สิเน่หา...ยอดดวงใจ
260 ปี มันช่างนานแสนนานเหลือเกินกับการต้องรอคอยพบเจอะเจอหญิงสาวอันเป็นนิมิตรหมายในห้วงอันคลั่งแค้นแสนสะสมมานานเป็นร้อยๆ ปีคริสต์ศักราช

แนะนำตัวละคร

ดานิล วาดิติน อเล็กซานดรูว์ บุรุษมหาเศรษฐีเก่าแก่ลึกลับตระกูลหนึ่งของรัสเซีย ทรัพย์สินที่มีไว้ครอบครองมีค่ามากกว่าเมืองหนึ่งๆ ของรัสเซียเลยทีเดียว

ในอดีตชื่อ Anna Mikhailov

ปัจจุบันชื่อ อันนา วรเวช สาวน้อยวัยยี่สิบสองปี ที่ต้องมาจมปลักทนทุกข์ เมื่อกำลังเดินทางมายังเมืองมอสโกแห่งรัสเซียแล่นสู่คฤหาสน์วาติดิน ใน ฐานะ ภรรยาของดานิล วาดิตินวัยหกสิบปี อันนาเข้าใจว่า ดานิลคือชายชรา ก้าวแรกที่เข้ามาได้พบเขา อันนาก็ต้องตกใจ ไหนจากบ้านของเธอบอกว่า ดานิล วาดิติน อายุหกสิบปีแล้ว คนที่เธอเห็นตรงหน้ากลับเป็นชายหนุ่มเรือนร่างกำยำหล่อเหลาไร้ที่ติ แต่ดวงตาคู่คมกริบที่จ้องมองเธอนั้นกลับน่ากลัวเหลือเกิน คำแรกที่ดานิลเอ่ยกับอันนา คือ คำสั่ง เป็นคำสั่งที่อันนาแทบมึนงุนงง ไม่เข้าใจเสียจริงๆ เขาต้องการให้เธอค้นหาหัวใจของเขาที่หายไป...

Tags: รักโรแมนติกพาฝัน,ซึ้งกินใจ,สิเน่หา...ยอดดวงใจ

ตอน: บทที่ 4 ใจเธอสั่นหรือเนี่ย

บทที่ 4 ใจเธอสั่นหรือเนี่ย

อันนายังคงหมกตัวอยู่ในห้องสมุดคฤหาสน์เก่าแก่ในคฤหาสน์ เธอแทบขยับไปไหน มาไหนไม่ได้เลยต่างหาก เพราะเจ้ายามตัวร้ายนั่น หรือเจ้าแมวเรเวนตัวนี้ มันนอนเฝ้าประตูทางออก และมันคงไม่ยอมให้เธอหลุดหนีออกจากห้องสมุดง่ายๆ ได้เลย ให้ตายสิ อันนาเริ่มมีอาการเบื่อหน่าย ผู้หญิงตัวเล็กๆ ต้องอยู่ท่ามกลางคฤหาสน์อันหลังใหญ่โตคับท้องฟ้า และแน่นอน ณ ที่แผ่นดินแห่งนี้ มันไม่ใช่บ้านของเธอเสียด้วยซ้ำ

“ฉันต้องอยู่ในห้องนี้ ไปอีกนานถึงเมื่อไหร่ หือ! เรเวน” เธอส่งเสียงถาม เจ้าแมวลายเสือ ยามเฝ้าคุ้มครองประตู มันเพียงเงยหน้าชูคอ และมองมายังหญิงสาว แต่แล้วก็สะบัดหน้าลายเสือไปทางอื่น ซึ่งสรุปได้ว่า มันไม่คิดที่มีความสนใจใดๆ ของเสียงผู้ถามเลยแม้แต่น้อย

“ไอ้แมวบ้าเอ้ย แกคงนิสัยแย่ๆ เหมือนเจ้านายแน่ๆ” อันนาต่อว่าให้มัน แต่แล้วยังพาลไปถึงผู้เป็นเจ้าของแมวลายเสือดาวตัวนี้อีกด้วย พอนึกถึงชายหนุ่มดานิลขึ้นมา จู่ๆ ใบหน้าของเธอดันมีสีแดงระเรื่อขึ้นมาดื้อๆ เพราะความฝันประหลาดบ้าๆ นั่น เมื่อหลายชั่วโมงก่อนและภาพเหล่านั้นยังคงเล่นงานอยู่ในหัวของเธอ อันนาพยายามลืมมัน แต่ก็ไม่อาจจะลืมภาพความฝันที่เพิ่งจะผ่านมาได้สักที แล้วถ้าเขากลับมาที่คฤหาสน์หลังนี้ล่ะ มีหวังเธอต้องเกิดอาการประหลาดให้เขาเห็นแน่ๆ เธอคงกลายเป็นตัวตลกหรือของเล่นอะไรสักอย่างให้เขาคอยกลั่นแกล้งต่อไปอีก

“ยัยอันนา ยัยบ้า! ทำไมต้องนึกไปถึง นายคนใจอำหิตนั่นด้วย ลืมๆ สิ ลืมให้หมดเลยนะ” อันนาเอ่ยพูดพึมพำอยู่คนเดียว จนคนที่เดินโผล่เข้ามาจากทางไหนไม่รู้ และด้วยเสียงฝีเท้าเบายังกับลอยไม่แตะพื้น เขาเอียงคอด้วยความฉงน สงสัย ก่อนจะเอ่ยถามออกไป

“เจ้ากำลังอยากลืมเรื่องอะไรหรือ อันนา” เพียงได้ยินเสียงทุ้มทรงอำนาจแทรกลอยมาทางด้านหลังของอันนา หญิงสาวปล่อยหนังสือในมือตกพื้นด้วยความตกใจ กับการปรากฏตัวอย่างเสียงเงียบฉี่ของดานิล

“กรี๊ด....นะ...นาย” อันนาส่งเสียงร้องได้แค่นั้น ก็เด้งตัวถอยออกห่างๆ ตกใจขวัญเสียมันยังไม่พอ เพราะเธอแทบไม่ยินเสียงเขาเปิดประตูเลยด้วยซ้ำนะ เขาเป็นคนหรือเปล่าเนี่ย

“หึๆ” เธอคงตกใจละสิ เพราะเขาเข้ามายืนอยู่ในห้องสมุดของคฤหาสน์ตั้งนานสองนานแล้ว เธอยังไม่รู้ตัวเลย ดานิลรู้สึกพอใจกับอากัปปฏิกิริยาของหญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยถามอันนา ที่กำลังก้าวถอยหลังห่างออกจากเขาไปเป็นวาโน้น

“เจ้านอนฝันกลางวันอยู่หรือไง ถึงไม่รู้ว่าข้า เข้ามาอยู่ในนี้” พอปรากฏตัวได้ ก็เล่นถามจู่โจมตรงประเด็นเลยทีเดียว อันนาแทบหน้าแดงก่ำกับคำถามของเขา ดานิลแทบเผลอดวงตาประกาย เพราะว่าห้วงแห่งรอยอัคคี ก็เล่นงานเขา เอาไว้มากเหมือนกัน เธอจะรู้ตัวบ้างหรือเปล่าหน่อ...ว่าต่อไปเธอจะต้องก้าวเข้าไปสถานที่แห่งนั้นอีกหลายๆ ครั้ง

“ตอบข้ามาสิ อันนา” พอเจอน้ำเสียงทุ้มเร่งให้รีบตอบ อันนาแทบจะมุดตัวหนี ให้ตายสิ เพราะความฝันบ้านั้นแท้ๆ เลย ทำให้ไม่กล้ามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา เท้าของเธอ ได้ถอยหลังจนเกือบจะชิดชั้นหนังสืออันสูงใหญ่ ดานิลก้าวตามเรื่อยๆ เสียงการก้าวเท้าของเขานั้น มันแทบเต้นดังกึกก้อง เป็นจังหวะตามเสียงหัวใจของเธอนัก

“อยะ...อย่าเข้ามานะ” เธอเอ่ยบอกเสียงเบามาก ใจหนึ่งก็กลัว ใจหนึ่งก็อายแทบจะจมไปกองกับพื้นห้องสมุดให้จงได้

“ตอบไม่ตรงคำถามข้านะ อันนาที่รัก” เสียงที่เขาเอ่ยนั้น ช่างดูขบขันอารมณ์นัก ผิดกับเธอที่กลัวจนหัวใจจะหยุดเต้นไปแล้ว มือบางเล็กรีบคว้าหนังสือเล่มโตออกจากชั้น หวังเอามันไว้ป้องกันช่วยคุ้มครองให้ตนเอง ทว่ามันกลับถูกปัดทิ้งหลุดมืออย่างรวดเร็วภายในไม่ถึงเสี้ยววินาที

“ว้าย...กรี๊ด...อื้มๆ” และแล้วเสียงของอันนา ก็ต้องหายหลบเข้าไปในลำคอระหง ทำไมเขาถึงขยันร่างกายว่องไวขนาดนี้นะ มือหนาที่ทาบปิดเสียงของเธอเอาไว้ทันก่อนจะกรีดร้องออกมา

“จะกรีดร้องอะไรกันนักหนา อันนา มันน่ารำคาญมากนะ”

“อ่อย(ปล่อย) ฮือๆ” จู่ๆ น้ำตาของเธอได้ไหลอาบมือของเขาอีกแล้ว ให้ตายสิ ทำไมเธอถึงได้อ่อนแอเยี่ยงนี้ เจอบุรุษหนุ่มแสนใจอำมหิตคุกคาม ใครเล่าจะไม่หวาดกลัว พอได้แนบชิดใกล้กับหญิงสาว อาการของดานิลแทบเตลิดเปิดเปิงไปไกล เขาเอาจมูกโด่งอันเป็นสัน ทำหน้าที่ซุกซอคอระหงเนียนหอมยั่วเย้า อันนาผวาชาวาบไปทั่วทุกอนูรูขุมขนเรือนร่างกาย เพียงแค่เขาสัมผัสผิวของเธอ มือไม้เล็กๆ ขยับขัดขืนจนสุดเรี่ยวแรง ทว่าผลที่ได้ คือ ร่างแกร่งใหญ่โตไม่เขยื้อนแม้แต่น้อย

‘อย่า...’ อันนาร้องวิงวอนได้แค่ในใจ ด้านบุรุษหนุ่มวัยใหญ่ก็ได้ยินชัดเจนเต็มโสตประสาทรับรู้ แรงอันกระหืดกระหายปรารถนาพิศวาสอันยาวนานแสนนาน กำลังเล่นงานเขาอยู่ ร่างกายเล็กๆ ที่เขาโอบล้อมเอาไว้นั้น สั่นเทิ้มจนซีดเผือกไปทั่วตัว มือหนาค่อยๆ ปล่อยริมฝีปากบางเป็นอิสระ เสียงสะอื้นไห้ดังก้องใส่หูของเขาอย่างห้ามหยุดไม่ได้

“ฮึ!” แค่เขาทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ อันนาก็สะดุ้งโหยงกลัวจนจะหมดลมหายใจ มีเพียงดานิลที่ดูเหมือนจะมีความสะใจเต็มประดา และอีกครึ่งก็มีความรู้ว่าเจ็บปวดอยู่ไม่ใช่น้อยๆ

“เจ้าจะโดนมากกว่านี้ ถ้าตอบไม่ตรงคำถามของข้า” โหดร้ายเหลือเกิน ทำไมเธอจะต้องถูกกักขัง อยู่กับคนใจอำมหิตแบบนี้ พ่อจ๋าแม่จ๋า พี่จ๋า ได้โปรดช่วยพาหนูไปอยู่ด้วยเถอะ

เส้นเลือดในสมองของดานิลแทบจะระเบิดออกมา เมื่อรับรู้ถึงความรู้สึกของอันนา ที่ต้องการอยากจะตายจากเขาไปให้จงได้ จู่ๆ มือหนาดันอยากไปเช็ดน้ำตาให้หญิงสาวที่ทั้งแค้นและแสนรักยิ่งกว่าตัวของเขาเอง

“ไม่นะ” อันนาหลับปี๋ คิดว่าเขากำลังจะใช้มือหนาข้างนั้น เข้าทำร้าย...

“อยู่นิ่งๆ อันนา รู้ตัวบ้างหรือเปล่า เจ้าร้องไห้จนลูกตาจะอักเสบ และมองไม่เห็นอยู่แล้วนะ” นิ้วมือแกร่งพยายามปัดหยาดน้ำตาของหญิงสาวบนใบหน้าช้าๆ อย่างเบามือที่สุด

“ดีสิ ถ้าฉันตาบอด จะได้ไม่ต้องทนเห็นสิ่งชั่วร้าย แบบนาย...อีก” อันนาเอ๋ย ปากพาหาเรื่องให้ตนเองจนได้

“หึๆ ข้าว่าไม่ใช่หรอกมั้ง หัวใจของเจ้าต่างหาก ที่กำลังเต้นแรงมาก เพราะได้เห็น...ใบหน้าของข้า” นี่เขากลายเป็นคนเข้าข้างตัวเองไปตั้งแต่เมื่อไรกันหนอ...ตีความรู้สึกของเธออย่างเสร็จสรรพ

“ไม่ใช่!” อันนาตวาดปฏิเสธกลับเสียงดังชัดแจ๋วเลยทีเดียว แถมแสบคอมากเพราะเสียแรงไปกับการร้องไห้ เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา

“ต้องใช่สิ เพราะข้า คือ สามีของเจ้านะ เพียงคนเดียวและตลอดไปด้วย” เจอสวนกลับแบบนี้ อันนาแทบอยากจะกรี๊ดให้คฤหาสน์แตกพังทลาย เพราะกำลังถูกมัดมือชกดื้อๆ เธอไม่มีวันยินยอมเป็นภรรยาของเขาเด็ดขาด... แต่แล้วพอจับความรู้สึกตนเอง ณ เวลานี้ เธอกำลังมีอาการใจสั่นหวิวๆ ชอบกล

“หึๆ” ดานิลหัวเราะในลำคอ เมื่อหญิงสาวพยายามผินใบหน้านวลหนีไปทางอื่น เพราะไม่อยากสบตากับเขา แรงความโหยหายังคงฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของเขา ไม่ว่าอันนาจะเกิดใหม่อีกกี่ชาติ เธอก็ยังเป็นอันนาของเขาชั่วนิรันดร์

“จะหลบตา หนีข้าไปทำไมกันอันนา ตอนนี้เจ้ากำลังทำให้ข้าอยาก...จูบนะ” คำพูดตรงๆ มีผลให้ดวงตาหญิงสาวเบิกกว้างขึ้น ก่อนหันมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มใจโหดร้าย ริมฝีปากหนาก็ประกบขยี้ริมฝีปากบางทันที อันนาทำตัวไม่ถูกกับสองอารมณ์ในร่างกายตัวเอง เมื่อตอนแรกนั้นเขา ทำให้เธอหวาดกลัวจนสุดขั้นหัวใจ ตอนนี้เขากลับกำลัง ทำให้เธอร้อนอย่างชุ่มฉ่ำที่หัวใจ ยิ่งเจอรสจุมพิตหวามหวาน และค่อยๆ บรรจงทะนุถนอมปนความละมุนลึกซึ้ง แม้ว่าจะถูกบังคับแบบไม่ทันตั้งตัวก็ตามเถอะนะ...ทว่าหัวใจของเธอมีอาการพองโตขึ้นมาได้กันล่ะเนี่ย และแล้วภาพในความฝัน เมื่อตอนกลางวันดันแทรกทับเข้ามาอีก มันเป็นความรู้สึกเหมือนกับห้วงฝันนั้นอย่างไม่มีผิดเพี้ยน เปลี่ยนแค่ฝ่ายจูบเท่านั้นเอง

เสียงเอะอะโวยวายที่ดังเล็ดรอดเข้ามาให้ห้องสมุดเรื่อยๆ ทำให้มโนแห่งภาพฝันอดีตอันวันวานจบลงอย่างกะทันหัน พร้อมด้วยเสียงเปิดประตูดังสนั่น

“ท่านดานิล ท่านครับ ได้โปรดอย่าไล่ผมออกเลยนะครับ ผมกลับมาแล้ว โปรดให้ผมเข้าทำงานใหม่อีกครั้ง ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งด้วยเถอะครับ” มาร์ตินนี่หนุ่มรูปร่างผอมซีด บุกเข้ามายังคฤหาสน์ของท่านดานิล เมดชราทาติน่าพยายามกีดขวางแล้ว ทว่าหนุ่มวัยน้อยจอมเหลวไหลผู้นี้ มีความต้องการจะพบท่านดานิลให้จงได้

“ว้าย! นายหญิงอันนา” เมดชราทาติน่า เห็นเรือนร่างเล็กๆ ที่เจ้านายของตนโอบล้อมห่อไว้ข้างกาย หญิงชราก็ต้องตกใจ เพราะสภาพของอันนา มันไม่น่าภิรมย์มองนัก เสื้ออาภรณ์หลุดลุ่ยไม่เรียบร้อยเอาเสียเลย

“ท่านดานิล...” มาร์ตินนี่ เอ่ยน้ำเสียงอย่างน่าสงสารที่สุด และดูเหมือนเขาอาจจะเข้ามาผิดจังหวะหรือเปล่าเนี่ย ซึ่งมันอาจมีผล ทำให้ท่านดานิลเดือดดาลมากกว่าเดิมแน่นอน

“ทาติน่า พาอันนากลับห้องไปก่อน” ดานิลกรอกฟันสั่งความเมดวัยชรา ใช่แล้วตอนนี้เขากำลังโมโหมาก

“ค่ะ นายท่าน”

“คุณยายจ๋า” อันนาเหมือนเจอที่พึ่งพา ในที่สุดเธอหลุดพ้นจากบุรุษซาตานร้ายได้แล้ว เมดชราก้าวเดินเร็วๆ ว่องไว เข้ามาประคองโอบตัวนายหญิงวัยน้อย อันนาแทบคว้ารวบกอดเมดวัยชราเอาไว้แน่น ให้หายใจเสียกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา เมื่อสักครู่

“ทาติน่า อยู่ที่นี่แล้วค่ะ” เมดชราแทบส่ายหน้าไปมา นี่ท่านดานิลคงรังแก แม่หนูชาวเอเชียคนนี้แน่ๆ นางเห็นสภาพของอันนาตัวสั่นดั่งลูกนกถูกทำโทษ

ส่วนมาร์ตินนี่แทบอ้างปากค้าง เขาพยายามเพ่งมองหญิงสาวในอ้อมกอดของเมดวัยชรา ซึ่งเธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตาปิดใบหน้า ส่งเสียงสะอื้นไห้ดังไม่ขายสาย และมันเป็นครั้งแรกที่มาร์ตินนี่ ได้เห็นผู้หญิงสาวๆ อยู่กับท่านดานิล...โอ้พระเจ้า...ท่านดานิลเป็นมนุษย์พันธุ์ผู้ชายแน่นอน แต่ก่อนทั้งคุณพ่อและเขา ต่างก็สงสัยพวกรสนิยมทางเพศของท่านดานิล เพราะพ่อมาร์ติน เคยหอบผู้หญิงงดงามเย้ายวนมาให้ท่านดานิลตั้งหลายสิบคน แต่ผลที่ได้ คือ ถูกท่านดานิลไล่ตะเพิดกลับบ้านไปจนหมดสิ้น

เสียงเจ้าเรเวนขู่ฟ่อๆ เรียกสติของมาร์ตินนี่ให้หันกลับมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มวัยใหญ่ หลังจากอันนาและเมดทาติน่าเดินออกจากห้องแห่งนี้ไปแล้วเรียบร้อย

“ฉันได้บอกพ่อของนายไปแล้วเรียบร้อยแล้วนะ มาร์ตินนี่ ว่าไล่...นายออกจากบริษัท นายยังไม่เข้าใจอะไรอีก” ดานิลเอ่ยด้วยน้ำเสียงต่ำยะเยือก มีอาการเคืองๆ ที่มาร์ตินนี่พยายามมอง อันนาแทบไม่กระพริบตา ‘อันนาคือของๆ ของข้า’ ดานิลอยากตะโกนบอกเจ้าหนุ่มมาร์ตินนี่จอมเหลวไหลคนนี้นัก

“เข้าใจครับท่าน คุณพ่อได้บอกผมหมดแล้ว แต่ผม...มาที่นี่ เพื่อมาขอโอกาสท่านดานิลอีกครั้งครับ ผมผิดไปแล้ว ได้โปรด...ให้ผมกลับไปทำงานอีกครั้งด้วยเถอะครับ” มาร์ตินนี่เอ่ยขอร้องอย่างหมาจนตรอก เขายังต้องการอยู่ที่นี่ต่อไป เพื่อล่าบางสิ่งบางอย่างที่คุณพ่อมาร์ตินปรารถนา แน่นอนรวมทั้งเขาด้วยเช่นกัน

“มีเหตุผลอะไร ที่ฉันจะต้องรับนาย เข้าไว้ทำงานอีก กลับไปซะ!” ท่านดานิลเอ่ยไล่เต็มกำลัง เด็กหนุ่มจอมสำราญไร้ความรับผิดชอบหน้าที่การงาน เขาจะเก็บมันเอาไว้ทำซากอะไร สู้ไปหาเลขา อันมีคุณสมบัติเพียบพร้อมไม่ดีกว่าหรือ

“ตัวผมและสมองของผม มีคุณสมบัติมากพอครับ เพราะท่านดานิลเคยทราบตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว ตอนที่รับผมเข้าทำงานครับ” หลงตัวเองสุดๆ มาร์ตินนี่ยอมรับว่าตนนั้นช่างเป็นฉลาดหลักแหลมและเก่งมากสักแค่ไหน ท่านดานิลต้องการคนฉลาดอย่างเขาอยู่แล้ว

“หึๆ โปรไฟล์ดี แต่ขาดความรับผิดต่อตำแหน่งการงานที่ทำ นายทำผิดวินัย ฉันก็ไล่นายออกได้!”

“โธ่! ท่านดานิล ผมขอร้องครับ ผมยังต้องการทำงานต่อครับ” จากที่ฟังมาร์ตินนี่พูดเหมือนมันเป็นเรื่องง่ายๆ แต่การจะเปลี่ยนใจให้ท่านดานิล รับเข้าทำงานมันช่างยากยิ่งกว่า

“ฉันเคยบอกนายไปแล้ว ว่าสิ่งที่ฉันกล่าวออกมาทุกคำ คือ การตัดสินที่ดีที่สุด กลับไปซะ มาร์ตินนี่ นายมาขอร้องฉันก็เปล่าประโยชน์” ท่านดานิลแทบอยากจะเรียกบอดี้การ์ดมาจัดการให้จบๆ มาร์ตินนี่ไอ้เด็กอวดเก่ง ทำงานไม่เป็นสักชิ้น มีแต่ชื่อเสียงของคนเป็นบิดาคุ้มหัวเอาไว้แค่นั้นเอง

“ได้โปรด ท่านดานิล...” มาร์ตินนี่คุกเข่าวิงวอนขอร้อง เขาไม่เคยก้มหัวให้ใครๆ มาร์ตินนี่ไม่ยอมลดศักดิ์ศรีตนเองแน่ๆ ลูกชายรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอย่างเขา ต้องมีแต่ผู้คนมาก้มเทียบเท้าต่างหาก มาร์ตินนี่พยายามเก็บแรงแค้นเคืองเอาไว้ในใจ ถ้าได้เจ้าสิ่งนั้นมาครอบครองเมื่อใด เขาจะล้างผลาญทำลาย ไอ้แก่วัยหกสิบ อย่าง ดานิล วาดิติน อเล็กซานดรูว์ ให้สิ้นซาก

“เสียใจด้วย มาร์ตินนี่ นายจะเดินออกจากคฤหาสน์ของฉันเอง หรือจะให้ลูกน้องของฉัน มาช่วยพาออกไปส่งที่บ้าน”

“โธ่ ท่าน เดี๋ยวครับ ท่านดานิล...” ดานิลเดินตัดผ่าน หน้าชายหนุ่ม มาร์ตินนี่ไปอย่างไม่แยแสและใส่ใจอีกต่อไป เพราะในหัวของดานิลตอนนี้มีแต่ใบหน้าของอันนาเต็มไปหมด ให้ตายสิ ความหอมหวนที่เธอทิ้งเอาไว้มันให้เขาคลั่ง!

“โธ่เว้ย!” มาร์ตินนี่เอามือทุบพื้นพรหมห้องสมุดอันกว้างใหญ่ของดานิลด้วยความโกรธอย่างรุนแรง และดูเหมือนว่าเขาจะมาเสียเที่ยวซะแล้ว ทำอย่างไงล่ะ เขาถึงจะได้งานในตำแหน่งเดิมคืนมา เขายังต้องการใช้มันอยู่นะ ตำแหน่งอิสระที่จะได้เข้าออกและเดินเล่นในดินแดนสมบัติตระกูลเก่าแก่วาดิติน อเล็กซานดรูว์

เพียงแค่ลุกขึ้นยืน บุรุษชุดดำนับสิบคน ก็มายืนเรียงรายล้อมรอบตัวของเขา มาร์ตินนี่กำมือแน่นระงับอารมณ์อันจะเดือดเอาไว้ เขาจะกลับมาที่นี่อีก แม้จะถูกไล่ออกจากคฤหาสน์หลายครั้งก็ตาม



ดานิลก้าวเท้าเดินอย่างรวดเร็ว เจ้าแมวเรเวนก็เดินไวๆ ตามเจ้านายมาติดๆ เขาเดินเลี้ยวดิ่งเข้าไปยังห้องนอนเป้าหมาย แต่ทว่ากลับถูกเมดทาติน่า ขวางกั้นหน้าห้องดังกล่าวเอาไว้ก่อน พร้อมกับเอ่ยรายงานว่า

“นายหญิงหลับไปแล้ว นางต้องการพักผ่อนค่ะ ท่านดานิล”

“อะไรกัน จะหลับง่ายขนาดนั้น ข้าเพิ่งจะห่างจากเธอ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยนะ ทาติน่า” ดานิลถามกลับอย่างความยาว เมดทาติน่ายิ้มให้เจ้านายหนุ่มวัยใหญ่ วันนี้ท่านดานิลทำตัวกระตือรือร้นเป็นพิเศษหรือเปล่า ไอ้อาการเดินไวๆ แบบไม่คิดหน้าหลังอย่างนี้ เมดทาติน่าเพิ่งจะเคยเห็นภาพของท่าน

“ค่ะ ลองถูกจับรังแกดูสิคะ ท่านดานิลจะได้รู้ว่ามันรู้สึกอย่างไงบ้าง” เมดชราปกป้องนายหญิงคนใหม่อย่างออกนอกหน้า ดวงตาคมกริบของดานิลกระตุกวาบ

“ทาติน่า เจ้าคิดว่าข้า รังแกอันนา จนหมดแรงเลยหรือไงกัน”

“ค่ะ”

“ให้มันได้อย่างนี้สิ ทาติน่า” ดานิลแทบขุ่นเคืองเมดวัยชรา เพราะนางเล่นเข้าข้างอันนา ทั้งๆ ที่เพิ่งรู้จักอันนาเพียงแค่สองวันเท่านั้น

“ท่านดานิล สั่งให้ ทาติน่าคอยดูแลนายหญิงเองนะคะ เมื่อนางเป็นอะไรมาหรือล้มป่วยขึ้นมาดื้อๆ ทาติน่าก็ต้องรับผิดชอบ”

“อืม...ใช่” ดานิลกัดฟันแน่น ดูเหมือนว่าทาติน่าจะไม่ยอมให้เขา เข้าห้องนอนของอันนาได้ง่ายๆ แน่ จนกว่าอันนาจะหายป่วยเลยละมั้ง

เมดทาติน่า อมยิ้มให้เล็กน้อยกับการได้แหย่ และกลั่นแกล้งเจ้านายหนุ่ม ร่างกายของดานิลคงร้อนระทม เพราะอันนาทิ้งรอยสิเน่หาเอาไว้ให้เขาลุ่มหลง ดานิลหันหลังเดินกลับไปยังห้องทำงานตนเอง และระงับจิตใจอันภิรมย์ของเจ้าเนื้อสาววัยน้อย

“เจ้ารอยอัคคีเอ๋ย ทำให้ข้าปั่นป่วนได้ถึงเพียงนี้ เชียวหรือนี่?” เป็นครั้งแรก จู่ๆ ดานิลต้องร้องถามคำถามกับตนเอง และมันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นนะ เจ้าแมวลายเสือมาเดินวนเวียนและคลอเคียใกล้ๆ ดานิล หลังจากตกอยู่ห้วงคำนึงนึกคิดของตนเองอยู่พักใหญ่

“เรเวน เจ้าต้องคอยดูแล อันนาให้ดีนะ ดวงใจของข้าอยู่ที่นั่น” เจ้าแมวลายเสือ คงจะเข้าใจความประสงค์ของผู้เป็นนาย ไหนบอกว่าเกลียดจนเข้ากระดูก แต่ดันส่งให้เจ้าเรเวนคุ้มครองเธอ...



นิมิตแห่งห้วงความฝันแล่นผ่านม่านดวงตาเล็ก ผู้สลบไสลตลอดคืนนี้ ภาพในฝันกำลังวิ่งเล่าเรื่องราวอย่างรวดเร็วนัก จนร่างกายของอันนาดิ้นทุรนทุรายไปมา กระทบอีกคนที่นั่งหลับตาในห้องทำงาน ตั้งแต่ช่วงเย็นเข้าสู่ยามวิกาล ลืมตาโพล่งสว่างไสว

‘ดานิล ช่วงนี้ข้าว่าเจ้าไปที่อื่นก่อนได้ไหม’

‘มีเรื่องอะไรหรือ เจ้าจึงคิดที่จะส่งข้าไปอยู่ที่อื่น หือ!’

‘เปล่า...ไม่มีเรื่องอันใดหรอก ข้าแค่ใจหวิวๆ แปลกๆ’

‘ลางสังหรณ์ หรือ? ท่านอันนาที่รัก’

‘ใช่ และมันแม่นยำเสมอด้วย’

‘งั้นหรือขอรับ แล้วข้าจะเป็นอะไรไปหรือท่าน...เอ...หรือว่าข้ากำลังจะตาย’ หนุ่มดานิลมีความรู้สึกน้อยเนื้อตำใจอย่างเช่นเคย ทว่าครั้งนี้ มันทำให้เจ็บเข้าถึงทรวง...แห่งหัวใจ...เพราะนางกำลังไล่เขาไปอยู่ที่อื่นๆ

‘ดานิล เจ้าพูดแบบนี้ทำไมกัน เจ้าหัดห่วงตนเองบ้างสิ’

‘ข้า ดูแลตนเองได้นะ อันนา เจ้าไม่ต้องกังวลนักหรอก ข้าจะไปป่าทางเหนือ ตามที่ท่านบัญชา’

‘ป่าทางเหนือ คือ ป่าภัยอันตรายมากที่สุด ข้าไม่อยาก...ให้เจ้าไปที่นี่...ข้าหมายถึงให้เจ้าไปทางอื่นๆ’ อันนากล่ำกลืนกับน้ำลายตนเอง เพราะนางแค่อยากจะส่งเขาไปที่ไกลๆ ตาสักระยะ ทว่าในใจตอนนี้กลับรู้สึกห่วงชายหนุ่มแสนรัก เพราะเขาดันเลือกเส้นทางป่าทางเหนือ การเดินทางรอบนี้ มันทำให้หัวใจของนางปวดหนึบๆ

‘อย่าห่วง ข้ามากเลย อันนา ข้าสัญญาว่าจะดูแลตนเองเป็นอย่างดี และรอดพ้นกลับมาหาเจ้า...’

‘ดานิล สัญญานะ ว่าเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย’

‘ข้า ขอสัญญาด้วยหัวใจอันรักท่าน...อันนาของข้า’

แต่แล้ว คำสัญญามันกลายเป็นเพียงแค่ลมปากโป้ปดมดเท็จ...เมื่อ...ภาพในเงา...วันฝนตกหนักเททับวันแห่งคำสัญญา ดานิลเห็นภาพอันปวดร้าวยิ่งยวด อันนา...จุมพิตดื่มด่ำกับชายหนุ่มผู้อื่น...นางกำลังทรยศหัวใจของเขา และบุรุษแกร่งกล้า คือ หัวหน้าเผ่าริคออน คู่อริผู้ก่อกวนหัวใจอันนา ให้ไขว้เข ตลอดหลายปีที่ผ่านมา...

‘คนทรยศ ผู้หญิงใจร้าย มีข้าคนเดียว มันไม่เพียงพอใช่ไหม...ร่าน!’ ดานิลคำรามเสียใจอย่างรวดร้าว ความซื่อสัตย์จงรักยิ่งชีวา ที่มีให้ต่อท่านอันนา หญิงในตระกูลผู้สูงศักดิ์ กำลังแตกสลาย...

ทว่าหัวใจอันเจ็บปวด ไม่เท่ากับการที่เขาถูกกริชคมกริบเทิ้มแทง และควักเอาก้อนเนื้อหัวใจออกมา ด้วยน้ำมือของนางเอง...ดวงตาคู่แกร่งของดานิล จ้องผลาญเหลือกด้วยความดีดดิ้นทรมาน ลมหายใจระรวยริน... ใกล้สูญสิ้นชีวัน เสียงทุ้มหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างโอ้อวด...เสมือนกับว่ามันเป็นเรื่องจริง...และเกมหัวใจในครั้งนี้ตนเป็นฝ่ายครองชัย...

‘ข้าบอกเจ้าแล้ว อันนา...มันไม่มีวันสิ้นลมหายใจ แม้หัวใจของมันจะถูกควักออกมา...มันเป็นปีศาจ...เจ้าเห็นมันหรือยัง’ เลือดสีแดงฉานที่ไหลอาบท้วมมือของนาง ปนกับหยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูไม่ขาดสาย...ดานิลตาเหลือกโพรงอาบไปด้วยเลือดแดงฉาน น้ำตาแห่งเลือดไหลรินจนสิ้นชีวันต่อนางต่อตา และกระทำด้วยน้ำมือของนางเอง...

‘มาร์ตินนี่ เจ้าโกหกข้า!’ หญิงสาวแห่งตระกูลสูงศักดิ์ กรีดร้องลั่นผืนปฐพีหิมะมรกต...



การเวียนว่ายตายเกิดมิใช่ มีเพียงแค่ อันนา เพียงผู้เดียว ดานิล...รับรู้รอคอยอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตหลายศตวรรษมันกำลังกลับมาอีกครั้ง เมื่อทั้งคู่ได้พบกัน...มาร์ตินนี่ แห่งริคออน ไอ้คนสารเลวระยำชั่วช้า ชายหนุ่มที่ทำให้ อันนา มิคาโรฟวา หมดรักในตัวของเขา!

“พวกเจ้า จะต้องไม่มีความสุขใดๆ ข้า...จะทำให้พวกเจ้ารับรู้ถึงรสชาติแห่งการถูกแทง...และทอดทิ้ง!” ดานิลหวนนึกไปถึงเรื่องราวในอดีตวันวานนักเกือบร้อยๆ กว่าปี อันแสนชิงชัง...



โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

บทที่ 5 หัวใจที่กรีดร้อง...


ปล. ไรเตอร์คนนี้ ขอกล่าว สวัสดีปีใหม่ 2014 ค่ะ
และทำตัวกระดืบๆ ค่อยๆ คืบคลานอย่างหนอน
หายหัวไปเช่นเคย...ค่ะ อิอิ
ล้อเล่นค่ะ ไรเอตร์จะพยายามหาเวลามาเขียนนิยายนะคะ
ขอให้ทุกท่านโปรดรักษาสุขภาพกันด้วยเด้อ...
ป่วยบ่อยเหมือนไรเตอร์คนนี้มันไม่ดี...นะ T^T




Aricha
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ม.ค. 2557, 18:23:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ม.ค. 2557, 18:23:53 น.

จำนวนการเข้าชม : 1466





<< บทที่ 3 จุดเริ่มเรื่องราว...   บทที่ 5 หัวใจที่กรีดร้อง... >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account