เกมรักกับดักพิศวาส (สนพ.มายเลิฟ)

Tags: นิยายรัก,นายแบบ

ตอน: ตอนที่ 9

ตอนที่ 9

และแล้ววันที่อริญชย์ไม่อยากให้มาถึงก็มาถึงจนได้ วันนี้ไม่ใช่แค่วันหยุดพักร้อนวันท้ายเท่านั้น แต่มันเป็นวันที่ศัตรูหัวใจหมายเลขหนึ่งของเขากลับมาไม่เพียงเท่านั้นงานเดินแบบวันนี้บอลด์วินก์เป็นหนึ่งในนานแบบที่มาเดินแบบในงานนี้ด้วย

แม้พี่สาวอย่างอโรชาจะบอกให้เขาใจเย็นๆ แต่เพียงแค่เห็นหมอนั่นเดินเข้าไปด้านหลังไวๆ ใจก็รู้สึกไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเสียแล้ว ดังนั้นจากที่เคยคอยบุษบันเลิกงานอย่างอารมณ์ดีวันนี้ก็แทบอยู่ไม่เป็น อยากจะเข้าไปข้างในใจจะขาดแต่ก็เข้าไม่ได้ โทร.หาทั้งพี่สาวและบุษบันก็ไม่มีใครรับทั้งที่รู้อยู่ว่าทั้งสองคนทำงานคงปิดเสียงและไม่รับสายแต่ก็อดที่จะหงุดหงิดไม่ได้

อริญชย์คิดว่าการรอคอยที่แสนจะยาวนานและทรมานของเขาสิ้นสุดลงเมื่อเขาเห็นเหล่าบรรดานายแบบบางคนเริ่มทยอยออกมา แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เห็นบุษบันและพี่สาวทั้งนี้รวมไปถึงบอลด์วินด้วย อริญชย์เดินวานไปวนมาคอก็ชะเง้ออย่างรออยใจก็คิดไปว่าที่ทุกคนช้าเพราะบอลด์วินไปกวนหรือไปเจ๊าะแจ๊ะกับบุษบันหรือเปล่า จากที่คิดว่าการรอคอยจบลงแล้วเขากลับต้องรอต่อไปอีกเกือบชั่วโมงกว่าจะเห็นบุษบันเดินออกมา

“บุษ”

อริญชย์ครางออกมาอย่างดีใจ แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นชัดๆ ว่าใครเดินตามหญิงสาวออกมาติดๆ ‘บอลด์วิน’ อริญชย์กัดกรามแน่นอย่างไม่พอใจ

“พี่ซีไปอยู่ไหน ทำไมปล่อยให้หมอนี่มาเกาะแกะบุษได้”

สบถบ่นกับตัวเองแล้วรีบตรงเข้าไปหาบุษบันที่เดินไปคุยไปกับนายแบบหนุ่ม โดยไม่สนใจมองตัวเองด้วยซ้ำ

“บุษ…” ไม่เรียกเปล่าอริญชย์ยังดึงร่างบางมายืนฝั่งตัวเอง ยิ้มให้หญิงสาวและพูดคุยโดยไม่คิดจะสนใจใครอีกคน

“ออกมาช้าจัง แล้วพี่ซีล่ะ”

“นู้นไง” บุษบันพยักพเยิดไปที่อโรชาที่กำลังเดินออกมาพร้อมกับลูกทีมอีกสองสามคน

“เอ่อ เพื่อนคุณเหรอครับบุษ”

บอลด์วินที่อยู่นอกสายตาไปครู่หนึ่งเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับดึงร่างบางของบุษบันมายืนข้างตนเหมือนกับที่อีกฝ่ายทำก่อนหน้านั้นอย่างต้องการเอาชนะ ทั้งที่ยังไม่รู้จักกันแม้แต่ชื่อ เขากลับรู้สึกไม่ถูกชะตากับคนตรงหน้าอย่างแรง

“ใช่ค่ะ ซันเป็นเพื่อนของฉันและเป็นน้องชายของพี่ซีค่ะ ซัน นี่คุณวินซ์เป็นนายแบบที่มาเดินแบบในงานนี้”

“เป็นแค่นายแบที่มาเดินแบบในงานเฉยๆเหรอครับ” บอลด์วินหันมาล้อบุษบันยิ้มๆ บุษบันจึงย่นจมูกใส่เขาแล้วแนะนำเพิ่มเติมไปว่า

“และคุณวินก็เป็นเพื่อนกับเราด้วย แบบเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานเท่าไหร่อะนะ”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณซัน” พูดพร้อมกับยื่นมือออกไปตรงหน้า อริญชย์มองอีกฝ่ายยอย่างหยั่งเชิงเล็กน้อยก่อนจะตอบรับไมตรี

“เช่นกันครับคุณวินซ์”

แม้ทั้งคู่จะแค่จับมือทักทายและมองสบตากันแบบนิ่งๆ แต่ทำไมไม่รู้ที่บุษบันรู้สึกว่ามันมีกระแสไฟฟ้าแล่นปะทะกันดังเปรี๊ยะๆ และต่างคนต่างจ้องอย่างไม่มีใครยอมหลบตาใคร

“สองคนนี้อะไรกันน่ะบุษ” อโรชาที่เดินตามมาสมทบที่หลังถามบุษบันพลางชี้ไปที่สองหนุ่มที่ยังยืนจับมือและจ้องตากันนิ่ง

“คือรู้สึกจะจับมือทักทายและทำความรู้จักกันมั้งคะพี่ซี แต่จ้องกันเขม็งเลย” บุษบันตอบเสียงอ่อยพลางยิ้มแหยๆ

“อ้าวๆ หนุ่มๆ ถ้าจะจับมือจ้องตากันขนาดนี้ทำไมไม่จูบกันไปเลยล่ะคะ” คำพูดประชดของอโรชาดูเหมือนจะได้ผลสองหนุ่มรีบดึงมือกลับทันที

“พี่ซีพูดอะไรก็ไม่รู้ ผมเป็นผู้ชายทั้งแท่งนะครับ แต่อีกคน…” อริญชย์กวาดสายตามองศัตรูหัใจหมายเลขหนึ่งตั้งหัวจรดปลายเท้าแล้วบอกอย่างเหยียดๆ ว่า

“ไม่แน่”

“แน่หรือไม่แน่คุณซันก็ลองถามบุษดูสิครับ”

“คุณวินซ์!”

บุษบันเรียกชายหนุ่มเสียงเขียวไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดอะไรให้ชวนคิดไปไกลแบบนี้ต่อหน้าอริญชย์และอโรชา

“ทะเลาะกันเป็นเด็กไปได้ ทำงานมาเหนื่อยไปหาอะไรทานกันดีกว่านะ ฉัน น้องชายแล้วก็บุษจะไปหาอะไรทานกัน คุณวินซ์ไปด้วยกันไหมคะ”

อโรชาหันมาถามนายแบบหนุ่มพอเป็นมารยาท ใจจริงก็ไม่ได้หวังให้ขายหนุ่มไปเป็นกอขอคองอของน้องชายหรอก

ทว่าอีกฝ่ายกลับรักษามารยาทย่างดีเยี่ยมรีบตอบรับแบบไม่ต้องคิดให้เสียเวลาแม้แต่นิดเดียว

“ดีเลยครับผมกำลังหิว” ตอบแบบเน้นคำขณะที่สายตาก็มองอริญชย์อย่างท้าทาย

“งั้นก็ไปกันเลยค่ะ บุษไปกับนายซันเหมือนเดิมนะ”

พี่สาวผู้น่ารักจัดแจงจับคู่ให้น้องชายเสร็จสรรพนั่นทำให้อริญชย์กดยิ้มมุมปากและยักคิ้วใส่บอลด์วินกลับคืนไปบ้าง

“ไม่ได้หรอกครับ เพราะบุษจะต้องนั่งรถไปกับผมครับ”

“เสียใจด้วยนะครับคุณนายแบบ หน้าที่ขับรถให้บุษคือหน้าที่ผม ไปบุษขึ้นรถดีกว่าเราหิวแล้ว”

ว่าแล้วก็จับหมับเข้าที่แขนข้างซ้ายของบุษบันหวังจะจูงหญิงสาวไปขึ้นรถ แต่โลกนี้ที่มีนายบอลด์วินมันไม่ง่ายขนาดนั้น เมื่อแขนขวาของบุษบันที่ยังว่างถูกนายแบบหนุ่มคว้าหมับและรั้งหญิงสาวเอาไว้ทันที

“บุษมากับผม”

“บุษมากับเราดีกว่า”

“มากับผม”

“มากับเรา”

“มา…”

“โอ๊ย!”

บุษบันที่โดนกระชากแขนซ้ายทีขวาทีร้องพลางสะบัดแขนทั้งสองออกอย่างทนไม่ไหว “คนค่าคนไม่ใช่ตุ๊กตากระชากไปกระชากมาอยู่ได้รู้ไหมว่ามันเจ็บ” ด่าทั้งสองหนุ่มพร้อมกับบีบต้นแขนทั้งสองสลับกันไปมา

“เราขอโทษนะบุษ”

อริญชย์บอกเสียงอ่อนอย่างรู้สึกผิด ซึ่งผิดกับอีกหนึ่งหนุ่มที่นอกจากจะไม่พูดอะไรแล้วยังเดินเข้าไปหวังจะลาก ‘เพื่อน’ ของตัวเองขึ้นรถ

แต่บุษบันกลับเบี่ยงตัวหนีเดินถอยหลังไปยืนข้างๆ อโรชาที่ยืนเท้าสะเอวดูศึกชิงนางระหว่างน้องชายกับนายแบบหนุ่มแบบเงียบๆ

“ฉันจะไปกับพี่ซี คุณทั้งสองคนต่างคนต่างไปแล้วกัน ไปค่ะพี่ซี” อโรชาไม่ว่าอะไรพยักหน้าอย่างเห็นด้วยแล้วหมุนตัวเดินตามบุษบันไปขึ้นรถ โดยที่สองหนุ่มนั้นยังยืนมองเขม่นกันนิ่งไม่ยอมขยับ

“คุณวินซ์ไม่รู้ร้านก็ขับรถตามฉันหรือนายซันไปก็แล้วกันนะคะ”

“ขับตามให้ทันละกัน”

อริญชย์บอกเสียงเยาะ เรื่องความชำนาญในการขับขี่แถวนี้เขาไม่เป็นรองใครถนนลัดตัดออกตรอกซอกซอยไหนรู้หมดจะเอาให้อีกฝ่ายหลงกลับบ้านไม่ถูกเลยคอยดู

“ฮึ! เรื่องอะไรจะโง่ขับตามนายกันวะ”

บอลด์วินที่เหมือนจะอ่านความคิดของงอีกฝ่ายแบบทะลุปรุโปร่งบอกทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปขึ้นรถแล้วขับตามอโรชาไปแบบติดๆ ปล่อยให้อริญชย์ที่แผนล่มขับรถไปบ่นไปอย่างหัวเสีย ก็จะไม่ให้หัวเสียยังไงไหวก็วันนี้มันเป็นวันหยุดพักร้อนวันสุดท้ายแล้วนี่ คิดว่าจะได้อยู่ลำพังกับบุษบันสองต่อสองแต่ที่ไหนได้กลับมารความสุขมาผจญ



การทานอาหารท่ามกลางการชิงดีชิงเด่นของสองหนุ่มทำให้บนโต๊ะเกิดสงครามย่อมๆ และระเบิดของสงครามนั้นก็มาตกอยู่ที่บุษบัน

บุษบันมองอาหารที่สองหนุ่มต่างสลับกันตักมาวางบนจานจนเต็มแทบจะมองไม่เห็นข้าว มันอะไรหนักหนาเนี่ย

“หยุด…”

เธอวางช้อนส้อมยกมือขึ้นปรามทั้งบอลด์วินและอริญชย์ที่แข่งกันเอาอกเอาใจเธอ “แค่นี้ก็ทานไม่หมดแล้วค่ะ เชิญพวกคุณๆ ตักให้ตัวเองบ้างดีไหมคะหรือไม่ก็นี่เลยพี่ซี” อโรชาส่ายหน้าพลางหัวเราะน้อยๆ อย่างไว

“ไม่เป็นไรจ๊ะพี่ตักทานเองได้”

“ทานค่ะ ต่างคนต่างทานนะคะ”

บุษบันย้ำอีกรอบก่อนจะถอนหายใจแล้วค่อยๆ ตักอาหารในจานทานไปเรื่อยๆ จนกระทั่งอิ่ม แต่อาหารในจานเธอไม่สามารถทานมันได้หมด

“บุษขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่งนะคะ”

“รอพี่ด้วยบุษ”

และพอเดินพ้นรัศมีที่สองหนุ่มจะได้ยินอโรชาก็เอ่ยปากล้อบุษบันทันที

“เนื้อหอมนะเราน่ะ”

“หอมเหิมที่ไหนกันพี่ซี เพื่อนกันทั้งนั้น”

“เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเพื่อนเขาแข่งกันทำคะแนนความเป็นเพื่อนกันดุเดือดขนาดนี้”

“ไม่คุยด้วยแล้ว”

บุษบันยุติการสนทนาด้วยการเดินเข้าห้องน้ำ และได้แต่หวังว่าในช่วงที่ขาดตอนนั้นจะทำให้อโรชาลืมมันเสีย

แต่ดูเหมือนเธอจะคิดผิดและคำถามดูท่าจะหนักและตอบยากมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

“ระหว่างบุษกับคุณวินซ์ไปถึงไหนกันแล้ว”

มือที่กำลังล้างหยุดชะงักเล็กน้อย มองสบสายตาคนถามผ่านกระจกในห้องน้ำแล้วหลุบตาต่ำหลบสายตานั้นด้วยการล้างมือต่อ

“จะถึงไหนล่ะคะ กับคุณวินซ์ก็แค่เพื่อนธรรมดาๆ เท่านั้นเองค่ะ”

“จริงเหรอ”

“ค่ะ”

“แน่นะว่าไม่มีอะไรในก่อไผ่” บุษบันนิ่งไปชั่วอึดใจก่อนจะหันมายิ้มแล้วพยักหน้า

“แน่ค่ะ พวกเราแค่เพื่อนกันเท่านั้นรวมทั้งซันด้วยค่ะ” ตอบทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำกลับไปที่โต๊ะ โดยมีอโรชาที่ตื้อถามไม่เลิกเดินตามมาแบบติดๆ

“แหม…สำหรับนายซันไม่มีอะไรพิเศษสักนิดเลยเหรอ”

“ไม่ค่ะ”

“แต่ซันรู้สึกพิเศษกับบุษนะ”

“ทราบค่ะพี่ซี แต่ความรู้สึกของบุษตอนนี้มันไม่มีความรู้สึกอื่นนอกจากคำว่าเพื่อนค่ะ”

“พูดว่าตอนนี้งั้นความรู้สึกในอนาคตก็ไม่แน่ใช่ไหมล่ะ”

บุษบันหันมามองพี่สาวแสนดีของอริญชย์ที่ขยันเชียร์น้องชายเสียเหลือเกินแล้วยิ้มบางๆ แบ่งรับแบ่งสู้เท่านั้น



ขากลับเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องบุษบันเลือกให้อโรชาไปส่งที่คอนโด และคิดว่าทั้งสองหนุ่มคงจะแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน แต่เปล่าเลยอริญชย์คิดว่าตัวเองมีคนหนุนหลังและคิดว่าพี่สาวอาจจะหาจังหวะให้ตนได้มีเวลาอยู่กับบุษบันตามลำพังบ้างจึงขับรถตามทั้งสองสาวไป

ด้านบอลด์วินที่ห่างบุษบันไปหลายวันเพราะไปทำงานต่างจังหวัดทำได้เต็มที่ก็โทรศัพท์คุยกัน แต่มันเต็มอิ่มดังนั้นวันนี้เขาวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะใช้เวลาอยู่กับบุษบันทั้งคืน ไม่คิดว่าจะมีก้างชิ้นใหญ่คอยขวางถึงสองชิ้น จะทำอะไรก็ไม่สะดวกโดนขัดไปเสียหมด และตอนนี้ก็ดูสิขับรถตามกันไปส่งเป็นพรวนดูแล้วขัดตาขัดใจ ตามไปเถอะ พวกนั้นแค่ไปส่งถึงคอนโดแต่อย่างเข้าส่งถึงเตียง คิดแล้วบอลด์วินก็ขับรถไปอีกเส้นทางทำทีเหมือนจะกลับบ้าน แต่เปล่าเลยเขาขับรถย้อนกลับมามุ่งหน้าไปที่คอนโดของบุษบันเช่นกัน



บุษบันปิดประตูห้องพลางถอนหายใจให้กับวันที่เหนื่อยใจมากที่สุดวันหนึ่ง ดีที่ครั้งนี้อโรชาดูเหมือนจะเข้าใจว่าเธอเหนื่อยจริงๆ ถึงไม่ยอมตามใจอริญชย์ที่สะกิดพี่สาวยิกๆ ให้ขอขึ้นมาบนห้อง

กระเป๋าถูกโยนแหมะที่โซฟา ขณะที่เจ้าของกระเป๋าเดินเข้าห้องครัวไปหาน้ำดื่มตามความเคยชิน จากนั้นก็เดินกลับมาหยิบกระเป๋าเดินเข้าห้องเตรียมตัวอาบน้ำนอน แต่ยังไม่ได้ทำอะไรเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น บุษบันทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ

“ใครโทร.มาอีกล่ะ”

ชื่อบอลด์วินปรากฎที่หน้าจอทำให้คนที่ทำหน้าเซ็งมีรอยยิ้มขึ้นมาบ้างเล็กน้อย แม้จะเป็นหนึ่งในคนที่ทำให้เธอเหนื่อยใจก็ตาม

“โทร.มาทำไมคะ”

“พอเจอเพื่อนเก่าลืมเพื่อนใหม่เลยนะ” บุษบันเลิกคิ้วก่อนจะอมยิ้มขำไม่คิดว่าผู้ชายอย่างบอลด์วินจะมีนิสัยชอบพูดประชดเหมือนกัน

“คนเก่าสนิทกว่ารู้ใจกันดีกว่าย่อมมาก่อนสิคะ” เธอรับมุกอย่างรู้สึกสนุก

“ฮึ! ตอนนี้ก็อยู่กับไอ้เพื่อนเก่าล่ะสิ” บุษบันแกล้งเงียบอยู่นาน จนอีกฝ่ายทนไม่ไหวถามย้ำมาอีกครั้ง “ว่าไงครับ”

“ว่าอะไรคะ”

“ก็ผมถามว่าตอนนี้คุณอยู่กับไอ้หมอนั่นหรือเปล่า”

“ถามทำไมคะ”

“ก็อยากรู้ ถ้ามันยังไม่กลับผมจะตามไปบ้าง”

“ไม่ต้องเลยค่ะ ตอนนี้ฉันอยู่คนเดียวพอใจหรือยัง”

“พอใจมากครับ” สิ้นเสียงบอลด์วินโทรศัพท์ก็ถูกตัดสายทันที บุษบันมองมือถือพลางขมวดคิ้ว

“อะไรเนี่ยคิดจะโทร.ก็โทร.คิดอยากจะวางก็วาง ไอ้ผู้ชายบ้า”



***************************************************************************************************************************************************



ต้องขออภัยสำหรับคนที่รออ่าน ตอนนี้มาช้ากว่าปกติทั้งที่จริงแล้วจะอัพตั้งแต่วันพุธ แต่โน๊ตบุ๊คพัง ต้องอาศัยคอมของน้องสาวทำงาน แต่อาทิตย์นี้บรรดาลูกๆ หลานๆ หยุดเรียนหลายวันเลยเกิดการแก่งแย่งคอมกัน กว่าจะแย่งมาได้เล่นเอาเหนื่อยกันเลยทีเดียว 555



เรื่องนี้วางแผงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะที่ 7-11 ทั่วประเทศ ในราคาเบาๆ เพียง 99 บาทเท่านั้นเอง ใครที่ไม่อยากรอหรือไม่อยากอ่านแบบค้างๆ คาๆ หาซื้อจังจองเป็นเจ้าของกันได้นะจ๊ะ



ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ (^_^)

เกศมณี

24/01/57



เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ม.ค. 2557, 13:26:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ม.ค. 2557, 13:26:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 1567





<< ตอนที่ 8   ตอนที่ 10 >>
mhengjhy 24 ม.ค. 2557, 16:00:00 น.
พอใจเสร้จ เปิดประตูดังโพล๊ะ


แว่นใส 24 ม.ค. 2557, 21:06:34 น.
วางแผนอะไรอีกจ๊ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account