เมียทาสสวาท
ขาอาฆาตแค้น ชิงชัง และมุ่งหวังที่จะทำลายชีวิตเธอ
ตั้งแต่วันที่บิดาของเขารับตัวนางบำเรอรุ่นลูกเข้ามาอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาบ้าน
ความวุ่นวายที่ตามมาอย่างไม่รู้จักจบสิ้นก็ทำให้ชายหนุ่มนึกเกลียดชังน้ำหน้าเธอมากพอแล้ว
หาก ‘เพชรกล้า ฉัตรมงคลกุล’ นักธุรกิจหนุ่มเสือผู้หญิงต้องเจ็บปวดจนแทบขาดใจ
เมื่อเห็นมารดาต้องกลายมาเป็นคนพิการเพราะอุบัติเหตุที่สืบเนื่องมาจากความแพศยาของผู้หญิงคนนั้น
แม้ว่าเขาจะไม่นิยม ‘กิน’ สวะโสโครกที่เหลือเดนมาจากผู้เป็นพ่อ
แต่ในเมื่อรักที่จะเป็นโสเภณีนัก... เขาก็จะ ‘สนอง’ ให้เธอได้เป็นผู้หญิง ‘หลายผัว’ สมความอยาก
“เธอจะคร่ำครวญทำไม! อีกไม่นานเธอก็จะได้รู้ว่ารสรักของฉันมันล้ำเลิศกว่าของคุณพ่อแค่ไหน
ไม่แน่นะ เธออาจจะเปลี่ยนใจมาจับฉันแทนก็ได้ แต่ยากหน่อยนะ เพราะฉันรู้ไส้นางบำเรออย่างเธอดี”
“ปล่อยฉันนะ!” พิรุณญาดิ้นรนหาอิสระทุกวิถีทาง ทั้งจิกทั้งข่วน ปากก็ร้องขออิสระจากเขา
“เล่นตัวอย่างนี้นี่เอง ค่าตัวถึงได้แพง แต่สำหรับฉันนะ จะจ่ายให้งามๆก็ต่อเมื่อพิสูจน์ได้ว่า
ของของเธอน่ะ มันดีจริงหรือเปล่าเท่านั้น แต่ไม่บอกก็รู้ว่าแหลกเหลวแค่ไหน กี่ปีแล้วล่ะ
ที่นอนประเคนให้พ่อฉันเอาน่ะ นี่เห็นว่าคุณพ่อไม่อยู่หรอกนะ ฉันเลยจะสงเคราะห์ให้
จะได้ไม่อดอยากปากแห้งจนเที่ยวเร่ไปให้ใครต่อใครเอาไง”
เขาพูดเยาะเย้ย พลางระดมจูบเธออย่างรุนแรงเป็นการลงโทษที่ทำให้เขาต้องเหนื่อย
“ปล่อยฉันนะ! ปล่อย! คุณท่านจะต้องเสียใจแน่ๆ ถ้ารู้ว่าคุณทำยังงี้”
เธอร้องบอกเพื่อเตือนสติเขา แต่ไม่เป็นผล เพราะมือนั้นกำลังลูบไล้เรือนร่างเธออย่างมีความสุข
“คุณพ่ออาจจะใช่ แต่คุณแม่จะต้องดีใจที่ฉันช่วยท่านกำจัดเธอได้เสียที
แล้วอย่าคิดแรดไปเกาะพี่พีทอีกล่ะ เพราะเมียเขาไม่ใจดีใจเย็นเหมือนคุณแม่แน่”
ทุกสิ่งที่เขาทำ เธอได้แต่ยอมอดทน กล้ำกลืนความรวดร้าวโดยไม่ปริปาก
แม้เด็กสาวกำพร้าอย่าง ‘พิรุณญา’ จะสำนึกในบุญคุณของครอบครัวฉัตรมงคลกุลมากเพียงใด
แต่เธอก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องตอบแทนบุญคุณด้วยวิธีที่แสนจะทุกข์ทรมานเช่นนี้
ไม่เพียงร่างกายที่ยับเยินจะกลายเป็นเครื่องเล่นบำบัดอารมณ์ใคร่ของเพชรกล้าทุกเวลาที่เขาปรารถนา
แต่หัวใจที่บอบช้ำก็ยังถูกเขาเหยียบย่ำไม่ต่างไปจากเศษผ้าขี้ริ้วสำหรับเช็ดเท้าด้วย
และเธอก็คงจะทนและทนต่อไป หากไม่บังเอิญรู้ว่าภายในท้องกำลังมีชีวิตน้อยๆก่อกำเนิดขึ้นมา
พิรุณญาอาจจะทนความเจ็บช้ำได้ทุกอย่าง
แต่จะไม่ยอมให้ลูกของเธอต้องเกิดมาเผชิญกับเรื่องเลวร้าย
ทางสุดท้ายที่จะทำได้ก็คือหนี... หนีไปจากซาตานใจอำมหิตคนนั้น
และไม่มีวันยอมให้ลูกในท้องเรียกคนใจชั่วว่าพ่อเป็นอันขาด!

Tags: เศร้า รันทด พระเอกโหด

ตอน: หวงก้าง

“อ้าว! คุณหญิงคุณชายจะมาชวนตาเพชรไปเที่ยวไหนจ้ะวันนี้”
จันทภาหันไปทักทายด้วยใบหน้ายินดีปรีดายิ่ง เมื่อเห็นว่าที่สะใภ้กับพี่ชายเดินเข้ามาในบ้าน และดูเหมือนจะดีใจกว่าคนเป็นลูกชายด้วยซ้ำ
“เราจะมาชวนเพชรกับคุณฝนไปดูหนังค่ะ”
พิรุณญาที่กำลังยกเครื่องดื่มมาต้อนรับแขกถึงกับสะดุ้งน้อยๆ เมื่อได้ยิน และไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี หันไปมองจันทภาก็ดูเหมือนจะมองมาด้วยสายตาแปลกๆ ทำให้เธอรู้ทันทีว่า เจ้าของสายตาไม่อนุญาตให้ไปด้วยความเต็มใจเป็นแน่ เธอจึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะตอบตกลงคำชวนในครั้งนี้ เพชรกล้าเองก็มีสายตาแปลกๆ คล้ายผู้แม่ แต่มันมีความหึงหวงในข้าวของ ที่เขาเข้ายึดครอบครองโดยปรปักรวมอยู่ในนั้นมากกว่าครึ่ง ทว่าไม่มีใครสังเกตเห็นเท่านั้นเอง จันทภารีบออกตัวด้วยมั่นใจว่าพิรุณญาจะเข้าใจในความหมายของตัวเอง
“ตาเพชรคงไม่มีปัญหาหรอกจ้ะ แต่สำหรับฝนคุณหญิงถามเจ้าตัวเอาเองนะจ้ะ”
“วันนี้ฝนคงไปไหนไม่ได้ค่ะคุณหญิง พอดีตั้งใจว่าจะห่อชมพู่ที่สวนหลังบ้านค่ะ ปล่อยไว้นานเดี๋ยวจะมีแมลงเข้าไปเจาะกินก่อน ขอโทษนะคะฝนไปไม่ได้จริงๆ ค่ะ” ดูเหมือนสองแม่ลูกจะพึงพอใจกับคำตอบที่ได้ไม่น้อย ทว่าไม่มีใครแสดงกิริยาใดๆ ออกมา แต่จู่ๆ ตรัยคุณก็เอ่ยในสิ่งที่ไม่มีใครคิดจะปฏิเสธได้ แม้กระทั่งพิรุณญาเองก็ตาม
“ถ้าอย่างนั้นหญิงก็ไปกับเพชรสองคนแล้วกันนะ พี่จะอยู่ช่วยคุณฝนทำงานดีกว่า ความจริงก็ไม่อยากไปนักหรอกดูหนัง รู้สึกไม่สนุกยังไงไม่รู้ สงสัยจะเริ่มแก่ งั้นผมขออนุญาตคุณน้าเลยก็แล้วกันนะครับ”
“ดีเลยสิคุณชาย งานฝนจะได้เสร็จเร็วๆ เดี๋ยววันนี้น้าจะเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนนะ”
พร้อมพงษ์รีบชิงออกปากอนุญาตด้วยความยินดี โดยไม่ได้สังเกตสีหน้าแม่กับลูกหรือพิรุณญาเลยสักนิดว่าเป็นยังไง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจันทภาที่ไม่พอใจสามีเอามากๆ เพราะยังไงๆ ก็ยังหวงแหนตรัยคุณไว้ให้ลูกสาว แม้ทั้งคู่จะมีความสัมพันแบบลุ่มๆ ดอนๆ ขึ้นๆ ลงๆ ก็ตามที แต่จันทภาก็ไม่ประสงค์จะให้พิรุณญาได้ตรัยคุณไปครอบครองแน่นอน เพราะเขาคือลูกชายคนโตและคนเดียวของวงศ์สกุล นั่นหมายถึงเพชรกล้าจะต้องกลายเป็นน้องเขย และมีศักดิ์ด้อยกว่ากาฝากในบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่จันทภายินยอมไม่ได้ จึงเฝ้ามองสองหนุ่มสาวที่ทำงานไปคุยกันไปด้วยความไม่ชอบใจเอาเสียเลย
“นี่เขายังไม่เสร็จกันเลยเหรอครับแม่ ทำตั้งแต่เช้าแล้วนะ”
แต่เพชรกล้ากลับไม่รู้สึกขำสักนิด แถมออกอาการหัวเสียและโกรธเอามากๆ เมื่อกลับจากดูหนังแล้วยังเห็นเมียทางพฤตินัยทำงานไปคุยกับผู้ชายไปอย่างไม่รู้จักอายฟ้าดิน แม้เขาจะมีคู่หมั้นมานั่งคุยอยู่ด้วยเพราะผู้แม่ชวนอยู่รอกินมื้อเย็น แต่เขาก็ยังอุตส่าห์แอบเจียดเวลาเทียวชะเง้อคอมองไปหลังบ้านทุกครั้งที่ทำได้ จันทภาให้ผิดสังเกตในอาการของลูกขึ้นมาทันใด เพราะไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
“คุณพ่อก็เลยพลอยเป็นกับเขาไปด้วย อะไรกันนักหนานะ เสน่ห์แรงเหลือเกินเด็กบ้านเรานี่ ยืนให้ผู้ชายจีบอยู่ได้ทั้งวี่ทั้งวัน น่าไม่อาย” จันทภาได้แต่มองตามแผ่นหลังของลูกที่เดินเข้าครัว ทะลุไปยังสวนตรงไปหาต้นชมพู่ทันที โดยทิ้งให้คู่หมั้นนั่งดูทีวีอยู่ในบ้านเพียงลำพัง

“คุณฝนทานเยอะๆ นะครับเหนื่อยมาทั้งวัน”
ตรัยคุณตักอาหารที่เขามีส่วนช่วยเป็นลูกมือ ให้หญิงสาวหลังจากเสร็จจากงานสวนด้วยรอยยิ้ม พร้อมพงษ์เองก็ยังเผลอยิ้มออกมาด้วยความพอใจ แต่เขาก็ฉลาดมากพอที่จะรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติด้วยความเร็ว เพราะไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น พิรุณญาเพียงแค่หันไปยิ้มตามมารยาทแล้วรีบหันกลับมาหาจานข้าวของตัวเองในทันที ด้วยเดาได้ว่าสายตาคู่คมนั้นจับจ้องอยู่ตลอดเวลา แถมมีสายตาอันแฝงนัยบางอย่างลึกๆ ของจันทภา ที่เธอเองก็เดาไม่ออกว่ามีความหมายยังไงด้วย แต่คงไม่ได้เป็นไปในทางที่ดีอย่างแน่นอน
“แหม! พี่ชายเอาใจคุณฝนใหญ่เลยนะคะเพชร”
เพชรกล้าหันไปยิ้มให้คู่หมั้น แล้วก็เหมือนได้ความคิดดีๆ จึงรีบใช้วิธีเดียวกับตรัยคุณทันที กระบวนการตักอาหารเอาใจหญิงแข่งกันของสองหนุ่มจึงเกิดขึ้น ทำเอาพร้อมพงษ์หันไปมองหน้าภรรยาแล้วยิ้มน้อยๆ ออกมา แต่สำหรับจันทภากลับยิ้มไม่ออกเมื่อมีข้อสงสัยในตัวลูกชายอยู่ล้นอก การเฝ้ามองเฝ้าสังเกตการณ์จึงเกิดขึ้นในวันถัดๆ มา แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะไม่พร้อมทางด้านร่างกาย และไม่กล้าจะบอกกล่าวหรือไหว้วานใคร แม้กระทั่งเด็กรับใช้ในบ้าน
แล้วความลับก็ไม่มีในโลก เมื่อในค่ำคืนหนึ่งที่พร้อมพงษ์กับเพชรกล้าต้องไปงานเลี้ยงด้วยกัน แต่ต่างคนต่างเอารถไป เพราะอยู่คนละที่นัดเจอกันที่งานเลย แล้วตรัยคุณก็บังเอิญเพิ่งกลับจากไร่ เลยเอาองุ่นมาฝากจันทภาในเย็นนั้น ประหนึ่งว่ากะเวลามาถึงก่อนมื้ออาหารไม่นาน จันทภาจึงต้องเอ่ยปากชวนร่วมโต๊ะด้วย และเขาก็ไม่ปฏิเสธแล้วยังอาสาเข้าไปช่วยพิรุณญาในครัวหน้าตาเฉย
แถมพออิ่มก็ไม่ยอมกลับ นั่งคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อย จันทภารู้ดีว่าแขกประสงค์จะอยู่ตามลำพังกับเด็กในบ้าน จึงตัดใจไม่อยู่ขวางทางด้วยความมีมารยาทเลยขอตัวขึ้นห้องนอนก่อน พิรุณญาค่อนข้างจะลำบากใจไม่น้อย ที่จะต้องอยู่ตามลำพังกับตรัยคุณ เพราะเกรงกลัวหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือกลัวเพชรกล้าจะกลับเข้ามาบ้านมาเห็น จนพาลโกรธแล้วเอาเรื่องเธอกับเขาไปบอกพร้อมพงษ์นั่นเอง
และดูเหมือนเรื่องที่หญิงสาวกลัวจะเกิดขึ้นแล้ว ขณะกำลังเดินไปส่งตรัยคุณที่รถ เพชรกล้าก็ขับรถมาพอดี เขาทักทายพอเป็นพิธีแล้วแกล้งเดินเข้าบ้าน แต่ดักรอจนพิรุณญาส่งแขกเสร็จแล้วเดินเข้าบ้าน เขาได้โอกาสรีบเดินไปคว้าแขนเธอเดิน ลากขึ้นบันไดด้วยความเร็ว และไม่สนใจด้วยว่าอีกคนจะพยัยามสบัดแขนออกหรือตามไปทันมือเขาหรือไม่ พอเข้าไปถึงห้องได้เขาก็เหวี่ยงเมียทางพฤตินัยไปหาเตียงทันที พร้อมกับขึ้นเสียงว่าเธอชนิดไม่เกรงกลัวใครจะได้ยินสักนิด
“ฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอพิรุณญา ว่าอย่าให้ฉันต้องหมดความอดทน จนต้องเอาเรื่องที่เธอเป็นเมียฉันไปบอกคุณพ่อคุณแม่ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่เชื่อคำพูดฉันเลยนะ อยากลองดีเหรอ คิดว่าฉันไม่กล้าเหรอ” พิรุณญาหันไปเถียงทันที
“ถ้าคุณบอกคุณท่าน คุณเองนั่นล่ะที่จะต้องเสียใจ เพราะคู่หมั้นของคุณก็จะรู้เรื่องไปด้วย แล้วเธอก็จะเสียใจกับการกระทำที่ลูกผู้ชายดีๆ เขาไม่ทำกัน”
“คิดว่าฉันจะแคร์เหรอ จะบอกอะไรให้นะ ต่อให้ฉันแต่งงานไปแล้วฉันก็จะเดินเข้ามานอนกับเธอได้ เพราะเธอเป็นเมียฉัน เป็นคนของฉันและจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปใครก็เปลี่ยนไม่ได้ แม้แต่คุณชาย แล้วถามจริงๆ เถอะไม่รู้สึกละอายใจบ้างเหรอ ที่คนมีมลฑิลอย่างเธอไปนั่งเสนอหน้าคุยกับลูกหม่อมเจ้าขนาดนั้น” แต่คนอย่างเพชรกล้ามีหรือจะกลัวคำขู่นั้น แถมยังด่ากลับด้วยถ้อยคำดถูกเมียอีกต่างหาก และเธอเองก็เถียงเขาอย่างเหลืออดเช่นกัน
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด คุณชายก็แค่นั่งคุยกับฉันอยู่ในบ้าน ไม่ได้ไปแอบนั่งทำอะไรลับหูลับตาใคร”
“อ้อ! ฉันจะต้องรอให้เธอสวมเขาให้ฉันก่อนใช่มั้ย เธอถึงจะถือว่าตัวเองผิด อย่าแม้แต่จะคิด เพราะคนอย่างฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำอย่างนั้นได้เด็ดขาด และเธอก็อย่าคิดว่าจะเอาตัวเองไปล้างน้ำจนสะอาด แล้วรอลูกหม่อมเจ้ามาโปรดให้เสียเวลาหน่อยเลย คนอย่างฉันจะไม่ยอมยกเมียให้ใครง่ายๆ แน่จำเอาไว้ มานี่! รักมันชอบมันมากนักเหรอไอ้ลูกหม่อมนั่น มันดีกว่าฉันตรงไหนเธอถึงอยู่ใกล้มันแล้วยิ้มได้ไม่ยอมหุบ ทีกับฉันซึ่งเป็นผัวเธอแท้ๆ กลับอยู่ด้วยอย่างกับคนไร้ชีวิต ร้องห่มร้องไห้ยังกับจะตายหลังจากนอนกับฉันเสร็จทุกคืน”
เจ้าของร่างผอมบางไม่มีโอกาสได้เอ่ยอะไรออกมาอีกเลย เพราะถูกเขาปิดปากเอาไว้ด้วยจุมพิตที่ดุดันและรุนแรง ในรอบหลายวันที่ผ่านมา แต่ถึงมีโอกาสเธอก็ไม่คิดจะดิ้นรนขัดขืนใดๆ อยู่แล้ว ด้วยรู้ดีว่าไม่มีทางจะทำสำเร็จ จึงได้แต่แน่นิ่งรอรับโทษฑันณ์จากเขา ด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา กับความรุณแรงที่เขากำลังมอบให้ เพื่อสั่งสอนให้หลาบจำ ว่าทีหน้าทีหลังอย่าได้ริอ้าปากคุยกับผู้ชายคนไหนอีก เพราะคนอย่างเธอไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงใดๆ อยู่แล้ว แต่คนอย่างเขากลับมีสิทธิ์มีอำนาจทุกอย่างแม้กระทั่งมีคู่หมั้นหมายจับจองเอาไว้ โดยไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกเธอเลยสักนิด
จันทภาปั่นวิลแชร์กลับเข้าห้องด้วยใบหน้าซีดเผือด เพราะยังคงช็อกกับเรื่องราวเมื่อครู่ไม่หาย ด้วยไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับลูกชายอันเป็นที่รักได้ ที่ผ่านมาจันทภาเห็นแต่ลูกเฝ้าเกลียดพิรุณญาเข้าไส้ หมายจะกำจัดให้พ้นไปจากพ่อของตัว พ้นไปจากชายคาบ้านด้วยวิธีที่รุนแรงต่างๆ นานา แต่ไม่คาดคิดว่านี่จะเป็นหนึ่งในวิธีของลูก หรือว่าลูกหลงเสน่ห์ผู้หญิงอย่างพิรุณญาเข้าไปแล้ว แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามที จันทภาจะต้องขัดขวางสองคนนี้ให้ถึงที่สุด และแน่นอนว่าจะให้ผู้เป็นสามีล่วงรู้ถึงเรื่องนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพิรุณญาจะต้องกลายมาเป็นสะใภ้แทนหม่อมราชวงศ์ผู้สูงศักดิ์เป็นแน่

“คุณคะ! เมื่อบ่ายท่านชายให้หม่อมเพียงพรโทรมาเปรยๆ กับภา ว่าพระเพิ่งให้กฤษ์แต่งของลูกมา ปีนี้ทั้งปีมีวันดีเหมาะกับลูกแค่วันเดียวด้วยจะทำยังไงดีคะ ตาเพชรล่ะถ้าแต่งเดือนหน้าจะเคลียร์งานทันหรือเปล่าลูก”
จันทภารีบเอ่ยขึ้นบนโต๊ะอาหารในอีกสองวันถัดมาทันที พิรุณญาที่กำลังจะตักอาหารเข้าปากถึงกับเจ็บแปลบๆ อยู่ในใจ แต่ก็เก็บอาการเอาไว้ได้อย่างมิดชิด เพชรกล้าหันไปหาแม่ด้วยใบหน้ามีกังวลนิดๆ แต่เขาก็เก็บไว้ เพื่อหาทางออกให้ตัวเองภายหลัง เพราะเขาไม่คิดว่าจะมีงานแต่งระหว่างเขากับคู่หมั้นเกิดขึ้นในเร็ววันอีกต่อไปแล้ว หรือถ้ามีก็ต้องหลังจากที่เขามั่นใจก่อน ว่าหัวใจของเมียทางพฤตนัยที่เขานอนกกนอนกอดอยู่ทุกค่ำคืนเป็นของใครกันแน่ แต่คำตอบก็มีให้เห็นตำตาอยู่แล้ว ว่าหม่อมราชวงศ์ผู้สูงศักดิ์ได้ไปครองแบบเต็มๆ
“แต่งก็แต่งสิคุณ จะกลัวอะไรล่ะทั้งเราทั้งเขาก็พร้อมทุกอย่าง ไม่เห็นต้องรอให้เสียเวลาเลย ดีซะอีกจะได้มีลูกสาวเพิ่มขึ้นอีกคน พรุ่งนี้คุณก็โทรบอกทางโน้นเลยก็แล้วกัน ว่าเราไม่มีปัญหา แล้วก็รีบคุยกันเรื่องโรงแรมให้เรียบร้อย เดือนเดียวนี่คิดๆ ก็มีเวลาน้อยนะ แต่ถ้ารีบๆ ช่วยกันรับผิดชอบคนละอย่างสองอย่างก็ทันถมเถ เพชรก็รีบๆ เคลียร์งานตั้งแต่ตอนนี้เลย อีกหน่อยต้องเดินสายแจกการ์ด ไหนจะต้องไปฮันนีมูนอีก จะไปไหนหรือยังไงก็คุยกับคุณหญิงแต่เนิ่นๆ ล่ะ”
แต่ดูเหมือนผู้เป็นพ่อจะสนับสนุนให้เขาแต่งเสียเหลือเกิน ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่เขายังไม่ได้ล่วงรู้เรื่องความบริสุทธิ์ของพิรุณญาแล้วล่ะก็ เขาจะต้องอดคิดไม่ได้ว่าพ่ออยากกำจัดเขาให้พ้นทางเป็นแน่ แต่ตอนนี้เขาไม่อาจจะดึงดันคิดแบบนั้นได้อีกต่อไปแล้ว ในเมื่อรู้อยู่เต็มอกว่าเรื่องที่เข้าใจมาโดยตลอด เป็นเพียงข่าวไม่มีมูลของน้องสาวกับอาพริ้มเท่านั้นเอง แถมยังมีความหึงหวงในตัวพ่อของแม่ ที่เฝ้าโทรไปฟ้องเขาครั้งแล้วครั้งเล่าอีกด้วย
“ผมยังไม่ได้ถามคุณหญิงเลยนะครับว่าจะโอเคมั้ย พักนี้เห็นว่างานที่ออฟฟิศยุ่งๆ คุณชายก็แทบจะไปจับงานที่ไร่เต็มตัวแล้ว คุณหญิงเลยต้องรับภาระไปเกือบทั้งหมด ไม่รู้จะมีเวลาว่างพอหรือเปล่าครับ” เขาจึงรีบออกตัวเอาไว้ก่อน
“เขายุ่งๆ แกก็ยิ่งต้องรีบแต่งแล้วจะได้รีบไปช่วยเขาบ้างสิ อีกอย่างผู้หญิงที่ไหนเขาจะมาป่าวประกาศบอกแกกันล่ะว่าช่วยแต่งงานกับฉันเร็วๆ เถอะ ฉันอยากมีผัวเต็มที อย่าลืมนะว่าเขาเป็นลูกหม่อมเจ้า ต่อให้แกเล่นจ้ำจี้กับเขามาตั้งแต่อยู่เมืองนอก จนสนิทสนมกันแค่ไหน เขาก็ไม่เอ่ยปากพูดเรื่องแต่งเองหรอก หรือได้เขาแล้วคิดจะชิ่งล่ะ อย่าแม้แต่จะคิดนะแก เขาเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม ถ้ามีเรื่องไม่เป็นมงคลเกิดขึ้นกับลูกเขาแล้วล่ะก็ แกเตรียมตัวรับกับปัญหาได้เลย และฉันก็จะไม่ช่วยแกด้วย”
เมื่อเจอประโยคนี้ของพ่อเข้า เขาเองก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเช่นกัน เพราะพ่อพูดถูกทุกอย่าง ความไม่สบายใจในเรื่องนี้ทำให้เขาไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนอีกห้อง แต่นั่นกลับเป็นสาเหตุแห่งน้ำตาที่ไหลรินออกมาจนเปียกหมอน เมื่อเธอคาดเดาเอาเองว่า เขาคงกำลังดีใจที่จะได้แต่งงานกับคู่หมั้นสักที ของเล่นฆ่าเวลาอย่างเธอก็คงจะหมดความหมายใดๆ แล้ว ในใจตอนนี้มันมีสองความรู้สึก หนึ่งคือโล่งใจไม่น้อยที่เขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับตัวเองอีก สองคือกำลังรู้สึกเจ็บแปลบๆ ด้วยความเสียใจ เมื่อได้คิดว่าจะต้องสูญเสียเขาให้กับผู้เป็นเจ้าของ ที่แท้จริงไปในอีกไม่นานแล้ว
และความเสียใจของเธอยิ่งทวีความรุนแรงหนักขึ้นอีก เมื่อหลายวันต่อมาหลังกลับจากตลาด ระหว่างทางเธอตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไปในคลีนิกเล็กๆ แห่งหนึ่ง เพราะมีความสงสัยในความเปลี่ยนแปลงของร่างกายเกิดขึ้น จนเกือบจะมั่นใจว่าสิ่งที่เธอเกรงกลัวกำลังจะคืบคลานเข้ามาหาแล้ว แต่ก็พยัยามคิดไปในทิศทางอื่น เพื่อไม่ให้เป็นทุกข์หนักไปกว่านี้
“จะได้สองเดือนแล้วค่ะ เดี๋ยวหมอจะจัดยาให้นะคะ....”
แต่ดูเหมือนความทุกข์จะจงใจทับถมโหมกระหน่ำเข้ามาหาหนักกว่าเมื่อครู่มาก จนพิรุณญาแทบจะจำไม่ได้ว่าหมอบอกอะไรบ้าง อาการควบรถกลับด้วยความใจลอยจึงเกิดขึ้น ถึงบ้านได้ก็ไม่เอ่ยอะไรกับเพ็ญที่เดินมารอช่วยถือข้าวของ นอกจากเดินตรงขึ้นห้องแล้วล็อกประตูไว้ทันที และเข่าก็อ่อนจนร่างที่ใกล้จะหมดแรง ต้องทรุดตัวลงนั่งกับพื้นหลังพิงประตูแทบจะทันทีเช่นกัน น้ำตาก็หลั่งรินออกมาอย่างไม่ยากเย็นเลยสักนิด หัวใจสับสนวุ่นวายอีกครั้ง ไม่รู้จะแก้ไขปัญหายังไง ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาเป็นเครื่องช่วยระบายความเจ็บปวดต่างๆ อยู่อย่างนั้น
เพราะได้คิดแล้วว่าสิทธิ์ของเธอไม่มีแม้แต่จะให้ใครได้รับรู้ถึงเรื่องนี้ ถ้าเป็นปกติของผู้หญิงคนอื่นๆ นี่คงจะเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดีไม่น้อย แล้วเธอล่ะจะมีหน้าไปบอกให้ใครได้ร่วมยินดีด้วย หรือจะมีใครที่อยากจะยินดีกับข่าวนี้บ้าง แล้วเธอยังจะหวังอะไรจากเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาอีก มันแทบจะหาความเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว คิดได้แค่นั้นเธอก็พยุงร่างให้ลุกขึ้น ปาดน้ำตาแห่งความอ่อนแอทิ้ง แล้วรีบลงไปทำหน้าที่รับใช้คนในบ้านหลังนี้อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ม.ค. 2557, 08:34:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ม.ค. 2557, 08:34:13 น.

จำนวนการเข้าชม : 3060





<< ทาสรับใช้ และทาสในหน้าที่เมีย    >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account