นางร้ายเจ้าน้ำตา
ชีวิตของมินตราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฝันไว้ว่าจะดีขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเจอแต่อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ทุกอย่างก้าว ดีที่ได้มีโอกาสเจอเขา...คิลเลี่ยนหนุ่มลูกครึ่งชาวอังกฤษก็คอยช่วยเหลือ เป็นหลักให้เธอได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หนทางรักที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่จะจบด้วยความสมหวัง
Tags: นางร้าย

ตอน: Crying Villain ตอนที่ 5

นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 5

วันทำงานธรรมดาที่มินตราเข้ามาทำงานเพราะวันนี้ไม่มีถ่ายหนัง เธอก็เข้ามารับรองลูกค้าที่ต้องการแบบเฉพาะตัว ร้านบราวน์ไดม่อนยินดีบริการลูกค้าเก่าใหม่อย่างเต็มที่

“มินต์มาทางนี้หน่อย” เมื่อคุณบราวน์มาถึงแล้ว ก็เรียกมินตราให้ออกมาพบ

มินตรารับคำและออกมาพบกับผู้หญิงท่าทางสุภาพและสง่างามคนหนึ่ง มีอายุแล้วแต่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่ดีไว้

“นี่ภรรยาฉัน คุณนายบราวน์” คุณบราวน์แนะนำ เพราะภรรยาเขาไม่ค่อยเข้ามาที่ร้านเท่าไร โดยมากเธอจะช่วยออกไปที่สโมสรเพื่อโปรโมทร้านของสามี จึงไม่ค่อยได้เข้ามา พอกลับมาก็จะนัดลูกค้าให้ร้านผ่านทางสามี

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ มาดาม” มินตราโค้งให้ แล้วคุณนายบราวน์ก็ยื่นมือออกมาให้เธอจับ เธอก็จับอย่างสุภาพและนอบน้อม

“นี่เหรอ เพียร์ซ นักออกแบบคนใหม่” คุณนายบราวน์มองเธออย่างสำรวจ เห็นว่าเป็นหญิงสาวสวยมาก และรับรู้จากสามีถึงรายละเอียดทุกอย่างของมินตรา แต่ไม่คิดว่าจะสวยสะดุดตาอย่างนี้

“ใช่แล้ว ที่รัก เขาจะเป็นกำลังสำคัญสำหรับการออกแบบของเรา มิเชลแนะนำมา ฉันก็ดูงานเขาแล้วที่เอาไปให้เธอดูไง” คุณบราวน์เห็นภรรยาเหมือนไม่ค่อยชอบมินตราเท่าไร จึงพยายามพูดเรื่องงาน

“แล้วต้องออกแบบเดือนละสิบแบบกับงานที่ลูกค้าว่าจ้างใหม่น่ะเหรอ แต่ก็ดีนะ ถ้าเราให้ทางเลือกใหม่กับลูกค้าได้ออกแบบตามใจชอบ มันก็ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ด้วย” คุณนายบราวน์ดูแลเรื่องการตลาด มองเรื่องการขายไปด้วยก็พยักหน้าช้าๆ

“ไปทำงานเถอะ มินต์” คุณบราวน์บอกให้มินตราออกไป ก่อนบอก “เขาชื่อมินตรา ชื่อเล่นชื่อมินต์น่ะ ใครๆ ก็เลยเรียกมินต์ นี่ก็ให้รับงานแสดงหนังด้วย จะได้เอาเงินมาใช้หนี้เราเร็วๆ ไงที่รัก” คุณบราวน์เกรงใจภรรยาพอสมควร เพราะต่างก็ช่วยเหลือดูแลกันในยามสุขทุกข์มานาน

“คนไทยทำไมนามสกุลเพียร์ซ” คุณนายบราวน์ไม่ได้ข้อมูลใหม่ๆ จึงไม่รู้เรื่องเท่าไรนัก

“เพราะเธอแต่งงานกับคนอังกฤษน่ะสิ แต่งงานได้เดือนกว่าแล้วล่ะ ตอนสัมภาษณ์งานยังใช้นามสกุลศรียิ่งอยู่ แต่พอกลับเมืองไทย เขากลับมาก็ใช้นามสกุลสามีแล้วล่ะ” คุณบราวน์บอกให้ภรรยาสบายใจ เพราะรู้ว่าภรรยาขี้หึง

“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” คุณนายบราวน์ค่อยสบายใจขึ้น จากนั้นก็คุยเรื่องงานบ้าง เรื่องที่บ้านบ้าง

คุณบราวน์นั้นรักภรรยามากอยู่แล้ว เพราะภรรยาเป็นคนสวยและรู้จักรักษารูปลักษณ์ให้ดูดีเสมอ ทั้งยังวางตัวผู้ดีทุกกระเบียดในแบบที่เขาภาคภูมิใจ

**********************************

หนึ่งปีที่การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น มินตราโล่งใจที่หมดปัญหาต่างๆ ไปได้มาก เธอก็ส่งเงินให้น้องชายโดยตรงและแบ่งจ่ายให้บรรพ์สามหมื่นและพ่อแม่อีกสามหมื่น เพราะกลัวว่าบรรพ์จะได้เงินค่าเทอมไม่ครบ

มินตราพอรู้ว่าหนังที่เธอแสดงได้ไปฉายในช่องเคเบิ้ล ก็บอกน้องชายให้รอดูผ่านเว็บ แม้เธอจะเป็นแค่ตัวประกอบเท่านั้น แต่เรื่องที่รับงานหลังกลับมาจากเมืองไทย ถ่ายทำเสร็จแล้วแต่ยังอยู่ในขั้นตอนการตัดต่อ เธอจึงยังไม่บอกน้องชาย

“เป็นไง หายเหนื่อยเลยสิ” คิลเลี่ยนถาม ขณะดูหนังเรื่องที่ออกฉายแล้ว

“ก็ไม่ได้เหนื่อยหรอกค่ะ ถ้าทำงานแล้วมัวแต่คิดว่าเหนื่อย มันก็ไม่อยากทำ แต่ถ้าคิดว่าทำงานสนุก มันก็ไม่เหนื่อย แล้วอยากทำมากขึ้น” มินตราบอกแล้วนั่งอยู่ข้างๆ เขา ปล่อยให้เขาเอามือโอบไหล่เธอ

เธอก็ไม่แน่ใจว่าเขาทำเพื่ออะไร เพราะเขาไม่พูดมาก จะว่าเขาจีบก็กลัวว่าเธอจะคิดไปเอง เพราะเขาก็ให้ความสนิทสนมกับเธออย่างนี้มาตลอด มีพักหลังดูจะสนิทสนมและใกล้ชิดมากกว่าเดิม

“ถ่ายรอบที่ผ่านมานี่ เขาให้ตั้งหมื่นยูโรไม่ใช่เหรอ เอาไปจ่ายหนี้หมดสินะ” คิลเลี่ยนถามแล้วเธอก็พยักหน้าช้าๆ

“จ่ายไปเก้าพันค่ะ เก็บไว้พันนึง เผื่อมีเหตุฉุกเฉินค่ะ” มินตราบอกแล้วก็ถอนหายใจยาว “จะให้ค่านายหน้า พี่ก็ไม่เอานี่คะ”

คิลเลี่ยนหัวเราะ ส่ายหน้าช้าๆ พูดอย่างไม่จริงจังนัก “ไม่เอาหรอก อะไร ยังไงเธอก็ทำงานบ้านให้พี่ เก็บไว้เถอะน่า เผื่อฉุกเฉิน พี่อาจขอยืม”

“ไม่ต้องยืมหรอกค่ะ ให้เลย” มินตรายิ้มให้เขา พอเงยหน้าก็รู้ว่าเขาก้มลงมองหน้าเธอออยู่ ใกล้ชิดมาก จนเธอต้องรีบหันหน้าไปดูหนังต่อ

“มีติดต่อเรื่องใหม่มาหรือยัง” คิลเลี่ยนถามกลบเกลื่อน รู้สึกขัดๆ เก้อเขินไปบ้าง กำลังปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม เธอจะได้เข้าใจเขามากขึ้น

“มีค่ะ แต่ไม่ใช่หนังเต้นแล้วค่ะ คิดอยู่ว่ารับดีไหม ผู้กำกับเขาติดต่อให้ หนังเขาอีกนั่นแหละค่ะ แล้วอีกอย่างหนังก็ไม่มีฉากโป๊ ทำไมพี่พูดซะน่ากลัวล่ะค่ะ” มินตราถามอย่างสงสัย เมื่อนึกถึงตอนที่เขาถามเกี่ยวกับฉากโป๊

“เห็นเธอหัวโบราณ ถามเผื่อไว้ก่อน เรื่องใหม่นี่เขาว่ายังไง” คิลเลี่ยนถามเพราะจะได้ช่วยดูให้ว่าค่าตัวเท่าไร

“เอาบทมาให้แล้วค่ะ เป็นหัวหน้าเชฟในร้านอาหารจีน พระเอกอยากเป็นเชฟ แล้วก็เข้าไปทำงานเป็นลูกน้อง อะไรประมาณนี้แหละค่ะ” มินตราเล่าคร่าวๆ ตามที่รู้มา

“เก่งใหญ่แล้วนะ รับงานเองเลย” คิลเลี่ยนพูดอย่างไม่จริงจังนัก

“เก่งจริงๆ ก็ดีสิคะ แต่ได้ออกแทบทุกฉากที่พระเอกเข้าไปทำงาน แล้วก็ต้องช่วยพระเอกสร้างร้านอีก แต่ตัวละครนี้น่ะ ถูกแฟนซ้อมด้วยค่ะ พระเอกช่วยไว้ แต่ไม่ได้คิดอะไรกับพระเอกหรอกนะคะ ช่วยเพราะเห็นว่าพระเอกเป็นคนดี” มินตราเล่าต่ออีก คิดๆ อยู่ว่าควรรับไหม กลัวทำไม่ได้และจะทำงานเสีย

“เหมือนแสดงเป็นตัวเธอเลยนะ” คิลเลี่ยนพูดตามตรง และให้กำลังใจพร้อมความมั่นใจด้วย

“ไม่หรอกค่ะ เพราะตัวละครปากร้ายใจดี ด่าพระเอกประจำ ต้องไปหัดพูดภาษาจีนด้วย ด่าไฟแล่บเลย หัดด่าเฉยๆ นะคะ มินต์เลยไม่แน่ใจว่ารับดีไหม” มินตราบอกรายละเอียดที่กังวลทีละนิด เพราะเธอต้องคิดไปด้วย

“ไม่ยากหรอก ฉันรู้จักคนนึง รับรองว่าปากจัดแน่ เดี๋ยวให้มาช่วยหัด” คิลเลี่ยนออกปากช่วยจริงจัง

“งั้นคงต้องลอง” มินตราขอลองหัดก่อน แต่คิลเลี่ยนรู้ว่ามินตราเป็นคนหัวไว ยังไงก็ต้องทำได้อยู่แล้ว

คุณบราวน์ก็ไม่มีปัญหา เพราะมินตรามักใช้เวลานอกงานมากกว่า ไม่ค่อยเสียงานเท่าไร เมื่อไรที่นัดลูกค้าให้ เธอก็มาก่อนเวลาเสมอ ทำให้ไม่มีใครว่าเธอ เพราะความรับผิดชอบของเธอมีมาก

**********************************

เสียงเปียโนดังกลางห้องโถงใหญ่ของโรงแรมหรูห้าดาว ชายหนุ่มหน้าตาดีกำลังบรรเลงเพลงหวานซึ้ง ปลอบประโลมใจคนที่มาใช้บริการ สักพักเขาก็ย้ายไปเล่นที่ห้องอาหาร เล่นทุกแนวที่แขกต้องการ เมื่อตีสองเขาก็เตรียมตัวกลับ

“ได้ยินว่าคุณเลิกไปกับแขกแล้วเหรอ” ผู้จัดการห้องอาหารพูดขึ้น ออกแนวเลียบเคียงถาม

“ก็ต้องดูก่อนว่าผมพอใจไหม ทำไมเหรอครับ” คิลเลี่ยนพูดโดยไม่ต้องอาย ยิ่งปิด...ปากคนยิ่งยืดยาว

“ผมมีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย” ผู้จัดการห้องอาหารบอกตามตรง “ผมมีค่าจ้าง”

“ก็ต้องดูก่อนนะครับว่าผมพอใจกับคนคนนั้นหรือเปล่า” คิลเลี่ยนบอกตามตรง เขาไม่เดือดร้อน แค่ค่าทิปเขาก็ได้เยอะอยู่แล้ว ด้วยหน้าตาและท่าทางของเขา ทำให้แขกผู้หญิงยินดีให้ทิปเขาหนักๆ

“ผมเข้าใจ ผมแค่อยากให้คุณช่วยอะไรผมหน่อย พี่สาวผมเพิ่งเลิกกับสามี เธอต้องการความช่วยเหลือ ไม่ใช่เรื่องบนเตียง เรื่องความมั่นใจในการใช้ชีวิตโสดอีกครั้ง ผมแค่จะให้คุณพาเธอไปเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเธอน่ะ สร้างความมั่นใจให้เธอ” ผู้จัดการห้องอาหารอธิบายความ “นอกจากค่าจ้างแล้ว ทุกอย่างที่คุณพาพี่ผมไปซื้อ เอาบัตรนี่ไปจ่าย นี่เช็คค่าจ้าง พอไหม”

คิลเลี่ยนมองเช็คแล้วก็พยักหน้า ก่อนรับบัตรเครดิตมา “อ๋อ งั้นได้ครับ”

“ห้ามพาพี่สาวผมขึ้นห้องนะ” ผู้จัดการห้องอาหารเตือนอีกครั้ง ไม่อยากให้เหตุการณ์เลยเถิด

“ผมไม่คิดจะพาผู้หญิงคนไหนขึ้นเตียงแล้วล่ะ” คิลเลี่ยนบอกตามตรง เบื่อจะเที่ยวอย่างไร้หลักแหล่ง

“ทำไมล่ะ หรือเพราะถูกจับ” ผู้จัดการห้องอาหารถามอย่างสงสัย ตอนแรกกลัว ตอนนี้อยากรู้

“เปล่าครับ แต่ผมเบื่อน่ะ ขอตัวก่อนนะครับ” คิลเลี่ยนรับเบอร์โทรมาจากผู้จัดการห้องอาหารแล้วก็กลับ

เขาไปขึ้นแท็กซี่แล้วกลับไปถึงบ้านเกือบตีสามก็รู้ว่าเธอหลับไปแล้ว เขาถอนหายใจยาว แล้วหันไปเข้าห้องเขา เห็นเธอเตรียมชุดนอนไว้ให้ก็เป็นเรื่องปกติที่เธอจะทำ เขาก็จัดการตัวเองแล้วเข้านอน

**********************************

สองปีที่มินตราไม่เห็นเขาพาผู้หญิงคนไหนเข้ามาในห้องชุด แล้วเธอก็เอะใจ เพราะเธอเข้านอนก่อน ส่วนคิลเลี่ยนกลับก็หลังตีสองเสมอ แต่เสื้อผ้าที่ถูกถอดกระจัดกระจายเต็มห้อง มีทั้งของผู้ชายของผู้หญิง มินตราถอนหายใจยาว เพราะเขากลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก

เธอหายใจเข้าลึกๆ เพราะตั้งแต่เขาทะเลาะกับวิคตอเรียครั้งนั้น เธอเกือบคิดว่าเขาจะมองเธอ แต่ดีที่แค่เกือบคิด เขาก็แค่ไม่รู้จะไปบริหารเสน่ห์กับใครเท่านั้น วันนี้วันหยุดของเธอ และตอนแรกเธอจะชวนเขาไปทานอาหารข้างนอก มันคงไม่เกิดขึ้นแล้ว เธอจึงเก็บทุกอย่างให้เข้าที่แล้วจะกลับเข้าห้อง

เสียงประตูเปิดออก หญิงสาวผมแดงออกมาจากห้องเขา มินตราหันไปตามเสียงทำให้เห็นวิคตอเรียพอดี อีกฝ่ายชักสีหน้าทันทีที่เห็นเธอ

“ยังไม่คิดจะไปหาที่อยู่เองหรือไง” วิคตอเรียถามอย่างรังเกียจ แต่มินตราไม่ตอบ

มินตราเก็บของวางไว้ แล้วก็ทำอาหารเช้าตามปกติที่ทำอย่างเงียบๆ แค่เห็นวิคตอเรีย ใจก็เสียและรู้สึกแย่มากพอแล้ว ยังต้องทนฟังวิคตอเรียกระแนะกระแหนอีก

“คนไร้มารยาท คนอื่นพูดด้วยก็ทำหยิ่ง” วิคตอเรียพูดเสียงดังจนคิลเลี่ยนตื่น

มินตราก็ไม่พูดด้วย และล้างครัวจนเสร็จ ก็วางอาหารแล้วกลับเข้าห้อง คิลเลี่ยนมองแล้วถอนหายใจยาว ก่อนอาบน้ำแต่งตัวแล้วพาวิคตอเรียออกไปจากห้อง จะได้ไม่มีปัญหากับมินตรา

“ทำไมผู้หญิงคนนั้นยังไม่ไปอยู่ที่อื่นอีกล่ะ” วิคตอเรียถามซ้ำอีกครั้ง อยากให้เขากำจัดแม่สาวชาวไทยทิ้งไปเสีย เขาจะได้ไม่กล้าแข็งข้อกับเธออีก

“เขาอยู่ช่วยผมทำความสะอาด หาอาหารให้ทานไง เขาดูแลผม” คิลเลี่ยนตอบอย่างสุภาพและไม่ได้บอกวิคตอเรียว่าเขาแต่งงานกับมินตราแล้ว

“จ้างเมดสักคนก็ได้ ไม่เห็นต้องให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้วยเลย” วิคตอเรียพยายามให้คิลเลี่ยนกำจัดมินตราออกไป เขาจะได้ไม่มีทางเลือกอื่น เมื่อเธอเรียกเขาจะได้มาหาเธอทุกเมื่อที่ต้องการเหมือนเดิม

คิลเลี่ยนไม่ตอบคำ เมื่อถึงหน้าทาวน์เฮาส์ของวิคตอเรียแล้ว เขาก็ลงไปเปิดประตูรถให้ แล้วพูดกับวิคตอเรีย “เราจบกัน ไม่ต้องติดต่อกันอีกนะครับ เราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก”

“ว่าไงนะ คิลเลี่ยน ทำแบบนี้ได้ยังไง” วิคตอเรียถามเขาอย่างงุนงง

“ทำไมจะทำไม่ได้ ผมไม่ใช่ของตาย จะได้ให้คุณเรียกใช้เวลาขาดแฟน ผู้หญิงอย่างคุณ ผมจะหาเมื่อไรก็ได้ อยู่ที่จะหาไหม แล้วหยุดไล่มินตราเสียที เขาคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผม เขามีสิทธิแม้แต่นอนบนเตียงผมเสียด้วยซ้ำ ลาขาด” คิลเลี่ยนขึ้นรถทันที หัวเราะเยาะหล่อนอย่างพอใจ ทำให้หล่อนโกรธ และตบรถเขา แต่เขาก็ไม่สนใจ ได้จังหวะก็ออกรถ ลืมคนอย่างหล่อนได้ถือว่าเขาโชคดี

เมื่อกลับมาถึงห้องชุด เขาก็เคาะประตูห้องมินตรา แต่มินตราออกมาจากห้องเขา เขาก็ตกใจ เพราะรู้ว่าเขายังไม่ได้เก็บห้อง รีบพาวิคตอเรียออกไปก่อน ถุงยางที่เขาใช้คงทิ้งอยู่ที่พื้น

มินตราเก็บห้องแล้วก็ออกมา เห็นถุงยางทิ้งอยู่สามชิ้น เธอเอาถุงมือใส่เก็บไปทิ้งแล้ว

“เธออย่าไปเก็บห้องพี่เลย พี่เก็บเองได้” คิลเลี่ยนเห็นใจมินตรามากขึ้น แล้วพยายามอธิบาย “พี่เลิกกับวิกกี้ขาดแล้ว เมื่อคืนเขามาหาพี่ที่ห้องอาหาร พี่ก็อยากเอาคืนเขาเท่านั้นแหละ”

มินตราขมวดคิ้วแล้วมองหน้าเขา ก่อนจะสะบัดทุกอย่างทิ้งแล้วออกไปจากห้องเขาอย่างโกรธๆ ปิดประตูห้องเสียงดังลั่นแล้วล็อกประตู แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาเองอย่างสุดทน

คิลเลี่ยนถอนหายใจยาว เพราะรู้ว่าเธอโกรธจัด จึงเดินไปเคาะประตู “มินต์ออกมาคุยกันก่อนได้ไหม พี่ขอโทษ”

มินตราเอาหมอนปิดหน้าร้องไห้ สักพักได้ยินเสียงเปิดประตู ก็หันไปมองจึงรู้ว่าเขาเอากุญแจสำรองไขเข้ามา

“ร้องไห้ทำไม พี่ขอโทษ ถ้าวิกกี้เขาพูดอะไรให้เจ็บใจ เขาจะไม่กลับมาแล้ว” คิลเลี่ยนเข้าไปหา แต่มินตราหันไปมองอีกทาง เมื่อเห็นอย่างนั้น เขาก็ซุกตัวเข้าหามินตรา พยายามง้อให้หายโกรธ

“มาเบียดทำไม” มินตราดันเขาให้พ้นเตียง จนเขาตกลงไปนอนข้างล่างแทน

คิลเลี่ยนก็นอนที่พื้น ทำให้มินตราหันไปมอง ไม่เห็นเขาร้องหรือพูดอะไรอีก เมื่อเห็นเธอมอง เขาก็พูดอีก “พี่ขอโทษ พี่อยากจะแก้แค้นวิกกี้สักหน่อย”

“แก้แค้นหรือหาความสุขกันแน่คะ” มินตราถามเขา เห็นเขายิ้มให้ก็หันหน้าไปอีกทาง

“ก็จะแก้แค้นทั้งที พี่ก็หาความสุขบ้างสิ ไม่เห็นหน้าตอนพี่บอกวิกกี้ว่าพี่ลาขาด หล่อนโกรธจัดน่าดู เพิ่งเลิกกับแฟนอีกคน มาเจอพี่บอกเลิกอีก แหกปากร้องดังลั่นเลย ไม่เหลือสมบัติผู้ดีสักนิด” คิลเลี่ยนเล่าความ ทำให้มินตราหัวเราะออก แล้วยอมหายงอน

“พี่นี่ร้ายเกินไปแล้วนะ ทำแบบนี้ได้ยังไง” มินตราส่ายหน้าช้าๆ หยิบกระดาษมาเช็ดหน้า

“สองปีก่อนวิกกี้ทะเลาะกับแฟนเรียกพี่ไปหา อยู่ด้วยทั้งวัน พอแฟนมาหาเท่านั้นไล่พี่ พี่ออกไปเจอแฟนเขา เขายิ่งโกรธจัด พี่เลยอยู่กินเหล้าจนเมานั่นแหละ เขาทุบตีพี่ด้วย เพราะแฟนเขาสู้พี่แพ้ หน้าแหกเลย พอเลิกกับไอ้ไก่อ่อนนั่น คิดจะเรียกพี่ไปให้บริการ พี่ก็ไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงมานาน หาความสุขให้เต็มที่แล้วก็เลิก พี่อาจจะสารเลว แต่ถ้าเขาไม่ทำพี่ก่อน พี่ไม่ทำกลับหรอก” คิลเลี่ยนเล่าความอย่างสะใจ

มินตราถอนหายใจ แล้วลุกขึ้น ฟังเขาแล้วก็หายโกรธ ไม่รู้ว่าทำไมต้องร้องไห้ แต่น้ำตามันไหลออกมาแล้วห้ามยาก จึงได้แต่ปล่อยให้ไหล จนพบความจริงบางอย่างและได้แต่เก็บไว้ในใจเท่านั้น

“ว่าแต่ร้องไห้ทำไม วิกกี้ว่าอะไรเยอะเลยเหรอ” คิลเลี่ยนรู้แต่วิคตอเรียอยากให้มินตราออกไปจากห้องเขา คิดว่าคงโดนออกปากไล่อีกนั่นแหละ

“ที่ร้องไห้เพราะอึดอัด กลัวต้องตามเก็บถุงยางใช้แล้วของพี่อีกค่ะ” มินตราบอกทำให้คิลเลี่ยนหัวเราะอีก

“ถ้าพี่ไม่ใช้ถุงยางก็ติดโรคสิ แถมยังมีลูกพี่อีกเป็นพรวน แต่หลายเดือนมานี่พี่ก็ไม่ต้องใช้นี่นะ” คิลเลี่ยนทำให้เธอกระแทกลมหายใจอย่างแรง ก่อนจะบอก “พี่บอกวิกกี้ไปว่ามินต์เป็นเมียพี่ ทำให้วิกกี้หน้าเหวอไปเลย สมน้ำหน้า อยากไล่มินต์ดีนัก คิดเต็มที่ว่าพี่จะไล่มินต์ อย่างกับพี่สนนักล่ะ มินต์ดีกับพี่จะตาย ถ้ามินต์ไม่ทิ้งพี่ พี่ก็ไม่ไล่มินต์หรอก”

มินตราก็หัวเราะ ก่อนพูดดักคอ “กะพูดเต็มที่เลยสิคะว่ามินต์เป็นเมียพี่ กะหยามเต็มที่ใช่ไหมคะ”

“แน่นอน เก็บความลับไว้จนกระทั่งวินาทีสุดท้ายเลยล่ะ” คิลเลี่ยนเห็นเธออารมณ์ดีมากขึ้น ก็ลุกขึ้นนั่ง “หายอึดอัดแล้วใช่ไหม”

“ถามหน่อยได้ไหมคะ” มินตราพูดขึ้น เมื่อเขานั่งเอาคางวางที่นอน

“ว่ามาสิ” คิลเลี่ยนปล่อยให้เธอถาม

“พี่จะกลับไปเป็นเพื่อนเที่ยวอีกไหมคะ” มินตราถามจะได้ทำใจถูก

“เรียกเสียเพราะ คนอื่นว่าพี่ขายตัว” คิลเลี่ยนยังไม่ตอบ แล้วพูดย้อน เห็นเธอนิ่งรอคำตอบก็บอกตามตรง “จริงๆ แล้วพี่ไม่ได้ลำบากขนาดจะเป็นเพื่อนเที่ยวสาวๆ ไฮโซหรอก แต่พี่รักสนุกน่ะ ก็เลยปล่อยให้พวกหล่อนคิดไปอย่างนั้น เล่นเปียโนน่ะทิปเยอะจะตาย แล้วพี่ก็ช่วยปรับรูปลักษณ์ให้พวกสาวๆ สาวคนไหนชอบเที่ยว พี่ก็เที่ยวด้วย คนไหนรักสนุก พี่ก็สนุกด้วยเท่านั้นแหละ ตอบได้เลยว่าพี่หยุดแล้ว”

มินตราพยักหน้าช้าๆ ก่อนขมวดคิ้วเมื่อคิดได้แล้วถาม “พี่ไม่รักสนุกแล้วเหรอคะ”

คิลเลี่ยนก็หัวเราะเมื่อเธอช่างสงสัย “หลายเดือนมานี่เห็นพี่รักสนุกไหมล่ะ”

มินตราส่ายหน้าช้าๆ เพราะเขากลับบ้านทุกคืน วันหยุดก็ไม่ค่อยไปไหน และไม่พาผู้หญิงกลับห้อง

“นั่นแหละ คำตอบ พี่แก่แล้ว อยากลงหลักปักฐานสักที” คิลเลี่ยนบอกมินตรา มองเธออย่างมีความหมาย

“พี่เจอผู้หญิงคนนั้นแล้วเหรอ” มินตราถามอย่างสงสัย อดใจหายไม่ได้ เพราะเธอต้องหย่าให้เขา ถ้าเขาเจอใครคนนั้นที่เขาคิดจะลงหลักปักฐาน

คิลเลี่ยนนั่งจ้องเธอ เห็นเธอมองกลับแล้วขมวดคิ้วสงสัย จึงบอก “เจอแล้วแต่งงานด้วยแล้ว”

มินตราขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม ก่อนนึกขึ้นได้ “มินต์เหรอ”

“พี่ไม่ได้แต่งงานกับคนอื่น จะเป็นคนอื่นได้ยังไง” คิลเลี่ยนเห็นเธอทำตาโตก็ดึงมากอด “เรื่องเมื่อคืนพี่ขอโทษ จะไม่มีอีกแล้ว พี่แค่อยากล้างแค้นก็เท่านั้นเอง”

“อืม” มินตราก็ปล่อยเขากอด แม้เขาไม่บอกว่ารัก แต่บางทีแค่เขารับผิดชอบ มันก็ไม่ต้องมีความรักก็ได้

“ยอมอยู่กับพี่ไหมเนี่ย” คิลเลี่ยนถามให้แน่ใจ เชยคางเธอแล้วมอง เวลานี้คงซ่อนความรักไว้ไม่ได้ มีแต่คำพูดที่เขายังไม่กล้าพูดออกไป

“พี่ก็จีบมินต์ให้ติดสิ แล้วมินต์ก็จะอยู่กับพี่เอง” มินตราพูดติดตลก แก้เขินและกลบความกลัวในใจ กลัวว่าจะเป็นเพียงของใกล้มือเขาเท่านั้น

คิลเลี่ยนหัวเราะ ก่อนจะพูดอย่างท้าทาย “ได้เลย พี่จะจีบเธอ”

มินตราก็หัวเราะ แล้วลุกขึ้น จัดเตียงตัวเอง แล้วก็ลากเขาออกไปจากห้องเธอ

“ไปนอนห้องพี่ไหม” คิลเลี่ยนชวนแล้วลุกตามแรงดึง

“ไว้พี่จีบมินต์ติดเมื่อไร มินต์จะย้ายไปนอนห้องพี่” มินตราบอกแล้วก็แอบหน้าแดงนิดๆ

“ตามนั้น” คิลเลี่ยนออกไปจากห้องเธอก็ถอดเครื่องนอนห้องตัวเอง เอาไปซักแล้วก็เคลียร์ห้องเอง ไม่อยากให้เธอต้องมาเจอสภาพนั้นอีก เมื่อเสร็จแล้วก็ออกมาเจออาหารก็นึกหิว

“พี่ยังไม่ได้ทานอะไรเลยสิ” มินตราวางอาหารที่โต๊ะ แล้วนั่งลงทานไปกับเขาด้วย

“รู้ใจพี่จริงๆ” คิลเลี่ยนมองเธอยิ้มก็สบายใจ ตั้งใจว่าต่อไปนี้หยอดได้เป็นหยอด จะตั้งใจจีบเมียตามกฎหมายมาเป็นเมียถาวรตลอดกาล

มินตราปล่อยเขาทำท่าทางจีบไปเรื่อยๆ ปกติเขาไม่ต้องลงทุนจีบใคร แค่มองตา สาวๆ ก็ตามเขาเป็นพรวน หากคิลเลี่ยนพอดูออก คาดว่าจีบไม่นาน เขาก็ได้ครอบครองหัวใจเธอและได้มอบหัวใจเขาให้เธอ

**********************************

อีกครึ่งปีเธอจะหมดสัญญากับร้านบราวน์ไดม่อนแล้ว แต่เธอก็ยังทำงานต่อไปหลังใช้หนี้จนหมด มินตรายังไม่คิดจะเปลี่ยนอาชีพ และยังคงขยันเป็นที่ถูกใจคุณบราวน์มาก

“มินต์มานี่ทีสิ ผมจะแนะนำผู้จัดการร้านคนใหม่ให้รู้จัก” คุณบราวน์ไม่ได้บอกอะไรลูกน้องมาก แต่พอถึงเวลาก็ต้องทำให้เป็นเรื่องเป็นราวสักที

มินตราเป็นงง ปกติที่ร้านไม่มีผู้จัดการ เพราะคุณบราวน์จะจัดการทุกอย่างเองหมด มาวันนี้อยู่ๆ ก็มีผู้จัดการร้าน จึงงุนงงเล็กน้อย แล้วเมื่อเธอออกไปที่หน้าร้านก็เห็นผู้ชายที่มายืนรอเวลาร้านเปิด แล้วก็ออกไปนั่งที่ร้านกาแฟฝั่งตรงข้าม

“นี่หลานชายผม คริสโตเฟอร์ บราวน์ ลูกของพี่ชายผม คุณก็รู้นะว่าผมกับภรรยาไม่มีลูกกัน พ่อของคริสต์เขาเสียไปตั้งแต่คริสต์ยังเด็ก ผมก็เลยอุปการะมาตลอด เขาจะมาทำงานที่ร้านให้ผม รู้จักกันไว้สิ” คุณบราวน์แนะนำหลานชายแล้วก็ให้มินตราพาไปเดินดูร้าน เพราะลูกค้าเข้ามาพอดี

มินตราก็พาไปแนะนำทั่วร้านให้ดีที่สุด แต่ก็สุดจะคาดเดาว่าเขาจะพอใจหรือไม่ เพราะท่าทางนิ่งเฉยของเขา

“คุณเป็นผู้ช่วยอาผมเหรอ” คริสต์ถามขึ้น เพราะดูท่าทางของมินตราไม่ใช่แค่นักออกแบบธรรมดา อาสะใภ้เขาก็เล่ามาบ้าง แต่ไม่คิดว่าเมื่อเจอตัวจริงจะเป็นคนมากความสามารถ

“ไม่ใช่ค่ะ คืออะไรที่ฉันทำได้ ฉันก็ทำ คุณบราวน์กับคุณนายเมตตาฉันมาก ทำให้ฉันทำงานได้ไม่อึดอัดค่ะ” มินตราพูดถึงเจ้านายในแง่ดีเสมอ แต่ก็พยายามไม่พูดให้ดูเป็นการประจบมากเกินไป

“เป็นดาราได้เงินดีกว่าไม่ใช่เหรอครับ” คริสต์รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นดารา ได้แสดงหนังอยู่หลายเรื่อง อยากจะเลียบเคียงถามเพื่อดูนิสัยใจคอ

“แต่นี่เป็นงานที่ฉันรักค่ะ ฉันก็อยากจะทำงานที่ฉันมีความสุข งานแสดงฉันก็ชอบ แต่ไม่เท่างานออกแบบ” มินตราพูดอธิบายความแล้วไม่สนใจเขาเท่าไรนัก เธอตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้

“คุณจะแสดงอีกไหม เพราะถ้าผมมาทำงาน ผมไม่อยากให้พนักงานวิ่งรอกหลายงานหรอกนะ ผมอยากให้ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและทำงานให้ผมอย่างเต็มที่” คริสต์พูดดักคอ เพราะรู้จากอาสะใภ้ว่ามินตราใช้หนี้หมดแล้ว และอาจอาศัยความใจดีของอาเขาเพื่อหาประโยชน์จากร้าน

มินตราชะงักเพราะคุณบราวน์ไม่เคยว่าอะไร และเธอก็ทำงานให้เต็มที่อยู่แล้ว จึงย้อนถาม “คุณคิดว่าที่ผ่านมาฉันทำงานไม่คุ้มค่าจ้างเหรอคะ”

คริสต์ไม่คิดว่าเธอจะถามเขาแบบนั้น เขาก็บอกตามที่เขาเข้าใจ “อาผมไม่คิดว่าอย่างนั้น”

“แต่คุณคิด งั้นถ้าหมดสัญญาเมื่อไร ก็ไม่ต้องต่อสัญญาก็ได้ค่ะ” มินตราเห็นเขาพูดจาหาเรื่องเธอก็ไม่คิดจะวุ่นวายด้วย จึงตัดบทเขา “ฉันไม่มีอะไรจะพาไปดูแล้ว เชิญคุณตามสบายนะคะ เดี๋ยวฉันจะทำงานไม่คุ้มค่าจ้าง ขอตัวค่ะ”

คริสต์ได้แต่มองตาม เห็นเธอหันหน้าเข้าโต๊ะงานก็เดินกลับไปหาอา ซึ่งกำลังพูดคุยกับลูกค้าอยู่ และกำลังสอนให้เขาได้เรียนรู้งานต่างๆ ไปด้วย

เมื่อเลิกงานแล้ว มินตราก็ไปที่จอดรถ ตั้งใจจะกลับบ้าน แต่ก็หอบงานกลับด้วย จะได้จัดการงานที่ค้างให้เสร็จ

“ไม่มีใครบอกคุณเหรอว่า การเอาแบบกลับไปทำ มันมีโอกาสที่จะถูกขโมยแบบ” คริสต์ถามขึ้น อาเขากลับไปแล้ว และเขาก็จับตาเธอเป็นพิเศษ เพราะอาสะใภ้เขาบอกว่าอาไว้ใจหล่อนมากเกินไป อาจทำให้ความลับของลูกค้าถูกเปิดเผย

“คุณบราวน์อนุญาตให้ฉันเอากลับไปทำค่ะ” มินตราบอกแล้วพยายามสะกดอารมณ์โกรธ รู้สึกว่าเขาจ้องเล่นงานเธอเป็นพิเศษ

“ทำไมอาผมถึงไว้ใจคุณขนาดนั้น” คริสต์ถามเพราะคิดว่าหล่อนเป็นเมียเก็บของอาเขา ตามที่อาสะใภ้สงสัย และความไว้ใจที่อาเขามีแต่หล่อนก็ทำให้เรื่องนี้ดูเข้าเค้ามากทีเดียว

“เพราะฉันไม่เคยทำให้ความลับรั่วไหลน่ะสิ เอาล่ะ ถ้าคุณไม่สบายใจ ฉันจะไม่เอากลับไปทำก็ได้ แต่ถ้างานไม่เสร็จ คุณคุยกับอาคุณก็แล้วกัน” มินตราตั้งใจจะย้อนเอางานไปเก็บ เพราะเบื่อจะต้องเคลียร์ปัญหากับเขา

“ผมไม่ได้บอกให้คุณเอาไปเก็บ ผมแค่เตือนให้คุณเข้าใจถึงความสำคัญของความลับลูกค้า” คริสต์ก็ไม่ได้ห้ามและพยายามอธิบายและทำเหมือนเขารู้ทุกอย่างมากกว่าเธอ ซึ่งเขาไม่รู้ตัวว่ามันไม่จริง

“คุณคริสโตเฟอร์คะ ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันไปทำอะไรให้คุณรำคาญใจ แต่คุณไม่ต้องคอยตามจิกฉันแบบนี้ก็ได้นะคะ สองปีกว่าที่ผ่านมา ฉันก็พยายามทำงานเต็มที่ จนร้านได้รางวัลสองปีซ้อน ถ้าคุณไม่พอใจ ฉันก็คงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้วค่ะ ขอตัวกลับก่อนนะคะ” มินตราโยนแบบใส่รถ แล้วขึ้นรถ เพราะเขาหาเรื่องเธอตลอดในช่วงที่คุณบราวน์ไม่อยู่

คริสต์พยายามจะอธิบาย แต่เธอไม่ฟังแล้วออกรถทันที เขาก็ได้แต่มองตามอย่างเข้มงวด และเก็บความไม่พอใจอยู่ลึกๆ เริ่มรู้สึกว่าเขาคงทำงานร่วมกับเธอไม่ได้แน่นอน

เมื่อมินตราถึงห้องชุดแล้วก็กระแทกลมหายใจยาว กว่าเธอจะกลับมา คิลเลี่ยนก็ไปทำงานแล้ว เธอก็ได้แต่หงุดหงิดอยู่ในห้องพัก แบบที่เอามา เธอก็ไม่ได้ทำ เพราะอารมณ์ขุ่นมัวที่เกิดขึ้น

อาจถึงเวลาที่เธอจะไปจากที่นี่แล้วก็ได้...

**********************************

คิลเลี่ยนมาถึงตอนตีสองครึ่ง เห็นมินตราวางแบบทิ้งไว้ ทั้งที่ปกติเธอจะเอาเข้าห้องเพื่อทำงาน ก็ขมวดคิ้วสงสัย แล้วเขาก็แยกเข้าห้องเขา แต่เห็นเธอเปิดไวน์ดื่มและทิ้งขวดไว้ที่โต๊ะอาหารก็ขมวดคิ้ว

เปิดประตูห้องเธอเข้าไปก็เห็นเธอนอนอยู่มีแก้วไวน์ไว้ที่หัวเตียง แปลว่าหล่อนดื่มหมดขวดแน่นอน เขาก็เลยซุกตัวเข้าไปกอด เธอพลิกตัวหันมามอง แต่ไม่ห้าม ก็พลิกมากอดเขา ขยับเข้าไปด้านในอีก เขาจะได้อยู่บนเตียงแคบของเธอได้แล้วไม่พูดอะไร

ทั้งสองหลับจนสว่าง แล้วมินตราก็ไม่สนใจจะไปทำงานอีก อารมณ์เวลานี้ไม่อยากเจอหน้าเจ้านายใหม่ตัวแสบ

คิลเลี่ยนสะดุ้งเพราะเสียงนาฬิกาปลุก เห็นเธอปิดแล้วนอนต่อก็เป็นงง ช่วงนี้เธอไม่มีงานแสดง เธอจึงออกไปทำงานเช้าทุกวัน เขาจึงถามอย่างงุนงง “ไม่ไปทำงานเหรอ”

“ไม่ล่ะค่ะ วันนี้ป่วยการเมืองสักวัน” มินตราบอกแล้วก็พลิกหันหลังนอนต่ออย่างไร้อารมณ์

“ป่วยการเมือง? เธอเนี่ยนะ ป่วยการเมือง” คิลเลี่ยนมองเป็นเรื่องประหลาด เพราะเขาต่างหากที่ชอบป่วยการเมือง จึงต้องถามให้ละเอียด “มีเรื่องอะไรแน่”

มินตราก็พลิกหันมาทางเขา ก่อนอธิบายอย่างเซ็งๆ “เมื่อวานคุณบราวน์พาหลานชายเขามาทำงาน คุณบราวน์น่ะไม่อะไร แต่หลานเขาจ้องจับผิดมินต์ตลอดเวลา จะกลับบ้านยังตามมาหาเรื่องอีก มินต์ก็ไม่มีอารมณ์ไปทำงานค่ะ”

“โอเค งั้นนอนต่อเถอะ” คิลเลี่ยนเข้าใจได้ จึงกระชับผ้าห่มเข้ามาหาตัวแล้วกอดเธอในอ้อมแขน

เขาและเธอไม่มีอะไรมากไปกว่านอนกอดกันเท่านั้น เขายังไม่ต้องการมากชนิดต้องบีบบังคับเธอ ถึงตอนนี้จะรู้แล้วว่ายังไงเธอก็คงไม่ไปจากเขา และเขาก็คงไม่หย่ากับเธอ ดังนั้นก็ปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไปอย่างช้าๆ ไม่ต้องรีบร้อนใดๆ

ใกล้เที่ยงมีคนโทรเข้าหามินตรา คิลเลี่ยนตื่นก่อนก็รับสาย “สวัสดีครับ”

“ขอสายคุณนายเพียร์ซหน่อย” เสียงผู้ชายทุ้มต่ำแต่ไม่น่าใช่คุณบราวน์ ก็พอเดาได้ว่าเป็นหลานชายคุณบราวน์ที่ภรรยาไม่อยากเจอนั่นเอง

“ภรรยาผมไม่ค่อยสบาย เธอกำลังนอนพักผ่อนอยู่ ถ้าเธอตื่นแล้ว ผมจะให้โทรกลับ ลาก่อน” คิลเลี่ยนตัดบทวางสาย ไม่รอให้อีกฝ่ายรั้ง แล้วกระชับอ้อมแขนกอดมินตราไว้แน่น

มินตราแค่ลืมตามองแล้วนอนต่อ ท่าทางขี้เกียจของเธอน้อยครั้งจะเห็น ท่าทางหล่อนต้องไม่ชอบนายจ้างใหม่มากแน่ๆ พอเที่ยงมินตราก็ลุกขึ้นนั่ง ค่อยๆ ปลดมือเขาออกแล้วบิดตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน วันนี้ไม่มีนัดลูกค้า เธอก็สามารถทำงานที่ค้างไว้ต่อได้ จึงลุกขึ้นข้ามตัวเขาไปอีกด้านแล้วออกไปจากห้อง

เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็เอางานมานั่งดู สักพักคิลเลี่ยนก็ออกมาจากห้องเธอแล้วไปยังห้องตัวเอง จัดการตัวเองเรียบร้อยก็มานั่งดูเธอเอาแบบมาดู

“ไม่หิวเลยเหรอ” คิลเลี่ยนถามเพราะไม่เห็นจานวางอยู่ ก็รู้ว่าเธอคงยังไม่ได้ทานอะไร

“วันนี้มินต์ขี้เกียจค่ะ” มินตราบอกตามตรง ไม่จำเป็นต้องโกหกเขา

“เกิดอะไรขึ้นทำให้มินตราจอมขยันขี้เกียจได้ แต่ช่างเถอะ เดี๋ยวพี่ทำอะไรง่ายๆ ให้กินแล้วกัน” คิลเลี่ยนเดินไปเข้าครัว ทำอาหารเสร็จแล้วก็เอามาวางแล้วเรียกเธอมาทาน

มินตราก็ลุกจากงานแล้วไปนั่งทาน แม้จะรู้สึกผิดนิดๆ แต่ก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไปอย่างรวดเร็ว

“สักสิบเอ็ดโมงเจ้านายโทรมาตาม พี่บอกว่ามินต์ไม่สบาย แล้วก็ไม่ได้พูดมาก พี่ก็ง่วงเหมือนกัน” คิลเลี่ยนบอกตามตรง ห้องของมินตรานอนง่ายกว่าห้องเขา เพราะทึบกว่ามาก

“อ๋อเหรอคะ” มินตราดูท่าทางเขาก็พอเดาได้ว่าไม่ใช่คุณบราวน์แน่ เพราะคุณบราวน์ไม่เคยโทรมาตาม เธอก็ใช่ว่าจะไม่เคยป่วย ปกติที่ทำงานจะไม่โทรหาเธอ แต่ถ้าเธอฟื้นไข้ เธอก็จะโทรไปลางานเอง

คิลเลี่ยนเห็นเธอกินไปเรื่อยๆ โดยไม่รีบร้อน เมื่อเธอทานเสร็จก็ค่อยโทรไปหาฝ่ายบุคคลเพื่อลาป่วยหนึ่งวัน โดยไม่โทรหาคนที่โทรมาตาม เพราะไม่ใช่เรื่องของเขา

คิลเลี่ยนก็เข้าห้องตัวเองแล้วนอนเล่นดูทีวีในห้องตามปกติของเขา พอบ่ายกว่าๆ เขาก็เปลี่ยนเป็นชุดกีฬาแล้วขึ้นลู่วิ่ง ออกกำลังกายของเขาไปเรื่อยๆ จนได้เวลาไปทำงาน

มินตราอยู่ในห้องของเธอนั่งเขียนแบบอย่างเรียบง่าย ทำให้คิลเลี่ยนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้องชายถึงเบื่อเธอ หากไม่ใช่เพราะความสวย คาดว่าโชติคงไม่สนใจเธอเท่าไรนัก ตอนกลับมาที่อังกฤษ โชติยังคงพยายามแชทกับมินตราแต่หล่อนไม่ใส่นัก ทำให้โชติห่างไปเอง

**********************************

หนึ่งเดือนก่อนหมดสัญญา มินตราถึงรู้จากคุณบราวน์ว่าจะไม่ต่อสัญญากับเธอ เพราะคริสต์ไม่ต้องการทำงานกับคนที่ให้เวลางานไม่เต็มที่ ซึ่งมินตราก็ไม่เดือดร้อนนัก และไม่แสดงท่าทีใดๆ เพราะตอนนี้เธอได้รับการติดต่อกับร้านเพชรใหญ่ๆ ว่าจ้างให้ไปออกแบบงานอิสระให้กับเธอ

คิลเลี่ยนกลับบ้านเร็วกว่าปกติ ทำให้มินตรางุนงง เพราะตอนนี้มินตราก็เหลือแค่งานที่ต้องเคลียร์ให้จบก่อนปิดงานเท่านั้น เธอก็อยากได้อิสระอยู่แล้ว โดยเฉพาะอิสระจากสายตาคนจ้องจับผิด

“มีอะไรคะ พี่ ทำไมกลับเร็ว” มินตราถามขึ้น เห็นเขานั่งลงทั้งที่เพิ่งจะสามทุ่ม

“เขาให้เด็กใหม่มาทดลองงานน่ะ ก็เลยให้พี่กลับเร็ว แต่ได้ค่าแรงตามปกติ ท่าทางพี่คงต้องหาอย่างอื่นทำแล้วล่ะ” คิลเลี่ยนบ่นและอิ่มตัวกับงานเต็มที เขาทิ้งตัวเองที่โซฟา แล้วมีท่าทางเซ็งๆ

“เด็กใหม่เหรอคะ” มินตราไม่เห็นมีเด็กใหม่มานาน เพราะถึงมีมาก็ไม่ถึงขั้นเบียดคิลเลี่ยนออกอย่างนี้

“ใช่ สงสัยพี่จะได้เล่นที่ห้องอาหารแค่สี่คืน แล้วก็ทำงานกะกลางวันแล้วมั้ง” คิลเลี่ยนพูดอย่างนั้นรู้สึกเฉยๆ ไม่ดิ้นรนอะไร ก่อนพูดอย่างปลงๆ “คงอย่างที่มินต์เคยบอกพี่แหละ คนเล่นเปียโนตามเพลงที่คนอื่นแต่ง จะสู้แต่งเพลงเองได้ยังไง พี่ว่าจะต้องพักงานเดิมๆ แล้วหาเวลาแต่งเพลงเองแล้วสิ”

“ทำได้ก็ดีค่ะ” มินตราบอกแล้วก็ถอนหายใจ “มินต์ว่าจะกลับเมืองไทย คิดถึงบ้าน แต่ก็กลับไม่ได้ ว่าจะเก็บเงินได้สักก้อน มินต์จะซื้อบ้านน่ะค่ะ”

“เอาสิ พี่สมทบทุนด้วย” คิลเลี่ยนกับมินตราคุยกันจนเข้าใจแล้ว คบกันมาห้าเดือน แม้จะแต่งงานกันเกือบสามปีก็ตาม แต่ก็เรียกว่าเพิ่งเริ่มต้นสำหรับเขากับเธอ

“พี่จะไปอยู่เมืองไทยกับมินต์เหรอคะ” มินตราถามอย่างงุนงง

“ใช่ แล้วมินต์ล่ะ จะรับงานแล้วออกแบบอย่างนี้น่ะเหรอ” คิลเลี่ยนได้ยินเธอเล่าความแล้วก็เห็นเธอตัดสินใจ เขาก็เบื่อๆ ทางนี้เหมือนกัน “พี่จะขายรถสปอร์ตแล้วเอาเงินไปซื้อบ้านกันนะ”

“โห ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะ ไม่ต้องซื้อแพงหรอกค่ะ มินต์น่ะมีเงินไม่เท่าไร เราก็ซื้อที่มันถูกๆ หน่อยก็ได้ค่ะ” มินตราบอกเขาไม่อยากซื้อแพงนัก

“อย่างน้อยก็ต้องสามถึงห้าล้าน ไม่มีเงินเดือนอย่างเรา จะผ่อนได้เหรอ” คิลเลี่ยนถามให้เธอลองคิดดู

“งั้นซื้อคอนโดฯ อยู่ก็น่าจะพอไหวอยู่นะคะ” มินตรามีเงินเก็บอยู่

“อยากอยู่บ้านไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวเอาห้องชุดห้องนี้ให้เขาเช่าก็ได้ พี่ก็จะได้มีเงินเดือนด้วย ยังไงรถก็ไม่มีคนใช้ กลับมาก็ใช้บริการแท็กซี่ไปก่อน ถ้าสมมติพี่มีความสามารถแต่งเพลงได้ ก็ได้เงินมาซื้อรถ” คิลเลี่ยนบอกแล้วมองเธอดีใจที่จะได้มีบ้านอยู่สักที

“มินต์จะรับงานถ่ายหนังด้วยค่ะ มีติดต่อมาแล้วแต่ยังไม่เปิดกล้อง อีกสามเดือนถึงเปิด มินต์ว่าเรากลับไปดูที่ทางซื้อบ้านกันนะคะ” มินตราบอกอย่างโล่งใจ

“เอาสิ พี่เป็นผู้จัดการให้มินต์แล้วกัน จะได้หักเปอร์เซ็นต์” คิลเลี่ยนพูดอย่างไม่จริงจังนัก

“เอ หักเยอะไหมคะ” มินตราแกล้งพูดเล่นก็ถูกเขารวบมากอด

“หักเยอะมาก จะหักเยอะจนมินต์ต้องอยู่กับพี่ไปจนตายเลย” คิลเลี่ยนกอดหอมเธออยู่พักใหญ่ ก่อนพากันเข้าห้องนอน เพราะมันก็ดึกมากแล้ว คิลเลี่ยนแยกไปจัดการตัวเองในห้องน้ำอย่างสบายใจ

มินตราย้ายมานอนห้องเดียวกับเขา แต่เขาก็ดูจะไม่รีบร้อนอะไร ตัวเธอก็ไม่รีบร้อน อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ เขายังคงอดทนและกอดเธอไว้ในอ้อมแขนเท่านั้น

**********************************

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
ช่วงก่อนหน้านี้จิตตกเล็กน้อยนะคะ
เลยไม่ยอมทำอะไรเกี่ยวกับนิยาย
พอมีคุณผู้อ่านเข้ามาถามไถ่ก็ช่วยให้ดีขึ้นมากค่ะ
เอาพี่เคกับน้องมินต์มาให้
ขอฝากไว้ให้คุณผู้อ่านช่วยเชียร์ 555+
เชียร์ให้น้องมินต์กับพี่เคผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยดีตลอดเรื่องนะคะ
(ได้ข่าวว่าเขียนกี่ทีๆ ก็จบแฮปปี้ทุกที 555+)
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
https://www.facebook.com/plerngwaree
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

ขอบคุณคอมเม้นจาก
คุณน้องแสตมป์ - แก้มช้ำอย่างเต็มใจค่า ^^
คุณใบบัวน่ารัก - ต้มมาม่ารอเลยค่ะ อิอิ
คุณkonhin - มาตามคำเรียกร้องเลยค่า หุหุ
พี่ตุ้งแช่ - บีบบังคับนิดๆ ค่ะ
คุณนักอ่านเหนียวแน่นหนึบ - สลับบทบาทไปมามั่งค่ะ คนอ่านจะได้ไม่เบื่อ อิอิ
คุณนอนดูดาว - 55+ เคาะก็เท่านั้นล่ะค่ะ

ป.ล. ขอความร่วมมือ "งด" ช็อป e-Book จากทาง Ookbee นะคะ
เนื่องจากยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมยอดดาวโหลดกับยอดที่เขาให้ไปวางบิลไม่ตรงกันค่ะ
ยังไม่ได้ถามไป แต่มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นนะคะ
เมื่อสงสัยขอหยุดการซื้อจากทางนั้นนะคะ
ขอบพระคุณที่เข้าใจค่ะ

**********************************
eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก

2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว

3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว

4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก

5. ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา (129บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNjMzOCI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/16015/ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา/



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ก.พ. 2557, 17:00:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ก.พ. 2557, 17:00:41 น.

จำนวนการเข้าชม : 1928





<< Crying Villain ตอนที่ 4   นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 6 >>
น้องแสตมป์ 12 ก.พ. 2557, 18:18:37 น.
มีปัญหาเรื่องงานเข้ามาพร้อมๆกันเลยเนอะ
ว่าแต่อยากอ่านบทจึบภรรยาตัวเองอีกอ่ะ


ใบบัวน่ารัก 12 ก.พ. 2557, 18:40:59 น.
หมดหนี้แล้วก็มาสร้างครอบครัวกันเถอะค่ะ


ตุ๊งแช่ 12 ก.พ. 2557, 19:34:17 น.
เป็นเรื่องแรกป่าวที่พระเอก ยังให้นางเอกจิ้นอยู่


จ๊ะจ๋า 12 ก.พ. 2557, 23:23:44 น.
นางเอกจะเป็นนางร้ายตามชื่อเรื่องป่าวคะ


konhin 13 ก.พ. 2557, 00:40:33 น.
แอบสงสัยเหมือนกันว่าจะกลายเป็นนางร้ายตอนไหน คุณบราวเห็นแก่ลูกเลี้ยง(หลานชาย)มากกว่าพนักงานอันนั้นเข้าใจ แต่อยากให้ได้รับผลกระทบกับการตัดสินใจแบบไม่ใช่นักธุรกิจของหลานชายจริงๆเลยย
พระเอกเล่นแรงใช่ได้กับการเอาคืน หวังว่าจะไม่มีรอบหน้าหล่ะ เพราะบอกนางเอกไปแล้วว่าจะจีบ

ให้คนเขียน "สู้ๆค่าา อย่ายอมแพ้ ปัญหามีไว้ให้ก้าวข้ามไป"


นักอ่านเหนียวหนึบ 13 ก.พ. 2557, 00:57:52 น.
เย้ๆๆๆ ได้อ่านแล้วว
ไม่รู้เค้าซาดิสต์ไปไหม แต่เค้าขอบพลอตประมานนี้จัง
แบบประมาณว่ามีอุปสรรค โน่น นี่ นั่น เค้ามาวุ่นวาย แต่ให้ผ่านมาแล้วผ่านไปไรงี้
ผช ที่เข้ามาในชีวิตหนูมิ้นต์ ก็ไม่ต้องรักต้องชอบนางทุกคนก็ได้ไรงี้ หุๆๆๆๆ
อาจเพราะเรื่องนี้ไรเตอร์เขียนช่วงเวลากว้างด้วยละมั้ง ชอบๆๆ
ไม่นอยยยยย น้าาาา^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account