กรุ่นไอรักหลังลมร้อน
สบายๆ คลายเครียด..
Tags: สาวขอนแก่นเข้ากรุง

ตอน: ตอนที่ 10 :เกมส์

“หนึ่งสองสามสี่....ห้าหกเจ็ดแปด..อัพ แอนด์ ดาวน์..ไร้ท..แอนด์..เล็ฟ..อ่ะจ้า..ถูกต้อง..หมุนจ้าหมุน..โยกซ้ายนิดนึง.. ขวาหน่อย..เดินหน้า...ฮู้!!!..เก่งค่า!!!” เสียงครูฝึกนำเต้นตะโกนเย้วๆ แข่งกับเสียงดนตรี...สอนลูกศิษย์ตัวโข่งๆ ประมาณสิบกว่าคนได้ ซึ่งสองคนในนั้นก็มีแจ็ดกับคนางค์รวมอยู่ด้วย..

เมื่อกลางปีมีงานฉลองรายได้ของบริษัท ฯ มีการแจกรางวัลให้กับพนักงาน..ใหญ่บ้างเล็กบ้างคละเคล้ากันไป..แจ็ดก็เป็น หนึ่งในผู้โชคดีเหล่านั้นได้รับบัตรฟรีในการเป็นสมาชิกรายปีของสปอร์ตคลับ ชื่อดังใจกลางเมืองกรุงเทพฯ..สิทธิพิเศษของคนที่เป็นสมาชิกสามารถพาเพื่อน หรือบุคคลที่รู้จักหนึ่งคน..เข้าไปใช้บริการในสปอร์ตคลับได้ฟรีเช่นกัน..วัน นี้แจ็ดก็เลยลากคนางค์ให้มาผ่อนคลายความเครียดหลังจากที่ต้องนั่งขดตัวอยู่ บนเก้าอี้ทั้งวัน....

“แจ๊ดดด!!...พอยังอ่า!!” เสียงคนางค์โอดครวญ..เต้นยักแย่ ยักยัน..อยู่ข้างหลังเพื่อนตัวแสบที่ลากเธอมาด้วย

“เดี๋ยว!..ขออีกหน่อยกำลังมันส์” แจ๊ดเต้นไม่ยั้งใส่เต็มสตรีม...ผิดกับคนข้างหลังขาพันกันไปหมด..ความที่ไม่ เคยเต้นมาก่อน..มันเลยผิดสเตป ผิดท่า ผิดทาง..คนางค์หน้าเบ้

“มันเมื่อยอ่าแจ๊ด!!...” แจ๊ดหันหน้ามาหา สีหน้าไม่สบอารมณ์

“มันจะเมื่อยอะไรกันนักหนา ยัยนาง..แกต้องหัดมาออกกำลังกายอย่างงี้ซะบ้าง..ไม่ใช่วันๆ นั่งอยู่แต่หน้าประมวลเล่มโตเท่าบ้านอย่างงั้น..สมองไม่มีปลดปล่อย..เลือด คลั่งกันพอดี..เต้นอย่างเงี้ยเลือดกระฉูดดีนักแหละนาง..เชื่อฉัน!” ปากพูดปาวๆ ขาก็ซอยตามยิกๆ คนางค์จ้องมองเพื่อนสาวที่เต้นอยู่ข้างหน้า ถึงกับทำหน้าประหลาดใจ..ไม่อยากจะเชื่อ!!..สมองยัยนี่มันทำได้ยังไงวะ น่ะ..แยกประสาทหูไปฟังข้างหน้า..ส่วนขาก็สามารถเต้นตามได้..แถมยังหันหน้า เอาปากมาพูดกับเราได้อีก..ทำหน้าฉงน แล้วก็ซอยเท้าตามบ้าง..แจ็ดหันมาเห็นหน้าตาท่าทางเพื่อนสาว ก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“นาง!..แกไม่ต้องทำหน้าทำตาจริงจังอย่างนั้นก็ได้..และนึกยังไงเอาไอ้ ผ้าลายตุ๊กตุ่น ตุ๊กตาไปคาดไว้ที่หน้าผากน่ะเฮอะ!..ไม่อายบ้างไง” ปากพูดขาก็ขยับตามเสต็ป

“อายทำไม!..ไม่เห็นน่าอายเลยน่ารักดีออก และตุ๊กตุ่น ตุ๊กตาที่ไหน..โดเรมอนเลยนะยะยัยแจ๊ดลายใหม่..จ๊าบสุดๆ” ยักคิ้วส่งให้แผล็บๆ แจ็ดอมยิ้ม..พยักหน้าหงึกๆ

“เออ!น่ารักดี..เหมือนเด็กๆเลยว่ะแกน่ะ..ตัวนิดเดียว” หัวเราะออกมาเบาๆ หันหน้าไปเต้นต่อ..คนางค์มองตาขวาง!..ยัยนี่หนิ!..ท่าทางปากคงไม่อยากจะกิน น้ำพริกซะแล้ว!..เดี๋ยวสวย เดี๋ยวสวย..พยักหน้าหงึกๆ อาฆาตแค้นในใจ..วันนี้คนางค์สวมเสื้อยืดโปโลรัดรูปแขนสั้นสีขาว..กางเกงขา สั้นสีดำโชว์เรียวขาอันงามระหง..สวมถุงเท้ารองเท้าผ้าใบดูกระฉับกระเฉง..รวบ ผมเป็นหางม้าเผยท้ายทอยได้รูป..คาดหน้าผากด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่พับทบลายโด เรมอนสีฟ้าขาวที่คิดว่าเก๋สุดๆ..เต้นไปได้ซักพักก็ส่งเสียงถามมาอีก
“แจ็ด!!!...พอยังอ่า!”

“เดี๋ยว อีกนิดนึง” คนางค์ถอนหายใจเฮือก..ไม่ไหว! ไอ้กีฬาอย่างอื่นพอว่า..แต่ไอ้เรื่องเต้นเข้าจังหวะนี่หญิงสาวท้อซะเหลือ เกิน..หัวไม่ไปพอจำท่าแรกได้ท่าที่สองลืมอีกแล้ว..พอเริ่มจะจำท่าที่สองได้ กลับลืมท่าแรกซะอย่างงั้น..ให้ไปนั่งท่องจำตำรับตำราเรียนยังจะทำได้ แม่นกว่า..แถมยังถูกเป๊ะๆ อีกด้วย เพราะฉะนั้นไอ้เรื่องเต้นตามจังหวะนี่จึงเป็นสิ่งที่คนางค์ไม่ชอบซะเหลือ เกิน..

“เต้นไม่ทันอ่ะ..แจ๊ด!!!” โอดครวญมาอีก แจ๊ดเหลือบตามองด้วยหางตา สายหัวหงึก หงัก

“มันจะไปยากอะไรแกดูตามฉันนี่..แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ได้” หันกลับไปเต้นต่อ..คนางค์ค้อนควับใส่หลังคนยืนหน้า..ไม่ยากบ้าอะไรล่ะ!..ยาก ฉิบเป๋ง..แกเต้นมาก่อนฉันนี่ก็ไม่ยากน่ะสิ..นี่ถ้าเป็นสเตป ของฉันเองนะ และให้ฉันคิดท่าเองด้วยแบบไม่ต้องเต้นตามน่ะ..ยัยแจ็ดเอ๊ย!!..ครูฝึกก็ครู ฝึกเถอะชิดซ้าย..ต้องมาเรียกนังนางว่าพี่เลย..แถมยังต้องยกถ้วยน้ำชามาซูฮก ให้ฉันด้วยขอบอก!!..บ่หยั่น..ถึงไหนถึงกันมันส์พะยะค่ะ..

นึกได้ดังนั้นก็ใส่ใหญ่ไม่สนใจครูฝึกแล้ว..เต้นค่อมจังหวะซะอย่างงั้น.. โยกหัวสั่นหัวคลอน บิดตัวซ้ายทีขวาทีอย่างแรง ทำไม้ทำมือประกอบ..ขาแข้งไม่ได้อยู่สุขปาดไปทางโน้นนิดบิดมาทางนี้หน่อย..ทำ ประหนึ่งว่าเพลงมันส์ได้อารมณ์อย่างหนัก..ความที่อยู่หลังสุดคนเดียวนึกว่า ไม่มีคนเห็นเลยใส่เต็มที่ไม่มีอายใคร...แต่เปล่าเลยหญิงสาวลืมนึกไปว่าห้อง ที่สิงสถิตย์เต้นออกกำลังกายอยู่นี่เป็นห้องกรุกระจก..เพราะฉะนั้นพวกที่ เดินผ่านไปผ่านมาข้างนอกจะเห็นหมด..เรียกผู้คนให้หยุดชะงักยืนดู อมยิ้มหัวเราะไปตามๆกัน..รวมทั้งสามหนุ่ม ภีม ดลชัยและธันวา ที่กำลังจะเดินผ่านไปสนามเทนนิสด้วย..ธันวานั่งลงผูกเชือกรองเท้า ปล่อยให้สองหนุ่มยืนรอ..ภีมยืนพิงกระจกสายตาก็กวาดเข้าไปในห้องและก็ต้อง ยิ้มออกมา

“อะไรจะมันส์ขนาดนั้น!” หัวเราะออกมาเบาๆ..

“อะไรมันส์”

“แกลองดูสิไอ้ดล..เต้นเป็นเจ้าเข้าเลยในห้องน่ะสงสัยเพลงจะสะใจคุณเธอ พิลึกล่ะนั่น..ออกท่าออกทางล้นสเตปเชียว..ตลกว่ะ!” หัวเราะออกมาอีกระรอก

“ไหน!” เพ่งมองเข้าไปในห้อง..ซักแป๊บก็หัวเราะกร๊ากก ออกมา

“นั่นมันคุณนางนี่หว่าไอ้ภีม...แกจำไม่ได้เหรอน่ะ” ภีมถึงกับเลิกคิ้ว เพ่งมองใหม่

“เออใช่จำไม่ได้..มองข้างหลังตัวนิดเดียว..แหม!..แต่หุ่นสุดยอดว่ะ!”ยืน มองอมยิ้มพริ้ม..ธันวาที่ผูกเชือกรองเท้าเสร็จก็ลุกขึ้น..เดินมายืนข้างๆ บ้าง

“อะไร”

“สาว!” ดลชัยยักคิ้วส่งให้..ธันวามองเข้าไปในห้อง..และก็จำได้อมยิ้มออกมาที่มุมปาก!

“ยัยต๊องเอ๊ย!” พึมพำออกมาเบาๆ ดลชัยเลิกคิ้วหัวเราะออกมาบ้าง

“ไม่ต๊องนะโว๊ยไอ้ธัน..น่ารักดีออกหลุดโลกดี..เดี๋ยวนี้จะมีผู้หญิง อย่างงี้ซักกี่คน..กล้าพูด กล้าทำ..พูดจาตลกไม่ถือเนื้อถือตัว อยู่ใกล้แล้วมีความสุข..สบายใจน่ะ..แถมยังหน้าตาน่ารักกระจุ่มกระจิ๋มอีก ด้วย..หุ่นก็สุดยอดอีกตังหาก อก..องค์..เอวได้หมด..หายากว่ะ” ภีมอมยิ้ม พยักหน้าเห็นด้วยมาอีกคน

“อึมม์..อย่างคุณนางเนี่ย..เค้าเรียกว่าใสๆ ได้ใจ..ไม่ต้องปรุง ต้องแต่งมากมีครบรส..เปรี้ยว..หวาน..มันส์..เค็ม..และดูขาสิเรียวสวยเชียว.. หุ่นเฟริม์มากๆ” จ้องมองไม่เลิก..ธันวาหันไปเพ่งมองบ้างเมื่อซักครู่ไม่ได้สังเกตถึงการแต่ง ตัวของหญิงสาวในห้อง..พอเห็นเข้าถึงกับหงุดหงิดอารมณ์พิลึก..ยัยบ้าเอ๊ย! ใส่กางเกงซะสั้นจุ๊ดจู๋ขนาดนั้นเห็นไปถึงไหนต่อไหน..แต่งตัวล่อตะเข้เหลือ เกินแม่คุณ..รีบหันมาขมวดคิ้วส่งให้ภีม กับดลชัย..

“จะวิจารณ์อีกนานมั๊ย!..จะเล่นหรือเปล่าไอ้เทนนิสน่ะ..หรือว่าจะเกาะ กระจกดูเค้าอยู่อย่างงี้ฉันจะได้กลับ” ภีมอมยิ้มรีบพูดออกมาเสียงดัง

“พวกฉันวิจารณ์ที่ไหนล่ะไอ้ธัน..ชมโว๊ย!!..แกนี่แยกจำแนกภาษาไทยไม่ออก หรือไงวะ” หัวเราะออกมาเบาๆ ทั้งคู่ และก็ต้องหันไปมองในห้องกันทั้งสามคน

“อ้าว! นั่นคุณนางกับคุณแจ๊ดเลิกพอดี..เดี๋ยวอยู่รอเจอพวกเธอก่อน..เมื่อกี้รู้สึก คุณแจ๊ดจะเห็นพวกเราแล้วด้วย..รีบผละออกไปมันจะน่าเกลียด” ดลชัยเปรยออกมาเบาๆ ..ซักครู่สองสาวก็เดินออกมาจากห้อง..แจ๊ดเดินนำออกมาก่อน ดลชัยกับภีมขยับตัวส่งยิ้มให้ ธันวายืนตะแคงข้างเอาไหล่พิงกระจกไว้สายตาก็จับจ้องมาที่สองสาวเช่นกัน

“หวัดดีครับคุณแจ็ด คุณนาง..เป็นไงฮะได้เหงื่อเยอะมั๊ย” ภีมส่งเสียงถามออกมา แจ็ดยิ้มรับ

“นิดหน่อยค่ะคุณภีม..วันนี้ครูที่นำเต้นเปิดเพลงไม่ค่อยเร็วเท่าไหร่..เหงื่อก็เลยไม่ค่อยได้ออกมาก” ภีมถึงกับเลิกคิ้วอมยิ้มออกมา

“จริงเหรอครับ..แต่เมื่อกี้ผมเห็นคุณนางเต้นมันส์มากใส่ไม่ยั้งเลย.. เรียกคนดูเพียบเลยนะครับนั่นน่ะ..อย่างงี้เค้าเรียกว่าใจรักจริงๆ แม้เพลงจะไม่ถึงใจแต่ก็มันส์ได้ด้วยตัวเอง” หัวเราะออกมาเบาๆ คนางค์ยิ้มแหยๆ..อึยส์..เห็นด้วยเหรอ และ..และ นี่คุณดลสุดหล่อของฉันเห็นด้วยหรือเปล่าเนี่ย..ตายๆ ๆ ฉันทำอะไรลงไป..และไหนจะตานั่นอีกนายธันวา..ทำไมต้องมาเจอกันที่นี่ด้วยอ่ะ ฮือๆๆ โอดครวญในใจ ค่อยๆ ส่งเสียงออกมา

“อ่ะ..เอ่อ..คือแบบว่า..นางก็เต้นไปเรื่อยๆน่ะค่ะ..ไม่ได้คิดอะไร..แหะๆ” หัวเราะแห้งๆ ออกมา หน้าตาเจี๋ยมเจี้ยม...

“เต้นเก่งออกครับ..นี่ผมยืนดูยังมองซะเพลินเลย”ดลชัยส่งเสียงออกมาบ้าง

“เหรอค้า!!” หญิงสาวยิ้มแป้น ลากเสียงซะยาวภูมิใจสุดๆ พลอยทำให้คนที่ยืนพิงกระจก..หมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ

“จะคุยกันอีกนานมั๊ย” น้ำเสียงไม่สบอารมณ์ คนางค์หุบยิ้มฉับ! เป็นอะไรอีกล่ะตานี่ทำหน้าอย่างกับโดนใครเหยียบเท้ามาอย่างงั้นแหละ..ดลชัย หันไปมองเพื่อนชายพอเห็นสีหน้าก็หัวเราะออกมาเบาๆ รีบหันกลับมาหาสองสาว

“รีบกลับหรือเปล่าครับ!..ถ้าไม่รีบอยู่เล่นเทนนิสด้วยกันกับพวกผมก่อน..หลายๆ คนสนุกดี” แจ๊ดยิ้มแป้นรีบส่งเสียงอย่างไว

“ไม่รีบค่า!!..อุ้ยส์” ร้องโอดครวญออกมาเบาๆ หน้าตาเหยเก..เจอฝีเท้าคนางค์เหยียบเข้าไปเต็มลัก รีบกระซิบกระซาบส่งเสียงออกไป

“นี่ยัยนาง..แกเป็นบ้าอะไรเหยียบเข้ามาได้เจ็บนะวุ้ยส์” ทำปากซื้ดซ๊าด คนางค์ขึงตาส่งให้แจ๊ด และก็หันมายิ้มแหยๆ ให้กับหนุ่มๆ สองคนที่ยืนอมยิ้มมองอยู่ ไม่ปลายตาไปทางธันวาซักนิด

“อ่ะ..เอ่อ! ขอตัวแป๊บนะคะ” รีบลากแขนแจ๊ดเดินห่างออกมาจากสามหนุ่ม พอคิดว่าพ้นรัศมีการได้ยินแล้วก็รีบกระซิบใส่แจ๊ดอย่างเร็ว

“แกจะบ้าเหรอยัยแจ๊ด..ไปตอบตกลงกับพวกเค้าทำไม” แจ๊ดขมวดคิ้วนิ่วหน้า

“ก็ทำไมจะไม่ได้ล่ะ..ฉันกับแกก็ไม่ได้รีบกลับอะไรนี่..อยู่เล่นกับเค้า ซักเกมส์สองเกมส์ไม่เป็นอะไรหรอกน่า” คนางค์ตาเหลือก..พ่นลมหายใจออกมาดังพืด!!

“ไม่เอา!ฉันไม่อยู่..แกจะอยู่ก็อยู่ไปแล้วกัน..ฉันจะกลับบ้าน!!”

“นางอ่ะ!..อยู่เป็นเพื่อนฉันก่อน นึกว่าเห็นกับฉันเถอะนะ..นานๆ ฉันจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับพระเอกของฉันซักที..มันยากนะนาง..น้านางน้า” อ้อนออกมาเบาๆ

“ไม่เอ๊า!”

“นางอ่ะ! นะขอร้อง!” ยกมือขึ้นไหว้พะงก พะงก ทำหน้าน่าสงสารอยากอยู่จัด..คนางค์เห็นท่าทางเพื่อนสาวก็ถอนหายใจออกมาดังเฮือก..

“เออๆ ก็ได้ๆ แต่แกเล่นได้แค่เกมส์สองเกมส์เท่านั้นนะ..ห้ามเกินกว่านั้น..ไม่งั้นฉันกลับก่อนจริงๆด้วย” ขู่มาอีกระลอก

“เออน่า! ไว้ใจฉันเถอะ..ไปๆ” หน้ายิ้มแป้นแล้น รีบลากแขนคนางค์อย่างไวกลับไปสมทบกับสามหนุ่ม ออกเดินตามหลังหนุ่มๆไป กระซิบกระซาบกันอยู่ข้างหลังสองคน แจ๊ดหน้าบานเป็นกระด้ง ระริกระรี้ใหญ่ ถูกใจ

“นาง!..แกเห็นคุณธันวามั๊ย..หล่ออ่ะ!..เท่ห์มากเลย..แกดูขาสิแข็งแรงมาก กก!”ทำหน้าทำตาหื่น..คนางค์ตาเหลือกหันหน้าเลิกลั่ก..กระซิบขู่ฟ่อออกมาเบาๆ

“นี่นังบ้า!..แกพูดออกมาอย่างงั้นได้ยังไง..แกเป็นผู้หญิงนะเดี๋ยวถ้า พวกเค้าได้ยินขึ้นมาทำไง..ยัยนี่หนิ” แจ๊ดทำปากจึก จัก..ทำหน้าไม่สบอารมณ์ ซักแป็บก็ยิ้มแฉ่งออกมาอีกสายตากวาดไปมองรอบๆ สะกิดแขนคนางค์ยิก ยิก

“นาง!..แกดูสิสาวๆ มองตามกันเหลียวหลังเลย..คงจะอิจฉาฉันกับแกน่าดู..อิอิ! มีหนุ่มหล่อล้อมรอบอยู่ใกล้ๆ” คนางค์ทำหน้าเซ็งเลย

“ป๊าดดด! นังแจ๊ด มันล้อมรอบตรงไหนล่ะเนี่ย..เดินตามเค้าต้อยๆ เหมือนจะขอส่วนบุญส่วนกุศลเค้าอย่างงั้นแหละ..และดูหน้าพระเอกของแกสิไม่ เห็นเค้าจะยินดียินร้ายกับไอ้ที่เรามาด้วยเลย..นี่ถ้าฉันไม่เห็นกับแก คุณดล และก็คุณภีมนะฉันกลับไปแล้ว” หงุดหงิด! หงุดหงิด!

“เหอะน่า!..คิดอะไรมากล่ะนาง..คุณธันวาเธอคงมีเรื่องต้องคิดน่ะ..หน้าก็ เลยไม่ค่อยยิ้มเดี๋ยวซักแป๊บก็คงค่อยๆ ออกมาเองแหละ..คุณธันวาเธอน่ารักออกจะตายไป” คนางค์เบ้หน้าไม่อยากจะเชื่อ..ไม่รู้ยัยแจ๊ดชอบไปได้ยังไง..ผีเข้าผีออกเดา อารมณ์ไม่ถูก..เมื่อวานยังดีๆ อยู่เลยพาไปส่งถึงที่..แต่ไหงวันนี้ทำเหมือนกับเราเป็นมนุษย์ล่องหลอย่าง นั้นแหละ..ไม่พูดด้วยซักคำแถมหน้าตาก็บอกบุญไม่รับ..เออดี! เก๊กให้ตลอดเถอะอย่ามาง้อนะ..แม่จะไม่พูดด้วยเลย ฮึมม์ ทำหน้ามาดมั่น! ซักครู่ก็เดินมาถึงสนาม..อากาศเริ่มสลัวๆ สปอร์ตไลท์สีขาวเปิดสว่างโล่ทั่วไปหมด..สนามข้างๆยังมีคนเล่นอยู่เต็ม..ทั้ง หมดเดินเอาอุปกรณ์กีฬาไปวางไว้บนโต๊ะ แจ๊ดขอตัวไปเข้าห้องน้ำ คนางค์เลยรีบนั่งลงพักขาที่เริ่มจะมีอาการปวดเมื่อยนิด ๆ เพราะสเตปที่ใส่ไม่ยั้งเมื่อสักครู่..นั่งบีบนั่งเค้นน่องอยู่อย่างนั้น ภีมหันมาเห็นก็อมยิ้มส่งให้

“ปวดขาเหรอครับคุณนาง!” คนางค์รีบเงยหน้าขึ้นทันที

“นิดหน่อยค่ะ..ไม่ถึงกับปวดแค่เมื่อยเฉยๆ” ยิ้มเห็นฟันสามสิบสองซี่ ภีมหัวเราะออกมาเบาๆ นั่งลงมาข้างๆหญิงสาว

“คุณนางนี่ตลกนะฮะ..แปลกดี” หญิงสาวยิ้มปูเลี่ยน ปูเลี่ยนส่งให้อีกครั้ง

“ชมหรือเปล่าคะ..ฟังดูเหมือนจะชมยังไงไม่รู้”

“ชมครับ..น่ารักดีหาได้ยาก” ยักคิ้วส่งให้แพล๊บๆ หญิงสาวตาเบิกโพรง

“จะจีบนางหรือเปล่าคะ..ถ้าใช่เดี๋ยวรอนางสร้างเนื้อสร้างตัวก่อนค่ะ.. มันยังไม่พร้อม” หน้าตาจริงจังมาก ภีมมีอันต้องหัวเราะออกมาเสียงดัง..ดลชัยที่ได้ยินก็หัวเราะออกมาด้วยเช่น กัน ผิดกับธันวาที่ยืนขมวดคิ้วนิ่วหน้าอยู่อย่างงั้น..

“ไม่เล่นกันใช่มั๊ย..ถ้าไม่เล่นฉันจะได้กลับ..เสียเวลา!” นั่นแหละภีมถึงลุกจากเก้าอี้ได้

“เออๆไปแล้ว..ใจร้อนจริงเชียว..ไปครับคุณนาง..ลุก!”หันมาพยักเพยิกหน้าชวนหญิงสาวให้ลุกขึ้นไปเล่นด้วยกัน คนางค์ส่ายหน้าอย่างไว
“เชิญพวกคุณเถอะค่ะ..นางเล่นไม่เป็นหรอกไอ้เทนนง..เทนนิสเนี่ย..ถ้าตีแบ ดยังจะพอไหว” ดลชัยอมยิ้มออกมา กำลังจะอ้าปากพูดแต่ก็มีอันต้องหยุดทันทีหันไปหาต้นเสียงที่ร้องเรียกธันวา อยู่ไกลๆ

“ธันคะ..มาอยู่ที่คอร์ตนี้นี่เอง..วิตามหาให้ทั่ว” วิลดาในชุดกีฬาแบนด์เนม..เดินย่างกายเข้ามาในสนามตรงลิ่วเข้ามาเกาะแขนธันวา อย่างเร็ว ชายหนุ่มหันไปเลิกคิ้วส่งให้

“รู้ได้ยังไงครับว่าผมอยู่ที่นี่”

“วิโทรหาน้องษาค่ะ..พอรู้วิก็เลยรีบตามมา..นี่เล่นกันหรือยังคะวิจะมา เล่นด้วยซักหน่อย” ยิ้มพริ้มหว่านไปทั่ว และก็ต้องสะดุดกึกหุบยิ้มฉับเมื่อสายตาพานพบกับหญิงสาวที่นั่งยิ้มแฉ่งส่งมา ให้ตรงหน้า..วิลดาขมวดคิ้วมุ้น..มาได้ยังไงล่ะยัยนี่ใครปล่อยให้ยัยบ้านี่ เข้ามาในนี้นะ..และดูแต่งตัวเข้าสิสะเหร่อจริงๆ เอาผ้าอะไรไม่รู้ไปแปะไว้ตรงหน้า..บ้านนอกสิ้นดี! ตวัดหางตาส่งให้คนางค์อีกรอบ..

“ธันคะตกลงจะเล่นกันเลยหรือเปล่าคะ..วิอยากเล่นจะแย่อยู่แล้ว” ชะอ้อน ออเซาะ..เงยหน้าขึ้นยิ้มพริ้มให้ชายหนุ่ม คนางค์ที่นั่งมองอยู่หมั่นไส้..เบะปาก และก็เริ่มทำปากขมุบขมิบตาม...ธันคะ! วิอยากเล่นจะแย่อยู่แล้ว...เล่นซักทีสิคะธันขา!!!..แหวะ! เลี่ยนซะไม่มีอ่ะ..ไม่มีมารยาท..เรายิ้มให้ไม่มียิ้มตอบหรอกแถมยังทำหน้า เหยียดหยามขนาดนั้น.. กะจะเป็นศัตรูกันใช่มั๊ย..อึมม์ได้..อย่าแหยมเข้ามาหาเรื่องฉันก่อนนะ..ไม่ งั้นมีได้เจอฤทธิ์นังนางบ้างล่ะ..ส่งค้อนให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้ามี เผื่อแผ่มาให้บรุษที่หญิงสาวยืนเกาะอยู่ด้วย..และก็ต้องสะดุ้งโหยงเจอสายตา ของบุรุษตรงหน้าสวนกลับมา..จ๊ากก!!..มองอยู่เหรอ!..รีบหันหน้าไปยิ้มแหยๆ ให้ดลชัยกับภีมที่ยืนกลั้นหัวเราะกันอยู่..ดลชัยรีบส่งเสียงมาอย่างไวนัยย์ ตาอมยิ้มพราว...

“ดีเลย..คุณวิมาจะได้ครบคู่..เล่นคู่กันไปเลยสนุกดี..อ่ะ!..นั่นคุณแจ๊ด มาพอดี” แจ๊ดเดินอมยิ้มล่าเข้ามาหา สายตาเหลือบเห็นวิลดาก็ส่งยิ้มให้

“หวัดดีค่ะ คุณวิลดา” วิลดาทำหน้าเอือม..พยักหน้าส่งให้ และก็หันมาหาดลชัยส่งน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว

“ตกลงเล่นคู่เหรอคะ..งั้นให้วิคู่กะธันนะคะจะได้ดูสูสีหน่อย” คนางค์กับแจ๊ด หันหน้ามาเบะปากใส่กันโดยไม่ได้นัดหมาย..ภีมที่มองอยู่อมยิ้มหัวเราะคิก ๆ

“อะ..ไม่ได้ครับ! ไม่ได้!” ดลชัยส่ายหน้าอย่างไว “เจ้าธันกับคุณวิเล่นเก่งกันทั้งคู่..จับอยู่ด้วยกันไม่ได้..เอางี้..เพื่อไม่ให้เป็นการได้เปรียบเสียเปรียบ..เดี๋ยวคุณวิมาคู่ผม เพราะผมเล่นไม่ค่อยเก่ง..คุณแจ๊ดไปคู่เจ้าภีมเอาตัวรอดได้ด้วยกันทั้งคู่.. ส่วนคุณนางที่ยังเล่นไม่ค่อยได้ก็ไปคู่เจ้าธันเพราะว่าเจ้าธันมันช่วยได้ อยู่แล้วมันเก่ง!” วิลดาหน้างอเป็นจวัก ไม่รู้จะโต้เถียงยังไง เพราะดลชัยอ้างเหตุผลออกมาหมด..ยืนทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่อย่างงั้น..ส่วน คนางค์อ้าปากหวอไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาร่วมอยู่ในเกมส์ด้วยรีบระล่ำระลัก ส่งเสียงอย่างไว

“อ่ะ..เอ่อ..คุณดลคะ..คือนางเล่นไม่เป็นค่ะ..ให้นางดูอยู่เฉยๆ ดีกว่า” ภีมหัวเราะออกมาบ้าง

“ไม่เป็นไรครับคุณนาง..แค่ยืนอยู่เฉยๆ เท่านั้นแหละ..เดี๋ยวเจ้าธันมันจัดการเอง..มันเก่ง!” คนางค์ยิ้มแหยๆ อ้ำอึ้งส่งเสียงออกไป

“อะ..เอ่อ!” ดลชัยไม่ฟังเสียงคนางค์ซักนิด ตบไม้ตบมือเดินออกไปส่งเสียงแจ้วๆ

“งั้นตามนี้นะครับ!..เริ่มเล่นกันเลยดีกว่า” คนางค์ขมวดคิ้วมุ้นหันไปหาแจ๊ดที่ยืนอยู่ข้างๆ ส่งเสียงโอดครวญออกมาเบาๆ

“แจ๊ดอ่า!! ฉันเล่นไม่เป็น”

“เออ!..ฉันรู้แล้ว แกก็ยืนอยู่เฉยๆ อย่างที่คุณภีมบอกนั่นแหละ..เดี๋ยวคุณธันวาเค้าช่วยแกเอง..เค้าเก่งนะ โว๊ยยัยนาง..ฉันเคยเห็นเค้าเล่นหลายครั้งแล้วสุดยอดด!!” อมยิ้มปลื้มออกมา..และก็กระซิบส่งมาอีก “ว่าแต่เมื่อกี้ฉันโคตรสะใจเลยว่ะ..ตอนที่คุณดลบอกให้แกคู่คุณธันวาน่ะเห็น หน้ายัยนั่นแล้วอยากจะหัวเราะ..หน้านี้ง้ำเป็นกระทะคว่ำตอนล้างเสร็จใหม่ๆ เลย..สะใจสุดๆ สมน้ำหน้าหยิ่งดีนัก”หัวเราะออกมาเบาๆ แต่คนางค์ไม่หัวเราะด้วย หัวสมองยังหนักอึ้งมึนตึ้บอยู่..เทนนิส!!..พระเจ้า!อย่าว่าแต่เล่นเลย..ดู ยังไม่เคยคิดจะดู..เปิดโทรทัศน์เจอปุ๊บก็รีบเปลี่ยนปั๊บไม่เคยคิดจะสนใจ.. และเค้าเล่นยังไงกันอ่ะ!..หน้าเป็นกังวลสุดๆ..ภีมหันมาเรียกแจ๊ดให้ออก ไป..คู่ของภีมจะเล่นกับคู่ของดลชัยก่อน..คนางค์ยังนั่งขมวดคิ้วมองคนในสนาม อยู่อย่างงั้น..

ซักครู่ร่างกำยำของธันวาก็นั่งลงมาข้างๆ..หญิงสาวแสยะยิ้มส่งไปให้ ชายหนุ่มไม่สนใจหันหน้าไปมองในสนามเฉย..คนางค์หุบยิ้มฉับหน้าเริ่มยู่รีบหัน ควับไปมองในสนามด้วยเช่นกัน..ขี้เก๊ก! อย่าหวังว่าจะได้ยิ้มจากฉันเป็นครั้งที่สองเลย..เชอะ! นั่งบ่นงึมงำในใจ..ซักแป๊บมีอันต้องตาเหลือกค่อยๆ เหลือบตาไปมองดูคนข้างๆ อีกครั้ง..ธันวานั่งเหยียดขายาวเอาข้อศอกทั้งสองข้างท้าวไปข้างหลัง...พระ เจ้า! นั่นขาเหรอน่ะยาวจังเลยอ่ะ..น่องเป็นมัดๆเชียว..และดูขนสิ..อึยย์..จักกะเดี ยม!..เยอะฉิบเป๋ง นี่ผู้ชายจะมีขนเยอะอย่างงี้ทุกคนมั๊ยเนี่ย..หรือว่าจะเป็นเฉพาะตานี่..รีบ ปรับเปลี่ยนสายตาเพ่งไปมองขาของดลชัยกับภีมในสนาม..นั่นไงฉันว่าแล้วคนอื่น ไม่ยักเยอะ..สงสัยจะเป็นลูกลิงมาเกิดแน่ๆ หัวเราะกิ๊กออกมา..

“เป็นอะไร!!” คนางค์สะดุ้งโหยง..หุบปากฉับ!

“เปล่า!” ทำคอแข็ง..สายตาตรงเด๋วมองออกไปเบื้องหน้า..ธันวาถอนหายใจเฮือก..ให้ตายเหอะ เขาอยากจะเอื้อม มือไปบีบคอยัยบ้าข้างๆ นี่จัง..โทษฐานทำให้ใจเขาวอกแวกไม่เป็นตัวของตัวเองมาตั้งแต่ตอนเจ้า หล่อนอยู่ในห้องเต้นนั่นแล้ว..คำวิจารณ์เกี่ยวกับรูปพรรณสัณฐานของผู้หญิง ข้างๆ ที่ออกจากปากเพื่อนเขาทั้งสองมันก่อให้เกิดอาการคันหัวใจยิบๆ อยากจะเอามือไม้ของตัวเองไปปิดป้องเรียวขาได้รูปนั่นโดยไวมิให้ไอ้ผู้ชาย หน้าไหนได้มองเห็นซะอย่างงั้น..ไหนจะหุ่นเล็กบอบบาง อ้อนแอ้นนั่นอีก..นี่เจ้าตัวจะรู้บ้างไหมว่าทำให้เขาต้องแอบเหลือบตามองอยู่ บ่อยครั้งยามที่เจ้าหล่อนเผลอตัว..และดูสิ!..ยังมานั่งหัวเราะคิกๆ ทำหน้าเป็น คอแข็งไม่รู้ไม่ชี้อยู่อย่างงั้น..ชายหนุ่มถอนใจออกมาอีกเฮือกนึง ส่งเสียงออกมาเนิบๆ

“หายดีแล้วเหรอ!” คนางค์ปลายหางตามามองนิดนึง ทำตาหลี่ๆใส่ ไม่ไว้ใจ!!

“อะไรหาย!” ชายหนุ่มทำเสียงจึก จักในลำคอ หันหน้ามามองนิ่ง

“ก็ไอ้อาการปวดท้อง..ในวันแดงเดือด วันที่ฮอร์โมนฉีดพล่านของเธอน่ะ..หายดีแล้วเหรอ” หญิงสาวหน้าร้อนวูบ วาบ หันไปมองธันวาตาขวาง

“หายแล้ว!” ธันวาพยักหน้าส่งให้..และก็หันกลับไปมองในสนามใหม่ด้วยกันทั้งคู่..บรรยากาศ อยู่ในความเงียบมีแต่เสียงลูกเทนนิสกระทบแร๊คเก็ตส่งมาเท่านั้น..ซักครู่ธัน วาก็เอื้อนเอ่ยออกมาเบาๆ

“อย่าแต่งตัวแบบนี้อีก” คนางค์ได้ยินไม่ถนัด หันหน้ามาเลิกคิ้วส่งให้

“อะไร!” ชายหนุ่มเหลือกตามองขึ้นไปบนท้องฟ้า..เซ็งจัด! และก็หันหน้ามาจ้องตาหญิงสาวนิ่ง ส่งน้ำเสียงรอดไรฟันออกมา

“อย่าแต่งตัวอย่างที่แต่งวันนี้อีก” คนางค์ขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจ

“ทำไม!”

“ฉันบอกเธอก็ทำตามแล้วกันน่า!” น้ำเสียงหงุดหงิด เต็มที่

“ก็ทำไมล่ะ” หญิงสาวจ้องเขม็งไม่ลดละ ชายหนุ่มทำปากจึก จัก

“ฉันไม่ชอบ..” คนางค์หน้าง้ำ พูดน้ำเสียงสะบัดส่งมา

“คุณไม่ชอบก็เรื่องของคุณ..และถ้ามันจะน่าเกลียดมันก็เรื่องของฉัน..ฉันไม่ได้แต่งมาให้คุณดูซักหน่อย”ชายหนุ่มทำปากจึกจัก

“ฉันหมายถึงอย่างงั้นเมื่อไหร่กัน”

“ไม่รู้ล่ะ..คำพูดคุณมันสื่อออกมาชัดๆ” ชายหนุ่มสบทออกมาเบาๆ

“ยัยบ้าเอ๊ย!..ฉันหมายถึงว่าฉันไม่ชอบให้ใครมามองเธอด้วยสายตาแบบนั้น มันไม่ดี..นุ่งสั้นออกขนาดนั้นจะใส่มาล่อตะเข้หรือไง” คนางค์ตาเหลือก ควันออกหู..ตวาดแว๊ดออกมาอย่างไว

“ใครบอกว่าฉันใส่มาล่อตะเข้!..และมันสั้นที่ไหน..ยัยแจ๊ด..คุณวิอะไรนั้นยังใส่สั้นกว่าฉันอีก”

“มันไม่เหมือนกัน” คนางค์โกรธ!! ทีนี้หันหน้ามาหาทั้งตัวเลย

“ทำไมไม่เหมือนกัน!..จะบอกว่าขาฉันมันน่าเกลียดใช่มั๊ย..ใส่ยังไงก็ไม่ ดูดีขึ้นมางั้นสิ” เสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ธันวาเหลือบตามองไปในสนามเห็นยังเล่นกันดีอยู่ ก็รีบหันมาหาคนข้างๆอย่างไว

“มันใช่ที่ไหนล่ะ..เธอนี่สรุปไปเรื่อย..แล้วพูดซะเสียงดังอยากให้ชาวบ้านเค้ารู้เหรอไง” ตะคอกออกมาเบาๆ

“และทำไมจะรู้ไม่ได้..ฉันไม่ใช่คนผิดซักหน่อย..คุณนั่นแหละผิด” นั่งหน้าหงิกเถียงไม่เลิก..ธันวาถอนหายใจเฮือก ส่ายหัวหงึกหงัก

“ไปกันใหญ่..เธอนี่ยิ่งกว่าเด็กสามขวบอีกพาลไม่เข้าเรื่อง..คนเค้าหวังดีเตือน..ทำมาเป็นอวดเก่ง”

“ไม่ต้องมายุ่ง!” สะบัดน้ำเสียงส่งมา หันหน้าพรืดไปจ้องในสนามใหม่..นั่งหน้าบึ้ง..ตาบ้าเอ๊ย!..มาหาว่าขาฉันไม่ สวยเหรอ!..ได้ไง!..ไอ้อวัยวะที่มีอยู่ในร่างกายฉันทั้งหมดเนี่ย..ไอ้ขาคู่ นี้แหละมันเป็นความภาคภูมิใจสุดๆ ของฉันเลยนะเป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาของฉันเลยด้วย..ใครๆ ก็ว่าของฉันสวยทั้งนั้น..ต้องตาบอดแน่ๆ..ตาบอดชัวร์!..ว่าฉันแบนบ้างล่ะ.. เล็กบ้างล่ะ..ไหนจะเตี้ยอีก..พระเจ้า!..มีใครเคยบอกตานี่บ้างไหมว่าปาก จัด!!..ต้องไม่มีแน่ๆเลย..ปากถึงได้เป็นตะไกรโรงพยาบาลอยู่อย่างงี้..นั่ง ขมวดคิ้วนิ่วหน้า..ตบขาผาง!..แค้นใจ..

“เป็นบ้าอะไรอีกล่ะ” คนางค์หันมาค้อนควับ

“เปล่า!” นั่งหน้าคว่ำบอกบุญไม่รับอยู่อย่างงั้น...

“อ่ะ!”

“อะไร!” หงุดหงิด! หงุดหงิด!..หันไปมองตาขวาง

“แร๊คเก็ต..ไม่เล่นหรือไง..คู่เจ้าภีมมันออกมานั่นแล้ว”ว่าแล้วก็ลุก ขึ้นยืนกระโดดสปริงตัว..บิดตัวซ้ายทีขวาทีวอร์มอัพ..หน้าที่คว่ำของหญิงสาว เมื่อซักครู่เริ่มจางลง..ปรากฏริ้วรอยกังวลใจบนใบหน้าขึ้นมาทดแทน..

“คุณ..ฉันเล่นไม่เป็นอ่ะ..คุณลงไปคนเดียวได้มั๊ยอ่ะ..และดะ..เดี๋ยวฉัน คอยเชียร์คุณอยู่ข้างๆ สนามนะ” ยิ้มประจบ..พยักหน้าหงึก หงึก..คิดว่าเป็นความคิดที่ดี..ชายหนุ่มคงเห็นดีด้วย

“ไม่ต้อง..ลงไปด้วยกัน..เค้าเล่นกันเป็นคู่ไม่เห็นหรือไง..อ่ะเอาไป!” ยื่นแร็คเก็ตส่งให้..คนางค์หน้าง้ำค่อยๆ ยื่นมือไปรับพอได้สัมผัสเท่านั้นแหละ..มีอันต้องหน้าเบ้!

“ทำไมอันมันใหญ่จังอ่ะ..เล็กๆไม่มีเหรอ..มันหนักด้วย!” บ่นมาอีกระรอก..ชายหนุ่มทำหน้าเอือม

“นี่แหละกำลังดีจะให้มันเล็กขนาดไหน..ไม้เทนนิสนะแม่คุณไม่ใช่ไม้แบด.. เรื่องมาก!” คว้าของตัวเองได้ก็เดินจ้ำอ้าว..คนาค์ค้อนตาคว่ำค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

“เร็ว..เร็ว!” หันมาเร่งอีก คนางค์เดินหน้ายู่ตามต้อยๆ..สวนกับแจ๊ดที่กำลังเดินกลับเข้ามา แจ็ดกระซิบส่งมาเบาๆ

“นาง..แกใส่เต็มที่เลยนะ..ไม่ต้องยั้ง..เอาให้ยายนั่นออกให้ได้..ฉันล่ะหมั่นไส้จริงๆ” คนางค์มองตาขวาง

“ใส่บ้านแกน่ะสิ...ถือไม้ยังจะไม่ไหวตียังไม่รู้จะโดนลูกหรือเปล่า..จะ ให้ฉันใส่อะไรอีก..แกนะแก..นังแจ๊ด!” บ่นงึมงำ..ไม่สบอารมณ์ แจ๊ดหัวเราะออกมาเบาๆ
“เออน่า!..ตีไม่โดนเอาท่าสวยไว้ก่อนก็ได้..เดี๋ยวคุณธันเค้าจัดการเอง แหละ” คนางค์ค้อนควับเดินโท่งๆ เข้าไปในสนาม..ไปหยุดยืนข้างๆ ธันวาซะอย่างงั้น..ชายหนุ่มหันมาเลิกคิ้วส่งให้

“ไปยืนข้างหน้า..เดี๋ยวฉันคุมหลังเอง!” หญิงสาวขมวดคิ้ว

“ยืนตรงไหนอ่ะ!” ธันวาจับข้อมือหญิงสาว..พามายืนตรงหัวมุมเส้น...

“ยืนตรงนี้แหละ..คอยระวังหน้าไว้..ถ้ารับไม่ได้ปล่อยมาเดี๋ยวฉันรับ เอง..หญิงสาวพยักหน้าหงึกๆ เข้าใจๆ ธันวากลับไปยืนที่ของตัวเอง..ซักครู่เกมส์ก็เริ่มขึ้นดลชัยเป็นฝ่ายเสริ ฟ์ก่อน..เสริฟ์ได้หนักหน่วงมากจี้ไปที่ธันวาที่ยืนคุมหลังอยู่..คนางค์อ้า ปากหวอหันควับไปมอง..พอธันวารับได้โต้กลับไปเท่านั้นแหละ...

“กรี๊ดดดดด!!!” กระโดดดีใจอย่างแรงตบไม้ตบมือใหญ่..ดลชัยกับวิลดาตกใจ!..ลืมรับลูกซะอย่าง งั้น..ทำเอาภีมกับแจ๊ดที่นั่งอยู่ริมสนามหัวเราะออกมาเสียงดัง..ฝ่ายธันวาก็ แหงนหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า..เอือม! และเกมส์ก็เริ่มอีกครั้งนึงวิลดาจะเป็นผู้เสริฟ์..คนางค์ยังยืนตัวตรงเด๋วอ ยู่ที่จุดเดิม..ธันวาพ่นลมหายใจออกมาดังพืด!! ส่งเสียงมาจากข้างหลัง

“เปลี่ยนที่ยืน” หญิงสาวหันกลับไปมอง

“ยืนตรงไหนอ่ะ!” ชายหนุ่มทำปากจึ๊ก จั๊ก..รีบส่งเสียงบอกวิลดาให้หยุดเกมส์ก่อน..เดินตรงรี่ไปหาหญิงสาว..จับข้อ มือได้ก็ลากมายืนตรงมุมเส้นอีกฝั่งนึง...

“อ่ะ!..ยืนตรงนี้แหละ..และก็ก้มซะบ้างไม่ใช่ยืนตัวตรงเป็นเสาโทรเลข อย่างงั้น..เดี๋ยวก็ได้เจอลูกหลงหรอก” หญิงสาวพยักหน้าหงึกๆ เข้าใจๆ ธันวาเดินกลับไปยืนที่เดิม..เกมส์เริ่มต้นอีกครั้ง..คนางค์มองตรงไปข้างหน้า เห็นดลชัยก้มขยับตัวไปมาส่ายก้นดิ๊กๆ..ก็ขมวดคิ้ว และก็ทำตามบ้างส่ายซ้ายทีขวาทีขาอยู่ไม่สุข..ทำเอาคนยืนหลังที่มีสมาธิจดจ่อ อยู่กับลูกถึงกับเขวไป..รีบส่งเสียงเบรกเกมส์ไว้อีกครั้งนึง..เดินเข้ามาหา คนางค์อย่างไว..

“นี่ยัยเบื้อกจะส่ายทำไมน่ะเฮอะ!”

“ก็คุณดลทำอ่ะ”เถียงมาอีก..ภีมกับแจ็ดหัวเราะเสียงดัง..แม้แต่ดลชัยก็ ยังต้องยืนอมยิ้ม..จะมีก็แต่วิลดาเท่านั้นแหละหน้างี้คว่ำ..หงุดหงิดเป็น ยิ่งนักส่งเสียงข้ามฝั่งมา...

“นี่เธอ!..เล่นไม่เป็นก็ออกๆ ไปซะ..ถ่วงคนอื่นเค้าอยู่ได้..น่ารำคาญ!..คุณภีมมาเล่นแทนหน่อยสิ”หันไป เรียกภีมที่นั่งอยู่ขอบสนาม คนางค์ได้ฟังถึงกับหน้าบึ้งหรี่ตานิดๆ..ได้!จะเป็นคัตรูกับฉันใช่มั๊ย ..ได้!!

“ไม่ออกค่ะ! จะเล่น” หันควับไปหาธันวาที่ยืนอยู่ข้างๆ ทำหน้าทำตาไร้เดียงสาจับมือธันวานิ่ง ส่งเสียงหวานออกไป

“คุณธันขา!!..คุณธันไปยืนที่ตัวเองเร๊ว!..เดี๋ยวนางจะยืนข้างหน้าคอยรับ ลูกให้เองนะคะ” น้ำเสียงออเซาะ..ใบหน้ายิ้มพริ้ม..ธันวาเลิกคิ้วนิดนึงแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ ขัด..คนางค์จูงมือชายหนุ่มให้กลับมายืนอยู่ท้ายคอร์ตเหมือนเดิม..ส่งเสียง ปาวๆ ให้หญิงสาวฝั่งตรงข้ามได้ยินด้วย
“อยู่ตรงนี้นะคะ..คุณธันขา!..คอยระวังหลังให้นางด้วย” พูดเสร็จก็เดินเยื้องย่างกลับไปยืนที่เดิม..ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก้มลงส่ายก้น ต่อ..วิลดาหน้ามุ้ยแค้นใจเป็นยิ่งนัก...แจ๊ด กับภีมหัวเราะออกมาอีกระรอก..

“คุณนางนี่ตลกดีเนอะ” ภีมหันมาชวนคุย

“ค่ะ!..มีเรื่องให้ต้องขำอยู่เรื่อยๆ..เค้าจะเป็นผู้หญิงแปลกๆ..มีหลาก หลายบุคลิก..ตลกสุดๆ และก็จนถึงเป็นการเป็นงานสุดๆด้วย แต่ทุกการกระทำที่ออกมาเนี่ยมันเป็นธรรมชาติของเค้าโดยเนื้อแท้..แจ๊ดเคยตาม นางไปที่ศาลวันนึง..นางเค้าเป็นทนายอาษาสมัครให้กับมูลนิธิเพื่อนหญิงค่ะทุก วันเสาร์อาทิตย์เค้าจะไปอยู่ที่นั่น” ภีมเลิกคิ้ว

“จริงอ่ะ!” แจ็ดพยักหน้า

“จริงค่ะ..นางไปทำงานที่นั่น..นางว่าความให้กับเด็กที่ถูกทำทารุณกรรม ทางเพศ..ผู้ต้องหาไม่ยอมรับผิดถึงขั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันเลยทีเดียว..ทาง โน้นเค้าเงินหนา แถมพ่อกับแม่เค้าก็มีชื่อเสียงซะด้วย..แต่เด็กที่นางว่าความให้นี่จนกรอบเลย พ่อกับแม่ก็เป็นตาสียายสาบุคคลทั่วๆไป..หาเช้ากินค่ำ..คือถ้าให้ไปหาทนายเอง ก็คงจะไม่มีหวัง..นางเค้าก็เลยช่วย..คือทำด้วยใจจริงๆ เปิดตำหรับตำราค้นหากันให้ควัก..จะกู้ศักดิ์ศรีของเด็กผู้หญิงคนนั้นคืนมา ให้ได้” แจ๊ดนั่งยิ้มพริ้มนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา..ภีมนั่งฟังนิ่งใจไม่ได้จดจ่อ อยู่ที่สนามแล้ว

“นางทำสำเร็จค่ะ..เค้าทำเอาแจ๊ดทึ่ง..เวลาเค้าสวมชุดครุยเนติ์..นางดู เปลี่ยนไปเป็นคนละคนดูสง่า..วันนั้นนางว่าความได้ดีมากพูดไหลลื่นไม่มีติด ขัด มีเหตุมีผลพร้อม..หลักฐานที่จะเอาผิดนางมีหมด..ทนายจำเลยถึงกับอึ้งไม่รู้จะ เอาอะไรมาโต้แย้ง..อัยการก็เลยสั่งปิดคดีได้..นางชนะ!” ภีมยิ้มนั่งเอนตัวพิงขอบโต๊ะ

“เก่งนะฮะ”

“ค่ะ!..สมองเค้าดี..เห็นอะไรผ่านตาแว๊บเดียวถ้าเค้าเพ่งจริงๆ จะแม่นมาก..อันนี้แจ๊ดก็ยัง งง!ๆ อยู่เค้าทำได้ไงก็ใม่รู้” ภีมมีอันต้องแปลกใจอีกครั้งสายตา ก็จ้องไปยังคนที่พูดถึง

“แปลกดี!” ในสนามเกมส์ยังคงดำเนินต่อไป..คนางค์แทบจะไม่ได้แตะลูกเลย..พอลูกจะมาถึงตัว ก็หลบตลอด..ปล่อยให้ข้างหลังรับไป..เรียกว่าเล่นเทนนิสไม่มีเปลืองแรง..แต่ จะเปลืองเสียงซะมากกว่า..เพราะเกือบทุกลูกที่ธันวารับได้หรือโต้กลับได้จะ ต้องมีเสียง กรี๊ดด ๆ ๆ ของหญิงสาวสอดแทรกอยู่ตลอดเวลา..อารมณ์ลุ้นเต็มที่..และก็มาถึงลูกชี้ชะตา ตอนนี้เกมส์เสมอกันอยู่..ธันวาเป็นฝ่ายเสริฟ์..ดลชัยรับได้โต้กลับ มา..คนางค์อ้าปากหวอ..อารามตกใจยกไม้ขึ้นตั้งฉากขวางไว้..ลูกมากระทบแร็ค เก็ตกระดอนตกไปอีกฝั่งนึง..บรรยากาศอยู่ในความเงียบขึ้นมาทันที...

“กรี๊ดดด!!!..ฉันตีได้..ฉันตีโดนด้วย” ปล่อยไม้แร็คเก็ต..รีบวิ่งมาหาธันวาที่ท้ายคอร์ตอย่างไว จับมือชายหนุ่มทั้งสองข้างไว้กระโดดโลดเต้นใหญ่..ดีใจๆ

“นี่คุณเห็นมั๊ย..ฉันตีได้ด้วย” ธันวาหัวเราะออกมาเบาๆ

“เห็นแล้ว” หญิงสาวยิ้มแป้นเขย่าแขนธันวาใหญ่

“ฉันเก่ง!”

“อึมม์..เธอเก่ง!”

“ฉันไม่ต้องออกแรงมากเลย..แค่ยกไม้ชูขึ้นไปเท่านั้นแหละ” อวดใหญ่..ธันวาอมยิ้มส่งน้ำเสียงเสริมออกมา

“ปราบเรียบ” คนางค์พยักหน้ายิกๆ

“ใช่ๆ ปราบเรียบ” อมยิ้มในตาพราวสุขใจเป็นยิ่งนัก..และก็พยักพเยิกหน้าส่งให้ธันวาอีกครั้ง

“ไปคุณ!..ไปเล่นต่อ..ทีนี้คุณไม่ต้องออกแรงแล้ว..ไว้เป็นหน้าที่ฉันเอง”

“ไม่ต้องแล้ว..เกมส์จบแล้ว” คนางค์ตาเบิกโพลง ยิ้มแป้นออกมาอย่างไว

“จริงง่ะ..นี่ก็แสดงว่าฉันเป็นคนตีให้ทีมเราชนะใช่มั๊ย!” ธันวาหัวเราะออกมาอีกระรอก

“อึมม์”

“กรี๊ดดดด!!..ฉันเป็นคนตีให้ทีมชนะ” เขย่าแขนธันวาอีกครั้ง..ชายหนุ่มหน้านิ่ว!

“เบาๆ..แผลฉันยังไม่หาย” หญิงสาวหยุดกึก! มองหน้าชายหนุ่มเขม็ง

“จริงสิ!..คุณเป็นยังไงบ้างล่ะ..เมื่อวานฉันก็ลืมถาม” ธันวาจ้องตอบมา

“เป็นห่วงเหรอ!” คนางค์พยักหน้ายิก ยิก

“ก็เป็นห่วงน่ะสิ..คุณเป็นหัวหน้าฉันนะ..ถึงจะไม่ใช่สายงานโดยตรงก็ เถอะ..อย่างน้อยๆฉันก็กินเงินเดือนคุณอยู่” ธันวาขมวดคิ้วจ้องตาหญิงสาวอยู่อย่างงั้น เอื้อนเอ่ยออกมาเบาๆ

“อ้อ!..เป็นห่วงในฐานะหัวหน้า..กินเงินเดือนของฉันอยู่”

“ใช่..มันต้องเป็นอย่างงั้นอยู่แล้ว” สำทับมาอีก ธันวาถอนหายใจออกมาอีกเฮือก

“ไป!..พวกเจ้าดลมันรออยู่โน่น..กลับกันซักที” หันหน้าหนีเดินลิ่วๆ คนางค์หน้าคว่ำ

“เป็นอะไรอีกล่ะเดินไม่ยอมรอ..ฉันเป็นทีมเดียวกับคุณนะไม่ให้เกรียติ์ กันบ้างเลยนี่..ทีหลังอย่ามาง้อฉันให้ไปเล่นด้วยล่ะแม่จะเล่นตัวให้เข็ด.. เดี๋ย!! เปลี่ยนไปคู่กับคุณดลสุดหล่อซะเลยนี่..ปล่อยให้แพ้ไปเลยดีมั๊ย!” บ่นงึมงำ..เดินตามต้อยๆ ชายหนุ่มที่เดินอยู่ข้างหน้าใช่จะไม่ได้ยิน..ได้ยินสองรูหูแต่แกล้งทำเป็น นิ่งซะอย่างงั้น ส่งเสียงข้ามไหล่มา

“เดินให้มันเร็วๆ หน่อย..แม่ขาสั้น” คนางค์ชะงักกึกตาเบิกโพลง...ขาสั้นอีกแล้ว!!..ว่าฉันอีกแล้ว! เออ! ไม่สั้นบ้างให้มันรู้ไป!! เดินหน้าง้ำเป็นม้าหมากรุก...

“นาง! เมื่อกี้แกทำได้ไงอ่ะ”แจ๊ดอมยิ้มส่งเสียงออกมา เท่านั้นแหละหน้าคนางค์บานเป็นกระด้ง คำถามถูกใจหัวเราะเสียงดัง

“อันนั้น..มันเรื่องจิ๊บ จิ๊บ ยัยแจ๊ด..มีดีกว่านี้เยอะ..เสียดายเลิกกันซะก่อน..ไม่งั้นเป็นได้ตะลึง!!” อมยิ้มหัวเราะกันเป็นแถบ..วิลดาหมั่นไส้ ส่งเสียงเปรยออกมา..

“นี่ถ้าเธอไม่ได้ธันช่วย..เธอก็คงจะออกตั้งแต่เกมส์แรกแล้วล่ะ..ทำเป็นมาอวด” แล้วก็หันมาหาธันวาทันที

“ธันคะ..เดี๋ยวธันพาวิไปทานข้าวหน่อยสิคะ..เราไม่ได้ทานข้าวเย็นด้วยกัน นานแล้วน้า” หันมาเกาะแขนธันวานิ่ง..ชายหนุ่มกำลังจะเอ่ยปากแต่ก็ต้องหยุดชะงักทันที.. เพราะโทรศัพท์วิลดาดังซะก่อน...

“ค่ะ..คุณพ่อ”

“วิมีนัดค่ะ...วิจะไปทานข้าวกับธันวา”

“ไว้วันอื่นไม่ได้เหรอคะ ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วย”

“ก็ได้...ก็ได้..เดี๋ยววิกลับไปก็ได้” หน้าบึ้งปิดโทรศัพท์ฉับ...หันมาหาธันวาต่อ

“ธันคะสงสัยวิจะอยู่ทานข้าวด้วยไม่ได้แล้วค่ะ..คุณพ่อเรียกวิกลับบ้านด่วน!” ชายหนุ่มยิ้มส่งให้

“ไม่เป็นไรครับ..ไว้คราวหน้าก็ได้” วิลดายิ้มพริ้ม..

“อย่าลืมสัญญานะคะ..วิไปก่อนค่ะ” ยกมือขึ้นแตะแก้มธันวาเบาๆ ทำเอาหญิงสาวสองคนที่มองอยู่เลิกคิ้วตามๆกัน..วิลดาหันมาลาภีมกับดลชัยไม่ เหลือบตาแลมายังสองสาวเลย..ก้าวเดินฉับๆออกไปจากคอร์ตเทนนิส..ดลชัยพ่นลมออก จากปากเบาๆ

“ไป!..งั้นเราก็กลับกันได้แล้วล่ะ..เดี๋ยวจะมืดจะค่ำซะก่อน..นี่คุณแจ๊ด กับคุณนางมายังไงครับนี่” ดลชัยหันมาหาสองสาว

“แท็กซี่ค่ะ” แจ๊ดส่งเสียงออกไป ภีมอมยิ้ม

“งั้นไม่เป็นไรครับเดี๋ยวกลับกับผม..เดี๋ยวผมไปส่ง” คนางค์รีบอ้าปากอย่างไว

“ไม่ต้องหรอกค่ะ..เดี๋ยวพวกเรากลับกันเองได้..แท๊กซี่มีเยอะ แหะๆ” ธันวาถอนหายใจเฮือก สีหน้ารำคาญเต็มที่

“เค้าจะไปส่งก็ให้ไปส่งเถอะน่า..อย่าเรื่องมาก” คนางค์หน้ามุ้ย

“ไม่ได้เรื่องมาก..แต่เกรงใจ..บ้านฉันกับบ้านยัยแจ๊ดคนละทิศกันเลย”เถียงส่งมาอีก..ชายหนุ่มขมวดคิ้วแก้ปัญาเองเลยเสร็จสรรพ

“งั้นไอ้ภีมเดี๋ยวแกไปส่งคุณแจ๊ด...ส่วนยัยเบื้อกนี่เดี๋ยวฉันไปส่งเอง ทางผ่าน” คนางค์ตาเหลือก..เบื๊อกอีกแล้ว!!..ว่าฉันเบื๊อกอีกแล้ว..ฉันไปทำอะไรให้น่ะ เฮอะ! ยืนขมวดคิ้วนิ่วหน้า..

“งั้นตามนี้แล้วกัน..จะได้ไม่ต้องเสียเวลา”ธันวาสรุปเองเรียบ ร้อย..คนางค์จะอ้าปาก เห็นสายตาเย็นๆ ของธันวาส่งมาให้เป็นต้องหุบปากทันทีไม่อยากเรื่องมาก..

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ” ออกคำสั่งมาอีก..คนางค์หน้าบึ้งเดินโท่งๆ ตามหลังแจ๊ดไป..

“นาง!..แกเป็นอะไรน่ะหน้าตาไม่รับแขกเลย” แจ๊ดชวนคุยมือก็ไขตู้ล๊อกเกอร์ที่ฝากกระเป๋าไว้

“แกนั่นแหละตัวดี..ฉันบอกว่าไม่เล่น ไม่เล่น..คะยั้นคะยออยู่นั่นแหละ..เป็นไงล่ะต้องกลับบ้านกับตานั่น” ปิดตู้ดังผลั่ว ทำหน้าขึงขัง..แจ๊ดหน้าแหย

“ฉันขอโทษอ่ะ!!” คนางค์ค้อนตาคว่ำ มองด้วยหางตา

“เออ!” เดินตุ๊บปั๊ด ตุ๊บป่องห่างออกมา แจ๊ดยืน งง!

“นางแกไม่เปลี่ยนชุดเหรอน่ะ” คนางค์ไม่หันส่งเสียงเข้มข้ามไหล่มา

“ไม่เปลี่ยน!!..จะใส่ชุดนี้แหละ..ดูเด๊ะจะเป็นอะไร..แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะยัยแจ๊ด”

“อึมม์!” แจ๊ดยืนมองจนเพื่อนลับสายตา..ยัยนี่มันเป็นอะไรของมันวะ นั่งรถดีๆ ไม่ชอบ..ชอบนั่งรถแท็กซี่ นี่ถ้าเป็นฉันหน่อยไม่ได้นางเอ๊ย!..กระโดดขึ้นรถอย่างเร็วเลยล่ะ..หัวเราะ ออกมาเบาๆ เดินหอบเสื้อผ้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ...

คนางค์เดินหน้าบึ้งออกมาสอดส่ายสายตาหาแล้วก็เจอ..เอาเป้ใบเก่งสะพายไว้ ที่ไหล่..รีบเดินลิ่วๆ เข้ามาหา..ธันวาที่กำลังยืนคุยกับภีมอยู่ก็ชะงักทันทีขมวดคิ้วส่งให้

“ทำไมไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า”

“ไม่ต้อง!..เสียเวลา” ตอบกลับมาหน้ายังบึ้งอยู่ ธันวาทำปากจึกจัก หันมาหาภีมที่ยืนอมยิ้มอยู่

“แล้วเจอกันพรุ่งนี้ที่ไซด์งานนะเจ้าภีม” ภีมพยักหน้าหันมายิ้มให้หญิงสาว
“หวัดดีครับคุณนาง”

“หวัดดีค่ะ!” และก็เดินตามคนเดินหน้าที่จ้ำแบบไม่รอ..ทำเอาคนางค์ต้องวิ่งถึงจะทันกัน

“คู๊ณ!!! ช้าๆ หน่อยก็ได้” ธันวาไม่สนใจยังคงเดินลิ่วๆ อยู่ ซักครู่ก็ถึงลานจอดรถ..คนางค์หอบแฮก..

“นี่..จะรีบไปไหนน่ะเฮอะ” บ่นมาอีก หายใจอย่างแรง

“ขึ้นรถ!” ส่งเสียงห้วนๆออกมา..คนางค์ค้อนประหลับประเหลือก เดินอ้อมไปนั่งข้างคนขับ..ชายหนุ่มออกรถอย่างไว..ทำให้หญิงสาวต้องจับคอนโซล หน้ารถไว้กลัวหลุด ทั้งๆที่มีเข็มขัดรัดแนบไว้ก็เถอะหล่อนไม่ไว้ใจกลัวจะหลุดผลั่วออกมา..ซัก ครู่ก็กลับมานั่งทรงตัวเหมือนเดิม..บรรยาการ มาคุ คุ..เริ่มมีอีกแล้ว..คนางค์ไม่ชอบเลยไอ้ที่จะนั่งนิ่งเฉยต่างคนต่างเงียบแบบ เนี้ยมันชวนให้อึดอัดซะจริงๆ

“นี่ นี่..เล่นทายปัญหากันมั๊ย!” เงียบ!!!! คนางค์หลี่ตามองคนข้างๆ เห็นนั่งมองถนนเฉยก็ส่งเสียงมาใหม่

“อ่ะ!..เงียบแสดงว่าอยากทาย..งั้นถามล่ะนะ”

“อะไรเอ่ย..ไม่ใหญ่กว่านิ้วโป้งแต่ใหญ่กว่านิ้วชี้..ติ๊กต๋อก ติ๊กต๋อก ติ๊กต๋อก” เงียบ!!!

“อ่ะ! ทายไม่ถูกใช่มั๊ยล่ะ...ทำมาเป็นเงียบ” ยังไม่กระเตื้อง ยังเฉยอยู่ คนางค์ยู่หน้า

“เฉลยก็ได้..ไอ้ปัญหานี้มันคงจะยากสำหรับคุณอ่ะเนอะ”

“แต๋น แต่น แต้น...เล็บนิ้วโป้งไง...5555+” อ้าปากหัวเราะซะกว้าง คนข้างๆก็ยังเฉยอยู่..หญิงสาวหุบยิ้มฉับ..เส้นลึกจังเลยตานี่!

“อ่ะ! ถามใหม่..ถามใหม่..อะไรเอ่ยสั้นกว่านิ้วโป้ง และก็สั้นกว่านิ้วชี้ด้วย” เงียบ!!! แต่ตอนนี้มีปฎิกิริยาโต้ตอบบ้างนิดหน่อย..ชายหนุ่มเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มไว้ คนางค์สังเกตนิ่ง

“นั่นแน่!..เห็นนะอยากตอบใช่มั๊ยล่ะ..ติ๊ก ต๋อก ติ๊ก ต๋อก”ลอยหน้าลอยตาพูด อมยิ้มพริ้ม ชายหนุ่มเหลือบตามามองนิดนึง ส่งเสียงออกมาเนิบๆ

“ติ๊งต๊อง!!”

“ผิด!” ธันวาหัวเราะออกมาเบาๆ

“ฉันยังไม่ได้ตอบ..จะผิดได้ยังไง”

“อ้าว..ก็เมื่อกี้คำว่าติ๊ง ต๊องไง”

“เธอนั่นแหละ..ติ๊งต๊อง!..โตจนทำงานแล้วยังเล่นเป็นเด็กๆ” คนางค์เบะปาก

“และผู้ใหญ่ตอบได้หรือเปล่าล่ะ..ไอ้เล่นเป็นเด็กๆเนี่ย” ชายหนุ่มเหลือบตามอง

“เธอลองถามมาใหม่สิ” คนางค์อมยิ้ม

“อะไรเอ่ย..สั้นกว่านิ้วโป้ง และก็สั้นกว่านิ้วชี้” ชายหนุ่มขมวดคิ้วนิดนึง คิดอยู่นานเหมือนกัน

“อะไร!” หญิงสาวทำปากโฮะๆ ถูกใจเป็นยิ่งนัก

“ไหนบอกว่าปัญหาเด็กๆ แค่นี้ก็ตอบไม่ได้...เฉลย..อ่ะ..เฉลย!..ก็เล็บนิ้วโป้งไง 555+” หัวเราะซะกว้างเห็นไปถึงลูกกระเดือก ธันวาหันมาเห็นเข้าก็ ส่ายหน้าทันที

“เป็นผู้หญิงน่ะ..จะหัวเราะก็หุบปากซะบ้างเห็นเข้าไปถึงไหนต่อไหน” คนางค์หุบปากฉับ ตาบ้านี่เสียอารมณ์หมด!..เขวี้ยงค้อนใส่ชายหนุ่ม ควับๆ..ธันวาตีรถโค้งเข้าไปจอดหน้าร้านอาหารชื่อดังแถบใจกลางเมืองกรุงเทพฯ หญิงสาวหันไปเห็นก็เลิกคิ้วแปลกใจ..

“มาทำอะไรที่นี่อ่ะ!”

“กินข้าวก่อน..จะสองทุ่มแล้วข้าวยังไม่ตกถึงท้องฉันเลย...ฉันหิว!” ว่าแล้วก็ลงจากรถ..คนางค์นั่งนิ่งไม่อยากจะลง พลอยทำให้ธันวาก้มลงมามอง

“นี่เธอ..จะนั่งอยู่อีกนานมั๊ย..ไม่ลงหรือไง”

“ไม่ลงได้หรือเปล่าล่ะ..ฉันนั่งรออยู่ในรถนี่ก็ได้” ชายหนุ่มทำปากจึก จัก

“ไม่ได้!..ลงมา! จะนั่งอยู่ยังไงล่ะตรงนี้คนเดียว..มันเปลี่ยว” คนางค์หน้าคว่ำบ่นงึม งำ ลงมายืนนอกรถ ก้มมองเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่อยู่ก็พึม พำออกมาเบาๆ

“และฉันแต่งตัวแบบนี้เค้าจะให้ฉันเข้าเหรอ” ชายหนุ่มอมยิ้มนัยย์ตาพราว หัวเราะ หึหึ

“ก็บอกให้เปลี่ยนไม่เชื่อ..เดินๆ เข้าไปเถอะไม่มีใครมองหรอกน่า..ไม่มีอะไรน่าสนใจ” หญิงสาวค้อนควับ

“อ้อ!..เอาไอ้ที่คาดหน้าผากอยู่นั่นออกหน่อยก็แล้วกัน..เดี๋ยวมันจะเด่น เกินหน้าเกินตา” คนางค์หน้ายู่ ค่อยๆ แกะปมที่ขมวดออก..และก็เสร็จชายหนุ่มคว้าแขนหญิงสาวได้ก็พาเดินลิ่วๆ คนางค์ต้องถลาตามอย่างไว..พอเปิดประตูเข้าไปบรรยากาศของคืนคริสต์มาสก็ลอย เข้ามา..ภายในร้านตกแต่งซะสวยหรู..เน้นสีแดง เขียว ขาวเป็นหลัก..คนแน่นขนัดเต็มไปหมด..บริกรรีบเดินยิ้มล่าเข้ามาหา...

“หวัดดีครับคุณธันวา..วันนี้มาฉลองวันคริสต์มาสที่นี่ด้วยเหรอครับ..กี่ที่ดีครับ” ธันวาส่งยิ้มให้

“สองที่”

“งั้นเชิญทางด้านนี้เลยครับ” ทั้งสองคนค่อยๆ เดินลัดเลาะตามบริกรไป..ระหว่างเดินมือของชายหนุ่มยังคงกระชับข้อมือของหญิง สาวอยู่อย่างงั้น..ต่างก็เป็นเป้าสายตาของแขกในร้านกันทั้งคู่..ชายหนุ่ม ร่างสูงโปร่งหน้าตาดีผิวสีแทน เครื่องหน้าคมสันเหมือนปฎิมากรรมชิ้นเอกเลยทีเดียว..สวมเสื้อโปโลสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ลากหญิงสาวตัวเล็กบอบบางผิวขาวใส..ใบหน้าสะอาดสะอ้านหน้าผากกลมมน..ให้เดิน ตามมาติดๆ เหมือนกับกลัวเด็กจะพลัดหลงจากผู้ปกครองซะอย่างงั้น..

“เชิญครับ!” บริกรผายมือให้นั่งลงตรงโต๊ะห่างผู้คนมาหน่อยและก็เดินผละออกไป..ธันวาเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวนั่ง..ชายหนุ่ิมยื่นเมนูส่งให้

“จะกินอะไรก็ดูเอา” คนางค์ก้มมองใหญ่ และก็ชะโงกหน้าข้ามโต๊ะมา..เอ่ยปากออกมาเบาๆ

“ฉันไม่ได้เอาตังค์ลงมาจากรถนะ..ลืมน่ะ” ชายหนุ่มทำปากจึก จัก

“ฉันเลี้ยงเอง” หญิงสาวตาเบิกโพลง ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ๆ อีก

“งบเท่าไหร่!” ธันวาถอนหายใจเฮือก

“ไม่อั้น!” หญิงสาวยิ้มแฉ่ง จัดแจงเปิดเมนูอาหารอย่างขะมักเขม้น..ซักครู่บริกรก็เข้ามารับออเดอร์ ธันวาสั่งของตัวเองเสร็จแล้ว เหลือบมาเห็นคนางค์ยังนั่งอ่านรายการอาหารอยู่ก็ขมวดคิ้ว

“นี่แม่คุณ..เสร็จหรือยังเค้ารออยู่” หญิงสาวเงยหน้าทันที ยิ้มแหยๆส่งให้

“มันเลือกไม่ถูกอ่ะ..น่ากินทั้งน้านน!..คุณกินอะไรล่ะ” เลิกคิ้วตาโตถามส่งมาอีก..ชายหนุ่มบอกชื่ออาหารไป คนางค์พยักหน้ายิก ยิก..และก็หันไปทางบริกร.

“เอาแบบเดียวกันค่ะ” หันมาหัวเราะแหะๆ ส่งให้ธันวา “คิดมากปวดหัว..” และก็อยู่ในความเงียบกันอีกครั้งนึง..คนางค์หันไปมองรอบๆร้านใบหน้าก็ยิ้ม แฉ่งออกมา

“จริงสินะ..วันนี้เป็นวันคริสต์มาสนี่..ลืมไปเลย” หันมายิ้มพริ้มให้ธันวา..ชายหนุ่มนั่งจ้องหญิงสาวนิ่ง

“คุณมาที่ร้านนี้บ่อยเหรอ” ถามส่งมาอีก ธันวาส่ายหน้า

“ก็ไม่เชิงบ่อยมากนักหรอก..นานๆมาที”

“แต่เค้าจำคุณได้เลยนะ” ธันวาหัวเราะออกมาเบาๆ

“นั่นคือสิ่งที่พนักงานที่ดีควรจะต้องทำ..มีอาชีพให้บริการ..เรื่องจำ หน้าแขกได้ จำชื่อแขกได้เป็นสิ่งจำเป็น..ผู้ใช้บริการจะประทับใจ และก็มาใช้บริการบ่อยๆ ก็ตรงนี้แหละ” คนางค์พยักหน้า หงึก ๆ

“แขนคุณเป็นยังไงบ้างล่ะ..คุณยังไม่ตอบฉันเลยในสนามอ่ะ” ชายหนุ่มส่งยิ้มให้เอื้อมมือไปลูบต้นแขนเบาๆ

“ไม่เท่าไหร่..ฉันเคยโดนมากกว่านี้เยอะ” คนางค์ตาเบิกโพลง

“คุณอย่าบอกนะ..ว่าคุณเคยโดนยิงมาก่อนหน้านี้” ธันวาหัวเราะออกมาเบาๆ

“ทำไมต้องทำน้ำเสียงตื่นเต้นขนาดนั้น..ไม่ตายหรอกน่า..ก็แค่เฉียดๆ” หญิงสาวขมวดคิ้วนิ่วหน้า..แปลกใจชายหนุ่มตรงหน้าเป็นยิ่งนัก..นี่เค้าไม่คิด จะแจ้งความจับไอ้ผู้ที่กระทำความผิดบ้างเลยเหรอ..ชะโงกหน้ากระซิบส่ง เสียงออกมาเบาๆ ...

“นี่ นี่..และไอ้พวกที่ยิงคุณมันเป็นพวกมาเฟียใช่หรือเปล่า..คุณถึงไม่กล้าบอก เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เค้าจัดการน่ะเฮอะ..ปล่อยให้มันมาดักยิง ซุ่มยิงอยู่ได้” ชายหนุ่มอมยิ้ม

“เธอรู้ได้ยังไง..ว่าฉันไม่ได้แจ้งความ”

“อ้าว! ถ้าแจ้งความแล้วทำไมมันยังเกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อนอยู่อย่างงี้ล่ะ” ยังข้องใจอยู่

“มันยังไม่มีหลักฐาน..ก็เลยยังออกหมายจับไม่ได้”

“และคราวนี้ล่ะ!” ถามส่งมาอีก..ธันวาหัวเราะออกมาเบาๆ

“ฉันไม่ใช่ลูกความเธอนะ..จะซักอะไรขนาดนั้น” คนางค์ขมวดคิ้ว

“ตกลงครั้งนี้ก็จับไม่ได้เหมือนกันใช่มั๊ย” ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือก..

“จับได้แล้ว..ตอนนี้ฝากขังอยู่ที่โรงพักในตัวเมืองตรัง” คนางค์พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ

“เฮ้อ! โล่งอก” ธันวาเหลือบตามองนิดนึง..เขาชอบมองกิริยาท่าทางของหญิงสาวเวลาที่เจ้าหล่อน ไม่รู้ตัว..มันดูแปลกๆดี..ไม่เหมือนหญิงสาวทั่วๆไปที่เขาเคยคบหา..หรือแม้ กระทั่งยัยษาน้องของเขาก็เถอะ..ดูผู้หญิงคนนี้จะมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะ.. เรียกได้ว่าอย่ากระพริบตาเลยทีเดียวไม่งั้นจะพลาดช๊อตเด็ด..ซักครู่บริกรก็ นำอาหารมาเสริฟ์..คนางค์ขอตัวลุกไปเข้าห้องน้ำ..ล้างมือเสร็จสรรพก็รีบเดิน ออกมา ความที่ไม่ได้มองทางขวาเลยชนเข้าอย่างจัง กับผู้เดินออกมาจากห้องน้ำชาย..

“อุ้ย!”

“โอ๊ย!..ยายบ้านี่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือหรือไงฮะ” เสียงแหบเครือตะคอกออกมาจากปากชายหนุ่มผิวขาว แต่งเนื้อแต่งตัวดี..คนางค์ขมวดคิ้วนิ่วหน้า..

“คุณนั่นแหละ ชนฉันก่อน..ยังมีหน้ามาว่าฉันอีกเหรอ”เงยหน้าขึ้นจ้องคู่กรณี และก็ต้องอ้าปากค้าง ตาบ้านี่ที่ชนแล้วหนีนี่..นะ นายพีรยศ..ใช่จริงๆด้วย ดูเหมือนชายหนุ่มก็จะจำคนางค์ได้เช่นกัน..ยิ้มแสยะออกมา

“เธอนั่นเองยัยจอมจุ้น!..ไง!..มาหาลำไพ่พิเศษหรือไง..ถ่อมาถึงกรุงเทพฯ อยู่แถวๆ ชลบุรีไม่พอกินเหรอ!..ไอ้เจ้าธันวามันให้ไม่พอใช้ใช่หรือเปล่า” คนางค์โกรธ!! ยิ้มเย็นๆ ส่งให้

“แน่ใจเหรอว่าปากน่ะ..ที่พูดออกมาน่ะใช้ปากพูดหรือเปล่า..มันถึงได้ก้าว ร้าวชวนให้น่าเวทนาอย่างงั้น..แต่งเนื้อแต่งตัวก็ออกจะดูดี..แต่ปากใยไม่ เหมือนกับการแต่งตัวซะเลย..ทำงานหาเงินเองได้แล้วเหรอถึงได้มาดูถูกคนอื่น เค้าน่ะ..ยังเกาะพ่อเกาะแม่กินอยู่ล่ะมั้งสมองมันเลยยังไม่พัฒนา..ท่าทางจะ ใช่เพราะเจอทีไรสมองก็ยังมีอยู่แค่ปลายนิ้วก้อยไม่กระเตื้องขึ้นเลย” เท่านั้นแหละพีรยศถลาเข้ามาเลยกะจะตบสั่งสอนซักทีสองที แต่มีมือแข็งแรงมาคว้าข้อมือเขาไว้ก่อน..

“เป็นผู้ชายรังแกผู้หญิงมันไม่เหมาะหรอกมั้งพีรยศ..มากับฉันดีกว่าเท่า เทียมกันหน่อย” ธันวาจ้องหน้าพีรยศนิ่ง..ชายหนุ่มที่อ่อนไวกว่ากระชากมือกลับทันที หันมาชี้นิ้วใส่หญิงสาว

“ฝากไว้ก่อนเถอะ..ยัยตัวแสบ” ว่าแล้วก็เดินจากไป..คนางค์ยู่หน้าส่งให้ หันมาต่อว่าธันวาทันที..

“คุณมาห้ามมันไว้ทำไม..แหม! ถ้าเมื่อกี้คุณไม่มาห้ามไว้นะ..มีได้ฉะกันบ้างล่ะ..นักเลงแบบนี้นังนางไม่ กลัวหรอก..เอาไม้ฟาดหัวหนเดียวก็ร้อง เอ๋ง เอ๋ง แล้ว”ชายหนุ่มถอนฉิว..

“ปากดี!..ตัวนิดเดียวจะไปสู้อะไรเค้าได้..กว่าเธอจะหาไม้ได้ฉันว่าเธอคง จะสลบเหมือดเพราะโดนหลังมือเจ้าพีรยศนั่นไปแล้ว..ทำอวดเก่ง!..หาแต่เรื่อง เข้าตัวดีนัก..ไป! อาหารมาแล้ว” จับมือหญิงสาวลากมานั่งที่โต๊ะ

“แต่ฉันทำได้จริงๆ นะไม่ได้โม้..ตอนอยู่มหาลัยฉันช่วยไอ้เปี๊ยกบ่อยไปเวลามันเมาไม่ได้สติน่ะ” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองทันที

“ใคร!..ไอ้เปี๊ยก” คนางค์ยิ้มแป้น

“อ๋อ!..เพื่อนผู้ชายน่ะสนิทมาก..ถึงมากที่สุด..กิน นอน เล่น เที่ยว..ไปด้วยกันตลอดไม่เคยห่างกัน” ใบหน้ายิ้มพริ้มนึกถึงความหลังขึ้นมา..

“ถ้าเป็นเพื่อนกันจริง..เค้าไม่ปล่อยให้เพื่อนต้องมาเดือดร้อนเพราะตัว เองหรอก..แสดงว่าไอ้เปี๊ยกอะไรนี่ไม่มีความรับผิดชอบ..คบไม่ได้” ชายหนุ่มสรุปเอาดื้อๆ และก็เงียบไปซะเฉยๆ คนางค์ขมวดคิ้วนิ่วหน้า..เป็นอะไรอีกล่ะตานี่อารมณ์แปรปรวนจริงๆ..ต่างคน ต่างกินจนอิ่มเรียบร้อยแล้วนั่นแหละถึงเรียกเช็คบิล และก็ลุกจากโต๊ะ พอเปิดประตูออกมาข้างนอกเท่านั้นอากาศเย็นวูบก็เข้ามาประทะใบหน้า ทันที..คนางค์ห่อตัวอย่างไว เริ่มหนาวแล้ว..ธันวาหันหน้ามามอง..

“หนาวเหรอ!”

“นะ..นิดหน่อย” ธันวาก้าวไปนั่งในรถ คนางค์ตามไปติดๆ ชายหนุ่มหันไปข้างหลังดึงสูทที่แขวนอยู่ยื่นส่งให้คนางค์

“ไม่เป็นไร!..เดี๋ยวฉันค้นเอาจากในกระเป๋าก็ได้ ของฉันมี” ธันวาจ้องหน้าเขม็ง หญิงสาวถอนหายใจเฮือก

“ก็ได้!” คลี่สูทเอาห่มตัวเองไว้...เออแฮะ! อุ่นจัง..หอมด้วย!..ตานี่ใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไรอ่ะ..หอมจัง! นั่งยิ้มพริ้ม..นานๆ ครั้งก็ยกขึ้นมาดมซักหน่อย หัวเราะคิก ๆ ออกมาเบาๆ ธันวาเหลือบตามอง เห็นนั่งยิ้มพริ้มก็เอ่ยออกมาเบาๆ

“ต๊อง!” สมาธิเพ่งมองอยู่ข้างหน้า..สายตาเหลือบมองกระจกมองหลังเป็นระยะๆ และก็ต้องขมวดคิ้ว..เขาว่าเขาเห็นไอ้รถคันนี้ตั้งแต่ออกจากร้านอาหารแล้ว.. ตามติดไม่ห่าง..ทั้งๆ ที่เลนขวาว่างมันก็ไม่ยักแซงขึ้นไป ชายหนุ่มชักเริ่มไม่แน่ใจ..ลองค่อยๆชะลอเทียบฟุตบาท..พอเห็นคันหลังจอด บ้าง..ก็เข้าเค้ารีบใส่เกียร์เดินหน้าทันทีเหยียบอย่างแรง เล่นเอาคนางค์ที่กำลังนอนอย่างสบายตาเบิกโพลง..

“คุณ..จะรีบไปไหนน่ะเฮอะ.. เดี๋ยวก็ไม่ถึงโดยสวัสดิภาพหรอก” ส่งเสียงปาวๆ ออกมา

“อยู่เฉยๆ ตอนนี้..มีรถคันนึงตามหลังฉันมา..ฉันไม่แน่ใจว่ามันเป็นพวกไหน..เพราะฉะนั้นตอนนี้เธอยังกลับบ้านไม่ได้”

“ฮะ!” หญิงสาวตาเหลือก

“ไม่ฮะ..ไม่เฮอะทั้งนั้นแหละ..ไปอยู่บ้านฉันก่อนที่นั่นปลอดภัย”

“ปะ..ไปอยู่บ้านคุณ” คนางค์ไม่อยากจะเชื่อหูต้องเฝื่อนไปแน่ๆ ถามย้ำออกมาอีกระลอก

“ปะ..ไปอยู่บ้านคุณเหรอ” ชายหนุ่มหันมามองตาขวาง

“เป็นบ้าอะไรล่ะ..ถามซ้ำซากอยู่ได้” คนางค์นิ่วหน้า

“และทำไมฉันต้องไปอยู่บ้านคุณด้วยล่ะ..บ้านฉันก็มี” ชายหนุ่มทำปากจึก จัก อยากจะเขกหัวกะโหลกยัยบ้านี่ซะสองสามที

“ฉันยังไม่รู้ว่าไอ้รถที่ตามหลังฉันมาเนี่ย..มันเป็นพวกไหนปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า”

“แต่ฉันไม่เคยสร้างศัตรูนะ..ถ้าจะมีก็คงเป็นคุณนั่นแหละ..เพราะฉะนั้นปล่อยฉันกลับบ้านก็ได้คงไม่มีปัญหา” ธันวาพูดเสียงรอดไรฟันออกมา

“และไอ้เจ้าพีรยศนั่นล่ะ ที่มันชี้นิ้วอาฆาตแค้นส่งมาน่ะ..ไม่ใช่ศัตรูเหรอ” คนางค์นิ่งอึ้ง..เรื่องแค่เนี้ยถึงกับเอารถขับตามหลังอย่างงี้เลยเหรอ.. คนางค์นั่งเงียบ สับสนไปหมด ธันวาเหลือบตามอง
“ไม่ต้องเครียดหรอกน่า..ที่บ้านฉันมีคนอยู่เยอะไม่เป็นไรหรอก” คนางค์ถอนหายใจเฮือก..หันมามองหน้าด้านข้างของชายหนุ่ม...

“คืนนี้คืนเดียวใช่มั๊ย” ธันวาหันมามองตอบ

“ไม่รู้! ดูก่อน” พระเจ้า! ดูก่อน ดูอะไรอีกล่ะ..ฮือๆๆๆ เอาสูทคลุมหน้านิ่งอยู่อย่างงั้น...



กรกนก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 มิ.ย. 2554, 00:30:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 มิ.ย. 2554, 00:30:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 1848





<< ตอนที่ 9 : ความรู้สึก   ตอนที่11 : เหตุที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิด >>
oolong 15 มิ.ย. 2554, 10:01:00 น.
อาสาสมัครค่ะ


kitty 15 มิ.ย. 2554, 17:03:19 น.
นึกภาพคนยืนมองนอกกระจก ขำกระจาย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account