รักดังฝัน
เขา นิมมาน อดีตชาติเป็นถึงพระยานิมมาน ผู้ที่มีใจปฏิพัทธ์ต่อลูกสาวของศัตรู จนตัวตาย เขาก็พร้อมยกวิญญา แก่ยาใจที่รักสมิตาเพียงผู้เดียว แต่ผ่านมาพันปี นิมมานก็พบว่าความรักของเขาหมดลง ไอ้รักนิรันดร์ไม่มีจริงหรอก “ชาตินี้เจ้าจะแต่งงานกับใครก็ช่าง แต่ก่อนเจ้าจะพบกับไอ้มนุษย์เนื้อคู่ของเจ้า ข้าจะทำให้เจ้ารักข้าให้ได้ก่อน”

เธอ สมิตานัน ผู้หญิงสวย ดำรงตำแหน่งพิธีกรรายการดัง หลอนดีนัก...เดี๋ยวจัดให้ แต่จริงแล้ว คนที่ทำเก่งหน้าจอ แท้จริงกลับกลัวผีขึ้นสมอง ทั้งที่ไม่เคยเจอ แต่พอปุบปับกระหน่ำได้เจอจริง สมิตานันก็อยากให้ทุกอย่างเป็นแค่ฝัน...เอ หรือที่จริงเธอไม่ได้ฝัน


Tags: หลอนโรแมนติก แฟนตาซี นิมมาน สมิตา

ตอน: บทที่ 23 : การกลับมาและความเจ็บปวด

สมิตานันหน้าเศร้าลงทันตา เธออยากบอกกับนิมมานเหลือเกินว่าเธอรักเขา และอยากกลับไปยืนเคียงข้างเขามากแค่ไหน ถ้าเพียงแต่จะยังมีโอกาสเหลือให้เธอได้กลับไป สายตาของเขายามมองร่างที่หลับใหลของเธอเต็มไปด้วยการรอคอย และแสงแห่งความหวัง มือของเขาที่กุมมือเธอไว้ ถึงเธอสัมผัสไม่ได้ แต่ใจของเธอกลับอุ่นวาบ

โทรศัพท์ของเขากรีดเสียงดังในความเงียบ นิมมานถือฟังปลายสายอยู่ไม่กี่คำ หัวคิ้วของเขาก็ขมวดมุ่น วิญญาณสาวนั่งบริเวณที่นั่งสำหรับคนเฝ้าไข้สังเกตอย่างไม่วางตา เห็นเขารับคำไม่กี่คำวางสายไป เขาจึงหันมาจูบหน้าผากเธอแผ่วเบา

“พี่จะรีบไปรีบกลับนะ”

ร่างสูงคว้าเสื้อสูทติดมือออกไป จังหวะที่เขากำลังถึงประตู หัวใจของสมิตานันก็วูบโหวง เธอไม่อยากให้เขาไปเลย “พี่ปอมคะ ตี้จะรอพี่ปอมที่นี่นะคะ”

จังหวะการก้าวของนิมมานชะงักไป แต่เพียงแค่ชั่วครู่ จนสมิตานันในร่างโปร่งแสงไม่ทันรู้สึก และนั่นเป็นอีกเรื่องที่เพิ่มให้คนต้องไปจัดการเรื่องสำคัญมีความกังวลเพิ่มอีกเรื่องหนึ่ง

ตี้...นั่นเป็นเสียงของตี้ แต่ไม่ได้พูดออกมาจากร่าง หรือเขาหูฝาดก็ไม่ใช่


วิญญาณสาวเดินเหินเหมือนตัวเองเป็นดังสายลมไร้น้ำหนัก แต่ก็ไม่ชินถึงถนัดจะใช้เท้าที่มโนคิดขึ้นมาพาเดินไปยังจุดต่างๆ นานเกือบชั่วโมงที่เธอเดินมามองหน้าซีดเซียวของตัวเอง ราวกับว่ามองตัวเองผ่านกระจก จะมีใครบ้างที่จะได้เห็นตัวเองนอนหลับตาด้วยตาคู่เดียวกับที่หลับไปบ้าง

เสียงประตูเปิดขึ้น สมิตานันหันมองนึกถึงนิมมาน แต่พอเห็นว่าคนคู่นั้นเป็นใครถึงกับหลุดยิ้มออกมา ในใจเต็มไปด้วยความประหลาดใจสุดซึ้ง

รียากร กับธนิทธิ ทำไมคนคู่นี้ถึงมาด้วยกันได้

ภาพผู้หญิงนักรบในชุดเกราะ มีแต่ความเข้มแข็งดุจเดี่ยว หัวใจยกให้แผ่นดินบ้านเกิด ลบภาพภูตร้ายสาวที่แค้นเคืองเธอถึงพันปีให้หายไป รียากรเหมือนคนแปลกหน้า ที่ไม่ได้เป็นคนแปลกหน้าอีกต่อไป ผู้หญิงตรงหน้าเป็นพี่สาวของเธอ เป็นบุคคลที่ทำให้เธอรู้ว่าเธอแก้ไขความผิดพลาดได้สำเร็จ

แต่น่าแปลกที่คนสองคนที่ไม่น่าจะมาด้วยกันได้กับมองตากันยามเผลออยู่หลายครั้ง...คุณหมอยากับนักรบสาว

“ฉันสงสารตี้กับคุณปอม” ประโยคเปิดเสียงแผ่ว อ่อนระโหย เธอยืนข้างเตียง โค้งตัวลงมองหน้าน้องสาวที่พบเรื่องน่าเศร้า ทุกคนในบ้านไม่มีใครเลยที่จะนอนหลับได้เต็มตา สองสัปดาห์ที่ผ่านมามันเป็นฝันร้ายที่ลากยาวไม่จบสิ้น

น้องน้อยที่ร่าเริง จอมโวยวายเป็นที่หนึ่ง ไหนจะยังชอบอะไรที่ผู้หญิงหน้าตาดีไม่น่าจะชอบได้ สมิตานันเป็นคนสวย ดาวเด่น แต่เรื่องชอบอะไรแปลกๆ อย่างเรื่องลึกลับ เป็นพิธีกรรายการผีก็ทำให้ใครที่เข้ามาแขยงกัน ไม่เคยเห็นชอบใครมาก่อน จนกระทั่งกว่าทุกคนจะรู้ก็วันที่สมิตานันจูงมือนิมมานเข้ามาแนะนำกับทุกคนในบ้าน และหนึ่งเดือนหลังจากนั้นก็มีงานมงคลเกิดขึ้น

ระยะเวลาแห่งความสุขของน้องเธอหลังแต่งงานมีเรื่องแปลกเกิดขึ้น เธอพอระแคะระคายมาบ้าง ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริงที่ว่าสมิตานันความจำเสื่อมชั่วคราว จากปากของกมลที่มาบอกเล่าเก้าสิบ เป็นการปลอบใจตอนมาเห็นสภาพหลับไม่ตื่นของสมิตานันหลังจากจมน้ำ

“ทำไมตี้ถึงโชคร้ายแบบนี้” ธนิทธิมองผู้หญิงที่เขารู้สึกรักเอ็นดูมานาน จากเคยเป็นแฟนคลับรายการหลอนดีนัก จนกระทั่งได้รู้จัก หรือเห็นภาพความหวานของสมิตานันกับนิมมานให้บาดตาบาดใจ

จนกระทั่ง...ธนิทธิมองพี่สาวของสมิตานันที่ปกติไม่เคยรู้สึกพิเศษอะไรด้วย มาพักหลังไม่นานนี้ล่ะมังที่รียากรต้องดูแลเจ้าถึก แมวจอมหยิ่งที่พอเจ้าของไม่อยู่ก็พานประชดชีวิตด้วยการอยู่อย่างซังกะตายอาหารไม่กิน สุดท้ายต้องมาลงเอยที่คลินิกเขาอยู่บ่อยครั้ง

ลูบผมที่ปรกหน้าของเธอออกเพียงแผ่วเบา รียากรน้ำตาคลอหน่วย ในที่สุดก็ร่วงลงบนใบหน้าซีดของสมิตานัน “ตี้ มันเวรกรรมอะไรของตี้นะ พ่อแม่เป็นห่วงตี้นะรู้ไหม พี่เองก็ห่วง ถ้าเลือกได้พี่ยอมเจ็บแทนเรานะตี้ พี่มีน้องสาวเพียงคนเดียวนะ เลิกขี้เกียจ แล้วก็ตื่นมาได้แล้ว”

ประตูเปิดขัดเวลาอันเศร้าโศกของรียากร ครั้งนี้บุคคลมาใหม่พร้อมหน้ากันถึงสามชีวิต กมลยกมือรับไหว้พี่สาวของสมิตานันก่อนเดินยักย้ายมาอีกฝั่งของเตียง นำปาริตาและพุทธามาด้วย

“พอดีคุณปอมโทรตามมาน่ะค่ะ บอกว่าไม่อยากทิ้งตี้ไว้คนเดียว”

รียากรพยักหน้ารับการมาตามที่ปาริตาว่า ยืดตัวตรง หันหลังไปเช็ดน้ำตาไม่อยากให้ตัวเองอ่อนแอต่อหน้าใคร

“วันนี้เป็นเวลาดีที่ได้มาอยู่กันครบนะครับ” ไม่มีใครสังเกตว่าดวงตาของพุทธาเปลี่ยนไป ยกเว้นวิญญาณสาวที่กำลังเบิกตากว้างขึ้น ร่างของครามไปอยู่ในร่างของพุทธา แต่เธอทักท้วงใดๆ ไม่ได้

สายตาของพุทธาที่ใครๆ อาจมองว่าเขาประหลาดที่สายตาหยุดนิ่งอยู่ในพื้นที่ว่างบริเวณที่นอนคนเฝ้าไข้ แต่เธอกลับเห็นประกายตาความหวัง และรอยยิ้มในดวงตาของเขา ดวงตาที่มีรอยยิ้มคู่นี้กำลังปลอบเธอ และบอกว่าเขาจะช่วยให้เธอกลับมาเป็นคนได้อีกครั้ง

เชื่อใจผมนะครับ...คุณแม่

ความคิดของครามดังออกมาจนสมิตานันมั่นใจว่าเธอไม่ได้หูฝาด ถึงพุทธาจะไม่ใช่คนพูด แต่เสียงนั้นก็ยังดัง เหมือนกับว่าเธอได้รับการปลอบโยนด้วยคำเรียกนี้มานาน ครามอยู่ข้างๆ เธอเสมอ

“ขอให้ทุกคนเชื่อใจผม”

ไม่มีใครในที่นั้นคัดค้านใดๆ อะไรที่ทำให้สมิตานันฟื้นกลับมา ทุกคนล้วนยินดี พุทธาจับมือของคนหลับไว้ อีกข้างแบออกส่งให้กลมเป็นคนจับ และจับต่อกันจนครบทั้งห้าชีวิต คนที่มองแต่สัมผัสกายใครไม่ได้รู้สึกถูกโอบล้อมด้วยความรู้สึกอบอุ่น ใบหน้าอันมุ่งมั่นของคนทั้งห้าคนถูกส่งผ่านมาถึงใจเธอ

ขอบคุณ...สมิตานันเดินมาวางมือบนหลังมือพุทธาที่จับมือของเธอในกายมนุษย์ไว้อยู่

“หลับตาลง ไม่ว่าจะพบเจออะไร ห้ามปล่อยมือ ทุกอย่างที่เห็นเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง มันผ่านมาแล้ว...ผมอยากให้ทุกคนรับรู้ ให้อภัย และจงลืมมันซะ”

ช่วงนาทีที่สิ้นเสียงของพุทธา เหมือนเธอก็ถูกสะกดจิตตามไปด้วย ดวงวิญญาณของเธอหลับตาลงตามที่ครามในร่างของพุทธาว่ามา แรงดึงดูดบางอย่างดึงเธอด้วยแรงมหาศาล ภาพมากมายพรั่งพรูราวกับดอกเห็บ เธอเหมือนกำลังเดินย้อนหลัง

และมันก็สิ้นสุดลง ภาพแสงไฟจากหน้าต่างห้องนอนของเธอเป็นภาพที่เหมือนกับรอคอยให้เธอเดินเข้าไปหา สมิตานันหันกลับมา มองมือที่กุมไว้ ทั้งที่ไม่เห็นตัวด้วยความรู้สึกลังเล เธอควรจะเดินหน้า หรือหันหลังกลับไป

“ไปต่อเถอะครับ” มือที่มองไม่เห็นปรากฏเป็นรูปร่างของคราม ชายหนุ่มดึงเธอเข้าไปกอดไว้แน่น “เริ่มใหม่อีกครั้ง...ไหวไหมครับ”

“แค่ได้กลับไป...เริ่มอีกกี่ครั้งฉันก็ยอม ถ้ามันยังทำให้ฉันมีโอกาสพบกับคนที่ฉันรัก”

“ไม่ใช่แค่โอกาสครั้งใหม่ของคุณ แต่เป็นของผมด้วย อีกหนึ่งปี เราจะพบกันนะครับ”

“หนึ่งปี” สมิตานันถามด้วยความสงสัย แต่ครามก็ผละจากกันก่อน ชายหนุ่มยิ้มดวงตาเป็นประกาย เธอเห็นความซุกซน อารมณ์ดีของเขา

อดจะยิ้มตามไม่ได้...ทำไมเขาน่ารักขนาดนี้

“ลูกชายคนแรก อย่าลืมเรียกเขาว่าครามนะครับ”


“เดี๋ยวสิ”

พลั่ก...อาการฝันค้างถูกทำลายลงด้วยอาการเจ็บแล่นปราดบริเวณเอว สมิตานันลืมตาโพลงในความมืด กะพริบตาปริบ สมองยังปรับเรื่องราวสุดแปลกนี้ไม่ไหว กลิ่นหอมอ่อนของผ้าห่ม ไหนจะยังอากาศเย็นสบายของเครื่องปรับอากาศ

กลับมาแล้ว...แต่น่าแปลกที่มันไม่ใช่โรงพยาบาล แต่เป็นห้องของเธอ ห้องนอนสุดที่รักที่เธอใช้ชีวิตกับมันมาทั้งชีวิต แม้อยู่ในความมืดเธอก็ยังเดินหลีกหนีของที่ตั้งในห้องได้แม่นยำ มือควานหาปุ่มสวิตซ์กดมันเปิดขึ้นมา

ความสว่างขับไล่ความมึนงงในหัวสมองของเธอไปได้มาก หญิงสาวยิ้มออกมา เผลอหยิกเนื้อใต้แขนของตัวเองจนรู้สึกเจ็บได้ว่านี่คือเรื่องจริง หยิบปฏิทินบนโต๊ะหัวเตียงมาดู สิ่งนี้พลันทำให้รอยยิ้มบนหน้าเหือดแห้งคล้ายต้นไม้ขาดน้ำ

“วันเกิดอายุยี่สิบเจ็ดของฉัน” สมิตานันรำพัน แข้งขาอ่อนแรง เธอเพิ่งเข้าใจคำว่าเริ่มใหม่ของครามก็วันนี้ เริ่มใหม่ในช่วงเวลาที่เป็นจุดเริ่มต้นของอาการเห็นผีของเธอ ในช่วงเวลาที่เธอยังไม่พบทั้งภูตนิมมาน หรือเขานิมมานที่เป็นคน

กรอบรูปข้างกันเป็นภาพครอบครัวแสนสุขของเธอ ที่มีสมาชิกเพิ่มมาอย่างรียากร และน้องชายต่างมารดาได้หายไป หากว่าเธอไม่ได้ไปเห็นอนาคตมาล่ะก็ เธอคงไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ บางสิ่งบางอย่างในชีวิตเธอเปลี่ยน แต่มันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมาก ยกเว้นบางอย่างที่หายไป

และเธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอมันกำลังจะตาย การเริ่มใหม่ที่ไม่มีนิมมาน เป็นฝันร้ายที่สุด

แล้วเธอจะเริ่มมันใหม่อีกครั้งได้อย่างไร สมิตานันทิ้งตัวลงนอนบนที่นอน หลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า คุยกับฟ้ากับลม แต่ใจจริงสื่อถึงคราม

“คราม คุณจะมาเป็นลูกฉันได้ไง ในตอนนี้ฉันกับเขายังไม่รู้จักกันเลย”


“แน่ใจนะคะน้องตี้ว่าปกติดี” คนพูดจีบปากจีบคอ ขณะที่บรรจงแต่งหน้าผู้หญิงตรงหน้าอย่างสุดความสามารถ มันเป็นคืนแรกจริงๆ ที่เจ้าตัวขอโอกาสเบี้ยวงานเลี้ยงแฟนคลับของบริษัท ที่เจ้าตัวอ้างว่าอีกไม่นานจะลาออก แค่นั้นกมลก็คิดว่าสมิตานันกำลังแปลก แต่ยังไม่เท่าที่เจ้าตัวลุกขึ้นมาแต่งเนื้อแต่งตัว เปลี่ยนแปลงตัวเองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ในวันเดียว

จากผมยาวกลายเป็นซอยสั้น ข้างๆ ดัดเป็นลอนคลื่น รับกรอบเรียวหน้าสวยจัดให้ดูอ่อนเยาว์ลง ขนตางอนยาวถูกดัด รับกับตาเรียวดูเฉี่ยวกว่าเดิม มีเสน่ห์อีกเท่าตัว ชุดที่เคยใส่ง่ายๆ กลายเป็นเดรสสีชมพูหวาน ติดระบายที่แขน รับกับรองเท้าส้นสูงสีขาว อย่างนี้จากสาวจอมโวยกลายเป็นสาวหวาน อย่างกับเพิ่งริมีความรักได้อย่างไร น่าสงสัย

“ตี้แปลกมากเหรอคะ งานรายการหลอนดีนักตี้ก็วานให้พี่ลี่ไปเป็นตัวแทนตี้แล้ว” ว่าถึงพี่สาวที่เธอตั้งใจจะให้ไปเจอกับธนิทธิ ถ้าตามเวลาเธอควรเจอธนิทธิ และเริ่มสนิทกับเขานับจากเจอเจ้าถึก เธอก็แค่เปลี่ยนคนเจอเสีย รียากรควรพบกับธนิทธิดูก่อนบ้าง

“ยังไงก็แปลกนั่นแหละค่ะ เจ๊ขอฟันธง งานฮัลโลวีนแต่งตัวหวาน ยังตั้งใจมาที่ห้างนี้อีก แน่ใจนะคะว่าไม่ได้นัดกับใคร”

กมลเก็บอุปกรณ์แปลงโฉมชุดใหญ่เข้ากระเป๋าใบโต มีเสียงหัวเราะแว่วหวาน ครื้นเครงของเด็กรุ่นน้องที่ไม่ยอมตอบ ปล่อยให้เธอสงสัยต่อไป

“เจ๊จะไปเดินเล่นกันหน่อยไหมคะ”

“เดินเล่น ตอนสามทุ่มเนี่ยนะ”

สมิตานันเหม่อไปชั่วครู่ สายตาหันออกไปยังบริเวณทางเดินซื้อของในห้าง นึกอยากพบใครคนนั้นเสียเหลือเกิน “ค่ะ ตี้อยากเดินเล่น เผื่อจะเจอเนื้อคู่”

“เนื้อคู่ในวันฮัลโลวีนฟังดูหลอน เหมือนจะไม่ใช่คนนะคะ”

“ก็อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้นี่คะ สรุปเจ๊จะไปด้วยกันไหม”

กมลส่ายหน้าหวือ ยกมือป้องปากกระซิบบอก “เจ๊มีนัดกับเด็กน้อย น้องตี้เดินคนเดียวไม่เหงาแน่นะ จะไปร่วมงานของรายการก็ไม่สาย เจ๊จะโทรบอกพุทให้มารับ”

“เดินคนเดียวสบายมาก” โบกมือปัด หน้ายังคงยิ้มพราย “ตี้ว่าตี้จะลาออกด้วย ตี้ว่าตี้ชักจะเบื่อๆ เจอเรื่องระทึกมามากจนไม่รู้อะไรฝันอะไรจริง”

“ไอ้บูรณ์มันคงคร่ำครวญตาย เอาเถอะเจ๊อยู่ข้างน้องตี้เสมอ ตี้เลือกยังไงเจ๊ก็ยอมทั้งนั้น”

“ขอบคุณนะเจ๊”

สไตล์ลิส และผู้จัดการส่วนตัวแบบไม่ทางการของสมิตานันพินิจหน้าสวยหวานฝีมือการเปลี่ยนแปลงจากมือตัวเองอย่างพึงพอใจ นึกถึงเจ็ดปีที่ทำงานด้วยกันมาเธอไม่เคยเลยที่จะนึกผิดหวัง

“เจ๊จะดีใจมาก ถ้าน้องตี้จะมีใครสักคนในชีวิต เอ หรือมีแล้วไม่ยอมบอก”

ดวงตามีประกายจืดเจื่อนลง แต่คนเจ็บแปล๊บในใจยังปั้นยิ้มได้ต่อ “มันคงเป็นรักจากฝัน ถ้าเขาเดินออกมา ตี้จะไม่ปล่อยเขาไปอีกเด็ดขาดค่ะ”

สมิตานันยืนหมุนตัวสำรวจตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ตรงหน้าอีกครั้ง สูดหายใจเข้าออกยาวๆ จากนี้เธอจะไม่ขอความช่วยเหลือจากอะไรอีก ความรักของเธอไม่ได้เกิดจากอดีต หรือเวลาจากอนาคต ครั้งนี้เธอจะขอลิขิตมันด้วยสองมือ กำหนดมันขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง

เว้นเสียแต่ว่าถ้าเธอจะได้พบเขา...อีกสักครั้ง

“แปลกจริงๆ เอาเถอะ เจ๊จะคอยส่งแรงเชียร์ ถ้าเขาท่ามาก เอากระบองตีหัวลากเข้าถ้ำเลย เดี๋ยวเจ๊ช่วย”

เสียงหวานหัวเราะครืน จับมือหนุ่มร่างใหญ่หัวใจหวานมาเขย่าสองครั้ง ส่งสายตาแทนคำขอบคุณ เดินออกมา สายตาคอยเพียรส่งยิ้มให้คนที่เดินผ่านไปมาแล้วยิ้มให้เธออย่างคนที่จำได้ ว่าเป็นพิธีกรดังจากทางหน้าจอทีวี บางคนเดินเข้ามาขอถ่ายภาพ ซึ่งเธอก็ยิ้มรับด้วยความยินดี

เดินเล่นไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ห้างก็ต้องปิดลง สมิตานันเดินเตร่อีกนิดด้วยความหวังที่ริบหรี่ เฝ้าเตือนว่ามันเป็นวันแรก...จะไปพบเขาได้อย่างไร

ไฟบางบริเวณเริ่มดับไล่ลูกค้า บันไดเลื่อนกำลังปิดบริการทีละชั้น สมิตานันถอนหายใจเฮือกโต เดินมองพื้นที่สะท้อนใบหน้าของเธอว่ากำลังเศร้าแค่ไหน การอยากเจอ อยากพบว่าเขาสบายดี มีชีวิตสุขสบายแค่ไหน มันทำให้เธอทรมานอย่างบอกไม่ถูก บางทีหากพบว่าเขามีใคร เธอเองก็อาจจะล้มเลิกความตั้งใจในการทำให้เขามารัก

การเดินของใครบางคนเดินมาชนเธอจนเซ และปราศจากคำขอโทษ กลิ่นน้ำหอมลอยแตะจมูกด้วยกลิ่นอันคุ้นเคย และเพียงแค่หันไป แผ่นหลังของเขาก็กำลังเดินห่างออกไป สมิตานันรีบวิ่งตามไปอย่างที่ไม่คิดว่าตัวเองจะเรียกแรงกายแรงใจกลับมาได้ น้ำตาไหลออกมา เหมือนว่าเธอกำลังวิ่งตามความฝันที่ไม่มีอยู่จริง

เขาไม่รู้จักเธอ...เฝ้าเตือนตัวเอง ปลอบใจ และยอมรับ อย่างน้อยๆ ก็ดีกว่าการเห็นเขาเดินกับผู้หญิงเป็นไหนๆ

เธอมั่นใจว่าเป็นเขา...นิมมาน

ลานจอดรถที่เธอมาโผล่ตามที่เขาเดินออกมาทำให้เธอชะงักการก้าวอยู่แค่กรอบประตูทางออก ภาพที่เขาถูกผู้หญิงชุดสีแดงกระโดดกอดทั้งน้ำตา ทำให้ร่างของเธอชาไปทั้งตัว ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เหมือนร่างกายจะทรงตัวต่อไปไม่ไหว จนต้องหันหลัง เอาตัวแนบไปกับผนังด้านข้าง หลบมุมไม่อยากให้คนสองคนมองเห็นส่วนเกินอย่างเธอ

นี่สินะ...การย้อนกลับมาเพื่อทำให้เธอเจ็บปวดมากที่สุด มันเป็นยิ่งกว่าบทลงโทษที่เธอเคยพบ ทำไมการลงโทษของเวลายังไม่สิ้นสุดอีกเหรอ เธอถึงต้องมาร้องไห้กับรักครั้งนี้ต่อไป

เธอจะสู้...อีกแค่ครั้งเดียว สมิตานันจิกเล็บกับเนื้อตัวเอง มือสั่นเทาขณะควบคุมให้ร่างออกมาจากเงามืด เสียงเท้าของเธอเรียกความสนใจของคนสองคนต้องยอมออกจากโลกที่มีเพียงสองคนออกมา ภาพผู้หญิงน้ำตาอาบหน้าจนเครื่องสำอางเปรอะดูน่าเวทนากว่าเป็นไหนๆ

“คุณคงไม่รู้จักฉัน” เดินจนห่างจากเขาเพียงแค่ก้าวเดียว กวาดตามองรอยตาอันประหลาดใจของเขา ที่คงนึกว่าเธอเป็นนางบ้าจากที่ไหน สมิตานันยิ้มหวานให้เขา ยิ้มจากใจ ดึงมือของเขามากุมไว้อย่างถือวิสาสะ ความรู้สึกประหลาดแล่นผ่านมาที่ใจของเธอ จนน้ำนัยน์ตากลั่นออกมามากขึ้น และเธอไม่คิดต่อต้าน หรือเช็ดมัน

“ดีใจที่พบกันนะคะ...ไม่ว่าคุณจะรู้จักฉันหรือไม่ แต่ฉันดีใจที่พบคุณอีก ดีใจจริงๆ ส่วนคุณ” สมิตานันสูดน้ำมูกเสียงดัง มองผู้หญิงที่ตัวสูงกว่าเธอ นิสัยนางเอกเข้าสิง “ดูแลพี่ปอมให้ดีๆ นะคะ เขาไม่ควรทุกข์ใจเพราะความรักอีก” กลับมาสบตากับเขา มือปล่อยลงให้เขาเป็นอิสระ ยกเว้นจากใจของเธอ “เขาควรเดินไปข้างหน้าจริงๆ เสียที...ขอตัวก่อนนะคะ พอดีฉันกำลังซ้อมบทละคร ฉันเก่งใช่ไหมคะ”

สมิตานันหัวเราะทั้งน้ำตา ถอยหลัง มองเขาที่ยังยืนนิ่งขมวดคิ้วสงสัยอยู่ แต่ยิ่งมองเธอยิ่งเจ็บ ท้ายที่สุดการหันหลัง แม้จะเจ็บปวดยิ่งกว่า เธอก็ต้องทำ

ตอนนี้เขาคงมองว่าเธอบ้า หรือหลุดมาจากละครเรื่องไหน...


“คุณตี้” นีรนาที่เพิ่งร้องไห้มาหมาดๆ ได้สติก่อนนิมมาน “พี่ปอมเชื่อว่านั่นแค่แสดงละครเหรอคะ”

“พี่เชื่อก็บ้าสิ” นิมมานยังคงขมวดคิ้ว เรียบเรียงเรื่องราวยังไม่ถูก ไหนจะอาการประหลาดหลังจากสัมผัสตัวของสมิตานัน มันเหมือนหัวใจของเขามีปะจุบางอย่างวิ่งมา คล้ายว่าได้รู้จักเจ้าหล่อนมาแล้ว

“ไปดูเขาทีได้ไหมคะ”

“ไปดู ทั้งที่ไม่รู้จักกัน อย่าพูดให้ขำน่าปัด” ดุน้องสาวที่เพิ่งอกหักจากหนุ่มคนล่าสุด โทรเรียกเขามาอย่างทันด่วน มาเจอเรื่องคนอื่นเข้าหน่อย ลืมความทุกข์ของตัวเองไปหมด

“ปัดขอให้พี่ปอมไป ถ้าไม่ไป ปัดจะร้องไห้จริงด้วย”

นิสัยเจ้าน้ำตา เอะอะร้อง เอะอะวีนของนีรนาสาวขี้วีนทำให้นิมมานต้องยอมแพ้ ถอนหายใจออกมาแทนการบอกว่าปวดสมองกับเธอแค่ไหน

“พี่อาจช่วยอะไรไม่ได้”

“ปัดเชื่อว่าพี่ปอมช่วยได้ อย่างน้อยๆ เขาจะได้ไม่เข้าใจผิดเรื่องปัดกับพี่ปอม หยึย หน้าอย่างพี่ปอมไม่ตี๋ขาวอย่างสเป็คปัดหรอก”

นิมมานทำเสียงหึในลำคอ แต่ก็ยอมเดินตามร่างเพรียวในชุดหวานด้วยใจที่เหมือนมีคำถามบางอย่างผุดขึ้นมา คำถามที่ว่าทำไมเขาคุ้นเคยราวกับรู้จักเธอมาก่อน แต่การถามไถ่จากพนักงานของทางห้าง ก็ทำให้รู้ว่าคำถามนั้นจะยังไม่มีคำตอบในเร็ววัน...เธอกลับไปแล้ว


.......................................
โพสต์ตอนนี้จบขอวิ่งหนีค่ะ กลัวโดนปาเปลือกทุเรียน โทษฐานกีดกันความรักของตี้เหลือเกิน ฮา

คุณ mhengjhy เอาปมของเรื่องมาเฉลยให้ค่ะ สรุปย้อนกลับสู่จุดเริ่ม (อีกแล้ว)

คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ ปลุกตี้ให้ตื่นแล้วนะคะ แต่ ก็อย่างที่ว่าไป เรื่องมันดำเนินมาแบบฉะนี้แล คราวนี้มาดูความพยายามของตี้กันบ้างค่า

คุณ konhin สงสารอีกสักรอบ ไม่มีย้อนเวลาให้ปวดหัวอีกแล้วค่ะ

ขอบคุณทุกเมนท์ ทุกคะแนนโหวต และนักอ่านเงาทุกท่านค่า ตอนนี้เอามาให้อ่านกันยาวๆ ^^



ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ธ.ค. 2556, 02:19:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ธ.ค. 2556, 10:52:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 1475





<< บทที่ 22 : บทลงโทษของเวลา   บทที่ 24 : อารมณ์อินดี้ >>
konhin 6 ธ.ค. 2556, 03:19:40 น.
เริ่มงงๆ ว่าทำไมตี้ถึงจำได้อยู่คนเดียวรอบนี้ รอบที่แล้วก็จำไม่ได้คนเดียว ฮ่าๆๆ


ameerah 6 ธ.ค. 2556, 07:58:14 น.
ตอนที่ตี้เดินไปหาพี่ปอมทำเอาน้ำตาแทบร่วงอ่ะ มาคราวนี้จากที่สงสารพี่ปอมกลายเป็นตี้แทนซะงั้น แต่ก็ดีแล้วเพราะพี่ปอมเจ็บมาเยอะ


อัศวินนภา 6 ธ.ค. 2556, 08:41:52 น.
ทำมายทำไม พระเอกนางเอกโดนรังแกจากไรเตอร์จัง
คราวหน้าเอาแบบหวานหยดลืมกันเลยนะคะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 6 ธ.ค. 2556, 12:13:31 น.
อ่านนิยายเรื่องนี้ ทำให้รู้สึกเหมือนอ่านหนังสือสอบ
ต้องอ่านซ้ำไปซ้ำมา วนไปวนมา อ่านมากๆ เข้าก็ เริ่มเข้าใจเรื่องราวได้มากขึ้น อืมมม ไรเตอร์ออกข้อสอบยากไปนะ 5555


mhengjhy 6 ธ.ค. 2556, 18:56:29 น.
T^T


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account