จุดชนวนรัก อุบัติเหตุเลิฟ
บางครั้งเราทุกคนก็ต้องยอมรับความจริงในเรื่องของหัวใจ ว่ามันอาจไม่เป็นอย่างที่เราต้องการเสมอไป ฉันเคยคิดว่ารัก ‘พี่เกล’ แต่ฉันกลับได้รู้จักความรักจริงๆ ในวันที่สายไปกับคนที่ได้ตายจากไปแล้ว ฉันไม่มีโอกาสแม้แต่จะบอกความในใจให้เขารู้ด้วยซ้ำ และวันนี้ฉันมีโอกาสจะไปหาเขาแม้ว่าหัวใจของเขาจะนิ่งสงบไปแล้วก็ตามแต่ฉันก็ร้อนใจเหลือเกินที่จะไป ไม่อยากจะช้าสักวินาทีเดียว
Tags: วัยรุ่น

ตอน: บทที่ 2

บทที่ 2
ในที่สุดตอนจบของเรื่อง พี่เกลก็ต้องเป็นคนพานางเอกที่โชกเลือดอย่างฉันมาโรงพยาบาลจนได้โชคดีที่ฉันไม่เป็นอะไรมากไปกว่าแค่ขาหัก กับคิ้วแตกเย็บไปสองเข็ม อ๋อ! แล้วก็รอยถลอกฟกช้ำอีกนิดหน่อยหมอจึงต้องอนุญาตให้ฉันนอนรอเช็คอาการที่หัวสมองว่าได้รับการกระทบกระเทือนหรือเปล่า
"อยากกลับบ้านอ่ะ *^︹^*"
"ได้ไงเจ็บขนาดนี้"
พี่เกลขมวดคิ้วเข้มนั้นเข้าหากันก่อนที่จะหันไปรินน้ำในเยือกเทใส่แก้วแล้วส่งให้
"พี่พาขมิ้นมาโรงพยาบาลนี้ทำไมแพงจะตาย ขมิ้นไม่มีปัญญาจ่ายหรอกพี่ก็รู้"
ป๊อก!
เมื่อกี้เพิ่งพูดว่าฉันเจ็บขนาดนี้ แล้วไหงตอนนี้เขากับใช้นิ้วดีดเข้าที่หน้าผากฉันอย่างจัง ‘อีทีแบบนี้ไม่กลัวว่าฉันจะเป็นอะไรหรือไง ชิ’
"ไม่เอาน่า พี่เป็นถึงเซเลบนะแค่ค่ารักษาพี่มีปัญญาจ่าย"
"แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะขมิ้นก็รู้สึกแย่อยู่ดี"
"ไม่เอาน่ามันเป็นอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก"
"มันไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียวมันยังมีอีกเรื่องที่ขมิ้นทำให้พี่ต้องเดือดร้อน เพราะขมิ้นพี่เลยไม่ได้ไปเซ็นสัญญาเลย แถมต้องมาเจ็บตัวอีก"
"มันไม่ใช่ความผิดของขมิ้นสักหน่อย ไอ้เลวนั้นมันขับรถปัญญาอ่อนเอง แล้วอีกอย่างไม่เซ็นวันนี้วันอื่นก็เซ็นได้"
ก๊อกๆๆ
"เดี๋ยวพี่ไปเปิดประตูก่อน"
พี่เกลลุกขึ้นไปเปิดประตู ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับหญิงวัยสามสิบแต่ยังสวยบาดใจอย่างเจ๊เข็มผู้จัดการส่วนตัวของเขา เธอมาพร้อมกับกระเช้าดอกไม้สีเหลืองสดที่รับกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มหวานอย่างลงตัว หึๆ เวลาเจ๊แกยิ้มแบบนี้เป็นอันว่างานเข้าฉันทุกที แง แกล้งตายตอนนี้ยังทันมั้ย
"พี่เข็มมาเยี่ยมน่ะ"
รู้แล้วค่ะว่าเจ๊เข็มมา ถึงได้อยากแกล้งตายไง
"หายเร็วๆ นะขมิ้น"
เจ๊เข็มส่งยิ้มหวานชวนสยองอีกครั้งแล้ววางดอกไม้ไว้ที่หัวเตียง ฉันยกมือไหว้ขอบคุณพร้อมกับท่องบทแผ่เมตตาในใจอย่าจับฉันยัดใส่หม้อดินเลยสาธุๆ
"เกล! บอสเขาอยากจะคุยเรื่องงานคอนเสิร์ตใหญ่ที่จะถึงน่ะ"
"เมื่อไหร่ครับ"
"เดี๋ยวนี้จ๊ะ"
"=_="
"ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอกน่า เดี๋ยวพี่ดูแลขมิ้นเอง"
นั่นแหละที่น่าห่วงยิ่งกว่าอยู่คนเดียวซะอีก ไม่เอ๊าไม่เอาพี่เกลอย่าไปยอมเจ๊แกนะ แง
"รีบๆ ไปเถอะจะได้รีบกลับ หลบๆ นักข่าวหน่อยก็ดีขี้เกียจเป็นเรื่อง แล้วก็เก็บไอ้รอยช้ำบนหน้าซะด้วย"
"พี่จะรีบไปรีบมานะ"
พี่เกลไม่ตอบเจ๊เข็ม แต่หันมาพูดกับฉันแทน แต่จะให้ฉันพูดอะไรได้ก็ในเมื่อตอนนี้ฉันตกอยู่ในวินาทีที่ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้อีกต่อไป ส่วนพี่เกลก็ต้องยอมทำตามเจ๊เข็มแต่โดยดี แต่ก่อนที่เขาจะไปเขากลับเดินเข้ามาหาฉันใกล้ๆ แล้วจุ๊บที่หน้าผากฉันเบาๆ พลางกระซิบว่า….
"เดี๋ยวพี่โทรตามหญิงให้มาอยู่เป็นเพื่อน แล้วก็ไม่ว่าใยปีศาจจะพูดอะไรไม่ต้องสนใจ โอเคนะ"
"︶︿︶"
ฉันได้แต่พยักหน้าอย่างหมดหวัง ตกลงพี่จะไม่อยู่เป็นไม้กันหมาให้ฉันก่อนเหรอ แง แง
"ไปได้แล้วเรื่องสำคัญนะไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ให้พี่มาตามด้วยตัวเองหรอก"
"ถ้าอย่างนั้นฝากด้วยนะครับพี่"
ฝากหนูไว้กับแมวเนี่ยนะ ไม่เอ๊าไม่เอาเห็นๆ อยู่ว่ายังไงก็ตายแหงมๆ แต่ยังไงก็คงหนีไม่พ้น
เมื่อพี่เกลเดินพ้นประตูไปได้แค่สามวิ เจ๊แกก็ปล่อยรังสีความโหดใส่ฉันแล้ว
"ฉันรู้ว่าเกลกับเธอโตมาด้วยกัน แต่เธอก็ต้องเข้าใจนะว่าตอนนี้เขาเป็นเซเลบไปแล้ว แถมกำลังโกอินเตอร์คงไม่เป็นผลดีถ้าเขายังต้องมาพัวพันกับเธอในสถานะที่มันคุมเครือแบบนี้"
"…"
"ไหนจะเรื่องที่เขาผิดนัดกับผู้ใหญ่ เพียงเพราะต้องพาเธอมาโรงพยาบาล รู้มั้ยว่ามันเสียหายกับเขาแค่ไหน"
"…"
"แต่น้ำหน้าอย่างเธอคงคิดไม่ออกหรอก ฉันจะบอกให้เผื่อเธอจะฉลาดขึ้นมาได้บ้าง ทางโน้นเขาโกรธมากถ้าไม่ติดว่าเกลกำลังดังเขาแทบจะเปลี่ยนตัวเลยละ"
"…"
"และถ้าเป็นแบบนั้นความฝันของเกลที่ทุ่มเทมาเกือบสองปีก็จะพังลง เธอคงไม่อยากเป็นต้นเหตุใช่มั้ย"
"…"
"เพราะฉะนั้นงานคอนเสิร์ตใหญ่ที่จะจัดเพื่ออำลาแฟนเพลงคนไทยก่อนที่จะโกอินเตอร์ไปทั่วเอเชีย หวังว่าฉันจะไม่เห็นหัวเธอกับไอ้ขาไม่สมประกอบนี่ที่งานนะ เพราะถ้าเธอไปเขาคงไม่เป็นอันร้องเพลงแน่ รับทราบแล้วก็จำใส่สมองกรวงๆ ของเธอไว้ด้วย"
พูดจบ ได้ดังใจเจ๊แกก็สะบัดก้นกับใบหน้างามๆ ออกจากห้องฉันไป เฮ้อ! ไปได้สักทีฉันจะได้พักผ่อน จะได้หายทันงานคอนเสิร์ตพี่เกล (ตกลงว่าไม่สำนึก) ว่าแล้วก็ล้มตัวนอนดีกว่า
ก๊อกๆๆๆ
เฮ้ย! หัวยังไม่ทันถึงหมอนญาติฝ่ายไหนมาหาอีก เอ๊ะ! หรือว่าหญิงมาแล้ว ฉันหันไปดูนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ผนังห้อง แต่นี้มันก็เพิ่งบ่ายสองเองหญิงยังไม่เลิกเรียนหรือว่าโดดเรียนเพื่อมาเฝ้าฉัน โธ่! หญิงเพื่อนรักฉันซาบซึ้งในน้ำใจของแกเหลือเกิน กระซิกๆ ∪﹏∪ 
โอ๊ะ! นั้นมัน แต่พอประตูห้องถูกเปิดออกคนที่กำลังเดินเข้ามากลับไม่ใช่อย่างที่ฉันคิด
"นึกว่าจะเป็นหนักกว่านี้"
ผู้ชายหล่อนิสัยดีหายไปไหนกันหมด ถึงได้มีแต่หน้าตาดีแต่ปากกรรไกร
"ไงจะเอาเงินมาฝาดหัวฉันไม่ให้ไปแจ้งตำรวจใช่มั้ยล่ะ"
"ก็ไม่โง่เหมือนหน้าตานี่"
ไอ้บ้ากล้าดียังไงมาว่าฉันโง่ ฉันเนี่ยจัดเป็นประเภทสวยมีสมองย่ะ
"อืม! เท่าไหร่ดีละ ขาหัก คิ้วแตก แล้วก็รอยฟกช้ำอีกนิดหน่อยล้านหนึ่งพอมั้ย "
ล้านหนึ่ง!! $ _ $ บ้าหรือเปล่าเงินตั้งล้านหนึ่งจะใส่เฝือกฝังพลอยให้ฉันหรือไง เงินเยอะแยะขนาดนั้นใครจะไปรับพวกคนรวยยิ่งชอบใช้เงินฟาดหัวคนจนแล้วก็เอามาดูถูกที่หลังอยู่ด้วย แต่ตั้งล้านหนึ่งไม่เอาก็เสียดายแย่
ทำอะไรถึงจะได้เงินเท่านี้ละ อีกอย่างถ้าไม่รับไว้คนอ่านอาจจะว่าฉันโง่ได้น่า
"นายเก็บเงินไว้เถอะ"
อ้าว! ทำไมไม่ตอบอย่างที่คิดละ ฮึย! ไอ้ปากไม่รักดี
"คงน้อยไปสินะ ถ้าอย่างนั้นฉันเพิ่มให้อีกหนึ่งบาทเป็นหนึ่งล้านหนึ่งบาท"
ไอ้หน้าหล่อมันมีพ่อแม่เป็นเจ้าของบ่อน้ำมันหรือไงฟะ ถึงได้ใช้เงินเหมือนกระดาษชำระไปได้ แต่เพิ่มมาอีกตั้งหนึ่งบาทก็น่าสนใจนะเอาดีมั้ยอ่า
"นายไม่ต้องกลัวว่าฉันจะแจ้งความหรอก เพราะฉันไม่ได้เป็นอะไรมากถ้าตายเมื่อไหร่แล้วค่อยจ่าย" (อ้าวแล้วใครจะใช้เงิน)
"เอาไปซะแล้วก็ปิดปากให้สนิทฉันไม่อยากให้เรื่องมันยืดยาวจบที่นี่แหละ"
พูดจบเขาก็หยิบเช็คในกระเป๋ามาหยัดใส่มือ ฉันรับมันไว้แล้วก้มดูชื่อเจ้าของเช็ค
นางสาวนิสา พิทักษ์สิน เอ๊ะ! นี่มันชื่ออาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษหนิ แล้วเช็คของไอ้หน้าหล่อนี่ทำไมถึงเป็นชื่ออาจารย์นิสาได้ละ หรือว่าเป็นขโมย โธ่! ที่แท้ก็เป็นโจรจริงๆ ด้วย เสียดายหน้าตากับหุ่นจริงๆ ไปเป็นดาราดีกว่าเป็นโจรมั้ย
"ที่แท้นายก็เป็นโจรนี่เอง ถึงได้กลัวว่าฉันจะแจ้งตำรวจหนักหนา"
"อะไรนะ!! ฉันน่ะเหรอเป็นโจร เธอเอาสมองส่วนไหนคิด "
ก็เอาไอ้สองส่วนเหมือนไอ้ที่อยู่บนหัวนายนั้นแหละคิด
"ก็เห็นๆ ว่าในเช็คนั้นเขียนว่านางสาวแล้วส่วนไหนบนตัวของนายที่ฉันพอจะเรียกว่านางสาวได้บ้าง ถ้าไม่ใช่โจรแล้วเอาเช็คนี้มาได้ไง"
"นั้นไม่ใช่เรื่องของเธอ เรื่องของเธอก็มีแค่รับเงินซะแล้วจบเรื่องนี้"
แม้พูดอย่างกับตัวเองเป็นคนดังเลยนะยะ ถึงจะเสียดายแต่มันก็เยอะเกินไปเงินเยอะขนาดนี้ฉันใช้ไม่เป็นหรอกไม่รู้จะเอาไปใช้อะไรด้วย เอ๊ะ! หรือว่าจะไปนอนอาบแดดที่ภูเก็ตสามวันสามคืน ก่อนจะบินกลับไปชมดาวที่อำเภอปายแล้วท่องโลกกว้างตามรอยซีรีส์คนดังที่เกาหลี จากนั้นก็บินไปไปชมซากุระที่ญี่ปุ่น แล้วเลยไปกินปูที่ ฮอกไกโด อ๋อ! ที่เหลือก็เอาไปเสี่ยงโชคที่ลาสเวกัส ว้าว!!!! แบบนี้หมดชัวร์ (ในสมองเธอมีแต่เรื่องกินกับเที่ยวเนี่ยนะสร้างสรรค์มาก)
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่เอา ถ้ากลัวนักหนาว่าเรื่องจะไม่จบ จะทำสัญญาด้วยก็ได้นะ"
"อืม! เป็นความคิดที่ดีนะ แต่ติดตรงที่ว่าฉันเขียนภาษาไทยไม่ค่อยได้ขอเป็นอังกฤษได้มั้ย" เอร๊ย! คิดจริงอีก
ฉันพูดประชดต่างหากย่ะ ว่าแต่ไอ้หน้าหล่อพูดไทยชัดมากแต่ทำไมถึงมีปัญหาด้านการเขียน หรือว่าไม่ใช่คนไทย เอ๊ะ! แล้วเขาจะเป็นอะไรทำไมฉันจะต้องไปใส่ใจคิดให้ปวดหัวด้วยละ
"ปวดหัว ไม่พูดด้วยแล้วคนอะไรเข้าใจยากบอกว่าไม่เอาๆ ไม่รู้เรื่องหรือไง กลับไปในที่ที่นายมาได้แล้ว คนป่วยอยากจะนอน"
ฉันแกล้งทำเป็นล้มตัวลงนอนแต่ดูยังไงหมอนี้ก็ยังไม่มีที่ท่าว่าจะยอมไปง่ายๆ มันจะอะไรกันหนักกันหนาฉันก็ไม่ได้ตายหรือพิการถาวรสักหน่อยจะจ่ายทำไมต้องล้านหนึ่ง
"ยังไม่ไปอีกเหรอ ตกลงว่าถ้าวันนี้ไม่เสียเงินนายจะไม่ยอมให้ฉันพักผ่อนใช่มั้ยเนี่ย ถามจริงๆ เถอะเป็น ดาราหรือว่าคุณชายน้อยหนีออกจากบ้านมาหรือไงถึงได้กลัวขนาดนั้น"
"เรื่องส่วนตัว"
เขาเบ้ปากอย่างกวนประสาทก่อนที่จะถือวิสาสะนั่งที่โซฟาด้วยท่าสบายๆ แต่ดูเท่จัง 3__3
"เอาแบบนี้เช็คนั้นฉันไม่รับหรอกมันมากไป แต่ถ้านายอยากจะให้เพื่อความสบายใจ ฉันขอเป็นอย่างอื่นแทนได้มั้ย"
“ได้ทุกอย่างยกเว้นขอให้ฉันนอนกับเธอ”
">︿<//"
ฉันอยากจะกรีดร้องเสียงดังให้ลั่นห้อง มั่นใจมาก ถ้าไม่มั่นพูดคำนี้ไม่ได้นะเนี่ย คนอะไรนิสัยทราม ปากเสีย แถมมองโลกในแง่ร้ายได้ขนาดนี้
"เอางี้! ฉันขี้เกียจจะพูดดีกับนายแหละคนป่วยชักเริ่มเครียด นายแค่จ่ายค่ารักษาแล้วก็จ่ายค่ารับขวัญด้วยบัตรคอนเสิร์ตของวง Monster King เอาแบบวีไอพีเลยนะให้ฉันก็พอ ได้บัตรเมื่อไหร่เป็นอันว่าต่างคนต่างไปแล้วอย่าได้มาพบมาเจอกันอีกตกลงมั้ย"
ปกติเวลาพี่เกลแสดงคอนเสิร์ตฉันจะได้รับบัตรแบบพิเศษตลอด แต่งานนี้ถูกสั่งห้ามถ้าจะแอบไปก็ต้องซื้อบัตรเองแล้วค่าบัตรก็แพงหูชี ถ้าฉันพลาดคอนเสิร์ตนี้คงไม่ได้เจอหน้าพี่เกลไปอีกนานเพราะเขาต้องบินไปเดบิวต์เพลงที่เกาหลีนานเชียวแหละหลังจากจบคอนเสิร์ต
"Monster King! "
อ๊ายยย!!
"ไปหลบอยู่ไหนมา เด็กประถมยังรู้จักวงนี้เลย แถมต่อไปในอนาคตวงนี้ก็กำลังจะมีชื่อเสียงระดับเอเชียนายไม่รู้จักได้ไง"
"ฉันไม่ใช่พวกบ้าดาราไม่รู้จักไม่เห็นจะแปลก แต่เอาเป็นว่าระดับฉันยังไงก็หาบัตรให้เธอได้อยู่แล้ว และหวังว่าเธอจะจบอย่างที่พูดจริงๆ"
"แน่นอนที่สุดในสามโลกบวกให้อีกสี่โลกหน้าเลยก็ยังได้"
"โอเคฉันจะลองเชื่อหน้าใสๆ ซื่อๆ อย่างเธอดูก็ได้ ตกลงตามนั้น"
อ๊ากกกก ไอ้ใสๆ ก็พอโอเคแต่ให้ซื่อๆ เนี่ยมันใกล้เคียงกับโง่หรือเปล่านะ !
เขาใช่นิ้วจิ้มที่หน้าผากของฉันเบาๆ แต่ให้ความรู้สึกแปลกๆ เหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ ฉันรีบปัดมือเขาออกเพื่อกลบเกลื่อนแล้วถูเบาๆ ที่หน้าผากของตัวเอง
กล้าดียังไงมาถือวิสาสะแตะเนื้อต้องตัวฉันกันยะ!
พูดจบเขาก็เตรียมจะหันหลังกลับแต่ฉันก็เรียกเขาไว้เสียก่อน คิดจะไปง่ายๆ ได้ไงถ้าเกิดเขาเบี้ยวฉันขึ้นมาละจะว่ายังไงมันต้องมีอะไรทิ้งไว้สักหน่อยสิ
"แล้วฉันจะเชื่อคุณได้ยังไง"
"ชักเริ่มฉลาดขึ้นมานิดนึงแล้วนี่ แล้วเธอต้องการอะไรเป็นหลักค้ำประกันละ"
"ทิ้งเบอร์โทรนาย พ่อนาย แม่นาย แฟนนาย เพื่อนนาย ไว้ด้วย"
"ทำไมไม่ขอทั้งตระกูลไปเลยละ"
ได้ด้วยเหรอ (เขาพูดประชดย่ะ)
"เผื่อนายเบี้ยวฉันขึ้นมา ฉันจะได้โทรตามถูก แล้วถ้านายคิดปิดมือถือฉันก็จะได้โทรหาคนอื่นแทน"
เขาเลิกคิ้วแล้วมองหน้าฉันอย่างประหลาดใจ แหมก็คนเดี๋ยวนี้รู้หน้าไม่รู้ใจต้องกันไว้ดีกว่าแก้ อิอิ ยังไงฉันก็ไม่มีทางพลาดคอนเสิร์ตนี้เด็ดขาด
"ให้เงินล้านไม่เอาแต่แค่บัตรคอนเสิร์ตเธอดูจริงจังมากเลยนะ พ่อแม่แฟนเพื่อนไอ้ที่ขอมาไม่มีหรอกมีแต่เบอร์ฉันเบอร์เดียวจะเอามั้ย" อ๊ายยยยย นี่เขากำลังบอกเป็นนัยๆ ว่าเขาโสดใช่มั้ยเนี่ย แต่เอ๊ะ! แล้วทำไมฉันต้องกระดี๊กระด๊าด้วย
"เอามือถือมาสิเดี๋ยวกดเบอร์ให้”
เอาวะแม่สอนไว้กำขี้ดีกว่ากำตด ฉันหยิบมือถือที่อยู่ข้างเตียงแล้วส่งให้เขากดเบอร์ตัวเองใส่ ไม่นานเขาก็ส่งคืนมาให้
"หวังว่าคงไม่ใช่แผนที่จะขอเบอร์ฉันทางอ้อมหรอกนะ"
"คำพูดคำไหนมันบอกว่าฉันอยากจะสานต่อความสัมพันธ์กับคนอย่างนายไม่ทราบ"
แหมแสนรู้ดินฟ้าอากาศเหลือเกิน จะบอกอะไรให้คนอย่างฉันไม่มีทางอยากจะเจอกับนายหรอกย่ะอย่ามาหลงตัวเองซะให้ยาก ถ้าไม่ติดว่าหล่อจะไม่เสียเวลาคุยด้วยเลยจะบอกให้
"ตกลงว่าเรื่องนี้จบ"
"จบแน่ถ้าบัตรถึงมือฉัน อ๋อ! ขอสองใบด้วยนะ"
"ทีแบบนี้งกขึ้นมาทันตา" เขาสายหัวไปมาอย่างระอาแล้วก็เดินออกจากห้องไป
เฮ้อ! คราวนี้ก็ไร้ซึ่งคนกวนใจคนป่วยก็จะได้พักผ่อนสักที โอ๊ย! เจ็บแผลจังเลยฉันเอามือรูปตรงบาดแผลที่คิ้วก่อนที่จะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง แต่หัวก็ยังไม่ถึงหมอนเสียงเคาะประตูก็ดังอีกเสียก่อน
โอแม่เจ้า!! ฉันอยากจะบ้าตาย
"ไงยังโอเคอยู่มั้ยแก"
ประตูถูกเปิดออกก่อนที่เจ้าของร้องเท้าส้นสูงปรี๊ดจะก้าวเดินเข้ามา ที่แท้ก็ยัยหญิงนี่เองมาได้ถูกที่แต่ผิดเวลามาก
"ทำไมแกมาช้าจังไม่เป็นห่วงกันเลย งอน"
ฉันแกล้งเบ้ปากก่อนจะนอนตะแคงหันไปอีกทาง คอยดูยัยนี่ต้องสำนึกผิดสุดๆ แน่ ที่มาเยี่ยมฉันช้าถ้ามาเร็วกว่านี้ฉันคงไม่ต้องรับศึกหนักจากเจ๊เข็มกับไอ้หน้าหล่อนั้นคนเดียว
"ยังจะกล้ามาแย่งซีนฉันอีก เพราะเธอมัวแต่เดินเซ่อซ่าอยู่น่ะสิรถถึงชนได้ รู้มั้ยว่าฉันต้องพรีเซนต์งานคนเดียวบอกมาซะดีๆ ว่าเป็นแผนแกใช่มั้ย"
อ๊ายยยยยยยยย นี่หรือเพื่อนฉันนอกจากจะไม่สำนึกแล้วยังจะหาเรื่องฉันกลับอีก ใจร้ายเกินไปแล้ว T^T "แผนอะไรของแกยะ"
"ก็แกไม่ได้เตรียมตัวมาพรีเซนต์ แกก็เลยแกล้งวิ่งให้รถชนไง"
"จะบ้าเหรอ! แกดูสภาพฉันสิ ช่างจินตนาการจริงๆ ใครมันจะไปลงทุนขนาดนี้"
ยัยหญิงเหลือบไปมองที่ขาฉันที่ตอนนี้ถูกเข้าเฝือกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างขำขัน
โธ่! นี่ฉันคิดผิดใช่มั้ยที่มีเพื่อนอย่างแก
"ฮะๆ คราวนี้แกก็ต้องเดินสามขาอะจิ "
"ใจร้าย ฉันไม่คุยกับแกแล้ว ชิ"
"อะๆ ล้อเล่นน่า"
"แล้วนี่หอบกระเป๋าอะไรมาเยอะแยะมากมายอย่างกับคนบ้า"
"ก็กระเป๋าใส่เสื้อผ้ามาเฝ้าคนป่วยไง"
แต่จากที่ฉันประเมินขนาดของกระเป๋าแบรนด์เนมที่เธอหิ้วมาแล้ว เหมือนกับจะมานอนอยู่ที่โรงพยาบาลสักสิบชาติยังไงก็ไม่รู้ ใหญ่เกิ๊น!
"นี่แกกะจะย้ายบ้านเลยมั้ย"
"แหม! แกก็ เอ่อนี่! ฉันมีเรื่องจะเม้าให้แกฟังด้วยแหละ"
จู่ๆ ยัยหญิงก็เปลี่ยนโหมดเป็นดี๊ด๊าในตาวิ้งๆๆ ขึ้นมาทันที
"ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าเจอคนหล่อละสิ"
"น่ากิน เฮ้ย! น่ารักอะ ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หล่อลากหัวใจทะลุอกคัพเอเลยอะ"
"ขนาดนั้นเชียว "
"แก คนนี้หล่อจริงฉันกล้าเอาหัวเป็นประกันแต่น่าเสียดายหยิ่งไปหน่อย"
"แกรู้ได้ไงว่าเขาหยิ่งอย่าบอกนะว่าแก…"
"ใช่ฉันวิ่งตามไปขอเบอร์เขาถึงหน้าลิฟต์แต่เขากับทำหน้าดุใส่คนสวยอย่างฉันเสียเซลฟ์ไปเลย "
จะเป็นไปได้ยังไง ปกติเพื่อนฉันเนี่ยถือว่าฮอตมากในมหาลัย เพราะเธอสวยเซ็กซี่แล้วก็รวยมากด้วยแถมมีพ่อเป็นท่านรัฐมนตรีอีกใครกล้าปฏิเสธนางถ้าไม่ตุ๊ดก็…
"เกย์ชัวร์"
"คนนี้แมนเต็มร้อยย่ะ แต่หน้าเขาคุ้นมากเลยเหมือนเคยเห็นบางทีอาจจะเคยรู้จักกันด้วยซ้ำ แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก แต่ช่างเถอะหยิ่งๆ แบบเนี่ยฉันชอบท้าทายดี"
แปว! เพื่อนฉันใจกล้าหน้าด้านเกินไปแล้ว ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปฉันเลิกคบกับแก
"ฉันเจอเขาที่หน้าลิฟต์ชั้นที่แกอยู่นี้แหละ แสดงว่าไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องได้เจอเขาอีกแน่เพราะเขาต้องมาเยี่ยมใครสักคนในห้องไหนสักห้องแน่ เสร็จฉัน หึๆ "
"เออ! ตามสบายไทยแลนด์ไปเลยคุณเพื่อนยังแรงงงงง ได้อีก นอนดีกว่า"
ฉันล้มตัวลงนอนคราวนี้สัญญาว่าจะต้องนอนจริงๆ ให้ได้ ไม่ว่าฟ้าจะถล่มโลกจะแตก แผ่นดินจะแยก น้ำจะท่วมฉันก็จะขอนอนให้ได้ งึม!!!
"เฮ้ย! จะนอนแล้วเหรอ อยู่เป็นเพื่อนคุยกันก่อนสิฉันอุตส่าห์โดดเรียนมาเยี่ยมแกนะยะ"
ไม่มีการตอบรับจากเสียงที่คุณเรียกเพราะขณะนี้จิตฉันกำลังสงบนิ่งไว้อาลัยให้กับความโศกเศร้าที่มีเพื่อนอย่างแก
หลังจากนั้นฉันก็เผลอหลับไป แต่ได้ไม่นานเพราะพยาบาลเอายาเข้ามาให้ก็เลยตื่น แต่ดูเหมือนคนเฝ้าฉันจะนอนหลับสบายใจมาก ขนาดคนเข้ามาในห้องทั้งคน เธอก็ยังนอนหลับได้ตกลงใครเฝ้าใครกันแน่ยะ เฮ้อ! เปิดทีวีดูข่าวดีกว่า เอ๊ะ! แต่นั้นมันพี่เกล
หลังจากที่คอบเปอร์หนึ่งในสมาชิกของวง Monster King พลาดเที่ยวบินไปเซ็นสัญญาเพื่อโกอินเตอร์ที่เกาหลี เมื่อช่วงสายของวันนี้ จนทำให้หลายๆ ฝ่ายมองว่างานนี้คอบเปอร์อาจจะโดนเด้งกลายเป็นดาวดับชวดไปแดนกิมจิ แต่หลังจากที่เขาออกมาให้สื่อมวลชลสัมภาษณ์เมื่อช่วงบ่ายถึงสาเหตุการพลาดเที่ยวบิน เพราะต้องช่วยพาแฟนคลับที่ถูกรถชนไปส่งโรงพยาบาล ทำเอาวิกฤตกลายเป็นโอกาสส่งผลให้เขาดังเป็นพุแตกเข้าไปใหญ่ในการเป็นสุภาพบุรุษครั้งนี้ ไปฟังเสียงสัมภาษณ์ของเขาพร้อมๆ กันค่ะ
(ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยได้เมื่อผมได้รับโอกาสนี้ แต่ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ ผมไม่สามารถทิ้งเธอที่กำลังบาดเจ็บได้ ผมเชื่อว่าถ้าเป็นคุณก็ต้องเลือกที่จะช่วยชีวิตคนก่อนที่จะห่วงอนาคตของตัวเอง แต่ยังไงผมก็ต้องขอโทษทุกๆ คนครับ)
และเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาทางสื่อที่เกาหลีรายงานเรื่องนี้ออกมาว่า ผู้ใหญ่ทางโน้นไม่ถือโทษโกรธหนุ่ม คอบเปอร์ และจะไม่มีการเปลี่ยนตัว ตรงกันข้ามเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ทำให้กระแสของเขาที่เกาหลีกำลังแรงก่อนที่จะสตาร์ทด้วยซ้ำ
ปี๊บ!
"ฉันดีใจด้วยนะ ที่พี่ยังเป็นดาวที่ฉันไม่มีวันเอื้อมถึงเหมือนเดิม" ฉันพูดกับตัวเองเบาๆ หลังจากที่กดปิดทีวี
♫ ~ โปรดอย่าปล่อยมือฉัน อย่าไปไหนเลย แค่อยากให้เธอรู้ฉันยังรัก……"
โอ๊ะ! เสียงมือถือฉันนี่ ฉันเอื้อมมือไปหยิบที่หัวเตียงก่อนที่จะดูเบอร์โทรเข้าแล้วกดรับสาย
"ฮัลโหล"
(ขมิ้นพี่มีข่าวดีจะบอกทางโน้นเขาโอเคจะร่วมงานกับพี่ต่อ ดีใจกับพี่มั้ย)
"ค่ะ -_-;;;"
แต่ลึกๆ ในใจฉันไม่อยากให้พี่ไป แค่ในเมืองไทยฉันก็รู้สึกไกลกับพี่มากแล้ว นี่ต้องไปถึงเกาหลี
(ไม่เอาน่าอย่าทำเสียงงอแงสิ พี่กลับมาทันขมิ้นออกจากโรงพยาบาลแน่นอน แต่ตอนนี้พี่ต้องรีบไปขึ้นเครื่องแล้ว ไว้เจอกันนะ บาย)
ตู๊ด…ตู๊ดดด
วางสายไปแล้ว TOT
ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าพี่เกลใจร้ายกับฉันขึ้นมานะ




lovezombie
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ม.ค. 2557, 13:33:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ม.ค. 2557, 13:40:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 1001





<< บทที่ 1   บทที่ 3 >>
หมูโกโก้ 25 ม.ค. 2557, 16:06:46 น.
น่าติดตามดีค่ะ ทำไมรู้สึกชอบนิยายเรื่องนี้


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account