ม่านทิวาพชร {{{ชุดอัญมณีเหนือกาล}}}สนพ.อรุณ
รัตติกาล ทิวา สนธยา สามเวลาที่อยู่คู่โลกมาแต่บรรพกาล
ตำนานบทใหม่แห่งอัญมณีเหนือกาลจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!

Tags: โมรารัตติกาล มรกตสนธยา มนตรามุกจันทรา มายาไฟในดวงตา ม่านธาราเร้นดาว อัญมณีเหนือกาล มนตราอัญมณี

ตอน: บทที่ 17 โศกนาฏกรรมรัก

๑๗

โศกนาฏกรรมรัก




เมื่อรู้แล้วว่าจะปลดปล่อยวิญญาณของธศิญาได้อย่างไร ชลันธรก็ถามถึงเรื่องราวต่อจากในฝันครั้งล่าสุดของตนเองต่ออย่างไม่รอช้า

ลูกสาวผู้ว่าการเขตราศิยิ้มขมขื่นเมื่อฟังคำถามจบ ‘ฉันถูกบังคับให้แต่งงานกับดุริยะ ส่วนชวาลีถูกปลดจากการเป็นองครักษ์ของฉันและต้องออกจากคฤหาสน์ผู้ว่าการไป จากนั้นฉันก็ไม่มีโอกาสเจอเขาอีกเลย’ น้ำเสียงเมื่อเอ่ยถึงชายหนุ่มเต็มไปด้วยความคิดถึงและอาลัย

“หมายความว่า… ชวาลีอาจจะยังมีชีวิตอยู่เหรอคะ” ชลันธรดวงตาเป็นประกายอย่างมีหวัง

‘ฉันก็หวังอย่างนั้นค่ะ แต่ฉันเดาใจดุริยะไม่ถูก เพราะแม้แต่ฉันที่เขาบอกว่ารักมาก เขายังเป็นคนฆ่า!’ นึกแล้วก็ให้สมเพชในโชคชะตาของตนเองเหลือเกิน

“ว่าไงนะคะ” หญิงสาวแทบไม่อยากเชื่อหู

ธศิญายิ้มทั้งที่ตาเศร้า ‘นอนลงและหลับตาสิคะ แล้วคุณจะได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด ได้สัมผัสความคิดและความรู้สึกอย่างชัดเจนเหมือนที่ผ่านมา’

ชลันธรพยักหน้ารับก่อนจะทำตาม ยามนี้เธอได้ยินเพียงเสียงความเงียบสงบที่ปกคลุมภายในห้อง และเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นระรัวด้วยความอยากรู้ ทว่าไม่นานหญิงสาวก็จมลึกลงสู่นิทรา






‘คุณธศิญา’

เสียงเรียกและเสียงเคาะประตูห้องนอนที่ดังขึ้น ทำให้เจ้าของร่างบอบบางในชุดนอนสีม่วงอ่อนซึ่งนั่งให้สาวใช้หวีผมอยู่หน้ากระจกสะดุ้งเล็กน้อย หลังจากปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปไกลแสนไกล

สาวใช้วางหวีลงในกล่องกำมะหยี่สีดำอย่างรู้หน้าที่ ก่อนประสานมือไว้บนหน้าขาพร้อมย่อตัวอย่างสุภาพ ‘ดิฉันขอตัวนะคะคุณธศิญา’

‘เดี๋ยวก่อนจาวี’ ธศิญารีบหันไปห้าม

‘แต่คุณดุริยะ…’

‘เขาจะรู้สึกยังไงฉันไม่สนใจหรอกนะ เธออยู่กับฉันมานาน น่าจะดูออกว่าฉันอึดอัดแค่ไหนที่ต้องแต่งงานกับเขา’ ใบหน้าหวานรูปไข่เปลี่ยนเป็นยับยุ่ง

‘คุณธศิญา ผมเข้าไปได้หรือยัง’ เสียงทุ้มนุ่มจากภายนอกดังขึ้นอีกครั้ง

‘เอายังไงดีคะ’ จาวีถามด้วยน้ำเสียงลำบากใจ เพราะไม่ว่าเธอจะอยู่หรือไป ย่อมมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่พอใจเป็นแน่

‘เธออยู่นี่ละ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น คืนนี้เป็นไงเป็นกัน ฉันจะไม่ทนอีกแล้ว’ ดวงตาของหญิงสาวแข็งกร้าวขึ้น

‘ถ้าคุณธศิญาไม่ตอบ ผมจะเข้าไปแล้วนะ’ ว่าแล้วประตูไม้สักบานใหญ่ก็เปิดออกเบาๆ ตามด้วยชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าคมเดินยิ้มหวานเข้ามา พร้อมกับกลิ่นเหล้าจากตัวเขาที่ลอยมาเตะจมูกหญิงสาว

ดุริยะสบตาธศิญาด้วยความลึกซึ้ง แต่เมื่อเห็นสาวใช้ไม่ยอมออกไปนอกห้องก็เอ่ยด้วยเสียงหงุดหงิด ‘ยืนทำอะไรอยู่จาวี! หมดหน้าที่แล้วก็กลับห้องไปสิ ฉันกับคุณธศิญาจะได้พักผ่อนสักที’

‘ฉันบอกให้จาวีอยู่เองค่ะ ถ้าคุณไม่พอใจก็ไปนอนที่อื่นสิคะ’ ธศิญาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่มๆพร้อมลุกขึ้นจากเก้าอี้ และผายมือไปยังประตูห้อง

ประโยคเหล่านั้นดุจหอกแหลมพุ่งเข้ามาทิ่มแทงหัวใจดุริยะ แม้จะเจ็บจุกในอก แต่เขาก็เก็บอาการเอาไว้และหันไปบอกจาวีอีกรอบ ‘จาวี ไปได้แล้ว!’

‘ไม่ต้อง ฟังฉันคนเดียวเท่านั้นจาวี’ ธศิญารีบบอกเมื่อเห็นสาวใช้จะออกไป

‘ฉันบอกให้ไปไงล่ะ!’

‘เอ่อ…’ จาวีหันไปมองธศิญาด้วยอาการพิพักพิพ่วน

‘ถ้าเธอไม่ไป ฉันจะสั่งให้คนเอาไปขังที่ห้องใต้ดิน!’ คำขู่อย่างเอาจริงทำให้สาวใช้หวาดกลัวจนตัวสั่น เพราะรู้ดีว่าห้องใต้ดินเป็นที่ที่น่ากลัวที่สุดในคฤหาสน์แห่งนี้

ธศิญาเห็นดังนั้นก็นึกสงสารสาวใช้ของตน จึงตัดสินใจบอกให้อีกฝ่ายไปได้ และหันกลับมาเผชิญหน้ากับดุริยะ ‘จาวีเป็นเพื่อนของฉัน กรุณาอย่าหยาบคายกับเธอ’

คนฟังหัวเราะลั่น ใบหน้าเป็นสีแดงด้วยฤทธิ์สุรา ‘คุณธศิญานับจาวีเป็นเพื่อนงั้นรึ นั่นมันคนชั้นต่ำ เป็นได้แค่คนใช้ของเราเท่านั้นละ’

‘ถึงจะคนชั้นไหน แต่ถ้าเป็นคนดี ฉันก็นับเป็นเพื่อนทั้งนั้น แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าจิตใจชั่วช้า ให้ตายก็ไม่อยากรู้จัก’ หญิงสาวมองด้วยหางตา

เจ้าของร่างสูงสง่าอึ้งจนพูดไม่ออก รีบกลับลำกล่าวเสียงหวานเอาใจ

‘งั้นเรื่องจาวีผมขอโทษก็ได้ หายโกรธผมนะคนดี’ ดุริยะเดาว่าอาการเงียบของอีกฝ่ายหมายถึงให้อภัย จึงไม่รอช้าที่จะเอ่ยต่อ ‘รู้ไหมว่าวันนี้ผมมีของมาให้คุณธศิญาด้วย คุณธศิญาต้องชอบแน่’ ผู้พูดซ่อนบางอย่างไว้ด้านหลัง สายตาหมายมาด

ธศิญาไม่มีท่าทีตื่นเต้น เธอเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้หน้ากระจกและถอนหายใจด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย

ทว่าดุริยะยังไม่หมดความพยายาม ตามมายืนข้างๆและเอ่ยเสียงอ่อนโยนพร้อมยื่นของในมือให้ มันคือกำไลทองคำขาวหน้ากว้างประมาณหนึ่งนิ้ว ประดับเพชรเม็ดเล็กๆระยิบระยับทั่ววง หน้ากำไลทำเป็นรูปหงส์ชูคอระหงงดงาม

‘กำไลหงส์ทิวาสำหรับภรรยาของผม ผู้หญิงที่งดงามราวกับนางหงส์แห่งภูทิวา’

‘ฉันไม่ต้องการ!’

‘แต่ผมตั้งใจให้คุณธศิญาจริงๆนะครับ กำไลวงนี้ตกทอดมาตั้งแต่ต้นตระกูลของผม มูลค่าสูงจนประเมินไม่ได้เลยละ’

หญิงสาวรับของกำนัลจากเขา ก่อนลุกขึ้นเดินเอาไปวางทิ้งไว้บนหัวเตียงอย่างไม่แยแส ‘บอกแล้วไงว่าฉันไม่ต้องการ ถึงมันจะแพงแค่ไหน แต่ก็ไม่มีวันทำให้ฉันรักคุณได้ คนที่ฉันรักมีเพียงคนเดียวเท่านั้น และฉันจะรักเขาตลอดไป!’

ใบหน้าของดุริยะที่ฉายแววปลื้มปีติเมื่อแรกเปลี่ยนเป็นผิดหวังอย่างยิ่งยวด ‘ทำไมคุณธศิญาถึงไม่รักผมบ้าง ทั้งที่ผมทำทุกอย่างเพื่อคุณ ไอ้ชวาลีมันก็เป็นแค่องครักษ์ เป็นลูกชาวบ้านกระจอกๆ เทียบกับผมไม่ได้เลยสักนิด!’ เขาจับไหล่บางทั้งสองข้างของหญิงสาวไว้ไม่ให้เดินหนี

‘ฉันไม่รักคุณ เพราะฉันไม่ได้รักคุณ เหตุผลมันก็มีเพียงเท่านี้’ ธศิญาหวังว่าอีกฝ่ายจะยอมเข้าใจ

แต่ไม่เลยสักนิด เมื่อมือหนาบีบไหล่มนแรงขึ้นอีก ‘ผมมันน่ารังเกียจมากขนาดนั้นเลยเหรอ คุณถึงไม่รักผมเลย!’

‘ฉันขี้เกียจจะพูดแล้วนะคะ เรื่องความรักมันบังคับกันไม่ได้ การที่ฉันไม่ได้รักคุณ ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ดี แต่ฉันไม่ได้รักคุณก็เท่านั้น’ พูดกี่ครั้ง สุดท้ายก็กลับมาที่ประโยคเดิม

‘คุณโกหก! คุณรักผม คุณรักผม!’ ดุริยะเอ่ยอย่างบ้าคลั่ง รั้งร่างบอบบางของหญิงสาวเข้ามากอดไว้แน่น

‘ปล่อยฉันนะ! คุณเมาก็ไปนอนสิ อย่ามาพูดจาไร้สาระอยู่แบบนี้’ ธศิญาดิ้นสุดแรงเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการ แต่ก็ไม่เป็นผล

‘ไม่ปล่อย แล้วผมก็ไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระด้วย บอกผมสิว่าคุณรักผมคนเดียวเท่านั้น บอกผมสิคุณธศิญา คุณรักผมใช่ไหม!’ เสียงของเขาสั่นพร่า

‘คุณดุริยะ ตั้งสติหน่อยสิ!’ หญิงสาวเตือนอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเข้ม แม้รู้ดีว่าการคุยกับคนเมาไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด

‘ผมมีสติสัมปชัญญะดีทุกอย่าง ผมรู้ว่ารักคุณมากแค่ไหน และผมก็ไม่ต้องการให้คุณเป็นของใครนอกจากผม’ สิ้นคำนั้น ชายหนุ่มก็โน้มใบหน้าเข้าไปจูบเธออย่างรุนแรงและเรียกร้อง

ธศิญาพยายามใช้มือผลักอกหนาออกจากตัว แต่ดุริยะก็ไม่สะทกสะท้าน และเมื่อเขาปล่อยให้ริมฝีปากของเธอเป็นอิสระ หญิงสาวก็ต่อว่าด้วยความโกรธ

‘คุณมันบ้าไปแล้ว ไม่เข้าใจหรือไงว่าฉันไม่ได้รักคุณ และกำลังจะเกลียดคุณมากด้วย!’ ดวงตาคู่งามมองอย่างรังเกียจกับการกระทำที่ไม่เป็นสุภาพบุรษ

ดุริยะรู้สึกเจ็บหัวใจราวกับโดนเท้าเหยียบและขยี้จนแหลกลาญ เขาขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน ‘คุณรักไอ้ชวาลีมากใช่ไหมถึงรักผมไม่ได้ ถ้าไม่มีมันอยู่บนโลกนี้ คุณคงจะรักผมสินะ’ น้ำเสียงและดวงตาเหี้ยมเกรียมทำให้คนฟังขนลุกขึ้นทันใด

เกลียด! เขาเกลียดมัน เกลียดจนอยากจะฆ่าให้ตาย ถ้ามันไม่เกิดมาบนโลกใบนี้ เรื่องราวของเขากับธศิญาก็คงลงเอยด้วยดี!

ชายหนุ่มกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดบนหลังมือปูดโปนขึ้นอย่างน่ากลัว ดวงตาสีนิลแข็งกร้าวอัดแน่นไปด้วยไฟแห่งความเคียดแค้น พร้อมจะเผาไหม้ใครก็ตามที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นความรักให้วอดวายไม่เหลือแม้แต่เถ้าธุลี

เขาหันไปมองกำไลเพชรน้ำงามที่ถูกวางทิ้งไว้บนหัวเตียงอย่างไร้ค่า พลันความเจ็บร้าวมหาศาลก็วิ่งพล่านขึ้นมากลางใจ กำไลหงส์ทิวาวงนั้น เขาตั้งใจมอบให้ธศิญา หวังให้เธอประทับใจ แต่กลับกลายเป็นว่าหญิงสาวไม่เหลียวแลมันแม้แต่น้อย ทำไมเธอถึงมองไม่เห็นค่าความรักของเขาเลย ทั้งที่เขาพยายามทำดี เอาอกเอาใจทุกอย่าง ถ้าคว้าดวงดาวบนฟ้ามาให้ได้ก็คงจะทำไปแล้ว

ความร้อนรุ่มภายในใจที่ปะทุขึ้นจนถึงขีดสุดส่งสัญญาณให้เขารีบทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้ได้ครอบครองทั้งร่างกายและหัวใจของธศิญา ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน เธอก็ต้องเป็นสมบัติของเขาแต่เพียงผู้เดียว…เท่านั้น!

‘คุณจะทำอะไร!’ ดวงตาของธศิญาเบิกโพลงขึ้น

‘ผมจะทำให้คุณรักผมไง’ ดุริยะหัวเราะเสียงต่ำในลำคอ ยิ้มเย็นเยียบ ก่อนหันหลังกลับไปยังประตูห้องนอน

‘อย่าทำอะไรบ้าๆนะ!’ เธอร้องห้ามและวิ่งไปรั้งแขนของเขาเอาไว้ ทว่าดุริยะแกะมือบางออกโดยง่าย จากนั้นก็ให้ทหารขังธศิญาไว้ในห้องนอน

หัวใจของหญิงสาวร้อนรนจนแทบจะลุกเป็นไฟ ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยความเครียดขึง ดุริยะจะทำอะไรชวาลี หวังว่าคงไม่เลวร้ายอย่างที่เธอคิด อยากจะหนีออกจากห้องนอนแค่ไหนก็ทำไม่ได้ เพราะมีทหารเฝ้าเอาไว้รอบบริเวณ ไม่เช่นนั้นเธอจะตามไปห้ามดุริยะเดี๋ยวนี้ แต่ก็ทำได้เพียงอธิษฐานขอให้คนที่เธอรักปลอดภัย

แต่แล้วเมื่อดุริยะกลับมาอีกครั้ง ธศิญาก็เข่าอ่อนทรุดนั่งลงกับพื้น รู้สึกเหมือนร่างกายถูกดูดพลังออกไปจนหมด

‘ผมฆ่าคนในครอบครัวของไอ้ชวาลีหมดแล้ว ส่วนมัน…คุณคงไม่คิดว่าผมจะไว้ชีวิตใช่ไหม’ ดุริยะหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

‘คุณทำอย่างนั้นได้ยังไง คนเลว! จิตใจต่ำยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน’ น้ำตาแห่งความเสียใจไหลพรากอาบแก้มนวลเป็นสาย ยามนี้เธอรู้สึกทั้งเคียดแค้น ชิงชัง และขยะแขยงในตัวผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าจนไม่มีคำไหนมาบรรยาย!

‘ทำไมจะทำไม่ได้ ใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไอ้ชวาลี ผมจะฆ่าทิ้งให้หมด!’ คนพูดยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย

‘กรี๊ด-ด-ด-ด’ ธศิญากรีดร้องทั้งน้ำตาด้วยความโกรธแค้น ตบหน้าชายหนุ่มอย่างแรงจนมือตนเองชา ก่อนจะกางกรงเล็บจิกทึ้งเนื้อตัวเขาสุดแรง ‘ฉันเกลียดคุณ เกลียด! เกลียด!’

เขารวบมือบางเอาไว้พร้อมตวาด ‘หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณธศิญา!’ ยิ่งเธอแสดงความจงเกลียดจงชังเขาเท่าไร ดุริยะก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น

‘ในเมื่อคุณต้องการฆ่าคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชวาลี ก็ฆ่าฉันด้วยเสียเลยสิ!’ หญิงสาวมองด้วยดวงตาแข็งกร้าว ‘จำเอาไว้ ฉันไม่มีวันรักคุณ ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีวันรัก ไม่มีวันแม้แต่จะเหลียวแล ในสายตาฉัน คุณก็เป็นแค่อากาศเท่านั้น ผู้ชายที่มีค่าสำหรับฉันมากที่สุดคือชวาลี! แม้จะอยู่หรือตายก็ไม่มีทางที่ฉันจะเปลี่ยนใจจากเขา ไม่มีทาง!’

น้ำเสียงชิงชังและถ้อยคำเหยียบย่ำความรู้สึกคล้ายจะทำให้ความอดทนของชายหนุ่มน้อยลงทุกที ดุริยะขบกรามแน่น ดวงตาสีเข้มลุกวาบขึ้นดุจเปลวเพลิง!

‘คุณธศิญา!’ เสียงกร้าวนั้นดังกังวานไปทั้งห้องนอน ‘ผมไม่มีทางปล่อยให้คุณได้ไปมีความสุขกับมันแน่ ไม่ว่ายังไงคุณก็ต้องเป็นของผมเพียงคนเดียว ทั้งร่างกาย หัวใจ และวิญญาณ!’

ด้วยพิษของแรงหึงหวง เพลิงแห่งความเคียดแค้นที่สุมแน่นอยู่ในใจ ผสมกับฤทธิ์ของสุรานั้นเอง ทำให้สติของดุริยะขาดสะบั้นลงในที่สุด มือหนาพุ่งเข้ามาคว้าลำคอระหงของธศิญา อารมณ์ที่ระเบิดออกมาราวกับภูเขาไฟปะทุ ทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่อยู่ มือแข็งบีบลำคอหญิงสาวแรงขึ้น…แรงขึ้น จนธศิญาสิ้นลมหายใจคามือ!



บุลินทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 ธ.ค. 2556, 08:49:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 ธ.ค. 2556, 08:51:32 น.

จำนวนการเข้าชม : 1260





<< บทที่ 16 ปริศนาของธศิญา   บทที่ 18 ความฝันที่หายไป >>
บุลินทร 30 ธ.ค. 2556, 08:56:40 น.
คุณ yimyum
ชลันธรขอไปพิสูจน์ที่คฤหาสน์ผู้ว่าการเลยครับ แต่อ่านถึงตอนนี้ยังเชื่อว่าจิณลีเป็นพระเอกมั้ยนี่ ฮ่าๆๆ

คุณ lovemuay
ตอนนี้จิณลีคงคะแนนยิ่งติดลบใช่มั้ยครับเนี่ย

คุณ konhin
จิณลีกำลังกล้ำกลืนน้าาาา ฮ่าๆๆๆ เชื่อรึเปล่า

คุณ อสิตา
แต่เวลาตัวละครแสยะนึกหน้าอสิตาทุกทีนี่นา ฮ่าๆๆๆๆ คราวนี้รีบมาลงก่อนออกจากบ้านแล้ว เดี๋ยวได้ลงชดเชยอีก

คุณ Zephyr
อ่านตอนนี้จบเอลลาเฟอร์คงยิ่งกดลบคะแนนจิณลี เดี๋ยวจิณลีจะชัดเจนกว่านี้น่า รออีกนิด ยังไงพระเอกก็คนนี้ละ เอลลาเฟอร์จะเป็นองครักษ์พิทักษ์นางเอกรึ อิอิ

คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ
ฮ่าๆๆๆๆๆ เดี๋ยวรอคนอ่านตัดสินนายจิณลีว่าจะให้เป็นพระเอกหรือเปล่า เค้าจำเป็นต้องหลอกนี่นา


yimyum 30 ธ.ค. 2556, 09:52:19 น.


yimyum 30 ธ.ค. 2556, 09:54:51 น.
ลงตอนหนูตื่นพอดีเลยแต่ไม่มีเน็ตเพราะอยู่ในรถ(ที่ภูเก็ต)แต่ตอนนี้อ่านแล้วว
ปล.ดุริยะฆ่าธศิญาได้ลงคอ


konhin 30 ธ.ค. 2556, 10:34:50 น.
โห โทสะและน้ำเมาาา เศร้า


ริญจน์ธร 30 ธ.ค. 2556, 13:12:20 น.
โศกนาฏกรรมเริ่มแล้ว


อสิตา 30 ธ.ค. 2556, 13:21:41 น.
ใกล้ถึงฉากปลุกปล้ำ... (ยั่วยุคนอ่าน โดยเฉพาะเฟอร์)


ketza 30 ธ.ค. 2556, 13:31:02 น.
ฉากปลุกปล้ำจะมาแว้วย๋อ เย้ๆๆๆ...>////<
◇◇◇โหดแท้ แง่มๆๆ...


Zephyr 30 ธ.ค. 2556, 18:55:08 น.
ไรอ่ะ มะม้าก้ออออ เฟอร์ ไม่ได้หื่นนนนนนน ขนาดนั้นนะ!!!!
จินนี่ ทำตัวไม่ชัดเจนเองนี่ นายทำตัวเองนะ
พระเอกเรอะ พระเอกนิสัยไม่ดี
มี่จะเอาคนนี้เป็นพระเอกต้องให้ชัดเจนกว่านี้นะ
ไม่งั้น เฟอร์ไม่ให้ผ่าน
สงสารดุริยะ เหมือนกันนะ แต่ตอนนี้ ไปสวดแช่งดุริยะ ก่อนนะ
ฮึ่ยยยย ฆ่าธศิญาได้ไง


lovemuay 30 ธ.ค. 2556, 19:40:48 น.
สงสารธศิญาที่สุดแล้ว พ่อกะแม่จะรู้มั๊ยเนี่ย ว่าที่บังคับให้ลูกสาวแต่งงานเหมือนส่งลูกไปให้เค้าฆ่าซะงั้น


nako 30 ธ.ค. 2556, 20:56:25 น.
ใจร้ายจัง สงสารธศิญา


patok 30 ธ.ค. 2556, 21:48:02 น.
น่าสงสารจัง ดุริยะเป็นทายาทกำไล งั้นจิณลี อย่าบอกนะว่าเป็นทายาทของดุริยะด้วย บรึ๋ยส์ๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account