กรุ่นไอรักหลังลมร้อน
สบายๆ คลายเครียด..
Tags: สาวขอนแก่นเข้ากรุง

ตอน: ตอนที่11 : เหตุที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิด

“นี่ยัยบื้อ!..ถึงแล้ว” ใบหน้าที่นิ่งเงียบมาตลอดทางภายใต้เสื้อสูทของชายหนุ่มเริ่มขยับ ยุก ยิก และก็เปิดพรวดออกมาอย่างเร็ว..หน้ายู่..คิ้วแทบจะพันกัน..ธันวาเห็นเข้าถึง กับส่ายหน้าไปมา มือก็ดับเครื่อง ส่งเสียงออกมาเนิบๆ

“พูดมาตลอดทางยังไม่เข้าใจอีกเหรอ..อย่าให้พูดมากน่า” คนางค์หันมาค้อนให้ขวับ! มองธันวาตาขวางส่งเสียงระรัวเร็ว

“ก็บอกว่าไม่เป็นไร!..ไม่เป็นไร!..ฉันดูแลตัวเองได้คุณก็ไม่เชื่อ!..ไม่ เห็นจำเป็นที่จะต้องเอาฉันมาอยู่บ้านคุณเลยอ่ะ...และเนี่ยดูเด๊ะ!..เสื้อผ้า ฉันก็ไม่มีเปลี่ยนและจะทำยังไงล่ะทีนี้..และถ้าใครรู้เข้าจะทำไง..ชื่อเสียง ที่ฉันอุตส่าห์เพาะบ่มมาตลอดตั้งแต่เข้าทำงานจนวันนี้ก็เข้ายี่สิบห้าวัน แล้วไม่มีเสื่อมเสีย..ต้องมามีอันด่างพร้อยเพราะคุณเนี่ยน่ะนะ..ฮือๆๆ ฉันไม่อยากจะเชื่อ!” โอดครวญ ทำหน้าทำตาเหมือนจะร้องไห้..ธันวาถอนหายใจเฮือก หันไปเปิดประตูก้าวลงจากรถ

“ตามใจ! จะนั่งอยู่ในรถนี่ก็ตามใจ” คนางค์ตาเหลือก

“อ้าว!..ทำไมทิ้งกันงี้ล่ะ” รีบหยิบเป้อย่างไว.. เปิดประตูรถได้ก็วิ่งหัวซุกหัวซุนตามหลังธันวาดุ๊ก ดุ๊ก

“คู๊ณ!!..รอด้วย” ธันวาชะลอฝีเท้าหันมามองพอเห็นกิริยาท่าทางของหญิงสาวก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“หัวเราะอะไร!!” คนางค์มองตาขวาง หอบจนตัวโยนไปหมด

“เดินเร็วฉิบเป๋ง”บ่นงึมงำ ธันวายังคงยิ้มในหน้าอยู่เอ่ยออกมาเนิบๆ

“ลีลาดีนัก..ฉันสั่งอะไรเธอก็ทำตามเถอะน่า”

“และทำไมฉันต้องทำตามคุณทุกอย่างด้วยล่ะ..ความคิดฉันก็มี” เถียง..มีเถียง ชายหนุ่มถอนหายใจอีกเฮือก

“พูดมาก” คนางค์ค้อนขวับ..ขาก็ก้าวเดินตาม สายตาก็กวาดไปทั่ว

“ทำไมมันใหญ่จังอ่ะ..อยู่กันเยอะเหรอ!”

“ไม่เท่าไหร่”

“ไอ้ไม่เท่าไหร่เนี่ย..มันเท่าไหร่อ่ะ” ส่งเสียงแจ้วๆ สายตาไม่ได้อยู่สุข ชายหนุ่มทำปากจึกจัก รำคาญขึ้นมาตะหงิดๆ ตั้งหน้าตั้งตาเดินอย่างไว

“จะอยากรู้ไปทำไม!”

“อ้าว!..ก็ต้องเรียนรู้ไว้ก่อนเผื่ออนาคตมาเป็นลูกสะไภ้จะได้ทำตัวถูก” เท่านั้นแหละ ชายหนุ่มหยุดชะงักทันทีหันหน้ามาจ้องหญิงสาวนิ่ง..คนางค์ยืนทำตาโตอ้าปากหวอ และก็หัวเราะก๊ากออกมาอย่างดัง

“ฮิ้วววว!!! ตกใจล่ะสิ! ช๊อคไปเลย..เป็นไง! มุขลูกสะไภ้ อันนี้เพิ่งคิดสดๆร้อนๆ เลยนะ..ไม่เคยเล่นที่ไหนมาก่อนด้วย...จ๊าบๆ..อึ้งๆ...เจ๋งงงง!!!” หัวเราะคิกๆ สะใจอยู่คนเดียว ธันวาถึงกับส่ายหัว

“ติ๊งต๊อง” เล่นเอาคนางค์เบรกหัวเราะดังเอี๊ยดด!! หน้านี้ง้ำขึ้นมาทันที

“ทำไมชอบว่าฉันอยู่เรื่อย! ไม่เบื่อบ้างไง!” ยืนบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ชายหนุ่มขี้เกียจสนใจเดินต่ออย่างเร็ว คนางค์วิ่งตามต้อยๆ

“นี่!นี่! ถามไม่ตอบยังเดินหนีอีก..ไม่มีมารยาทเลยหนิ!!” ธันวาหันมาคว้าข้อมือลากให้เดินมาคู่กัน..

“หุบปากซะมั่งได้มั๊ย!...งุ้ง..งิ้ง..งุ้ง..งิ้ง..อยู่ได้..น่ารำคาญ” หญิงสาวเบะปาก..เชอะ! น่ารำคาญ...ตัวเองรำคาญเป็นคนเดียวใช่มั๊ย!..คนอื่นไม่มีหัวจิตหัวใจงั้น สิ!..เผด็จการ!!..ค่อนขอดชายหนุ่มในใจค้อนให้อีกวงนึง..และก็หันไปมองบริเวณ บ้านอีกครั้ง

“ตกลงอยู่กันกี่คนอ่ะ!” ยังไม่จบ..ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาดังพรืด!!

“ห้าคน”

“ป๊าดดดด!! ห้าคน..อยู่ไปได้ยังไงอย่างกับวัง..ไม่เหงาแย่เหรอ!” ยังส่งเสียงแจ้วๆ อยู่..ความเซ็งเริ่มเข้ามาครอบงำธันวา เขาอยากจะเอาสก๊อตเทปปิดปากยัยเบื๊อกข้างๆนี่นัก..พูดมากอย่างกับนกแก้วนก ขุนทอง..

“เงียบซักทีได้มั๊ย!” คนางค์ทำปากขมุบ ขมิบ เดินตามต้อยๆ

“แลกบ้านกันมั๊ย!!” ยังไม่หยุดมีหลุดมาอีก..ธันวาหยุดเดินทันที หันมาขมวดคิ้วส่งให้ คนางค์ยืนเลิกคิ้ว..ซักครู่ก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

“อึ้งๆ...อันนี้มุขแลกบ้านเพิ่งคิดเหมือนกัน..นิ่งไปเลย!! 555+” ชายหนุ่มส่ายหน้าส่งให้..หัวเราะออกมาเบาๆ

“ประสาท!...เธอนี่ติ๊งต๊องเข้าขั้นจริงๆ พูดจาไร้สาระ” มือก็ลากหญิงสาวให้เดินไปด้วยกัน..คนางค์ยู่หน้าใส่หลังคนเดินหน้า บ่นพึมพำออกมาเบาๆ

“ประสาท..ติ๊งต๊อง!..เชอะ!..ยังไงฉันก็เป็นถึงเนติแล้วกันน่ะ..และมัน ไร้สาระที่ไหน..ปลูกบ้านซะหลังใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม แต่มีคนอยู่แค่กระจึ๋งเดียว...Demand น้อยกว่า Supply..เสียทรัพยากรโดยใช่เหตุ..อย่างงี้มันจะ Balanced กันได้ยังไง”เอาหลักเศรษฐศาสตร์มาใช้ด้วย..ธันวาได้ยินเข้าถึงกับอมยิ้ม ส่งเสียงลอยตามลมมา

“มั่ว!”

“ไม่มั่ว!..อย่างบ้านฉันนะ..มีตั้งแต่ ปู่..ย่า..ย่าน้อย..ยาย..พ่อ..แม่..ลุง..ป้า..อา อยู่รวมกันหมด..ไม่เห็นต้องปลูกบ้านใหญ่เท่าคุณเลย.. เกินความจำเป็นวังเวงจะตาย” ชายหนุ่มได้ฟังถึงกับเลิกคิ้ว

“เยอะขนาดนั้นเชียว”

“ขนาดนี้แหละ..ไม่ได้โม้!” น้ำเสียงอวดเต็มที่..ธันวาหันมายิ้มให้..

“และมีเธอคนเดียวเหรอ! ที่เป็นลูก หลานน่ะ” คนางค์พยักหน้ายิก ยิก อมยิ้มพริ้ม

“อึมม์!..มีฉันคนเดียว..พวกเค้ารักฉันจะตายไป” อวด..มีอวด!..ธันวาหัวเราะเบาๆ..มือใหญ่ที่จับข้อมือของหญิงสาวไว้ เลื่อนลงมากระชับกุมมือน้อยๆ อย่างแผ่วเบาอัตโนมัติโดยไม่รู้ตัวทั้งเจ้าของมือและคนจับ เดินเคียงข้างไปด้วยกัน ชายหนุ่มพาหญิงสาวเข้ามาในห้องรับแขกที่ดูจะใหญ่โต..โอ่โถง..คนางค์ถึงกับ อึ้ง..พระเจ้า! สวยจังเลยอ่ะ..อย่างกับในหนังสือตกแต่งบ้านแหนะ...เสียงพูดคุย..เสียง หัวเราะดังออกมาจากห้องข้างๆ ธันวาชงักกึก!

“สงสัยจะอยู่ห้องนั้น” ลากหญิงสาวให้เดินไปด้วยกัน คนางค์ตัวแทบจะปลิว..พากันเดินเข้ามาในห้องที่มีมารดากับน้องสาวธันวานั่ง คุยกันอยู่..เสียงหัวเราะที่ดังอยู่เมื่อซักครู่นี้เงียบลงทันที..หลังจาก การปรากฏตัวของบุคคลทั้งคู่..เมษาจำคนางค์ได้ใบหน้ายิ้มพริ้มทักทายส่งมา

“คุณนางมายังไงคะเนี่ย!”คนางค์ยิ้มแหยๆ ส่งให้

“เอ่อ!..คือ”

“หนู!..เป็นแฟนตาธันเหรอจ๊ะ!”หญิงสาวตาเหลือกรีบหันขวับไปมองต้น เสียง..เห็นหญิงสูงวัยหน้าตาท่าทางใจดีนั่งส่งยิ้มมาให้..ก็ทำหน้าเลิ่กลั่ก

“อ่ะ..เอ่อ!”

“ไม่ต้องเขิลล์จ้ะ!...เรื่องแบบนี้แม่เข้าใจ..มา! มานั่งตรงนี้” หญิงสูงวัยหัวเราะเบา ๆ ลุกขึ้นจากที่นั่งเดินเข้ามาหา..จูงแขนคนางค์อีกข้างที่ว่างอยู่ให้เดินไป ด้วยกัน หญิงสาวตาเบิกโพลง..รีบหันมามองธันวาขอความช่วยเหลือ..พอเห็นชายหนุ่มยืน อมยิ้ม..ก็ขมวดคิ้วรีบหันกลับไปใหม่

“คือ..มะ..ไม่”

“แม่รู้จ้ะ!..ไม่เป็นไร! หนุ่มสาวสมัยนี้นี่น่าตีจริงเชียวไอ้เรื่องปิดบังพ่อแม่เนี่ยเป็นที่หนึ่ง เลย..ตาธันนะเราก็จริงๆ มีแฟนน่ารักๆ อย่างงี้ไม่ยอมบอกแม่..ปล่อยให้แม่เป็นกังวลอยู่ได้” พูดปาวๆ ไม่สนใจใคร จูงมือหญิงสาวให้เดินตามต้อยๆ ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ เดินตามมาติดๆ เมษายังนั่ง งง! อยู่เธอไม่ยักรู้ และก็ไม่เคยระแคะระคายมาก่อนว่าพี่ชายตัวเองเป็นแฟนกับสาวน้อยเบื้องหน้า ข่าวเงียบมาก ยิ่งเห็นกิริยาท่าทางของธันวาที่ดูจะเฉย ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ยิ่งก่อให้เกิดความฉงนเป็นยิ่งนัก หรือว่าเธอจะตกข่าวไปจริงๆ

“นี่คุณนางเป็นแฟนพี่ธันจริงๆ เหรอคะ ทำไมษาไม่ยักรู้”คนางค์รีบส่ายหน้าอย่างไว

“มะ..มะ ไม่ใช่ค่ะ..นางไม่ใช่..ฟะ”

“จะปฎิเสธทำไมล่ะจ๊ะหนู..คนกันเองทั้งนั้น..มา ๆ นั่งๆ” จับตัวคนางค์ให้นั่งลงมาด้วยกันลูบเนื้อลูบตัวจับหน้าจับผมคนางค์เป็นการ ใหญ่..เหมือนได้ของเล่นถูกใจก็ไม่ปาน..คนางค์นั่งอึ้ง!..ธันวาเห็นเข้าก็ หัวเราะออกมาเบาๆ หย่อนตัวลงใกล้ๆน้องสาว..เมษาหันมาสะกิดแขนธันวายิก ยิก กระซิบออกมาเบาๆ

“พี่ธัน..จริงเหรอ!” ชายหนุ่มหันมามองทำปากจุ๊!จุ๊!..ปากไม่มีเอื้อนเอ่ยออกมาซักคำ และก็หันกลับไปฟังหญิงต่างวัยทั้งคู่เบื้องหน้าแทน พลอยทำให้เมษาหันไปสนใจบ้าง..ชายหนุ่มอยากดูปฏิกิริยาของหญิงสาวตรงหน้าว่า จะรับมือมารดาของเขาที่ได้ชื่อว่าตื้อเป็นที่หนึ่งไม่มีรองใครได้อย่าง ไร..แล้วการซักประวัติของทะเบียนราษฎร์ก็เริ่มขึ้น

“หนู..ชื่อนางเหรอจ๊ะ!” คนางค์พยักหน้าหงึก หงึก นั่งตัวตรงเด๋ว! ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม

“คะ..ค่ะ..ชื่อเต็มๆ ว่าคนางค์..นามสกุล..ณ.ขอนแก่นค่ะ”มารดาของธันวาเลิกคิ้วอมยิ้มพริ้ม

“เหรอ!..นามสกุล ณ ขอนแก่น..เป็นคนขอนแก่นเหรอลูก..แม่ก็เคยไปนะจังหวัดขอนแก่นน่ะ น่าเที่ยวมากๆเลย” ยิ้มใจดีส่งให้อีกระรอก..เอื้อมมือมาจับปอยผมของคนางค์ที่หลุดออกมา..ทัด กลับไปที่ซอกหูให้อีกครั้งนึง..เล่นเอาคนางค์เสียวหลังหู วูบๆ ทำหน้าไม่ถูกอยู่อย่างงั้น..สองพี่น้องที่นั่งฟังและก็ดูปฎิกิริยาของคนทั้ง คู่อยู่มีอันต้องอมยิ้มหัวเราะคิกๆ

“มีพี่น้องกี่คนล่ะลูก..หนูเป็นลูกคนเดียวหรือเปล่าจ๊ะ”

“คะ คือ..นางเป็นลูกคนเดียวค่ะ..ปะ เป็นลูกผู้หญิงคนเดียว”

“โถ!..น่าสงสารจริงเชียวแม่คุณ..คงจะเหงาสิลูก..ไม่มีเพื่อน” คนางค์หัวเราะแหะๆ เกาหัวแกรกๆ

“คะ..คือ..ไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่ค่ะ..อยู่ด้ายยย!!..พะ..เพื่อนข้างบ้านเยอะค่ะ” คุณพวัลส่ายหน้าอย่างไว

“มันไม่เหมือนกันลูก..เพื่อนข้างบ้านจะไปดีกว่าพี่น้องได้อย่างไรล่ะ จ๊ะ!”หญิงสาวยิ้มปูเลี่ยน ปูเลี่ยนส่งให้ไม่รู้จะโต้ตอบยังไงได้แต่พยักหน้าหงึกๆ ใจเธอตอนนี้อยากกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว..ถ้าหายตัวได้ก็อยากจะไปซะให้รู้แล้ว รู้รอด..มันช่างเป็นอะไรที่น่าอึดอัดเหลือเกิน..เหลือบตาไปหาตัวช่วยก็เห็น นั่งยักคิ้วส่งมาให้..คนางค์ค้อนขวับ..ซักแป๊บก็ตาเหลือกเหลือบตาไปมอง ใหม่..เห็นชายหนุ่มยังคงนั่งยักคิ้วมาให้อยู่..พระเจ้า!! ตานั่นยักคิ้วให้..ไม่อยากจะเชื่อ..ทำอะไรแบบนี้เป็นด้วยเหรอ!!

“ว่าไงลูก..” คนางค์หลุดจากพวัง..รีบหันหน้ามามองหญิงสูงวัยตรงหน้า

“คะ..ค้า!!..เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะคะ..คือ..นางได้ยินไม่ถนัด” คุณพวัลยิ้มพริ้ม

“โถแม่คุณ!..คงจะตื่นเต้น..เรียกแม่ว่าแม่ก็ได้จ้ะ..คุณเคินอะไรกัน ..ฟังดูแล้วห่างเหิน” ตบหลังมือหญิงสาวเบาๆ “แม่ถามว่า..คบกับตาธันมานานหรือยังลูก..และคิดว่าจะแต่งกันเมื่อไหร่ จ๊ะ”เท่านั้นแหละดวงตาเบิกโพลงอ้าปากหวอ..งง! เป็นไก่ตาแตก หันหน้าเลิ่กลัก..ธันวาหัวเราะออกมาเบาๆ..เห็นหน้าหญิงสาวตอนนี้แล้ว เขาเกิดอาการขำเป็นยิ่งนัก..ช่างธรรมชาติดีเหลือเกินไม่มีห่วงสวยเลยแม่ คุณ..ในชีวิตของเขาน้อยครั้งนักที่จะโคจรมาเจอผู้หญิงที่มีนิสัย และก็บุคลิกท่าทางแบบหญิงสาวเบื้องหน้านี่..หรือแทบจะไม่เคยเจอเลยด้วยซ้ำก็ ว่าได้..มันจึงเป็นสิ่งที่เขาอยากที่จะเรียนรู้ และก็รู้จักผู้หญิงคนนี้ให้มากขึ้น..ธันวายังคงนั่งอมยิ้มมองดูอยู่อย่าง งั้นไม่คิดจะเอ่ยปากช่วยเลยซักคำ..หญิงสาวปวดหัวตึบ สับสน! รีบส่งเสียงละล่ำละลักออกมา

“ดะ..เดี๋ยวนะคะ..คือเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วค่ะ..คืออย่างงี้ค่ะ..คือ นางกับคุณธันวาไม่ได้เป็นแฟนกันแต่อย่างใดเลยนะคะ..ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน เลยสักนิด..เป็นเพียงแค่เจ้านายกับลูกน้องเท่านั้นเองค่ะ” คุณพวัลเลิกคิ้ว ส่งยิ้มใจดีให้

“ไม่จริงหรอกจ้ะ..อย่ามาหลอกแม่เลย..ปรกติตาธันเคยพาผู้หญิงมาบ้านนี้ ที่ไหนกัน..ไม่เคยมีซักครั้ง..เค้าเคยบอกแม่ว่า..ถ้าวันไหนเค้าพาสาวเข้า บ้านให้คิดได้เลยจ้ะว่าคนนั้นแหละใช่แน่ๆ..และเนี่ยตอนเดินเข้ามาก็จับไม้ จับมือกันกระหนุง กระหนิงขนาดนั้น..ตาธันไม่เคยแสดงอาการแบบนั้นกับสาวคนไหนให้แม่เห็นเลยนะ จ๊ะ..เพราะฉะนั้นแม่ฟันธงจ้ะ” คนางค์ทำหน้าเหมือนปวดท้อง...ฮ่วยยย!! ทำไมบอกยากบอกเย็นอย่างงี้หนอ..รีบหันหน้าไปหาธันวา ขมวดคิ้วมุ้น ส่งเสียงขุ่นออกมา

“คู๊ณ!!..ช่วยหน่อยสินั่งยิ้มอยู่ได้” เพี๊ย!!..คนางค์สะดุ้งโหยง..โดนตีบนหลังมือเบาๆ

“เราเป็นผู้หญิงลูก..ไปดุพี่แบบนั้นได้ยังไงไม่ดีจ้ะ!..ภรรยาที่ดีจะ ต้องไม่ข่มสามีนะจ๊ะ..มันไม่งาม..ยิ่งอยู่ต่อหน้าคนอื่นยิ่งไม่ดีใหญ่..รู้ มั๊ยลูก”เท่านั้นแหละธันวา หรือแม้แต่เมษาเองที่นั่งฟังอยู่หัวเราะออกมาเสียงดัง จะมีก็แต่คนางค์เท่านั้นที่ทำตัวไม่ถูก ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“คุณธันวา..คุณอธิบายให้คุณแม่คุณเข้าใจหน่อยสิคะ” ชายหนุ่มนั่งยิ้ม..ใจนึงก็อยากจะแกล้งต่อแต่เห็นหน้าหญิงสาวแล้วเกิดอาการ สงสาร..เลยต้องรีบปิดการสนทนาที่มีทีท่าจะยาวไปถึงอนาคตของหลานเลยก็ว่าได้ ไว้ซะก่อน

“แม่ครับ”

“อะไรลูก..จะหลอกอะไรแม่อีก แม่ไม่เชื่อหรอกนะจ๊ะ” ธันวาหัวเราะเบาๆ

“ไม่ได้หลอกครับ..คืองี้..ผมกับคนางค์ไม่ได้เป็นแฟนกัน..หรือว่าคู่รัก อะไรหรอกครับ..เพียงแต่วันนี้มันมีปัญหานิดหน่อย..คือคนางค์เค้าไปก่อเหตุ ไว้กับไอ้พวกนักเลงที่ร้านอาหารน่ะครับ” เท่านั้นแหละตาคนางค์เบิกกว้างแทบจะถลนออกมานอกเบ้า กำลังจะอ้าปาก..ธันวาจ้องเขม็ง ส่งสายตาห้ามปรามไว้ ปากก็พูดต่อ

“ผมเห็นว่าเค้าอยู่คนเดียวมันจะไม่ปลอดภัย..ก็เลยพามาอยู่ที่นี่ชั่ว คราวซักคืนสองคืน..รอให้เรื่องเงียบลงก่อนค่อยให้เค้ากลับบ้านน่ะครับ” คุณพวัลพยักหน้าหงึก หงึก หันหน้ามาหาหญิงสาวลูบหลัง ลูบไหล่ให้ใหญ่ ปลอบใจ
“โถแม่คุณ!..ตัวเท่าเมี่ยง..ยังไปมีเรื่องมีราวกับพวกนักเลงได้อีก..ที หลังอย่าทำนะจ๊ะ..มันไม่ปลอดภัยเราเป็นลูกผู้หญิง..เรี่ยวแรงไม่คะนามือไอ้ พวกนั้นหรอก..รู้มั๊ย” คนางค์ยิ้มแหยๆ ส่งให้

“ค่ะ!” เมษาที่นั่งฟังอยู่ด้วยส่งเสียงถามมาอย่างกระตือรือร้น

“แล้วคุณนางไปมีเรื่องกับนักเลงพวกไหนล่ะคะ” ธันวาเคาะศรีษะน้องสาวเบาๆ

“แกไม่รู้จักหรอกยายษา..ไม่ต้องถาม”

“อ้าว!”เมษา งง..เกาหัวแกรกๆ คุณพวัลอมยิ้มหันหน้ามาหาคนางค์ใหม่

“แต่ถึงตอนนี้ยังไม่ได้เป็นแฟน..อนาคตก็ไม่แน่ใช่มั๊ยจ๊ะ!” คนางค์แทบหงายหลังล้มตึง อยากจะลงไปนอนดิ้นพรวดพราดอยู่บนพี้นให้มันรู้แล้วรู้รอดไป..ด้วยความที่มาร ดาของธันวา..ตื้อไม่เลิก!!

“อะ เอ่อ! ไม่ใช่ค่ะ” คุณพวัลจุ๊ ปากเบาๆ

“อนาคตมันไม่แน่หรอกลูก..ใครจะไปเดาอนาคตล่วงหน้าได้..แม่ล่ะชอบหนูจริง เชียว..ผิวพรรณสวยใสเหลือเกิน..ตาก็โตบ้องแบ้ว!..ผมยาวดำสลวยเชียวลูก..ลูก ออกมาคงจะน่ารัก” ส่งยิ้มพริ้มให้อีกครั้ง..ธันวาหัวเราะหึหึ ต่างจากน้องสาวที่หัวเราะออกมาเสียงดัง

“แม่คะ..พอเถอะค่ะคุณนางกระอักกระอ่วนใจแย่แล้ว..ให้ษาพาเธอไปพักผ่อนดีกว่า” คุณพวัลเลิกคิ้วเรียวงามหันหน้ามาหาลูกสาว

“เอาอย่างงั้นเหรอลูก” แล้วก็หันหน้ามาหาคนางค์ใหม่

“ทำตัวตามสบายนะจ๊ะ..คิดว่าเป็นบ้านของหนูเองอยู่นานๆ ก็ได้..หัดไว้จะได้ชินเผื่ออนาคตแต่งเข้าบ้านจะได้ไม่ขัดไม่เขิน” คนางค์ได้ฟังเกิดอาการร้อนที่หน้าวูบๆ อยากจะลุกขึ้นจากที่นั่งโดยไว

“อ้อ!”คนางค์ชะงักกึกหันกลับมามองคุณนายพวัลใหม่

“คะ!”

“ขาสวยเชียวลูก..เมื่อกี้แม่ว่าจะชม..ลืมไปเลย!”

“ขะ ขอบคุณค่ะ” ยิ้มปูเลี่ยน ปูเลี่ยนส่งให้

“ไม่เป็นไรจ้ะ!..ผู้ชายส่วนใหญ่เค้าชอบมองกันน่ะ..ขนาดแม่เป็นผู้หญิงยังชอบมองเลย..สวยดี!..อ้อ!” หันหน้าไปหาลูกชาย

“ตาธัน!..ตอนนี้น้องเค้ายังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกับเรา..เพราะฉะนั้นอย่า ถือสิทธิ์จับมือจับไม้เค้าอีกรู้มั๊ยลูก..เค้าเป็นผู้หญิงเดี๋ยวเค้าจะ เสื่อมเสีย” ธันวาหัวเราะเบาๆ

“แม่ครับ..ผมคิดอะไรที่ไหนล่ะฮะ..ก็แค่จูงพาเค้าเข้ามาในห้อง”

“นั่นแหละจ้ะ..ถึงอย่างงั้นก็เถอะมันไม่ดี..เด็กในบ้านเห็นมันจะไม่ งาม..ไปยายษา!..พาหนูนางไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำอาบท่าลูก..เดี๋ยวแม่เรียก แจ่มให้ตามขึ้นไปช่วย..ให้หนูนางอยู่ห้องทางปีกขวานะจ๊ะ..ห้องนั้นใหญ่ ดี..หรือจะให้แม่ตามขึ้นไปด้วย!” เมษารีบห้ามอย่างไว..

“ไม่เป็นไรค่ะแม่..ษาจัดการได้”

“ใครจะจัดการอะไร!” หันไปมองต้นเสียงกันทุกคน..คนางค์จ้องเขม็ง..นี่ล่ะมั้งคุณเทียม ผู้ก่อตั้ง TD Group..ดูดีจังเลยอ่ะ เป็นชายสูงอายุที่ดูดีมาก..นายธันวาได้ความหล่อมาจากพ่อนี่เอง ธันวาแนะนำคนางค์ให้ได้รู้จัก

“ตามสบายเลยนะหนู..นึกว่าเป็นบ้านของตัวเองแล้วกัน..ต้องการอะไรก็บอก ไม่ต้องเกรงใจ” คนางค์เดินจากมาพร้อมเมษา..ปล่อยให้ธันวาอยู่คุยกับบิดามารดาเป็นการส่วน ตัว..

“รำคาญแม่ของษาหรือเปล่าคะคุณนาง” เมษาชวนคุยพาหญิงสาวก้าวขึ้นบันไดสู่ชั้นบน คนางค์หัวเราะออกมาเบาๆ

“ไม่หรอกค่ะน่ารักดี..แต่ท่านพูดเก่งจัง ตลกด้วย!..เหมือนญาติผู้ใหญ่ของนางคนนึงที่ขอนแก่น..พูดเก่งอย่างงี้แหละ ค่ะ” เมษาหัวเราะออกมาบ้าง

“ลูกของท่านก็พูดเก่ง และก็ตลกกันทุกคนนะคะ”

“จริงเหรอคะ..ถ้าเป็นคุณสิงห์ กับคุณษา..นี่นางพอจะเชื่อนะคะ..แต่คุณธันวานี่นางเชื่อไม่ลง” เมษาอมยิ้มพาเดินมาถึงหน้าห้อง

“ต้องค้นหาค่ะ..แล้วคุณนางจะรู้ว่าไอ้ที่เค้าบอกว่าอย่ามองแค่ตา..ใช้ใจสัมผัสเนี่ยมันมีอยู่จริง” คนางค์เลิกคิ้ว

“ค้นหายังไงคะ” ใบหน้าเมษาระบายไปด้วยรอยยิ้ม

“บอกไม่ได้ค่ะ..อ่ะ!..แต่ใบ้ให้นิดหน่อยได้..คือ..กับคนที่สนิทเท่านั้น ค่ะถึงจะพบปรากฏการณ์นี้” ขยิบตาให้คนางค์หนึ่งที และก็พาเดินเข้ามาในห้อง

“เดี๋ยวษาให้เด็กเอาเสื้อผ้ามาให้นะคะ..ถ้าต้องการอะไรเพิ่มก็บอกได้... ราตรีสวัสดิ์นะคะคุณนาง” หญิงสาวหันหลังกำลังจะเดินออกจากห้อง พลางหันหน้ามาหาคนางค์อีกรอบ

“อย่าลืมนะคะ..เฉพาะคนที่สนิทเท่านั้นถึงจะได้เห็น” เมษากล่าวทิ้งท้ายไว้ และก็เดินออกจากห้องไป คนางค์ยืนขมวดคิ้วมุ้น..ปิดประตูตามหลังเมษา..

“อะไรของเค้านะครอบครัวนี้..แปลกๆ มีลับลมคมในซะเหลือเกิน..ต้องคนสนิทเท่านั้นถึงจะได้เห็น..แล้วจะไปสนิทกัน ตอนไหนอ่ะ..ชาตินี้คงจะได้เห็นล่ะมั้ง”หญิงสาวบ่นพึมพำ สายตาเริ่มสำรวจห้องหับที่จะต้องพักชั่วคราว

“อื้อหือ!..นี่ห้องรับรองแขกของบ้านนี้เหรอเนี่ย..เกือบจะเท่า อพาท์เม้นท์เราเลยอ่ะ” เดินสำรวจเข้าไปในห้องน้ำ มีอันต้องตาเบิกโพลง กรี๊ดดด ออกมาดังลั่น

“มีอ่างด้วยอ่าง!..ใหญ่มั๊กๆ” รีบวิ่งไปหาต้นตออย่างไว เปิดประตูกระจกใสก้าวเข้าไปในห้องอีกชั้น

“ป๊าดดด!..สามคนอยู่ได้ชัวร์..ฮ่วย! อะไรจะใหญ่ขนาดน้านน!” พินิจพิเคราะห์ใหญ่

“หรือว่า..จากุดซี่” บ่นงึมงำ และก็นั่งไปบนขอบอ่าง เอื้อมมือไปกดปุ่มที่มีเรียงรายอยู่บริเวณเหนือขอบอ่าง มีอันต้องสะดุ้งตกใจ น้ำร้อนๆจากฝักบัวที่แขวนไว้เหนือหัวฉีดกระจายทั่วไปหมด คนางค์เปียกมะล่อกมะแล่ก รีบยื่นมือไปกดปุ่มเพื่อที่จะปิดแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ..น้ำยังคงฉีดกระจายไป ทั่ว..แถมอุณภูมิความร้อนยังมีทีท่าว่าจะสูงขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะไอความร้อนเริ่มจับเป็นฝ้าบนผนังห้องที่กรุกระจกโดยรอบ คนางค์ถอยออกมายืนนอกห้องกระจก

“ตายๆๆ..ทำไงดีอ่ะ” หันหน้าเลิ่กลั่ก..รีบวิ่งออกจากห้องน้ำจะไปตามคนมาช่วย..เสียงโทรศัพท์ เรียกเข้ามือถือของตัวเอง..ทำให้ต้องหยุดชะงักรีบวิ่งมาที่เตียงเปิดเป้ใบ เก่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา..พอเห็นชื่อก็ยิ้มล่ากดปุ่มรับอย่างเร็ว

“แจ๊ดด!!”

“เออ! ฉันเอง..นี่ยัยนางแกเปิดช่อง11 ตอนนี้สิ..น่าสงสารมากเลย..มีข่าวคนแก่ทนหนาวไม่ไหวนอนตายอยู่ในบ้าน อ่ะ..เค้าว่าทางเหนือติดลบแล้วนะโว๊ยนาง..และก็มีแม่คะนิ้งแล้วด้วยเมื่อกี้ เค้าถ่ายทอดให้ดู..หูย!..มันเกาะเป็นเสก็ดๆเลยเหมือนหิมะอ่ะ..และบางอันนะ มันเหมือนกับเพชรอย่างงั้นแหละ..สวยมากๆ” พูดไม่มีเว้นวรรค คนาค์เกาหัวแกรกๆ

“แจ๊ดด!”

“เออ! แกเปิดยัง” คนางค์ขมวดคิ้วมุ้น

“ไม่ได้เปิด..ยังไม่เปิด..แจ๊ดด!!..กะ..แก” มีอันต้องหยุดชะงักอีกระรอก แจ๊ดสวนมาอย่างเร็ว

“อ้าว!..ทำไมไม่เปิด..เฮ้ยมันหนาวมากเลยนะโว๊ยเนี่ย..ตอนนี้เค้ามีสารคดีอยู่เลย” หญิงสาวทำปากจึก จัก หงุดหงิดอารมณ์เต็มที่

“เออ!ช่างมันไปก่อนทางโน้นอ่ะ..เอาทางนี้ก่อนตอนนี้ฉันร้อนตับจะแตกอยู่ แล้ว” รีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำใหม่มีอันต้องตาเหลือกอีกรอบ..

“ตะ..ตายๆๆๆ..ตายแล้วอ่ะแจ๊ดด!!” ฝ้าขาวๆจับเต็มไปหมดเริ่มลามออกมาจับกระจกข้างนอกด้วย ขาเริ่มอยู่ไม่สุขกระโดดเหยงๆ ตื่นเต้น!! ปากก็ส่งเสียงระรัวเร็วออกไป

“จะ จะ..แจ๊ด!..กะ..แกปิดน้ำฝักบัวจากอ่างจากุซี่เป็นหรือเปล่า”

“ฮะ!” ปลายสายได้ยินไม่ถนัด

“ฉันถามว่าแกปิดน้ำจากฝักบัวเป็นหรือเปล่า”เสียงเริ่มเขียว กังวลสุดๆ

“มันจะไปยากอะไร.. ฉันก็หมุนมาฝั่งตรงข้ามสิ..ถ้าฉันหมุนเปิดไปทางขวา..เวลาฉันจะปิดฉันก็ต้อง หมุนมาทางซ้าย..แหมๆ จะลองภูมิฉันเหรอ..ขอบอกๆ ไม่พลาด ไม่พลาด”

“ไม่ใช่!..มันเป็นปุ่ม!”ตวาดแว๊ดกลับไป

“กล้วยๆ..มันมีปุ่มเปิดมันก็ต้องมีปุ่มปิด ฉันก็เอื้อมไปปิดก็เท่านั้น!” คนางค์ทำปากจึก จัก ชักไม่ได้การณ์..ถ้าถามต่อไปคงไม่ได้เรื่อง รีบวิ่งออกจากห้องน้ำ

“เออๆ งั้นแค่นี้ก่อนนะแจ๊ด!!”

“ดะ ดะ เดี๋ยว!” คนางค์กดปุ่มปิดทันที..ตี๊ด! ตี๊ด! เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าอีกครั้ง..คนางค์หยุดชะงักอีกรอบพอเห็นชื่อก็ตาโต ขึ้นมาทันควัน กรอกเสียงเข้าไปอย่างดัง

“ไอ้เปี๊ยก!” ปลายสายถึงกับผงะหูออกทันที รีบส่วนกลับมาอย่างไว

“อื้อหือไอ้นาง!..ขี้หูกระเด็น กระดอนข้ามไปออกอีกหูนึงเลย..แกจะแหกปากเสียงดังทำไมวะ ไอ้นี่หนิ! แก้วหูแทบแตก!” บ่นงึมงำ มาตามสาย..คนางค์ทำตาขวางใส่โทรศัพท์..ใจร้อนเป็นไฟไปหมดแล้วตอนนี้วิ่งกลับ เข้าไปในห้องน้ำใหม่ ปากก็ส่งเสียงปาวๆ

“เออ ๆ ขอโทษๆ.. ไอ้เปี๊ยก..กะ แก..ปิดน้ำฝักบัวจากอ่างจากุซีเป็นหรือเปล่า!”

“ฮะ!..ชัดช่า!..ไอ้นาง! เดี๋ยวนี้บังอาจชวนลงอ่างเหรอ..ฉันไม่หมูเหมือนสมัยก่อนแล้วนะโว๊ย!!..อัน นั้นมันเด็กๆ ประถมๆ เสียรู้แค่ตอนป.2 เท่านั้นแหละว้า.. เดี๋ยวนี้ฉันมหาลัยแล้วโว๊ย! ยากกส์”

“ไม่ใช่!..ฉันถามว่าแกปิด! น้ำ! ฝัก! บัว!จากอ่างจากุซีเป็นหรือเปล่าโว๊ย!!” หงุดหงิด ๆ ชะโงกหน้าเข้าไปดูในห้องกระจก มีอันต้องตาเหลือกอีกระลอก น้ำในอ่างเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกนิดเดียวก็จะล้นแล้ว หน้าตาเริ่มเหยเก อยากจะร้องไห้

“ฮือๆ ๆ ทำไงดีอ่ะ!” กระโดดเหยงๆ อยู่คนเดียว..ปากก็กรอกเสียงลงไปใหม่

“ว่าไง ไอ้เปี๊ยกก!..แกปิดเป็นหรือเปล่า!”

“ไม่เป็นอ่ะ..ไม่เคยใช้..เคยใช้แต่ขันจ้วงไปในตุ่มอาบอ่ะ!” คนางค์อยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์ลงน้ำไปซะให้รู้แล้วรู้รอด..พึ่งไม่ได้ซักคน

“งั้นแค่นี้นะโว๊ย!”

“ฮะ..เฮ้ย!” หญิงสาวไม่ฟังเสียงปิดโทรศัพท์ฉับ มีเสียงเรียกเข้าอีกรอบคนางค์ไม่สนใจแล้ว หันหน้าเลิ่กลั่ก..ลองยื่นมือไปกดปุ่มใหม่ก็ไม่มีทางหยุด น้ำเริ่มเอ่อออกมาแล้ว ล้นลงมานองพื้นคนางค์กระโดดซอยเท้ายิก ยิกน้ำร้อนมากๆ ถุงเท้าเปียกปอนไปหมด

“ฮือๆ นะ..นะ..นองแล้ว..ทะ ทำไงดี” ก๊อกๆ ๆ หญิงสาวชงักงันรีบหันไปฟังเสียง..ใบหน้าเริ่มระบายด้วยรอยยิ้ม

“คะ คนมา..ฮือๆๆ” รีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำอย่างไว..ไม่ได้คิดว่าถุงเท้าที่เปียกอยู่จะมีผล กระทบกับผืนไม้ปาเก้บนพื้นห้องยังไงบ้าง..วิ่งอย่างเร็ว!..มีอันต้องลื่นก้น จ้ำเบ้าไปบนพื้น..เสียงดัง ตุ๊บ!

“อุ้ยส์!” นั่งโอดครวญอยู่บนพื้น เสียงเคาะเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ

“คนางค์..อยู่หรือเปล่า!” เสียงธันวาลอยเข้ามา

“ยะ ยะ..อยู่ค่า!” ส่งเสียงออกไปทำปากซี๊ด ซ๊าดด! ค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้น

“อุ้ยส์..เจ็บอ่ะ!” บ่นพึมพำ..มือก็คลำสะโพกปร้อยๆ รีบเดินกระโผลก กระเผลกไปเปิดประตู เห็นธันวายืนขมวดคิ้วพิงขอบประตูอยู่หน้าห้อง

“คะ คุณธันวา!” ยิ้มแห้งๆ ส่งให้

“เป็นอะไร”

“ละ..ลื่นค่ะ” คิ้วชายหนุ่มมีอันต้องขมวดหนักขึ้นไปอีก..เมื่อเห็นสภาพเนื้อตัวของหญิงสาวตรงหน้าที่เปียกปอนไปหมด

“แล้วไปทำอะไรมา..เนื้อตัวถึงได้เปียกปอนแบบนั้น” คนางค์ตาเหลือกเพิ่งนึกได้

“ตะ..ตายๆ แล้ว..ล้นแล้วอ่ะ..นองแล้ว” รีบคว้าแขนชายหนุ่ม

“คุณ!..คุณเข้ามาช่วยฉันหน่อย”

“อะไร”

“นะ น้ำ..ในอ่างมันล้น..ฉะ..ฉันปิดไม่เป็น เร็ว!” เร่งยิก ยิก ลากธันวาเข้ามาอย่างไว..ชายหนุ่มเห็นสภาพตรงหน้ามีอันต้องถอนหายใจออกมา เฮือกใหญ่ๆ..บนพื้นเจิ่งนองไปด้วยน้ำ ไอร้อนลอยตัวขึ้นมาฉุยๆ ชายหนุ่มหน้ามุ้ยตะคอกออกมาเสียงดัง

“ยัยบ้าเอ๊ย!..ปิดไม่เป็น..แล้วทำไมไม่ไปเรียกเด็กข้างล่างให้มาปิด ให้..ปล่อยเอาไว้จนล้นเอ่อขนาดเนี้ย!” คนางค์หน้าเสีย อยากจะร้องไห้

“ก็..ก็ตอนแรก..นะ นึกว่าจะปิดได้อ่ะ..ก็..ก็นึกว่า แจ๊ด กับ..อะ..ไอ้เปี๊ยกจะช่วยได้อ่ะ!” ยืนก้มหน้าสำนึกผิด ชายหนุ่มถอนหายใจอีกเฮือก..ค่อยๆถอดถุงเท้าออก กำลังจะก้าวขาเข้าไปในห้องน้ำ

“ระ..ร้อนนะคุณ!” คนางค์ส่งเสียงเตือนออกมาเบาๆ ชายหนุ่มหันหน้ามาทำตาขวางส่งให้

“รู้แล้ว!” หญิงสาวหน้าสลดลงไปอีก..สายตาก็เหลือบมองอากับกิริยาชายหนุ่มไปด้วย..เห็น ธันวาค่อยๆ ก้าวขาไปบริเวณที่มีน้ำน้อยที่สุด..เอื้อมมือไปเปิดตู้ที่วางเรียงรายไปด้วย ผ้าขนหนู..ชายหนุ่มหยิบออกมาหกเจ็ดผืนได้..ค่อยๆ วางซับไปเรื่อยๆ จนถึงห้องที่กรุกระจก..ชะโงกหน้าเข้าไปข้างใน..ซักแป๊บเสียงน้ำจากฝักบัวก็ เงียบสนิทลงทันที..ซักครู่ชายหนุ่มถึงถอยกลับออกมา..ผมเผ้าเปียกชื้นไปหมด เดินลัดเลาะกลับออกมาทางเดิม คนางค์รีบถอยออกมายืนคอยห่างจากประตู ธันวาเดินออกจากห้องน้ำมาพร้อมกับผ้าขนหนูในมือ..ยื่นส่งให้คนางค์

“อ่ะ!..เช็ดซะ!”หน้ายังบึ้งตึงอยู่..หญิงสาวค่อยๆ ยื่นมือไปรับไม่กล้าสบตา

“ขะ ขอบคุณค่ะ” ก้มหน้างุด..เอาผ้าซับหน้าเป็นการใหญ่..

“ไปโดนอะไรมาน่ะ!” คนางค์สะดุ้งสุดตัว..เสียงชายหนุ่มดังไม่ใช่น้อย..หญิงสาวหน้าเบ้น้ำตาเริ่มขึ้นมาคลอที่หน่วยตา

“คะ คะ..ค้า” สะอื้นเฮือกๆ..ปากเริ่มสั่น..ธันวาเห็นอาการของหญิงสาวตรงหน้าก็ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ พูดออกมาเนิบๆ

“เป็นอะไรคนางค์..ฉันไม่ได้ว่าอะไรเธอซักหน่อยแค่ถามว่าต้นขาไปโดนอะไร มาทำไมมันถึงม่วงช้ำๆอย่างงั้น..เท่านั้นเอง” คนางค์สะอื้นไม่หยุด..

“ละ ลื่น! อ่ะ” ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ้น

“เจ็บหรือเปล่า!” น้ำเสียงเอื้ออาทรเต็มที่

“เจ็บ! ฮือๆ” ทำนบแตก! สะอื้นเหมือนเครื่องยนต์สำลักน้ำมัน..มีรอบมีระยะเวลาการสะอื้น ทำเอาธันวากลั้นยิ้มแทบไม่อยู่..รีบส่งเสียงถามมาโดยไวกลัวจะหลุดหัวเราะออก มา

“ไหน! เจ็บตรงไหนอีกเหรอเปล่า!” หญิงสาวยังคงสะอื้นอยู่ หน้านองไปด้วยน้ำตา..ขนตาเปียกปอนไปหมด จ้องหน้าธันวาตาแป๋วแว๋ว พูดออกมาอย่างเร็ว
“ตะ ตอนที่น้ำไหลปิดไม่ได้..ฉันไม่ได้นิ่งนอนใจนะ..ฉันก็พยายามตลอด..ถามยัย แจ๊ด..มันก็ช่วยอะไรไม่ได้..ส่วนไอ้เปี๊ยกมันก็ไม่เคยใช้..มะ..มันอาบแต่น้ำ ตุ่ม..ฮือๆ” ไหลมาอีกระลอก ธันวาอมยิ้มค่อยๆ ดึงตัวหญิงสาวมาไว้ในอ้อมกอด ส่งเสียงปลอบใจออกมาเบาๆ

“ชุ๊ว! ชุ๊ว! ไม่เป็นไรคนางค์..ฉันรู้แล้ว..ไม่เป็นไร!” ลูบหลัง ลูบไหล่ให้ใหญ่ คนางค์สะอื้นเฮือกๆ

“มะ..ไม่..คุณไม่รู้..ฉะ..ฉันเดินเข้าเดินออกห้องน้ำอยู่สามสี่รอบ..น้ำ ก็ร้อนด้วย..ฉะ..ฉันพยายามนะ ไม่ใช่ไม่พยายาม..ก็ไอ้อ่างเฮงซวยนั่นมันปิดไม่ได้..ฉัน กด ๆๆ มันก็ไม่หยุด ฮือๆ”เขื่อนแตกอย่างแรง หน้าซุกไปบนอกชายหนุ่ม..

“ไม่เป็นไร..คนดี! เรื่องแค่นี้เอง!”ส่งเสียงปลอบประโลมออกมา ก้มลงจุ๊บศรีษะได้รูปเบาๆ คนางค์ผงะหน้าออกจากอกธันวาทันที สะอื้นเฮือกๆ

“มะ..ไม่..มันไม่ใช่แค่นี้..มันมากกว่านี้..ฉันได้ยินเสียงคนเคาะ ประตู..และฉันก็รีบวิ่งออกมา..วะ หวังจะให้ไอ้คนที่อยู่ข้างนอกห้องมาช่วย..และฉันก็ลื่น..ฉันเจ็บ!..ฉัน ต้องกระโผลก กระเผลก เดินไปที่ประตูเพื่อจะรีบไปเปิดให้..คะ..คุณคิดดูสิฉันทำขนาดนี้..ไม่ห่วง เจ็บขนาดนี้..คุณยังจะมาตะคอกใส่ฉันอีกอ่ะ..หาว่าฉันเป็นพวกอวดเก่งอีก ด้วย..ฮือๆๆ”รีบซุกไปบนอกชายหนุ่มอย่างไวร้องไห้ไม่หยุด..ตัวเสื้อด้านหน้า เริ่มเปียกปอนไปด้วยน้ำตาของหญิงสาวเป็นวงกว้าง..ธันวาผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ เขาล่ะงง..ซะจริงๆ จำไม่ได้ว่าเอ่ยปากว่ายายบื้อนี่อวดเก่งตอนไหน..

“ฉันว่าเธอตอนไหนล่ะ..ไม่ได้ว่าเลย”

“ว่า! คุณว่าฉัน..คุณบอกประมาณว่าฉันใช้ไอ้อ่างเฮงซวยนั่นไม่เป็นแล้วไม่รู้จักไป ตามคนที่ใช้เป็นมาปิด..ปล่อยให้น้ำมันทะลักล้นเอ่อนองเปลื้อนบ้านคุณหมด.. คุณว่าฉันอย่างเงี้ย..ฮือๆ” กอดๆๆ น้ำตาไหลไม่หยุด ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือก..ยัยต๊องเอ๊ย!นึกว่าเรื่องอะไร..ร้องไห้จะเป็นจะ ตาย..ธันวาหัวเราะออกมาเบาๆ..ค่อยๆจับใบหน้าของหญิงให้เงยขึ้น..คนางค์เงย หน้าขึ้นมองชายหนุ่ม..ตาบวมช้ำไปหมดน้ำตายังนองอยู่บนใบหน้า..ชายหนุ่มส่ง เสียงออกมาเนิบๆ

“ฉันขอโทษ” คนางค์จ้องตาชายหนุ่มนิ่ง..ยังคงมีลูกสะอื้นออกมาบ้างประปราย

“คะ..คุณเป็นคนผิด!” ธันวาได้ฟังถึงกับเลิกคิ้ว..ซักแป๊บก็ยักไหล่

“อึมม์..ก็ได้..ฉันผิด” คนางค์ขมวดคิ้วมุ้น

“คุณเป็นคนผิด!” เน้นน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ ธันวาหัวเราะออกมาเบาๆ..ตื้อจริงเชียว ยัยนี่!

“จ้า!..ฉันผิด..ฉันผิดเองที่ขึ้นมาช้าไม่รีบมาปิดไอ้ที่เธอเปิดเอา ไว้..แถมขึ้นมายังมาว่าตะคอกใส่เธออีกทั้งๆที่มันก็ไม่ใช่ความผิดของเธอซัก นิดเดียวไอ้อ่างเฮงซวยนั่นมันใช้ไม่ได้การเองต่างหาก..ฉันยอมรับผิดแต่โดยดี ไม่มีข้อโต้แย้ง..โอเคมั้ย” เลิกคิ้วส่งให้หญิงสาวในอ้อมกอด..คนางค์พยักหน้าส่งให้หงึก หงึกได้อย่างใจประสงค์ ชายหนุ่มอมยิ้ม..มือใหญ่ค่อยๆ เกลี่ยน้ำตาบนแก้มนวลออกให้..ปากก็พึมพำออกมาเบาๆ

“ตาช้ำหมดแล้ว..น้ำตาออกมาเป็นปี๊บๆ..ถ้าเทใส่ตุ่มคงล้นแล้วมั้ง”หญิง สาวเริ่มยิ้มออก..หลุดหัวเราะออกมากิ๊กนึง..ธันวาจ้องตาหญิงสาวนิ่ง..คนางค์ หยุดยิ้มโดยฉับพลันรู้สึกขัดเขิลล์เป็นยิ่งนัก..หญิงสาวสัมผัสได้ถึงไออุ่น จากลมหายใจของชายหนุ่มที่ละอยู่ใกล้ๆ มือหนาค่อยๆเคลื่อนจากใบหน้าลงไปยังริมฝีปากได้รูป..

“คนางค์..” น้ำเสียงกระซิบที่ออกจากปากของชายหนุ่ม..มันคล้ายกับจะเป็นคำร้องขอถึงสิ่ง ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี่ หญิงสาวนิ่งอึ้งตะลึงงันไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันเพียงแค่ได้สบสายตาชายหนุ่ม เบื้องหน้าบวกกับน้ำเสียงกระซิบของเขาทำให้เธอถึงกับหลงไปกับมนต์ที่ชาย หนุ่มร่ายขึ้น ธันวาค่อยๆโน้มศรีษะลงมาใกล้ พยายามยืดเวลาไว้เหมือนกับเขากำลังคาดว่าหญิงสาวจะปฏิเสธความใกล้ชิดครั้ง นี้..และให้เวลาคนางค์จนถึงวินาทีสุดท้าย..ชายหนุ่มอมยิ้มพริ้มเมื่อสิ่งที่ คาดไว้มิได้เกิดขึ้นค่อยๆ ทำตามใจเรียกร้อง..ดื่มลิ้มชิมความหวานจากริมฝีปากบางอย่างมั่นใจ..จนเวลา ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบได้..ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก..ปลายจมูกโด่งคมสันละ ไปบนแก้มนวลที่ตอนนี้ออกแดงระเรื่อเบาๆ..ถนุถนอมประหนึ่งกระเบื้องเคลือบที่ มีราคาสูงค่าก็ไม่ปาน..ส่งจูบสุดท้ายของ ณ เวลานี้ลงบนหน้าผากกลมมล..แล้วก็ยืนจ้องมองหญิงสาวนิ่งเหมือนเดิม..คนางค์ สูดหายใจเข้าปอดดังเฮือก ใจสั่นหวิวๆ เหลือบสายขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้ามีอันต้องหน้าแดงอีกระลอก ธันวาหัวเราะออกมาเบาๆ

“เป็นอะไร” น้ำเสียงปลอบประโลม มือก็เกลี่ยแก้มนวลอยู่อย่างงั้น..คนางค์จ้องมองชายหนุ่มนิ่ง

“เท่าไหร่” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว เริ่มงง

“อะไร..เท่าไหร่” คนางค์ทำปากจึก จัก

“มันแกวอ่ะ!..ตอนนี้โลเท่าไหร่แล้ว” ธันวานิ่งไปซักพัก..และก็เริ่มจำได้หัวเราะออกมาเบาๆ ถามคำถามกลับมาบ้าง

“เธอคิดว่าเท่าไหร่ล่ะ”

“ไม่รู้!” ตอบน้ำเสียงสะบัด..ขัดเคืองใจเป็นยิ่งนัก หน้าร้อนวูบวาบไม่หายซักที..ธันวาอมยิ้ม

“แปดบาท” คนางค์ตาเหลือก

“ปะ..แปดบาท..ทำไมมันน้อยจังอ่ะ” คิ้วเริ่มพันกันยุ่ง..แปดบาท แล้วเมื่อไหร่มันจะถึงร้อย..นี่ถ้าไอ้เปี๊ยกมันรู้เข้ามันต้องหัวเราะเยาะ เราแน่ๆเลย ..กดขี่ราคากันเห็นๆ อย่างนี้มันหยามกันชัดๆ ชายหนุ่มจ้องตาหญิงสาวนิ่ง..นัยน์ตาพราวระยิบ..

“เป็นอะไรอีก!”

“เปล่า!” หงุดหงิดๆ จะแกะแขนชายหนุ่มออกจากเอว

“นี่คุณ..ปล่อยฉันซักทีสิ..กอดไว้อยู่ได้”หน้าบึ้งตึง..ผิดกับชายหนุ่มใบหน้าระบายไปด้วยรอยยิ้มส่งเสียงออกมาเบาๆ

“เดี๋ยว!..เมื่อกี้นี้ที่ลื่นน่ะ..เจ็บตรงไหนอีกเหรอเปล่า! ยังไม่ได้ตอบฉันเลย”เท่านั้นแหละ..หญิงสาวเริ่มมีอาการขึ้นมาทันทีเสียวที่ สะโพก แปล๊บๆ หน้าเริ่มเบ้อีกระลอก

“เจ็บบ!..มันเจ็บที่สะโพกข้างขวาอ่ะ” เริ่มจะสะอื้นอีกครั้ง..ชายหนุ่มหัวเราะออกมารีบห้ามไว้อย่างเร็ว

“ไม่ต้องร้องแล้ว..ฉันรู้แล้ว” คนางค์รีบกลั้นสะอื้น เฮือกๆ

“ฉะ..ฉันเจ็บ” ชายหนุ่มพยักหน้าพยายามกลั้นยิ้มเต็มที่ พาหญิงสาวมานั่งบนเตียง

“ไหนมาดูซิ!..”คนางค์ตาเบิกโพลง พูดเสียงระล่ำระลักออกมา

“ดะ..ดูอะไร!..” ธันวาเลิกคิ้ว

“ฉันไม่ดูไอ้ที่มันอยู่ในร่มผ้าหรอกน่า..ขอดูรอยช้ำที่ต้นขาเท่านั้น เอง” หญิงสาวถอนหายใจดังเฮือก ชายหนุ่มก้มลงมองรอยช้ำที่โผล่มาจากปลายขากางเกง..มือก็กดไปรอบๆ รอยช้ำเบาๆ คนางค์สะดุ้งโหยง

“เจ็บ!” ธันวาเงยหน้าขึ้นมอง

“มันคงจะระบมน่ะ..และยิ่งผิวเธอขาวมันก็เลยเห็นง่าย..ไม่น่าจะเป็นอะไร มากหรอก..เดี๋ยวฉันให้ยัยษาเอายามาทาให้” ชายหนุ่มยกมือขึ้นปัดปอยผมที่ละอยู่บนใบหน้าหญิงสาวออกให้

“ทีหลังเวลาจะเดินจะเหินอะไร..ก็ระมัดระวังซักหน่อยจะได้ไม่ต้องเจ็บตัว อยู่ตลอดเวลาอย่างงี้” คนางค์กำลังจะอ้าปาก ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาปิดซะก่อน

“อย่าเถียง!” เคาะหน้าผากหญิงสาวเบาๆ ด้วยความเอ็นดูจ้องมองตาคนางค์นิ่ง..ซักครู่ก็ถอนหายใจออกมาค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

“ฉันไปก่อนล่ะ..แล้วพรุ่งนี้ค่อยเจอกัน..รอไปทำงานพร้อมฉันด้วย” พูดเสร็จก็เดินลิ่วๆ เปิดประตูออกไปจากห้อง..คนางค์จ้องบานประตูนิ่งซักแป๊บก็ขมวดคิ้วมุ้น บ่นออกมาปาวๆ

“ดีแต่สั่ง!..เชอะ!..อยู่รอก็กลัวดิ..จ้างให้ก็ไม่อยู่หรอก..รอให้เช้า ก่อนเถอะแม่จะออกไปแต่ไก่โห่เลย..ให้มันรู้ซะบ้าง..ว่านังนางมันไม่ใช่เด็กๆ แล้ว..โตแล้วด้วยทำงานแล้วนะ!..บ้าเอ๊ย!” ตบต้นขาผาง!

“อุ้ยส์..เจ็บอ่ะ!” นั่งโอดครวญอยู่บนเตียง ในบ้านหลังใหญ่งามหรู ของตระกูลเดชาบดินทร์....

###########################################

ขอบคุณทุกคำคอมเม้นท์นะคะ จะพยายามไม่หายไปไหนค่ะ ^^

คุณMDDC ขอบคุณมากค่ะ มีบอกคำผิดให้ด้วยน่ารักจังเลย ยอมรับว่า
ผิดเยอะมากจริงๆค่ะ เรื่องนี้แต่งไว้นานแล้ว และยังไม่ได้รีไลท์ใหม่เพราะมันยัง
ไม่จบ แต่จดไว้แล้วนะคะตามที่คุณ MDDC แจ้งมา ^^



กรกนก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 มิ.ย. 2554, 00:31:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 มิ.ย. 2554, 00:31:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 1887





<< ตอนที่ 10 :เกมส์   ตอนที่12 : เหตุที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิด...2 >>
wane 15 มิ.ย. 2554, 02:06:48 น.
อ่านไปขำไป ยัยนางที่ต๊องได้ใจสุดๆ ค๊า


MDDC 15 มิ.ย. 2554, 03:10:32 น.
ต๊องจริงๆ นางนี่


ปอยอะนะ 15 มิ.ย. 2554, 09:35:38 น.
ชอบๆ


saralun 15 มิ.ย. 2554, 11:04:48 น.
ชอบ ๆ นางเอกก็นะต๊อง ยิ่งกว่าเรา อีก ฮ่า ๆ ๆ


kitty 15 มิ.ย. 2554, 17:18:18 น.
จะถึงร้อยเมื่อไรอ่ะ


scene 18 มิ.ย. 2554, 02:30:51 น.
เคยตามอ่าน แต่มันไม่จบ คราวนี้เอาให้จบนะคะ please! ชอบคุณเขีนนตั้งแต่เรื่องแรกแล้ว จุ้นกับปอม ตอนที่เอาลงที่เด็กดี ดีใจที่เอามาลงที่นี่อีกครั้ง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account