นางร้ายเจ้าน้ำตา
ชีวิตของมินตราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฝันไว้ว่าจะดีขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเจอแต่อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ทุกอย่างก้าว ดีที่ได้มีโอกาสเจอเขา...คิลเลี่ยนหนุ่มลูกครึ่งชาวอังกฤษก็คอยช่วยเหลือ เป็นหลักให้เธอได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หนทางรักที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่จะจบด้วยความสมหวัง
Tags: นางร้าย

ตอน: Crying Villain ตอนที่ 4

นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 4

มินตรารีบเดินออกจากฟลอร์ทันที เมื่อสมเจตน์ปล่อยเธอ แต่ถูกแพรพลอยขวางแล้วตบหน้าฉาดใหญ่ คิลเลี่ยนจึงรีบเดินเข้าไปหา แล้วเข้าไปปกป้อง

“นังแพศยา!!!” แพรพลอยด่ามินตราทันที แล้วตบหน้าคิลเลี่ยนอีกคน “แกก็ไอ้สารเลว!!! ไอ้เนรคุณ!!!”

นักข่าวเข้ามาถ่ายภาพ ทีนี้ก็เกิดโกลาหล ขณะที่คิลเลี่ยนตั้งใจปล่อยให้แพรพลอยตบอยู่แล้ว จึงพูดขึ้นมาลอยๆ “คุณแพรพลอย เขาชอบตบลูกเมียน้อยอยู่แล้วล่ะครับ เขาเป็นโรคชักกระตุก คันมือเมื่อไรเป็นตบลูกเมียน้อยอย่างผมประจำ ธรรมดา ถ้าเขามีไม้เรียว เขาก็เอามาฟาดผมประจำ นี่ก็เลยลืมตัว ตบเมียผมด้วย ไม่มีอะไรครับ เหตุการณ์ปกติ”

“ไอ้...” แพรพลอยจะด่าคิลเลี่ยนแต่สมเจตน์รีบปิดปากแล้วออกปากไล่ลูกชาย

“แกกลับไป!!” สมเจตน์ไล่ลูกชายคนโต แล้วพาภรรยากลับไปที่โต๊ะ โดยไม่ตอบอะไรอีก

“ด้วยความยินดีครับ” คิลเลี่ยนยิ้มกวนประสาท แล้วโอบไหล่มินตราที่กำลังซบอกเขาอย่างเสียขวัญ ดีที่เขาเอากระเป๋าถือใบเล็กของเธอใส่กระเป๋าสูทแล้ว แต่ถูกนักข่าวขวางไว้

“คุณเป็นลูกเมียน้องคุณสมเจตน์เหรอคะ”

“ใช่ครับ” คิลเลี่ยนตอบอย่างไม่สนใจชื่อเสียงครอบครัวนี้นัก

“หน้าตาฝรั่งจัง แม่คุณเป็นฝรั่งเหรอ” นักข่าวอีกคนก็ยิงคำถาม

“ใช่ครับ แม่ผมไม่ค่อยรู้เรื่องไฮโซไทยเท่าไร ทำให้ไม่รู้ว่าตกเป็นเมียน้อย จนมีผม พอมาถึงเมืองไทยถึงเพิ่งรู้ ขอตัวก่อนนะครับ” คิลเลี่ยนตอบทิ้งระเบิดแล้วเห็นโชติตามมาจะห้ามนักข่าว เขาก็พามินตราขึ้นรถ แล้วพากลับ

มินตรามัวตกใจ เหตุการณ์ทุกอย่างเร็วมาก คิลเลี่ยนแอบมองเธอแล้วขับตรงจนถึงที่จอดรถ ก็พาเธอขึ้นห้องชุด เห็นเธอยังตั้งสติไม่ได้ ก็ถอนหายใจยาว เอาผ้าเย็นมาให้เธอ

“ขอโทษที่ทำให้เธอโดนนังแก่นั่นตบหน้า” คิลเลี่ยนไม่ทันระวัง ทั้งที่มองอยู่ก่อนแล้ว

“เหตุการณ์มันสับสน พี่ก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้น เฮ้อ เรารีบกลับอังกฤษกันเถอะค่ะ พ่อพี่ขู่ว่าจะไม่ให้พี่กลับอังกฤษด้วย” มินตราพูดขึ้นแล้วรู้สึกใจไม่ค่อยดี

“คงทำได้อยู่หรอก อย่างมากพี่ก็หนีเข้าสถานทูตอังกฤษ ให้เขาส่งออกนอกประเทศ” คิลเลี่ยนคิดแล้วก็ขำ ก่อนนึกขึ้นได้ว่าถ้าเป็นมินตราจะทำยังไง “เอาเถอะ ยังไงช่วงนี้พี่สัญญาจะไม่หาเรื่องเดือดร้อนมาให้มินต์ เพราะถ้าพ่อพี่ทำอะไรพี่ไม่ได้ คงหันมาจัดการกับมินต์แน่”

“อะไรนะคะ” มินตราตกใจเพราะท่าทางพ่อเขาก็น่ากลัวมาก

“น่าอีกไม่กี่วันเราก็จะกลับแล้ว ใจเย็นๆ” คิลเลี่ยนรู้สึกผิดที่ทำให้เธอตกใจกลัว ก่อนถาม “หิวไหม”

“ไม่ค่ะ” มินตราพูดแล้วก็เอาเครื่องเพชรออกใส่กล่องคืนให้เขา

คิลเลี่ยนก็เอาไปเก็บไว้ในตู้เซฟ ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะเอาไปคืนที่ร้านเลย จะได้ไม่เป็นปัญหาอีก จากนั้นทั้งเขาและเธอต่างก็แยกย้ายไปจัดการกับตัวเอง หากคิลเลี่ยนนั่งดื่มต่ออีกหลังอาบน้ำแล้ว มินตราก็หากับแกล้มให้เขา

“เข้าห้องนอนแล้วล็อกห้องเลยนะ พี่จะนอนข้างนอกนี่แหละ” คิลเลี่ยนไม่เสี่ยงเอาความเมาเข้าไปในห้องที่มีภรรยาสาวแสนสวยที่แตะต้องไม่ได้ของเขา

มินตราพยักหน้า ก่อนนำหมอนกับผ้าห่มมาให้ ด้านนอกเปิดแอร์เย็นฉ่ำ เธอก็กังวลเล็กน้อย แล้วก็กลับเข้าห้องล็อกประตูแล้วเข้านอน พยายามสงบจิตใจไม่ให้คิดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น

คิลเลี่ยนดื่มกินจนพอแล้วก็นอนตรงนั้นเลย…เขาไม่กังวลมาก เพราะรู้ว่ากังวลแล้วไม่มีอะไรดี

**********************************

พอเช้า เสียงโทรศัพท์ของคิลเลี่ยนก็ดังขึ้น ขณะที่มินตราตื่นมาก็ทำความสะอาดห้อง แล้วก็เตรียมอาหารเช้าไว้ให้เขา เมื่อเสียงโทรศัพท์ดัง เธอก็ยื่นหน้าออกมาดู

“ไม่มีอะไรของพี่เอง ใครโทรมาทำไมเนี่ย” คิลเลี่ยนเห็นเบอร์ก็กดรับอย่างเฉื่อยชา “มีอะไรครับ พ่อ”

“แกก่อเรื่องใหญ่แล้ว แกรู้ตัวไหม” สมเจตน์โมโหลูกชายมาก ไม่ใช่เรื่องที่ไปประกาศว่าเป็นลูกเมียน้อยเขา แต่เรื่องที่เอาเครื่องเพชรของกิมจูบิลี่มาใส่ในงาน

มินตราเอายาแก้แฮงค์มาวางไว้ให้เขา มองเขาแล้วก็ไม่คิดอะไรมาก กลับไปทำครัวต่อ แล้วก็เอามาวางบนโต๊ะ เพราะเธอหิวแล้ว แต่เขาเพิ่งตื่นคงยังไม่ทานแน่

“เรื่องอะไรครับ” คิลเลี่ยนถามอย่างไม่ใส่ใจนัก อยากหลับตาแต่ก็ปวดตา

“ก็แกเอาเครื่องเพชรของกิมจูบิลี่มาให้เมียแกใส่น่ะสิ ทางนั้นเขาออกมาแถลงข่าวว่าแกเช่ามาจากร้านเขา และเมียแกก็ทำให้ยอดขายพวกนั้นพุ่งกระฉูด พวกคุณหญิงคุณนายแห่กันไปซื้อเครื่องเพชรจากร้านที่ทำเครื่องเพชรให้กิมจูบิลี่ แฟนน้องแกโทรมาบอก แกนี่มันเลวจริงๆ” สมเจตน์ด่าลูกชายแล้วส่ายหน้าอย่างแรง ที่ทำแต่ปัญหามาให้

“โทรมาชมว่าเมียผมสวยว่างั้นเถอะ” คิลเลี่ยนกวนประสาทพ่อเสียอย่างนั้น ก่อนมองมินตราแล้วถามหาหนังสือพิมพ์

‘เปิดเผยลูกชายลับๆ และลูกสะใภ้ของคุณสมเจตน์กลางงานวันเกิดครบรอบเจ็ดสิบห้าปีคุณหญิงสายใจ ทำคุณแพรพลอยเสียหน้า โมโหตบสนั่นทั้งลูกเมียน้อยทั้งลูกสะใภ้’

ภาพมินตราเต้นรำกับเขาสลับกับภาพมินตราเต้นรำกับสมเจตน์ มีการยื้อกันเล็กน้อย แล้วก็ภาพมินตรากับเขาถูกตบกลางงาน และภาพที่เขากับมินตรากลับก่อน

“ไอ้ลูกทรพี!!!” สมเจตน์ด่าลูกชายอีกรอบอย่างขัดใจ

“ด่าชัดๆ ผมไปอยู่นอกมาหลายปี ไมเคิลกับแม่ไม่เคยด่า ผมก็ลืมๆ ไปแล้วว่าคำด่าไทยน่ะ มันแปลว่าอะไร” คิลเลี่ยนกวนประสาทพ่อมากขึ้น สุดท้ายสมเจตน์ตัดสายไป เพราะโกรธจัด

“มีอะไรเหรอคะ” มินตราเห็นเขาลุกเข้าห้องน้ำอย่างงุนงง

“พ่อพี่โทรมาด่า บอกว่ามินต์ใส่สร้อยแล้วสวยเกินไปหน่อย คุณหญิงคุณนายแห่ไปซื้อเครื่องเพชรที่คู่แข่งหมด สงสัยมาสั่งเครื่องเพชรที่ร้านยัยหวานใจมั้ง ยัยนั่นก็เลยโทรมาบอกไอ้โชติ ไอ้โชติก็เลยไปฟ้องพ่อ พ่อก็เลยโทรมาด่า” คิลเลี่ยนอธิบายก่อนแปรงฟัน แล้วจัดการตัวเอง พอออกมาก็นั่งลงทานมื้อเช้าเลย

“เมื่อคืนนอนกี่โมงคะ” มินตรากลับถามเรื่องอื่นไม่ใส่ใจนัก จัดการอาหารเช้าตรงหน้าตัวเองให้อิ่ม

“น่าจะเที่ยงคืนมั้ง เรากลับมาก็แค่สี่ทุ่มเองนี่นะ วันนี้ทำอะไรกันดี พี่ขี้เกียจออกไปไหนด้วยสิ” คิลเลี่ยนก็ไม่ใส่ใจบ้าง แล้วก็นึกขึ้นได้ “มีของสดไหม”

“ไม่ค่อยเหลือแล้วค่ะ ออกไปซื้อที่ซุปเปอร์ใกล้ๆ คงไม่เป็นไรมั้งคะ” มินตราพูดแล้วก็ทานไปเรื่อยๆ ตาก็มองสมุดร่างภาพ เพราะต้องส่งงานเมื่อกลับไป

“อดทนเอาหน่อยอีกอาทิตย์เดียวก็ได้กลับอังกฤษแล้วนะ” คิลเลี่ยนมองโทรทัศน์ไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

เมื่อทานเสร็จ เขาก็เอาจานที่ทานแล้วไปล้าง ที่ทานไม่หมด เขาก็เอาใส่กล่องใส่ตู้เย็น เป็นอย่างนี้ประจำไม่ต่างจากตอนที่อยู่อังกฤษเท่าไรนัก แต่โดยมากไม่ค่อยได้ทานด้วยกันเพราะตารางเวลาไม่ตรงกัน

“จริงสิ เพื่อนฉันติดต่อมา บอกว่าอยากให้เธอไปแสดงเป็นนักเต้นที่เป็นเพื่อนสนิทกับนางเอกล่ะนะ เขาว่าช่วงนี้หนังเต้นบลูมมาก ยังไงลองขอนายจ้างเธอดูก็ได้นะ จะได้ไปลองแคสดู เขาแคสมาหลายคนแล้วแต่ไม่ค่อยมีที่ถูกใจเท่าไร เพื่อนฉันเอาคลิปอัดการแสดงละครเพลงให้ผู้กำกับดู เขาชอบมาก อยากให้ลองไปแคสดู” คิลเลี่ยนบอกเมื่อนึกออก เพื่อนเขาโทรมาเมื่อคืน

“คิดว่าน่าจะได้ค่ะ ตามตกลงกัน ฉันไม่ต้องเข้าไปบ่อยๆ ค่ะ ถ้ามีงานอยู่ก็ทำอยู่ที่บ้านได้ แต่เขาอยากให้เข้าสักครึ่งวัน เผื่อตอนเช้ามีลูกค้ามาขอให้ออกแบบ จะได้ไปฟังแนวที่เขาอยากได้ แต่ถ้าไม่สะดวก เขาก็ว่าจะนัดให้” มินตราบอกเล่าไปตามเรื่อง ให้เขาเข้าใจการทำงานของเธอ และรู้สึกโชคดีที่ได้ทำงานที่นี่

“แน่สิ เขาจ่ายค่าจ้างเธอถูกนี่นะ แต่ก็ดีที่เขาไม่คิดเอาเปรียบเธอ” คิลเลี่ยนเป็นคนพามินตราไปดูเรื่องสัญญาเอง เขาเอาเอกสารไปปรึกษาเพื่อนที่เป็นทนายความด้วย พอทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาก็ให้เธอนำไปเซ็นแล้วก็ตกลงกันจนจบเรื่อง

“ก็พี่ช่วยเจรจานี่คะ” มินตรายิ้มให้เขา แม้เขาจะมองไม่เห็นบางอย่างในแววตาเธอก็ตาม

“ก็เธอน่ะ มองโลกในแง่ดีมากเกินไป ดีที่คุณบราวน์เขาเป็นสุภาพบุรุษ เขาถึงเห็นด้วยที่เธอจะศึกษาทุกอย่างให้ละเอียดเสียก่อน เธอเป็นอย่างนี้ พี่ถึงได้เป็นห่วง” คิลเลี่ยนล้างจานและพูดไปเรื่อยๆ ด้วยความเป็นห่วง และก็กังวลว่าเธอจะดีได้อีกนานแค่ไหน ความเลวร้ายของชีวิตทำให้คนเราเสียศูนย์ได้

มินตราเข้ามากอดเขาจากด้านหลัง แล้วพูดอย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณค่ะ พี่เค”

“อือ” คิลเลี่ยนก็พูดไม่ออก เมื่อเธอทำตัวน่ารัก สักพักเธอก็ปล่อยให้เขาล้างจานจนเสร็จ เมื่อเขากลับมาก็เห็นเธอนั่งออกแบบต่อ จึงเข้าไปนั่งใกล้ๆ แล้วเปิดโทรทัศน์ต่อ

มินตราเงยหน้าขึ้นแล้วถาม “พี่ไม่คิดจะแต่งเพลงบ้างเหรอคะ”

“ไม่ค่อยมีเวลา อยากเล่นก็เล่นไปเรื่อยๆ ดีกว่า” คิลเลี่ยนพูดอย่างไม่จริงจังนัก

“แต่พี่เล่นเก่งจะตาย ถ้าแต่งเพลงเป็นด้วยล่ะก็รุ่งแน่ๆ” มินตาราพูดถึงชื่อนักเปียโนอีกคนที่ออกเพลงคลาสสิกจนโด่งดัง

คิลเลี่ยนเอานิ้มจิ้มที่หน้าผากเธอออย่างเอ็นดู แล้วพูดขำขัน “ฝันเยอะนะเรา กว่าจะไปถึงจุดนั้น นอกจากเล่นเพราะแล้ว ยังต้องมีความตั้งใจ พี่น่ะชอบทำอะไรเรื่อยๆ ไม่คิดอะไรมากนักหรอก” คิลเลี่ยนแค่เล่นเพลงเพื่อความสนุกเท่านั้น

“พี่เล่นเปียโนตั้งแต่อายุเท่าไรคะ” มินตราถามขึ้น เพราะตอนที่อยู่ด้วยกัน แทบไม่ได้คุยกันเลย

“ห้าขวบมั้ง ตอนนั้นยังอยู่ที่บ้านล่ำประเสริฐสุด อานก อาพี่น่ะ เขาชอบเล่นเปียโน เขาสอน แล้วพอเขาแต่งงานไปไม่มีใครเล่นอีก ปู่ย่าพี่ก็เลยปล่อยให้พี่เล่น แต่คุณนายแพรเขาบอกว่าหนวกหู วันไหนเขาไม่อยู่บ้าน พี่ถึงได้เล่น” คิลเลี่ยนเล่าความหลัง แต่มันไม่ทำให้เขาเจ็บปวดอีกแล้ว

“แล้วกลับอังกฤษยังไงเหรอคะ” มินตราถามเอารายละเอียดที่สงสัย เพราะเขาไม่เล่าถ้าเธอไม่ถาม

“ตอนพี่อายุสิบห้า แม่พี่กับพ่อเลี้ยง ไมเคิลน่ะมาหาพ่อ ไม่รู้ว่าแม่พี่คุยอะไร สุดท้ายพ่อยอมให้แม่พาพี่ไป คงเพราะคุณนายไม่ชอบพี่ด้วยมั้ง เขาก็เลยให้พี่ไป พี่จะได้ไม่ต้องเป็นตัวปัญหา ให้คุณนายคลั่งอีก ตอนไป พี่ไม่ได้อะไรไปสักอย่าง แต่พ่อพี่ให้แหวนแม่พี่ไว้นานแล้วล่ะ ไอ้โชติมันพาเธอไปส่งที่อังกฤษ มันเลยมาทวงเอาไป” คิลเลี่ยนไม่ใส่ใจนัก

มินตราพยักหน้าช้าๆ แล้วก้มหน้าก้มตาเขียนต่อ จากนั้นก็ถ่ายภาพใส่แท็ปเล็ตแล้วเริ่มเขียนแบบหน้าแท็ปเล็ต เพราะขี้เกียจเอาไปลงคอมพิวเตอร์ ต้องผ่านหลายขั้นตอนเพราะเธอยังไม่มีเงินซื้อใหม่

คิลเลี่ยนก็เอาแท็ปเล็ตมาเปิดดูเว็บต่างๆ จนกระทั่งถึงช่วงบ่ายก็ให้มินตราไปแต่งตัว เขาต้องการให้เธอออกไปนอกบ้านด้วยรูปลักษณ์ใหม่เสมอ เผื่อเจอกับโชติจะได้ไม่ผิดพลาด

มินตราก็เข้าไปแต่งตัวแล้วออกมา จากนั้นก็ควงแขนเขาออกไปจากห้องไปขึ้นรถ เมื่อรถมาถึงหน้าตึก เธอกับเขาก็ต้องแปลกใจ เพราะมีนักข่าวมารออยู่หน้าตึกจำนวนมาก

“เขามากันทำไมเหรอคะ” มินตราถามอย่างงุนงง หันซ้ายขวาอย่างตื่นๆ

“สงสัยเรื่องเมื่อวาน ช่างมันเถอะ” คิลเลี่ยนขับออกจากคอนโดทันที โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เมื่อถึงห้าง ซึ่งเป็นตลาดสดไฮโซ เขาก็พามินตราไปเลือกซื้อของ แต่พอซื้อของเสร็จ นักข่าวก็มารอกันเต็มไปหมด

“ขอสัมภาษณ์หน่อยได้ไหมครับ” นักข่าวคนหนึ่งถาม

เมื่อคืนมีสายข่าวบอกคนขับรถตามไปจนรู้ว่าเขาพักที่ไหน จากนั้นตอนเช้าก็ตามมาเพื่อรอดูว่าคิลเลี่ยนจะออกมาไหม และเมื่อออกมาก็รีบขี่จักรยานยนต์ตามมาอีก

“สัมภาษณ์เรื่องอะไรเหรอครับ” คิลเลี่ยนถามแล้วทำเหมือนไม่รู้เรื่อง

“เรื่องที่คุณบอกเมื่อคืนนี้ล่ะครับ นี่คุณกลับมาเพื่อเปิดตัวเหรอครับ” นักข่าวถามไปเรื่อยๆ หยอดไปเผื่อได้คำตอบ

“เปล่าครับ ผมมาเพราะธุระของภรรยาผม แล้วผมก็จะกลับอังกฤษพร้อมภรรยาผม” คิลเลี่ยนทำตามที่รับปากกับมินตราไว้ว่าจะไม่หาเรื่องพ่อเขาอีก

“คุณพลัดพรากจากพ่อคุณนานไหมคะ” นักข่าวอีกคนถาม

“อย่าใช้คำว่าพลัดพรากจะดีกว่านะครับ พ่อผมเขาก็เลี้ยงดูผมจนอายุสิบห้า แม่ผมถึงมารับกลับอังกฤษ” คิลเลี่ยนตอบแล้วเดินไปด้วย เหมือนปกติไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

“อ๋อ แล้วทำไมคุณถึงเอาเครื่องเพชรจากร้านคู่แข่งมาให้ภรรยาใส่ล่ะครับ คุณไม่รู้เหรอ” เมื่อนักข่าวยิงคำถาม คิลเลี่ยนก็หยุด

“ผมอยู่อังกฤษตั้งนาน ผมไม่ค่อยรู้เรื่องธุรกิจของทางนี้หรอกครับ” คิลเลี่ยนตอบแล้วเปิดประตูรถให้มินตรา ไม่อยากให้เธอต้องมามีส่วนร่วมเกี่ยวกับครอบครัวทางพ่อเขามากนัก

“คุณจะไม่บอกเราหน่อยเหรอครับ ว่าคุณกับภรรยาชื่ออะไร” นักข่าวก็ถามอีกรอบ

“ผมคิลเลี่ยน เพียร์ซ นี่ภรรยาผม มินตรา เพียร์ซ ขอตัวก่อนนะครับ” คิลเลี่ยนกดศีรษะของมินตราให้หลบหลังคารถแล้วปิดประตู

“มีโอกาสที่คุณจะแถลงข่าวไหมครับ” นักข่าวพยายามยิงคำถาม เพราะยังมีคำถามอีกมากที่ต้องการถาม

“ผมคิดว่าไม่มีอะไรให้คุณสงสัยแล้วนะครับ ขอตัวก่อนนะครับ” คิลเลี่ยนยกมือไหว้แล้วขึ้นรถ จากนั้นก็พยักหน้าให้นักข่าวหลีกทาง เขาก็ค่อยออกรถอย่างสุภาพ

นักข่าวก็แหวกทางให้ แล้วเขาก็ออกรถ แล้วก็ถามกันว่าจะมีทางไหนที่จะได้ข่าวของคิลเลี่ยนอีกไหม จากนั้นก็โทรหาหัวหน้ากันให้วุ่นวาย เพื่อหาข่าว

**********************************

เสียงกระแทกลมหายใจดังขึ้น อีกวันข่าวค่อยดีขึ้นหน่อย จากที่เขาเป็นพ่อใจยักษ์ทอดทิ้งลูกก็แก้ข่าวเป็นจากกันด้วยดี แต่นั่นไม่สำคัญเท่าเรื่องเอาเครื่องเพชรฝ่ายตรงข้ามมาใส่ เขาก็โทรหาลูกชายอีกรอบ

“ตกลง แกจะกลับเมื่อไร” สมเจตน์อยากให้ลูกชายกลับอังกฤษเร็วๆ

“อีกห้าวันก็กลับแล้วล่ะครับ จองตั๋วแล้วไม่ต้องกังวลหรอกครับ ผมก็ให้สัมภาษณ์ดีๆ แล้วนี่ครับ” คิลเลี่ยนเพิ่งกลับจากเอาเครื่องเพชรไปส่งคืน เขาระมัดระวังมาก และไม่ต้องการให้ใครกล่าวหาเขา ทุกอย่างจึงเป็นไปอย่างรัดกุม และเรียบร้อยอย่างที่เขาต้องการ

ทางร้านยังอยากให้มินตราไปเป็นนางแบบเครื่องเพชรให้ แต่เขาบอกปัด โดยอ้างว่าต้องกลับอังกฤษไม่มีเวลา จึงถอยออกมาได้ แล้วไปร้านที่นัดเจอบรรพ์กับเมตตา...พ่อของมินตรา

เขากับเธอสั่งเครื่องดื่มแล้วรออยู่กว่าชั่วโมงกว่าทั้งสองจะมาถึง เมื่อมาถึงเมตตาก็ยิ้มแห้งๆ เพราะเป็นคนที่ทำให้ลูกสาวถูกหลอก

มินตรายกมือไหว้พ่อ แล้วรับไหว้น้องชายก่อนแนะนำคิลเลี่ยนให้รู้จัก

“สวัสดีครับ” เมตตารับไหว้ลูกเขยหน้าตาฝรั่งแต่ไหว้สวยดูไม่เก้งก้าง “เออ คือพ่อขอโทษด้วย ก็พ่อกับแม่พยายามบอกให้แกส่งเงินมา แต่แกก็บอกว่าหาไม่ได้ ถ้าไม่บอกแบบนั้น แกจะส่งเงินมาเหรอ แต่ไม่ต้องห่วงนะ พ่อจะหามาคืนให้เดือนละสองพันแล้วกัน แม่แกก็ไม่ยอมไปขายขนมแล้ว บ่นเหนื่อยปวดเนื้อปวดตัว” เมตตาก็พยายามกล่อมให้ลูกสาวหายโกรธ

“เอาล่ะๆ พ่อไม่ต้องคืนมินต์หรอก แต่มินต์จะไม่ส่งเงินให้อีกแล้วนะ” มินตราตัดบททำเอาพ่อตกใจ

“มินต์ แกจะไม่ช่วยเหลือพ่อแม่แล้วเหรอ” เมตตาพยายามทำให้ลูกสาวใจเย็น ภาระเยอะขึ้นยิ่งบรมที่เอาแต่เล่นเกมและเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนอีก

“คนเป็นพ่อเป็นแม่ ตัวเองยังไม่มีปัญญาหาเงินต้องมาเกาะลูกสาวกินแบบนี้น่ะเหรอ ถึงขั้นหลอกลวงเอาเงินกันเลยแบบนี้ อย่าเถียง แต่ให้คุณอายุมากกว่าผมแค่ไหน แต่คุณพูดออกมาแต่ละคำ ถ้าไม่หน้าด้าน พูดไม่ได้ขนาดนี้หรอก” คิลเลี่ยนชี้ไม่ให้เมตตาพูดอะไรออกมาอีก เพราะมันมีแต่จะทำร้ายจิตใจมินตรามากขึ้น

“เงินตั้งสามแสน มันน้อยที่ไหน หลอกเงินลูกไปทำอะไรบ้างก็ไม่รู้” คิลเลี่ยนพูดตบท้าย

“คุณคิดว่าผมไม่ละอายใจเหรอ” เมตตาโกรธก็ย้อนถาม สะเทือนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็สายเกินแก้

“ถ้าละอายใจก็ไม่ควรทำ” คิลเลี่ยนก็ยอกย้อนทันที

มินตราเห็นท่าไม่ดี ก็ถอนหายใจยาว “ใกล้เปิดเทอม มินต์จะส่งค่าเทอมบอมกับบูมมาให้ แต่สองคนนี่ก็ไม่ควรเกินหกหมื่นหรอกนะ เยอะกว่านั้นก็ไม่ไหว มินต์ทำงานได้เงินไม่เยอะ ต้องใช้หนี้เงินสองล้านอีก แล้วก็เงินสามแสนที่ยืมเขามาอีก พ่อคิดว่าฉันหาเงินมาจากไหน หรือต้องให้ขายตัว พ่อภูมิใจไหมที่ได้ใช้เงินจากการขายตัวน่ะ”

“ใจเย็นๆ สิ พี่มินต์ พ่อแม่ไม่กล้าทำอีกแล้ว เอาอย่างที่พี่ว่าก็ได้ ใช่ไหมพ่อ” บรรพ์พยายามไกล่เกลี่ย เพราะทั้งบ้านตอนนี้มีเขาคนเดียวที่พี่สาวรับฟัง ก่อนเขาเล่าความ “ผมจะเป็นคนทำขนมขายเอง เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เวลาก็พอมี เตรียมของขายได้ พี่ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายของผมนะ”

“ยังไงค่าเทอมก็เป็นเงินก้อน พี่จะพยายามเก็บรวบรวมมาให้แล้วกัน” มินตราตอบก่อนให้พ่อกับน้องชายสั่งอาหาร พูดคุยกันในบรรยากาศที่ดีขึ้น จนกระทั่งคิลเลี่ยนขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

เมตตามองแล้วรีบพูด “แม่เขาฝากมาถามว่าแกแต่งงาน ทำไมไม่ถามพ่อแม่”

มินตรารู้ว่าไม่ควรบอกความจริง จึงโกหก “พี่เคเขาใจร้อนจ๊ะ”

“แกคงไม่ได้ท้องใช่ไหม” เมตตาถามอย่างสงสัย

มินตราก็หัวเราะ “เปล่าจ๊ะพ่อ เขาใจร้อนเพราะกลัวว่ามินต์จะไม่ยอมแต่งกับเขาน่ะจ๊ะ”

“แล้วเขาจะให้สินสอดไหม” เมตตาถามตามที่ภรรยาฝากมา

“พ่อ!! หยุดเลยนะ อย่าพูดกับพี่มินต์แบบนี้อีก” บรรพ์รีบห้าม ทั้งที่เตือนพ่อไม่ให้พูดเรื่องนี้แล้ว เพราะท่าทางพี่เขยก็เอาเรื่องอยู่ไม่น้อย

“มินต์ไม่ต้องการเงินจากเขา และจะไม่มีสินสอดใดๆ ด้วย หลายปีมานี่ ทั้งที่มินต์เรียน มินต์ก็หาเงินช่วยเหลือครอบครัวมาตลอด อย่าเรียกร้องอะไรนอกเหนือจากที่มินต์ให้อีก” มินตราประกาศกร้าว ท่าทีเธอเปลี่ยนไปมาก เพราะความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งจากเพื่อน จากครอบครัวหรือแม้แต่คนรักเก่า

“ขอโทษแทนพ่อด้วยจ๊ะ พี่มินต์” บรรพ์เกรงใจพี่สาวมากขึ้น

ทั้งที่เดิมทีเขาก็เกรงใจเพราะพี่สาวเป็นคนหาเงินเข้าบ้านมานานแล้ว ตอนสมัยเรียนเขาจ้างไปเป็นตัวประกอบ พี่ก็ไป เพื่อเงินรายวันเล็กน้อย งานอะไรก็ทำ ยังเว้นงานนั่งดื่มหรืองานอื่น พี่สาวเขายังห่วงหน้าตาของคนรักมาก

คิลเลี่ยนกลับมา เห็นบรรยากาศเปลี่ยนไปอีกก็มั่นใจว่าคงมีปากเสียงอีก จึงเรียกเมนูมาอีกรอบ

“พี่เคยังไม่อิ่มเหรอครับ” บรรพ์นึกว่าคิลเลี่ยนจะสั่งอาหารอีก

คิลเลี่ยนส่งเมนูให้เมตตา เขาอยากจบเรื่องเร็วๆ จึงบอกให้รีบสั่ง “สั่งอาหารกลับบ้านสิ คุณคงไม่ได้เจอลูกสาวอีกนานเลยล่ะ”

“ขอบคุณครับ” เมตตาก็สั่งอาหารไปห้าอย่าง เพราะอาหารดีๆ และแสนอร่อยไม่มีโอกาสได้ทานมากนัก

คิลเลี่ยนสั่งเก็บเงินแล้วจ่ายเงินให้ จากนั้นก็ลา “ลาก่อนนะครับ”

มินตรายกมือไหว้พ่อ ตบไหล่น้องชายแล้วเดินตามคิลเลี่ยนไป บรรพ์ได้แต่มอง รู้สึกเหมือนว่าพี่สาวจะถูกสามีครอบงำ และทำให้เธอเปลี่ยนไปมาก จนเขาไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนไปในแง่ดีหรือว่าไม่ดี

เมตตาก็พูดไม่ออก เมื่อต่อไปลูกสาวจะไม่ส่งเงินรายเดือนมาช่วยเหมือนเคย แต่มันก็เป็นผลกรรมที่เขาทำไว้เอง ก็ต้องรับผลกรรมที่ก่อ ยังดีที่ลูกสาวจะส่งค่าเทอมของลูกชายฝาแฝดมาให้บ้าง เขาก็คงพออยู่ได้

**********************************

เมื่อเครื่องลงที่สนามบิน มินตราค่อยโล่งที่ได้กลับมาทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคุณบราวน์ ดูเหมือนคิลเลี่ยนแยกให้เธอกลับบ้าน แล้วเขาก็ฝากกระเป๋าเธอกลับด้วย

“พี่มีธุระ ฝากเอากระเป๋ากลับด้วยนะ” คิลเลี่ยนรีบแยกตัวไปทันที เขาไม่บอกมินตราว่าไปไหน แต่ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เขาจะไปไหนก็ได้ตามความต้องการของเขา

เมื่อมินตรากลับถึงห้องชุดแล้วก็เก็บของที่ห้องเขา วันที่ไปห้องก็เรียบร้อย กลับมาก็มีฝุ่นจับบ้าง เธอก็จัดการทำความสะอาดห้องทุกห้อง แล้วค่อยกลับเข้าห้องตัวเอง ทำงานต่อ จนหิวก็ทำอาหารทานเอง รู้สึกตัวอีกทีก็มืดแล้ว เธอก็เก็บงานแล้วเข้านอน ไม่ลืมล็อกห้องตามปกติ

เช้าเธอก็ลุกขึ้น แล้วแต่งตัวเพื่อไปรายงานตัวกับคุณบราวน์ แต่มองไปที่ห้องเขา ไม่เห็นเขากลับมานอน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ถึงจะแต่งงานกันแต่ก็เป็นเพียงในนาม เธอจึงไม่คิดมาก ออกไปเรื่องธุระงานของตนทันที

พอมาถึงคุณบราวน์ยังไม่มา มีพนักงานมาแล้ว เธอก็พอรู้จักบ้าง เพราะเคยเข้ามาทำความรู้จักแล้ว ก็ไปนั่งที่โต๊ะของเธอแล้วพิมพ์งานออกมา รอจนคุณบราวน์มาถึง เธอก็เอางานไปส่งพร้อมของฝากจากเมืองไทย

“ขอบใจนะ” คุณบราวน์มองขันเงินเล็กๆ ที่มีลายสลักแปลกๆ อย่างสนใจ ขณะที่เพื่อนร่วมงานได้ของที่ระลึกกันไปหมดแล้ว เขามองอยู่พัก ก็มองงานเธอ แล้วพยักหน้าช้าๆ “โอเคดีนะ งานใช้ได้เลยล่ะ ทั้งห้าแบบเลย เอางานไปคุยรายละเอียดกับช่าง แล้วจะได้ทำออกมาวางขาย”

มินตราออกมาส่งงานให้ช่าง แล้วก็คุยงานกับช่างจนบ่าย ก็ถูกเรียกออกไปอีกรอบ เธอก็ออกไปรับลูกค้าที่ต้องการงาน แล้วก็อยู่จนถึงเวลาปิดร้าน เธอค่อยมีโอกาสคุยกับคุณบราวน์เรื่องงานแสดง

คุณบราวน์ฟังรายละเอียดแล้วก็พยักหน้าช้าๆ “ตามสบายเลย เพราะถ้าช่วงเขียนแบบ เธอไม่ต้องมาประจำก็ได้ เอาเป็นว่ายังไงส่งตารางให้คนอื่นๆ เขาทำงานด้วยแล้วกันนะ ส่วนเรื่องลูกค้าพิเศษ อาจจะต้องนัดตามบ้าน เธอไปให้ตรงเวลาแล้วกันนะ”

“ขอบคุณค่ะ” มินตราค่อยโล่งใจ แล้วก็โทรหาคิลเลี่ยน แต่เขาไม่รับสาย เธอก็กลับบ้านสองทุ่ม แล้วก็จัดการงานบ้านของตัวเองแล้วเริ่มงานต่อในห้องตัวเอง

มินตรามองแบบแล้วถอนหายใจ ถึงจะแต่งงานกับเขา แต่ทุกอย่างก็ไม่เปลี่ยนไป เธอวางงานลงแล้วขึ้นเตียงเพื่อนอนหลับ ยังหลับไม่สนิทก็มีสายโทรเข้า เธอก็รับสาย

“มารับหน่อยสิ” คิลเลี่ยนพูดหลายรอบ เพราะเมามากและมึนงงกับชีวิตอย่างแรง

“ค่ะๆ อยู่ไหนคะ” มินตราพยายามเรียกสติ แต่งตัวใหม่แล้วก็คว้ากุญแจรถออกไปรับเขาที่หน้าทาวน์เฮาส์ของวิคตอเรีย และรู้ว่าเขากำลังเครียด เพราะรักๆ เลิกๆ กับวิคตอเรียหลายรอบ

เธอกดออดแล้วมีคนมาเปิดประตู ก็รีบเชิญเธอเข้าไปพยุงเขามาขึ้นรถ แต่เสียงเอะอะทำให้ประหลาดใจบ้าง ฟังวิคตอเรียด่าเขาอยู่ซ้ำๆ เธอก็ได้แค่ขมวดคิ้วแล้วเอาเขาขึ้นรถที่เบาะหลัง

“พาเขากลับไปแล้วไม่ต้องกลับมาอีก” วิคตอเรียด่าทออีกหลายคำ แต่มินตราไม่สนใจเรื่องทะเลาะวิวาทของหล่อนกับคิลเลี่ยน

มินตราออกรถเมื่อสะดวก แล้วไม่ถามเขาสักคำว่าเกิดอะไรขึ้น พอถึงหน้าห้องชุดก็ขอให้ยามช่วยพยุงเขาขึ้นข้างบน แล้วให้ทิป จากนั้นก็ถอดเสื้อเปียกๆ ของเขาออก แล้วถอดกางเกงด้วย เพื่อสวมชุดนอนให้

“ยกตัวขึ้นหน่อยสิคะ” มินตราบอกเขาที่กำลังงัวเงีย เมื่อเขาทำตามก็ใส่เสื้อให้เขาได้สะดวก จากนั้นก็เอากางเกงมาสวมให้เขา แล้วก็ห่มผ้าให้ พอเธอจะออกไปจากห้อง เขาก็คว้าข้อมือไว้ เธอก็หันมามอง

“อยู่เป็นเพื่อนพี่ได้หรือเปล่า รับรองว่าพี่จะไม่ทำอะไรมินต์หรอก” คิลเลี่ยนเรียกเธอไว้

ใจหนึ่งก็นึกถูกใจมินตรา...อีกใจก็ผูกพันกับวิคตอเรีย

วิคตอเรียคือผู้หญิงคนแรกที่เขาให้การต้อนรับ เป็นเพื่อนเที่ยวกับหล่อนมาเรื่อย ก็คือความผูกพันที่ยากจะตัดรอน พบๆ เลิกๆ กันหลายรอบ หล่อนเป็นคนเจ้าชู้ เขาก็มีคนอื่นมาเรื่อย

เธอถึงกับโทรไปหาเขาที่เมืองไทย เขาก็ตอบรับ ทันทีที่ลงจากสนามบิน เขาก็รีบไปหาเธอ เธอทะเลาะกับแฟนก็เรียกเขา พอจะดีกันก็ไล่เขา จนเขาต้องผิดหวังซ้ำๆ

มินตราไม่เคยเห็นเขาอาการหนักอย่างนี้ก็พยักหน้า แล้วออกไปจัดการกับถังน้ำแล้วก็ผ้า พอกลับมาเขาก็หลับสนิท เธอก็เอาผ้าห่มอีกผืนมาห่มตัวเองแล้วนอนหลับ รู้สึกตัวอีกทีเขาดึงเธอไปกอด เธอก็งัวเงียไม่ใส่ใจนักแล้วหลับไปอีกรอบ

**********************************

เช้าเขาก็มึนอย่างหนัก หันไปมองข้างๆ เห็นมินตราก็ถอนหายใจยาว ดีที่ไม่ได้ทำอะไรเธออย่างที่พูดไว้ หล่อนก็สะดุ้งตื่นแล้วรีบลุกจากเตียง ไปเตรียมตัวออกไปทำงาน

คิลเลี่ยนตามออกมาด้วย เห็นเธอทำธุระยามเช้าแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองไร้สาระมาก

มินตรารีบเดินไปที่ประตู ก็ชะงักเพราะเขาเรียกไว้ แล้วตัวเองก็นึกขึ้นได้ “พี่บอกเพื่อนพี่ได้เลยนะคะ ว่าฉันอยากไปแคสงานค่ะ แล้วพี่มีอะไรเหรอคะ”

“อืม พี่จะให้เอารถไปทำงานน่ะ เติมน้ำมันให้ด้วยแล้วกันนะ พี่คงไม่ไปไหน จะออกกำลังกายสักหน่อย เห็นเธอขยันแล้วพี่ก็รู้สึกว่าพี่ขี้เกียจจริงๆ” คิลเลี่ยนถอนหายใจยาว ก่อนโยนกุญแจให้ “รีบกลับมาล่ะ เดี๋ยวพี่เตรียมกับข้าวไว้รอ”

“ค่ะๆ ขอบคุณค่ะ” มินตราเห็นเขาไม่เสียใจอะไรมากแล้วก็โล่งใจออกไปทำงานของเธอต่อ

คิลเลี่ยนยังอยู่ในช่วงลางาน เขาจึงไม่รีบร้อน และเขาก็ได้แต่รอไปเรื่อยๆ เท่านั้น

ตกเย็นเขาออกไปซื้อของแล้วเตรียมอาหารให้เธอ รอแล้วรอเล่าสามทุ่มเธอก็ไม่กลับมา เขาจึงโทรหาเธอ แต่เธอก็ไม่รับสักที เขาจึงกดตัดสาย แต่สักพักเธอก็โทรกลับมา

“ขอโทษค่ะ พอดีมินต์มาดูงานที่โรงขึ้นรูป งานที่มินตราออกแบบไปช่างเขาทำภาพตัวอย่างเสียหาย มะรืนนี้คุณบราวน์ต้องการดูตัวอย่างค่ะ มินต์เพิ่งรู้ตอนเย็น ก็เลยต้องรีบพิมพ์มาส่งให้ เครื่องพิมพ์ที่โรงขึ้นรูปเสียด้วยค่ะ คุณบราวน์ก็กลับไปแล้ว มินต์เลยขับรถเอามาส่งให้ กำลังขับกลับค่ะ” มินตราเล่าความ แล้วก็รีบจอดรถที่ด้านหน้าห้องชุด “มินต์ถึงหน้าตึกแล้วค่ะ”

“อ๋อ งั้นเดี๋ยวพี่อุ่นกับข้าวรอแล้วกัน” คิลเลี่ยนปล่อยเธอพูดไป ไม่ตำหนิที่เธอไม่โทรมาบอก ท่าทางเธอดูตื่นๆ เพราะเพิ่งทำงานวันที่สองเท่านั้นเอง ก็มีปัญหาเกิดขึ้น

เมื่อเธอขึ้นมาก็กระหืดกระหอบ จนเขาต้องยื่นแก้วน้ำเย็นให้ “ใจเย็นก่อนได้ไหม”

“ขอโทษค่ะ มินต์ก็ลืมโทรบอกพี่ ปกติไม่เคยต้องโทร ก็เลยลืมค่ะ” มินตราบอกเมื่อดื่มน้ำเสร็จ ตาก็มองอาหาร กลืนน้ำลายด้วยความหิว

“เอาน่า ทำงานมันก็ต้องเจอปัญหาบ้าง เอ้อ พี่โทรคุยกับเพื่อนแล้วนะ เพื่อนพี่เขาจะให้ไปแคสหน้ากล้องดูอีกรอบ ต่อหน้าผู้กำกับด้วย เขาถามว่าถ้าเวลาถ่ายจริงอาจมีฉากโชว์เนื้อโชว์หนัง เธอจะไหวไหม” คิลเลี่ยนถามให้แน่ใจ เห็นใจที่เธอเพิ่งเริ่มทำงานและต้องจัดระเบียบงานเสริมอื่นอีก

“ก็ถ้าไม่ถึงกับถ่ายฉากมีเซ็กซ์จริงๆ ก็ไหวอยู่ค่ะ แค่ถอดออกหมดใช่ไหมคะ” มินตราถามย้ำ เพราะชุดเต้นก็เกือบเปลือยอยู่แล้ว

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก อาจจะแค่ถอดช่วงบน เขาว่าไม่ให้โป๊เปลือย เพราะมันเป็นภาพยนตร์เต้น แต่อาจมีบ้างไง เขาถามเผื่อไว้เฉยๆ” คิลเลี่ยนบอกตามตรง ให้เธอเตรียมใจไว้บ้าง เผื่อมีกรณีนั้นจริงๆ

“รับงานเขา อยากได้เงินเขา ยังไงก็คงต้องยอมใช่ไหมคะ” มินตราบอกอย่างเสียไม่ได้ “เคยใส่บิกินี่เข้าร่วมกองถ่ายอยู่แล้ว จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” มินตราตอบแล้วลงมือทานอาหาร ก่อนถาม “อร่อยจัง ทำเองเหรอคะเนี่ย”

“ใช่ อาหารไทยพี่ทำไม่เป็นหรอกนะ แต่อาหารฝรั่งนี่ก็ได้อยู่” คิลเลี่ยนเห็นเธอทานอย่างหิว ก็ขมวดคิ้ว แล้วถาม “นี่กินครั้งสุดท้ายเมื่อไร”

“ของว่าง ตอนบ่ายสามแล้วก็ไม่ได้กินเลยค่ะ กำลังหาแรงบันดาลใจออกแบบเครื่องเพชรอยู่ค่ะ เมื่อวานเข้างาน วันนี้ก็งานเข้าเลย” มินตราบอกแล้วก็ทานได้เรื่อยๆ เมื่ออิ่มก็ถอนหายใจ รู้สึกว่าทานจนคุ้มเลยทีเดียว ก่อนบ่นอีกเล็กน้อย “พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าหน่อยแล้วค่ะ ต้องรีดไอ้ที่เพิ่งกินไปออกให้หมด”

คิลเลี่ยนหัวเราะ “กลัวใส่บิกินี่ไม่สวยหรือไง”

“ใช่ค่ะ แหม เกิดได้งานมาจริงๆ รูปร่างไม่ดี เดี๋ยวไม่มีใครเอาค่ะ” มินตราตอบแล้วก็เอาจานไปล้าง แต่คิลเลี่ยนห้ามไว้

“ไม่ต้องหรอก ทำงานมาเหนื่อยๆ เดี๋ยวพี่ทำเอง แค่เอาใส่เครื่องล้าง เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” คิลเลี่ยนบอกแต่มินตราไม่ฟัง

“โธ่ กินแล้วก็ต้องขยับค่ะ เดี๋ยวเต้นไม่ไหว พรุ่งนี้ว่าจะเข้าครึ่งวันบ่าย คุณบราวน์อยากให้งานลูกค้าเสร็จ ก็ว่าจะเข้าสตูดิโอเพื่อนตอนเย็นค่ะ” มินตราพูดแล้วก็ช่วยเขาทำความสะอาดครัวจนเสร็จ

“แปลว่าพรุ่งนี้จะตื่นสายใช่ไหม” คิลเลี่ยนถาม แล้วก็มองหล่อนพยักหน้าช้าๆ

“ไม่หรอกค่ะ ตื่นปกติแล้วก็จะขึ้นลู่วิ่งของพี่แล้วก็ทำงาน เข้าไปบ่ายแก่ๆ หน่อย มีนัดคุยกับลูกค้า ไปรับงานแล้วก็จะเข้าไปซ้อมเต้นสักหน่อยค่ะ” มินตราตอบแล้วก็เตรียมตัวเข้าห้อง ก่อนนึกขึ้นได้ จึงหันไปถามเขา “พี่ไม่ออกไปไหนเหรอคะ”

“ไม่ล่ะ พี่ไม่อยากมีเรื่อง ไปแต่ละผับเจอแต่เพื่อนวิกกี้” คิลเลี่ยนพูดแล้วถอนหายใจยาว

“พี่เกรงใจวิกกี้จังเลยนะคะ” มินตราไม่เคยรู้เรื่องระหว่างคิลเลี่ยนกับวิคตอเรีย จึงพูดตามที่คิด

“นั่นสินะ ทำไมต้องเกรงใจ มินต์ไปแต่งตัวเถอะ เอาเปรี้ยวๆ นะ” คิลเลี่ยนบอกมินตราแต่เห็นเธอส่ายหน้า ก็รู้ว่าเธอคงเหนื่อยเกินไป

“ไม่เอาล่ะค่ะ เหนื่อยจะตายอยู่แล้วยังจะให้ไปเที่ยวอีก” มินตราเข้าห้องแล้วกำลังจะล็อก เขาก็เอามือกันเป็นเชิงห้ามไม่ให้เธอปิดประตู

“ไม่ต้องปิดหรอก ยังไม่นอนไม่ใช่เหรอ พี่ไม่ได้ดื่มเหล้า แล้วก็ไม่คิดจะปล้ำเมียตัวเองด้วย” คิลเลี่ยนพูดติดตลกแล้วถอยไปนั่งหน้าโซฟา

“ค่ะๆ” มินตราฟังแล้วก็ขำ บางทีก็ลืมไปแล้วว่าเธอคือภรรยาที่ถูกกฎหมายของเขา

คิลเลี่ยนถอนหายใจยาว คิดไปคิดมา เขาควรเลิกนิสัยเดิมๆ เสีย แล้วหันมาจริงจังกับมินตราให้มากกว่าเดิม ในเมื่อเขารู้สึกดีๆ ให้เธอ ก็ควรจะทำให้เธอสนใจเขามากกว่าเป็นแค่ผู้มีพระคุณหรือเป็นหลักช่วยพยุงเธอเท่านั้น

*****************************

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
เกือบลืมทำหน้าที่นักเขียนที่ดี
เพราะประกาศไปแล้วว่าจะมาโพสต์ตอนที่ 4 วันนี้ ยังไม่ลืมนะคะ
มาชวนกันมุงอ่านนิยายค่ะ
มีหลายคนอยู่บ้านกันก็เลยเอามาเสริฟให้ถึงบ้านนะคะ

ขอบคุณคอมเม้นจาก
คุณน้องแสตมป์ - แก้มช้ำอย่างเต็มใจค่า ^^
คุณใบบัวน่ารัก - ต้มมาม่ารอเลยค่ะ อิอิ
คุณkonhin - มาตามคำเรียกร้องเลยค่า หุหุ
พี่ตุ้งแช่ - บีบบังคับนิดๆ ค่ะ
คุณนักอ่านเหนียวแน่นหนึบ - สลับบทบาทไปมามั่งค่ะ คนอ่านจะได้ไม่เบื่อ อิอิ
คุณนอนดูดาว - 55+ เคาะก็เท่านั้นล่ะค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
https://www.facebook.com/plerngwaree
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

ป.ล. กิจกรรมแจกเฮียพายก็จะแจกอยู่นะคะ ไม่ได้ลืมค่ะ กำลังประมวลผลเรื่องอื่นอยู่ค่ะ

ป.ล. ยุติการตามหาทั้งสองท่านแล้วนะคะ แอบแจกคนอื่นไปแล้วค่ะ ^^

**********************************
eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก
- http://www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=98e88e8d-1760-42f1-9fc0-68fb86d1cbf2

2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว
- http://www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=9377205d-d30b-4542-a715-8c94c244c178

3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว
- http://www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=fbca2fe2-b27a-40f2-89fc-7c13c7cef35c

4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก
- http://www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=e5a118b1-db26-481d-92ac-39322c29ef1d

5. ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา (129บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNjMzOCI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/16015/ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา/
- http://www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=cba390dc-5dee-4cb5-9f8b-1617d0011159



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ก.พ. 2557, 14:23:06 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ก.พ. 2557, 14:23:06 น.

จำนวนการเข้าชม : 1753





<< Crying Villain ตอนที่ 3   Crying Villain ตอนที่ 5 >>
sai 2 ก.พ. 2557, 15:32:24 น.
เพิ่งเปิดกล่องพัสดุเลยไม่ได้เข้ามาอ่านพี่เคกะน้องมิ้นเพราะไปมัวอ่านหนุ่มว่านกะหนูไนท์อยู่คร้าาาา


ตุ๊งแช่ 2 ก.พ. 2557, 16:07:43 น.
กลับอังกฤษแล้ว ชีวิตคู่จะมีฮันนีมูนไหมเนี่ย


นักอ่านเหนียวหนึบ 2 ก.พ. 2557, 20:05:57 น.
ใช่ พี่เค ขี้เกียจเกินไปแล้วนะคะ
ปล่อยให้มิ้นต์ขยันคนเดียวเลยนะ
!!!!


konhin 2 ก.พ. 2557, 20:06:33 น.
เย้ได้กลับแล้วดีจังคราวนี้ก็คงเป็นเรื่องของคนสองคนแล้ว. เมื่อไหร่จะรักกันน้อ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account