ไฟรักรัญจวน โดย ภคพร (วางแผงแล้ว)
ซีรีย์นี้ชื่อว่า 5 อสูรคอนเนอร์ค่ะ พระนางเป็นคนธรรมดานะคะ
แต่ฉายาอสูรนี่ได้มาเพราะบุคลิกเฉพาะตัว
สำหรับเรื่องแรกที่จะเปิดตัวคือ
“รัตติกาลรัญจวน”’ เป็นภาคของแวมไพร์นะคะ เรื่องนี้เขียนจบแล้วค่ะ อยู่ในขั้นตอนรีไรท์
ยังไม่ได้ส่งที่ไหน ดังนั้นเลยจะเอามาลงให้อ่าน 70% ก่อนนะคะ

สำหรับ 5 อสูร มีฉายาอะไรบ้าง ขอแนะนำก่อนให้เป็นน้ำจิ้มดังนี้ค่ะ

แวมไพร์
บรุษลึกลับที่ไม่เคยปรากฏโฉมต่อหน้าสื่อ
ชายหนุ่มคือจักรพรรติเงาผู้กุมอำนาจอยู่เบื้องหลังอาณาจักรคอนเนอร์อย่างเงียบๆ
ปมในอดีตทำให้เขาปิดตัวเองและไม่เคยเปิดหัวใจให้ใครเลย

ฟินิกซ์
เพลย์บอยเจ้าเสน่ห์ ผู้สดใสเจิดจ้าราวกับเทพอพอลโล่ เขารักอิสระ เกลียดพันธะ สาวสวยสำหรับเขาคือคนที่เอาไว้ควงเล่น ส่วนคนขี้เหร่แต่มีสมองเอาไว้ช่วยทำงาน แล้วถ้าทั้งสวยและมีสมองล่ะทำยังไง? อย่าหวังเลยว่าจะชายตามอง นั่นน่ะตัวอันตรายชัดๆ

มังกรน้ำแข็ง
ชายหนุ่มผู้งามสง่าราวประติมากรรม เขาเงียบขรึมเย็นชาจนดูเหมือนไร้หัวใจ
แต่เพื่อความรักแล้วผู้ชายคนนี้พร้อมจะเปลี่ยนเป็นเพลิงกัลป์
เพื่อแผดเผาอุปสรรคตรงหน้าให้มอดไหม้

ไลแคนท์
สายเลือดนอกคอกของตระกูลคอนเนอร์ เจ้าของคาสิโนและธุรกิจด้านมืดหลากหลาย
คนว่าเขาเป็นอสูรร้าย แต่ภายในใจอสูรตนี้กลับเต็มไปด้วยความอ้างว้าง
ที่หยั่งรากลึกสุดจะหยั่ง

คราเครน
หญิงสาวหนึ่งเดียวในห้าอสูร เจ้าหล่อนงดงาม เก่งกาจ ฉลาดเฉลียว
สิ่งที่คำนึงถึงมีเพียงอำนาจและเงินตราเท่านั้น
ความรักน่ะหรือ? อารมณ์ไร้ประโยชน์แบบนั้นโยนทิ้งมันไปได้เลย


คำโปรย รัตติกาลรัญจวน



สิ่งที่ “น้ำงาม” รู้เกี่ยวกับเจ้านายคนใหม่คือเขาชื่อ “เควิน โคฮาคุ คอนเนอร์”



หนุ่มลูกครึ่งอเมริกันญี่ปุ่นคนนี้เป็นนักธุรกิจมากความสามารถ

แต่กลับเก็บตัวอยู่ในคฤหาสน์ตลอดเวลา

เขาไม่เคยเปิดเผยโฉมหน้าต่อหน้าสาธารณชนเลย

จนสื่อพากันขนานนามว่า “แวมไพร์”



ใครๆ ก็ว่าปีศาจร้ายตนนี้ไร้หัวใจ

แต่สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าน้ำงามกลับกลายเป็นชายหนุ่มรูปงามนัยน์ตาโศก



ดวงตาสีอำพันของเขาดูดกลืนจิตวิญญาณของเธอเข้าไปตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น

น้ำงามหลงรักเควินหมดหัวใจ โดยไม่รู้เลยว่าสำหรับเขาแล้วนี่เป็นเพียงแค่เกม

เธอคือของขวัญที่ญาติตัวแสบส่งมาให้เล่นฆ่าเวลาเท่านั้น



“ถ้าเควินรักน้ำงาม เขาจะแพ้”



ชายหนุ่มเกลียดความพ่ายแพ้

แต่สิ่งที่ชิงชังยิ่งกว่าคือการถูกทรยศ

เขาจะทำเช่นไรเมื่อรู้ว่าคนที่กำลังเผลอมอบใจให้เป็นสปาย


อ่านแล้วถูกใจรบกวนกดไลค์แฟนเพจให้ด้วยนะคะ https://www.facebook.com/nomekaa


Tags: โรแมนติก ดราม่าเบาๆ โรมานซ์นิดๆ พยาบาลสาว นักธุรกิจหนุ่ม แวมไพร์ โรคแพ้แดด

ตอน: บทที่ 4 ป้อน

บทที่ 4 ป้อน

8.00 น. คือเวลาเข้านอนของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแวมไพร์อย่างเควิน แต่เป็นเวลาเข้างานตามปกติของมนุษย์เงินเดือนทั่วไป รวมถึงเจ้าของฉายาฟินิกซ์อย่างฟินน์ด้วย

วันนี้พ่อหนุ่มเจิดจ้าที่ได้ฉายาว่านกอมตะบังเอิญตื่นสาย เลขานุการสาวเลยต้องวิ่งกระหืดกระหอบมาหาถึงที่ลานจอดรถเพราะมีสายสำคัญโทรเข้ามา

“คุณเควินค่ะ” เลขานุการสาวผิวสีส่งโทรศัพท์ให้ก่อนจะหอบรัวๆ

‘เควิน’ เป็นชื่อที่ลูกน้องทุกคนของฟินน์ต่างก็เกรงกลัว สาเหตุเพราะเวลาเจ้านายตัวดีเล่นสนุกเกินขอบเขตทำแวมไพร์ตัวร้ายโกรธทีไร บรรดาพนักงานตาดำๆ เป็นต้องพลอยฟ้าพลอยฝนเจอหางเลขทุกที

ยกตัวอย่างเมื่อต้นปีก่อน ฟินน์ขโมยโปรแกรมสุดหวงของเควินไปใช้โดยไม่ขอ อีกฝ่ายเลยโต้กลับด้วยการพังระบบรักษาความปลอดภัยทั้งบริษัท ทำให้แผนงานที่วางเอาไว้รวนจนต้องทำโอทีกันเป็นแรมเดือน พอกลางปีฟินน์ก็แย่งซื้อที่ดินที่เควินหมายตาไว้ ก็เลยโดนเอาคืนด้วยการโยนสัญญาณซื้อขายมูลค่าเท่าที่ดินผืนนั้นไปให้คู่แข่งหน้าตาเฉย ฟินน์อาจจะไม่ยี่หระแต่บรรดาคนที่เกี่ยวข้องด้วยนี่สิที่หัวปั่น

“บอกเครอสักเดี๋ยวสิ ขอจัดปกเสื้อก่อน” ว่าแล้วก็ก้มลงส่องกระจกจากรถคันหรูที่จอดไว้ แล้วค่อยๆ บรรจงขยับปกเสื้อที่ยับให้เข้าที

“นี่ไม่ใช่เวลามาทำเป็นเล่นนะคะคุณฟินน์“ เลขานุการสาวแว้ดใส่เสียงดังลั่นลานจอดรถ “คุณเควินรอมาครึ่งชั่วโมงแล้ว แถมตอนนี้ทุกคนยุ่งจะตาย ถ้ายังกล้าก่อเรื่องอีกฉันเล่นงานคุณแน่ อยากให้ฉันสั่งกระบองยางมาให้คนทั้งออฟฟิศใช่แพ่นหัวคุณไหมคะ”

ท่าทีของหญิงสาวบ่งว่าความอดทนเริ่มหมด ถ้าพ่นไฟได้เธอคงพ่นไฟใส่ฟินน์ไปนานแล้ว

คนเป็นเจ้านายหัวเราะกับท่าทีของเลขานุการ โมนาไม่ใช่คนสวยและไม่ได้มีความสามารถเลิศเลอกว่าคนอื่น ถึงอย่างนั้นฟินน์ก็ยังเต็มใจที่จะจ้างเธอ เพราะเจ้าหล่อนทั้งดุและเขี้ยวเหลือหลาย พูดจาไม่เคยเกรงใจกันเลย จึงเหมาะเอาไว้กระตุ้นให้คนขี้เล่นอย่างเขากลับเข้าร่องเข้ารอย

“จะรับเดี๋ยวนี้แหละครับมาดาม” ชายหนุ่มยักคิ้วให้ ก่อนจะยอมรับโทรศัพท์มาในที่สุด

ทว่ายังไม่ทันได้โล่งใจ โมนาก็ต้องถลึงตาใส่เจ้านายเพราะเขาไปยั่วโมโหแวมไพร์ตั้งแต่ประโยคแรก

“ว่าไงที่รักคิดถึงกันแต่หัววันเลยนะ” ชายหนุ่มหยอดเสียงหวานชวนอ้วกใส่คนที่โทรมา

โมนาเลยได้แต่ส่ายหน้า แล้วหลบมุมมายืนบ่นพึมพำว่าฟินน์กำลังจะทำให้เธอมีตีนกาเพิ่ม ทางด้านคนที่ถูกเรียกว่าที่รักนั้นนิ่งไปอึดใจ ก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาแบบสุดขั้ว

“เธอเป็นใคร”

“เธอไหน?” จอมวางแผนทำเป็นไม่รู้

“ห้า...สี่...สาม...”

เควินนับถอยหลังโดยไม่บอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อนับเสร็จ

“เฮ้ย!...หยุดก่อน” ฟินน์ร้องเสียงหลง “ล้อเล่นหน่อยเดียว ทำหงุดหงิดไปได้ เก็บไปเลยนะไอ้ที่กำลังจะส่งมาน่ะ”

เป็นที่รู้กันว่าลองนับถอยหลังแบบนี้แสดงว่าแวมไพร์ตัวร้ายกำลังจะจัดหายนะมาให้

“เธอ..เป็น...ใคร”

เควินถามซ้ำอีกครั้งแบบช้าๆ ชัดๆ เน้นทีละพยางค์ ถ้าขืนโยกโย้อีกเขาจะปั่นหุ้นของเอฟเคแอสเซตให้ร่วงลงมากราวรูดเลยคอยดู

“พยาบาลวิชาชีพธรรมดา”

“อย่ามาโกหก คนธรรมดาที่ไหนจะกล้าวางยาโลกิจนเมาแอ๋”

“อะไรนะ! แม่สาวนั่นทำอย่างนั้นเหรอ” ฟินน์ดูประหลาดใจสุดขีด ชายหนุ่มถามต่อทันทีด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “แล้วไงอีก นายถูกทำอะไรหรือเปล่า เจ้าหล่อนได้สู้กับเกลิคไหมแล้วใครชนะ”

“อย่าเพ้อเจ้อ” เควินเอ็ด “นายไม่รู้ว่าเธอเป็นคนยังไงแล้วส่งมาให้ฉันทำไม”

ตอนแรกเควินคิดว่าน้ำงานเป็นคนที่บิดาจัดหามาให้ แต่พอสืบดูแล้วกลับพบว่าเป็นคนที่ฟินน์รับรองมา แถมยังยัดเยียดกึ่งๆ บังคับให้พักในคฤหาสน์รัตติกาลโดยที่เจ้าของสถานที่อย่างเขาไม่รู้เรื่องเลยสักนิด

น้ำเสียงฉุนเฉียวของเควินทำให้ฟินน์เลิกเล่นแล้วปรับท่าทีเป็นจริงจังขึ้น

“ใจเย็นน่า สาบานได้ว่าเป็นพยาบาลธรรมดาจริงๆ ตรวจสอบประวัติมาอย่างละเอียดแล้ว ที่นายเห็นน่าจะเป็นนิสัยส่วนตัวเจ้าหล่อนมากกว่า สงสัยเพราะคัดมาแบบพิเศษมั้งก็เลยได้คนแปลกๆ มา”

“พิเศษยังไง?”

“ก็ใช้พวกแบบทดสอบทางจิตวิทยาอะไรประมาณนั้น นายจำรายการโชว์ที่มาขอสปอนเซอร์เมื่อสามเดือนก่อนได้ไหม”

“ไม่” เควินตอบโดยไม่ต้องคิดเลยเพราะนั่นมันหน้าที่ของฟินน์ไม่ใช่เรื่องของเขา

“อืม...จะพูดยังไงดี” ฟินน์ย่นหัวคิ้วขณะเรียบเรียงคำพูด “เอาเป็นว่าฉันตกลงเป็นสปอนเซอร์ให้ แล้วเอาทีมงานจิตวิทยาในเกมโชว์ชุดนี้มาหาพยาบาลส่วนตัวให้นาย”

รายการเรียลิตี้โชว์ที่ว่าเป็นรายการสร้างคู่รักโดยให้คนโสดส่งใบสมัครเข้ามา จากนั้นก็แอบตามสำรวจชีวิตคนคนนั้นแล้วหาคู่เดตที่เหมาะสมให้โดยใช้บททดสอบทางจิตวิทยาในรูปแบบต่างๆ จุดที่น่าสนใจคือจะมีการสร้างสถานการณ์ให้คนสองคนมาเจอกัน โดยที่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้ว่านี่เป็นการจัดฉาก บางทีก็เป็นการเดตแบบกลุ่มที่ไม่เปิดเผยว่าคนที่เหมาะสมกับตัวเองเป็นใคร

“คู่ที่ออกรายการมันอาจจะเฟค แต่ที่ฉันยอมเป็นสปอนเซอร์ให้เพราะมันได้ผลจริงๆ ตอนนี้พนักงานในตึกนี้สละโสดไปเพียบเลยล่ะ”

ฟินน์ให้ทางรายการทดลองกับคนในตึกนี้ก่อน หลังจากให้กรอกแบบสอบถาม ซักประวัติภูมิหลังและจับตาดูพฤติกรรมของคนที่จับคู่ให้ระยะหนึ่ง ทางทีมงานก็จัดฉากให้คนสองคนมาเจอกัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเก้าในสิบคู่ออกเดตกันหลังจากนั้นไม่นาน

“นายก็เลยเอามาใช้กับฉัน”

“ถูกต้องแล้วครับ ว่าแต่ถูกใจไหม”

นอกจากนิสัยใจคอแล้วฟินน์ยังคัดรูปร่างหน้าตาด้วย เควินมีปมเรื่องแม่ ไม่ต้องจบจิตวิทยาก็ดูรู้ว่าผู้หญิงเอเชียถูกจริตเขามากกว่าสาวผมบลอนด์ฝรั่งยุโรป ที่จริงพยาบาลสาวชาวญี่ปุ่นก็มีหรอกแต่ไม่สวยสะดุดตาและได้ค่าคะแนนจับคู่สูงเท่าสาวไทยคนนี้

“ทีมงานบ้าบอของนายวิเคราะห์ว่าไงบ้าง”

“ทางนั้นบอกว่ามีความเป็นไปได้ 95 เปอร์เซ็นต์ที่ทั้งคู่จะตกหลุมรักกัน เท่านั้นยังไม่พอนะ นักจิตวิทยาคนนั้นใช้คำว่าอะไรน้า อืม...รักแท้ที่เป็นอมตะ เหมาะกับแวมไพร์อย่างนายโคตรๆ เลยว่าไหม”

ฟินน์หัวเราะใส่โทรศัพท์เสียงดังจนคนฟังคิ้วกระตุก

“ว่างนักหรือไง ถึงได้เอาเวลามาทำอะไรไร้สาระ”

“ขอแค่ทำให้นายสนใจได้ก็คุ้มแล้ว ถ้าไม่พอใจอยากเอาคืนไว้รอคริสต์มาสปีหน้าก็แล้วกันนะครับคุณอา”

“ไม่ต้องบอกฉันก็เอาคืนนายแน่” เควินเอ่ยอย่างอาฆาต

เรื่องผลัดกันส่งของขวัญให้กันในวาระต่างๆ เป็นเกมที่สองอาหลานคู่นี้มักจะเล่นกันเป็นประจำ เรียกว่าผลัดกันส่ง ผลัดกันซวย แก้เบื่อกันไป ครั้งหนึ่งฟินน์เคยส่งโสเภณีชั้นสูงไปให้ถึงเตียงเควิน ปีถัดมาอีกฝ่ายเลยส่งของมาให้ถึงเตียงบ้าง แต่เป็นเกย์หนุ่มหล่อล่ำแรงช้างสาร สานบานได้เลยว่าถ้าเผ่นหนีไม่ทันอาจมีสิทธิ์ถูกเปิดบริสุทธิ์ทางประตูหลัง

ตอนนี้คะแนนความแสบของเควินนำอยู่นิดหน่อย ฟินน์เลยอยากเอาคืนบ้าง

“ระหว่างที่รอให้ถึงปีหน้า มาพนันกันดีกว่าว่านายจะตกหลุมรักเจ้าหล่อนอย่างที่วิเคราะห์มาหรือเปล่า”

“ไม่มีทาง” เควินเอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจ

“อย่าชะล่าใจไป ขนาดฉันไม่บอกใบ้สักคำนายยังเดาถูกว่าเป็นเธอ”

ประโยคนี้ทำเอาแวมไพร์ตัวร้ายถึงกับเถียงไม่ออก ยิ่งโต้ก็ยิ่งเสียเปรียบก็เลยเงียบไป เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายจี้ใจดำ

“ยอมรับมาซะว่านายสนใจเธอ”

เควินยังคงเงียบ ฟินน์เลยพูดย้ำเสียจนเขารำคาญ ต้องยอมรับในที่สุด

“ฉันสนใจเธอแล้วไง จะแปลกตรงไหนที่ฉันมองผู้หญิงสวย อย่างมากก็แค่อยากขึ้นเตียงด้วย นอนด้วยกันทีสองที เบื่อแล้วก็จบ”

“ไม่สุภาพเลยนะเค” ฟินน์จุปากราวกับเป็นครูสอนมารยาท “มิสแสงพลอยศิเธอยังบริสุทธิ์อยู่นะ สาวน้อยแสนสวยนั่นไม่เคยแม้แต่จะจูบด้วยซ้ำ จะทำอะไรนึกถึงจิตใจเธอบ้าง”

ที่พูดมานี้คล้ายจะปกป้องแต่ที่จริงแล้วเป็นการยั่วยุว่าให้ลองนอนกับเธอดูต่างหาก แล้วจะรู้ว่าเรื่องที่บอกมาเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก เควินไม่อยากติดกับเลยตัดสายทิ้งในทันที

ชายหนุ่มบอกตัวเองว่าไม่ให้เข้าร่วมเล่นเกมงี่เง่านี่ แต่ญาติตัวร้ายก็ไม่ยอมปล่อยเขาไป ฟินน์ส่งข้อความมาให้พร้อมของเดิมพันที่น่าสนใจ

ถ้าแพ้ฟินน์จะยอมทำทุกอย่างตามที่เควินขอ แต่ถ้าชนะเควินจะติดหนี้บุญคุณเขาหนึ่งครั้ง ส่วนเรื่องจะตอบแทนแบบไหนนั้น แล้วแต่เควินจะเป็นคนประเมิน สัญญานี้ฝ่ายเควินค่อนข้างได้เปรียบ ชายหนุ่มก็เลยพิมพ์ตอบตกลงไป พร้อมกับกดปุ่มเริ่มเล่นเกมด้วยการดึงแฟ้มประวัติของหญิงสาวมาอ่าน



ตั้งแต่ออกมาจากห้องทำงานของมาสเตอร์เค น้ำงามก็ออกอาการอมยิ้มทุกครั้งที่นึกถึงใบหน้าเขา มาสเตอร์เคหรือเควิน โคฮาคุ เป็นคนคนเดียวกันกับที่เธอเห็นที่ระเบียงจริงๆ จะต่างกันหน่อยก็ตรงที่คนที่คุยวันนี้เจ้าอารมณ์กว่าเท่านั้น

‘ก็ยังดีกว่าทำหน้าเศร้าละนะ’ หญิงสาวคิดในแง่บวก

น้ำงามสารภาพแบบไม่อายเลยว่าต้องข่มใจแทบตายไม่ให้เสียมารยาทจ้องหน้าเขานานเกินไป ถ้าอเล็กซิส เพื่อนสนิทของเธอได้เห็นเควิน มีหวังได้วิ่งออกมาร้องกรี๊ดลั่นห้องว่า

‘โอ๊ยพ่อคุณขา หล่อมาก หล่อลาก หล่อจนแสบตา’

เจ้าหล่อนมักจะมีอาการแบบนี้เสมอเวลาเห็นผู้ชายหน้าตาดี ปกติน้ำงามจะส่ายหน้าอย่างระอาใจ แต่หนนี้เธอยอมเป็นแนวร่วมด้วยความเต็มใจเลย

เครื่องหน้าของเควินค่อนไปทางเอเชีย จมูกเป็นสันสวยไม่โด่งจัดแต่ก็รับกับรูปหน้า คิ้วเรียว ริมฝีปากบางแต่ได้รูป ที่ทำให้ใจสะท้านที่สุดคือดวงตาสีอำพันทรงเสน่ห์ แม้ไฟในห้องจะค่อนข้างสลัวแต่ก็ไม่อาจลดทอนความงามของมันไปได้เลย

หญิงสาวจินตนาการภาพนัยน์ตาของเขา ถ้ามันสะท้อนกับแสงตะวัน ดวงตาคู่นั้นจะเป็นสีอะไรหนอ อาจจะเป็นสีทองสว่างหรือเหลืองแวววามอย่างบุษราคัมก็ได้

น้ำงามหลงรูปนายจ้างเข้าเสียแล้ว ทั้งที่หนุ่มหน้าสวยไม่ต้องกับรสนิยมตัวเองเลยสักนิด

‘จะได้คุยกันอีกไหมนะ’

อารมณ์ฝันกลางวันทำให้หญิงสาวต้องหยิกตัวเองแรงๆ แล้วท่องคำว่าจรรยาบรรณให้ขึ้นใจ ต่อให้เขาหล่อสะท้านใจกว่านี้ร้อยเท่า น้ำงามก็ไม่มีสิทธิ์คิดกับเขาในเชิงชู้สาว เธอเก็บความสนใจเอาไว้ในอกอย่างมิดชิดแล้วบอกตัวเองว่าอย่าได้ไปยุ่งกับเควินเกินความจำเป็น

เมื่อถึงเวลาทำงานหญิงสาวก็มาเข้าเวรแล้วเฝ้ามองนายจ้างผ่านจอภาพตามปกติ นอกจากจดบันทึกข้อมูลสุขภาพของเควินแล้ว ยังต้องจดด้วยว่าวันหนึ่งเขากินอะไรไปเท่าไรบ้าง ปกติจะประมาณจากของเหลือในถาดอาหาร แต่ก็ไม่ใช่วิธีที่ดีนักเพราะเธอเห็นคาตาเลยว่าตอนเขาถือถาดออกจากห้องมีของเหลือเต็มจาน แต่พอไปเก็บของในจานกลับหายไปหมด

‘ลงท้องเจ้าโลกิไปแน่ๆ’

เธออยากจะดุเขาจริงเชียวว่าเป็นเด็กหรือไงกัน ทำไมถึงได้กินยากกินเย็นอย่างนี้

น้ำงามนั่งมองคนในจอภาพ พลางคิดว่าทำอย่างไรให้เขารับประทานอาหารได้มากขึ้น จะใช้แคทนิปเข้าไปหาเขาบ่อยๆ ก็คงไม่ได้ ถึงมันจะไม่มีอันตรายแต่ก็ไม่ควรให้บ่อยจนสัตว์เลี้ยงติด น่าสงสารเจ้าโลกิแย่ถ้าต้องกลายมาเป็นเสือติดยาเพราะมีเจ้านายเกเร

“น้ำลายคุณจะหกแล้ว” อยู่ๆ ก็มีเสียงดังมาจากลำโพงข้างตัว

หญิงสาวยืดตัวตรงแล้วเอามือเช็ดปากอย่างลืมตัว ส่งผลให้คนที่แอบมองอยู่หัวเราะร่วน

“คุณแกล้งฉัน ฉันไม่ได้น้ำลายหกสักหน่อย”

หญิงสาวโวยวายทันทีที่รู้ว่าคนที่ติดต่อเข้ามาไม่ใช่เกลิค เสียงอย่างนี้ต้องเป็นเขาไม่ผิดตัวแน่

“คุณจ้องผมตาเยิ้มก่อนทำไมล่ะ”

“ไม่ได้ตาเยิ้มค่ะ” หญิงสาวเถียงทั้งที่หน้าแดง “ลืมไปแล้วหรือคะว่าคุณจ้างฉันมานั่งจ้องคุณ”

“ผมเปล่าจ้างสักหน่อย พ่อผมต่างหาก”

ฟินน์เป็นคนเลือกน้ำงามมาก็จริงแต่คนที่จ่ายเงินเดือนให้หญิงสาวคือโทมัส คอนเนอร์

“พ่อคุณท่าทางรักคุณมากนะคะ”

เควินเงียบไปเลยเมื่อได้ยินอย่างนั้น ทำเอาต้องรีบหุบปากในทันที น้ำงามพลาดไปเสียแล้วที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา หญิงสาวมองกล้องวงจรปิดในห้องแล้วกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เธอไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเผลอไปวิจารณ์ว่าโทมัส คอนเนอร์เลี้ยงลูกเหมือนนักโทษ

เมื่อเควินเงียบน้ำงามก็เงียบไปด้วย ใจเธอรู้สึกผิดก็เลยได้แต่มองจอเงียบๆ ภาพตรงหน้าที่เห็นในขณะนี้คือเขากำลังคลิกเมาส์ทำอะไรสักอย่างอยู่ อึดใจก็มีเสียงดังจากลำโพงอีกครั้ง

“หันซ้ายอีกนิดสิ มุมนี้คุณน่ารักใช้ได้เลย”

ดูเหมือนว่าเควินจะไม่ได้ถือสาคำพูดของเธออย่างที่เข้าใจ น้ำงามเลยลอบถอนหายใจแล้วมองหากล้องเป็นการใหญ่

หญิงสาวหลงเข้าใจมานานว่ามีกล้องติดเอาไว้เฉพาะที่มุมห้อง เขาเห็นหน้าเธอได้แบบนี้แสดงว่าตรงผนังจะต้องมีลูกเล่นอะไรซ่อนอยู่

“ว่างมาแหย่ฉันแบบนี้แสดงว่างานคุณหายยุ่งแล้วใช่ไหมคะ” น้ำงามถือโอกาสชวนคุย

“ก็ประมาณนั้น”

“ถ้าอย่างนั้นช่วยกดปุ่มสั่งให้หุ่นยนต์เอาอาหารไปเสิร์ฟด้วยนะคะ ฉันวางเอาไว้สักครึ่งชั่วโมงได้แล้ว”

“ผมยังไม่หิว”

“ไม่หิวก็ต้องกินค่ะ”

“กินก็ได้ แต่คุณต้องป้อนผม”

น้ำงามค้อนขวับเมื่อได้ยินคำขอ ถ้าเธอใจร้ายกว่านี้อีกสักนิดคงตอบกลับไปว่าแขนขาเขายังดีอยู่ทำไมเธอต้องป้อนด้วย ไว้ง่อยเปลี้ยเสียขาค่อยมาว่ากัน ทว่านิสัยปากร้ายใจดำไม่ใช่ตัวตนของน้ำงามเลยสักนิด ถึงจะมองออกว่าเขาแกล้งก็ยังยอมไปติดกับ

“ได้ค่ะ แต่คุณต้องกินทุกอย่างที่ฉันป้อนนะคะ”

“ถ้าเป็นอะไรที่ผมไม่ชอบผมก็ไม่กิน” คนเอาแต่ใจว่า

‘เชื่อเขาเลย ใช้งานเกินหน้าที่แล้วยังมีหน้ามาต่อรองอีก’

น้ำงามตัดสินใจบอกไปว่าถ้าเขายังเรื่องมากเธอจะไม่สนใจแล้ว คราวนี้พ่อแวมไพร์ตัวร้ายยักไหล่แบบไม่แคร์

“ผู้รู้คุณไม่ใจร้ายกับผมหรอก” พ่อคนเจ้าเล่ห์หันมาทางกล้องแล้วยิ้มยั่ว

เขาในมุมนี้หล่อสะท้านใจเสียจนน้ำงามต้องเบือนสายตาไปทางอื่นอย่างเร่งด่วน

เควินเห็นอย่างนั้นเลยก้มลงรัวนิ้วบนแป้นพิมพ์ อึดใจจอภาพตรงหน้าน้ำงามก็มีตัวเลขจับเวลาขึ้นมา พร้อมประโยคว่า ‘Waiting for you’ เท่านั้นยังไม่พอ เขายังส่งเสียงมาบอกจำนวนเวลาทุกหนึ่งนาทีด้วย

‘ให้ตายสิ! เข้าใจกดดันกันเป็นบ้า’

“ก็ได้ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” น้ำงามยอมในอ่อนในนาทีที่เจ็ด “แต่คุณต้องดูแลเสือของคุณไม่ให้มาขย้ำฉันด้วยนะคะ”

“พยาบาลคนเก่งของผมกลัวเสือด้วยเหรอ หลังจากปราบมันได้คุณไม่น่าจะกลัวมันนะ”

“ตอนนั้นฉันใช้แคทนิปนี่คะ”

“แล้วทำไมไม่ใช้อีกล่ะ”

“ไม่ได้ค่ะ ให้มากไปมันจะเสพติด”

“แล้วถ้าผมไม่ยอมเก็บเจ้าโลกิล่ะ คุณจะทำยังไง”

เควินยังคงความดื้อได้อย่างคงเส้นคงวา คนอย่างเขาไม่ชอบทำตามคำสั่งใคร ต่อให้เป็นเรื่องสมเหตุสมผลหรืออีกฝ่ายขอร้องมาก็เถอะ

“ก็ต้องใช้แคทนิปด้วยความรู้สึกผิดน่ะสิคะ”

ท่าทางน้ำงามดูจะเห็นอกเห็นใจเจ้าเสืออ้วนของเขาเสียเหลือเกิน เควินเลยลองถามเธอดูเล่นๆ

“ถ้าผมไม่ใช่นายจ้างคุณ ระหว่างผมกับเสือคุณจะห่วงใครมากกว่ากัน”

“ก็ต้องเสือสิคะ”

หญิงสาวตอบแบบจริงใจสุดขีดทำเอาคนฟังหน้าง้ำ น้ำงามไม่รู้ตัวสักนิดว่าทำเขาเคืองแต่ก็ยังสู้อธิบายเหตุผลของตัวเองให้ฟัง

“ฉันเลือกเสือก็เพราะว่าคุณจะเลือกกินหรือไม่กินอะไรก็ได้ แต่เสือทำไม่ได้ค่ะ”

ถึงเธอจะพูดถูกแต่เควินก็ยังโกรธที่ถูกตีค่าต่ำกว่าสัตว์เลี้ยงอยู่ดี ก็เลยเผลอประชดเข้าให้

“คุณน่าจะไปเป็นนักอนุรักษ์สัตว์”

“เกือบได้เป็นค่ะ เสียดายสอบไม่ติด” หญิงสาวตอบอย่างพาซื่อ

รอยยิ้มของน้ำงามทำให้เควินคลายโกรธลงอย่างประหลาด พอเธอถามอีกครั้งว่าเขาจะยอมช่วยกันโลกิให้ไหม ชายหนุ่มก็ยอมรับปากแล้วสั่งให้คนมาพามันออกไป

อันที่จริงวันนี้เขาตั้งใจลองคุยกับเธอเพื่อดูท่าทีเท่านั้น ไม่คิดเหมือนกันว่าการสนทนาจะลื่นไหล สุดท้ายก็เลยเถิดจนเผลอชวนให้มาหาจนได้

รออยู่ประมาณสิบห้านาที น้ำงามก็มาพบเขาพร้อมถาดอาหาร

“คุณมาช้า” ชายหนุ่มต่อว่า

ห้องอยู่ติดกันแค่นี้เองแต่เธอกลับใช้เวลาเดินนานเหลือเกิน

“ขอโทษค่ะ ฉันเห็นว่าอาหารมันเย็นชืดหมดแล้วก็เลยเอาไปอุ่นให้คุณ”

ความใส่ใจของเธอทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย กระนั้นก็ไม่แสดงออกทางสีหน้า พอหญิงสาววางถาดอาหารลงตรงหน้า คนเอาแต่ใจเอามือกอดอกวางท่าเป็นเจ้านายเต็มที่

“มีอะไรกินบ้าง”

“เยอะแยะเลยค่ะ น่าทานทั้งนั้น” น้ำงามเปิดฝาครอบแล้วเริ่มทำการนำเสนอ

อาหารมื้อมีกุ้งค็อกเทลกับอาโวคาโด ซุปผักกับขนมปัง เนื้อเป็ดผัดหัวหอมราดซอสเผ็ด ของหวานเป็นแพนนา คอตตา กินคู่กับราสป์เบอร์รีเชื่อม ขนาดน้ำงามเพิ่งกินข้าวมาเห็นแล้วยังน้ำลายไหล แต่เขากลับทำหน้าหน่าย

“ผมไม่เอากุ้ง หัวหอมกับของหวาน”

เมื่อชายหนุ่มพูดอย่างนี้ของที่เขากินได้จึงเหลือแค่ซุปกับขนมปัง หญิงสาวเลื่อนชามไปให้ แต่พ่อตัวร้ายกลับไม่ขยับตัวทำอะไรเลย ดังจะยืนยันว่าเรื่องที่บอกว่าให้ป้อนนั้นเขาไม่ได้พูดเล่น

น้ำงามมองพ่อเทพบุตรแวมไพร์ที่สวมบทเป็นลูกนกอ้าปากรอเธอป้อนอย่างอ่อนใจ เรื่องตักป้อนถึงปากเธอไม่ถืออยู่แล้ว แต่ต้องบิขนมปังส่งให้นี่สิอันตรายต่อร่างกายและหัวใจเห็นๆ เพราะมันเปิดช่องให้วายร้ายเริ่มจู่โจม

ตอนแรกเขาก็ยอมกินแบบธรรมดาอยู่หรอก แต่พอขนมปังใกล้หมดฟันคมกริบก็เริ่มลามมาแทะอย่างอื่น เควินดูดนิ้วของน้ำงามอย่างจงใจ ปลายลิ้นร้อนๆ ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งเฮือก หัวใจเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ

“เอาอีก” จอมบงการสั่ง

น้ำงามรีบตักซุปส่งให้แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมเปิดปาก

“ผมจะกินขนมปัง”

แววตาประกาศชัดเลยว่าต้องการที่จะแทะขนมปังไปชิมนิ้วคนป้อนไป

“ได้ค่ะ ขนมปังนะคะ” หญิงสาวรับคำเสียงเรียบ ทั้งที่อารมณ์ปั่นป่วนราวกับคลื่นในทะเล

ชายหนุ่มได้ทีเลยทั้งดูดทั้งเลียราวกับมือเธอเป็นอุปกรณ์ที่ใช้รับประทานอาหาร

“หยุดทำกับมือฉันแบบนี้ได้แล้วค่ะ”

“ก็มันอร่อยนี่”

ชายหนุ่มปั้นหน้าใสซื่อราวกับเทวดาตัวน้อย ทำเอาคนมองเกือบเผลอพูดว่า ‘เอาไปเลยค่ะ ฉันยกให้ทั้งมือ’

น้ำงามแทบจะต้องกัดกระพุ้งแก้มจนเลือดไหลเลยทีเดียว กว่าจะเรียกสติตัวเองคืนมาได้

“ถ้าอร่อยก็หยิบทานเองสิคะ”

“นิ้วคุณต่างหากที่อร่อย” เขาเอ่ยด้วยดวงตาพราวระยับ

ใบหน้าของน้ำงามร้อนไปทั้งหน้า เธอนึกขอบคุณสวรรค์ที่ในนี้เปิดไฟเอาไว้เพียงสลัว ไม่อย่างนั้นคงได้อายมากกว่านี้

น้ำงามทำเป็นไม่ได้ยินแล้วหยิบขนมปังก้อนโตมายัดใส่ปากชายหนุ่ม พ่อแวมไพร์รูปงามเลยหมดหล่อไปชั่วขณะ เพราะมีขนมปังขนาดเท่ากำปั้นอุดคาปาก

คนที่เกือบถูกฆาตกรรมด้วยอาหาร คายของที่อุดอยู่ในบ้างทิ้งแล้วทำหน้ามุ่ย

“ถ้าไม่เต็มใจจะดูแลผมก็ออกไป” ชายหนุ่มกระแทกเสียง

น้ำงามสาบานได้เลยว่าตั้งแต่เกิดมาจนบัดนี้ เธอยังไม่เคยเจอผู้ใหญ่คนไหนที่เอาแต่ใจและน่าจับมาฟาดก้นเท่าเขามาก่อน

หญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วพยายามพูดกับเขาอย่างใจเย็น

“คุณแกล้งฉันก่อน ฉันก็เลยแกล้งกลับ เอาเป็นว่าเราเสมอกันนะคะ”

คราวนี้พ่อคุณทูนหัวไม่ตอบ แต่เมินหน้าหนีแทน

‘ให้มันได้อย่างนี้สิ สรุปเธอต้องง้อใช่ไหม?’

“ก็ได้ค่ะ ก็ได้ ฉันผิด ฉันขอโทษ พอใจแล้วใช่ไหมคะ”

เควินพะงกศีรษะนิดๆ เหมือนจะบอกว่ายกให้ก็ได้ เขาไม่ได้พอใจคำขอโทษแบบขอไปทีนี่หรอก แต่ชอบใจที่ได้ฟังเธอพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันอย่างนี้

‘เวลาเคือง เธอดูน่ารักดี’

“คุณจะกินอะไรอีกไหมคะ ถ้าไม่แล้วฉันจะได้เก็บของออกไป”

หญิงสาวไม่ได้อยากจะป้อนเขาต่อ แต่อยากจะกลับออกไปเต็มแก่ เควินรู้เลยไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ เขาชี้ไปที่น้ำส้มแล้วออกคำสั่ง

“ป้อน”

น้ำงามเห็นว่าแค่ยกแก้วให้เขาดื่มคงไม่มีปัญหาอะไร ที่ไหนได้พอทำตามคำสั่ง ชายหนุ่มกลับหาจังหวะเอาปากมาแตะหลังมือเธอได้อีก แถมยังพูดหน้าตาเฉยเลยว่า ‘มือคุณทั้งหอมทั้งอร่อย’ ทำเอาต้องรีบเก็บของออกมาด้วยความเร็วแสง ก่อนที่เขาจะหันมากินเธอ

+++++++++++++++++++++++++++++++

สวัสดีท้ายตอนค่ะ เหมือนจะเห็นแวบๆ ว่ามีคนถามว่าเควินอายุเท่าไร แล้วฟินน์อายุเท่าไร เควิน 27 ค่ะ ส่วนฟินน์ 32 นางเอกเรา 25 ^O^ ตอนต่อไปเจอกันวันที่ 8 นะคะ



นิชาภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ก.พ. 2557, 14:59:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.พ. 2557, 14:59:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1871





<< บทที่ 3 โลกิ   บทที่ 5 มาเล่นกัน >>
ree 5 ก.พ. 2557, 17:47:18 น.
พนันอะไรกันน้อ


มิณทิมา 5 ก.พ. 2557, 18:27:23 น.
ท่านอาเอาแต่ใจได้น่าหมั่นไส้จริงๆ เลยน้า


kaelek 5 ก.พ. 2557, 19:05:59 น.
โอ้ย!!! ฟินจุง บอกตง!!


ร้อยวจี 5 ก.พ. 2557, 20:08:33 น.
ลองกลับไปอ่านตั้งแต่ขอบอกว่า สนุกค่ะ น่าติดตามมาก


ใบบัวน่ารัก 5 ก.พ. 2557, 21:35:05 น.
กินให้หมดนะ


Sukhumvit66 5 ก.พ. 2557, 21:37:06 น.
ตอนบรรยายลักษณะพระเอก แอบคิดถึง ซาคุยะ
แห่ง จังหวะร็อก ดนตรีรัก อุ๊ย ฟิน..


คิมหันตุ์ 5 ก.พ. 2557, 23:36:01 น.
สวดยอด...........ตอนแรกนึกว่าพระเอกจะ งุ้งงิ้ง อ่อนแอ ท่าทางไม่ใช่แฮะ

เจ้าเล๊เจ้าเล่ห์ แต่กัดกันได้น่ารักมากค่ะ


Zephyr 6 ก.พ. 2557, 01:12:03 น.
หงะ แทะมือ ออดอ้อนออเซาะ ได้น่าหมั่นไส้มากคุณอาขา
ต่อไปจะแทะตรงไหนคะ หุหุ


นักอ่านเหนียวหนึบ 7 ก.พ. 2557, 01:04:23 น.
อ๊อยๆๆๆๆๆๆๆๆ
นิ้วเค้ากุดหมดแว้ววว
กัดนิ้วตัวเองจนกุดแว้ววว
555


Pat 8 ก.พ. 2557, 17:43:38 น.
ดูท่างานนี้คุณอาแพ้พนันแหง หุหุ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account