♥ ♥ ♥ หัวใจร้อยดาว [ชุด ทางลัดสลัดโสด สนพ.อรุณ] ♥ ♥ ♥
อะไรนะ! ถ้าไม่แต่งงานภายในเก้าสิบวัน

เธอต้องขึ้นคานไปตลอดชีวิตเหรอ บ้าไปแล้ว!



ดอกเตอร์ โมนา วิมาลิน อยากอุทานเป็นภาษาต่างดาวชะมัด

แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ ที่ไม่เชื่อเรื่องงมงาย

แต่รุ่นพี่ที่เจออาถรรพ์ก็ขึ้นคานกันไปแล้วถ้วนหน้า

เธอจะเสี่ยงเป็นคนต่อไปจริงเหรอ...



นับว่าพระเจ้ายังไม่ใจร้ายจนเกินไป

เพราะท่านส่ง ชัชวิน มาจีบเธออย่างออกนอกหน้า

ตามมาด้วย เมอร์ซิเออร์ โนแอล เดอแบร์มองต์ สุดหล่อ

แถมยังมี เอกชัย เทรนเนอร์หล่อล่ำ

กับ กฤต นักดนตรี อารมณ์ศิลป์มาให้เลือกพร้อมเพรียง



โมนาไม่ได้โชคดีขนาดนั้น

เพราะระหว่างหาทางลงจากคาน

เธอกลับต้องเผชิญปัญหาเรื่องการงานหนักหน่วง



ในท่ามกลางมรสุมที่พัดจนเธอซวนเซ

โมนาจึงได้เห็นความรักของใครบางคน...ชัดเจนขึ้นในหัวใจ

อยากรู้ก็แต่ว่า...อีกฝ่ายจะรักเธอมากพอ

และชวนเธอลงจากคานทันเวลาไหมหนอ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต

หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น

ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

เตรียมยิ้มและหัวเราะไปกับ ดอกเตอร์สาวตัวกลม ที่จะทำให้คุณเข้าใจนิยามของความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง

หัวใจร้อยดาว - เจ้าสาวร้อยชั่ง ในชุดทางลัดสลัดโสด


เขียนโดย สิริณ - ดวงมาลย์

จ่อคิววางแผงต่อจาก ใต้ปีกรักสีเพลิง เลยค่ะ

เชิญติชมกันได้เต็มที่เช่นเคย



ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย

ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ

(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )

ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ

www.facebook.com/SirinFC
Tags: โนแอล โมนา ขิมคราม รอยตะวัน สลัดโสด

ตอน: ตอนที่ ๒๒ (๗๐%)

เพราะอาการที่ข้อเท้าเพิ่งทุเลา โนแอลจึงเลือกรองเท้าไม่มีส้นออกจากตู้มาวางให้เธอสวมแทนรองเท้าหุ้มส้นแบบเรียบที่ใช้ประจำ แถมเขายังใช้บริการแท็กซี่สาธารณะแทนรถไฟฟ้าอีกด้วย ระหว่างขึ้นลิฟต์สำนักงานมาด้วยกันเขากุมมือเธอไว้เงียบๆ จนกระทั่งออกจากลิฟต์มานั่นแหละจึงออกตัว

“เดี๋ยวพักกลางวันผมจะไปที่ศูนย์ดูคาติ เอาแอร์เมสมาคืนคุณก่อน คุณกินข้าวกลางวันคนเดียวได้ไหม”

“ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม เผื่อจะได้ช่วยเป็นล่ามแปลอะไรต่อมิอะไรให้คุณยังไงล่ะ”

“เอ้อ...” เขาอึกอักเล็กน้อย “ไม่ต้องหรอก ผมจัดการเองได้” เขาแตะข้อศอกโมนาก้าวเข้าไปในสำนักงาน

“ตามใจนะคะ” โมนาเดินไปตามแรงรุนเบาๆนั้น แล้วก็ต้องแปลกใจ เพราะจู่ๆอุ้งมือแข็งแรงของอีกฝ่ายซึ่งแตะอยู่ตรงข้อศอกก็เกร็งเล็กน้อย หญิงสาวกำลังจะอ้าปากถาม แต่ก็ไม่ทัน...

“เชรี ทำตามที่ผมบอกช้าๆนะ เริ่มจากยิ้มให้หวานที่สุดแล้วพยักหน้าทีนึง” เขาคอยจนเธอทำตามที่บอกแล้วจึงกำกับต่อ “จัดเน็คไทให้ผมหน่อยสิ ผมไม่แน่ใจว่ามันเบี้ยวหรือเปล่า”

โมนาเดาได้ทันทีว่านี่ต้องเป็นละครอีกฉากที่มีผู้ชมมองอยู่จากมุมไหนสักแห่งแน่นอน เธอเลื่อนมือขึ้นไปจับปมเน็คไทผ้าไหมสีกรมซึ่งก็อยู่ในที่ทางดีอยู่แล้ว

“คุณผูกเน็คไทไม่แน่นเลยนะคะโนแอล เดี๋ยวฉันจัดการให้ดีกว่า” ผู้อำนวยการสาวเอ่ยเสียงหวาน ขณะแกล้งขยับปมให้แน่นขึ้นเพื่อแกล้ง ‘ลูกไก่ในกำมือ’

มันน่าขำชะมัดที่อุ้งมือเขาบีบข้อศอกเธอแน่นเป็นการแก้แค้น ขณะที่ดวงหน้าหล่อเหลายังยิ้มอ่อนโยนเรียกคะแนนสุดชีวิต “นี่คุณจะฆ่าผมหรือไงนะเชรี” เขากัดฟันเอ่ยถามลอดไรฟันทั้งที่ริมฝีปากยังแต้มยิ้ม

“เอาละ หล่อสมบูรณ์แบบแล้ว” เธอปัดฝุ่นที่ไม่มีอยู่จริงตรงบ่าเสื้อของชายหนุ่มเบาๆ พลางขยับเข้าไปใกล้เพื่อกระซิบ แต่แล้วกลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่โชยมาสัมผัสฆานประสาทก็ทำให้ชะงัก เพราะมันเป็นกรุ่นกลิ่นหอมสะอาดรบกวนจิตใจแบบเดียวกับที่เธอจำได้จากเสื้อหนังที่สวมวันซ้อนบิ๊กไบค์ของเขานั่นเอง

“ฉันชอบน้ำหอมของคุณนะ” โมนาพึมพำเบาๆ หน้าร้อนจนคร้านจะนับแล้วว่า ตั้งแต่เช้ามีอาการเช่นนี้กี่ครั้ง

“ผมดีใจที่คุณชอบ” เขาอดใจไม่ได้ ใช้มือข้างหนึ่งจับแก้มอิ่มนั้นด้วยความมันเขี้ยว

“เขาไปหรือยังคะ” โมนาก้มหน้างุด ถามเสียงสั่น

“คุณหมายถึงใครเหรอ”

“ก็...คุณให้ฉันจัดเน็คไทให้ ไม่ใช่จะแกล้งเล่นละครอวดใครหรอกเหรอ” โมนาเงยขึ้นสบตาเขาด้วยความฉงน

จอมวายร้ายส่ายหน้าทำทีเจ้าเล่ห์ “ไม่มีใครมองอยู่หรอก ผมแค่อยากให้คุณจัดเน็คไทให้ผมก็แค่นั้นเอง”

โมนาเพิ่งตระหนักว่าเสียรู้คนแผนเยอะเข้าแล้ว เธอจึงกำหมัดตุ๊ยท้องอีกฝ่ายเบาๆ “เยอะนักนะโนแอล คราวหน้าลูกเล่นมากอย่างนี้ ฉันจัดเต็มแน่ๆ” หญิงสาวตวัดค้อนใส่ “ฉันไปทำงานก่อนละ”

“ตกลงจ้ะเชรี ผมรักคุณนะ”

โมนาไม่ตอบ แต่หมุนตัวเดินปราดๆไปที่ห้องทำงานอย่างรวดเร็ว เธอมองประตูห้องแล้วนึกได้ว่ากุญแจทั้งหมดอยู่ในกระเป๋า และตอนนี้กระเป๋าของเธอก็อยู่ในกล่องเก็บของท้ายรถของโนแอลอีกทอด หญิงสาวเท้าเอวด้วยความหงุดหงิดไม่ได้ดังใจ

พิชญาซึ่งมีโต๊ะอยู่ใกล้ประตูห้องเธอที่สุดหันมาส่งยิ้มและถามอย่างมีน้ำใจ “มีอะไรหรือเปล่าคะคุณโม”

“ลืมกุญแจห้องน่ะ เซ็งชะมัด” โมนาบอกพลางยักไหล่

“ให้พีชโทร.หาคุณณรงค์ไหมคะ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลต้องมีกุญแจ ‘ทุกห้อง’ ในออฟฟิศ”

โมนาขมวดคิ้วกับความรู้ใหม่ “เขามีกุญแจทุกห้องจริงๆเหรอ”

“จริงสิคะ” พิชญาย้ำ ก่อนเรียกโทรศัพท์ไปยังห้องผู้จัดการฝ่ายบุคคล ครั้นได้ยินแต่เสียงสัญญาณสายว่าง จึงมองนาฬิกา ก็เห็นว่าอีกเกือบยี่สิบนาทีกว่าจะถึงเวลาเข้างาน “คุณณรงค์น่าจะยังไม่มาค่ะ สายว่างแต่ไม่มีคนรับ”

ผู้อำนวยการสาวจึงเดินไปนั่งที่โต๊ะของนิสาซึ่งอยู่ไม่ห่างอย่างจำใจแทน หญิงสาวเคยอ่านตำรามานานแล้วว่าอยากรู้นิสัยของใคร ให้เริ่มจากสำรวจโต๊ะทำงานของฝ่ายนั้น เธอจึงอมยิ้มนิดๆเมื่อเห็นหลอดพลาสติกสีชมพูบรรจุโลชั่นทาผิวฉลากบอกยี่ห้อของเครื่องสำอางดังจากฝรั่งเศสซึ่งวางแอบอยู่ข้างแจกันเปล่าบนโต๊ะของนิสา

“ขนาดโลชั่นยังใช้กลิ่นมิราเคิลของลังโคมเชียว หลอดนึงไม่ใช่ถูกๆนะเนี่ย” โมนาส่ายหน้า มองไปทางพิชญาซึ่งกำลังจับตาเธออยู่ “เพิ่งรู้ว่าพนักงานของฉันรสนิยมดีมาก”

พิชญายิ้มบางๆ ถามอย่างเอาใจแทน “คุณโมดื่มกาแฟพลางๆไหมคะ เดี๋ยวพีชไปสั่งแม่บ้านให้”

“ไม่ต้องหรอก ขอบใจ ว่าแต่ไปเที่ยวปีใหม่เป็นไงบ้าง เห็นคุณวสันต์วางแผนไปถึงวังน้ำเขียวเลยนี่”

“ก็ดีค่ะ อากาศหนาวดี” อีกฝ่ายตอบสั้นๆ แล้วเสหันไปเปิดคอมพิวเตอร์แทนการตัดบท

โมนาประหลาดใจที่อีกฝ่ายดูไม่กระตือรือร้นที่จะคุย แต่ก็ปัดความสงสัยออกจากใจ ที่ผ่านมาใช่ว่าเธอเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดีนัก บางทีพนักงานอาจอึดอัดที่จะพูดคุยเรื่องอื่นนอกเหนือจากงานก็เป็นได้

ต้องโทษโนแอลแหละที่ทำให้เธอมีความสุขจนอยากพูด อยากบอกใครสักคน!

เมื่ออีกฝ่ายหันไปสนใจงานของตน โมนาจึงหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่มากดเล่นทำความคุ้นเคยไปพลางๆ เธอเพิ่งเห็นว่าข้อความที่จะส่งกลับไปให้กฤตยังค้างอยู่ในกล่อง ไม่ได้ถูกส่งออกไป ทำให้นึกได้ว่าถูกขัดจังหวะโดยสายเรียกเข้าของเอกชัยนั่นเอง

แค่นึกว่าจะต้องไปพบเขาเย็นนี้ตามที่อีกฝ่ายขอร้อง โมนาก็เผลอเบ้หน้าอย่างอดไม่ได้ เรื่องที่เคยรับปากเอกชัย มาบัดนี้กลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เสียแล้ว มันช่างเป็นสถานการณ์น่ากระอักกระอ่วนซึ่งเธอไม่รู้จะอธิบายรายละเอียดให้เอกชัยฟังอย่างไรจึงจะทำร้ายความรู้สึกอีกฝ่ายน้อยที่สุด

ยังไม่แปดโมงครึ่งดี โมนาลองโทร.ไปหาผู้จัดการฝ่ายบุคคลอีกครั้ง คราวนี้ปลายทางรับสายรวดเร็ว และเมื่อได้รับแจ้งความประสงค์ ฝ่ายนั้นก็รีบนำกุญแจสำรองมาไขห้องทำงานให้เธอทันใจ ทั้งยังตามเข้ามารายงานว่า

“เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่คุณโมมอบหมายให้ลูกน้องไปธุระที่ธนาคารน่ะ น้องเขาถูกกระชากกระเป๋าแล้วก็เป็นลมอยู่แถวๆหน้าธนาคารนั่นเอง”

โมนาตกใจ “แล้วเป็นอะไรมากไหมคะ”

“หมดสติไปไม่นานหรอกครับ แต่กระเป๋าสตางค์ถูกกระชากไป โทรศัพท์ก็ไม่มี เลยติดต่อใครไม่ได้สักคน สุดท้ายเขานึกอะไรไม่ออก เลยโทร.เข้าบริษัทให้คอลเซ็นเตอร์ติดต่อผมไปจัดการแทน ผมพยายามโทร.หาคุณโมขออนุมัติค่าใช้จ่ายกรณีฉุกเฉิน แต่คุณปิดเครื่อง ผมเลยตัดสินใจเอาบัตรเครดิตบริษัทไปจัดการชำระค่ารักษาพาเขาออกจากโรงพยาบาลเลย เดี๋ยวผมจะทำเอกสารเบิกเข้ามาอีกทีนะ”

น้ำเสียงของณรงค์มีแววตำหนิชัดเจน โมนามองสบตาเขานิ่งๆ แปลกใจเล็กน้อยที่พบร่องรอยเย้ยหยันบางเบาแฝงอยู่ในนั้น หญิงสาวถอนหายใจ ดูเหมือนในสำนักงานนี้จะไม่มีใครชอบหน้าเธอเลยสักคน!

“ได้ค่ะ ส่งเข้ามาเลย เดี๋ยวโมจัดการให้ แล้วน้องเป็นยังไงบ้างคะ” โมนาจดข้อความใส่สมุดโน้ตช่วยจำ

“หายดีแล้วละ เดี๋ยววันนี้ก็คงจะเข้ามาทำงาน ผมสั่งไว้แล้วว่าให้เข้ามารายงานตัวกับคุณโมด้วย”

โมนาพยักศีรษะรับรู้ คอยจนอยู่ตามลำพังในห้องทำงานอีกครั้ง แล้วจึงใคร่ครวญรายละเอียดของเหตุการณ์ทั้งหมดช้าๆ บังเอิญหรือเปล่าที่พนักงานของบริษัทถูกกระชากกระเป๋า หลังจากฝ่ายนั้นแจ้งความเรื่องเช็คหาย แถมโทรศัพท์ของเธอก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้ใครหลายคนติดต่อเธอไม่ได้

หากนี่เป็นแผนของใครสักคนที่จงใจยื้อเวลาเรื่องการตามรอยเช็คที่หายไป ก็ต้องนับว่าคนบงการทำสำเร็จดังที่ตั้งใจ โมนาชั่งใจเล็กน้อยจึงตัดสินใจเรียกสายในไปหาเจ้านาย “ขอคุยด้วยห้านาที คุณสะดวกไหมคะโนแอล”

“ผมกำลังจะประชุมทางโทรศัพท์กับสาขาสิงคโปร์ ถ้าเรื่องด่วนคุยกันทางนี้เลยก็ได้”

โมนาจึงเล่ารายละเอียดเรื่องเช็คที่หายไปให้เขาฟังอย่างรวบรัด พร้อมทั้งลงท้ายว่า “ทางแบงก์จะให้รายละเอียดของบัญชีที่รับเงินก้อนนั้นไปก็ต่อเมื่อมีหนังสือจากบริษัทแจ้งขอเข้าไปเท่านั้น”

“เรื่องนั้นไว้ผมให้คุณวสันต์จัดการให้ คุณไม่ต้องห่วง มีอะไรอีกไหม”

“ไม่มีอะไรแล้วละ ขอบคุณนะคะโนแอล”

“ไม่ว่าจะในฐานะเจ้านายหรืออย่างอื่น ผมก็ยินดีเสมอ” เขาทิ้งท้ายสั้นๆแล้ววางสายไปอย่างอ้อยอิ่ง

ปล่อยให้คนปลายสายอมยิ้มกับตัวเอง นี่ถ้ารู้ว่ามีแฟนแล้วโลกสดใสน่าอยู่อย่างนี้ เธอคงมีแฟนไปตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว!


(จบ ๗๐%)




สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ธ.ค. 2556, 00:00:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ธ.ค. 2556, 00:00:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 1717





<< ตอนที่ ๒๒ (๓๐%)   ตอนที่ ๒๒ (จบตอน) >>
konhin 9 ธ.ค. 2556, 01:24:51 น.
หวานซ้าาาาาาาาาาาาาาา


sai 9 ธ.ค. 2556, 09:40:47 น.
หวานได้อีกกกก แต่หวานยังี้พายุคงเตรียมโถมเปล่าหว่าาา


นักอ่านเหนียวหนึบ 9 ธ.ค. 2556, 09:51:19 น.
หูยยยย ไรเตอร์ขยันมากกกกก
มีทั้งเรื่องบู๊ๆ ในออฟฟิศ และก็เรื่องหวานๆ ของโมนา
น่าร๊อกอ๊ะ


ree 9 ธ.ค. 2556, 13:11:15 น.
ทุกอย่างดูสุดวิสัยไปซะหมด


Zephyr 9 ธ.ค. 2556, 20:39:36 น.
ทุกอย่างดูประจวบเหมาะ
เวลาเฉ่ง เอาทั้งกระบิเลยได้มั้ยคะ
ท่าทางจะหลายคนนะเนี่ย ขบวนการโกงนี่น่ะ


goldensun 9 ธ.ค. 2556, 23:02:23 น.
เจอขบวนการขี้โกงซะแล้ว แถมโมนายังไม่ระแวงอีก โนแอลจะช่วยโมนาได้ทันมั้ย เงินโดนเอาไปเยอะแล้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account