วิมานแสงจันทร์ (ชื่อเดิม ดวงใจศิลารัศมิ์) สนพ.คำต่อคำ
ความสุขความรื่นรมย์ในวังศิลารัศมิ์จบสิ้นลงแล้วจริงหรือ
อะไรคือสาเหตุของเรื่องร้ายๆทั้งหมด

เงื่อนงำ และเงามืดดำ ที่แอบแฝงอยู่ในวัง ยังรอทายาทที่แท้จริงกลับมาสะสาง!
Tags: กานต์ญา วิมานใจใต้ม่านดาว ลับลมคมรัก วิมานแสงจันทร์ พีเรียด โรแมนติก ซ่อนเงื่อนด้วยนะ พี่ดิน น้องศศิ

ตอน: บทที่ 1 : ทายาทผู้รอดชีวิต (รีไรท์)


“ตายแล้ว! พัง พังหมดแล้วลูก...หนูนุช...” บังอรนิ่วหน้า ทอดเสียงอ่อนใจ ในขณะสอนลูกสาวทั้งสองคนแกะสลักผักแนมข้าวแช่ชาววัง ซึ่งสาวใหญ่ได้รับการถ่ายทอดฝีมือมาจากแม่สามี อดีตสาวชาววังเพื่อนสนิทของหม่อมประไพ

“ทำไมเราถึงไม่กินมันทั้งลูกไปเลยล่ะคะแม่ จะแกะสลักให้เสียเวลาทำไม” นงนุช...ผู้มีดวงหน้าคมสวย นั่งพับเพียบขยุกขยิกไปมาระหว่างเจียนมะม่วงให้เป็นรูปใบไม้ แต่กลับขาดวิ่นไม่เป็นชิ้นเป็นอัน หญิงสาวจึงหยิบมะม่วงมันอมเปรี้ยวชิ้นนั้นเข้าปากทำลายหลักฐาน เคี้ยวพลางประชดประชัน “ดูสิคะ จะแกะหรือไม่แกะ ก็ไม่เห็นว่ารสชาติมันจะแตกต่างกันตรงไหนเลย”

“ทำไมถึงได้เป็นคนแบบนี้นะ ไม่รู้ว่าเหมือนใครกัน แม่ไม่เห็นหนูนิดจะบ่นเหมือนอย่างเราเลยสักที”

หญิงสาวผู้ถูกพาดพิงเงยดวงหน้าอ่อนหวานชวนมองขึ้นสบตาพี่สาวด้วยรอยยิ้มละมุน ในมือของเธอมีหัวกระชายที่ถูกเจียนเป็นดอกจำปี กลีบดอกสีขาวสลักสล้างนั้นงดงามราวกับดอกไม้จริงที่อยู่บนต้น

“ถึงพี่หนูนุชจะไม่ถนัดแกะสลักผักผลไม้ แต่รสชาติอาหารฝีมือพี่หนูนุชไม่มีใครเทียบได้เลยนะคะแม่”

“หนูนิดของแม่” บังอรยิ้มตื้นตันกับน้ำใจอันงดงามของลูกสาวคนเล็ก ซึ่งรักและเอาใจใส่ความรู้สึกของสมาชิกในครอบครัวเป็นอย่างดีอยู่เสมอ “จ้ะ แม่ยอมรับว่าฝีมือการทำอาหารของหนูนุชไม่มีใครเทียบได้ แต่ถ้าลูกจะตั้งใจเรียนการแกะสลักที่คุณย่าน้อมท่านถ่ายทอดไว้ให้เป็นมรดกอีกสักหน่อย แม่คงจะดีใจมาก ที่วิชาเหล่านี้จะไม่สูญหายไปกับกาลเวลา คุณย่าที่อยู่บนสวรรค์ก็จะได้มีความสุขด้วย”

“คุณย่ากับแม่ก็มีหนูนิดอยู่แล้วทั้งคนนี่คะ ยังไงวิชานี้ก็ไม่สูญหายไปหรอกค่ะ”

“ดูพูดเข้าสิ” บังอรทอดถอนใจ “เรานี่นะ มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูกเลยจริงเชียว”

“ก็ได้ค่ะ ก็ได้” นงนุชตรงเข้าบีบนวดประจบมารดา หันไปส่งสัญญาณลับกับน้องสาวผ่านทางสายตา แล้วเอ่ยออดอ้อน “ถ้าอย่างนั้นเราสองคนขอออกไปเก็บมะม่วงมาให้ใหม่นะคะแม่ อันนี้หนูนุชทำพังหมดแล้ว ขอแก้ตัวอีกครั้งค่ะ”

“จะแอบไปยืดเส้นยืดสายกันละสิท่า” บังอรกวาดสายตามองดวงหน้าของลูกสาวทั้งสองที่ก้มงุดลงแทบจะพร้อมกัน ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “รีบไปรีบกลับก็แล้วกัน เดี๋ยวจะตั้งโต๊ะอาหารไม่ทันก่อนพ่อกลับมา”

“ค่ะแม่” สองพี่น้องลอบสบสายตากันอย่างชื่นมื่น แล้วคลานเข่าเรียงแถวออกไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย




“ใครไปถึงต้นมะม่วงทีหลังเป็นลิง!” สิ้นคำของนงนุช หญิงสาวทั้งสองวิ่งแซงแข่งกันไปยังต้นมะม่วงหลังบ้านพักประจำตำแหน่งของบิดาด้วยเสียงหัวเราะร่า ปรากฏว่าเป็นนิชดาที่วิ่งไปแตะโคนต้นไม้ได้ก่อน

“ไชโย! หนูนิดชนะแล้ว คราวนี้พี่หนูนุชเป็นลิง กิ้วๆ” หญิงสาวหัวเราะรื่นเริงราวเป็นคนละคนกับเมื่อครู่ อิสรภาพทำให้ความสดใสตามวัยได้รับการปลดปล่อยออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ “เจ้าลิงน้อยขึ้นไปเก็บมะม่วงเดี๋ยวนี้เลย อย่าช้าเชียวนะ”

พี่สาวอมยิ้มกับคำหยอกเย้าด้วยความเอ็นดู “ตกลง! คนแพ้ต้องรักษาสัญญา อยู่ข้างล่างคอยรับมะม่วงดีๆล่ะ”

“แน่นอนค่ะ” หญิงสาวเฝ้ามองนงนุชปีนขึ้นไปบนต้นไม้อย่างคล่องแคล่ว แล้วเอื้อมมือคว้ามะม่วงผลใหญ่ ดึงออกจากก้านด้วยรอยยิ้มกระหยิ่ม

“จะโยนลงไปแล้วนะ รอรับให้ดี”

“โยนลงมาเลยค่า พร้อมแล้ว” น้องสาวตั้งท่า สายตามุ่งมั่น

“เอ้า!” มะม่วงลูกใหญ่ลอยคว้างกลางอากาศ ก่อนตกลงบนมือเล็กที่กระชับไว้แม่นมั่น มีเสียงหัวเราะดีใจของหญิงสาวทั้งสอง “แบบนี้มันพรสวรรค์ชัดๆ”

“คราวนี้พี่หนูนุชจะเอากี่ลูกคะ”

“อืม...” นงนุชครุ่นคิดชั่วครู่ ก่อนประกายความคิดบางอย่างจะบรรเจิดขึ้น โลกทั้งใบจะต้องชื่นชมในความสามารถนี้ของเธอ “หนูนิด พี่ว่า เดี๋ยวพี่เขย่าให้มันหล่นลงไปให้หมดเลยดีกว่า แล้วค่อยลงไปเก็บทีเดียว เราจะได้ไม่ต้องเทียวมาเก็บกันหลายรอบ ถ้าได้เยอะ ก็แช่อิ่มไปขายด้วยเลยดีมั้ย”

“เอาอย่างนั้นเหรอคะ”

สิ้นคำ พี่สาวก็เขย่ากิ่งไม้สุดกำลัง มะม่วงเริ่มหล่นลงสู่พื้นทีละลูกสองลูก แต่หารู้ไม่ ว่าไม่เพียงแต่มะม่วงหรอกที่ร่วงหล่น รังมดแดงขนาดใหญ่ที่ห้อยโตงเตงอยู่เหนือศีรษะก็ได้รับแรงสั่นสะเทือนด้วย

แรกๆมันหล่นลงมาทีละตัวสองตัว แต่เจ้าหล่อนก็ยังไม่รู้สึกรู้สา กระทั่งพวกมันตกลงมาทีละกองทัพ ประกอบด้วยหัวหมู่ทะลวงฟันแห่งกองทัพหน้า สมทบตามติดมาด้วยทัพหลวงอันทรงพลานุภาพจัดไพร่พลอย่างเต็มอัตราศึก ปิดท้ายด้วยทัพหลังที่ขนาบข้างเข้าโจมตีทั้งซ้ายขวา เพียงไม่นานร่างเล็กก็ร้องกรี๊ดกร๊าดอย่างเจ็บแสบคันคะเยอจนพลัดตกจากต้นไม้อย่างสิ้นท่า

“พี่หนูนุชเป็นยังไงบ้าง” นิชดาตรงรี่เข้าช่วยปัดมดแดงออกด้วยความห่วงใย ในเวลานี้หยิบจับอะไรก็ไม่ทันใจเท่าใช้มือเปล่ากวาดตามแขนขาของพี่สาว เจ้ามดแดงเลยไต่มาที่ตัวของเธอด้วยอีกคน ทั้งคู่เห็นท่าไม่ดีจึงพากันฉุดรั้งลุกขึ้นวิ่งตรงไปยังบึงน้ำใกล้เคียง แล้วกระโจนลงไปทันที ดำผุดดำว่ายอยู่ไม่เท่าไหร่ อาการแสบคันก็เริ่มทุเลาลง

“โอ๊ย! แสบๆๆ” นงนุชน้ำตาเล็ด สองมือลูบไล้แขนขาพัลวัน ในขณะน้องสาวเริ่มไอโขลก สำลักน้ำที่เข้าสู่ช่องทางเดินหายใจจนตัวสั่น พอเห็นอาการน้องสาว พี่สาวก็ได้สติกลับคืนมา

“ตายแน่ๆ ถูกมดกัดทั้งรังยังไม่แย่เท่าถูกแม่ตีที่ทำให้น้องไม่สบาย หนูนิดขึ้นไปบนฝั่งเร็วเข้า แช่น้ำนานเดี๋ยวเป็นปอดบวมขึ้นมาอีกละ พี่ตายแน่”

“หนู...นิด ไม่เป็น แค็กๆ ไร”

“ไม่เป็นไรอะไรล่ะ หน้าซีด ปากเขียวแล้ว กลับบ้านเร็วเข้า ไม่ต้องไปสนใจมันแล้ว มะม่วงแช่องแช่อิ่มเนี่ย”




บ้านพักประจำตำแหน่งของนายช่างแขวงการทางประจำจังหวัดอุดรธานี นายจักร สุรนาถ ซึ่งดำรงตำแหน่งย่างเข้าสู่ปีที่สี่ จวนจะถึงเวลาต้องย้ายถิ่นฐานกันอีกคำรบเมื่อครบวาระ

ในคืนนี้แสงไฟเปิดสว่างไสวทั่วเรือน เพราะคนในบ้านกำลังสาละวนฝนขมิ้นทาแผล อีกทั้งยังตั้งหม้อต้มยาแก้ร้อนใน แก้ไข้และช้ำในให้คุณหนูทั้งสอง ก่อนตั้งสำรับอาหารค่ำกันจ้าละหวั่น

“ใครใช้ให้ไปเขย่าต้นไม้อย่างนั้น หา!” บังอรทาขมิ้นลงบนตุ่มมดกัดที่เรียงกันเป็นตับอยู่บนแขนเรียวยาวของลูกสาวคนโต เธอยังคงนอนร้องโอดครวญอยู่บนเตียง “ดีนะที่ไม่ตกลงมาแขนขาหักเป็นอัมพาต ทีหลังอย่าพากันปีนต้นไม้อีก เข้าใจมั้ย”

“โอ๊ย! เบาๆสิคะแม่ หนูนุชเจ็บนะ”

“เจ็บก็ต้องอดทน คราวนี้แม่ไม่ตีซ้ำก็ดีเท่าไหร่แล้ว” สาวใหญ่อ่อนใจ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทั้งโกรธทั้งสงสาร แต่ก็ต้องแข็งใจทำหน้าดุเข้าไว้ จะปราบจอมพยศทั้งทีต้องหนักแน่น ใจอ่อนไม่ได้เด็ดขาด

“หนูนิดเป็นคนบอกให้พี่หนูนุชปีนขึ้นไปเองค่ะแม่ หนูนิดผิดเอง” หญิงสาวยอมรับอย่างกล้าหาญ น้ำตาคลอเบ้าสงสารพี่สาวที่ร้องโอดโอยจับใจ

“ไม่เกี่ยวกับหนูนิดหรอกค่ะแม่ หนูนุชปีนขึ้นไปเองต่างหาก” นงนุชออกรับแทนน้องอย่างรวดเร็ว

บังอรเห็นความรักและความสามัคคีของพี่น้องก็ใจอ่อนยวบลง ไม่อาจเอ่ยคำตำหนิใดซ้ำเติมได้อีก

“ไม่เป็นไร ที่แล้วก็แล้วไป เล่นด้วยกัน แม่ถือว่าผิดทั้งคู่ ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ” สาวใหญ่ทอดถอนใจ ก่อนหันมาหาลูกสาวคนเล็ก “ไหนมาให้แม่ดูซิลูก หนูเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

หญิงสาวคลานเข่าเข้าไปหามารดา บังอรเห็นกิริยาเรียบร้อยน่ารักของลูกรักก็ยิ้มกว้างชื่นใจ ยกแขนสองข้างของนิชดาขึ้นสำรวจตรวจตรา

“โอ้โฮ โดนมดกัดไม่น้อยเหมือนกันนะเนี่ย มาจ้ะ แม่ทายาให้” คนเป็นแม่บรรจงแต้มขมิ้นลงบนผิวขาวผ่องสะอาดสะอ้านอย่างถนอม “ทำไมถึงได้อดทนอย่างนี้ ไม่ร้อง ไม่บ่นสักนิดเลย หรือว่าเจ็บ ไหนดูซิมีไข้มั้ย”

นงนุชทอดสายตามองท่าทีเอาใจใส่ของมารดาที่มีต่อน้องสาวผิดไปจากที่ปฏิบัติกับตนก็รู้สึกน้อยใจ ตั้งแต่จำความได้ บิดามารดามักจะรักและให้ความสำคัญกับน้องสาวอย่างออกนอกหน้าเสมอ อาจเพราะนิชดาเป็นน้องเล็กก็เป็นได้ บุพการีจึงห่วงใยเป็นพิเศษ แม้ว่าเธอไม่ได้มีจิตริษยาน้อง เพราะต่างก็รักในน้ำใจของกันและกัน แต่บางสิ่งบางอย่างก็ชวนให้อดคิดไม่ได้ หญิงสาวจึงเอ่ยถามเสียงเศร้า

“แม่ขา บอกความจริงกับหนูนุชมาเถอะค่ะ ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของหนูนุชเป็นใคร”

คำถามนี้ทำให้บังอรถึงกับสะดุ้งเฮือก ปวดแปลบขึ้นที่กลางหัวใจราวกับถูกมีดกรีด สาวใหญ่ยกมืออันสั่นเทาขึ้นทาบหน้าอก ขวดยาในมือตกกระจัดกระจายลงบนพื้น

“แม่เป็นอะไรคะ!” นิชดาตรงเข้าบีบนวดพัดวี น้ำตาคลอเบ้าด้วยความเป็นห่วง “แม่คะ ได้ยินหนูนิดมั้ย ใครอยู่ข้างนอกเข้ามาช่วยคุณแม่ที!”

“ไม่เป็นไรจ้ะหนูนิด แม่ไม่เป็นไร” บังอรกุมมือลูกสาวไว้แน่น เป็นจังหวะเดียวกับที่จักรโผล่พรวดเข้ามาในห้องนอนของลูกสาวพอดี

“ใครเป็นอะไรรึ หนูนุชก่อเรื่องอะไรอีก”

“นั่นไงคะ” นงนุชผุดลุกขึ้นนั่ง ตัดพ้อด้วยความเสียใจ “หนูนุชทำอะไรก็ไม่เคยดีเลยในสายตาของพ่อแม่ ใครๆก็บอกว่าเราสองคนพี่น้องหน้าตาไม่เหมือนกันเลยสักนิด อันที่จริงต้องเป็นหนูนุชแน่ๆเลยที่ถูกเก็บมาเลี้ยง พ่อกับแม่ถึงได้ไม่รัก มีแต่ดุว่า ทีนี้พ่อกับแม่จะบอกหนูนุชได้หรือยังคะ ว่าหนูนุชเป็นลูกของใครกันแน่”

“หน้าตาแบบนี้ นิสัยแบบนี้ เราจะเป็นลูกของใครได้ ถ้าไม่ใช่ลูกของพ่อกับแม่” จักรถอนหายใจยาวเหยียด “ไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน เพ้อเจ้อตามหนังอีกแล้วสิท่า” จักรตรงเข้าไปลูบศีรษะลูกสาวคนโตอย่างถนอม แล้วเอ่ยเสียงนุ่ม “ที่พ่อกับแม่ดุ ใช่ว่าไม่รัก ยิ่งรักมากก็ยิ่งต้องดุมากจนปากเปียกปากแฉะ เพราะอยากให้ลูกได้ดี เข้าใจหรือเปล่า”

นงนุชนิ่งอั้น น้ำตาคลอเบ้า นิชดาจึงเอ่ยเตือนสติ

“พี่หนูนุชเป็นลูกของพ่อจักรกับแม่บังอรดีออกนะคะ แล้วถ้าหากไม่ได้เป็นลูกจริงๆของพ่อแม่ พี่หนูนุชจะไม่เสียใจเหรอคะ”

พี่สาวหันไปมองหน้าบุพการี ซึ่งตอนนี้มารดากำลังมีน้ำตาคลอเบ้า ถึงได้รู้ว่าตนเองพลาดพลั้งพูดในสิ่งที่ไม่สมควรด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบ ความรู้สึกผิดทะลักล้นขึ้นในอก จึงก้มลงนั่งคุกเข่า กราบลงบนตักของท่าน

“หนูนุชขอโทษค่ะแม่ คราวหลังหนูนุชจะไม่พูดอะไรแบบนี้อีก”

“ไม่เป็นไรลูก แม่ผิดเองที่ดุว่าและคาดหวังในตัวหนูมากเกินไป” สาวใหญ่สะอื้น ลูบมือลงบนกลุ่มผมนุ่มของหญิงสาวอย่างนุ่มนวล ทำเอาเจ้าเด็กที่ว่าใจแข็งนัก น้ำตาไหลลงอาบสองแก้ม

“หนูนุชรักพ่อกับแม่นะคะ”

“พ่อก็รักหนูนุช รักที่สุดในโลกเลย” จักรลงนั่งคุกเข่า สวมกอดสองแม่ลูกเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง นิชดามองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มจนแก้มปริ
ที่ผ่านมา แม้แต่ตัวหญิงสาวเองก็ยังสัมผัสได้ว่า บิดามารดาดูเหมือนจะเกรงใจและเอาใจใส่เธอมากเป็นพิเศษ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่นงนุชจะแอบมีความคิดเช่นนั้น หญิงสาวจึงต้องคอยเป็นตัวกลางระหว่างครอบครัว ยามที่บิดามารดามีปัญหาไม่เข้าใจกันกับลูกสาวคนโตอยู่บ่อยๆ เพราะไม่อยากให้พี่สาวต้องรู้สึกมีปมด้อย

“แล้วหนูนิดล่ะลูก” จักรอ้อมแอมถาม “ถ้าวันหนึ่ง หนูต้องกลายไปเป็นลูกคนรวยๆมีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ได้เป็นลูกของพ่อกับแม่อีกต่อไป หนูจะว่ายังไง”

“หนูนิดไม่อยากเป็นลูกของใครทั้งนั้นค่ะ อยากเป็นลูกของพ่อจักรกับแม่บังอรเท่านั้น...”

น้ำเสียงนุ่มนวล รอยยิ้มหวานละไม ดวงตาใสซื่อจริงใจของหญิงสาวที่คล้ายกับใครคนหนึ่ง แทบกระชากหัวใจของสองสามีภรรยาให้หลุดออกจากอก ทั้งสองลอบหันไปสบตากันด้วยความรู้สึกสะท้อนใจกับชะตาชีวิตของคนตรงหน้า ก่อนจะอ้าแขนเรียกลูกสาวคนเล็กเข้าสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของครอบครัวสุรนาถ





**************************************
จบตอนจ้า อีกสามสี่วันพบกันใหม่



คอคอมเมดี้อยากจะเขียนอะไรที่มันฮาร์ดคอร์ซะหน่อย ผมหงอกขึ้นเต็มหัวแล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

ขอขอบคุณคุณผู้อ่านทุกท่านที่แวะเวียนกันเข้ามาอ่าน จิ้มชอบ และคอมเม้นท์นะคะ

ขอบคุณเพื่อนนักเขียนที่ตบเท้ากันเข้ามาช่วยเจิมอย่างอบอุ่น รัก รัก รัก ทุกคนจังเลย



ตอบคอมเม้นท์

คุณแว่นใส : ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาติดตาม ดีใจมากค่ะ เป็นเม้นท์แรกของเรื่องนี้เลย^^

คุณณิชนิตา : ขอบคุณผู้ปกครองของหมวดศีที่เข้ามาเจิมจ้า บางทีเรื่องนี้อาจต้องขอแรงตำรวจเยอะนะ

คุณดังปัณณ์ : แม่หนอนน้อยของพี่ พี่รับมุกหนอนโดนขี้เถ้าไม่ทัน สิหมายถึงอิหยังละหล้า ว่างๆก็พาหม่อมละไม มาเยี่ยมหม่อมประไพที่วังศิลารัศมิ์บ้างนะ

คุณวิรัตต์ยา : ขอบคุณพี่แก้วค่า คุณแม่น้องอ้อนก็บึ่งมาจากเกาะรัตนโกสินทร์เลย^^

คุณปลายสี : น้องเลิฟ ก็หนีหนูแสนโหลแสนหลอนมาย้อนยุคด้วยยยย ไม่ทราบว่าคุณหนูศศิเติบโตขึ้นมางดงามสมใจเจ้าหรือไม่ แม่ปลาย

คุณบุลินทร : รายนี้ก็มาจากภูทิวา มาจากอีกมิติหนึ่งเชียว อย่าลืมซื้อปลาทูมาฝากด้วยนะ

คุณเบญจามินทร์ : ท่านพี่ขึ้นมาจากเมืองบาดาล เพื่อมาเจิมให้น้อง ซึ้งใจเหลือเกินเพคะ

คุณ SuKhumvit66 : ดีใจที่ได้เจอกันอีกค่ะ คิดถึงๆ

คุณ Tik : ดีใจที่ชอบแนวนี้นะคะ รักผู้หญิงคนนี้จัง

คุณพู่ระหง : ขอบคุณที่เข้ามาติดตามค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณหนูศศิด้วยนะคะ^^

คุณดวงมาลย์ : รายนี้ก็หนีหมอกวินทร์ลงมาจากดอยเชียว ขอบคุณที่มาช่วยเจิมค่า

คุณ Wane : มาแร้ววค่า มาแร้วววว ด้วยพลังจากขนมปุยฝ้าย มีพลังเยอะเลยค่าาาา








พันธุ์แตงกวา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ม.ค. 2557, 08:23:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ก.พ. 2558, 04:35:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 2819





<< บทนำ (รีไรท์)   บทที่ 2 : ค่ำคืนแห่งปาฏิหาริย์ (รีไรท์) >>
tik 9 ม.ค. 2557, 09:55:51 น.
อุ้ยตายหล่ะ เริ่มต้นดีจัง คุณดิน หล่อขั้นเทพนะเนี๊ยะ พอช่วงกลาง ๆ ก็ขำ คิดว่านงนุชต้องเป็นนางเอกแน่ ๆ (แสบ ๆ แบบนี้น่าจะต่อสู้กะพวกวังได้) พอตอนท้ายมีน้ำตาซึมด้วยอ่ะ เขียนสะท้อนความรู้สึกได้เห็นภาพมากกกกกกกกกกกก แต่ว่าหนูนิด เป็นคนดีเรียบร้อยไปเปล่านางเอกอ่ะ เป็นห่วงแทน จะสู้กับเรื่องร้าย ๆ ได้เปล่า นางเอกแบบดีเกินไป ไม่ไหวนะค่ะ (ขอเยอะแบบนี้ ไปเขียนเองเลยมั้ย บอกเลย.....เขียนไม่ได้ อ่านเป็นอย่างเดียว)


หมีสีชมพู 9 ม.ค. 2557, 10:03:04 น.
หนูนิดเรียบร้อยเกิน จะสู้กะเสือ สิงห์ กระทิง แรดได้มั้ยเนี่ย
ว่าแต่ใครจะเป็นนางเอกคะ


ดังปัณณ์ 9 ม.ค. 2557, 12:57:22 น.
อุ๊ต๊ะ ยังไงค้าเนี่ย ยังไง้ แต่ดีนี่ เนี่ยเปิดตัวได้น่ารวั๊กอ่าพี่แตง (ดีนี่ นี่ก็ดินนี่แหละค่ะ ฮ่าๆๆๆ) ส่วนนิดกับนุชนี่ไม่แน่ใจ ใครเป็นนางเอกกันแน่ และแน่นอนเค้ายังไม่ปื้มนะฮะ เพราะดีนี่หล่อเกินไป ใครจะเป็นนางเอกก็อิจฉาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

โอ๊ย ได๋เลยจ้า เดี๋ยวๆๆสิพาไปเล่นนำ (.....เว้าคือพาเด็กน้อยไปเล่นนำกันเนาะเอื้อย 555+)



Sukhumvit66 9 ม.ค. 2557, 18:40:18 น.
ใคร...เป็นนางเอกค่ะ เรื่องนี้
นู๋นุช หรือ นู๋นิด


แว่นใส 9 ม.ค. 2557, 19:12:34 น.
หนูนิดน่าจะเป็นศศิ คู่กับพี่ดินเนอะ ดินกับพระจันทร์จะเข้ากันได้ไหมนะ


เบญจามินทร์ 9 ม.ค. 2557, 19:28:05 น.
บอกตามตรงว่าเค้าชอบแนวพระนางผูกพันแบบนี้ล่ะ เกาะขอบกระทู้เลย คนพี่แสบใช้ได้เลยนะ น่าจะเป็นผู้ช่วยให้นางเอกผู้เรียบร้อยของเราได้ ^^


นักอ่านเหนียวหนึบ 9 ม.ค. 2557, 23:33:05 น.
อุต๊ะ เพิ่งมาตามอ่าน น่าตืดตามนะเนี่ยย
คนในวังใจร้ายจิงๆ ถึงกับต้องฆ่าต้องแกงกันด้วยย โหดร้ายยย
ตกลงว่าใครคืิอหนูศศิกันแน่
แต่มีคนนึงเป็นพี่ ?? ก็ตอนหนูศศิมาบ้าน นางอายุ 2 ขงบแล้วนิ คนเป็นพี่อาจจะเป็นหนูศศิก็ได้น้าา ไม่วั้นหนูนิดไม่สงสัยแย่เหรอ น้องโผล่มาจากไหน เอ๊ะ งง


wane 10 ม.ค. 2557, 01:41:02 น.
ตอนแรกอ่านนึกว่าหนูนุชเป็นนางเอก แต่พอพ่อพูด ทำให้เอ๊ะ หรือ หนูนิดเป็นนางเอก จริงๆ อยากให้นางเอกแสบๆ หน่อย อย่างที่ทุกคนบอก เรียบร้อยจะสู้กับใครไหว แล้วพอมาอ่านคอมเม้นต์ของคุณนักอ่านเหนียวหนึบ ก็ใช่อีก ตอนนั้นศศิอายุ 2 ขวบแล้ว ถ้าศศิไม่ใช่พี่ คนเป็นพี่ที่อายุมากกว่าสองขวบน่าจะจำได้ว่า มีอะไรเกิดขึ้นเพราะโตแล้ว ...ไรเตอร์ทำเอารีดเดอร์มึนอ่ะ


Amarilys 10 ม.ค. 2557, 09:00:12 น.
หวังว่าพี่น้องจะรักกันจนถึงวันที่หนูนิด (น่าจะใช่ศศินะ) ไปทวงคืนมรดกนะ สงสัยนุชต้องบู๊แทนนิดแล้วละ


ปลายสี 10 ม.ค. 2557, 20:29:09 น.
มาชูป้ายไฟเชียร์คุณดินด้วยคนค่ะ ถ้ายังตกลงกันไมไ่ด้ว่าจะหนูนิดหรือหนูนุช เอาหนูปลายไปก่อนไหมอ่ะ 5555


goldensun 23 ม.ค. 2557, 17:25:03 น.
เรื่มชอบคุณดินแล้ว เล่นจองไว้แต่เด็กเลย แล้วจะจำศศิได้รึเปล่า
หนูนุชเฮี้ยวดี หัวโจกแท้ๆ หนูนิดก็อ่อนหวานเหลือเกิน พ่อแม่พูดอย่างนี้ หนูนิดชัวร์เลยที่เป็นศศิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account