รักดังฝัน
เขา นิมมาน อดีตชาติเป็นถึงพระยานิมมาน ผู้ที่มีใจปฏิพัทธ์ต่อลูกสาวของศัตรู จนตัวตาย เขาก็พร้อมยกวิญญา แก่ยาใจที่รักสมิตาเพียงผู้เดียว แต่ผ่านมาพันปี นิมมานก็พบว่าความรักของเขาหมดลง ไอ้รักนิรันดร์ไม่มีจริงหรอก “ชาตินี้เจ้าจะแต่งงานกับใครก็ช่าง แต่ก่อนเจ้าจะพบกับไอ้มนุษย์เนื้อคู่ของเจ้า ข้าจะทำให้เจ้ารักข้าให้ได้ก่อน”

เธอ สมิตานัน ผู้หญิงสวย ดำรงตำแหน่งพิธีกรรายการดัง หลอนดีนัก...เดี๋ยวจัดให้ แต่จริงแล้ว คนที่ทำเก่งหน้าจอ แท้จริงกลับกลัวผีขึ้นสมอง ทั้งที่ไม่เคยเจอ แต่พอปุบปับกระหน่ำได้เจอจริง สมิตานันก็อยากให้ทุกอย่างเป็นแค่ฝัน...เอ หรือที่จริงเธอไม่ได้ฝัน


Tags: หลอนโรแมนติก แฟนตาซี นิมมาน สมิตา

ตอน: บทที่ 26 : เขารู้ว่าฉันรัก

ภาพลูกบาสสีส้มน้ำหนักไม่เบาลอยกระทบศีรษะของสมิตานันต่อหน้าต่อตาเขาทำให้นิมมานตกตะลึงไม่น้อย เด็กชายข้างบ้านวัยไม่ถึงหกขวบยืนมองผลงานตัวเองก่อนจะเท้าสะเอวหัวร่อสะใจกับอาการหน้าซีด ขาพับ จมูกเลือกกำเดาไหลของผู้โดน นิมมานไม่รู้สึกว่าตัวเองจะเคยเกลียดเด็กได้เท่าวันนี้มาก่อนเลย

“คุณช่วยดูแลลูกของคุณให้ดีหน่อยนะครับ” นิมมานส่งเสียงว่าเพื่อนบ้านของสมิตานันอย่างอดไม่อยู่ ภาพหญิงร่างท้วมวัยไม่ถึงสี่สิบรีบอุ้มลูกตัวแสบจอมร้ายกาจเข้าบ้าน บอกชัดว่าจะสั่งสอนลูกให้ดีกว่านี้ ชายหนุ่มไม่มีเวลามาใส่ใจอีก นอกจากช้อนร่างเบาตัวอุ่นๆ เข้าไปในบ้าน รู้สึกว่าศีรษะคนเจ็บจะซบที่ตำแหน่งหัวใจเขาอย่างพอดิบพอดี

ริมฝีปากของเจ้าหล่อนมีรอยยิ้มแต้ม นี่ถ้าไม่มีรอยเลือดกำเดาไหลยังไม่หยุด เขาคงเชื่อว่าเธอกำลังฝันดี

“โดนลูกบาสจนสมองมึนไปเลยหรือไง”

คำว่าบาสปลุกคนที่คิดว่าโดนจู่โจมด้วยความรักเบิกตาโพลง อาการมึน ภาพหมุนจนต้องหรี่ตาขมวดคิ้ว จงใจสูดกลิ่นกายหอมของเขา แต่ต้องทำหน้าเบ้เพราะของเหลวในจมูก มองรอยเลือดบนเสื้อเชิ้ตของนิมมานหน้าของเธอก็เริ่มเสีย

“ขอโทษนะคะ เสื้อคุณเลอะเลย” เสียงอ่อย หน้าก้มสำนึกผิดเมื่อนั่งเรียบร้อยบนโซฟาตัวเดิม ยกหลังมือปาดเช็ดเลือดตรงจมูก ก็ถูกมือใหญ่ของนิมมานจับรั้งไว้ แววตาของเขาดุจัด

“ก้มหน้าไว้ เดี๋ยวผมไปหยิบทิชชู่มาเช็ดเลือดกำเดาให้”

คนโดนสั่งทำตามอย่างเคร่งครัด บนหน้าประดับรอยยิ้มปลื้มใจกับอาการใส่ใจ เสี้ยวหน้าด้านข้างของเขาตอนที่บรรจงพินิจหน้าเธอ จนเธอต้องเหลือบมองขึ้นดวงตาเป็นประกายสดใส ถึงเขาจะตีบึ้งเธอจะใส่ใจทำไม แค่นิ้วของเขาบีบจมูกเธอไว้ให้ สั่งให้เธอหายใจทางปาก มืออีกข้างบรรจงเช็ดเลือกกำเดาออกให้อย่างเบามือ

ตอนนี้ต่อให้เขาเกลียดเธอ เธอก็ไม่ว่าอะไร

ริ้วสีแดงพาดบนแก้มนุ่มที่เขาประคองไว้หลังจากเลือดไม่ได้ไหล กับอีกมือที่บีบจมูก ทำให้เขาเลื่อนสายตาไปไหนไม่ได้ แววตาที่ทอประกายความรักของเธอทำให้เขามองตอบกลับไป มั่นใจว่านั่นคือคำตอบที่เขาตามหาจนมาถึงที่นี่

เขาอยากรู้ความรักของเธอ...ในขณะที่เขาไม่มีคำตอบในเรื่องนั้นของตัวเองเลย

อยากรู้ก็มา แต่ถ้าเธอถามกลับก็คงไม่มีให้

ไม่ถึงห้านาที เกมจ้องตาก็รู้ผล สมิตานันรู้สึกว่าคุ้มค่ามากแล้วกับการนั่งจ้องตาของคนที่เธอรัก แต่เขาในตอนนี้ไมได้รักเธอตอบ ถ้าเกิดเธอนึกอยากเล่าเรื่องระหว่างเธอกับเขาที่ผ่านมาให้ฟัง เขาจะหาว่าเธอบ้าหรือเปล่า...บางทีอาจกระแทกประตูใส่หน้าเธออีกหลายๆ ครั้ง ไม่ฟังตั้งแต่แรก

“ขอบคุณนะคะ” ทิ้งกองกระดาษทิชชู่ย่อมๆ โกยลงถังขยะ เทอาหารแมวใส่ในจานอาหารของถึกตามที่ตั้งใจจะทำก่อนที่นิมมานจะมา การกระทำของสมิตานันอยู่ในสายตาของแขกตัวโตอยู่ตลอด หลายครั้งที่หญิงสาวรับรู้ว่าถูกจ้อง จะเงยหน้าขึ้นมองและโปรยรอยยิ้มหวานมาให้

เพียงแค่เห็นนิมมานจะรู้สึกมีประกายไฟในใจของเขา...เขารู้สึกถูกสะกดด้วยตา และรอยยิ้มของสมิตานันเข้าอย่างจัง

“จะกลับแล้วเหรอคะ...เอ่อ แล้วคำถามที่คุณถาม” ร่างสูงกำลังผละไปหน้าประตู คำถามที่เขาถามทิ้งไว้ก่อนเธอจะโดนน็อคด้วยลูกบาสจนมองเห็นดาวกลางวันแสกๆ ทำให้หน้าขึ้นสีชมพู เธออยากจะบอกให้เขาอย่าเพิ่งไป แต่ไม่มีสิทธิ์หรือฐานะพิเศษไปรั้งเขาไว้

“ผมได้คำตอบแล้ว”

เธอไปตอบเขาตอนไหน...คนอยากตอบย่นจมูกขัดใจ เดินออกไปส่งเขาหน้ามุ่ย รถจักรยานที่มาพร้อมเสียงกระดิ่งมาจอดเทียบหน้าประตูรั้วบ้านก่อนที่เธอจะได้ส่งแขกคนแรกเสียอีก

“หมอธี” คุณหมอสวมแว่นยิ้มตาปิด มือชูปิ่นโตขึ้นโบกไปมา ไม่ทันสังเกตเห็นแขกอีกคนของบ้านอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ


สมิตานันจัดการอาบน้ำผลัดชุดในเวลาไม่ถึงสิบนาทีลงมารับแขกถึงสองคน อดแปลกใจกับการเห็นนิมมานยังนั่งไขว่ห้างอ่านหนังสือที่เธออ่านค้างบนโซฟา ในหัวมีแต่คำถาม ไหนเขาบอกว่าจะกลับแล้วไง เสื้อเชิ้ตสะอาดสีขาวส่งไปให้เขา

“เปลี่ยนเสื้อก่อนเถอะค่ะ นี่ของพ่อฉันเอง นานๆ พ่อกับแม่มาพักที่บ้านนี้ที ก็เลยพอมีเสื้อผู้ชายบ้างค่ะ ไว้ฉันซักเสื้อคุณเสร็จแล้วจะรีบเอาไปคืน”

รอยเลือดเป็นดวงบนเสื้อขาวทำให้เธอเพิ่งนึกออกว่าต้องรับผิดชอบ นิมมานรับเสื้อไป มือของทั้งคู่เผลอสัมผัสกัน เธอไม่รู้หรอกว่าเขาจงใจหรือเปล่า แต่มันทำให้เธอรีบชักมือกลับแทบไม่ทัน และสีหน้าบึ้งตึงของเขาที่เงยขึ้นมาต้องทำให้เธอคิดว่าตัวเองทำอะไรผิดอีก

“เปลี่ยนเสื้อเสร็จเดี๋ยวคุณจะกลับเลยหรือเปล่าคะ”

“สบายดีแล้วไล่เชียวนะ”

อ้าว...แล้วใครกันล่ะที่จะกลับก่อนหน้า สมิตานันเม้มปาก อดถลึงตาใส่อย่างเอาเรื่องบ้างไม่ได้ อาการเหมือนคนกินนมบูด นึกรู้ว่าต่อล้อต่อเถียงไปก็มีแต่จะแพ้เปล่าๆ

“ถ้าไม่รีบจะอยู่ทานข้าวเช้าด้วยกันก่อนก็ได้ค่ะ อาหารฝีมือพี่หมออร่อยมาก เดี๋ยวฉันจะได้ไปช่วยพี่หมอจัดเพิ่มอีกที่”

นิมมานมองตามสายตาอันประทับใจของสมิตานันไปยังผู้ชายหุ่นผอมของธนิทธิที่กำลังก้มๆ เงยๆ จัดเตรียมอาหารเช้าให้กับน้องสาวของแฟน หลังจากโดนรียากรไหว้วานให้มาทำให้ ซึ่งนิมมานไม่ได้รู้เหตุผลของการมาเลย

“ไม่หิว จะกลับเลย”

“ตามใจค่ะ ขอบคุณมากๆ ที่ช่วยดูแลกันมานะคะ” เธอเองก็ไม่ใช่คนง้อใครนัก ยิ่งอาการกระแทกกระทั้น วาจาห้วนใส่ของเขาจะด้วยตั้งใจหรือไม่ เธอเองก็แอบเจ็บที่ใจพอควร จะรั้งคนไม่เต็มใจจะอยู่ให้ได้อะไรขึ้นมา

ร่างสูงลุกไปเปลี่ยนเสื้อเงียบๆ ไม่มองหน้าเจ้าบ้านอีก สมิตานันมองอาการนั้นพลางถอนหายใจ เดินหน้าเครียดเข้ามานั่งแปะบนเก้าอี้ตัวหนึ่งที่สอดอยู่ตรงโต๊ะอาหาร เห็นสายตาใคร่รู้ของธนิทธิสลับกับมองหน้าเธอก็รู้ว่าเขาจะถามอะไร

“สงสัยว่าเขาเป็นใครใช่ไหมคะ”

“ก็น่าสงสัยนี่นา พอเห็นหน้าพี่ก็ตีหน้ายักษ์ใส่ เพิ่งเจอกันครั้งแรกแท้ๆ”

“เขาไม่ได้อารมณ์เสียใส่พี่หมอหรอก เขาหงุดหงิดใส่ตี้มากกว่า ตี้ตามอารมณ์เขาไม่ทันเหมือนกัน” บ่นอุบพอได้ระบายความคับข้องใจบ้าง กลิ่นอาหารหลายเมนูที่ธนิทธิจัดการเตรียมมาให้พร้อมสรรพโดยที่ตัวเองไม่นั่งลงทำให้หญิงสาวเลิกคิ้ว “อย่าบอกนะคะว่าแอบกินข้าวกับพี่ลี่ก่อนมา ลำบากเอามาฝากให้ตี้อีก ขอบคุณนะคะ”

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก น้องตี้ก็เหมือนน้องพี่”

“นึกว่าน้องของพี่ลี่ก็เหมือนน้องของพี่เสียอีก” คนนั่งมองอาหารเย้าอย่างอารมณ์ดี หัวเราะคิกคักกับการเห็นผู้ชายหน้าแดง โชคดีจริงๆ ที่เธอกำหนดเรื่องราวให้เป็นไปได้ด้วยการเปลี่ยนคนดำเนินเรื่องนิดหน่อย โลก และเวลานี้เธอสามารถสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้

คงยกเว้นความรู้สึกของนิมมาน...เธอเข้าถึงไม่ได้เลย

“เขาไว้ใจได้ใช่ไหม ถ้าไว้ใจไม่ได้เดี๋ยวพี่จะอยู่เป็นเพื่อนทั้งวันเลย”

“เห็นอย่างนั้นเขาไม่ทำอะไรตี้หรอกค่ะ วางใจได้ ออกจะแขยงตี้ขนาดนั้น”

ธนิทธิทำหน้าเข้าใจ จากใจความเขาคิดไปถึงรสนิยมที่ผิดเพี้ยนของอีกฝ่ายด้วย ผู้หญิงสวยๆ คุยสนุกแบบสมิตานันใครพบใครเห็นก็ตกหลุมรักได้ไม่ยาก อย่างเขายังเป็นแฟนรายการหลอนดีนักตั้งนาน จนกระทั่งรู้จักกับรียากร เขาถึงรู้ว่าความรู้สึกชอบใครสักคนแบบประทับใจในดารา กับความรู้สึกรักหรือชอบอย่างคนที่พร้อมจะเคียงกันตลอดชีวิต...แตกต่างกันสิ้นเชิง

โทรศัพท์ของธนิทธิดังขึ้น ชายหนุ่มกดรับคุยไม่กี่ประโยคก็รับคำว่าจะรีบออกไป “ที่คลินิกมีเคสหมาโดนรถชนเข้ามาพี่ต้องรีบไป”

“รีบไปเถอะค่ะ”

ธนิทธิพยักหน้ารับน้องสาวของรียากร ปั่นจักรยานออกไปหน้าซอยสถานที่ตั้งของคลินิกอย่างรวดเร็ว คนไข้อ่อนๆ รีบหันมาสนใจอาหารบนโต๊ะต่อ ข้าวคำแรกเกือบเข้าปาก เงาสูงที่ทาบเบื้องหลังทำให้เธอหยุดมือ ไม่ต้องหันไปมองเธอก็รู้ว่าเป็นใคร

แต่ถ้าไม่หันไป เงาใหญ่ๆ คงสะกดเธอไว้จนทานอาหารไม่ได้ “มีอะ...” คำพูดถูกกลืนลงคอไปหมดกับระยะของใบหน้าอีกฝ่ายที่ก้มลงมาจนจมูกเธอเฉียดปลายคางของเขา สีหน้าตื่นตะลึงของคนสองคนสบกัน หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้น เลือดสูบฉีดขึ้นมาบนหน้าคงแดงลามไปถึงใบหู

เธอเห็นเงาของตัวเองในตาของเขา เขากำลังมีแต่ความไม่เข้าใจ สับสน...มีอะไรให้สับสน

“กินข้าวด้วยกันไหมคะ” ระงับความตื่นเต้นกับความใกล้เพียงแค่ลมหายใจกลั้น ถึงเขาจะไม่ได้แตะต้องตัวเธอ แต่สายตาระยะประชิดแบบนี้ เธอยิ่งต้องถดคอหนี เผลอกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกใหญ่

พอร่างสูงกลับไปยืนตรงได้อีกครั้ง สมิตานันเผลอพรูลมหายใจด้วยความโล่งอก เธออึดอัดกับสายตาค้นหาคู่นั้น แต่ก็นึกเสียดาย อยากคว้าเขา รั้งเขาไว้ใจแทบขาด

“ไม่ล่ะ เสื้อนี่เดี๋ยวผมเอามาคืน ส่วนเสื้อผม ผมจะให้แม่บ้านซักเอง” ไม่อยู่รอฟังความเห็น หลังจบประโยคที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุดเขาก็รีบผละจากไป สมิตานันไม่ทันเดินมาถึงหน้าประตูเพื่อส่งเขา รถของเขาก็จากไปเสียแล้ว

อาการแปลกของเขาอยู่ค้างคาใจได้ไม่นาน เสียงร้องครางของท้องเธอก็เริ่มร้องหาอาหารมาฝากน้ำย่อย สมิตานันจะไปคิดมากเรื่องนิมมานทำไม ในเมื่อความรู้สึกเดียวที่เธอมีให้เขาก็คือ...เธอรักเขา จะให้นาทีนี้นาทีหน้า ความรู้สึกของเธอก็ยังเหมือนเดิม


สามวันแล้วที่บ้านเธอไม่สงบสุขเหมือนเคย บูรณ์และทีมงานของรายการหลอนดีนักยกโขยงมาประท้วงกันในบ้านเธอ เรื่องที่เธอลาออกส่งผลต่อความมั่นคงของรายการ เนื่องจากเรตติ้งรายการร่วง ผังรายการของปีหน้าอาจไม่มีรายการหลอนดีนักอีก

บูรณ์เกือบจะยกมือไหว้อ้อนวอนให้เธอกลับไปทำหน้าที่พิธีกรของรายการแบบไม่นึกถึงศักดิ์ศรี ท้ายที่สุดสมิตานันก็ทนมองต่อไปไม่ได้

“แกอย่าทำให้น้องตี้ไม่มีทางเลือกได้ไหม ไหนตอนน้องตี้ลาออก แกบอกยังไงรายการก็ไปรอดไง ดูดู๊ดู ยังไม่ถึงสองเดือน แกมาคร่ำครวญขอให้น้องตี้กลับมาแล้ว น้องใหม่รายการแกไปอยู่ที่ไหนล่ะ”

“กลัวผีวิ่งหนีป่าราบจนหลอนไม่กล้ามาทำต่อแล้ว” ผู้กำกับหนุ่มตอบคำถามแกมเหน็บแนมของกมล ไหล่ลู่ตกหมดคราบคนจอมบงการ “นะตี้ ช่วยพี่สักครั้ง”

สมิตานันยิ้มกริ่ม รู้สึกอยากทดสอบความเก๋าของทีมงานขึ้นมาติดหมัด ถ้าหากพวกเขาทำตามที่เธอต้องการได้ล่ะก็ เธอจะกลับไปแน่นอน “รายการเราต้องมีแขกกิตติมศักดิ์ใช่ไหมคะ”

“จะกลับมาใช่ไหมน้องตี้” บูรณ์เกือบจะคว้ามือพิธีกรคนสวยมาเขย่า โชคดีที่หญิงสาวไหวตัวทัน ยกนิ้วขึ้นมาชี้ทำตาดุ

“ตี้จะทำก็ต่อเมื่อเทปแรกที่ตี้จะกลับไป แขกคนนั้นจะเป็นคุณนิมมาน ทายาทห้างดังเท่านั้น”

“หา!”

เสียงโอดครวญของทุกคนไม่ได้สั่นคลอนความตั้งใจเดิมของเธอแม้แต่น้อย พวกเขาไม่รู้รอกว่าที่เธอออกจากรายการมา เพราะส่วนหนึ่งรายการได้สร้างความทรงจำร้ายๆ กับเธอพอควร ทั้งเกือบโดนผีทะเลบีบคอตาย หรือโดนผีฬาฬีหลอกหลอนอาฆาต เธอเริ่มเข้าใจความทุกข์ทรมานของดวงวิญญาณที่ไร้ที่ไป หลุดพ้นไปไหนไม่ได้เหล่านั้น

พวกเขาเจ็บปวดทุรนทุรายใจมากพอแล้ว ยังต้องสนองความอยากรู้อันไร้ที่สิ้นสุดของมนุษย์เพียงเพื่อความบันเทิง ทุกวันนี้เธอไม่บันเทิงกับรายการหลอนดีนักเลยจริงๆ

“ยกเว้นว่าจะเปลี่ยนเป็นรายการอย่างอื่น อย่างเรื่องเล่าเหนือธรรมชาติอะไรประมาณนั้นตี้ก็จะทำให้ แต่ถ้าให้ไปไล่ล่าอย่างที่แล้วมา ตี้ทำไม่ได้หรอก”

เพราะรู้ว่าที่เธอยื่นข้อเสนอไปทีมงานไม่มีทางทำได้ เธอจึงยังลอยตัวสบาย ถึงสงสารพุทธาที่อาจรับผลกระทบกับงานนี้ไปบ้าง แต่เธอพร้อมยื่นมือเข้าช่วยพุทธาเสมอ ถ้าหากไม่มีพุทธาเรื่องของเธออาจไม่มาบรรจบลงที่ห้วงเวลานี้

ทีมงานเฮโลกลับไปเหลือเพียงเจ้าบ้าน สไตลิสต์ควบตำแหน่งคอสตูมร่างยักษ์ และพุทธานั่งอยู่กับที่ เป็นกมลที่ทนอยู่เฉยต่อความคิดของสมิตานันต่อไปไม่ไหว

“เจ๊ไม่เข้าใจ ถ้าเกิดบูรณ์มันทำสำเร็จ ตี้ก็ต้องยอมกลับมาทำรายการสิ”

“เขาทำไม่สำเร็จหรอกค่ะ ตอนนี้ตี้เองก็เพิ่งคิดโปรเจ็กต์ใหม่ออก ลองเสนอช่องเดิมดูก่อน ตี้ว่าเวลาเดิมน่าจะใช้ได้”

“ทำอะไรครับ”

“ละครลี้ลับ วางโปรเจ็กต์นี้รอได้เลย ยังไงพี่บูรณ์ก็ต้องมาทำ” สมิตานันกระตุกยิ้มมุมปากอย่างสาแก่ใจ เพราะอย่างไรเธอเชื่อเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าข้อเสนอที่เธอยื่นไปนั้นไม่มีทางสำเร็จแน่นอน

คนอย่างนิมมานไม่มาวุ่นวายกับเรื่องของเธอหรอก


เจ้าตัวคนเลี้ยงไม่ว่าง โบ้ยมาให้คนว่างงานยามเช้ากันดื้อๆ สมิตานันจับจักรยานรูปทรงเหมาะจะขี่บนเขาด้วยเกียร์ปรับได้ถึงสี่ระดับ โชคดีที่ยังมีตะกร้าใส่ของบรรจุแมวสีดำตัวเล็กให้นั่งเชิดคอปะทะลม ยิ่งเห็นยิ่งเกิดอาการหมั่นไส้ติดหมัด

เจ้าถึกคงคิดว่าเธอเป็นเบ๊ของมันแล้วล่ะ

‘แมวต้องสุขภาพดี ได้รับอากาศบริสุทธิ์ เราเองว่างๆ ก็พามันไปสูดอากาศรอบหมู่บ้านหน่อยเถอะ’

พี่ใครหว่าน่ามอบรางวัลนางงามคนรักแมวให้สักกระบุง

สมิตานันปั่นจนเกือบครบรอบ จวนจะถึงบ้าน ด้วยความที่ไม่คิดว่าจะมีใครมาขับรถแทรกทางตรงอย่างเธอ ซึ่งปกติเวลาสายเกือบเก้าโมงแบบนี้คนออกไปทำงานกันหมดแล้ว แต่รถสีขาวเปิดประทุนตรงหน้ากลับตัดหน้ารถคันน้อยปั่นเท้าของเธอให้เบรกสุดโก่งหน้าทิ่ม ห่างจากรถต้นเหตุที่จงใจจอดนิ่งไม่เคลื่อนไปไหน

สมิตานันส่งเสียงฮึ่มฮั่มให้กับความจงใจของอีกฝ่าย รถสปอร์ตเปิดประทุนออกแทนการเปิดประตู หน้าคนภายใต้แว่นดำ เชิ้ตสีน้ำเงินเรียบชายตามองเธอ ใบหน้าเรียบสนิท

แต่คนมองอ้าปากค้าง ไม่เข้าใจว่าเขาจงใจทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ไม่เจอกันราวหนึ่งอาทิตย์ เขากลับมาหาเธอ...อาจจะเรื่องเสื้อ

“มาคืนเสื้อเหรอคะ” สาวในชุดลำลอง เสื้อยืดคอกลมตัวใหญ่ กับกางเกงคลุมเข่า บนหน้าสวมแว่นใสเลิกคิ้วถาม

“เปล่า มาเพราะคุณทำเรื่องไว้กับผมต่างหาก”

“ฉันเหรอคะ!” ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ก่อนยกวางบริเวณลูกผม ลูบไปมา นึกย้อนว่าเธอไปทำอะไรไว้กับเขา

“ใช่ ไอ้รายการบ้าบออะไรนั่นติดต่อผมมา”

“อ๋อ!” เท่านั้นล่ะ สมองทึมๆ ของเธอจึงได้ฤกษ์สว่างไสว รู้ซึ้งถึงการมาของเขา “แต่ไม่เห็นต้องมาด้วยตัวเองนี่คะ โทรมาบ่นเป็นหมีกินผึ้งกับฉันก็ได้ ยังไงคุณก็ไม่ตกลงอยู่แล้ว ฉันรู้หรอก”

“ผมไม่ใช่หมี”

แต่พอทำหน้าโหด เสียงต่ำ มองกดดัน นี่พ่อหมีชัดๆ แต่ขืนพูดไปคงมีแต่เถียงคนไม่เคยเล่นด้วยแพ้ตามเคย “จะจอดรถคุยตรงกลางซอย หรือจะเข้าไปคุยที่บ้านคะ”

นิมมานไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจในข้อนี้เมื่อคนพูดปั่นรถสองล้อไปจอดเทียบในบ้าน ก่อนเดินมารอให้เขาตามมา กอดอกรอด้วยรอยยิ้ม

“มีอะไรก็ว่ามาได้เลยค่ะ จะว่า โมโห ก็ตามสะดวก ฉันขอโทษที่ใช้คุณเป็นเครื่องมือ”

“ผมไม่เคยเป็นเครื่องมือของใคร ไม่ได้โง่ขนาดนั้น”

“ฉันรู้ค่ะ แต่ฉันแค่ยืมชื่อคุณมา พวกพี่ๆ ทีมงานเขาจะได้ถอดใจไป ยังไงก็ทำไม่สำเร็จ”

“ถอดใจด้วยการตามผม อ้างสารพัดจนผมรำคาญ พอผมหนีก็ตามเลขา ตามน้องสาวผม แทบจะกราบกราน นี่น่ะเหรอที่คุณว่าเขาจะถอดใจ”

“อุ้ย” หญิงสาวยิ้มเจื่อน หัวเราะจืดชืด “ขอโทษนะคะ เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง”

“ผมตอบตกลงไปแล้ว”

สมิตานันยกมือขึ้นแคะหูทั้งสองข้าง หน้ายู่เข้าหากัน ไม่มั่นใจว่าตัวเองหูฝาดหรือเปล่า และอาการของเธอก็เผลอเรียกรอยยิ้มเหนื่อยใจแกมเอ็นดูของคนมองได้ เสียดายที่หญิงสาวไม่ทันให้ความสนใจ

“จะแคะอีกกี่ครั้ง ขี้หูหมดหู คุณก็ได้ยินไม่ผิดหรอก ผมตอบตกลงไปแล้ว แต่แค่เทปเดียวนะ”

“ทำไมล่ะคะ ฉันคิดว่าคนแบบคุณจะไม่ชอบเรื่องพวกนี้” ลูบขนคอเจ้าถึกบนตะกร้ารถต่อ ยังไม่คลายสงสัย

นิมมานแค่นยิ้ม เดินเข้ามาใกล้จนระยะห่างกันไม่ถึงเมตร “พวกนั้นบอกว่าเอาดวงของผมกับคุณไปดู บอกว่าเราสองคนเป็นเนื้อคู่กัน แล้วก็จะอุปถัมภ์ชีวิตทีมงานทั้งทีม...คุณคิดว่าไง จะเชิญแขกทั้งทีนี่ต้องเอาดวงของคนๆ นั้นไปตรวจสอบก่อนด้วยเหรอ”

ความสงบนิ่งของนิมมานทำให้เธอเดาไม่ออกว่าเขาโกรธ หรือไม่ได้โกรธ สมิตานันเองก็เพิ่งรู้ว่าทีมงานเล่นเอาดวงของเธอกับเขาไปตรวจชะตาคู่ แล้วผลมันจะออกมาเหนือความคาดหมายของเธอที่ไหน ยังไงจากอดีตมาเขาก็เป็นคู่ของเธอ

อาจจะยกเว้นชาตินี้...เธออ่านเขาไม่ออก “พี่บูรณ์เขาคงหาทางหว่านล้อมคุณมากกว่าค่ะ คุณก็ไม่น่าไปเชื่อเขา”

“ผมไม่ได้เชื่อ...แต่อยากรู้อะไรบางอย่างเหมือนกัน”

“ก็ไหนบอกว่ารู้แล้วไงคะ”

ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยนขึ้น มองหน้าเธอด้วยดวงตาละมุนแบบที่เธอไม่เคยเห็นนับตั้งแต่มาในช่วงเวลานี้ เขากำลังทำให้เธออ้าปากกลืนแมลงวันด้วยความอึ้งงันกับรอยยิ้มของเขา

“เรื่องคุณรักผมน่ะผมรู้แล้ว” ดวงตาของเขามีประกายวิบวับแปลกๆ แต่มันจางหายไปเร็วจนเธอไม่แน่ใจ ความจริงที่เขาจับได้ทำให้ขาของเธอถอยหนีเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว เขาเองไม่ได้เร่งรัดตาม เพียงแค่เดินตามมาห่างๆ กระทั่งหยุดอยู่กรอบประตู พิงหลังยืนกอดอกมองเธอเหมือนเป็นลูกไก่ในกำมือ

ก็ใช่สิ...เธอยอมเป็นลูกไก่ตัวจ้อยที่เขาอยากบีบให้ตายเมื่อไหร่ก็ตายได้ ยิ่งเขารู้แบบนี้เธอยิ่งไม่รอด

.............................................
คุณ konhin เรื่องนี้แบ่งอารมณ์ได้หลายช่วงมากเลยค่ะ ฮา แต่นี่เป็นพาร์ทหลังแล้ว ^^

คุณ อัศวินนภา ต้องขออนุญาตตี้ค่ะว่าให้ซบหรือเปล่า พี่ปอมอาการเริ่มออกแล้ว

คุณ mhengjhy รอกรี๊ดตอนต่อไปด้วยนะคะ พี่ปอมค่อยๆ เผยไต๋ พ่อเจ้าประคุณท่าเยอะ

คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ ไม่แกล้งแล้วค่ะ สงสารพี่ปอมกับตี้ ให้สมหวังกันสักทีเนอะ แต่เมื่อไหร่ มาลุ้นอีกนิดค่า
ขอบคุณทุกคอมเมนท์ ทุกไลค์ และนักอ่านเงาทุกท่านค่า พรุ่งนี้ประเทศไทยเป็นวันสำคัญ ขอให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีค่ะ



ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ธ.ค. 2556, 00:10:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ธ.ค. 2556, 00:12:32 น.

จำนวนการเข้าชม : 1611





<< บทที่ 25 : รักจากฝัน   บทที่ 27 : ความรักที่รอคอย >>
konhin 9 ธ.ค. 2556, 01:21:29 น.
อยากให้พี่ปอมจำได้บ้างจัง


ameerah 9 ธ.ค. 2556, 08:20:09 น.
อ๊ายยย มาคราวนี้พี่ปอมท่ามากจัง 555 แต่ก็ยังน่ารักเสมอ


อัศวินนภา 9 ธ.ค. 2556, 08:34:54 น.
พี่ปอมเริ่มรุกแล้ว อิอิ


mhengjhy 9 ธ.ค. 2556, 18:27:46 น.
แหม่ ท่ามากจริงๆ ค่ะ 555


นักอ่านเหนียวหนึบ 9 ธ.ค. 2556, 23:17:15 น.
ท่านนิมมานหายไปตั้งพันปี กลับมาชาตินี้ ก็ทำตัวได้เหมาะสมกับ พระเอกยุคนี้จิงๆ เลย ไม่ตกเทรนด์เลยนะท่าน
คาวาอิ๊มั่กๆ นีบๆ ดีกันเร้ววว ท่านครามจิได้มาเกิดไวๆ ฮี่ๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account