ม่านทิวาพชร {{{ชุดอัญมณีเหนือกาล}}}สนพ.อรุณ
รัตติกาล ทิวา สนธยา สามเวลาที่อยู่คู่โลกมาแต่บรรพกาล
ตำนานบทใหม่แห่งอัญมณีเหนือกาลจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!

Tags: โมรารัตติกาล มรกตสนธยา มนตรามุกจันทรา มายาไฟในดวงตา ม่านธาราเร้นดาว อัญมณีเหนือกาล มนตราอัญมณี

ตอน: บทที่ 8 ความบังเอิญหรือพรหมลิขิต

บทที่ 8
ความบังเอิญหรือพรหมลิขิต






ชลันธรพบว่าเป็นอีกครั้งที่สะดุ้งตื่นเพราะความฝัน เธอฝันถึงธศิญาอีกแล้ว ยิ่งกว่านั้นยังเป็นความฝันที่ต่อเนื่องจากครั้งก่อน และเหมือนเคยที่เธอรู้สึกราวกับอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ช่างน่าประหลาดนัก

หญิงสาวนั่งครุ่นคิดเรื่องความฝันอยู่กว่าห้านาที แต่แล้วก็มีเรื่องสำคัญกว่าแทรกเข้ามาในความคิด ย้ำเตือนในทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาว่าเธอไม่ได้อยู่ที่บ้านของตัวเองในประเทศไทย แต่เป็นบ้านของจิณลีในประเทศภูทิวาซึ่งอยู่ต่างมิติกับบ้านที่เธอจากมา

ชลันธรถอนหายใจหนักหน่วง เป็นห่วงที่บ้านก็เป็นห่วง อยากรู้เรื่องธศิญาก็อยากรู้ ถ้าเพียงแต่เธอติดต่อพี่ชายได้ คงไม่เป็นปัญหาเลยถ้าจะอยู่ที่นี่ต่อเพื่อค้นหาความจริงเรื่องลูกสาวผู้ว่าการเขตราศิ

เวลาต่อมา เจ้าของร่างระหงก็ลุกออกจากเตียงและลงไปด้านล่างพร้อมกับผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าที่จิณลีจัดหามาให้

เมื่อเดินลงบันไดมาก็เห็นชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดสีดำพอดีตัวและกางเกงยีนสีน้ำเงินเข้มกำลังนั่งวาดรูปสีน้ำอยู่ในห้องนั่งเล่นเงียบๆท่ามกลางเพลงคลาสสิกที่เปิดคลอ ดูเหมือนว่าเขาจะจมดิ่งไปกับบรรยากาศสุนทรีย์จนไม่ได้รู้ตัวว่าหญิงสาวลงมาจากข้างบนแล้ว ชลันธรยิ้มบางๆพลางมองเสี้ยวหน้าคมที่ระบายไปด้วยความสุข มือหนาของเขาตวัดพู่กันลงบนกระดาษเนื้อดีซึ่งหนีบติดไว้กับขาตั้งวาดรูปอย่างคล่องแคล่ว

กว่าหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านไป ชลันธรได้รู้จักนิสัยใจคอจิณลีกับมิรามากขึ้น และรู้แล้วว่าตัดสินใจไม่ผิดพลาดที่เลือกมากับเขา ไม่เช่นนั้นป่านนี้เธออาจจะเจออันตรายในป่าลึก ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง ถึงแม้จะยังหาทางกลับบ้านไม่ได้ แต่อย่างน้อยนี่ก็ถือเป็นเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นในยามตกยาก

จิณลีเป็นคนละเอียดอ่อนกว่าที่คิดมาก ทุกครั้งที่เห็นเขาพูดคุยกับม้าคู่ใจทั้งสองตัว ชลันธรอดยิ้มอย่างชื่นชมไม่ได้ นอกจากนั้นชายหนุ่มก็สุภาพกับเธอเสมอ แม้ว่าวันแรกจะดูดุเสียจนเธอหวาดหวั่น

ผู้ชายหน้าตาดี อ่อนโยน รักสัตว์ และงานศิลปะ นี่คุณสมบัติพระเอกนิยายของเธอชัดๆ รู้แล้วละว่าจะให้คาแร็คเตอร์พระเอกนิยายเรื่องใหม่ออกมาเป็นยังไง ขออนุญาตนะคะคุณจิณลี ดวงตากลมโตเคลิ้มฝันเมื่อนึกจินตนาการ

จังหวะนั้นเองที่พระเอกของชลันธรหันมาเห็นเข้าพอดี หญิงสาวรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ พลางยิ้มกลบเกลื่อนอาการเพ้อๆที่เผลอแสดงออกไปเมื่อครู่

“อ้าว มานานแล้วเหรอเอลลา” จิณลีเลิกคิ้วหนาขึ้น

“ค่ะ ขอโทษนะคะที่มาเงียบๆ พอดีเห็นคุณนั่งวาดรูปอยู่ เลยไม่อยากกวนสมาธิน่ะค่ะ”

เจ้าของบ้านพยักหน้ารับรู้ก่อนถาม “เมื่อคืนหลับสบายไหมครับ” ดวงตาคมเรียวสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายหวาน

เขาจ้องมองชลันธรนิ่งอยู่อย่างนั้นขณะรอคำตอบ จนหญิงสาวเริ่มประหม่าและขัดเขิน “ค่ะ สบายค่ะ สบายมากๆ”

“ผมดีใจนะ…ที่คุณชอบ” เจ้าตัวยิ้มขรึม น่าแปลกที่ไฝสีแดงเล็กๆใต้ดวงตาข้างขวาทำให้ใบหน้าคมดูมีเสน่ห์มากกว่าจะเป็นตำหนิที่ไม่ชวนมอง

“ค่ะ ชอบ”

“ชอบวิโอแบบผมใช่ไหม”

“คะ วิโอ” หญิงสาวขมวดคิ้วเรียวเข้าหากันเพราะจำคำนี้ไม่ได้

“เอลลาของวิโอไงครับ เอยา” อีกฝ่ายได้ทียั่วเย้าต่อ

แต่ครั้งนี้ชลันธรจำคำสุดท้ายได้ หญิงสาวจึงย่นจมูกใส่เขาด้วยความหมั่นไส้ “เสียใจด้วยค่ะ คุณไม่ใช่เอยาของฉัน”

“แต่คุณอาจจะเป็นเอยาของผม” ดวงตาสีเข้มมีประกายซึ้ง

“หยุดเล่นดีกว่าค่ะ ฉันกำลังเครียดอยู่นะ คุณลืมไปแล้วเหรอ” ชลันธรค้อนควัก

“เพราะไม่อยากให้คุณเครียดไงเอลลา ผมเลยต้องแกล้งแบบนี้ ขอโทษนะครับถ้าทำให้คุณไม่พอใจ” เขาบอกเสียงอ่อน

“เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น” หญิงสาวรีบบอกเพราะกลัวเขาจะเข้าใจผิด จากนั้นจึงเปลี่ยนเรื่อง “ว่าแต่...วาดรูปอะไรอยู่เหรอคะ” เธอถามอย่างสนใจ

เจ้าของบ้านหันกลับไปยังภาพวาดบนขาตั้งวาดรูป

“รูปพี่ชายผมกับคนรักของเขาครับ” รูปบนกระดาษนั้นคือชายหนุ่มร่างสูงในชุดประจำชาติภูทิวาสีเขียวเข้มกำลังจับมือกับผู้หญิงร่างบอบบางในชุดสีชมพูแบบเดียวกัน ยืนอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้สีสันสดใส โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาและท้องฟ้างดงาม ใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยความอิ่มเอม

ชลันธรไม่รู้ว่าตัวเองตาฝาดหรือเปล่าเมื่อเห็นรอยยิ้มของจิณลีที่ควรจะร่าเริงกลับแฝงรอยเศร้าอยู่ลึกๆ “ครอบครัวของพี่ชายคุณคงมีความสุขน่าดูเลยนะคะ” แม้จะสงสัยว่าทำไมเขาถึงยิ้มหดหู่แบบนั้น แต่เธอก็เอ่ยออกไปตามมารยาท

“ตอนนี้ทั้งสองคนเสียแล้วละครับ”

เมื่อเขากล่าวเช่นนั้น ชลันธรจึงเข้าใจสาเหตุ “เสียใจด้วยนะคะ” เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่เมื่อนึกถึงเรื่องราวในวันเก่า ใครก็คงอดคิดถึงบุคคลที่จากไปไม่ได้

“ขอบคุณมากครับ” ชายหนุ่มยิ้มรับอย่างซาบซึ้ง พร้อมกับชวนคุย “คุณชอบวาดรูปไหม”

“ไม่ค่อยค่ะ ฉันชอบเขียนหนังสือมากกว่า” แววตาของหญิงสาวสุขล้นเมื่อเอ่ยถึงงานอันเป็นที่รัก

“จริงเหรอครับ เกี่ยวกับอะไร” เขาถามอย่างตื่นเต้น

“นิยายค่ะ เขียนจนกลายเป็นอาชีพเลย”

ชายหนุ่มหรี่ตามองและยิ้มพราย จากนั้นเขาจึงถามต่อด้วยท่าทีสนใจ “แสดงว่าคุณเป็นคนชอบจินตนาการ”

“ค่ะ ในโลกของจินตนาการ เราสร้างสรรค์ทุกอย่างได้ตามใจตัวเอง มันทำให้ฉันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก” ชลันธรเล่าด้วยหัวใจพองโต พลางถามอย่างนึกขึ้นได้ “จริงสิคะ ฉันยังไม่ได้ถามเลยว่าคุณทำงานอะไร” เธอเดาว่าเขาต้องทำงานฟรีแลนซ์หรือที่ภาษาไทยเรียกว่างานอิสระแน่ๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับบ้านเช่นนี้

“ผมวาดรูปส่งขายที่ร้านขายภาพในเมืองครับ” จิณลียิ้มพราย หญิงสาวน่าจะเดาถูก

“ถ้างั้นคุณก็น่าจะชอบจินตนาการเหมือนกัน”

“แน่นอนครับ โลกแห่งจินตนาการเต็มไปด้วยความงดงาม มันเป็นโลกที่เราสามารถเข้าไปหลบอยู่ได้ในเวลาที่ไม่อยากรับรู้เรื่องจากโลกภายนอกที่วุ่นวาย ผมรักจินตนาการ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมเพ้อฝันจนลืมโลกแห่งความเป็นจริงหรอกนะครับ โดยเฉพาะถ้าความจริงตรงหน้างดงามกว่าจินตนาการ” ดวงตาคมเรียวมีแววอ่อนโยน

ชลันธรหลบสายตาเจิดจ้าที่มองมาอย่างขัดเขิน ก่อนจะรีบหาทางปลีกตัว “รบกวนคุณนานแล้ว ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” เธอหันหลังจะเดินออกไป

“เดี๋ยวครับ”

เจ้าของร่างระหงชะงักและหันกลับมามองชายหนุ่ม “คะ”

“ว่างๆมาเป็นแบบวาดรูปให้ผมบ้างได้ไหม เอลลา” เขายิ้มอ่อนโยน

สาวน้อยหน้าใสทำหน้าทึ่งๆ “พูดจริงเหรอคะ ฉันกลัวว่าจะทำให้รูปคุณออกมาไม่สวยน่ะสิ”

เขามองเธอด้วยดวงตาอบอุ่น “ไม่หรอก แบบของผมสวย ถ้ารูปจะออกมาไม่สวยก็คงเพราะฝีมือผมเองนี่ละ” หญิงสาวมีความสดใสเป็นธรรมชาติกว่าผู้หญิงที่เขาเคยเจอมาหลายเท่านัก แม้ตอนนี้เธอจะอยู่ในชุดนอน ไม่ได้แต่งหน้า ผมยาวสีดำขลับออกจะยุ่งเหยิง แต่ก็ยังน่ามอง

“งั้นก็ได้ค่ะ แต่ฉันอยู่นิ่งๆนานๆไม่ได้นะคะ อาจจะลำบากคุณตอนวาดสักหน่อย”

“สบายมากครับ” เขายักคิ้วหนาและขยิบตาให้






ชลันธรเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดลำลอง และพบว่าตอนนี้จิณลีกำลังตั้งโต๊ะอาหารอยู่ในครัว หญิงสาวเข้าไปช่วยเขาอีกคน ก่อนที่ทั้งสองจะนั่งทานอาหารเช้าด้วยกัน เพราะพี่สาวของชายหนุ่มเข้าไปในเมืองและจะกลับช่วงเที่ยงๆ

“คุณจิณลีคะ ฉันขอยืมโทรศัพท์คุณได้ไหม ฉันอยากลองติดต่อที่บ้านน่ะค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้น ถึงจะเชื่อว่าตอนนี้อยู่ต่างมิติกับประเทศไทยแน่ๆ แต่ก็อยากลองดูก่อน

เขาพยักหน้าพร้อมตอบ “รอเดี๋ยวนะครับ” จิณลีลุกไปหยิบเครื่องมือสื่อสารจากโต๊ะในห้องนั่งเล่นกลับมายื่นให้ แม้ว่าเสื้อผ้าของพี่สาวเขาจะหลวมไปหน่อยสำหรับชลันธร แต่เธอก็ดูน่ารักไปอีกแบบ ชายหนุ่มแอบมองและอมยิ้มเล็กน้อย

ชลันธรกล่าวขอบคุณก่อนจะกดหมายเลขของพี่ชาย ทว่าหลังจากกดโทร.ออกแล้วกลับเชื่อมต่อสัญญาณไม่สำเร็จ จากนั้นหญิงสาวก็นึกออกว่าใช้โทรศัพท์มือถือส่งอีเมลแทนได้ แต่พอจะกดปุ่มโทรศัพท์ ดวงตากลมใสก็ทอแสงอ่อนลงทันทีเมื่อพบว่าไม่มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ เธอยื่นเครื่องมือสื่อสารคืนให้ชายหนุ่มและเอ่ยเสียงเศร้า

“ฉันคงต้องหาทางกลับบ้านให้เร็วที่สุด ก่อนที่เรื่องราวทางนั้นจะวุ่นวายไปกันใหญ่” สีหน้าของเธอค่อนข้างเป็นกังวล แล้วหญิงสาวก็ถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้มกว่าเดิมเมื่อนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ “ฉันคิดว่าตัวเองคงจะข้ามมิติมาจริงๆแล้วละค่ะ ทั้งเรื่องเวลาพระอาทิตย์ตกดินที่ไม่เหมือนกัน ประเทศใหญ่ๆที่คุณไม่รู้จัก แถมโทรศัพท์มือถือยังไม่มีภาษาอังกฤษ แต่ยังดีที่อย่างน้อยฉันก็คงอยู่ในเวลาที่เทียบเคียงได้กับปัจจุบันของฉัน” ชลันธรเดาว่าอย่างนั้น เพราะถ้าอยู่ในอดีต ทุกอย่างไม่น่าจะทันสมัยอย่างนี้ หรือถ้าอยู่ในอนาคต สิ่งรอบกายก็ควรจะดูล้ำยุคมากกว่าที่เห็น

หญิงสาวเชื่อว่ากำไลหงส์ทิวาเป็นสื่อกลางที่ทำให้เธอมาที่นี่ได้ ดังนั้นถ้าหามันเจอ เธอก็จะกลับไปยังโลกที่จากมาได้โดยง่าย แต่ปัญหาคือเธอก็ไม่รู้ว่าตอนนี้กำไลเพชรวงนั้นอยู่ที่ไหน ทำไมมันถึงไม่ข้ามมิติมากับเธอด้วย เฮ้อ ถ้าไม่เจอกำไลหงส์ทิวา แล้วแบบนี้จะกลับบ้านได้ยังไงนะ

จิณลีพยักหน้าอย่างเห็นตรงกัน “ผมจะหาทางช่วยคุณให้ได้” แม้เอ่ยออกไปเช่นนั้น แต่หัวใจกลับร่ำร้องอยากให้หญิงสาวอยู่กับเขาต่อนานๆ

“ขอบคุณมากนะคะ” ชลันธรยิ้มอย่างซาบซึ้ง

ดวงตาสีเข้มฉายแววปลอบโยน “อย่าเครียดไปเลยเอลลา ความเครียดไม่ทำให้คุณหาทางออกได้เดี๋ยวนี้หรอก ระหว่างหาวิธีกลับบ้าน ที่นี่ยังมีอะไรดีๆให้คุณมีความสุขกับมันอยู่บ้าง คุณเป็นนักเขียนไม่ใช่เหรอครับ บางทีอาจจะได้ไอเดียใหม่ๆไปเขียนนิยายก็ได้”

เมื่อคิดในอีกมุม ชลันธรก็เห็นว่าจริงอย่างที่เขาพูด “ขอบคุณที่เตือนสตินะคะ”

“วันนี้ผมจะลองพาคุณกลับไปในที่ที่เราเจอกันครั้งแรก อาจมีประตูลับซ่อนอยู่ที่นั่นก็ได้” จิณลีเอ่ยด้วยน้ำเสียงของคนที่เชื่อในเรื่องนี้มากกว่าจะมีแววขบขัน เหตุผลหลักๆเลยก็เพราะเขาเห็นเธอโผล่มาต่อหน้าต่อหน้า นั่นละ

“จริงด้วย ฉันลืมนึกไปเลยค่ะ” คำพูดของเขาทำให้ชลันธรมีความหวังอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้เธอไม่ลืมบอกตัวเองให้เตรียมใจไว้รับความผิดหวังหากไม่ได้กลับบ้านอย่างที่คิด

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ชายหนุ่มและหญิงสาวก็เปลี่ยนเป็นชุดทะมัดทะแมง แล้วเดินเคียงกันไปที่คอกม้าด้านนอก วันนี้จิณลีปล่อยให้คีรีพักและเลือกใช้ม้าสีเทาตัวใหญ่แทน เขาจูงมันออกมาจากคอกพลางพูดคุยกับมันด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“วันนี้จะมีสาวมานั่งหลังแกด้วยนะเมฆา”

ขณะนั้นคีรีก็ส่งเสียงขึ้น จิณลีหันไปมองพลางหัวเราะ “อะไรคีรี ไม่อยากให้ชลันธรนั่งหลังเมฆารึ”

ม้าตาสีฟ้าอมเขียวสะบัดตัวจนขนบนแผงคอปลิวสยาย ชายหนุ่มยิ้มกว้างและบอกเสียงเอ็นดู

“วันนี้แกพักผ่อนดีกว่า ให้เมฆาออกไปวิ่งบ้าง” จิณลีพูดจบก็หันมาพยักหน้ากับชลันธรและช่วยเธอขึ้นม้า จากนั้นเขาจึงปีนขึ้นไปนั่งประกบด้านหลังเหมือนเคย “เพื่อความปลอดภัยนะครับ เอาไว้ถ้าคุณขี่ม้าเป็นเมื่อไหร่ผมจะปล่อยให้ขี่เอง”

เสียงนุ่มที่กระซิบข้างหูทำให้ใบหน้าชลันธรร้อนผ่าว อ้อมแขนแกร่งที่โอบรัดเธอไว้ก่อให้เกิดความรู้สึกหวามไหวไปทั่วกายพร้อมกับอุ่นซ่านแผ่เข้าไปภายในใจอย่างประหลาด






จิณลีบังคับม้าให้ค่อยๆวิ่งไปอย่างไม่รีบร้อนนัก พลางชี้ชวนให้ชลันธรชื่นชมบรรยากาศสองข้างทางซึ่งเต็มไปด้วยสีเขียวขจีของธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ แสงแดดยามเช้าไม่ได้ทำให้อากาศร้อนอบอ้าวแต่อย่างใด ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะลมเย็นที่พัดเข้ามาปะทะใบหน้าและร่างกาย

ขณะม้ากำลังวิ่งไปข้างหน้านั้นเอง พลันจู่ๆฟ้าที่มีแสงแดดก็แปรเปลี่ยนเป็นมืดครึ้มและเต็มไปด้วยเมฆสีดำทะมึนน่ากลัว ลมแรงพัดเข้ามาปะทะใบหน้าจนทั้งสองต้องหลับตา ใบไม้และฝุ่นปลิวว่อนในอากาศอย่างบ้าคลั่ง

ลมพัดแรงขึ้นเรื่อยๆจนก่อตัวเป็นพายุหมุนลูกใหญ่ จิณลีหรี่ตาขึ้นและพยายามบังคับม้าหนีพายุลูกนั้น ทว่าเมฆาตกใจยกขาคู่หน้าขึ้นพร้อมส่งเสียงร้องดัง ชายหนุ่มและหญิงสาวตกจากหลังม้ามากองอยู่บนพื้น ก่อนที่ม้าสีเทาจะวิ่งหนีไป และไม่นานต่อจากนั้นฝนห่าใหญ่ก็เทลงมา

จิณลีจับมือหญิงสาวไว้อย่างมั่นคง ประคองให้เธอลุกขึ้น “ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมอยู่ตรงนี้”

“เกิดอะไรขึ้นคะ” ใบหน้าของชลันธรเต็มไปด้วยความหวั่นวิตก ใครจะคิดว่าอยู่ดีๆอากาศกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไหวมั้ย รีบไปหลบใต้ต้นไม้ก่อนดีกว่าครับ” น้ำเสียงนั้นเจือด้วยความห่วงใย

หญิงสาวพยักหน้า แต่แค่ก้าวแรกเธอก็เดินไม่ไหว เพราะรู้สึกเจ็บข้อเท้าข้างขวาจากการตกหลังม้าเมื่อครู่ “โอ๊ย!”

“ให้ผมอุ้มดีกว่า” คนตัวโตไม่รอให้อีกฝ่ายอนุญาต ช้อนร่างระหงขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน และพาเธอไปหลบยังใต้ร่มเงาป่า เมื่อมาถึงก็ค่อยๆวางหญิงสาวลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง ก่อนนั่งลงข้างๆและถามอย่างใส่ใจ “เดี๋ยวผมนวดข้อเท้าให้นะ”

“ฉันนวดเองดีกว่าค่ะ” ชลันธรบอกอย่างเกรงใจ

“อย่าดื้อสิเอลลา” แววตาของเขาเหมือนผู้ใหญ่ดุเด็กอย่างไรอย่างนั้น

“แต่…”

จิณลีไม่รอฟังต่อ เอื้อมมือมาจับข้อเท้าข้างขวาและก้มหน้าก้มตานวดให้อย่างนุ่มนวล

ชลันธรมองเขาอย่างประทับใจ ไม่นึกเลยว่าผู้ชายตัวใหญ่จะนวดได้เบามือแบบนี้

“ดีขึ้นไหมครับ” จิณลีเงยหน้าขึ้นถาม

“ค่ะ แล้วนี่เราจะตามหาเมฆาเจอหรือเปล่าคะ”

“ถ้าฝนหยุดตก ผมจะลองส่งสัญญาณเรียกมันดู เพราะปกติเมฆาจะจำสัญญาณของผมได้” มือหนายังคงบรรจงนวดข้อเท้าให้อย่างนุ่มนวล

หลังจากจิณลีนวดให้จนรู้สึกสบายข้อเท้าขึ้นแล้ว หญิงสาวจึงบอกให้เขาหยุด “พอแล้วละค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”

“ยินดีครับ” เขาค้อมศีรษะเล็กน้อย ดวงตาสีเข้มเปล่งแสงพร่างพราย

สายฝนยังคงเทกระหน่ำลงมาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก ชลันธรเริ่มสั่นด้วยความหนาว พลันดวงตากลมก็เห็นจิณลีปลดกระดุมเสื้อแขนยาวสีเข้มของเขาอยู่ หญิงสาวจึงรีบถามด้วยความตกใจ

“จะทำอะไรคะ” ใบหน้าใสมีรอยตระหนก

“ผมเห็นคุณหนาว แค่จะถอดเสื้อห่มให้คุณครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงนุ่มนวล มือหนายังคงแกะกระดุมต่อจนถึงเม็ดสุดท้าย แล้วถอดเสื้อออกเผยให้เห็นหุ่นท่อนบนที่แน่นไปด้วยมัดกล้ามแข็งแกร่ง “ห่มไว้นะครับ จะได้อุ่นขึ้น” ชายหนุ่มคลุมเสื้อลงบนไหล่บางอย่างห่วงใย

“แล้วคุณล่ะคะ”

“ผมเป็นผู้ชาย การอดทนกับความหนาวไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย” เจ้าของใบหน้าคมยิ้มละไม

“แต่ว่า…” ชลันธรอดเกรงใจไม่ได้ เขาช่างดีกับเธอเหลือเกิน

“ถ้าคุณไม่ยอม ผมอาจจะต้องให้ความอบอุ่นคุณด้วยวิธีอื่น เลือกเอานะครับว่าอยากได้แบบไหน” ดวงตาคมกริบพราวระยับไม่น่าไว้ใจ

“งั้นฉันไม่ปฏิเสธก็ได้ค่ะ” หญิงสาวรีบบอก อุตส่าห์ชมไปหยกๆ แต่ยังไม่ทันขาดคำก็ส่งสายตากรุ้มกริ่มมาให้เสียแล้ว

“ปฏิเสธหน่อยก็ได้” เขายิ้มเย้าพลางหัวเราะในลำคอ

ชลันธรไม่ตอบ ทว่าใช้มือทั้งสองข้างกระชับเสื้อคลุมให้มิดชิดชนิดที่ว่าถ้าเข้าไปหลบอยู่ในนั้นได้คงทำไปแล้ว

ชายหนุ่มและหญิงสาวนั่งรอจนฝนสงบลงในเวลาต่อมา จิณลีผิวฝากส่งสัญญาณเรียกหาม้าคู่ใจ ไม่นานนักเมฆาก็กลับมาหาเขา

“คุณยังอยากเดินทางต่อหรือเปล่าครับ ผมกลัวว่าฝนจะตกลงมาระหว่างทางอีก” เขาถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย

ดวงตากลมฉายแววครุ่นคิด เงียบไปครู่หนึ่งจึงตอบ “ฉันยังอยากไปต่อค่ะ เรามาถึงขนาดนี้แล้ว”

สีหน้าของเขามีแววผิดหวังเล็กน้อย “ได้ครับ” จิณลีประคองหญิงสาวขึ้นหลังม้าสีเทาและขึ้นนั่งประกบเช่นเคย ก่อนบังคับม้าให้เดินทางต่อ ใช้เวลาพักหนึ่งก็มาถึงจุดที่เขาและเธอเจอกันครั้งแรก

ชายหนุ่มขี่ม้าวนเวียนอยู่ในบริเวณนั้นนานพอสมควร แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเกิดอะไรขึ้น ท้ายสุดชลันธรก็ถอดใจ คิดว่าคงมีทางเดียวที่เธอจะกลับบ้านได้ นั่นคือหากำไลหงส์ทิวาให้พบ ซึ่งหญิงสาวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะหามันได้ที่ไหน

“ขอบคุณมากนะคะที่พาฉันมาที่นี่”

“อย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะครับ ต้องมีวิธีที่ทำให้คุณกลับบ้านได้แน่” จิณลีปลอบโยน “แต่ตอนนี้เรากลับไปตั้งหลักที่บ้านก่อนดีกว่า”

“ค่ะ” เธอพยักหน้าเบาๆอย่างไม่มีทางเลือก



-------------------------------------------------------------------------------------------------

เนื่องในโอกาสวันพ่อ ขอให้คุณพ่อของนักอ่านทุกท่านมีความสุขมากๆและมีสุขภาพแข็งแรงตลอดไปนะครับ ^^



บุลินทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ธ.ค. 2556, 21:17:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ธ.ค. 2556, 22:56:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 1303





<< บทที่ 7 คนที่ตามหา   บทที่ 9 ทวงคืน >>
ketza 5 ธ.ค. 2556, 21:29:29 น.
เข้ามารอดูชวาลี จะไหมม๊ายยยย


บุลินทร 5 ธ.ค. 2556, 21:47:11 น.
คุณ ริญจน์ธร
วันนี้ต่างคนต่างมา ฮ่าๆๆ

คุณ ketza
คุณเกตซ่าเร็วมากอีกแล้วววว ลุงมิตรอาจจะมีเนื้อคู่เป็นเด็กสาวๆก็ได้นะครับ แอบเชียร์ให้คู่เด็กสิตาราอะ แต่ตาชามารชิงไปซะแล้ว ฮ่าๆๆ

คุณ อสิตา
งานมีนาคมจะไม่บวมแล้วนะะะ อิอิ

คุณ ดวงมาลย์
จิ้มกันไปมา เดี๋ยวไปจิ้มย้อนหลังให้เจ้าสาวด้วยยย พลาดไปหลายตอน

คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ
ฮ่า ลุงมิตรออกมาบ่อยกว่าพระเอกจริงๆครับ แต่ช่วงนี้ต้นๆเรื่อง ต้องออกมาจัดการหลายอย่างหน่อย ก่อนจะปล่อยให้เรื่องราวเป็นไปตามชะตากรรม ส่วนใครจะเป็นคนยิงชวาลีต้องติดตามครับ

คุณ ใบบัวน่ารัก
ลุงมิตรยังไม่ลงพุงนะครับ ฮ่าๆๆ มาริณยืนยันได้ว่าถึงจะเรียกลุง แต่หน้าตาหล่อเหมือนพี่ชายเบย

คุณ Zephyr
เค้าเรียกตามเฟอร์รึเปล่า ฮ่าๆๆๆ ชวาลี ชวาลี ชวาลี ไม่ใช่ชวาลานะะะ จ๊าก ว่าธศิญาทอดสะพานรึ ลูกสาวผู้ว่าการเชียวนะ จับเอลลาเฟอร์ไปประหารรรรร! ลุงมิตรเขาไม่ใช่คนโบราณนี่นา ต้องเล่นมือถือเป็นสิ แต่ใช้ไลน์รึเปล่าไม่รู้ ฮ่าๆๆๆ ลันมาแล้ว มัวฝันอยู่ ส่วนชวาลา เอ๊ย ชวาลีต้องรอดูกัน / มีการจะให้พี่มิ้งค์ไปก่อนแล้วจะยึดอัคนิรึ ฮ่าๆๆ

คุณ เพียงพลอย
แก้ไขเรียบร้อยแล้วคร้าบบ สงสัยช่วงนั้นคนเขียนกำลังง่วงพอดี ฮ่า ขอบคุณมากๆครับ

คุณ konhin
จะได้เจอกันตัวจริงหรือเปล่า หรือจะเจอแค่ในฝัน รอลุ้นกันครับ

คุณ goldensun
แก้ไขชื่อที่ผิดแล้วนะครับ ส่วนลูกดอกต้องรอเฉลยกัน สำหรับเครือญาติเมห์ฮรานี่มึนจริงๆครับ เกี่ยวโยงกันวุ่นวาย ในม่านทิวานี่พี่มิ้งค์ยังไม่มีลูกเลยครับ แต่ในโมรามีแล้ว เพราะไปอนาคตก่อน แล้วลูกพี่มิ้งค์ในอนาคตค่อยตกมาอดีต รอเอาใจช่วยชวาลีกับธศิญาต่อด้วยนะครับ

คุณ patok
อย่านะะะ อย่าจิ้นว่าแก่ มิตรยังไม่แก่นะครับ ฮ่าๆๆ ถึงมีนจะเรียกลุง แต่ว่ารูปร่างหน้าตาพี่แกยังหนุ่มแน่นนะ

คุณ lovemuay
จิ้นถูกแล้วครับ มิตรยังไม่แก่เบยยยย อายุเท่าๆพี่เชนเลยครับ ฮ่าๆ


ketza 5 ธ.ค. 2556, 22:16:43 น.
ฝนตก หนาวสั่น น่าจะมีกระท่อมกลางป่าสักหน่อย 555
เอิ่ม.... คิดไปเองหรอ ว๊า... คนอ่านลุ้นเก้อ >/////<


lovemuay 5 ธ.ค. 2556, 22:22:48 น.
แม๊ะ..อุตส่าห์ลุ้น กลายเป็นว่านางเอกฝันกลางวัน อิอิ


นักอ่านเหนียวหนึบ 5 ธ.ค. 2556, 23:24:30 น.
หูยยย เธอ ฝันกลางวันได้ขนาดนี้ จินตนาการสูงงงงงมาไปป่าว
จิณลีเค้าจับแค่เท้ายะ ดีนะที่ตื่นทัน ไม่ได้ทำเสียงจุ๊บจั๊บออกมาด้วย เขิลแย่เลย
เอ.....หรือว่า จิณลีจะไม่ใช่พระเอก!!!!!


ดวงมาลย์ 5 ธ.ค. 2556, 23:28:32 น.
มาดึกเบยยยยย // ขอบคุณค้าบบบ


Zephyr 6 ธ.ค. 2556, 00:37:40 น.
หูยยยยยยย มี่อ่ะ จิ้นค้างเลย เซงงงงง
อุตส่าห์มีม้า อุตส่าห์ฝนตก อุตส่าห์มาสองคน อุตส่าห์ตกม้า
อุตส่าห์มีอารมณ์ เอ้ย อารมณ์พาไป อุตส่าห์เสื้อเปียก เห็นหุ่นอันซ่อนรูป
สรุปนางจิ้นเอง เฮ้อออออ ชลันธร เธอหื่นไปนะๆๆๆๆ
เอ พี่ชายกะคนรัก นั่นคือชวาลากะธศิญารึป่ะๆๆๆๆ


Zephyr 6 ธ.ค. 2556, 00:40:57 น.
ประหารเฟอร์ทำไมๆๆๆๆ ดี!!!! ถ้าประหารเฟอร์ เฟอร์จะไปสิงๆๆๆๆ
เดี๋ยวไปสิงใครดีน้า พาลุงมิตรไปหาโมราบ้างหรอก
ย้อนไปจับมีนเชือด ยึดพี่เชนไปจับติ้ดดดดดกะมารี่ของมะม้า จับพี่มิ้งค์ไปยำ ยึดอัคน้อยยยยยย
ปล่อยพี่มูนอยู่ต่อ ครองคู่พี่ริท


konhin 6 ธ.ค. 2556, 08:51:32 น.
ฮ่าๆๆ ฝันต่อๆ


nako 6 ธ.ค. 2556, 15:10:03 น.
อ้าวฝัน 555


ฤดูฝัน 6 ธ.ค. 2556, 17:08:20 น.
ไม่น่าตื่นเลยนะ น่าจะฝันต่ออีกนิด อิอิ แหม่ อุตส่าห์ลุ้น 5555


goldensun 6 ธ.ค. 2556, 20:17:16 น.
ยังว่า นวดขาจนหลับไปเลย ที่แท้ จิ้นไปเองนี่เอง
ความผูกพันมาแล้ว จนเอาไปฝันเป็นตุเป็นตะได้เลยนะ ลัน แต่ก็น่าหรอกนะ หนุ่มอาร์ตออกจะเท่ห์
ท่าทางจะหาทางกลับยากซะแล้ว หรือต้องเจอคู่ธศิญาต่อ รอลุ้นค่ะ


patok 7 ธ.ค. 2556, 22:17:55 น.
จะได้กลับบ้านมั้ยคะเนี่ย นางเอกของหนู


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account