รักดังฝัน
เขา นิมมาน อดีตชาติเป็นถึงพระยานิมมาน ผู้ที่มีใจปฏิพัทธ์ต่อลูกสาวของศัตรู จนตัวตาย เขาก็พร้อมยกวิญญา แก่ยาใจที่รักสมิตาเพียงผู้เดียว แต่ผ่านมาพันปี นิมมานก็พบว่าความรักของเขาหมดลง ไอ้รักนิรันดร์ไม่มีจริงหรอก “ชาตินี้เจ้าจะแต่งงานกับใครก็ช่าง แต่ก่อนเจ้าจะพบกับไอ้มนุษย์เนื้อคู่ของเจ้า ข้าจะทำให้เจ้ารักข้าให้ได้ก่อน”
เธอ สมิตานัน ผู้หญิงสวย ดำรงตำแหน่งพิธีกรรายการดัง หลอนดีนัก...เดี๋ยวจัดให้ แต่จริงแล้ว คนที่ทำเก่งหน้าจอ แท้จริงกลับกลัวผีขึ้นสมอง ทั้งที่ไม่เคยเจอ แต่พอปุบปับกระหน่ำได้เจอจริง สมิตานันก็อยากให้ทุกอย่างเป็นแค่ฝัน...เอ หรือที่จริงเธอไม่ได้ฝัน
เธอ สมิตานัน ผู้หญิงสวย ดำรงตำแหน่งพิธีกรรายการดัง หลอนดีนัก...เดี๋ยวจัดให้ แต่จริงแล้ว คนที่ทำเก่งหน้าจอ แท้จริงกลับกลัวผีขึ้นสมอง ทั้งที่ไม่เคยเจอ แต่พอปุบปับกระหน่ำได้เจอจริง สมิตานันก็อยากให้ทุกอย่างเป็นแค่ฝัน...เอ หรือที่จริงเธอไม่ได้ฝัน
Tags: หลอนโรแมนติก แฟนตาซี นิมมาน สมิตา
ตอน: บทที่ 22 : บทลงโทษของเวลา
ผู้หญิงคนนี้โชคดีจริงๆ...
สมิตานันในร่างโปร่งแสงนึกน้ำตาคลอหน่วย ไม่ใช่ไม่อยากกลับเข้าร่าง ตื่นมากอดเขาแน่นๆ แต่ไม่รู้ทำไมถึงยังกลับไม่ได้ เธอได้แต่ตามเขาไปเรื่อยๆ เห็นทุกอย่างตั้งแต่วันที่จมน้ำ จนกระทั่งวันนี้ ไม่มีวันไหนเลยที่นิมมานจะปล่อยเธอห่างกายเกินหกชั่วโมง เขาดูแลเธอดี ทั้งๆ ที่ในสมองของเธอจดจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา
แค่การได้เห็นทุกวัน เธอก็รักเขาได้ อย่างน้อยๆ ความทรงจำที่เธอได้คืนมาคือความรู้สึกรักในตัวภูตนิมมาน แต่เวลานี้จะสำคัญอะไร ในเมื่อนิมมานตรงหน้าเธอก็คือภูตนิมมานกลับมาเกิด
หากเธอจำอดีตไม่ได้ การเห็นเขาดูแลเธอทุกวันแบบนี้ หัวใจของเธอก็อ่อนยวบยอมแพ้เขาอย่างหมดท่าอยู่ดี...ทำไมถึงได้รักผู้หญิงที่ชอบสร้างเรื่องให้เขาตลอดเวลา อดีตเคยคิดจะฆ่าเขา ชาตินี้ยังต้องมาเป็นภาระให้เขาดูแลไม่จบไม่สิ้น
ทำไมถึงได้ทำตัวให้เธอต้องรักตอบเขาจนได้...สิ่งที่เธอแพ้ไม่ใช่ผู้ชายที่ชื่อนิมมาน แต่เป็นหัวใจของเขาที่มีแต่เธออยู่ในนั้น เขารัก และอดทนกับเธอเสมอ หากเธอมีโอกาสกลับไป เธอจะลดนิสัยแย่ๆ และทำตัวให้ดีมากขึ้น ให้สมกับที่เขารักเธอมากขนาดนี้
ถ้าเธอจะยังมีโอกาสได้กลับไป...
“เหนื่อยบ้างไหมคะพี่ปอม” สมิตานันยืนอยู่เบื้องหลังผู้ชายที่กำลังตั้งหน้าอ่านนิยายแนวสยองขวัญที่เธอเคยชอบให้ฟัง จริงๆ ก็คงเหลือแค่เคยชอบ นับตั้งแต่พบเจอเรื่องเหนือธรรมชาติจนชีวิตของเธอปั่นป่วน ผิดรูปผิดร่างมาแบบนี้ เธอคิดว่าตัวเองปรารถนาชีวิตแบบคนธรรมดา กับคนที่เธอรักก็พอ
ไม่ต้องมีพลังพิเศษ ไม่ต้องย้อนเวลากลับไปแก้โน่นนี่ให้วุ่นวาย ทำวันที่เราอยู่ให้ดีที่สุด เหมือนที่ใครบางตนบอกเธอไว้เมื่อสองสัปดาห์ก่อน
‘ไม่ตามเขาไปเหรอครับ’ ร่างของผู้ชายที่เธอเกือบมั่นใจว่าเป็นคนด้วยชุดลำลองเสื้อยืดกางเกงยีนส์ หากแต่อวัยวะที่โผล่พ้นยีนส์จะไร้เท้า เสียงหัวเราะในลำคอของเขาดังไล่หลังตามมาเมื่อเห็นว่าสายตาของเธอหยุดตาค้างที่ตรงไหน
‘ผมชื่อคราม เป็นเศษเสี้ยววิญญาณจากอดีต’ ใบหน้าคม และหล่อ เธอแอบคิดเล่นๆ หากเขาเป็นคน สาวๆ คงได้วิ่งตามกรีดร้อง ตั้งตนเป็นแฟนคลับ ก็ดูสิ สูงยาวเข่าดี ผิวขาว ไหนจะยังดวงตาที่ยิ้มได้ มุมปากเหยียดออกทำให้เขาดูใจดี เธอไม่ได้กลัวเขาเลย
‘ผมมีตัวตนก่อนที่นั่นเสียอีก’ นิ้วเขาชี้ไปยังซากโบราณ รอยยิ้มละมุนตายามเป็นประกายหวาน ‘ขอบคุณที่แก้ไขอดีตนะครับ’
‘คราม’ สมิตานันทวนชื่อนั้นก่อนที่ดวงตาจะเบิกโพลง ยกมือปิดปาก ‘ยมทูต’
ครามจ้องตอบกลับมา เขามองเธอนิ่งๆ ก่อนจะหันกลับไปยังซากเมืองเก่า ความเคร่งเครียดพลันหายไปเพียงแค่เขายิ้ม ‘ผมนึกว่าจะถูกลบออกไปจากความทรงจำทั้งหมดแล้วเสียอีก’
‘ก่อนหน้านี้สักชั่วโมงฉันก็คงจำไม่ได้’ ตอบเสียงแผ่ว อ่อนระโหย มองร่างโปร่งแสงของตัวเองก็ใคร่อยากจะร้องไห้เป็นเด็กน้อยหลงทาง ‘ฉันจะตายใช่ไหม’
‘ก็ไม่แน่ ยกเว้นว่าจะมีใครบางคนไม่ยอมให้ตาย’ ครามตอบแบบเป็นกลาง ไม่ยอมบอกทางรอดจริงๆ ให้เธอ
‘ทำไมไม่พูดข้า แต่งตัวทึมๆ แล้วขานั่นทำให้มันเต็มไม่ได้เหรอ’ ทำปากยื่น สองแขนยกกอดอก
ครามสั่นศีรษะ ยอมเพิ่มเท้าขึ้นมาให้สมิตานันเห็น ‘ผมเป็นแค่เศษวิญญาณ ไม่ใช่ยมทูตอีกแล้ว ผมได้เกิดตั้งแต่เมื่อพันปีก่อน ตอนนี้ก็มาลุ้นอีกว่าจะได้เกิดอีกไหม’ ดวงตาดำของครามจ้องเขม็งตรงมาราวกับมีความหมายที่เธอตีใจความไม่ได้
‘ลุงวัฒน์จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม’ ใจกระหวัดห่วงไปถึงคนที่โดนวิญญาณของผู้ปกปักษ์รักษาพื้นที่แถบนี้จนหายเข้าไปในป่า
‘ให้เขาสำนึกตัวสักสามวัน เขาเองก็คงกลัวเกินกว่าจะมานั่งแค้น อาฆาตกันอีก’
‘คงน่ากลัว’
‘เขาเลือกทางของเขาเองนะครับ เลือกให้เรื่องต้องเป็นแบบนี้’
สมิตานันมองฟ้าสว่างด้วยความว่างเปล่า เธอเองก็เลือกทางตัวเองเหมือนกัน ผลถึงออกมาเป็นแบบนี้ ‘ในอดีตทุกคนมีความสุขกันดีใช่ไหม’
‘ครับ ทุกคนมีความสุขดี พี่สาวของคุณก็สมหวังในความรัก’
‘สมหวัง กับใคร’ ฬาฬี ผู้หญิงคนนั้นที่ดูแล้วไม่ได้เกลียดอะไรสมิตาในอดีต แต่คงเกลียดแน่ถ้าเธอเป็นสาเหตุทำให้บ้านเมืองเกิดสงคราม ถ้าเธอวางยาพิษนิมมานสำเร็จ สงครามสองทางคงได้ประชิดเมือง...แต่การเปลี่ยนเรื่องราวได้นั้น มันดีแน่จริงหรือ มันถูกต้องแล้วจริงๆ ใช่ไหม
‘อีกไม่นานคุณก็จะรู้’
‘ที่ฉันแก้ไขมาทั้งหมด ทำไมยังส่งผลกระทบถึงปัจจุบัน’
‘มันกำลังจะจบแล้วครับ มันเป็นบทลงโทษของการไปเปลี่ยนในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ผมสูญเสียความเป็นยมทูต ได้ไปเกิด แต่เศษเสี้ยวของวิญญาณยังอยู่ตรงนี้’ ครามหัวเราะกับการเห็นดวงตาสงสารของอีกฝ่าย ‘ผมไม่ขอให้ไปแก้ไขอะไรอีกแล้วล่ะ หนึ่งปีที่คุณต้องสูญเสียความทรงจำ ไม่สิ หนึ่งปีที่คุณกลับมาช้าจากการไปแก้ไขอดีต มันเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ผมใช้ทำข้อตกลงเพื่อให้คุณกลับไปแก้ไขได้เอง และกับนิมมาน การอดทนรอคุณ นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาต้องเผชิญ ในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาแบบเปล่า ทุกสิ่งทุกอย่างต้องแลก’
‘เป็นอย่างนั้นสินะ’ รำพึงกับตัวเอง เริ่มทำใจยอมรับความเป็นไปได้โดยไม่ร้องหา หรืออยากรู้ใดๆ อีก ‘ขอบคุณที่ทำให้ฉันแก้ไขความผิดพลาดในอดีต คนอื่นๆคงอิจฉาที่ฉันทำแบบนั้นได้ ใครๆ ก็อยากแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำพลาดทั้งนั้น หนึ่งพันปีผ่านมา ฉันถึงได้ไปแก้ไข’
‘แต่คนเราคงไม่ได้มีโอกาสซ้ำสองเสมอไปนะครับ เราควรทำทุกวันให้ดีที่สุด จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่าเราไม่ควรทำแบบนั้น แบบนี้ เวลามันหมุนไปเรื่อยๆ ถึงนาฬิกาจะหยุดแต่โลกไม่เคยหยุดหมุน เวลาเป็นเครื่องเตือนใจให้เราทำทุกอย่าง จะดีหรือเลวก็อยู่ที่เลือกจะทำ’
‘แต่ไม่รู้ว่าฉันจะมีโอกาสกลับไปแก้ตัวอีกสักครั้งไหม ก่อนจะมาตรงนี้ ฉันทำพี่ปอมเสียใจมามาก ทำร้ายจิตใจเขาทั้งตั้งใจไม่ตั้งใจ’
ครามยิ้ม ส่ายศีรษะ ไม่มีคำตอบใดๆ ที่เธอเฝ้ารอคอยหลุดรอดจากปากของเขาอีก
เสียงหนังสือปิดลงเรียกความสนใจของดวงวิญญาณสาวให้ต้องมองอีกครั้ง ภาพผู้ชายที่เธอเห็นมีรอยยิ้มถึงดวงตาจะล้า และดูอ่อนเพลียจากการนอนหลับได้ไม่สนิท หลายครั้งที่เขานอนกุมมือเธอหลับไปข้างเตียง จะต้องตื่นขึ้นมาอย่างตกใจเพียงเพราะว่ามือของเธอเผลอขยับไปเอง
สมิตานันเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังของนิมมาน โอบกอดจากด้านหลัง จินตนาการว่าเธอสัมผัสเขาได้ หัวใจโหวงบริเวณอกเหมือนมีความอุ่นเติมเต็ม เธอไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าร่างของนิมมานตรงจนไม่เป็นธรรมชาติ
“ตี้รักพี่ปอมนะคะ” จงใจพูดชิดริมหูของเขา คาดหวังว่าเปอร์เซ็นต์สักศูนย์จุดเก้าเก้าจะทำให้เขาได้ยินบ้าง อย่างน้อยๆ เธอก็ได้ยินเขาบอกรักเธอ ได้ยินเขาพูดตลกแก้เครียดกับตัวเอง ไหนจะยังหนังสือที่เขาอ่านให้ฟัง เธอได้ยิน แต่ตอบโต้กลับไปให้เขามีกำลังใจบ้างไม่ได้
“ตี้” คำๆ นั้นกระซิบเสียงเบา แต่เธอรู้สึกว่ามันดังชัดมากขึ้นเมื่อศีรษะของนิมมานกำลังหันมา ดวงตาของเขาสบกับดวงตาของเธออย่างตกตะลึง “ตี้จริงๆ ใช่ไหม”
คนถูกถามพยักหน้าทั้งน้ำตา กระชับแขนกอดลำตัวของเขาแน่นขึ้น เธอรู้สึกว่าการกอดครั้งนี้ เธอสัมผัสเนื้อกายเขาได้จริงๆ “ขอโทษที่ดื้อกับพี่ปอมนะคะ ตอนนี้ตี้ยังทำให้พี่ปอมต้องเหนื่อยอีก”
“อย่าพูดแบบนั้น” เธอเห็นว่านิมมานพยายามยกมือมาสัมผัสกลับ แต่ทุกอย่างก็ทะลุผ่านไป ได้แต่ลดมือ รับความรู้สึกที่ตนไม่ได้จินตนาการไปคนเดียว “พี่ไม่เคยโกรธตี้”
“แต่ถ้าตี้ยังไม่กลับไป...ปล่อยตี้ไปเถอะนะคะ ตี้อยากให้พี่ปอมไม่ต้องเหนื่อยเพราะตี้อีก” ทั้งที่ตั้งใจเม้มปากแน่น คิดว่าเป็นวิญญาณเธอจะเข้มแข็ง และแกร่งขึ้น แต่พอต้องมาทนเห็นร่างขาวซีดเหมือนคนนอนหลับจากอีกจุดหนึ่ง มันทำให้เธอรู้สึกจนปัญญา และหมดกำลังใจ
ทำไมถึงยังกลับไปไม่ได้...ทำไม
“เลิกพูดซะตี้ พี่ไม่มีวันทำตามที่ตี้บอกแน่นอน”
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสอง สมิตานันไม่อยากทะเลาะกับเขาอีก จึงได้แต่กอดเงียบๆ สัมผัสเนื้อกายเขขาอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เยี่ยมหน้ามาหอมแก้มสากที่โกนหนวดออกไปไม่เกลี้ยงดีอย่างอ้อยอิ่ง...เธอไม่อยากจากเขาพอๆ กับที่เขาอยากรั้งเธอไว้
แต่เธอไม่รู้ว่าเวลา จะลงโทษระหว่างเธอกับเขาอย่างไรอีก ตอนนี้เธอทรมาน ทรมานที่ทำให้คนที่รักเจ็บปวด มันไม่ยุติธรรมกับนิมมานเลยสักนิด
“ตี้รักพี่ปอมนะคะ”
เสียงหวานเหมือนติดตรึงอยู่ในใจแม้ว่าเขาจะเริ่มรู้สึกตัวว่าทุกอย่างเป็นความฝัน อากาศเย็นของเครื่องปรับอากาศ และหนังสือที่เขาเพิ่งอ่านถูกวางลงไม่ไกลมือบนโต๊ะเล็กข้างเตียงคนป่วย และบนนั้นก็ยังมีร่างของสมิตานันหลับตาพริ้ม หายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ
นิมมานนึกถึงความฝันที่เขาเหมือนพบเจอจริงๆ บริเวณแก้มของเขายังรู้สึกถึงสัมผัสนั้น ไหนจะร่างกายที่เขารู้สึกว่าได้เติมพลัง พร้อมสู้อย่างบอกไม่ถูก
“ตี้ รีบกลับมาหาพี่ พี่อยากเจอตี้ในความจริงนะ” นิ้วยาวลูบลูกผมทัดข้างแก้ม ไล่จับแก้มนุ่ม มีเฉดสีชมพูไล่ระดับน่ามอง นิมมานมองด้วยรอยยิ้ม เขาอยากจะยิ้มให้ภรรยาที่เขารักไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น ไม่ว่ายามไหน เขาก็อยากให้มันไปถึงสมิตานัน อยากให้รู้
ว่าที่ตรงนี้...ยังมีคนๆ หนึ่งรอคอยการกลับมาของเธอเสมอ
.................................................
ตามข่าวทีวีทั้งวันจนปวดหัวค่ะ เลยแวบมาอัพนิยายให้อ่าน เผื่อใครจะมาแก้เครียดจะได้ยิ้มออกบ้าง (เหรอ)
คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ มาทำให้น้ำตาซึมอีกรอบค่ะ ซึมในมุมของตี้บ้าง เดี๋ยวจะกลับมายังไงก็รอกันต่อไปค่ะ จะให้พี่ปอมรอไปถึงไหนน้า ไรเตอร์เริ่มเห็นใจพี่ปอมนิดๆ แล้วค่ะ
คุณ konhin ลองมาดูในมุมของตี้บ้างนะคะ คนรอ กับคนมองคนที่รักรอ แต่ทำอะไรไม่ได้
คุณ mhengjhy เศร้าอีกสักตอนนะคะ ใกล้จบแล้ว ทรมานไม่นานค่ะ ^_^
สมิตานันในร่างโปร่งแสงนึกน้ำตาคลอหน่วย ไม่ใช่ไม่อยากกลับเข้าร่าง ตื่นมากอดเขาแน่นๆ แต่ไม่รู้ทำไมถึงยังกลับไม่ได้ เธอได้แต่ตามเขาไปเรื่อยๆ เห็นทุกอย่างตั้งแต่วันที่จมน้ำ จนกระทั่งวันนี้ ไม่มีวันไหนเลยที่นิมมานจะปล่อยเธอห่างกายเกินหกชั่วโมง เขาดูแลเธอดี ทั้งๆ ที่ในสมองของเธอจดจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา
แค่การได้เห็นทุกวัน เธอก็รักเขาได้ อย่างน้อยๆ ความทรงจำที่เธอได้คืนมาคือความรู้สึกรักในตัวภูตนิมมาน แต่เวลานี้จะสำคัญอะไร ในเมื่อนิมมานตรงหน้าเธอก็คือภูตนิมมานกลับมาเกิด
หากเธอจำอดีตไม่ได้ การเห็นเขาดูแลเธอทุกวันแบบนี้ หัวใจของเธอก็อ่อนยวบยอมแพ้เขาอย่างหมดท่าอยู่ดี...ทำไมถึงได้รักผู้หญิงที่ชอบสร้างเรื่องให้เขาตลอดเวลา อดีตเคยคิดจะฆ่าเขา ชาตินี้ยังต้องมาเป็นภาระให้เขาดูแลไม่จบไม่สิ้น
ทำไมถึงได้ทำตัวให้เธอต้องรักตอบเขาจนได้...สิ่งที่เธอแพ้ไม่ใช่ผู้ชายที่ชื่อนิมมาน แต่เป็นหัวใจของเขาที่มีแต่เธออยู่ในนั้น เขารัก และอดทนกับเธอเสมอ หากเธอมีโอกาสกลับไป เธอจะลดนิสัยแย่ๆ และทำตัวให้ดีมากขึ้น ให้สมกับที่เขารักเธอมากขนาดนี้
ถ้าเธอจะยังมีโอกาสได้กลับไป...
“เหนื่อยบ้างไหมคะพี่ปอม” สมิตานันยืนอยู่เบื้องหลังผู้ชายที่กำลังตั้งหน้าอ่านนิยายแนวสยองขวัญที่เธอเคยชอบให้ฟัง จริงๆ ก็คงเหลือแค่เคยชอบ นับตั้งแต่พบเจอเรื่องเหนือธรรมชาติจนชีวิตของเธอปั่นป่วน ผิดรูปผิดร่างมาแบบนี้ เธอคิดว่าตัวเองปรารถนาชีวิตแบบคนธรรมดา กับคนที่เธอรักก็พอ
ไม่ต้องมีพลังพิเศษ ไม่ต้องย้อนเวลากลับไปแก้โน่นนี่ให้วุ่นวาย ทำวันที่เราอยู่ให้ดีที่สุด เหมือนที่ใครบางตนบอกเธอไว้เมื่อสองสัปดาห์ก่อน
‘ไม่ตามเขาไปเหรอครับ’ ร่างของผู้ชายที่เธอเกือบมั่นใจว่าเป็นคนด้วยชุดลำลองเสื้อยืดกางเกงยีนส์ หากแต่อวัยวะที่โผล่พ้นยีนส์จะไร้เท้า เสียงหัวเราะในลำคอของเขาดังไล่หลังตามมาเมื่อเห็นว่าสายตาของเธอหยุดตาค้างที่ตรงไหน
‘ผมชื่อคราม เป็นเศษเสี้ยววิญญาณจากอดีต’ ใบหน้าคม และหล่อ เธอแอบคิดเล่นๆ หากเขาเป็นคน สาวๆ คงได้วิ่งตามกรีดร้อง ตั้งตนเป็นแฟนคลับ ก็ดูสิ สูงยาวเข่าดี ผิวขาว ไหนจะยังดวงตาที่ยิ้มได้ มุมปากเหยียดออกทำให้เขาดูใจดี เธอไม่ได้กลัวเขาเลย
‘ผมมีตัวตนก่อนที่นั่นเสียอีก’ นิ้วเขาชี้ไปยังซากโบราณ รอยยิ้มละมุนตายามเป็นประกายหวาน ‘ขอบคุณที่แก้ไขอดีตนะครับ’
‘คราม’ สมิตานันทวนชื่อนั้นก่อนที่ดวงตาจะเบิกโพลง ยกมือปิดปาก ‘ยมทูต’
ครามจ้องตอบกลับมา เขามองเธอนิ่งๆ ก่อนจะหันกลับไปยังซากเมืองเก่า ความเคร่งเครียดพลันหายไปเพียงแค่เขายิ้ม ‘ผมนึกว่าจะถูกลบออกไปจากความทรงจำทั้งหมดแล้วเสียอีก’
‘ก่อนหน้านี้สักชั่วโมงฉันก็คงจำไม่ได้’ ตอบเสียงแผ่ว อ่อนระโหย มองร่างโปร่งแสงของตัวเองก็ใคร่อยากจะร้องไห้เป็นเด็กน้อยหลงทาง ‘ฉันจะตายใช่ไหม’
‘ก็ไม่แน่ ยกเว้นว่าจะมีใครบางคนไม่ยอมให้ตาย’ ครามตอบแบบเป็นกลาง ไม่ยอมบอกทางรอดจริงๆ ให้เธอ
‘ทำไมไม่พูดข้า แต่งตัวทึมๆ แล้วขานั่นทำให้มันเต็มไม่ได้เหรอ’ ทำปากยื่น สองแขนยกกอดอก
ครามสั่นศีรษะ ยอมเพิ่มเท้าขึ้นมาให้สมิตานันเห็น ‘ผมเป็นแค่เศษวิญญาณ ไม่ใช่ยมทูตอีกแล้ว ผมได้เกิดตั้งแต่เมื่อพันปีก่อน ตอนนี้ก็มาลุ้นอีกว่าจะได้เกิดอีกไหม’ ดวงตาดำของครามจ้องเขม็งตรงมาราวกับมีความหมายที่เธอตีใจความไม่ได้
‘ลุงวัฒน์จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม’ ใจกระหวัดห่วงไปถึงคนที่โดนวิญญาณของผู้ปกปักษ์รักษาพื้นที่แถบนี้จนหายเข้าไปในป่า
‘ให้เขาสำนึกตัวสักสามวัน เขาเองก็คงกลัวเกินกว่าจะมานั่งแค้น อาฆาตกันอีก’
‘คงน่ากลัว’
‘เขาเลือกทางของเขาเองนะครับ เลือกให้เรื่องต้องเป็นแบบนี้’
สมิตานันมองฟ้าสว่างด้วยความว่างเปล่า เธอเองก็เลือกทางตัวเองเหมือนกัน ผลถึงออกมาเป็นแบบนี้ ‘ในอดีตทุกคนมีความสุขกันดีใช่ไหม’
‘ครับ ทุกคนมีความสุขดี พี่สาวของคุณก็สมหวังในความรัก’
‘สมหวัง กับใคร’ ฬาฬี ผู้หญิงคนนั้นที่ดูแล้วไม่ได้เกลียดอะไรสมิตาในอดีต แต่คงเกลียดแน่ถ้าเธอเป็นสาเหตุทำให้บ้านเมืองเกิดสงคราม ถ้าเธอวางยาพิษนิมมานสำเร็จ สงครามสองทางคงได้ประชิดเมือง...แต่การเปลี่ยนเรื่องราวได้นั้น มันดีแน่จริงหรือ มันถูกต้องแล้วจริงๆ ใช่ไหม
‘อีกไม่นานคุณก็จะรู้’
‘ที่ฉันแก้ไขมาทั้งหมด ทำไมยังส่งผลกระทบถึงปัจจุบัน’
‘มันกำลังจะจบแล้วครับ มันเป็นบทลงโทษของการไปเปลี่ยนในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ผมสูญเสียความเป็นยมทูต ได้ไปเกิด แต่เศษเสี้ยวของวิญญาณยังอยู่ตรงนี้’ ครามหัวเราะกับการเห็นดวงตาสงสารของอีกฝ่าย ‘ผมไม่ขอให้ไปแก้ไขอะไรอีกแล้วล่ะ หนึ่งปีที่คุณต้องสูญเสียความทรงจำ ไม่สิ หนึ่งปีที่คุณกลับมาช้าจากการไปแก้ไขอดีต มันเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ผมใช้ทำข้อตกลงเพื่อให้คุณกลับไปแก้ไขได้เอง และกับนิมมาน การอดทนรอคุณ นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาต้องเผชิญ ในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาแบบเปล่า ทุกสิ่งทุกอย่างต้องแลก’
‘เป็นอย่างนั้นสินะ’ รำพึงกับตัวเอง เริ่มทำใจยอมรับความเป็นไปได้โดยไม่ร้องหา หรืออยากรู้ใดๆ อีก ‘ขอบคุณที่ทำให้ฉันแก้ไขความผิดพลาดในอดีต คนอื่นๆคงอิจฉาที่ฉันทำแบบนั้นได้ ใครๆ ก็อยากแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำพลาดทั้งนั้น หนึ่งพันปีผ่านมา ฉันถึงได้ไปแก้ไข’
‘แต่คนเราคงไม่ได้มีโอกาสซ้ำสองเสมอไปนะครับ เราควรทำทุกวันให้ดีที่สุด จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่าเราไม่ควรทำแบบนั้น แบบนี้ เวลามันหมุนไปเรื่อยๆ ถึงนาฬิกาจะหยุดแต่โลกไม่เคยหยุดหมุน เวลาเป็นเครื่องเตือนใจให้เราทำทุกอย่าง จะดีหรือเลวก็อยู่ที่เลือกจะทำ’
‘แต่ไม่รู้ว่าฉันจะมีโอกาสกลับไปแก้ตัวอีกสักครั้งไหม ก่อนจะมาตรงนี้ ฉันทำพี่ปอมเสียใจมามาก ทำร้ายจิตใจเขาทั้งตั้งใจไม่ตั้งใจ’
ครามยิ้ม ส่ายศีรษะ ไม่มีคำตอบใดๆ ที่เธอเฝ้ารอคอยหลุดรอดจากปากของเขาอีก
เสียงหนังสือปิดลงเรียกความสนใจของดวงวิญญาณสาวให้ต้องมองอีกครั้ง ภาพผู้ชายที่เธอเห็นมีรอยยิ้มถึงดวงตาจะล้า และดูอ่อนเพลียจากการนอนหลับได้ไม่สนิท หลายครั้งที่เขานอนกุมมือเธอหลับไปข้างเตียง จะต้องตื่นขึ้นมาอย่างตกใจเพียงเพราะว่ามือของเธอเผลอขยับไปเอง
สมิตานันเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังของนิมมาน โอบกอดจากด้านหลัง จินตนาการว่าเธอสัมผัสเขาได้ หัวใจโหวงบริเวณอกเหมือนมีความอุ่นเติมเต็ม เธอไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าร่างของนิมมานตรงจนไม่เป็นธรรมชาติ
“ตี้รักพี่ปอมนะคะ” จงใจพูดชิดริมหูของเขา คาดหวังว่าเปอร์เซ็นต์สักศูนย์จุดเก้าเก้าจะทำให้เขาได้ยินบ้าง อย่างน้อยๆ เธอก็ได้ยินเขาบอกรักเธอ ได้ยินเขาพูดตลกแก้เครียดกับตัวเอง ไหนจะยังหนังสือที่เขาอ่านให้ฟัง เธอได้ยิน แต่ตอบโต้กลับไปให้เขามีกำลังใจบ้างไม่ได้
“ตี้” คำๆ นั้นกระซิบเสียงเบา แต่เธอรู้สึกว่ามันดังชัดมากขึ้นเมื่อศีรษะของนิมมานกำลังหันมา ดวงตาของเขาสบกับดวงตาของเธออย่างตกตะลึง “ตี้จริงๆ ใช่ไหม”
คนถูกถามพยักหน้าทั้งน้ำตา กระชับแขนกอดลำตัวของเขาแน่นขึ้น เธอรู้สึกว่าการกอดครั้งนี้ เธอสัมผัสเนื้อกายเขาได้จริงๆ “ขอโทษที่ดื้อกับพี่ปอมนะคะ ตอนนี้ตี้ยังทำให้พี่ปอมต้องเหนื่อยอีก”
“อย่าพูดแบบนั้น” เธอเห็นว่านิมมานพยายามยกมือมาสัมผัสกลับ แต่ทุกอย่างก็ทะลุผ่านไป ได้แต่ลดมือ รับความรู้สึกที่ตนไม่ได้จินตนาการไปคนเดียว “พี่ไม่เคยโกรธตี้”
“แต่ถ้าตี้ยังไม่กลับไป...ปล่อยตี้ไปเถอะนะคะ ตี้อยากให้พี่ปอมไม่ต้องเหนื่อยเพราะตี้อีก” ทั้งที่ตั้งใจเม้มปากแน่น คิดว่าเป็นวิญญาณเธอจะเข้มแข็ง และแกร่งขึ้น แต่พอต้องมาทนเห็นร่างขาวซีดเหมือนคนนอนหลับจากอีกจุดหนึ่ง มันทำให้เธอรู้สึกจนปัญญา และหมดกำลังใจ
ทำไมถึงยังกลับไปไม่ได้...ทำไม
“เลิกพูดซะตี้ พี่ไม่มีวันทำตามที่ตี้บอกแน่นอน”
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสอง สมิตานันไม่อยากทะเลาะกับเขาอีก จึงได้แต่กอดเงียบๆ สัมผัสเนื้อกายเขขาอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เยี่ยมหน้ามาหอมแก้มสากที่โกนหนวดออกไปไม่เกลี้ยงดีอย่างอ้อยอิ่ง...เธอไม่อยากจากเขาพอๆ กับที่เขาอยากรั้งเธอไว้
แต่เธอไม่รู้ว่าเวลา จะลงโทษระหว่างเธอกับเขาอย่างไรอีก ตอนนี้เธอทรมาน ทรมานที่ทำให้คนที่รักเจ็บปวด มันไม่ยุติธรรมกับนิมมานเลยสักนิด
“ตี้รักพี่ปอมนะคะ”
เสียงหวานเหมือนติดตรึงอยู่ในใจแม้ว่าเขาจะเริ่มรู้สึกตัวว่าทุกอย่างเป็นความฝัน อากาศเย็นของเครื่องปรับอากาศ และหนังสือที่เขาเพิ่งอ่านถูกวางลงไม่ไกลมือบนโต๊ะเล็กข้างเตียงคนป่วย และบนนั้นก็ยังมีร่างของสมิตานันหลับตาพริ้ม หายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ
นิมมานนึกถึงความฝันที่เขาเหมือนพบเจอจริงๆ บริเวณแก้มของเขายังรู้สึกถึงสัมผัสนั้น ไหนจะร่างกายที่เขารู้สึกว่าได้เติมพลัง พร้อมสู้อย่างบอกไม่ถูก
“ตี้ รีบกลับมาหาพี่ พี่อยากเจอตี้ในความจริงนะ” นิ้วยาวลูบลูกผมทัดข้างแก้ม ไล่จับแก้มนุ่ม มีเฉดสีชมพูไล่ระดับน่ามอง นิมมานมองด้วยรอยยิ้ม เขาอยากจะยิ้มให้ภรรยาที่เขารักไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น ไม่ว่ายามไหน เขาก็อยากให้มันไปถึงสมิตานัน อยากให้รู้
ว่าที่ตรงนี้...ยังมีคนๆ หนึ่งรอคอยการกลับมาของเธอเสมอ
.................................................
ตามข่าวทีวีทั้งวันจนปวดหัวค่ะ เลยแวบมาอัพนิยายให้อ่าน เผื่อใครจะมาแก้เครียดจะได้ยิ้มออกบ้าง (เหรอ)
คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ มาทำให้น้ำตาซึมอีกรอบค่ะ ซึมในมุมของตี้บ้าง เดี๋ยวจะกลับมายังไงก็รอกันต่อไปค่ะ จะให้พี่ปอมรอไปถึงไหนน้า ไรเตอร์เริ่มเห็นใจพี่ปอมนิดๆ แล้วค่ะ
คุณ konhin ลองมาดูในมุมของตี้บ้างนะคะ คนรอ กับคนมองคนที่รักรอ แต่ทำอะไรไม่ได้
คุณ mhengjhy เศร้าอีกสักตอนนะคะ ใกล้จบแล้ว ทรมานไม่นานค่ะ ^_^

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ธ.ค. 2556, 21:11:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ธ.ค. 2556, 21:11:59 น.
จำนวนการเข้าชม : 1493
<< บทที่ 21 : การเฝ้ารอ | บทที่ 23 : การกลับมาและความเจ็บปวด >> |

mhengjhy 1 ธ.ค. 2556, 21:56:29 น.
หายเครียด เพราะได้อ่านฉากนี้ล่ะค่ะ 555
หายเครียด เพราะได้อ่านฉากนี้ล่ะค่ะ 555

นักอ่านเหนียวหนึบ 1 ธ.ค. 2556, 23:35:40 น.
โอ้ยๆๆๆๆๆๆ
เข้าใจแล้วค่าาาาา
ไรเตอร์ ไม่ต้องอธิบายจนเค้าน้ำตาซึมก็ได้
การรอคอย ไม่ว่าจะคนรอ หรือถูกรอ ถ้าเราเห็นความสำคัญของอีกฝ่าย เป็นใคร ก็ทรมาน
เข้าใจแล้ววววว เค้ารักนิมมาน เค้ารักหนูตี้ และเค้ารักไรท์เตอร์ โอยยยย ภาวนา ขอให้โลกสงบสุข เอ๊ะ ยังไง!!! 55
โอ้ยๆๆๆๆๆๆ
เข้าใจแล้วค่าาาาา
ไรเตอร์ ไม่ต้องอธิบายจนเค้าน้ำตาซึมก็ได้
การรอคอย ไม่ว่าจะคนรอ หรือถูกรอ ถ้าเราเห็นความสำคัญของอีกฝ่าย เป็นใคร ก็ทรมาน
เข้าใจแล้ววววว เค้ารักนิมมาน เค้ารักหนูตี้ และเค้ารักไรท์เตอร์ โอยยยย ภาวนา ขอให้โลกสงบสุข เอ๊ะ ยังไง!!! 55

konhin 2 ธ.ค. 2556, 04:27:38 น.
น่าสงสารอ่ะ ทั้งคู่เลย
น่าสงสารอ่ะ ทั้งคู่เลย