จุดชนวนรัก อุบัติเหตุเลิฟ
บางครั้งเราทุกคนก็ต้องยอมรับความจริงในเรื่องของหัวใจ ว่ามันอาจไม่เป็นอย่างที่เราต้องการเสมอไป ฉันเคยคิดว่ารัก ‘พี่เกล’ แต่ฉันกลับได้รู้จักความรักจริงๆ ในวันที่สายไปกับคนที่ได้ตายจากไปแล้ว ฉันไม่มีโอกาสแม้แต่จะบอกความในใจให้เขารู้ด้วยซ้ำ และวันนี้ฉันมีโอกาสจะไปหาเขาแม้ว่าหัวใจของเขาจะนิ่งสงบไปแล้วก็ตามแต่ฉันก็ร้อนใจเหลือเกินที่จะไป ไม่อยากจะช้าสักวินาทีเดียว
Tags: วัยรุ่น

ตอน: บทที่ 3

บทที่ 3
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปไวเหมือนโกหก…
ฉันออกจากโรงพยาบาลโดยมีพี่เกลจัดการทุกอย่าง
หลังจากนั้นฉันก็เริ่มเดินสามขาไปเรียน สร้างความแตกตื่นฮือฮาให้กับเพื่อนฝูงเป็นอย่างมาก ไม่เข้าใจเลยกะอีแค่เวลาไปไหนมาไหนต้องมีไม้ค้ำยันไม่เห็นจะแปลก ชิ! แต่ที่หน้าแปลกคือไอ้หน้าหล่อที่แม้แต่ชื่อฉันก็ไม่รู้จักตั้งแต่วันที่ไปเยี่ยมฉันที่โรงพยาบาลจ่ายค่ารักษาให้แล้วก็หายหน้าไปเลย แล้วบัตรคอนเสิร์ตฉันละ นี่ฉันคงไม่โดนไอ้หมอนั้นหลอกใช่มั้ย
"แกรู้ข่าวหรือยังว่าทันทีที่มีการเปิดจองบัตรไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็ขายเกลี้ยงหมดแล้ว ณ ตอนนี้"
"ว่าไงนะ!"
ฉันตาโตกับเรื่องเล่าเช้านี้ที่ช่องสิบจากยัยหญิง และด้วยเสียงแปดหลอดของเธอ ทำให้เพื่อนๆ หันมามองและพร้อมใจกันพูดว่า…
"หมดเกลี้ยงเลยเหรอ!"
"ใช่"
ทันทีที่เธอให้ความกระจางใสชัดเจนกับเพื่อนๆ แบบโคตรตรง ทุกคนก็กรูกันเข้ามายิงคำถามล้านแปดแสนสี่ใส่ฉันจนหน้ามืดคล้ายจะเป็นลมเพราะขาดอากาศหายใจ
"ขมิ้นเธอเคยได้บัตรคอนเสิร์ตของ Monster King ทุกครั้งนี่แล้วคราวนี้ได้มากี่ใบ ขอให้ฉันบ้างนะเท่าไหร่ฉันก็จะซื้อ"
"ขมิ้นขายให้ฉันดีกว่าฉันจะให้มากกว่าใยนี่สองเท่า" %@$%^^%^U&^*(^%#@ เอากันเข้าไปถ้าฉันบอกว่าฉันเองก็ไม่มีเหมือนกันใครจะเชื่อบ้าง แง แง ฉันก็อยากได้ไม่แพ้พวกเธอหรอก
"เงียบ!!!"
ทุกคนอ้าปากค้างอยู่กับที่ เมื่อยัยหญิงพูดเสียงดังพลางทุบโต๊ะดังปัง ทำเอาชะนี ค้าง บ่าง กระทิง แรด เงียบกันกริบราวกับกล่องเสียงเสียไปชั่วขณะ ก่อนจะค่อยๆ กระจายแตกฝูงกลับถิ่นฐานไปนั่งประจำการ ณ ฐานที่มั้นของตัวเองอย่างหัวเสีย
"ในฐานะที่ฉันรวยสุดในห้องนี้ฉันขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่าแม้แต่ฉันก็ยังไม่มี"
ยัยหญิงโชว์พาวเว่อร์ความรวย ทำเอาเพื่อนๆ เบ้ปากแกล้งเปิดหนังสือเรียนกันเป็นแถวๆ พอเธอเห็นว่า สถานการณ์เริ่มสงบ เธอก็เลยหันมาพูดกับฉันแทน
"ว่าแต่แกมีมั้ย"
ผ่าง~
"นึกไว้แล้วเชียว"
"ก็แกเป็นถึง…"
"…อย่านะ!"
ฉันรีบเอามือปิดปากยัยเพื่อนตัวแสบ เพราะกลัวว่ายัยนี่จะพูดเสียงดังเพ้อเจ้อว่าฉันเป็นน้องนอกไส้ให้คนอื่นได้ยินเดี๋ยวจะแห่กันมารุมทึ้งใช้ฉันเป็นสะพานไต่เชือกไปหาพี่เกล ยัยนี่ยิงเสียงทอนาโดอยู่ด้วย
"แฮะๆ ฉันลืมตัวไปน่ะ"
"ฉันไม่มีหรอกเพราะงานนี่เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ส่งท้ายแฟนคลับ เจ๊เข็มแกไม่อยากให้ฉันโผล่หน้าไปสร้างปัญหาให้พี่เกลน่ะ"
"โธ่! จบกัน แล้วนี่ตั้งแต่กลับมาจากเกาหลีเขาติดต่อมาบ้างหรือยัง"
"ยังเขาคงยุ่งกับการเตรียมตัวคอนเสิร์ตอยู่มั้ง"
"จร้า! ยัยแม่นางเอกมองโลกในแง่ดีจริงๆ จะโดนเขาถีบหัวส่งยังไม่รู้ตัวอีก"
อ๊ายยยยยยยยยย >///< " ใยเพื่อนบ้าพูดไม่รักษาน้ำใจกันเลย เดี๋ยวฉันก็ลงไปนอนดิ้นแถกๆ เป็นปลาไหลขาดออกซิเจนอยู่บนพื้นซะหรอก
"แง ใจร้าย"
"แล้วนี่อยู่ๆ ก็ร้องไห้ฟูมฟายขึ้นมาเป็นอะไรยะ"
"ก็ฉันยังไม่มีบัตรเลย แง แง แกไม่เข้าใจหรอกว่ามันจี๊ด"
"เออ! ไม่เข้าใจแน่ๆ เพราะตอนนี้ ฉันกำลังตกหลุมรักพี่เบิร์ด เอ็นดูพี่บี้ แอบปลื้มน้องโตโน่ ฮุฮุ แต่อันที่จริงตอนนี้คนที่มาแรงแซงโค้งเล่นเอาฉันฝันหวานไปหลายคืนก็คือพ่อหน้าขาวสุดหล่อที่ฉันเจอที่โรงพยาบาลต่างหาก คนอะไรไม่รู้หล่อกระชากใจ มองมุมไหนก็เกาหลี แถมฉันพอรู้แล้วด้วยว่าเขาเป็นใคร เฮ่อ! ใครจะไปคิดว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้"
ในขณะที่ยัยหญิงทำท่าฝันหวาน ฉันก็เริ่มร้องไห้อีกครั้งให้กับดวงชะตาที่เหมือนพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกพระอังคารจะแหวกสาแหรกขาดคามือ (ไม่น่าเกี่ยว) อยู่ๆ ห้องข้างๆ ก็ส่งเสียงกรี๊ดกันลั่น และไม่นานก็กลายเป็นห้องฉันเองที่ส่งเสียงกรี๊ดบ้างสงสัยงูเหลือมจะหลุดมาจากสวนสัตว์ของห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ มหาลัยหรือไงถึงกรี๊ดได้ใจกันขนาดนั้น และเมื่อสาเหตุของการเกิดเสียงในครั้งนี้ปรากฏตัวขึ้น ก็เป็นอันว่าไม่ใช่งูเหลือมแต่อย่างใด แต่กับเป็นผู้ชายหล่อโฮกฮากร่างสูงหน้าใสที่มีดีกรีความหยิ่งสุดๆ เป็นเงาตามตัวเดินเข้ามาในห้องฉันพร้อมกับตัวปลิง เฮ้ย! ใยคิกกี้จอมเว่อร์เกาะแข้งเกาะขามาด้วย ดูท่าแล้วจะเกาะไม่ปล่อยซะด้วยถ้าฟ้าไม่ร้อง (คนนะยะไม่ใช่เขียดตะปาด)
"นั้นมัน…" หญิง
"นาย!" ฉัน
"เอ้า! รับไว้สิ"
ผู้มาเยือนโยนถุงเล็กๆ ใส่หน้าฉัน ดีนะที่ฉันเคยดูบางกอกกังฟูมาเลยรับถุงนั้นไว้ได้อย่างหวุดหวิด ฉันเลิกคิ้วทำหน้าอย่างงๆ หวังว่าคงไม่ใช่ระเบิดนะ หรือว่าจะเป็นบัตรคอนเสิร์ต
"ถุงอะไรของนาย"
"ก็สิ่งที่เธอต้องการไง รู้มั้ยกว่าจะได้มายากขนาดไหน รู้งี้ฉันเสียเงินล้านดีกว่า"
"เว่อร์น่า"
"ลองไปซื้อดูบ้างมั้ยล่ะ ขนาดฉันสูงยาวเข่าดีรูปหล่อพ่อรวย ยังไม่มีใครยอมหลีกทางให้ฉันสักคน"
พูดจบเขาก็เตรียมหันหลังกลับถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเหมือนคนมั่นใจตัวเองสูงแต่เอาเข้าจริงๆ เวลาต้องมาบุกดงผู้หญิงที่มีไม่ต่ำกว่าสี่สิบคนก็เล่นเอาเขาดูเสียการทรงตัวไปเหมือนกัน
"เดี๋ยวสิคะ คิกกี้พามาแล้วคุณต้องทำตามที่สัญญาด้วย"
ยัยคิกกี้หน้าสวยที่เกาะแขนไอ้หน้าหล่อเหมือนปลิงดูดเลือดดึงแขนของเขาที่เกาะไว้แน่นหนาประหนึ่งว่ากลัวใครจะมาพรากเธอไปจากเขา แถมพูดจาออดอ้อนทวงคำสัญญาที่ฉันพอเดาได้เลยว่าเขาคงให้เธอช่วยนำทางมายังห้องที่ฉันเรียนอยู่แน่ๆ แหม! ยัยคลุกขี้ เฮ่ย! คิกกี้นี้ก็ช่างแสนรู้จริงๆ ว่าฉันเรียนอยู่ห้องไหนน่าเอาไปเลี้ยงไว้ที่บ้านสักตัวแสนรู้เกิ๊น
"ฉันไปสัญญากับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่"
พูดจบเขาก็สลัดแขนคิกกี้แล้วเดินจากไปอย่างไม่สนใจใยดี จนเธอถึงกับปรี๊ดแตกลั่นห้องที่โดนเขาหลอกใช้ สร้างความตลกขบขันให้กับผู้เห็นเหตุการณ์จนเธอต้องรีบแจ้นออกจากห้องฉันแทบไม่ทัน
แต่ในขณะที่ฉันกำลังจะเปิดถุงนั้นดูจู่ๆ ยัยหญิงก็วิ่งพรวดพลาดออกจากห้องไปเฉยๆ โดยไม่บอกฉันสักคำว่าจะไปไหนสงสัยจะปวดท้องมั้งฉันมองตามหลังเพื่อนอย่างงงๆ แต่ก็ไม่ได้วิ่งตามไปเพราะมัวแต่อยากจะรู้ว่าในถุงนั้นมีสิ่งที่ฉันหวังไว้หรือเปล่า แต่พอเปิดดูน้ำตาฉันก็แทบจะทะลักออกมา
อ๊ายยยยยยยยย!!!
"นี่มัน…" ถุงยางอนามัยนี่หว่า ไอ้โรคจิตเอามาให้ฉันทำม่ายยยยยยยยยยยยย >///<
"ในนั้นมีอะไร ไหนๆ ขอดูบ้างสิ"
ในขณะที่ฉันกำลังอึ้ง ทึ่ง ตาลเพื่อนอีกคนในกลุ่มก็ฉวยโอกาสแย่งเอาถุงออกไปจากมือฉัน
"ไม่จริ๊งงงง~O[]o ทำไมในถุงนี้ถึงเป็น…"
"แกจะแหกปากให้ได้โล่หรือไงมันไม่ใช่อย่างที่แกคิดนะ"
ให้ตายเถอะบัตรก็ไม่ได้แถมเพื่อนอาจจะเข้าใจผิดอีก แล้วจะทำไงต่อละ ฮึย!! ฉันละอยากจะหักคอนายจริงๆ แต่ฉันมีเบอร์เขานี่ทันทีที่ฉันนึกออกฉันก็รีบกดเบอร์โทรหาเขา ไม่นานเกินรอปลายทางก็รับสาย
(ฮัลโหล)
"นาย…มันไอ้โรคจิตฉันบอกจะเอาบัตรคอนเสิร์ต Monster King ไม่ใช่ถุงยางอนามัยรสรวม
กล้วยนาๆ พันธุ์"
(เฮ่! ใจเย็นๆ เธอพูดให้ชัดๆ สิ ว่าในถุงเป็นอะไร )
"ถุง-ยาง-อนามัย >O< ชัดพอมั้ย"
(เป็นไปได้ยังไง! หรือว่าถุงใบนั้นเป็นของ…)
"จะเป็นของใครฉันไม่สน แต่ที่ฉันสนคือบัตรคอนเสิร์ตของช้านนนนนน TOT"
(เอาอย่างนี้ เธอลงมาหาฉันข้างล่างฉันยังไม่ได้ออกจากมหาลัย)

ไม่กี่นาที่ฉันก็เดินสามขาออกมาจากลิฟต์ โดยที่ทิ้งให้ตาลรับหน้าแก้สถานการณ์ เพราะตอนนี้ห้องเรียนของฉันกลายเป็นห้อง ทอล์ก ออฟ เดาะ ทาวน์ ถึงการมาของชายหล่อนิรนาม จากนั้นฉันก็เดิน กระโผลกกะเผลกจนเห็นรถคันหนึ่งจอดอยู่ ไม่ต้องเห็นหน้าคนขับก็รู้ว่าเป็นใคร ไอ้รถหน้าตาแปลกๆ แบบนี้คงมีคันเดียวในประเทศไทยเท่านั้นแหละ ฉันมั่นใจว่าต้องเป็นรถไอ้หน้าหล่อแน่ๆ แล้วก็จริงๆ เมื่อเขาลดกระจกเผยให้เห็นหน้าหล่อๆ แต่กำลังได้ฉายาใหม่จากฉันว่าไอ้โรคจิต
นายกล้าดียังไงถึงเอาของแบบนี้มาให้ฉัน~ o[]O สักครั้งฉันก็ยังไม่เคยแถมแฟนก็ไม่มีแล้วจะเอาไปใช้กับใครล่ะ แง
"ฉันอธิบายได้ ขึ้นรถสิ"
ทำไมต้องอธิบายในรถด้วย พูดตรงนี้ก็ได้
"ไปกับนายเนี่ยนะ" ไม่มีทางซะหรอกฉันไม่บ้าพอจะขึ้นรถไปกับผู้ชายที่โยนถุงยางมาให้ฉันเด็ดขาดแล้วฉันก็ไม่ต้องการคำอธิบายด้วย ฉันต้องการแค่บัตรเท่านั้นเรื่องอื่นไม่สนใจ
"ถ้าเธออยากได้บัตรเธอก็ต้องไป ฉันว่าเธอคงรู้ว่าบัตรขายหมดเกลี้ยงไปแล้ว"
เอร๊ย! กล้าดียังไงเอาบัตรมาล้อให้ฉันไปด้วย แต่พอมารู้ตัวอีกทีฉันก็ขึ้นมานั่งตัวตรงอยู่บนรถเขาไปแล้ว
ว่าแต่ฉันสนใจพี่เกลมากกว่าความปลอดภัยของตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ถึงใจกล้าหน้าด้านไปกับผู้ชายที่แม้แต่ชื่อก็ยังไม่รู้จัก (เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีน้องๆ หนูๆ อย่าลอกเลียนแบบนะจ๊ะ) ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ นึกโกรธตัวเองอยู่เหมือนกัน
เอี๊ยดด ~
หลังจากที่เขาพาฉันนั่งรถมาสักพักเขาก็มาจอดที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งในย่านใจกลางกรุง แต่ไหงทะ…ทำไมพาฉันมาในที่แบบนี้ละ หรือว่าเขาจะคิดมิดีมิร้ายกับฉัน โอ! ไม่จริ๊งงงงงงงงงงง ⊙﹏⊙∥ ใครก็ได้ช่วยฉันที ฉันไม่น่าตามเขามาเลย แง แง ชักกลัวถึงเขาจะหล่อแต่ฉันก็ไม่เต็มใจนะ ฮือ
"นะ…นายคิดจะทำอะไร"
"ก็มาเอาบัตรคืนให้เธอไง"
"แล้วทำไมต้องที่นี่ด้วย " (-_-+ )( : -_-) มองซ้ายมองขวาไม่น่าไว้ใจ
"ฉันยังไม่บ้าพอมีอารมณ์กับผู้หญิงที่เดินสามขาอย่างเธอหรอกน่า ลงมาเถอะ แต่ถ้าขืนช้ากว่านี้ก็ไม่แน่นะ"
แง ถึงขาฉันจะใช้การไม่ได้ไปหนึ่งข้าง แต่ส่วนอื่นๆ ในร่างกายมันยังใช้งานได้ดีอยู่เพราะฉะนั้นฉันไม่ขอเสียงดีกว่าอะไรมันก็เกิดขึ้นได้
"ฉันรออยู่ในรถได้มั้ย"
"ลงมา"
"พลีสสส -。o0○ "
"เดี๋ยวนี้"
"โนเวสะเปเร"
"ภาษาอะไร?"
"เขาเรียกว่าภาษาจำเพาะ"
"จำเพาะเธอน่ะสิ"
"จะยังไงก็ช่างเถอะ สรุปฉันไม่ไปนะ"
เซทถึงกับถอนหายใจอย่างเหลืออด
"ที่ฉันให้เธอไปด้วย เธอจะได้เข้าใจว่าไอ้ของที่อยู่ในถุงนั้นมันไม่ใช่ของฉัน แล้วฉันก็ไม่ใช่พวกโรคจิตด้วย เพราะฉะนั้นกรุณาลง!"
ฉันก็ไม่ได้ว่านายโรคจิตแค่สันนิษฐานในใจเฉยๆ ว่าใช่
"โอเค ไม่เห็นต้องทำเสียงเข้มขนาดนั้นก็ได้" แต่เวลาหมอนี่ทำหน้าดุน่ากลัวชะมัดฉันรู้สึกได้ถึงรังสีความน่ากลัวที่ฉายแสงขึ้นในดวงตาคู่สวยนั้นทำไมเขาช่างดูมีอำนาจอย่างบอกไม่ถูก แล้วที่สำคัญทำไมฉันต้องกลัวไอ้หมอนี้ด้วย แงง
ในที่สุดฉันก็ต้องเดินสามขาตามเขาขึ้นลิฟต์ไป โรงแรมนี้หรูหราอลังการงานสร้างมากต้องมีแต่เฉพาะพวกเศรษฐีเท่านั้นถึงจะพักที่นี่ได้
"จะยืนติดเป็นผีสิงอยู่ในลิฟต์นั้นไม่ยอมออกมาใช่มั้ย"
"ไม่ไปได้มั้ยอ่า"
"อย่างอแงสิ ถ้าฉันคิดจะทำอะไรเธอที่อื่นก็ได้สามร้อยห้าสิบก็นอนได้แล้วไม่จำเป็นต้องเป็นที่นี้หรอก"
ก็น่าคิดนะ แต่มันก็ไม่มั่นใจอยู่ดี
"จะเอามั้ยบัตรอะ"
"เออๆ ก็ได้ "
ฉันเดินออกจาลิฟต์แล้วเดินตามเขาไป เขาเดินผ่านไปหลายห้องก่อนจะมาหยุดที่หน้าห้อง 907 เขาเคาะประตูอยู่พักใหญ่แต่ก็ไร้เสียงตอบรับใดๆ จากข้างในเขาก็เลยตัดสินใจใช้การ์ดรูดไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก แต่โอ๊ะโอ! ช่วยบอกฉันทีว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงมีเสื้อผ้า แล้วก็ชุดชั้นในเกลื่อนกลาดทั่วห้องไปหมด เอร๊ย!! แล้วนั้นกางเกงลิงผู้ชายใช่ม่ายยยยยยยยยย >///< ทำไมถึงมาจอดทิ้งเรี่ยราดแบบนี้ล่ะ สถานที่บ่งบอกถึงสถานการณ์ว่าข้างในห้องน้ำคงจัดหนักกันชุดใหญ่ ยิ่งเสียงชวนสยิวกิ้วที่ดังรอดออกมาพร้อมกับเสียงน้ำซ่าๆ ยิ่งจินตนาการได้ไกลเลยว่าข้างในคงจะกำลังเปิดศึกหนักจัดเต็ม แง! ไม่องไม่เอามันแล้วบัตรเผ่นดีกว่า แต่ฉันยังไม่ทันได้ขยับไปไหน ไอ้หน้าหล่อก็พูดขึ้นซะก่อน
"รอฉันอยู่ตรงนี้"
อ๋อ! เชิญเลยค่ะตามสบายเพราะฉันไม่อยากเดินเข้าไปในเขตอันตรายนั่นอยู่แล้ว โดยเฉพาะสถานการณ์แบบนี้แถมต้องมายืนอยู่ข้างๆ คนหล่อแอบจิต เอาไงดีฉันไม่กล้ามองหน้าเขาเลยส่วนเขาก็ดูเหมือนอึ้งๆ อยู่เหมือนกัน หลังจากเสียงสยิวดังขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานเสียงก็สงบลง (บรรยายซะแทบเห็นภาพ) หลังจากนั้นสักพักเจ้าของเสียงก็เดินออกมาในสภาพที่เปลือยเปล่าล่อนจ้อนทั้งชายทั้งหญิง และเมื่อผู้หญิงหุ่นเซ็กซี่กับผู้ชายหน้าตาดีที่กำลังเดินล่อนจ้อนโชว์เจ้าโลก แต่พอเขาเห็นฉัน และฉันก็เห็นพวกเขาเต็มสองลูกตาชัดเจนสามมิติแบบที่ไม่ต้องใส่แว่น ทุกอย่างก็เหมือนถูกสตาฟเวลาหยุดหมุนไปสามวิก่อนที่ทุกคนจะร้องขึ้นด้วยความตกใจอย่างพร้อมเพรียงกัน
อ๊ายยยยยยย !!!!
เฮ้ย!!!!
กรี๊ดดดดดดด!!!
วี้วอ~วี้วอ~วี้วอ~
ใครก็ได้ช่วยฉันทีหัวใจฉันกำลังจะหยุดเต้น เพราะฉันสัมผัสได้ถึงแรงเต้นที่มันน้อยลงๆ เรื่อยๆ ตอนนี้ร่างกายฉันเริ่มเบาหวิว สติหลุดลอยไปอยู่ ณ แห่งหนใด รีบกลับมาด่วนก่อนที่ฉันจะเป็นลมล้มคว่ำคะมำหงายอยู่ตรงนี้
"ไอ้เซทแกเข้ามาได้ไงวะ!"

สิบนาทีต่อมา~
ในที่สุดฉันก็เริ่มได้สติกลับคืน หลังจากที่ขึ้นมานั่งอยู่ในรถได้สักพัก ความช็อกก็เริ่มเสื่อมสลายหายไปเปลี่ยนเป็นความโกรธแทน นี่มันอะไรกัน! ทำไมไอ้หน้าหล่อต้องพาฉันเข้าไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นด้วย แล้วพรุ่งนี้ฉันจะเป็นตากุ้งยิงมั้ยอะ
"บัตรคอนเสิร์ตของเธอ"
เขายื่นบัตรให้ฉันก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องแล้วแล่นชิ่วออกไปสู่ถนนใหญ่ข้างหน้า
"ไอ้ชินมันหยิบถุงผิดไป แล้วที่ฉันพาเธอมาที่นี่ก็แค่อยากให้เธอเข้าใจว่าฉันไม่ใช่โรคจิต แต่ฉันไม่ได้คิดว่า ไอ้ชินมันจะกำลัง…"
"ช่างเถอะฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว"
"แล้วนี่จะให้ฉันไปส่งที่ไหนหรือว่าจะกลับมหาลัย"
"ส่งฉันที่ป้ายรถเมล์ก็ได้"
"สภาพแบบนี้จะขึ้นรถเมล์มีหวังได้ใส่เฝือกอีกข้างแน่" แล้วใครมันทำให้ฉันต้องมามีสภาพแบบนี้ล่ะยะ ฮึ่ม!!
"ไปส่งฉันที่หมาลัยก็ได้"
"ก็แค่นั้น"





lovezombie
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ม.ค. 2557, 13:41:39 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ม.ค. 2557, 13:41:39 น.

จำนวนการเข้าชม : 939





<< บทที่ 2   บทที่ 4 >>
หมูโกโก้ 25 ม.ค. 2557, 16:08:21 น.
นั่งอ่านมาสามชั่วโมงเเล้วไม่เบื่อ จะคอยคอมเมนต์


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account