นางร้ายเจ้าน้ำตา
ชีวิตของมินตราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฝันไว้ว่าจะดีขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเจอแต่อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ทุกอย่างก้าว ดีที่ได้มีโอกาสเจอเขา...คิลเลี่ยนหนุ่มลูกครึ่งชาวอังกฤษก็คอยช่วยเหลือ เป็นหลักให้เธอได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หนทางรักที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่จะจบด้วยความสมหวัง
Tags: นางร้าย

ตอน: Crying Villain ตอนที่ 3

นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 3

เมื่อไม่ได้อยู่กับครอบครัว มินตราก็ไม่รู้จะทำอะไร ปกติอยู่บ้านก็จะทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าวกับปลาให้พ่อแม่กิน ตอนนี้เธอก็ไม่รู้จะเอายังไงดี ได้แต่แต่งตัวเซ็กซี่แล้วเดินไปเดินมาในห้องชุด

“ไม่นัดเพื่อนไปกินข้าวล่ะ” คิลเลี่ยนมองหล่อนทำงานบ้านที่แทบจะไม่มีให้ทำจนเสร็จแล้ว ก็เห็นเธอนั่งเปลี่ยนช่องไปมาหลายช่องไปมา ส่วนเขาก็ยุ่งกับอินเตอร์เนตความเร็วสูงที่ชวนปวดหัวของเมืองไทย

“นัดแล้วค่ะ แต่เขาไม่ค่อยว่างกัน แต่ละคนทำงานยุ่งจะตาย” มินตราบอกแล้วถอนหายใจยาว คิดหาอะไรทำเพิ่มอีก เผื่อจะมี แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไร งานออกแบบก็ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เพราะยังไม่ได้เริ่มงาน

“จะบอกว่าพี่เป็นสามีที่ไม่ดี ไม่พาเธอไปเที่ยวว่างั้นเถอะ” คิลเลี่ยนพูดเล่น เห็นเธอหัวเราะก็เปลี่ยนเป็นอ่านหนังสือพิมพ์แทน

“หนังสือพิมพ์ธุรกิจมีอะไรน่าอ่านเหรอคะ” มินตราเห็นเขาอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจอยู่เป็นประจำ ไม่เข้าใจว่านักเปียโนอย่างเขาจะอ่านมันไปทำไมให้ปวดหัว

“สนุกสิ จะได้อ่านข่าวนักธุรกิจล้มละลายไงล่ะ” คิลเลี่ยนพูดติดตลกแล้วก็มองเธอหัวเราะ

“พี่เนี่ย จะโกรธแค้นอะไรพ่อนักหนาคะ ยังไงก็พ่อนะคะ” มินตราพูดไม่ให้เขาเจ้าคิดเจ้าแค้น ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจนักธุรกิจเท่าไร เพราะแทนภาพลักษณ์ของพ่อเขา

“พ่อพี่ไม่ได้ทำอะไรหรอก แต่เพราะไม่ทำอะไรเนี่ยแหละ ปล่อยให้พี่โดนเมียเขาทำร้าย เฮ้อ ช่างเถอะๆ หิวไหม ออกไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันเถอะ แนะนำด้วยร้านไหนอร่อย อาหารไทยนะ” คิลเลี่ยนพับหนังสือพิมพ์แล้วลุกขึ้นไปหยิบกุญแจ ก่อนหันมามอง “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ”

“ไปชุดนี้ไม่ได้เหรอคะ” มินตราไม่เห็นว่าเสื้อผ้าเธอจะแย่แค่ไหน ก็ยังเป็นเสื้อผ้าที่เขาหาให้ใส่อยู่ดี

“ไปเถอะน่า เผื่อบังเอิญเจอไอ้โชติ มันจะได้มองเธอตาเยิ้มๆ เสียดายเธอมากๆ ไง” คิลเลี่ยนยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

“โธ่ พี่ เสื้อผ้าที่พี่พาไปซื้อก็ใช่ว่าจะต่างกันที่ไหน แถมแพงๆ ทั้งนั้น” มินตราบ่นเล็กน้อย ก่อนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่เขาบอก แต่เธอเป็นคนแต่งตัวเร็ว แต่งหน้าก็เร็ว เพราะอยู่หลังเวทีบ่อยๆ ต้องรีบทำ

พอเธอออกมา คิลเลี่ยนก็ยิ้มพอใจ ก่อนจะโอบเอวพาเธอที่รถหรู

“พี่จะพามินต์ไปกินที่ไหนเนี่ย” มินตราถามอย่างงุนงง เมื่อเห็นเส้นทางที่เขาพาไปก็ถามอีก “ไหนว่าให้มินต์แนะนำไงคะ”

“พี่เปลี่ยนใจแล้ว พี่จะพาไปทานที่โรงแรมแฟนไอ้โชติมันทำงานอยู่” คิลเลี่ยนบอกแล้วก็ยิ้มเยาะอย่างมีแผน

“พี่รู้จักแฟนเขาเหรอคะ” มินตราถามอย่างสงสัย ไม่เห็นเขาเคยบอก แต่เขาก็ไม่บอกอะไรเธอหลายอย่าง

“รู้แต่ว่าวันนี้มันจะไปหาแฟนมัน เอาน่า พี่รู้สึกว่าเธอไม่ได้รักมันแล้ว แต่มันยังเสียดายเธออยู่นะ” คิลเลี่ยนคาดเดาได้ถูกต้อง

มินตราก็หัวเราะแล้วก็ส่ายหน้า “ไม่แล้วล่ะค่ะ วันที่เจอหน้ากันอีกรอบ มันทำให้ฉันรู้ว่า เขาไม่ควรค่าให้เสียดาย”

“คิดแบบนั้นแหละดีแล้ว คนดีๆ สิถึงควรเสียดาย ผู้ชายเลวๆ อย่าเก็บไว้ทำให้เราเสียน้ำตา” คิลเลี่ยนเตือนสติเธอด้วยความเป็นห่วง เธอเป็นคนดีเกินกว่าจะต้องโดนทำร้ายให้เสียใจ

“พี่เคยรักใครบ้างไหมคะ” มินตราถามขึ้นอย่างสงสัย ไม่เคยเห็นเขาอกหักสักที

คิลเลี่ยนเงียบคิด นึกถึงแฟนสมัยเรียนมัธยมปลาย แต่ภาพที่ชัดที่สุดกลับเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา ซึ่งก็นั่งอยู่ด้วยตอนนี้ ภาพหญิงสาวแสนเรียบร้อยชวนฝัน

“ไม่มั้ง หรือเคย ไม่แน่ใจ เพราะไม่เคยอยากจะจำ อกหักจำทำไมเสียเวลา” คิลเลี่ยนตอบเลี่ยง โดยมองถนนอย่างระมัดระวัง รถเยอะคนมาก เขาไม่อยากให้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเธอ

“จริงสิคะ แฟนใหม่นายโชติเนี่ยเป็นลูกสาวเจ้าของโรงแรมเหรอคะ” มินตราถามเรื่องอื่นแทน เพราะรู้ว่าถ้าเขาตอบแบบนี้แปลว่าไม่อยากพูดถึง

“ไม่ใช่หรอก เป็นลูกสาวเจ้าของร้านเพชรน่ะ เขามีร้านเพชรที่โรงแรมนี้ด้วย มีหลายสาขานะ แล้วพอดีคนนี้เขาดูแลสาขาที่นี้” คิลเลี่ยนอธิบายความ ก่อนแวะหาที่จอดรถ แล้วลงไปซื้อดอกไม้ที่ร้าน ไม่นานเขาก็กลับมาขึ้นรถ แล้วยื่นให้มินตรา

“อะไรคะ” มินตรามองช่อดอกไม้อย่างงุนงง

“ให้เธอ” คิลเลี่ยนบอกแล้วก็มองถนนแล้วออกรถไปยังโรงแรม โดยไม่ได้มองรอยยิ้มของเธอที่บอกอะไรได้หลายอย่าง แววตาของเธอที่แสดงออกชัดเจน เธอกำลังตกหลุมรักเขา แต่เขาไม่มีทางได้รู้ในเวลานี้

เมื่อถึงโรงแรม คิลเลี่ยนก็พาเธอไปในห้องอาหาร แล้วรอเวลาเท่านั้น เขารู้ว่ายังไงทั้งสองต้องมาทานมื้อเที่ยงแน่นอน เพราะแอบได้ยินเลขาฯ ของโชตินัดแนะให้วันนี้ ตอนที่เขาไปห้องน้ำ

“พี่สนุกมากเหรอคะ” มินตราเห็นเขาดูมีความสุข เธอก็พลอยมีความสุขไปด้วย ไม่เพียงแค่ได้แก้แค้นโชติเท่านั้น การทำให้คนที่มีน้ำใจกับเธอมีความสุข ก็ทำให้เธอมีความสุข

“ก็สนุก แล้วอยากจะสะใจด้วย เอาล่ะ สั่งอาหารดีกว่านะ หิวแล้วนะเนี่ย” คิลเลี่ยนเปลี่ยนเรื่องพูด ก่อนมองมินตราที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนเขาเริ่มรู้สึกว่าสักวันเธออาจไปจากเขา

เขาไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลานั้นจะเป็นยังไง แต่เชื่อได้แน่ว่าเขาต้องเสียใจมากอย่างแน่นอน เพราะเขารู้ว่าความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่เขาไม่กล้าหวังให้มันเป็นจริง เพราะเขารู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนดีพอ

มินตราสั่งอาหารแล้วก็เงยหน้ามองคิลเลี่ยนที่นั่งข้างๆ เธอ โอบไหล่กุมมือเธออย่างคนรัก ก็แอบยิ้มนิดๆ เพราะปลื้มเขาเป็นทุนอยู่แล้ว ต่อให้เป็นแค่ละครฉากหนึ่ง แต่ความสุขไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เมื่อเกิดขึ้นแล้วเธอพร้อมยอมรับ

“ชอบดอกไม้หรือเปล่า” คิลเลี่ยนถามขึ้น พยายามเลือกให้เธออย่างดีที่สุด แม้เธอจะคิดว่าเป็นเพียงของประกอบฉากเท่านั้น หากใจจริงเขาจงใจให้

“ชอบค่ะ ชอบมากด้วย” มินตราบอกตามตรง ต่อให้เป็นเพียงของประกอบฉาก แต่ก็คือช่อดอกไม้จากเขา

“ดีแล้วล่ะ จะได้คุ้มที่เสียเงินหน่อย” คิลเลี่ยนพูดติดตลก ทำให้เธอหัวเราะ “ดูเถอะ พูดให้โกรธก็หัวเราะ”

“ฉันทนปากพี่ได้หรอกน่า พี่นี่ถ้าลดๆ เรื่องปากร้ายลงหน่อย จะดูดีมากนะคะ” มินตราพูดแล้วก็ถูกเขาขยี้ผมเบาๆ อย่างเอ็นดู

“ปากเธอก็ร้ายน้อยเสียเมื่อไร” คิลเลี่ยนเหลือบไปเห็นโชติเข้ามาพร้อมแฟนสาว ก็เชยคางมินตราเข้ามาใกล้ๆ เหมือนจะจูบแต่ก็ไม่

มินตราถึงกับเคลิ้ม ก่อนคิลเลี่ยนบอกเธอ “โชติมาแล้ว” ทำให้มินตราเสียใจนิดๆ นึกว่าเขาทำเพราะรู้สึกพิเศษกับเธอ แต่เธอก็สวมบทบาทได้ดี แม้จะรู้สึกแย่ไปบ้าง

“มีอะไรเหรอ” คิลเลี่ยนเห็นเธอชะงักไปบ้างก็ขมวดคิ้วสงสัย

“เปล่าค่ะ หิวด้วยค่ะ อาหารมาลงโต๊ะแล้ว” มินตราบอกกลบเกลื่อน ค่อยโล่งใจที่อาหารมาลงโต๊ะ

โชติมากับหวานใจ เห็นคิลเลี่ยนกับมินตราก็ขมวดคิ้ว ไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก เดินไปนั่งตามโต๊ะที่บริกรพาไป ซึ่งเขาไม่รู้ว่าคิลเลี่ยนให้เงินบริกรพาไปนั่งไม่ห่างจากเขา ในจุดที่พอมองเห็นเขากับมินตรา แต่ไม่ได้ยินสิ่งที่เขากับมินตราพูด แล้วเขาก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นโชติ

คิลเลี่ยนปล่อยให้มินตราป้อนอาหาร ส่วนเขาก็ลูบไหล่เธอตลอดเวลา ราวกับเป็นเจ้าของที่ถูกต้อง แสดงนัยยะให้โชติเข้าใจว่าเขาได้ครอบครองร่างกายเธอ และทำให้เธอรักมากกว่า ขณะที่มินตราดูเชิดหน้าและเย่อหยิ่งมาก แต่ก็คอยบริการสามีอย่างเต็มที่ ทำให้โชติหงุดหงิดมากขึ้น

“เป็นอะไรเหรอคะ พี่โชติ” หวานใจถามขึ้น เห็นเขามองไปที่โต๊ะคนแปลกหน้าสำหรับเธอ

“อ๋อ นั่นน่ะ พี่ชายคนละแม่ของพี่เอง” โชติบอก เพราะไม่เห็นประโยชน์ที่จะโกหก ถึงยังไงเธอก็ต้องรู้จักคิลเลี่ยนในงานวันเกิดของย่าเขาอยู่แล้ว

“อ๋อ แล้วพี่จะเข้าไปทักทายเขาไหมคะ” หวานใจถามขึ้น แล้วก็มองเห็นชายลูกครึ่งคนนั้นกำลังโอบไหล่สนิทสนมกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ “ไม่เห็นพี่พูดถึงเลยว่ามีพี่ชาย”

“จำไม่ได้เหรอ ตอนหวานไปบ้านพี่ เห็นภาพหมู่ครอบครัว มีเด็กลูกครึ่งอยู่ในภาพด้วยนะ” โชติพยายามย้อนความจำของเธอ

“อ๋อ จำได้แล้วค่ะ แต่ตอนนั้นไม่เห็นพี่บอกว่าใคร” หวานใจมองให้ชัดอีกครั้ง เห็นคิลเลี่ยนหน้าตาดีกว่าโชติมาก แต่ก็เข้าใจได้เพราะเป็นลูกครึ่ง จึงถามอย่างสงสัย “แล้วเขาไปอยู่ที่ไหนมาเหรอคะ”

“เขากลับไปอยู่กับแม่เขาที่อังกฤษตั้งแต่อายุสิบห้าแล้วล่ะ หลังถ่ายรูปนั้นไม่นานน่ะ เราสั่งอาหารกันเถอะจ๊ะ หวาน” โชติรีบเอาใจหวานใจเพราะเธอชักถามมากขึ้น

สายตาเขากลับมองไปยังมินตราที่กำลังป้อนคิลเลี่ยน จากนั้นก็เห็นเธอหัวร่อต่อกระซิกกับอีกฝ่าย ผิดกับตอนอยู่กับเขา หล่อนทำท่าทางอายๆ ดูเรียบร้อยมาก หากตอนนี้เธอดูร่าเริงขึ้น ปล่อยให้คิลเลี่ยนหอมอยู่ตลอดเวลา คิลเลี่ยนก็ดูท่าทางน่าหมั่นไส้ ทำเหมือนข้าวใหม่ปลามันจนเกินไป ใจเขาก็ร้อนปุดๆ

มินตราทานอาหารไปพัก ก็ขอตัวไปห้องน้ำ คิลเลี่ยนแค่พยักหน้าช้าๆ ปล่อยเธอไปทำธุระ

มินตราเลี้ยวเข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัวแล้วก็มองตัวเองในกระจก ยิ้มให้ตัวเองเล็กน้อย แล้วก็ออกจากห้องน้ำ หากก็ตกใจเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าโชติจะมายืนรออยู่

“ไงครับ มินต์” โชติทักทายทันทีที่มีโอกาสจะได้คุยกับเธอตามลำพัง

“สวัสดีค่ะ” มินตรายกมือไหว้อย่างขอไปที แล้วก็ขอตัว “ขอตัวก่อนนะคะ”

โชติกลับขวางไว้ แล้วพยายามยิ้มให้อย่างเป็นมิตร “ไม่คิดว่าจะเจอมินต์ที่นี่”

“มีอะไรเหรอคะ” มินตราทำเฉย แกล้งไม่รู้ว่าเขาจะมาที่นี่

“เปล่าหรอก พี่ก็แค่อยากทักทายเท่านั้นเอง มินต์ไม่ให้โอกาสพี่พูดด้วยเลยเหรอ” โชติพยายามออดอ้อนอยากเลียบเคียงถามเธอให้ชัดเจน

“พูดจบแล้วใช่ไหมคะ ขอตัวค่ะ สามีฉันรออยู่” มินตราขอทางดีๆ แต่โชติยังคงขวางทางไว้ จนกระทั่งแม่บ้านมาดูแลความสะอาดห้องน้ำ เธอก็มีช่องก็รีบเดินหนี แต่ไม่ได้สาวเท้าเร็วๆ แค่เดินไปเรื่อยๆ เท่านั้น โชติจึงตามมาทัน

“มีทางไหนที่พี่จะทำให้มินต์หายโกรธพี่ แล้วเราเป็นเพื่อนกันได้ไหม” โชติพยายามสานต่อความสัมพันธ์ที่เคยตัดทิ้งไป เพราะเบื่อจะรอหล่อนใจอ่อน เมื่อไม่มีท่าทีอย่างนั้นเลย เขาก็ต้องหาทางอื่นอีก

มินตราไม่ตอบ เดินไปหาคิลเลี่ยน เมื่ออยู่ในระยะที่หวานใจจะมองเห็น โชติก็ต้องถอยไปก่อน

“ไอ้โชติมันตามไปเหรอ” คิลเลี่ยนถามเพราะเห็นเธอมาช้า เดาเรื่องได้และเห็นสีหน้าไม่พอใจของมินตราอย่างชัดเจน

“ใช่ค่ะ มาตามตื้อขอคุยด้วย เพิ่งรู้นะคะว่าท่าทางแบบนั้นมันน่ารำคาญ เมื่อก่อนเขาก็ตื้อแบบนี้ แต่ไม่คิดว่าจะน่ารำคาญได้อย่างนี้” มินตราบอกคิลเลี่ยนแล้วถอนหายใจยาว “พี่อิ่มหรือยังไงคะ เรากลับกันไหม”

คิลเลี่ยนเห็นเธอไม่สนุก เขาก็ไม่อยากจะฝืนใจเท่าไรนัก หยอดวันละเล็กละน้อยก็สะใจพอประมาณ

“หวานใจ เธอไม่ไปเฝ้าร้านเหรอจ๊ะ” เสียงที่มินตราคุ้นๆ ดังขึ้น

มินตราก็หันไปมองต้นเสียง เห็นผู้หญิงคนหนึ่งก็จำได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ตอนกลับมาเคยโทรไปหา เพื่อนไม่รับสาย ยังคิดว่าคงยุ่งมาก แต่เพื่อนก็ไม่โทรกลับ หากคงไม่แปลก เพราะเธอไม่ได้ใช้เบอร์เดิม

“ศนิก็ คนทำงานก็ต้องมีพักบ้างสิ” หวานใจตอบเพื่อนอย่างสนิทสนม

มินตราหันกลับมาแล้วโทรหา แต่มองแล้วศนิไม่ยอมรับสาย แล้วเธอก็ส่งข้อความไปว่าเบอร์ที่สามารถติดต่อเธอได้ที่เมืองไทย แต่ศนิดูไม่ใส่ใจนัก

“อะไรเหรอ ศนิ” หวานใจถามเพราะเห็นเพื่อนมองข้อความอย่างไม่ใส่ใจนัก

“คนรู้จักน่ะ แค่คนเขาไม่รับสาย ไม่โทรกลับ ไม่สนใจ น่าจะรู้ได้แล้ว” ศนิพูดชัดเจน เพราะตั้งแต่โชติเลิกรากับมินตรา เธอก็ไม่คิดจะคบกับเพื่อนอีก เพราะอยากอยู่ในวงสังคมที่ทุกคนมีหน้ามีตา

เดิมทีเธอรู้จักกับมินตราก่อน คบกันเรื่อยมาตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียนศิลปศาสตร์ด้วยกัน จนกระทั่งมินตราคบหากับโชติ ก็ทำให้เธอได้เข้าสังคมไปด้วย เธอได้รู้จักแฟนคนปัจจุบันที่คบหากันมานานเท่ากับมินตรากับโชติ และแฟนเธอก็เป็นไฮโซ รู้จักกับโชติดี ทำให้เธอเลือกเพื่อนได้ไม่ยากนัก

“ขอบคุณที่บอกออกมาตรงๆ” มินตราพูดขึ้นด้านหลังศนิ ก่อนหันหลังแล้วเดินไปหาคิลเลี่ยน “คิดเงินเสร็จแล้วใช่ไหมคะ กลับกันเถอะค่ะ”

ศนิตกใจไม่คิดว่ามินตราอยู่ที่นี่ด้วย แต่ก็ยักไหล่ ไม่อยากสนใจนัก เพราะไม่ใช่ไฮโซที่ไหน แถมมินตรายังเป็นแค่ลูกข้าราชการต๊อกต๋อยและแม่ก็เป็นแค่แม่ค้าขายขนม หากตอนนี้มินตราไม่เหมือนเดิม แต่งเนื้อแต่งตัวทันสมัยและควงหนุ่มลูกครึ่งด้วย แต่ยังไงก็แค่คนต่างชาติ ไม่ได้อยู่ในวงสังคมเดียวกัน

“เดี๋ยวสิ มินต์” โชติเห็นมินตราโกรธก็รีบเรียกเอาไว้ แล้วพาหวานใจไปทักทายคิลเลี่ยนด้วย

มินตรายืนรอคิลเลี่ยนจ่ายเงิน ท่าทีเมินเฉยกลบเกลื่อนความโกรธที่เพื่อนทำทีเลิกคบได้หน้าตาเฉย

“นั่งลงก่อนเถอะ ที่รัก ยืนทำไมเมื่อยจะตาย” คิลเลี่ยนบอกให้เธอนั่ง เธอก็นั่ง ก็รู้ว่าหล่อนอารมณ์ไม่ดีมาก

“นี่หวานใจแฟนผม นี่คิลเลี่ยน พี่ชายต่างแม่ของผม” โชติแนะนำให้ต่างฝ่ายต่างรู้จัก

คิลเลี่ยนยื่นมือออกมาจับมือกับหวานใจตามมารยาทตะวันตก หวานใจก็จับมือด้วย ก่อนเขาปล่อยแล้วโอบไหล่มินตราที่อารมณ์ไม่ดี เขาก็แค่รอดูเหตุการณ์เท่านั้น

ศนิจึงพูดด้วยอย่างเสียไม่ได้ “กลับมาเมืองไทยก็ไม่บอก เบอร์แปลก ฉันไม่ค่อยรับ เธอไม่รู้เหรอ”

คิลเลี่ยนได้ยินที่มินตราพูดเหมือนกัน จึงพูดกับอีกฝ่ายอย่างมีมารยาท “รู้จักกับภรรยาผมด้วยเหรอ”

ศนิได้ฟังเป็นอึ้ง ก่อนถามมินตรา “นี่เธอแต่งงานแล้วเหรอ เร็วจัง เพิ่ง...เอ่อ เลิกกับแฟนเก่าไม่ถึงปีไม่ใช่เหรอ”

“ธุระอะไรของเธอไม่ทราบ” มินตราตอกกลับอย่างไม่ไยดี

“ตอบดีๆ ก็ได้นี่ ทำไมต้องยอกย้อนด้วย” ศนิก็อารมณ์เสีย เมื่อเพื่อนตีรวน

“ภรรยาผมเขาเจอเรื่องมาเยอะครับ” คิลเลี่ยนบอกแล้วไม่สนใจทั้งโชติและหวานใจ ที่พร้อมใจมายืนอออยู่ที่โต๊ะเขา ก่อนเซ็นชื่อแล้วขอตัว “ขอตัวพาภรรยาไปปลอบให้อารมณ์ดีก่อนนะครับ เวลาผมปลอบ เธอจะอารมณ์ดีมากเสียด้วย ก็อย่างว่านะครับ อะดีนาลีนหลั่งออกมาเยอะ ต้องอารมณ์ดีเป็นธรรมดา สวัสดีครับ”

คิลเลี่ยนพูดอย่างมีนัยยะ แล้วโอบพามินตราลุกไปจากโต๊ะ แล้วพาออกไปจากห้องอาหาร ขณะที่มินตราโกรธจึงไม่อายในสิ่งที่เขาพูด และเดินตามแรงเขาไปอย่างเมินเฉย

“ปลอบยังไงเหรอ” หวานใจเป็นงงที่สุด ทำให้ศนิส่ายหน้าช้าๆ แล้วกระซิบบอกจนหวานใจหน้าแดงตีเพื่อนเข้าให้ “ไม่ใช่มั้ง”

“ใช่แหละ ยัยมินต์นี่มันก็ไวไฟนะ เลิกแฟนเก่าไม่ทันไร มีสามีเสียเลย เพิ่งเลิกได้ปีกว่านี่เองนะ หาคนดามใจได้เร็วจริงๆ” ศนิวิจารณ์อย่างสงสัย

“เขาอาจจะเห็นว่าคนใหม่น่าสนใจกว่า ก็เลยเลิกกับแฟนเก่าเขาก็ได้ สมัยนี้เขาคบเผื่อเลือกทั้งนั้นแหละจ๊ะ” หวานใจย้อนกลับมานั่งที่โต๊ะตัวเอง แล้วพูดคุยกันตามประสาคนสนิทสนม

ศนิสบตากับโชติ เพราะต่างก็รู้ดีว่าคนที่เลิกคือ...โชติ แค่แปลกใจที่ทำไมมินตราถึงแต่งงานเร็วนักเท่านั้น ส่วนหวานใจก็ไม่รู้เรื่อง เพราะโชติไม่เคยบอกอะไร

*****************************

มินตรานั่งอยู่หน้าแท็ปเล็ตของตัวเองแล้วถอนหายใจยาว เธอน่าจะรู้เพราะดูเหมือนตั้งแต่โชติเลิกกับเธอ ศนิไม่เคยอยู่ในหน้าเฟซบุ๊คของเธอเลย เหมือนคนอื่นก็มีบ้าง แต่เรียกว่าน้อยลง เหมือนโดยเพื่อนทิ้งเสียอย่างนั้น เธอนั่งมองแท็ปเล็ตแล้วก็ตัดสินใจ

‘หนึ่งปีกับการทอดทิ้ง ทรยศ หักหลัง

หมดเวลากับความอ่อนแอ และมีความสุขเสียที’

มินตราขึ้นสถานะแต่งงานที่เฟซบุ๊ค แล้วแอดชื่อของคิลเลี่ยนลงไปด้วย จากนั้นคิลเลี่ยนก็ออกมามองเธอเป็นเชิงถาม

“เอาจริง?” คิลเลี่ยนถามให้แน่ใจ

“ค่ะ ช่วยถ่ายภาพที่เราหวานชื่นเยอะๆ ให้หน่อยได้ไหมคะ ถึงมันจะเป็นเรื่องโกหก แต่มินต์ก็อยากให้คนอิจฉามากๆ” มินตราบอกตามตรง สักพักก็มองโชติเข้ามาเพิ่มเพื่อน ทั้งที่เขาเป็นคนลบเธอออกจากเพื่อนเอง จึงบอกคิลเลี่ยน “นายโชติเพิ่มเพื่อนค่ะ”

“รับเลย” คิลเลี่ยนรีบบอกแล้วก็มองดูว่าโชติจะทำยังไง

มินตราไม่สนใจเท่าไรนัก ก่อนถอดเสื้อนอกออก เผยไหล่ขาว แล้วโอบกอดคิลเลี่ยน ให้คิลเลี่ยนถ่ายภาพตอนเธอจูบแก้มเขาให้ คิลเลี่ยนนึกสนุกทำตาม แล้วโพสต์ทันที

‘สุดที่รัก...รักที่สุด’ คิลเลี่ยนโพสต์ข้อความและติดป้ายชื่อเธอมาด้วย ทำให้ทุกคนที่เห็นเฟซบุ๊คเธอกับเขาต่างก็เห็นความหวานชื่นที่ทั้งคู่แสดงออก

สักพักคิลเลี่ยนหันหน้ามาหามินตรา มองสบตากัน แล้วหันไปมองกล้องถ่ายภาพหน้าแนบชิด แล้วมินตราก็โพสต์ถามขึ้นไปบ้าง

‘มาย โอนลี่ เลิฟ’

สายตาสองคู่ก็สบกันอย่างจัง เหมือนมีแรงดึงดูดเข้าหา ก่อนคิลเลี่ยนแยกก่อน เพราะตอนนี้เธอนั่งบนตักเขาอยู่ ต่างฝ่ายต่างก็มองไปคนละทาง แล้วข้อความก็เข้ามือถือเธอพอดี

‘พี่มินต์ครับ บูมนะครับ’

‘มีอะไรเหรอ บูม’ บรรพ์เป็นคนเดียวที่มินตราไม่ปิดการสนทนาด้วย

‘อยากเจอครับพี่ พ่ออยากคุยด้วย แต่พี่ไม่ได้บอกเบอร์โทรไว้ บอมมันส่งข้อความถึงพี่ พี่ก็คงไม่ได้รับ มันว่าพี่บล็อกมัน’ บรรพ์พิมพ์ข้อความอย่างโล่งใจที่พี่สาวยอมคุยกับเขา

‘พี่ไม่อยากคุยกับใครตอนนี้นะ บูม พี่คิดว่าเงินสามแสนมันคงมากพอให้ทุกคนผลาญเสียให้พอ’

ข้อความของมินตราทำให้บรรพ์สะอึกและสำนึกผิด แอบถอนหายใจ แล้วพยายามสานสัมพันธ์ครอบครัวต่อ

‘พี่ครับ ผมขอโทษแทนพ่อแม่แล้วก็บอมด้วย แต่พี่จะไม่กลับบ้านเราเหรอครับ ผมเห็นพี่ขึ้นว่าแต่งงานแล้ว จริงเหรอครับ’ บรรพ์พยายามรวบรวมความกล้าพูดกับพี่ของเขา โดยมีอีกสามคนยืนอ่านอยู่ข้างหลัง

‘ใช่ พี่แต่งงานแล้ว และก็จะกลับอังกฤษกับสามีพี่ แค่นี้นะ อย่าเซ้าซี้พี่อีก’ มินตราตัดบทน้องชายแล้วไม่สนใจว่าใครจะกดถูกใจภาพเธอกับคิลเลี่ยนอีก

คิลเลี่ยนเห็นเธอทำหน้าทุกข์ใจก็ถาม “เป็นอะไรอีกล่ะ”

“บูมบอกว่าพ่ออยากคุยกับมินต์ แต่มินต์ยังไม่อยากคุยกับใคร” มินตราบอกตามตรง ถอนหายใจ ไม่แน่ใจว่าควรทำยังไงดี

“ก็ไม่ต้องคุย” คิลเลี่ยนตัดสินใจแทนได้อย่างง่ายดาย เพราะเขาไม่สนใจอยู่แล้ว

“ถามหน่อย ถึงพี่ไม่อยากคุยกับพ่อพี่ ถ้าท่านบอกอยากคุยกับพี่ พี่จะคุยกับท่านไหม” มินตราย้อนถามเขาไม่ใช่เพราะอยากกวนประสาทเขา แต่อยากปรึกษามากกว่า

คิลเลี่ยนถอนหายใจยาว ก่อนอธิบายให้เธอได้คิด “พี่ไม่ได้บอกว่าไม่ต้องคุยชั่วชีวิต แค่ตอนนี้ ตอนที่อารมณ์ของมินต์ไม่ดีมากๆ อย่างนี้”

มินตราถอนหายใจอย่างเข้าใจ ก่อนขอโทษ “มินต์ขอโทษค่ะ มินต์พูดไม่ดีเลย ไม่รู้สิคะ มินต์รู้สึกแย่มาก”

“พี่เข้าใจนะ ปีเดียวเจอแทบจะครบทุกอย่าง” คิลเลี่ยนพูดแล้วถอนหายใจยาว ก่อนนั่งลงข้างๆ เธออีกครั้ง

“พี่จะทิ้งมินต์เหมือนคนอื่นๆ ไหมคะ” มินตราถามแล้วรู้สึกเหมือนจะร้องไห้

“ยัยเด็กบ้า ตอนนี้พี่กับเธอจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ผูกมัดกันอีกนานแสนนานแหละ” คิลเลี่ยนบอกแล้วขยี้ผมเธออย่างเอ็นดู

“ผูกมัด? ก็แค่ชั่วระยะหนึ่ง สักวันพี่จะต้องเจอผู้หญิงสาวๆ สวยๆ ก็คงไปหาผู้หญิงพวกนั้น ตอนนั้นพี่ก็คงหย่าจากมินต์ใช่ไหม” มินตราพูดตามความจริง

คิลเลี่ยนโอบไหล่ปลอบ “ก็ไม่แน่ เธออาจจะเจอผู้ชายที่เธออยากจะแต่งงานด้วยมากกว่าพี่ก็ได้ นี่ใจคอจะไม่มองหนุ่มคนอื่นหรือไง”

มินตราครุ่นคิด มาคิดๆ แล้ว อยู่กับเขาก็ใช่ว่าจะเลวร้ายนัก “บางทีสักวันเราอาจจะรักกันก็ได้นะคะ”

“เอาไว้ถึงวันนั้น ค่อยว่ากันนะ” คิลเลี่ยนโอบศีรษะเธอมาซบไหล่เขา โดยไม่รู้เลยว่าความรักที่เขาว่าต่างก็ก่อขึ้นในใจของทั้งสองคน

การจะรู้ใจคนที่ตนเองรักว่ายากแล้ว...การจะรู้ใจตัวเองนั้นยากกว่า...เพราะรักล้นที่บังตาอยู่

*****************************

ท่าทางเอื่อยเฉื่อยของคิลเลี่ยนทำให้มินตรารู้ว่าเขาไม่อยากไปงานนี้แม้แต่น้อย แม้จะเป็นงานวันเกิดย่าเขา จะได้เจออาที่เขาเคารพ แต่เขาก็ไม่อยากไปอยู่ดี

“พี่ไม่อยากไปมากเลยเหรอคะ” มินตราถามเพราะใกล้เวลาแล้วเขาก็ยังไม่ขยับไปแต่งตัว

“อีกตั้งสองชั่วโมง เราไปช้ากลับเร็วเจ้าของงานเขาชอบ” คิลเลี่ยนตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก พิมพ์ข้อความภาษาฝรั่งเศสตอบกลับใครสักคนที่มินตราไม่คิดจะละลาบละล้วง

“ก็ได้ค่ะ งั้นมินต์นั่งรอนะคะ” มินตราบอกแล้วก็หยิบสมุดวาดมาร่างภาพ เพราะทางคุณบราวน์ให้โจทย์เธอมาแล้ว แต่ยังไม่รีบเอาของ เธอก็ร่างไปเรื่อยๆ ดูอันไหนเข้าทีก็ค่อยๆ วาดให้ชัดเจนแล้วเอาเข้าคอมพิวเตอร์ เพื่อลงสีและส่งแบบ

เมื่อคิลเลี่ยนเสร็จธุระแล้ว เขาก็ลุกไปแต่งตัว เขาเช่าสูทราคาแพงไว้ ไม่ให้น้อยหน้าใคร จากนั้นก็มองเธอแล้วเปิดตู้เซฟที่ทางเจ้าของห้องชุดซื้อไว้ให้ เอาชุดเครื่องเพชรที่เขาเช่ามาจากร้านที่ใช้เพชรจากคู่แข่งของดาราประดับ

ดาราประดับเป็นผู้ค้าเพชรพลอยรายหนึ่ง ที่ภายหลังทำร้านเครื่องประดับไว้ในห้างหรูชื่อดัง จากนั้นก็มีสาขาเพิ่มไปเรื่อยๆ ตามวิสัยทัศน์ของพ่อเขา ที่หาทางออกให้ดาราประดับไม่ต้องพึ่งพาเฉพาะร้านเพชรเท่านั้น

“สวยจังเลยค่ะ พี่เช่ามาเหรอคะ” มินตรารู้ว่าเขาไม่ซื้ออะไรที่นี่เพราะขี้เกียจขนกลับ

“ใช่แล้วล่ะ ออกงานแม่เจ้าของบริษัทเพชร ก็ต้องใส่เพชรสิ” คิลเลี่ยนสวมให้เธอทีละชิ้น หนึ่งชุดมีห้าชิ้น เขาถอดต่างหูออกให้แล้วใส่อันใหม่ให้

ทับทิมล้อมเพชรเข้ากับชุดสีแดงเพลิง ต่างหูระย้าเป็นเพชรล้อมด้วยทับทิมคุณภาพเยี่ยม แต่มินตราไม่สนใจนัก เพราะมีหน้าที่ช่วยเขาและเพื่อความสะใจของตนเอง

ชุดราตรีนี้มีส่วนที่เว้าเผยผิวสีขาวสวยของเธอ แต่เธอไม่ใส่ใจนัก เพราะอยู่ที่อังกฤษก็ต้องแต่งตัวแบบนี้เข้าฉากเป็นประจำ ทำให้ไม่ขัดเขิน จากนั้นก็ตามเขาไปที่รถสปอร์ต เขาขับไปจนถึงงาน

บ้านล่ำประเสริฐสุดใหญ่โตสมฐานะ หากมีแต่ประสบการณ์ไม่ดีสำหรับคิลเลี่ยน เขาจึงไม่คิดจะกลับมาที่นี่ แต่เมื่อพ่อเขาเอ่ยปาก เขาก็ต้องมา ไม่อย่างนั้นอาจโดนจับตัวมา เพราะงั้นเขาเลือกจะมาเองแทน

คิลเลี่ยนมาถึงก็ยังไม่เริ่มงาน เขาจอดรถแล้วพามินตราเข้าไปในงาน เห็นย่าเขานั่งอยู่ โดยพ่อเขากับเมียรออยู่หน้างานรับแขก เขาก็เข้าไปไหว้ พร้อมมอบของขวัญให้

“สวัสดีครับ” คิลเลี่ยนทักทายเรียบง่ายเป็นภาษาไทย

“สวัสดีค่ะ” มินตราก็เช่นกัน ยกมือไหว้ แล้วยื่นของขวัญให้เขา

“ขอให้อายุยืนหมื่นๆ ปีนะครับ อย่าเจ็บอย่าไข้” คิลเลี่ยนพูดจากวนๆ อย่างไม่ใส่ใจนัก

“ฉันไม่ใช่ไทเฮานะยะ ไม่เจอหน้าเป็นสิบปี แกยังกวนประสาทฉันอีกนะ ไอ้คิลเลี่ยน” สายใจหงุดหงิด แต่ก็รับของขวัญจากหลานชาย แล้วถามประชด “คงไม่ใช่ระเบิดนะยะ”

“ผมจะกล้าเหรอครับ อีกอย่างผมไม่คิดว่าจะต้องเสียเวลาทำอะไรแบบนั้น” คิลเลี่ยนตอบแล้วยิ้มเยาะ

“แกไปบอกให้มันมาทำไม” สายใจโมโหก็หันไปถามลูกชาย

“เลือดลมคุณแม่จะได้สูบฉีดดีขึ้นยังไงล่ะครับ แกไปนั่งที่โต๊ะแกเถอะ อย่ามาเสียเวลาทำให้ย่าเขาโมโหเลย” สมเจตน์ออกปากไล่ลูกชายคนโต รับของขวัญมาจากแม่ แต่สายตาเขาไปเห็นสร้อยเพชรที่มินตราใส่มา เขาก็ฉุกคิดแล้วถาม “สร้อยเพชรนั่นเอามาจากไหน”

“หน้าอย่างมันมีปัญญาใส่เพชรแท้ด้วยเหรอคะ” แพรพลอยพูดดูถูก ตัวเธอไม่ได้ทำงานแต่เป็นแม่บ้านเต็มตัว มีเวลาก็ออกไปงานต่างๆ จึงไม่รู้ว่าเพชรแท้หรือเปล่า แต่ใจคิดดูถูกจึงพูดไปตามใจคิด

กมลหรี่ตามองเห็นเป็นเพชรแท้ก็บอกลูกสะใภ้ “เพชรแท้เสียด้วย แกไปเอามาจากไหน”

“คุณปู่นี่ตาถึงนะครับ ไม่เหมือนลูกสะใภ้ ผมก็หามาสิครับ เมียผมจะได้ออกงานใหญ่แบบนี้สักที” คิลเลี่ยนตอบอย่างกวนประสาท

“แกเอามาจากกิมจูบิลี่เรอะ” สมเจตน์รู้เพราะเคยเห็นทางนั้นเอาออกแสดงอยู่ และจ้างร้าน

“แหม คุณพ่อนี่ก็สุดยอดจริงๆ รู้ด้วยครับ พอดีผมรู้จักกับผู้จัดการทางนั้น เขาอยากให้มินต์ได้ใส่ออกงานสักครั้ง ก็เลยให้ยืมมาน่ะครับ” คิลเลี่ยนบอกแล้วยิ้มแฉ่ง

“ไอ้คิลเลี่ยน!!!” กมลกำลังจะด่าหลานชาย เมื่อครู่ไปเข้าห้องน้ำเลยไม่ได้อยู่หน้างาน พอออกมาทีเจ้าหลานชายตัวแสบก็หาเรื่องร้อนใจมาให้

ดีที่มีแขกมาอีก ทำให้คิลเลี่ยนหลบฉากเข้างานได้ง่ายๆ เขาหัวเราะพอใจแล้วเดินไปนั่งตามแผนผังงาน โต๊ะเขาห่างจากโต๊ะครอบครัวไม่มากนัก นั่งรวมกับลูกพี่ลูกน้องเขา ที่เกิดจากอาสาวกับอาเขย

มินตราตะลึงเล็กน้อยเพราะเหตุการณ์น่างานที่น่าหวาดเสียว “ทำไมเขาต้องโกรธกันด้วยคะ”

“เครื่องเพชรชุดนี้กิมจูบิลี่จ้างร้านเพชรทำ ใช้เพชรพลอยจากเขา อืม กิมจูบิลี่เนี่ยเป็นคู่แข่งกับดาราประดับ” คิลเลี่ยนบอกแล้วทานของว่างที่เอามาลงโต๊ะ

มินตรายิ่งตกใจกว่าเดิม แต่เก็บท่าที เพราะต้องรักษาภาพลักษณ์ที่เขาสอน ก่อนจะแอบถอนหายใจ สักพักโชติก็เดินมาพร้อมหวานใจ มินตราก็เมินไม่มอง แล้วคิลเลี่ยนก็โอบกระชับเธอเข้ามาหาใกล้ชิดเขาอีก

“มะรืนนี้จะไปเจอพ่อเหรอ” คิลเลี่ยนหาเรื่องมาดึงความสนใจของมินตราแทน

“ใช่ค่ะ” มินตราตอบแล้วมองเขาคีบของว่างมาป้อนให้

“พี่ไปด้วยแล้วกันนะ เผื่อเก็บศพกลับบ้าน” คิลเลี่ยนพูดแหย่เข้าให้ ทำให้เธอค้อนใส่เขา เขาจึงหอมแก้มเธออย่างแรง โดยไม่สนใจว่าใครจะมอง ที่แน่ๆ เขารู้ว่าโชติมองอยู่แน่นอน

บริกรเข้ามาถามเรื่องเครื่องดื่ม คิลเลี่ยนสั่งวิสกี้แล้วสั่งน้ำผลไม้ให้มินตรา ก่อนบอก “เดี๋ยวมินต์ขับรถกลับนะ”

“ค่ะ ได้อยู่แล้วค่ะ” มินตราตอบแล้วก็ถูกเขาหอมอีก จนเธอต้องห้าม “พอก่อนค่ะ จะหอมทำไมหนักหนาคะ”

“โชติมองอยู่น่ะสิ ทนๆ เอาหน่อยนะ” คิลเลี่ยนบอกเธอ แต่มินตรารู้ว่าไม่ควรหันไปมองว่าโชติมองไหม จึงปล่อยเขาหอมแก้มอีก ก่อนเขาบอกเธออีกรอบ “เดี๋ยวถ้าเขาให้เต้นรำ มินต์ไปเต้นกับพี่นะ”

มินตราตอบรับแล้วคีบอาหารทานบ้าง และไม่ห่วงเรื่องการเต้นของเขา เพราะเขาเต้นได้หมด และมีเพื่อนชวนเต้นซัลซ่าบ่อยๆ

โต๊ะนี้นั่งได้สิบคน หลานอาเขามีแค่สองคน ก็มีเพื่อนมาด้วย แต่ละคนก็ไม่สนใจ แต่จำเพาะมินตรากับคิลเลี่ยนได้นั่งในจุดที่โชติมองเห็นชัดเจน ทำให้หงุดหงิดเป็นกำลัง

พิธีการผ่านไปเรื่อยๆ มีลูกๆ หลานๆ ผลัดกันขึ้นไปอวยพร สักพักก็ถึงเวลาเต้นรำ กมลก็พาสายใจภรรยาไปเต้นรำนำคนอื่น เมื่อจบเพลงก็ขอพัก คิลเลี่ยนก็พามินตราออกไปเต้นรำจังหวะเร็ว ยิ่งมินตราสวมชุดสีแดง ผิวขาวเนียน สะบัดสะโพกโชว์ความสามารถ ทั้งเครื่องเพชรของกิมจูบิลี่ก็แข็งแรง ทำให้ต่างหูเหวี่ยงไปมาไม่มีทีท่าว่าจะหลุด

ท่วงท่าที่สง่างามของมินตราทำให้คนหันไปมองกันไปหมด จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเพลงช้า คิลเลี่ยนก็ปรับจังหวะ และจบเพลงที่เขาเอนเธอลงอย่างสวยงาม ในตอนจบ ทำให้คนเผลอปรบมือให้

มินตราไม่มีท่าทีเขินอาย เพราะเคยรับงานแสดงละครเวทีมาก่อน คุ้นกับเสียงปรบมือดี เธอก็เชิดขึ้นแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สักพักสมเจตน์ก็เข้ามาโค้งเธอ ทำให้เธอใจไม่ดี จึงมองคิลเลี่ยน

“ขอฉันเต้นรำกับลูกสะใภ้หน่อยสิ” สมเจตน์พูดแล้วมองมินตรา หลังจากที่ลูกชายทั้งสองเหมือนจะข่มกันเรื่องมินตราในห้องเขา เขาก็สืบหารายละเอียดของเธอ

คิลเลี่ยนหยักหน้า แล้วสบตากับมินตราเป็นเชิงปลอบใจ เพราะพ่อเขาต้องไม่ยอมให้ปฏิเสธแน่นอน เขาก็ส่งมือเธอให้พ่อ แล้วไปนั่งที่โต๊ะมองเธอด้วยความเป็นห่วง

สมเจตน์พาเธอไปเต้นกลางฟลอร์ ดีที่เป็นเพลงช้า เขาจึงไม่ต้องกังวลนัก มองเธออยู่พัก จึงค่อยถาม “เธอรู้จักกับคิลเลี่ยนได้ยังไง”

มินตราไม่ได้มองเขา แต่มองคิลเลี่ยน เมื่อเขาถามเธอก็เงยหน้าขึ้นมอง แล้วหันไปมองคิลเลี่ยนอีก จากนั้นก็ตอบสั้นๆ ตามที่คิลเลี่ยนสอน “บังเอิญเจอกันค่ะ”

“คิลเลี่ยนคงทำตัวมีเสน่ห์กับเธอสินะ เธอถึงได้คบหากับเขา ว่าแต่คบกับเขาก่อนหรือหลังเลิกกับโชติล่ะ” สมเจตน์ถามแล้วมองหญิงสาวที่มองคิลเลี่ยนไม่วางตา “ไม่ต้องมองมันหรอก ถึงมันไม่อยากให้เธอเต้นรำกับฉัน มันก็ทำอะไรไม่ได้หรอก”

มินตราจึงมองสมเจตน์ให้เต็มตาอีกครั้ง ทีนี้เธอมองสำรวจแล้วตอบอย่างโกรธแทนคิลเลี่ยน “ที่เขาทำอะไรไม่ได้ เพราะคุณเป็นพ่อเขา เขาก็พยายามให้เกียรติคุณอยู่บ้าง แต่ผู้ชายอย่างคุณคงไม่เคยให้เกียรติเขาสินะ ไม่ว่าพวกคุณจะมองเขายังไง เขาเป็นคนดีที่สุดที่ฉันเคยเจอมา ขอตัวค่ะ”

มินตราปล่อยมือทันทีแล้วกระชากมือกลับ จากนั้นก็เดินกลับโต๊ะ แต่สมเจตน์ไม่ปล่อยไปง่ายๆ กระชากเธอกลับมาแล้วจับแน่นเต้นรำต่อแบบบังคับฝืนใจ

“ถ้าฉันไม่หยุด เธอไม่มีสิทธิ” สมเจตน์บีบมือเธอแน่น จับเอวเธอชนิดไม่ยอมให้เธอขัดขืน “อย่าทำให้ฉันโมโห ไม่งั้นเธอจะไม่ได้กลับอังกฤษพร้อมผัวเธอ เพราะฉันจะจับคิลเลี่ยนไว้ที่เมืองไทย”

สมเจตน์ขู่ได้ผล เมื่อมินตราไม่ขัดขืนอีก แล้วยอมเต้นรำกับเขาอย่างเงียบๆ จนจบเพลง เขาก็ไม่พูดกับเธออีก เพราะรู้ว่าหล่อนไม่ใช่คนหัวอ่อนอย่างที่เคยเห็นอีก ท่าทางจะไม่ใช่คนหัวอ่อนให้ลูกชายเขาจูงจมูกง่ายๆแล้ว

*****************************

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
ขอโทษที่หายไปนานมากๆ
ว่าจะมาโพสต์ก่อนกลับเชียงใหม่ก็วุ่นวายดีแท้
วันนี้ได้โอกาสขอโพสต์ก่อนแล้วกันค่ะ
ประเทศไทยมีปีใหม่หลายรอบมาก
รอบนี้กลับเชียงใหม่ ปีใหม่จีนก็ขอให้มีความสุขถ้วนหน้านะคะ

ขอบคุณคอมเม้นจาก
พี่ตุ้งแช่ - ดีแตกทั้งสองฝ่ายค่ะ 555+
คุณkonhin - ช่างเกินคำบรรยายใช่ไหมคะ
คุณ sai - ขอบคุณจ้า เสื้อใส่ได้ไหม อิอิ
คุณน้องแสตมป์ - พี่เคไม่ทิ้งไปไหน อยู่ช่วยเสมอค่ะ ^^
คุณใบบัวน่ารัก - สู้เสมอเหมือนคนเขียนค่ะ ^^
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ - สวยและขยัน พี่เคจะหนีพ้นเหรอคะ อิอิ
คุณคิมหันต์ - ขอบคุณค่ะ น้องมินต์มีกำลังใจเต็มที่เลยค่า
คุณนอนดูดาว - ถูกต้องนะค้าาาาาาาาาาา น้องมินต์สู้ตายค่ะ หุหุ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
https://www.facebook.com/plerngwaree
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

ป.ล. กิจกรรมแจกเฮียพายก็จะแจกอยู่นะคะ ไม่ได้ลืมค่ะ กำลังประมวลผลเรื่องอื่นอยู่ค่ะ

ป.ล. ยุติการตามหาทั้งสองท่านแล้วนะคะ แอบแจกคนอื่นไปแล้วค่ะ ^^

**********************************
eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก
- http://www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=98e88e8d-1760-42f1-9fc0-68fb86d1cbf2

2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว
- http://www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=9377205d-d30b-4542-a715-8c94c244c178

3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว
- http://www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=fbca2fe2-b27a-40f2-89fc-7c13c7cef35c

4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก
- http://www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=e5a118b1-db26-481d-92ac-39322c29ef1d

5. ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา (129บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNjMzOCI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/16015/ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา/
- http://www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=cba390dc-5dee-4cb5-9f8b-1617d0011159



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ก.พ. 2557, 16:18:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ก.พ. 2557, 16:18:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1856





<< Crying Villain ตอนที่ 2   Crying Villain ตอนที่ 4 >>
น้องแสตมป์ 1 ก.พ. 2557, 19:33:15 น.
หอมจนแก้มช้ำหมดแล้วนะพี่เค


ใบบัวน่ารัก 1 ก.พ. 2557, 20:14:52 น.
เริ่มเดือด เริ่มดราม่า แล้ว
อยู่ไทยนานไหม งั้นไปเที่ยวต่างจัวหวัดกันเถอะ


konhin 1 ก.พ. 2557, 20:59:06 น.
มันมาก ขออีกตอนไวๆได้มั้ยคะ


ตุ๊งแช่ 1 ก.พ. 2557, 21:35:31 น.
พ่อพระเอกจะมาไม้ไหนนี่ น่ากลัวกว่าโชติอีก


นักอ่านเหนียวหนึบ 2 ก.พ. 2557, 13:21:30 น.
พระนางคู่นี้ร้อนแรงดีคะ
เล่นทั้งบทแสนดี และแสนร้าย 5555
ดีๆๆๆ ชอบๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account