณล่ะ คงไม่เคยศัลยกรรมมาใช่ไหม”

“ฉันกลัวมีดค่ะ ไม่กล้าทำหรอก”

“ดูหน้า ผมก็รู้แล้ว”

คนกำลังจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเกือบจะสำลักน้ำ ดวงตาชั้นเดียวรียาวดั่งนัยน์ตาแมวมองอีกฝ่ายเขม็ง

“คุณกำลังจะด่าว่าฉันไม่สวยงั้นสิ” หางเสียงของคณิตาสูงขึ้นหนึ่งคีย์

“เปล่า ผมแค่จะบอกว่าคุณสวย...แปลก” อัทธ์บอกพร้อมหัวเราะออกมาทันทีเมื่อเห็นสายตาดุๆตวัดมองพร้อมส่งค้อนให้เขา

“คุณนี่นอกจากจะเป็นผู้ชายหลายใจแล้วยังปากเสียอีกต่างหาก” เธอกระแทกเสียงใส่

“ช่วยไม่ได้นี่ คุณเป็นแค่เพื่อน ไม่ได้อยากเป็นกิ๊กผมเอง ผมเลยไม่ต้องหยอดคำหวานใส่” เขาตอบด้วยน้ำเสียงและท่วงท่าสบายๆ แก้วไวน์ในมือชายหนุ่มพร่องไปมากแล้ว คณิตาจึงเห็นดวงหน้าคมสันมีสีแดงระเรื่อ

หญิงสาวถอนหายใจ โบราณเขาบอกว่าอย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมาใช่ไหม แล้วนั่นดื่มไปกี่แก้วแล้วหว่า เธอลืมนับเสียด้วย คณิตาเกือบจะเอ่ยปากเตือนอยู่แล้ว แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ควรก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขามากเกินไป เลยเลือกจะเงียบเสียดีกว่า

“ใกล้เที่ยงคืนแล้วคุณอยากเห็นพลุไหม” ระหว่างบทสนทนาที่ถูกตัดขาด จู่ๆอัทธ์ก็พูดขึ้นหลังจากจ้องหน้าเธอนานหลายอึดใจ

“ค่ะ เขาจะจุดพลุกันใช่ไหม”

“งั้นสิครับ คืนนี้คืนสิ้นปีนี่นา” เขาพยักพเยิดไปยังท้องน้ำเบื้องนอกซึ่งมีภาพโฮโลแกรมปรากฏอยู่ ฉายการแสดงบนเวทีจากมุมใดมุมหนึ่งของเมือง ไม่นานเสียงเพลงภายในร้านก็ถูกหรี่ลงพร้อมแทนที่ด้วยเสียงจากเวทีการแสดงแทน

เสียงพิธีกรคู่บนเวทีกล่าวนำเล็กน้อย ก่อนทั้งหมดก็เริ่มพร้อมใจกันนับถอยหลังสู่ศักราชใหม่

“สิบ...เก้า...แปด...”

ร่างสูงของอัทธ์ลุกจากเก้าอี้ พลอยให้คนฝั่งตรงข้ามจำต้องลุกตาม ชายหนุ่มคว้ามือบางข้างหนึ่งมากุมไว้ขณะเขายังถือแก้วไวน์ในมืออีกข้าง คณิตายังไม่ทันอ้าปากประท้วง แขนของเธอก็ถูกอีกฝ่ายหนึ่งกระตุกให้รีบเดินตามเขาไปยังริมรั้ว บริเวณนั้นมีผู้คนออกันอยู่หนาตา แต่ก็พอเหลือเนื้อที่ให้แทรกไปเกาะรั้วได้

“สาม...สอง...หนึ่ง...แฮปปี้นิวเยียร์”

ร่างของหญิงสาวถูกดันชิดรั้วระเบียงโดยมีอัทธ์ยืนซ้อนด้านหลังอย่างแนบชิด ความเบียดเสียดของผู้คนบริเวณนั้นทำให้คณิตาไม่ทันได้ใส่ใจ เพราะทันทีที่เสียงประกาศเข้าสู่ปีศักราชใหม่ดังขึ้น แสงสว่างมากมายก็สว่างวาบบนความมืดของท้องนภาและผืนน้ำ พลุจำนวนมากหลากทั้งสีสันและรูปร่างถูกจุดขึ้นกลางรัตติกาล เปลี่ยนสีท้องฟ้าทะมึนกลายเป็นสีส้มอมชมพู

“สวัสดีปีใหม่ครับ” น้ำเสียงของอัทธ์ฟังดูใกล้แสนใกล้ พร้อมกับอุ่นไอเขยิบแนบเธอมากกว่าเดิม

“ค่ะ สวัสดี...”

คณิตายังไม่ทันตอบอีกฝ่ายจบประโยคด้วยซ้ำ ดวงหน้ารูปไข่ก็ถูกมือหนาอุ่นจัดแนบลงบนพวงแก้ม หางตามองเห็นแสงสว่างสีเขียวเรืองรองอ่อนๆส่องมาจากฝ่ามือด้านขวาของอัทธ์ เธอไม่มีเวลาคิดมากนักเมื่อจู่ๆก็ถูกบังคับให้ผินหน้ามองคนด้านหลัง วินาทีต่อมาความนุ่มและอุ่นจัดก็ประทับลงบนริมฝีปากบาง กลิ่นแอลกอฮอล์กรุ่นลอยอวลมาคู่กับความอบอุ่นของผิวสัมผัสและแรงบดคลึงเคล้าพาหัวใจสั่นระรัวไหว

และกว่าจะทันรู้ตัว ฝ่ามือบางก็ฟาดลงเต็มข้างแก้มคนถือวิสาสะ

เผียะ!


------------------------------------------------------------------------------
หุหุ ในที่สุดก็โดนไปสองข้างจนได้ สมกับความมือไวปากไวของพ่อคนนี้ไหมคะ >__________<



ริญจน์ธร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 พ.ย. 2556, 10:38:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 พ.ย. 2556, 10:38:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 1672





<< บทที่ ๓/๑ สวัสดีปีใหม่ 2100   
ริญจน์ธร 28 พ.ย. 2556, 10:53:31 น.
ตอบคอมเม้นค่ะ
คุณ ketza มาไวมาก นั่งเฝ้าหน้าจอรึเปล่าคะเนี่ย ว่าแต่อ่านคุณริทไปรึยังเอ่ย รับรองว่าเรื่องนั้นพระเอกต่างกับนายอัทธ์ขาวกับดำเชียวละ

คุณ ดวงมาลย์ ตอนนี้โดนไปอีกฉาด ครบสองข้างพอดี

คุณ Zephyr โหะๆ รับรองว่าตาไม่เป็นฝ่ายมาหาคนเดียวแน่ เดี๋ยวต้องตาอัทธ์ก็ต้องเป็นฝ่ายไปบ้าง แต่ตาคนนี้ตรงข้ามกับคุณริทจริงๆ เพราะงั้นเลยได้เป็นพระเอกของหนูตา 5555

คุณ บุลินทร แน่นอน ตัวจริงของอัทธ์ก็ต้องยายตาอยู่แล้ว แต่ก่อนจะถึงตอนนั้นอาจต้องลุ้นกันหน่อย

คุณ lovemuay อืม นั่นสินะ ควรจบดีไหมน้อ แต่ขอบอกว่าเรื่องของเกวลียังมีต่อแน่ๆค่ะ แต่จะต่อด้วยอะไร ต้องติดตามชม

คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ 5555555 เข้าไปทำอะไรคร้าาาาาา ห้องน้ำน่ะ คำถามนี้คนเขียนแอบคิดไปไกลแล้วน้าาาาา

คุณ อสิตา วันนี้ก็มาคนแรก พี่มิ้งค์ต้องยังไม่ตื่นแน่เลย

คุณ goldensun 5555 ใช่เลย เรื่องนี้คงต้องบอกว่าโดนเด็กกินแล้วละค่ะ

คุณ nako แรงผู้หญิงอาจจะแค่มดกัดสำหรับนายอัทธ์ค่ะ เพราะว่าลายยังออกได้เรื่อยๆน้า

คุณ konhin 55555 งั้นฉากนี้ยิ่งเหล้าเข้าปาก ยิ่งไวใหญ่เลย น่าโดนอีกสักหลายทีเนอะ

คุณ ใบบัวน่ารัก ตอนนู้นโดนฟรี แต่ตอนนี้คงไม่ฟรีแล้วละค่ะ ได้มัดจำไปหนึ่งจุ๊บแล้วน้า


ketza 28 พ.ย. 2556, 10:58:44 น.
ม๊วบ อารุนซาหวัดฮัป ^_^


ริญจน์ธร 28 พ.ย. 2556, 10:59:34 น.
คนข้างบนนั่นไวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


ketza 28 พ.ย. 2556, 11:07:53 น.
อ๊ายๆๆๆ อิตาคุงอัทธ์ช่างร้ายกาจ >//////<
ขโมยจุ๊บตั้งแต่ต้นเรื่องเลย เป้นเพื่อนแล้วทำแบบนี้หรอ.... งั้นรับเกดซ่าเข้ากลุ่มด้วยคนนะ 555 >////<
◇◇◇◇เมื่อวานมัวแต่ไปเดินลั่นล้า @the mall ยังมิได้ชิมคุงริทเลย ม๊วบบบ ^_^


ดวงมาลย์ 28 พ.ย. 2556, 11:09:06 น.
กรี๊ดดดดดด อีตาอัทธ์ นายมันฉวยโอกาสจริงๆ แต่เค้าก็ชอบนะ อะคริ อะคริ


ริญจน์ธร 28 พ.ย. 2556, 11:15:42 น.
ตาอัทธ์เมาค่า อย่าไปถือสาตานี่เลยเนอะ


lovemuay 28 พ.ย. 2556, 11:45:04 น.
พระเอกของเรานี่ เสือปืนไวจริงๆค่ะ อิอิ


อสิตา 28 พ.ย. 2556, 13:12:43 น.
ตาอัทธ์ มือไว ปากไว ได้ใจมาก อยากอยู่ในบรรยากาศปีใหม่มั่งจัง


บุลินทร 28 พ.ย. 2556, 13:20:55 น.
พระเอกเพลย์บอยขนาดนี้ ยายตาจะเอาอยู่มั้ยเนี่ย อสิอยากไปฉลองปีใหม่ที่นิวยอร์คหรือ


Zephyr 28 พ.ย. 2556, 13:21:35 น.
อารมณ์ บรรยากาศ พาไป รึเมาพาไปนะ
สงสัยรวมกันแหงๆ ตาตบซะดังแบบนั้น เป็นจุดเด่นเลย
พี่สาวต้องมีอะไรในกอแหงๆเลย รู้สึกตงิดๆ
ตานี่มีเรื่องในอดีตกะเค้าด้วย
อ่านๆไปชักอยากรู้ว่าทำไมพลอยถึงพาสองคนนี้มาเจอะกันนะ


konhin 28 พ.ย. 2556, 20:09:30 น.
อีกตบ


ใบบัวน่ารัก 28 พ.ย. 2556, 21:20:25 น.
จัดไปอีก5นิ้วนะคะ
มีการเปลี่ยนฉาก แปลกๆๆที่น่าสนใจ
ไงก็หาเสื้อผ้าเปลี่ยนบ้างนะคะ


nako 28 พ.ย. 2556, 22:26:35 น.
เจ็บอีกแล้วนายอัทธ์ แก้มช้ำหมด หุหุหุ


นักอ่านเหนียวหนึบ 29 พ.ย. 2556, 00:03:49 น.
หูยยย วันนี้เค้าอุตสาห์เป็นเด็กดี ไม่นอกลู่นอกทาว่าจะตั้งใจชมบรรยากาศพลุไฟ ในอีก 10 ปีข้างหน้าซะหน่อย
ไรเตอร์อะแหละ พาเค้าเป๋ แทบจะกระชากหน้าจอมาอ่านใกล้ๆ เลยทีเดียว แบบ อุ๊ต่ะ !!!!! ตกใจ ประหนึ่ง โดน บดเคล้าาาาา ซะเองเบยยย คิๆๆๆๆ


goldensun 29 พ.ย. 2556, 12:18:40 น.
บ้านเมืองยุคข้างหน้านี่ ช่างโดดเดี่ยวท่ามกลางเทคโนโลยี่โดยแท้ ที่ไม่เปลี่ยนน่าจะเป็นความเจ้าชู้นะคะ จูบแลกตบของแท้ จะโทษว่ากรึ่มหรือฉวยโอกาสกัน


patok 3 ธ.ค. 2556, 21:20:45 น.
แหม ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account