จุดชนวนรัก อุบัติเหตุเลิฟ
บางครั้งเราทุกคนก็ต้องยอมรับความจริงในเรื่องของหัวใจ ว่ามันอาจไม่เป็นอย่างที่เราต้องการเสมอไป ฉันเคยคิดว่ารัก ‘พี่เกล’ แต่ฉันกลับได้รู้จักความรักจริงๆ ในวันที่สายไปกับคนที่ได้ตายจากไปแล้ว ฉันไม่มีโอกาสแม้แต่จะบอกความในใจให้เขารู้ด้วยซ้ำ และวันนี้ฉันมีโอกาสจะไปหาเขาแม้ว่าหัวใจของเขาจะนิ่งสงบไปแล้วก็ตามแต่ฉันก็ร้อนใจเหลือเกินที่จะไป ไม่อยากจะช้าสักวินาทีเดียว
Tags: วัยรุ่น

ตอน: บทที่ 19

บทที่ 19
"ไงเพื่อนรักของฉัน หนังเหนียวนักนะแก"
ยัยหญิงเข้ามาดึงผมจนหน้าฉันหงายเงิบไปด้านหลัง สีหน้าและแววตาของเธอบ่งบอกได้ดีว่าฉันไม่มีความเป็นเพื่อนสำหรับเธอหลงเหลือแม้แต่เศษเสี้ยวของเล็บคบ
"แกนี่มันทนทายาทจริงๆ ขนาดฉันส่งคนตามไปตบแกให้เสียโฉมถึงห้องน้ำแกก็ยังรอด แล้วยังที่วัดเน่าๆ นั้นอีก แกก็ยังรอดมาได้ ฉันหมดเงินไปกับแกเยอะขนาดไหนรู้มั้ย แต่เฮียเซทก็มาช่วยแกไว้ได้ทุกที ฉันละเจ็บใจนัก "
">=<!!"
ที่แท้เรื่องเลวร้ายทั้งหมดเป็นแผนการกำจัดฉันของยัยหญิงเองเหรอ แล้วที่เซทมาช่วยฉันไว้ได้ทันทุกครั้งก็ไม่ใช้เรื่องบังเอิญแต่เป็นเพราะเขาคอยจับตามองหญิงทุกฝีก้าว เขารู้แผนการของเธอตลอด แล้วความสัมพันธ์ของเขาสองคนมันเป็นยังไงกันแน่ พอคิดมาถึงตรงนี้ฉันก็รู้สึกใจสั่นยังไงก็ไม่รู้
"มาดูสิว่าครั้งนี้เขาจะมาช่วยแกทันอีกมั้ย ทั้งๆ ที่เขาเจ็บขนาดนั้น เจ็บก็เพราะแกรู้ไว้ซะด้วย"
เพี้ย!
หัวฉันแทบจะหลุดออกจากคอ คบกันมาตั้งนานไม่เคยคิดเลยว่ายัยนี่จะมือหนักขนาดนี้ เธอเหมือนไม่ใช่เพื่อนที่ฉันเคยรู้จักเลย
"แกะผ้าปิดปากมันซะฉันอยากได้ยินมันร้องขอชีวิตจากฉันก่อนตาย"
หญิงหันไปสั่งลูกน้อง แต่พวกนั้นก็ทำทีท่าลังเลคงกลัวว่าฉันจะร้องให้คนช่วย แต่เธอก็ใช้สายตาสั่งแทนคำพูดอีกครั้งจนพวกนั้นยอมทำตามแต่โดยดี
แควก!
"แกเป็นบ้าไปแล้วหรือไงหญิง"
ทันทีที่ปากฉันเป็นอิสละฉันก็รีบพูดออกไป หวังว่าจะเตือนสติเธอได้บ้าง แต่เปล่าเลยยัยนั้นไปไกลเกินกว่าที่จะกรู่กลับอีกต่อไปแล้ว
"ก็เป็นบ้าเพราะแกนั้นแหละ แกทำให้ฉันอกหักถึงสองครั้งแกมันมารหัวใจฉันชัดๆ อย่าอยู่ให้รกตาฉันเลย…จับมันโยนลงไป"
นี่มันอะไรกันเธอคิดจะฆ่าฉันจริงๆ หรือเนี่ย!
"เราเป็นเพื่อนกันนะหญิง"
"แต่ฉันไม่มีเพื่อนอย่างแก แกมันมารหัวใจฉันต่างหาก"
"แล้วแกแน่ใจได้ยังไงวถ้าฉันตายพวกเขาจะกลับมารักแก"
"ก็ถ้าไม่มีแกก็คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธฉันที่เป็นถึงลูกสาวคนเดียวของท่านรัฐมนตรี เพราะแกนั้นแหละทำให้ใครต่อใครไม่ต้องการฉัน พี่เกลก็รักแต่แกไม่แม้แต่จะปันใจให้ฉันสักนิด พอฉันคิดจะเริ่มต้นใหม่กับคนที่ใช่อย่างเฮียเซท เขาก็ไม่แยแสฉันเลยทั้งๆ ที่พ่อของเราสนิทกัน แกรู้มั้ยว่าแกนั้นแหละที่เป็นตัวการของเรื่องทั้งหมด แกทำให้ฉันเจ็บ ขายหน้า แล้วก็อับอาย"
"เธอรักพวกเขาทำไมฉันถึงไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้เลย"
ไม่เคยแม้แต่จะเอ๊ะใจด้วย ขนาดตอนที่เธอเคยบอกว่ากำลังอกหักฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง แล้วยังตอนที่เซทเตือนวันนั้นว่าเพื่อนคิดไม่ซื่อกับฉัน ฉันก็ยังไม่ใส่ใจอีก ทำไมฉันถึงไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง
"ก็เพราะแกมันโง่ไง โง่ไม่มีใครเกิน"
"!!!"
"จับมันโยนลงไป"
ไม่ๆ ฉันต้องไม่ตายแบบนี้สิ พอเห็นว่าตัวเองกำลังจะหมดทางรอดฉันก็เลยยกแขนทั้งสองข้างที่ถูกมัดไว้คล้องศีรษะเธอกะว่าถ้าพวกลูกน้องเธอเข้ามา ฉันก็จะขู่พวกนั้นว่าจะกระชากยัยนั้นให้ตกน้ำตามกันไปด้วย
"เอาสิไหนๆ ก็ไหนๆ ตายไปพร้อมกันก็ดี"
"ปล่อยฉันนะ"
"โง่ไปหรือเปล่าที่พูดแบบนั้นหญิง"
"ยืนบื่อกันอยู่ได้ ทำไมไม่รีบเข้ามาช่วยฉัน"
"อย่าเข้ามานะไม่อย่างนั้นฉันจะกระโดดลงไปพร้อมๆ กับเจ้านายพวกแกนั้นแหละ"
ฉันกระชับมือที่ตัวหญิงไว้แน่นยิ่งขึ้น แต่ยัยนั้นก็ใช้ศอกกระทุ้งที่สีข้างฉันอย่างแรงจนฉันเสียการทรงตัว เธอก็เลยจับแขนฉันยกขึ้นแล้วตัวเองก็รอดแขนฉันออกมาอย่างง่ายดาย
พอลูกน้องเธอเห็นเจ้านายเป็นอิสละ ก็เลยได้โอกาสเข้ามาจับตัวฉันไว้แล้วกดตัวฉันให้ติดกับขอบสะพาน
"มุขตื้นๆ น่าขมิ้น หึ!...โยนมันลงไป"
ไม่นะฉันไม่ลง หัวเด็ดตีนขาดฉันก็ไม่ยอม ใครก็ได้…
"ช่วยด้วยๆ "
"แหกปากไปเถอะ เดี๋ยวก็จะได้ตายห่าแล้ว"
เห็นท่าฉันคงหมดทางรอดจริงๆ ฉันมองดูสายน้ำที่อยู่เบื่องล่างแล้วก็ต้องบอกว่าตายแน่ๆ แต่จู่ๆ ในช่วงวินาทีความเป็นกับความตายกำลังมาเยือนฉันก็รู้สึกว่าใบหน้าของเซทแวบผ่านเข้ามาในช่วงเสี้ยววินาทีก่อนจะจางหายไปเพราะเสียงเคียดแค้นของเพื่อนตัวเองที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง
"ตายซะเถอะแก"
แต่ในขณะนั้นเองอยู่ๆ เสียงเครื่องยนต์กับแสงไฟของรถก็สาดเข้ามา ทำให้ลูกน้องหญิงชะงักไปเพราะแสงไฟจากรถแทงเข้าตา แล้วความโกลาหนก็เกิดขึ้น
ปัง!!!!!!!!!!!
ปัง!!!!!
ทั้งสองกลุ่มยิ่งโต้กัน ฉันเลยใช้จังหวะช่วงชุนละมุนวิ่งฝ่าลูกกระสุนลืมตายที่วิ่งสวนทางกันเหมือนมดงานในสนามหลวง จนมาชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
"เซท!"
แม้ว่ามันจะมืดและเป็นช่วงเวลาที่เร็วมาก เร็วซะจนรู้สึกได้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเดียว แต่ฉันก็จำได้ว่านั่นคือใคร
"ไม่ต้องกลัวเธอปลอดภัยแล้ว"
เซทจับมือฉันแล้วดึงฉันให้ไปหลบอยู่ข้างหลังเขา ในขณะที่เขายังยิงต่อสู่กับอีกฝ่ายเสียงปืนดังขึ้นอีกเพียงไม่กี่นัดทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นยังไงบ้างแต่ก็ยังหวังว่าหญิงคงจะไม่เป็นอะไร
"หยุดได้แล้วหญิง"
เสียงเซทพูดขึ้นทำให้ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก ฉันมองลูกน้องหญิงที่ลงไปกองรวมกันที่พื้นซึ่งฉันแน่ใจว่าพวกนั้นยังไม่ตายแต่แค่โดนยิงที่ขาบ้างที่แขนบ้างไม่มีใครโดนจุดสำคัญสักคน โดยเฉพาะหญิงไม่มีแม้แต่รอยเชียวของลูกกระสุนเธอยังยืนตระหง่านเหมือนคนท้าความตายอยู่ที่เดิม
"ไม่! หญิงไม่หยุดจนกว่านางมารหัวใจมันจะตายไปต่อหน้าต่อตาหญิง…ไงนางโง่แกอย่าดีแต่หลบอยู่ข้างหลังสิออกมาดูฉันให้เต็มตาว่าแกทำฉันพ่ายแพ้ขนาดไหนนางเพื่อนทรยศ ฮือๆ"
"อย่าออกไปนะ"
เซทหันมากระซิบพูดกับฉัน
"ไม่เป็นไรเซท ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกัน"
พอเห็นน้ำตาของคนที่เคยเป็นเพื่อนรักไหลรินอย่างคนผิดหวัง ฉันก็อดที่จะเห็นใจเธอไม่ได้ แล้วความเชื่อโง่ๆ ว่ามิตรภาพระหว่างฉันกับเธอจะยังคงหลงเหลืออยู่บ้าง ทำให้ฉันเดินออกจากข้างหลังเซท และตอนนั้นเองที่เธอยกปืนขึ้นเล็งมาที่ฉัน ฉันก็เพิ่งรู้ว่าความรักไม่เพียงสันสร้างโลกได้ในทางตรงกันข้ามมันก็พร้อมที่จะทำลายได้ทุกอย่างแม้แต่มิตรภาพของความเป็นเพื่อน
ปัง!
ปัง!!
เฮือก!
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งพร้อมๆ กับที่เซทกระโดดเอาตัวเข้ามาบังฉันไว้ จนเราเสียหลักล้มลงไปทั้งคู่
"เป็นอะไรมั้ย"
"ไม่! แล้วนายละ"
เขาไม่ตอบได้แต่ยิ้มนิดๆ ที่มุมปากก่อนจะดันตัวเองลุกขึ้นแต่ก็ไม่วายช่วยพยุงให้ฉันลุกขึ้นด้วย
"เป็นอะไรมั้ยครับนายน้อย"
ลูกน้องเซทวิ่งหน้าตั้งเข้ามาถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
"หญิงล่ะ"
"พวกผมแค่ยิ่งถากๆ ตามที่นายน้อยสั่งไว้ครับ"
"อืม! แล้วพวกเรามีใครเป็นยังไงกันบ้าง"
"มีบาดเจ็บบ้างแต่ไม่ถึงกับตายครับ"
"รีบพาคนเจ็บไปรักษา ที่เหลือเคลียพื้นที่ซะก่อนที่พวกตำรวจจะแห่กันมา"
แล้วทุกอย่างก็ถูกเคลียในเวลาอันรวดเร็ว หลังจากนั้นฉันก็นั่งรถมากับเซทไม่นานก็ถึงบ้านคุณป้า ที่ถึงเร็วอาจเป็นเพราะนี่ดึกมากแล้วรถไม่ค่อยมีแถมเซทยังขับรถอย่างกับจะบิน แถมยังมีเวลาส่งข้อความด่วนหาคนอื่นอีก ที่บอกว่าข้อความด่วนเพราะฉันไม่เห็นเขาพิมพ์แต่ใช้ข้อความสำเร็จที่เหมือนพิมพ์ไว้แล้วเพื่อเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินประมานนั้น ก็ไม่เห็นหรอกแต่เดาเอาแต่คิดว่าน่าจะถูก
"ทำไมถึงมาส่งฉันที่นี่ล่ะ"
"แล้วเธอจะให้ฉันไปส่งที่ไหน เอ้! หรือว่าเธออยากจะไปบ้านฉัน"
"ไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย ฉันก็แค่"
"ที่นี่คือบ้านของเธออย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ขอแค่เธอเซ็นรับ แต่ถ้าเธอไม่สบายใจที่จะรับมันก็ไม่เป็นไรแต่อย่างน้อยฉันก็อยากให้เธออยู่ที่นี่จนกว่าหอพักเธอจะซ่อมแซมเสร็จ"
"…"
"ได้มั้ย"
เซทพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ แถมหน้าเขาก็ซีดลงเรื่อยๆ จนฉันอดแปลกใจไม่ได้
"นายเป็นอะไรหรือเปล่าเซท ทำไมสีหน้าไม่ดีเลย"
"แค่เจ็บแผลน่ะ ไปเถอะฉันมีธุระต้องไปต่อ"
เซทปลดล็อคประตูรถเป็นการไล่ให้ฉันลงจากรถทางอ้อม แต่ฉันก็ยังรู้สึกได้ถึงความผิดปกติในตัวเขา ฉันจึงเอามือแตะที่หน้าผากเขาเบาๆ เขาเอียงหลบมือฉันทันทีแต่ฉันก็แตะจนได้
"ทำไมตัวนายเย็นเฉียบขนาดนี้"
"แอร์มันเย็นมั้ง"
"ถ้าอย่างนั้นนายต้องอยู่เฉยๆ แล้วยอมให้ฉันพิสูจน์ก่อน"
เขาโกหกแน่ อยู่ๆ ก็นึกฉงนใจถึงตอนที่เขากระโดดเอาตัวเข้ามาบังลูกกระสุนแทนฉันขึ้นมา ฉันก็เลยเอามือไปรูปที่หลังเขาเพื่อหาร่องลอยว่าเขาโดนยิงหรือเปล่า แต่พอมือฉันสัมผัสโดนแผ่นหลัง เขาก็ถึงกับสะดุ้งแต่ก็ยังนั่งเงียบไม่ยอมแสดงสีหน้าเจ็บปวดใดๆ แต่ฉันก็มั่นใจว่าเขาได้รับบาดเจ็บแน่ๆ ฉันจึงรูปฝามือไปทั่วๆ แผ่นหลังเขาให้แน่ใจอีกครั้ง แต่เขาก็จับมือฉันออกไปจากตัวเขาเสียก่อน
"อยู่ๆ ก็มารูปๆ คลำๆ อย่าบอกนะว่าเธอเกิด…"
"เซท! เลือด"
จากสีหน้ากวนๆ ที่เขาพยายามทำให้ฉันเชื่อว่าเขาปกติ หุบลงทันทีเมื่อฉันแบมือตัวเองที่เต็มไปด้วยเลือดให้เขาดู
"แค่ถากๆ น่าไม่เป็นไรหรอก"
"นายต้องไปหาหมอนะ"
"ฉันไปไม่ได้"
"ทำไมไม่ได้ นายจะปล่อยให้ตัวเองเลือดไหลหมดตัวรึไง"
"ตอนที่ขับรถฉันส่งข้อความตามหมอมาที่บ้านแล้ว เธอลงรถเถอะฉันจะได้รีบไป"
สภาพอย่างนี้ขับไปไม่เกินเสาไฟฟ้าต้นที่ห้าก็จะได้ไปจ๊ะเอ๋กับยมบาลแหงๆ
"นายไปไม่ถึงแน่ ฉันจะเป็นคนขับรถพานายไปส่งเอง"
"เธอขับเป็นเหรอพวกมาลัยมันอยู่ข้างซ้ายนะ"
"นายมีคนเดียวหรือไงพี่เกลเขาก็มี ลุก!"
ในที่สุดเซทก็หมดทางเฉไฉฉันเดินลงจากรถก่อนเพื่อไปประคองเขาให้ลงมานั่งอีกฝั่ง แต่เดินได้แค่ไม่กี่ก้าวเขาก็ทรุดฮวบลงที่พื้นเสียก่อน
"นายอย่าเป็นอะไรนะ! ถ้าไม่ไหวฉันจะโทรตามหมอให้มาที่นี่แทน อดทนไว้นะ"
ฉันพยายามหายใจเข้าลึกๆ เพื่อตั้งสติไม่ให้ตกใจไปมากกว่านี้ แต่ยิ่งนานหน้าเขาก็เริ่มซีดลงเรื่อยๆ
"ที่นี่ไม่มีเครื่องมือ ฉันต้องกลับบ้าน"
"ไปโรงพยาบาลใกล้ๆ แถวนี้ไม่ได้เหรอ"
"ไม่ได้มันไม่ปลอดภัย พวกมาเฟียแก๊งอื่นจะรู้ว่าฉันบาดเจ็บมันจะใช้ช่วงเวลานี้เล่นงานแก๊งฉัน คนอื่นจะพลอยบาดเจ็บล้มตายไปด้วย"
นี่คงเป็นเหตุผลที่เขาไม่ยอมอยู่โรงพยาบาลสักครั้ง ไม่ว่าจะเจ็บแค่ไหนก็ยังไม่ยอมไป โหย! ทำไมมาเฟียถึงเรื่องเยอะขนาดนี้เนี่ย
"งั้นก็รีบไป"
ฉันดึงตัวเซทให้ลุกขึ้น แต่เขากลับดึงมือฉันไว้แน่นแล้ววางทาบไว้บนอกข้างซ้ายจนฉันสัมผัสได้ถึงการเต้นของหัวใจที่มันดังช้าลงเรื่อยๆ ของเขา
"เธอรู้มั้ยตั้งแต่ที่แม่จากไปฉันก็ไม่เคยกลัวความตายอีกเลย แต่ตอนนี้ทำไมฉันกลับรู้สึกกลัวจัง กลัวว่าจะไม่ได้เห็นหน้าเธออีก"
"อย่าพูดอย่างนั้น นายจะต้องไม่เป็นอะไร"
"สัญญากับฉันได้มั้ย ถ้าฉันไม่ตื่นขึ้นมา ฉันอยากให้เธอกลับไปหาคนที่เธอรักจริงๆ อย่าทรมานใจตัวเองเพียงเพราะฉันรักเธอหรือว่าเห็นแก่ใคร ถึงมีเธอเขาก็มีความฝันได้"
ริมฝีปากสีซีดของเซทขยับเขยื้อนอย่างยากลำบากแต่เขาก็พยามยามแข็งใจพูดมันจนจบประโยค คล้ายๆ กับเป็นการสั่งลาโดยเฉพาะรอยยิ้มและดวงตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความห่วงใยที่มีต่อฉัน มันทำให้ฉันแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
"อย่าพูดอะไรอีกเลย นายต้องไม่เป็นอะไรเชื่อฉัน ไม่กี่นาทีฉันก็ขับถึงบ้านนายแล้วแข็งใจลุกขึ้นนะ"
"รับปากฉันก่อนสิว่าเธอจะทำ"
"ได้! ฉันสัญญาว่าจะทำตามที่นายบอกทุกอย่าง แต่ตอนนี้นายต้องอดทนไว้นะ"
เซทยิ้มให้ฉันอย่างโล่งใจ พลางกัดฟันเฮือกสุดท้ายลุกขึ้นไปนั่งอีกฝั่งจนได้ หลังจากนั้นฉันก็รีบวิ่งไปนั่งตรงฝั่งคนขับเพื่อสตาร์ทเครื่องแล้วขับออกไปด้วยความเร็วในแบบที่ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกล้าเหยียบขนาดนี้มาก่อนในชีวิตด้วยซ้ำ
"แข็งใจไว้นะเซท"
ระหว่างทางฉันรู้สึกว่าเขาเงียบไป ก็เลยเอื่อมไปจับมือเขา แต่เขากลับนิ่งไม่ตอบสนองใดๆ เลย นั่นยิ่งทำให้น้ำตาฉันเริ่มไหลพรากอาบแก้มทั้งสองข้าง
"เซท!!"
"ได้โปรด! นายอย่าเป็นอะไรนะ ฉันมีอะไรจะพูดกับนายมากมาย ขอร้องละเซท ตอบฉันบ้างสิ"
ฉันใจหายวูบเมื่อทั้งเขย่าแขน ทั้งเรียก แต่เขาก็เงียบไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบกลับมา ทำให้ฉันต้องเหยียบคันเร่งเร่งความเร็วเข้าไปอีกไม่สนใจว่าข้างหน้าจะเป็นยังไงขอแค่ไปให้ถึง ขอให้เซทยังมีลมหายใจต่อไปแค่นั้นฉันคิดได้แค่นั้นจริงๆ
ทันทีที่รถจอดคุณชินกับลูกน้องเซทที่เหมือนคอยท่าอยู่แล้ว ก็รีบวิ่งเข้ามาพยุงเซทออกจากรถ หลังจากนั้นพวกเขาก็พาไปยังห้องหนึ่งที่อยู่ในบ้านซึ่งฉันก็เพิ่งรู้ว่าห้องนี้เป็นห้องสำหรับผ่าตัดที่มีเครื่องไม้เครื่องมือไม่ต่างไปจากโรงพยาบาลเลย หมอและผู้ช่วยอยู่ในชุดที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ ทันทีที่เซทนอนลงบนเตียง ประตูก็ถูกปิดลงและฉันก็ได้แต่เฝ้าภาวนาวิงวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อที่ฉันจะได้มีโอกาสบอกความรู้สึกที่ฉันก็เพิ่งแน่ใจตัวเองในวินาทีที่เขากำลังจะจากฉันไปว่าจริงๆ แล้วมันคือความรัก แม้ว่าจะแลกด้วยสิ่งใดฉันก็ยอมทุกอย่างขอเพียงแค่ให้ฉันได้มีโอกาสบอกกับเขาสักครั้ง



lovezombie
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ก.พ. 2557, 14:01:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ก.พ. 2557, 14:01:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 988





<< บทที่ 18   บทที่ 20 (the end) >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account