รักดังฝัน
เขา นิมมาน อดีตชาติเป็นถึงพระยานิมมาน ผู้ที่มีใจปฏิพัทธ์ต่อลูกสาวของศัตรู จนตัวตาย เขาก็พร้อมยกวิญญา แก่ยาใจที่รักสมิตาเพียงผู้เดียว แต่ผ่านมาพันปี นิมมานก็พบว่าความรักของเขาหมดลง ไอ้รักนิรันดร์ไม่มีจริงหรอก “ชาตินี้เจ้าจะแต่งงานกับใครก็ช่าง แต่ก่อนเจ้าจะพบกับไอ้มนุษย์เนื้อคู่ของเจ้า ข้าจะทำให้เจ้ารักข้าให้ได้ก่อน”

เธอ สมิตานัน ผู้หญิงสวย ดำรงตำแหน่งพิธีกรรายการดัง หลอนดีนัก...เดี๋ยวจัดให้ แต่จริงแล้ว คนที่ทำเก่งหน้าจอ แท้จริงกลับกลัวผีขึ้นสมอง ทั้งที่ไม่เคยเจอ แต่พอปุบปับกระหน่ำได้เจอจริง สมิตานันก็อยากให้ทุกอย่างเป็นแค่ฝัน...เอ หรือที่จริงเธอไม่ได้ฝัน


Tags: หลอนโรแมนติก แฟนตาซี นิมมาน สมิตา

ตอน: บทที่ 27 : ความรักที่รอคอย

หน้าอมชมพูเบือนหนี เม้มปากแน่น อารมณ์แกร่งกล้าท้าชนของเธอโดนทำลายไปด้วยความรักจนหมดสิ้น แค่จะสบตาของเขายังไม่กล้า เสียงหัวเราะในลำคอของเขาดังอยู่ข้างหู หญิงสาวนั่งตัวเกร็ง ไม่กล้าขยับ กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย หันปั๊บปากเธอจะไม่ได้เฉียดคางเขาเหมือนตอนโต๊ะอาหาร ไม่กล้าเสี่ยงให้ตัวเองหัวใจวายตายก่อนอายุขัย เธอยังอยากอยู่เห็นความรักของเขา

“ไม่ปฏิเสธแปลว่าจริง”

“แต่ฉันไม่ได้รักแค่คุณเสียทีเดียวหรอกนะคะ” เพราะยังมีทั้งนิมมานที่เป็นภูต หรือนิมมานที่เป็นคนจากอนาคต พวกเขาเหล่านั้นล้วนทำให้เธอรัก และรักเขาในตอนนี้...คนอะไรขี้ตู่ หลงตัวเอง

พอรู้สึกว่าเขาถอยห่างไปเธอจึงพอหายใจหายคอคล่องขึ้น ตั้งใจจะหันไป ต้นแขนของเธอก็ถูกจับไว้แน่นจนเผลอร้องกรี๊ด สายตาของเขาเอาเรื่องเธอเต็มที่ เหมือนเธอเป็นนักโทษต้องความผิด ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้

“หัวใจคุณมีกี่ห้องฮะ!”

คนโดนว่ามองหน้าเขาเหมือนเป็นตัวประหลาด พอประเมินอะไรบางอย่างได้ในใจหญิงสาวยิ้มกริ่ม สายตาหรี่มอง “ฉันรักใครทำไมคุณต้องสนล่ะคะ...หรือว่าคุณคิดอะไรกับฉัน”

มือที่จับไหล่เธอถูกปล่อยราวกับต้องของร้อน สมิตานันหัวเราะหึ มองค้อนเขาไปทีหนึ่ง “ฉันไปสู้แฟนสวยรวยเก่งของคุณไม่ได้หรอกค่ะ ฉันรู้ตัวดี” ยิ่งพูดก็ยิ่งเจ็บ

“ผมไม่ยักรู้ว่าตัวเองมีแฟนนะ”

“อะไรนะคะ คุณยังไม่มีแฟน” ท้ายเสียงสูง ดวงตามีประกายยินดีแจ่มชัด “ก็ตอนนั้นฉันเห็นคุณกอดกับผู้หญิง เดี๋ยวนะคะ หรือว่าน้องสาวคุณ”

นิมมานมองตากลมโตใสแจ๋วมีประกายวิบวับแล้วชักหวาด ไม่คิดตอบคำถามให้คนตรงหน้ายิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมไปมากกว่านี้

“เสื้ออยู่ในรถ เดี๋ยวผมไปหยิบมาก่อน”

“พี่ปอม” สรรพนามถูกเปลี่ยนไปใช้อย่างที่เธอถนัดเรียกเขาทันควัน หญิงสาวลุกขึ้นยืน ดวงหน้าสว่างไสว เต็มอิ่มไปด้วยความสุข ถ้าเธอรู้เร็วกว่านี้ เธอคงไม่อมทุกข์ อยากหาน้ำใบบัวบกดื่มตลอดเวลาหรอก

คนโดนเรียกพี่เหมือนอยู่ในความฝัน เขาขมวดคิ้วมองคนที่สูงแค่คางเขา แน่ใจได้ว่านี่คือความจริง

“ตี้ขอเรียกว่าพี่ปอมนะคะ จากนี้ตลอดไปเลย”

“คุณทำอะไรกับผม คุณแน่ใจนะว่าเป็นคน”

สมิตานันเอียงคอมองคนคิดมากจนหน้าเคร่งเครียด หัวคิ้วแทบชนกัน สายตาของเธอมองสบกับเขาไม่ยอมให้เสียเวลาจากนี้อีกแม้แต่นาทีเดียว จากนี้เธอจะพุ่งชนหัวใจเขาแบบไม่ยั้งไม่กั๊กใดๆ อีก

“ตี้อาจจะเป็นเนื้อคู่จากอดีตชาติของพี่ปอมก็ได้นะคะ”

วาจาตอบสวนกลับง่ายๆ ราวกับเป็นเรื่องที่เธอรู้ดีอยู่แล้ว สมิตานันถือโอกาสวางมือลงบนแก้มสากเขา โชคดีเหลือเกินที่นิมมานกำลังอึ้งตะลึงงันไม่ทันถอยหลบ

“ตี้ทำผิดกับพี่ปอมมามาก ยิ่งแก้ไข ตี้ก็ยิ่งรู้สึกว่าพี่ปอมไกลจากตี้ไปเรื่อยๆ พี่ปอมอาจจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง” ดวงตาที่ยิ้มได้เริ่มแดงระเรื่อ น้ำตาคลอหน่วย ปากพยายามยิ้มให้มากที่สุด “ตี้รอพี่ปอมเสมอนะคะ”

“ผมไม่รู้ว่าคุณพูดอะไร” นิมมานกัดฟันพูด ยกมือข้างหนึ่งจับมือนุ่มข้างแก้มของตนลง

สมิตานันมองความว่างเปล่านัยน์ตาของเขา สะกดกลั้นความเสียใจสุดซึ้ง ปั้นรอยยิ้มจากหัวใจได้ยากเย็น แต่เธออยากให้เขาเห็นรอยยิ้มของเธอมากๆ

“ตี้พูดบทละครมั้งคะ ถ้าพี่ปอมอยากนึกให้ตัวเองสบายใจ”

ชายหนุ่มมองคนประชดหน้ายิ้มแล้วใคร่หงุดหงิดใจเป็นเท่าทวี รีบหมุนตัวออกจากภาวะน่าอึดอัดนี้ออกมา หยิบถุงเสื้อที่เจ้าของบ้านให้เขายืมใส่แขวนไว้ตรงซีกประตูบ้านก็รีบจากไป ปล่อยให้สมิตานันมองตามด้วยรอยยิ้มจืดเจื่อนจนกลายเป็นใบหน้าเรียบเฉย

ไม่รู้ว่าเธอควรรุกมากกว่านี้เพื่อให้ใจของเธอเจ็บหนักมากขึ้น...มันจะดีแน่หรือเปล่า ไม่ใช่ว่ายิ่งพยายาม เธอจะยิ่งสูญเสียเขาไป


ทุ่งดอกไม้ในฝันมีอยู่จริงไหม...

ร่างสูงกอดอกมองสวนหย่อมขนาดย่อมหน้าห้างแววตาครุ่นคิด ภาพความฝันนับวันยิ่งชัดเจน และเป็นสมิตานัน ที่เข้ามาก่อกวนความสงบในใจของเขา...เหมือนเธอเดินออกมาจากความฝัน สู่โลกแห่งความจริง

มันเหลือเชื่อ และไม่น่าเชื่อ

“กรี๊ดดด แกดูสิรักกับตี้” เสียงผู้คนหลายเสียงเริ่มชักชวนให้แหงนหน้าขึ้นดูจอใหญ่ยักษ์ที่มีประชาสัมพันธ์ต่างๆ โฆษณาแกคนผ่านไปมาย่านนี้อย่างดี

ชื่อบุคคลที่สองทำให้นิมมานสนใจไปโดยธรรมชาติ ร่างสูงแหงนหน้าขึ้นมองจอผืนผ้าภาพคมชัด หัวคิ้วขมวดเป็นโบ หน้าจากเรียบเฉย ปากเริ่มเม้ม กรามกัดกันแน่น ทั้งที่พยายามเตือนตัวเองไม่ให้รู้สึกพิเศษใดๆ กับผู้หญิงที่เขาไม่รู้ที่มาที่ไปแน่ชัด ไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนมีเจตนาแอบแฝงอะไรหรือเปล่ากับเขา

แต่การเห็นภาพรอยยิ้มสดใส เสียงหัวเราะกังวานลื่นหู และความหวานยามคนสองคนสบตากัน ทำไมเขารู้สึกว่ามันขัดหูขัดตาเขา

ห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่ให้คู่รักมาเดท ชายหญิงในจอจับมือเกี่ยวแขนกันเดิน เปลี่ยนชุดตามวันเดือนปี ตามฤดูกาล ดวงตาคนดูต่างเพ้อตามมีเสียงกรีดร้องเป็นไฟสุมอกคนดูเงียบๆ อีกมุมหนึ่งอย่างมาก

“เป็นคู่จิ้นคู่ใหม่ได้เลยนะแก ผู้กำกับตาถึง”

“ใช่ ดูดีมากเห็นแล้วฟิน แฟนพี่รักอย่างฉันรับได้เลยล่ะ”

“งานแถลงข่าวโปรโมทคงฟินกระจาย” สาวน้อยกลุ่มใหญ่พูดคุยด้วยเสียงไม่เบานัก บ้างมีกรีดร้องถูกใจ ภาพโฆษณาตัดหายไปนิมมานยิ่งหงุดหงิดหนักกว่าเดิม หาทางระบายความรู้สึกออกมาไม่ได้

มือล้วงกระเป๋ากางเกงข้างในกำเข้าหากันแน่น อยากทำอะไรสักอย่างให้ตัวเองเลิกรู้สึกเดือดปุดๆ ในอก เครื่องมือสื่อสารในกระเป๋าเสื้อก็ฉุดความคิดเขาได้ชั่วคราว นิมมานมองหน้าจอที่ขึ้นชื่อปลายสายเป็นน้องสาวตัวแสบ เกิดอาการไม่อยากจะรับเท่าไหร่

“ทำไม”

“ดุจริง ปัดจะชวนพี่ปอมมางานแถลงข่าวโปรโมทแอมบาสเดอร์กับภาพลักษณ์ใหม่ของห้างเราไงคะ จะไม่ขึ้นมาเป็นประธานงานให้หน่อยเหรอ หรือว่าหนีใคร” ปลายสายทำสุ้มเสียงรู้ทัน “ส่งจดหมายเชิญประธานตั้งนาน ก็เงียบหาย”

“ดูแลเองมาตลอดก็ดูแลให้ตลอดรอดฝั่งสิ”

“พาลนี่นา ปัดถามจริง พี่ปอมไม่ได้คิดอะไรกับคุณตี้จริงๆ ใช่ไหม ไม่สนใจอะไรเลย สักนิดก็ไม่ บอกปัดมาคำเดียว ปัดจะได้เลิกลุ้น”

“พี่ไปทำให้เธอลุ้นตอนไหนยัยปัด” ตอบเสียงเอื่อยเฉื่อย แกมรำคาญ ทั้งที่ความจริงกำลังสงสัยในความรู้สึกตัวเองเช่นกัน

“ปัดเซ้นส์แรง เอาเถอะไม่มาก็ไม่มา งานนี้ยังไงคนเด่นของงานก็ต้องเป็นคุณรักษ์กับคุณตี้ ปัดจะได้ไม่สร้างความหวังลมๆ แล้งๆ ให้คุณตี้เขาอีก ปัดจะไปบอกให้เขาเลิกมองหาพี่ปอม แค่นี้นะคะ”

ท้ายเสียงประชด และหายไปพร้อมสัญญาณโทรศัพท์ นิมมานลดโทรศัพท์ลงแนบลำตัว ในใจเขาเหมือนมีบางอย่างตีกันจนวุ่น ระหว่างเลิกหันหน้าหนีกับความรู้สึกบางอย่าง หรือทำมึนไม่รับรู้มันไปเรื่อยๆ แบบนี้

โฆษณาที่มีสมิตานันฉายขึ้นจออีกครั้งรอยยิ้มสว่างไสวที่เขาจำได้ว่าวันนั้นเธอป่วยออกมาดูดีอย่างที่เจ้าตัวว่าไว้ว่าจะไม่ให้เสียชื่อแม้ร่างกายจะไม่เต็มร้อย รอยยิ้มนั้นกำลังยิ้มให้กับชายหนุ่มอีกคน ยิ่งมองนิมมานก็ยิ่งขบกรามแน่นขึ้น ความรู้สึกพลุ่งพล่านในอกจนแทบล้นทะลัก

ใช่เขาหวงรอยยิ้มนั้น หวงสมิตานัน ผู้หญิงที่รักเขา


“ตอบดับความฝันแฟนๆ มากค่ะน้องตี้” กมลต่อขานแบบไม่จริงจัง มองผู้หญิงสูงเพรียวสวมชุดราตรีเปิดไหล่สีครีมสวย ตัวกระโปรงเป็นชั้นขึ้นมา มีมงกุฎเล็กประดับเพชรแท้หลายเม็ดบนศีรษะตามคอนเส็ปต์ไฮสแควร์

คนเพิ่งผละตอบจากนักข่าวมาหลังเวทีเสร็จยิ้มน้อยๆ พองาม ดวงตาสีดำมีชีวิตชีวาสดใส และประกายหวาน ตลอดงานเธอรู้สึกว่าถูกสายตาคู่หนึ่งจดจ้องมาเสมอ จนกระทั่งกวาดตามองหาไปเรื่อยๆ เธอก็พบเขายืนกอดอกทำหน้าเครียดปะปนอยู่กับแฟนๆ ยามที่เธอกับเขาสบตากัน โลกใบนี้ก็เหมือนเหลือแค่เขาและเธอ สายตาเข้มของเขาดูอ่อนแสงลง เธออดนึกเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าทันที่เธอจงใจตอบปฏิเสธนักข่าวเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับรักษ์ดารารุ่นน้อง เธอเห็นเขายิ้ม

ไม่ใช่ปาก แต่เป็นดวงตาของเขา...สมิตานันแล้วก็ยิ่งยิ้มกว้าง กมลมองแล้วถึงกับหัวเราะหึๆ พักหลังๆ มานี้เขาเห็นหญิงสาวเหม่ออยู่บ่อยๆ

“มีเรื่องดีๆ อะไรที่เจ๊ไม่รู้หรือเปล่าน้องตี้”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ตี้ก็แค่ชอบนึกอะไรเรื่อยเปื่อย ตี้อาจแค่คิดไปเอง” ปากบอกคิดไปเอง แต่รอยยิ้มสว่างบนหน้าไม่ลดลงไป

“เจ๊จะหลับตาเชื่อแล้วกัน”

สมิตานันรับฟังหัวเราะคิก กอดแขนล่ำของชายรุ่นพี่ที่รู้จักกันมากว่าสิบปีอย่างเอาใจ “ทำเป็นน้อยใจ วันนี้จะกลับไปสยองด้วยกันอยู่แล้วแท้ๆ”

กมลเบะปาก ห่อไหล่ สะบัดศีรษะไปมา หน้าตาใกล้จะร้องไห้เต็มแก่ “เจ๊จะเป็นลม อุตส่าห์หนีบรรยากาศแบบนั้นพ้นแล้วแท้ๆ นี่น้องตี้ก็ยื่นโปรเจ็กต์ให้ไอ้บูรณ์มันดูแล้ว มันว่าไงบ้าง จะทำไหม เจ๊ล่ะหัวใจไม่แข็งแรงหรอกนะ ให้เจอแบบนี้ตลอดก็ไม่ไหว”

“รับค่ะ แต่ว่าต้องเตรียมเรื่องอีกพัก เทปเก่าๆ ที่มีก็เหลืออีกประมาณสามเทป ถ่ายเพิ่มอีกเทปหนึ่ง ช่วงนี้บูรณ์เขาก็เริ่มๆ เตรียมทำละครที่ตี้เสนอไป เพิ่งจะผ่านช่องค่ะ เดี๋ยวเจอกันวันนี้บูรณ์จะบอกตัวนักแสดง”

“ก็น้องตี้นั่นแหละน่าจะแสดงนำ บูรณ์มันจะไปหานางเอกที่ไหนอีก” กมลจีบปากจีบคอ ยืดตัวอย่างภูมิใจเสียยิ่งกว่ารู้ว่าตัวเองเป็นนักแสดงอีก สมิตานันโคลงศีรษะ หัวเราะในลำคอ นั่งลงประจำที่บนเก้าอี้หน้ากระจก ให้กมลจัดการถอดเครื่องประดับออกให้

เสียงประตูห้องแต่งตัวเปิดออก สมิตานันมองเห็นแขกไม่ได้รับเชิญเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวขนาดเล็กนี้ตาค้างผ่านกระจก ดวงตาของเธอตกใจอย่างเห็นได้ชัด ไม่ทันเอ่ยทักทายเป็นเขาที่เริ่มด้วยประโยคออกคำสั่ง

“ออกไปก่อนได้ไหมครับ”

“แต่ คือว่า...น้องตี้ว่าไง”

หน้าอึ้งงันเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มหวาน สมิตานันพยักหน้าให้กมลมั่นใจ “วางใจเถอะค่ะ ตี้ไว้ใจพี่ปอม”

“พี่ปอม” หนุ่มใจสาวทวนเสียงสูง ตาเหลือกลาน ยกมือปิดปาก เค้าลางว่าเธอพอจะเริ่มเข้าใจสาเหตุที่สมิตานันแปลกๆ ไป จะใครล่ะที่เรียกรอยยิ้มหวานหยด ดวงตาเป็นประกายออกมาได้ขนาดนี้ ก็ตั้งแต่นิมมานทายาทไฮสแควร์เดินเข้ามาในห้องนี้ “ไม่กลัวเป็นข่าวเหรอน้องตี้ เขาจะมองเรายังไง” กระซิบถามอย่างกังวล แต่ก็ไม่พ้นหูคนฟังอีกคน ได้ยินครบถ้วนถึงกับหน้าตึง

“ผมทำอะไรผมรับผิดชอบได้ ทีนี้ไปได้หรือยังครับ ยังไงคืนนี้ผมกับตี้ก็ต้องเดินทางไปถ่ายรายการผีๆ ของพวกคุณอยู่ดี”

กมลห่อปากร้องเสียงอู้ว ยอมล่าถอยออกไปแต่โดยดี การไม่มีปัญหากับคนระดับนิมมานน่าจะปลอดภัยกับตัวเองที่สุด แต่ก่อนไปไม่วายห่วงความปลอดภัยของสมิตานัน “มีอะไรร้องเรียกเจ๊ดังๆ เลยน้องตี้ เจ๊ให้เวลาไม่เกินสิบนาที จะได้ไปหาอะไรกินกัน โอเค๊” ส่งสายตาระแวงไปยังนิมมานอีกครั้ง ปะทะสายตาคมกริบจ้องให้กลัว สุดท้ายจึงรีบเดินเร็วออกไป ปิดประตูให้อย่างดี

“แน่ใจนะว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับคุณ เพศหลอกตาหรือเปล่า”

คนโดนระแวงหรี่ตามอง รู้สึกดีกับการมองเขาผ่านกระจกมากกว่าสบตากันโดยตรง รอยยิ้มมุมปากฉายแววรู้ทัน “หึงตี้เหรอคะพี่ปอม ถ้าบอกว่าหึงตี้ก็จะอธิบาย แต่ถ้าไม่ก็คิดตามเดิมไปเถอะค่ะ ยังไงก็คงไม่สำคัญ”

ดวงตาท้าทายบอกชัดว่าเธอมั่นใจในคำตอบแรก แต่รอฟังชัดๆ จากปากเขา เกมจ้องตาครั้งนี้ท้ายที่สุดหญิงสาวจึงเป็นผู้แพ้ หลบตา และเอื้อมมือเตรียมจะปลดเครื่องประดับบนศีรษะด้วยตัวเอง

“พวกคุณก็ไว้ใจฉันนะคะ ปกติของแพงแบบนี้น่าจะมีคนมาดูแลเครื่องประดับแบบประชิดตัว ถ้าเกิดฉันพามงกุฎบนหัวหนีไปจะทำยังไง”

“มีคนดูแลหน้าห้อง ไม่ต้องกลัวว่าจะหนีไปได้หรอกครับ”

คนนึกอยากเข้าข้างตัวเองอีกสักรอบเผลอมองค้อนเขาไปที มือกำลังสาละวน แต่ความอบอุ่นเบื้องหลังกลับทำให้เธอเผลอกลั้นหายใจ เขาไม่ขออนุญาตใดๆ แต่เริ่มแกะมงกุฎบนศีรษะเธออย่างใจเย็น จนเธอไม่รู้สึกเจ็บ หรือผมสักเส้นขาด เธอไม่รู้สึกเพราะเขาเป็นคนถอดมันให้เธอหรือเปล่า

สมิตานันรู้สึกอยากหยุดเวลาที่เขากำลังใส่ใจกับมงกุฎเล็กๆ บนหัวเธอ ถึงสุดท้ายเขาจะทำไปเพราะห่วงของ แต่เธอก็ยังรู้สึกดีจนกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่ได้

“ขอบคุณนะคะ ถึงแม้ว่าพี่ปอมจะทำไปเพราะกลัวของหายมากกว่าอยากช่วยจริงๆ ก็ตาม แต่ตี้ก็มีความสุข”

มงกุฎถอดออกเรียบร้อยใส่กล่องกำมะหยี่ นิมมานจึงเฉลย “ของของน้องผมก็ต้องมาเก็บด้วยตัวเองสิ ไม่คิดว่าน้องสาวตัวดีจะกล้าเอามาใช้ในงาน” ชายหนุ่มลอบสังเกตสีหน้าของสมิตานัน รอยยิ้มหวานค่อยเลือนหาย กลายเป็นรอยยิ้มฝืดเฝื่อน

“ฝากขอบคุณคุณปัดด้วยนะคะที่กรุณาเลือกตี้มา” ตั้งท่าเตรียมจะลุกไหล่สองข้างเปิดเปลือยก็ถูกกดลงด้วยฝีมือของนิมมาน ความอบอุ่นเกือบจะร้อนถ่ายผ่านสู่ตรงหัวใจ สมิตานันก้มหน้างุด คางชิดอก เธอไม่รู้ว่าเขาจะรั้งเธออีกทำไม

“เมื่อยไหม” เขาไม่ถามเฉยๆ แต่เริ่มลงมือนวดบริเวณหัวไหล่ของเธอ สมิตานันเผลอร้องโอ๊ย เธอเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองปวดไหล่ก็ตอนนี้ ทำงานจนลืมดูแลตัวเองอีกตามเคย “ขึ้นเป็นลูกแบบนี้อย่ามาบอกว่าไม่เป็นอะไร”

“ไม่ได้บอกว่าไม่เป็นไรค่ะ แต่จะบอกว่าไม่ต้องนวดให้ก็ได้นะคะ ไม่ต้องฝืนทำหรอกค่ะ”

คนฝืนใจเหลือบมองคนคิดแบบนั้นพลางทำสีหน้ากวนใส่ด้วยการเลิกคิ้วมอง มือลงน้ำหนักนวดต่อไป รอยยิ้มมุมปากของนิมมานไม่ได้เกิดจากความขุ่นข้อง แต่เป็นเพราะอารมณ์ดี เขารู้สึกอุ่นใจเมื่อได้มามองเห็นสมิตานันในระยะใกล้ ได้สัมผัสความนุ่มละมุนมือลงมือนวดหญิงสาวด้วยตัวเอง รวมทั้งอยากจะ...

นิมมานหัวเราะให้กับความคิดตัวเอง ลืมจังหวะการนวดเป็นการบีบหัวไหล่นวลเนียนนิ่ง กระทั่งได้สบตากับอีกฝ่ายผ่านกระจก ดวงตาที่มองเขาเปี่ยมไปด้วยความรัก และมันค่อยๆ ทะลวงม่านหมอกที่เขาสร้างมากำบังใจไว้พังราบหายไปกับตา...เขาอยากพบผู้หญิงคนนี้ทุกวัน เห็นความรักรอยยิ้มของเธอ ไม่ใช่แค่ในฝันอีกต่อไป

“เปลี่ยนชุดเสร็จผมจะรอข้างนอก เราจะไปทานข้าวด้วยกัน หรือมีนัดกับใครแล้ว”

“มีค่ะ นัดก่อนพี่ปอมแล้วด้วย” สมิตานันยิ้มใส่ตาเขา เธอมั่นใจว่ามีบางอย่างที่นิมมานกำลังรู้สึก เขาต้องเริ่มหวั่นไหวกับเธอแล้วแน่นอน ไม่อย่างนั้นลูกไฟย่อมๆ ในดวงตาของเขาคงไม่กำลังแผดเผาเธอให้รู้สึกเหมือนกำลังเป็นเด็กสาวมีความสุขยั่วแฟนหนุ่มให้หึงเล่น

ก็เธอเคยมีประสบการณ์ความรักแบบนี้ที่ไหน...เขาเป็นคนแรกจริงๆ

“ผมไปด้วย”

“ในฐานะอะไรคะ...แฟน?”

“ผมจะรอข้างนอก”

สมิตานันยิ้มกริ่ม นึกอยากรุกเขาอีกสักยก “ถ้าบอกว่าเป็นแฟนกัน ตี้จะยอมเคลียร์คิวด่วนให้พี่ปอมเลยก็ได้นะคะ”

คนไม่ได้คาดหวังคำตอบใดๆ หัวเราะคิกคัก เห็นเขายืนนิ่งหันหลังใส่ ไม่รู้ป่านนี้จะหงุดหงิดขนาดไหนแล้ว คงกำลังนึกเสียใจที่มาวุ่นวายกับเธอ

“งั้นก็ทำซะสิ แค่เราสองคน”

คนนั่งบนเก้าอี้เกือบพลัดตกให้ตัวเองเจ็บสักทีสองที เธอกลัวว่าตัวเองกำลังฝัน หูฝาด หรือสมองฟั่นเฟือนจนสร้างเรื่องพวกนี้มาหลอกตัวเอง ถึงเขาจะเดินออกไปจากห้องนี้แล้ว แต่ใบหน้าของเธอกลับยิ่งเปื้อนรอยยิ้มเมื่อมั่นใจว่าเธอไม่ได้ฝันไป

“แค่เราสองคน” สมิตานันทวนเสียงเบาหน้าแดงก่ำ ยกมือปิดหน้าร้องกรี๊ดอย่างอดทน บ่นพึมแก้เขินให้ตัวเองไม่ไหว “พี่ปอมบ้า ไม่มีให้ตั้งตัวเลย”


กมลมองคนสองคนที่ทำเหมือนไม่มีอะไร แต่นี่มันมีอะไรซุกซ่อนไว้ในกอไผ่กองโตชัดๆ เขาอุตส่าห์รอสมิตานันให้มาทานข้าวเย็นพร้อมกัน ทายาทคนดังออกมาก่อนทำหน้านิ่งๆ บอกกับเธอ

‘ไปทานอะไรก่อนได้เลยครับ จะได้ไม่เสียเวลา’

‘แต่น้องตี้อยู่ข้างใน’

‘ก็ผมจะไปกับตี้ เข้าใจไหมครับ’

งานนี้ไม่เข้าใจก็ต้องเข้าใจชั่วคราวล่ะวุ้ย...แล้วมีเหรอที่คนอย่างกมลจะไม่แอบตามไป การรับประทานอาหารในร้านอาหารอิตาเลียนดูเรียบเรื่อยไม่มีอะไรพิเศษ แต่สมิตานันสิแปลก ยิ้มไม่หุบ ส่วนอีกคนเวลาที่กำลังก้มหน้าก้มตาทานอาหาร กลับแอบมองแล้วก็ยิ้ม

ประหลาดจริงเชียว...ไปรู้สึกกุ๊กกิ๊กกันปีมะเรื่องไหนล่ะ กลบข่าวรักษ์ดาราหนุ่มที่เพิ่งออกงานคู่กันชนิดไม่เห็นฝุ่น ไม่รู้ว่านิมมานจงใจด้วยหรือเปล่าถึงพากันเดินหาร้านอาหารกันเสียทั่วห้าง ราวกับจะประกาศว่านี่คือผู้หญิงข้าเสียอย่างนั้น แล้วก็มาลงเอยที่ร้านแรกซึ่งเดินผ่านไปนานแล้ว ไม่ต้องกลัวพวกนักข่าวจะเก็บภาพไม่ทันเลย ถึงไม่ได้เดินจับมือเกี่ยวแขน แต่ระยะห่างหนึ่งก้าวกับใบหน้าอิ่มเอิบของฝ่ายหญิง ไม่ว่าฝ่ายชายจะทำอะไรนั้นคงชัดเจนพอ

สมิตานันก็นะไม่เก็บอาการเลย ใครผ่านไปมาเห็นใบหน้าคนมีความรักแบบนี้แล้วอ่านไม่ออกก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร

นึกแล้วกมลอดไม่ไหวหยิกเข้าเอวแห้งๆ ของหญิงสาวที่นั่งข้างกันในรถตู้จนร้องโอย “น้องตี้มีอะไรจะสารภาพกับเจ๊ไหม” คนเป็นเจ๊ส่งสายตามองระหว่างคนถูกถามกับคนที่นั่งเบาะแถวหลังซึ่งกอดอกมองข้างทาง

“เจ๊อยากรู้อะไรล่ะคะ ถามให้ชัดๆ สิ”

หนุ่มตุ้งติ้งทำเสียงขัดใจ ในรถอันเงียบเชียบของทางทีมงานเสียงของกมลจึงไม่คิดออมเสียงไว้อีก พักเรื่องคาใจเข้าสู่อีกประเด็น “บูรณ์นี่จะเป็นเทปสุดท้ายหรือเปล่า”

“เปล่าเจ๊ นี่มันเทปรองสุดท้ายหรอก เทปหน้าสเปเชี่ยลพอกัน”

“ใครอีก แล้วละครล่ะ ไหนแกบอกว่าสนใจไง จะเริ่มถ่ายเมื่อไหร่”

คนนั่งข้างคนขับหันกลับมาสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความหวัง “เทปหน้าเปิดตัวพระเอกนางเอกของละครเราไงเจ๊ ให้ไปสถานที่หลอนด้วยกัน เพอร์เฟ็กต์จะตาย แล้วเทปอำลาก็จัดการรวมเทปหลอนๆ ฮาๆ มาอำลาได้อีกเทปหนึ่ง เรายังเหลือเวลาอีกประมาณเกือบสองเดือนได้”

“แล้วสรุปใครเป็นพระนางล่ะพี่บูรณ์” สมิตานันถามออกไปเสียงหวาดๆ ไม่นึกอยากให้เป็นตัวเองขึ้นมา ถึงเคยบอกว่าอยากจะช่วย แต่ถ้ามามีข่าวกับใครช่วงนี้ ความสัมพันธ์ที่เพิ่งดีของเธอกับนิมมานมีหวังล่ม

“ตี้กับรักษ์ไง แฟนคลับเชียร์กันตรึม”

“ตี้น่าจะซื้อหวยแม่นๆ แบบนี้บ้าง” น้ำเสียงประชดชัดเจน “พี่บูรณ์คะ เปลี่ยนนางเอกเถอะค่ะ ตี้ว่าน้องเขาน่าจะมีคนที่เหมาะกว่าตี้นะ”

“ได้ไง เสนอช่องผ่านแล้ว”

“แล้วเจ๊ก็ว่าดี” บูรณ์กับกมลรวมหัวกันรักกันแบบไม่ดูเวลา สมิตานันนึกหวั่นใจ กลัวว่าคนนั่งอยู่เบื้องหลังจะโกรธ

เอาไว้ค่อยว่าอีกรอบแล้วกัน ให้เทปนี้ผ่านไปก่อน...สมิตานันนึกปลง จนกระทั่งรถเลื่อนมายังหน้าบ้านพักหลังหนึ่ง ไฟหน้ารถส่องกระทบสถานที่ที่เธอเห็นแวบแรกต้องเผลอห่อตัวเข้าหากัน กอดตัวเองไว้แน่น

นี่มันสถานที่เดิมกับเทปสุดท้าย และเป็นสถานที่สุดท้ายที่เธอมาพักก่อนจะจมน้ำ ทำไมถึงเป็นที่นี่

ผู้หญิงคุ้นตาเดินออกมาจากบ้านพักชั้นเดียวราวกับรอคอยการมาของทั้งคณะ และเพียงแค่เห็นเธอ วารีไม่รอช้าที่จะกอดเธอไว้ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน แต่จริงๆ เธอก็รู้จักวารี รู้จักดีเสียด้วย...ตั้งแต่อดีต วารีก็คือน้าวาฬีร ที่เธอเคยเกือบไม่ไว้ใจ

“สมิตาเธอมาแล้ว”

ทำไมถึงเรียกชื่อเธอด้วยอดีตพันปี...ถึงมันจะคล้ายกับชื่อเธอในปัจจุบัน แต่การขาดไปพยางค์เดียวก็ทำเธอขนลุกได้ ผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้แก่เลย อายุก็น่าจะแก่กว่านิมมานไม่กี่ปี วารีเป็นน้าของนิมมาน และเคยเป็นน้าของเธอ

“น้าเรียกให้รายการมาที่นี่ใช่ไหม” นิมมานลงมายืนกอดอก หน้าเครียด “ป่านั่นมันอันตราย จะให้มาทำไม”

“ฉันอยากรู้อะไรนิดหน่อยไม่ได้หรือไง...ฉันเชื่อว่าเธอกับตี้จะปลอดภัย คนที่นี่ไม่มีทางทำร้ายเธอหรอก”

ความกลัวชนิดจู่โจมจิตใจสมิตานันให้หวาดกลัวอย่างช่วยไม่ได้ หากเธอไม่เคยเกือบตายจนวิญญาณหลุดออกจากร่างในสถานที่แห่งนี้ เคยพลัดพรากเดินทางข้ามเวลาไปจนทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด เธอจะไม่มีทางวิ่งหนีอดีตของตัวเองอย่างที่คิดจะทำเด็ดขาด

“ไม่ค่ะ ไม่ทำเด็ดขาด”

“ตี้” ทุกเสียงร้องออกมาด้วยหลากหลายอารมณ์ สมิตานันหลับตาไม่คิดจะฟัง เธอเอ่ยขอโทษวารี แต่เลือกจะหันหลังกลับไปนั่งกอดอกในรถ พิงศีรษะนอนหลับนิ่งๆ กับพนักพิง ไม่สนว่าจะมีสายตากี่คู่ เสียงอ้อนวอนเท่าไหร่ในการขอร้องให้เธอทำรายการครั้งนี้

เธอกลัว และเข็ดขยาด กลัวว่าจะไม่มีโอกาสครั้งใหม่ของเธออีก

“น้องตี้”

“ไม่ค่ะเจ๊ ถ้าเป็นที่นี่ ตี้ไม่ทำ”

กมลส่ายหน้าช้าๆ ความหวังของทุกคนยิ่งดูมืดหม่น และทุกคู่ก็พุ่งอย่างมีความหวังอีกครั้งเมื่อนิมมานไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินเข้าไปในรถติดเครื่อง ปิดประตูจนฟิล์มดำ และสั่งให้คนขับลงจากรถไปชั่วคราว เขาจำเป็นต้องเจรจาสำคัญกับสมิตานัน

“ตี้”

เสียงเรียกอันคุ้นเคยเรียกให้คนกังวลลืมตาขึ้นมา ในความมืด และเย็นฉ่ำของรถ ทำใจเธอร่มไม่ได้สักนิด นอกจากต้องห่อแขนกอดตัวเองให้แน่นขึ้น

“พี่ปอมไม่เข้าใจหรอกค่ะ ที่นี่พรากตี้ไปจากพี่ปอมหลายครั้งแล้ว ตี้ต้องเริ่มใหม่ทุกครั้ง ตี้เคยบอกว่าตี้ไม่กลัวที่จะเริ่มใหม่ แต่ถ้าตี้เลือกได้ ตี้ก็อยากทำวันนี้ให้ดีที่สุด โดยไม่ต้องเริ่มใหม่”

อ้อมกอดแสนคิดถึงกำลังกอดร่างอันสั่นเทาของเธอไว้แน่น สมิตานันหลับตาลงอย่างอุ่นใจ หัวใจอันโดดเดี่ยว และเริ่มเหนื่อยถูกความเข้มแข็งของเขาโอบอุ้มไว้ มือหนาลูบศีรษะเธออย่างเบามือ

“เราเคยเจอกันมาก่อนจริงๆ ใช่ไหม ไม่ใช่เพิ่งเคยเจอ”

“เจอมากกว่าสิบครั้ง เจอมากกว่าหนึ่งชาติ และรักกันไม่ต่ำกว่าพันปี พี่ปอมเคยรอตี้มาพันปี รอมานานมาก” เวลานี้หญิงสาวไม่สนใจกับการเก็บงำเรื่องจริงที่เธอพบเจอมาอีกต่อไป ต่อให้เธอกลายเป็นคนเพ้อเจ้อพูดเรื่องเท็จในสายตาเขา ก็ช่าง...เธอกลัวจริงๆ

มือที่ลูบศีรษะของเธอชะงักไป สมิตานันเผลอหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา ในที่สุดเธอก็คงทำความรู้สึกพิเศษของเขาพังไม่เป็นท่า “คงคิดว่าตี้โกหกใช่ไหมคะ”

“ใครบอก ถึงมันจะเหลือเชื่อ แต่พี่จะลองเชื่อ จบถ่ายรายการวันนี้เล่าให้พี่ฟังได้ไหม” น้ำเสียงอ่อนโยนถ่ายทอดข้างหู หญิงสาวรู้สึกว่าเธอได้คนที่เธอรักคืนมาอย่างสมบูรณ์ เขาแทนตัวเองเหมือนที่เธอเคยได้ยิน ยิ่งนึกเสียงสะอื้นยิ่งดัง อ้อมแขนของเธอกอดรัดหัวใจดวงโตของเธอเต็มอ้อมแขน เธอรักเขามากจนไม่กล้าเสียเขาไปอีก

“ตี้กลัวว่าตี้จะพบเจอเรื่องร้ายๆ แล้วจากพี่ปอมไปอีก”

“ถ้าไม่สบายใจพี่ก็จะพาตี้กลับบ้านเอง”

คำว่ากลับบ้านของเขาทำให้เธอคิดถึงบ้านที่ตัวเองหนีมา บ้านในอนาคตของเธอมีเขาเป็นหัวใจ แต่เธอกลับมัวยึดติดอดีต ถามหาในสิ่งที่เธอไม่รู้จนเผลอทำเขาหลุดมือไป มีชีวิตอยู่ห่างกันด้วยคนละภพ สภาพชีวิตแบบนั้นมันทรมาน การต้องทนมองคนที่รักมีความหวัง และเฝ้ารอเธอกลับไป ยิ่งทำให้เธอหวาดหวั่น

หากการกลับมาที่นี่จะทำให้เธอพ้นจากเรื่องร้ายได้ เธอก็อยากลอง ขอแค่มีเขา...แค่เขาเท่านั้น

“พี่ปอมคะ ตี้รักพี่ปอมนะคะ บางทีนี่อาจเป็นโชคชะตาที่ทำให้ตี้ต้องกลับมาที่นี่อีก ตี้จะไม่หนีโชคชะตา เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้ตี้ได้พบพี่ปอม ทำให้ตี้ได้แก้ไขสิ่งผิดพลาดของตัวเอง ตี้ควรจะขอบคุณสถานที่นี้ ตี้เชื่อว่าการมาที่นี่ของตี้ครั้งนี้คงมีเหตุผล”

นิมมานทอดสายตาอ่อนโยนไล้ไปตามเรียวหน้าของหญิงสาวแสนสวยที่แม้จะร้องไห้ แต่ความงามไม่ได้จืดจาง นับวันความงามนั้นยิ่งแจ่มชัดในใจเขา นิ้วโป้งข้างหนึ่งเกลี่ยเช็ดหยดน้ำตาออกจากแก้มให้อย่างเบามือ รอยยิ้มปลุกปลอบ และฝ่ามือข้างหนึ่งกอบกุมมือเล็กอันเย็นเฉียบกระชับไว้มั่นเป็นการให้กำลังใจ

“พี่จะอยู่ข้างๆ ตี้”

ทิ้งรอยสัมผัสไว้บนหน้าผากเนียน คนได้รับมีแรงใจ และจังหวะการเต้นอันหวานแทรกขึ้นมา ปัดเป่าความกลัววิตกหายไปกับสายลม มือของเธอกระชับมือเขาตอบสัมผัสนั้น หลับตาพริ้ม มีรอยยิ้มอันเป็นสุข

วันนี้ ตอนนี้ นาทีนี้เธอมีเขา...ไม่ว่าอะไร หรือใคร เธอก็แทบไม่ต้องการ

“ตี้พร้อมจะออกไปสู้อีกครั้งแล้วค่ะ”

...................................................................................
คุณ konhin จำได้ไม่ได้ก็คงต้องลุ้นนะคะ แต่พี่ปอมตอนนี้ก็น่าจะทำคะแนนคืนมาได้ หลังจากปล่อยให้ตี้น่าสงสารพักหนึ่ง

คุณ ameerah พาผู้ชายท่ามากมาส่งค่ะ ท่าน้อยลงไปเยอะแล้ว หวังว่าจะถูกใจนะคะ ^_^

คุณ อัศวินนภา เขียนไปเขียนมาตี้รุกพี่ปอมเอาเรื่องเลย ฮา ต่อจากนี้คงไม่ต้องรุกแล้วล่ะค่ะ ฮิ้ววว

คุณ mhengjhy ผู้ชายท่ามากมาโกยคะแนนแม่ยกแล้วค่ะ ฮา มาส่งความหวานแล้วนะคะ

คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ ท่านครามรอมาเกิดตลอด ฮ่าๆๆ เป็นป๋าดันคู่นี้มานาน ตอนนี้ให้พ่อแม่ทำคะแนนกันเต็มที่ค่ะ ตี้รุก ส่วนพี่ปอมท้ายที่สุดก็เสร็จตี้ไปตามระเบียบ ฮา

ตอนนี้มากันยาวๆ เลยค่ะ เพราะเมื่อวานไม่ได้อัพ ขอบคุณสำหรับทุกเมนท์ ทุกไลค์ และนักอ่านเงาทุกท่านนะคะ มานับถอยหลังกันค่าใกล้จบแล้ว ปล.แฟนๆ พี่ภีมกับมิลันรอหน่อยน้า




ปวรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ธ.ค. 2556, 01:04:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ธ.ค. 2556, 01:06:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 1513





<< บทที่ 26 : เขารู้ว่าฉันรัก   บทที่ 28 : ภารกิจค้างคา >>
นักอ่านเหนียวหนึบ 11 ธ.ค. 2556, 01:16:46 น.
อร๊ายยยย ยัยผู้หญิงก๋ากั่น แต่......ชั้นก็ชอบเธอนะ ฟินนน
ท่านนิม เกร๋อะเคอะ เอาใจขุ่นน้องไปเลยข่าาาาา
ม๊วฟๆๆๆๆ


ameerah 11 ธ.ค. 2556, 07:50:01 น.
อ๊ายยย ทำไมพี่ปอมน่ารักอย่างนี้นะ กลับมาเป็นพี่ปอมคนเดิมแล้ว ฟินสุดๆ


konhin 11 ธ.ค. 2556, 10:41:42 น.
ว้าวววว ตี้ไม่มีวางมาดเลยอ่ะ ฮ่าๆๆ หวานปนหลอนตอนท้ายๆ


mhengjhy 11 ธ.ค. 2556, 10:52:16 น.
โอยยย เทใจให้พี่ปอมมม เลิฟ เลิฟ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account