ลมหวนรัก(จบแล้วค่ะ)
เธอ...หญิงสาวผู้อ่อนหวานและอ่อนไหว ควรลงเอยกับผู้ชายที่เข้มแข็งและเป็นผู้ใหญ่กว่า แต่ความรักไม่ปล่อยให้เธอตัดสินใจได้ง่ายขนาดนั้น ส่งโจทย์ยากมาให้ด้วยสองชายหนุ่มที่แตกต่างกันสุดขั้ว คนหนึ่งเป็นคุณหมอหนุ่มแสนดี และมีในทุกสิ่งที่ผู้หญิงทั้งโลกต้องการ อีกคนยียวน แสนกวน แต่มั่นคงในรัก เธอเปิดใจให้ชายคนแรกเพราะความเหมาะสม ส่วนชายหนุ่มอีกคนที่เธอรักเหมือนน้องชายก็เข้ามากร่อนกำแพงหัวใจไม่หยุด นานวันเข้า...หัวใจก็เริ่มลังเล เมื่อหัวใจเลือกได้เพียงหนึ่ง...เธอจะเลือกใคร ชายในฝันของใครๆ หรือหนุ่มรุ่นน้องที่เธอปฏิเสธนักหนาว่า "ไม่มีวัน"
Tags: ดอกนางพญาเสือโคร่ง

ตอน: ตอนที่ 4







ทุกอย่างไม่ได้เป็นดังที่วางแผนไว้ งานที่แผนกอายุรกรรมวันนี้หนักหน่วงกว่าที่คิด กว่าจะเสร็จก็ห้าโมงกว่าเข้าไปแล้ว เต็มใจยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู แล้วเร่งเก็บเครื่องมือเข้าตู้

“วันนี้เต็มมีธุระอะไรรึเปล่า ดูรีบๆ นะ”

เสียงทุ้มที่ทักมาจากด้านหลังทำเต็มใจถึงกับสะดุ้ง หันไปตอบโดยที่ยังไม่ละมือจากงาน

“เต็มจะกลับบ้านน่ะค่ะคุณหมอ วันนี้วันเกิดป้าคำ อยากไปกราบท่านสักหน่อย ไม่นึกว่าคนไข้ช่วงบ่ายจะเยอะขนาดนี้”

เวลาผ่านไปไวราวกับติดปีก เต็มใจยังคงรักษาระยะห่างจากนายแพทย์ธชาอย่างต่อเนื่อง แม้เขาจะย้ายมาทำงานที่นี่ตั้งสามปีแล้ว แต่ดูเหมือนความสัมพันธ์ยังไม่คืบหน้ามากนัก ทั้งที่เธอเองก็รู้ว่าเขาพยายาม...ความสัมพันธ์ฉันหนุ่มสาวของหมอกับพยาบาลนั้นคงมีหลายคนเข้าใจว่าเกิดขึ้นง่ายๆ เพราะต้องทำงานด้วยกันแทบตลอดเวลา แต่จริงๆ แล้วมีรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่านั้นเยอะ สถานะที่พยาบาลต้องตระหนักเสมอคือการเป็นผู้ตามที่ดี การตัดสินใจในการรักษาทุกอย่างเป็นของแพทย์ และแน่นอนต้องมีความเคารพยำเกรงในระดับหนึ่ง ไม่ว่าแพทย์ผู้นั้นจะอายุมากกว่าหรือน้อยกว่าขนาดไหนก็ตามจึงมีเส้นค่อนข้างหนากั้นระหว่างสองอาชีพนี้ไว้

ในเมื่อธชาเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งรักษาคนไข้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมเขายังอายุมากกว่าเธอตั้งสิบปี เป็นธรรมดาที่เต็มใจจะไม่กล้าสนิทสนมด้วย และจากที่ฟังๆ ข่าวลือมานั้น เขาเองก็ดูจะไม่มีประสบการณ์เรื่องผู้หญิงสักเท่าไร ความสัมพันธ์จึงไม่รุดหน้าไปไหน เต็มใจไม่เชื่อว่าการที่เขาบังเอิญเคยช่วยเธอจ่ายค่าโกโก้ครั้งเดียว จะทำให้เธอกับเขาต้องลงเอยกัน

“ผมไม่ได้กลับไปบ้านปันน้ำใจอีกเลย ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้ผมไปส่งดีมั้ย คุณออกตอนนี้ไปถึงก็คงค่ำมากแล้ว”

เป็นเพราะมัวแต่สนใจที่เขาออกปากจะไปส่ง ทำให้เต็มใจไม่ได้ฟังประโยคแรกที่แสดงว่าเขาเคยไปบ้านเด็กกำพร้าของเธอมาแล้ว

“ไม่รบกวนคุณหมอหรอกค่ะ คุณหมอคงลืมไปว่าแลกเวรห้องฉุกเฉินเอาไว้ คืนนี้คุณหมอต้องอยู่เวร เต็มไม่รบกวนดีกว่าค่ะ นี่เต็มก็เก็บของเสร็จพอดี ถ้าออกไปตอนนี้ก็คงทันรถเที่ยวสุดท้าย ขอบคุณมากค่ะ เต็มไปก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวสิเต็ม ยังพอมีเวลา ผมไปส่งที่ท่ารถนะ”

ชายหนุ่มร่างสูงสง่าในชุดเสื้อกาวน์สีขาวเดินเร็วๆ ตามมา

“งั้นเต็มไปได้เลยค่ะ ไม่ต้องกลับไปเอาของที่แฟลตเพราะเตรียมมาไว้แล้ว”

เธอยกกระเป๋าผ้าใบใหญ่ขึ้นมาโชว์ ในนั้นหลักๆ ก็มีอาหารแห้งบางอย่างที่พอจะซื้อติดมือเข้าไปได้ เพื่อใช้ปรุงอาหารให้เด็กๆ เธอเดินตามธชาไป สารภาพว่าชอบแอบมองแผ่นหลังของเขา ผู้ชายไหล่กว้างรูปร่างสูงทำให้ดูสง่าได้อย่างไม่น่าเชื่อ อยู่ที่นี่มาตั้งสามปีแล้ว ก็ไม่เห็นคุณหมอเปิดใจให้ใคร ทั้งที่รู้ๆ กันอยู่ว่ามีบางคนตั้งใจจะเปิด...พูดถึงก็ได้ยินเสียงใสทักขึ้นมาทันที

“พี่ธชา นั่นจะรีบไปไหนเอ่ย เลิกงานแล้วไปกินข้าวด้วยกันมั้ย จิณว่าจะไปกินขนมจีนน้ำเงี้ยวเจ้าหน้าตลาดน่ะ ขายถึงตั้งสามทุ่มแน่ะ”

เสียงจิณณาดังจนคนแถวนั้นหันมามอง ร่างบอบบางในชุดเสื้อกาวน์สั้นสวมทับเดรสแขนกุดตรงเข้ามาหาธชาอย่างเร่งรีบจนผมยาวประบ่าสไลซ์ปลายทันสมัยของเธอปลิวตามลม รอยยิ้มหวานหยดนั้นช่างทรงเสน่ห์เหลือเกิน

“วันนี้คงต้องขอตัวครับ พี่มีธุระต้องทำ เอาเป็นว่าโอกาสหน้าก็แล้วกันนะ”

คนปฏิเสธไม่ยอมอธิบายเลยว่า ‘ธุระ’ ของเขาคือคนที่เดินตามมานี่เอง พอรู้ว่าเขาปิดบังไม่ให้แพทย์สาวทราบรายละเอียด เต็มใจก็ชะลอฝีเท้าให้ห่างจากเขาอีกนิด อีกฝ่ายจะได้ไม่สังเกต

จนเมื่อเข้ามานั่งในรถด้วยกัน เธอก็เอ่ยออกมาเบาๆ

“เต็มทำให้คุณหมอไม่ได้ไปกินน้ำเงี้ยวกับคุณหมอจิณณา”

“คุณก็รู้ว่าถ้าผมอยากไปกับเธอ ผมคงตอบรับเธอไปแล้ว ไม่ได้ยินข่าวเม้าท์บ้างรึไงว่าผมพยายามหลบเลี่ยงเธออยู่ ยังไม่อยากมีปัญหากับนายตำรวจหนุ่มที่มาตามจีบเธอ”

“ก็...ได้ข่าวมาบ้างค่ะ แต่ที่จริงคุณหมอจิณณาสวยน่ารักมากนะคะ เหมาะกับคุณหมอออกค่ะ เธอไม่เหมาะกับตำรวจขี้เก๊กคนนั้นหรอก”

เต็มใจบังอาจออกความเห็นทั้งที่ไม่ควรเลย การทำงานด้วยกันมาหลายปีทำให้เธอเผลอคิดว่าเขาเป็นผู้ร่วมงานที่คุยกันได้ทุกเรื่อง

“คุณคิดว่าผู้ชายจะดูผู้หญิงแค่ที่ความสวยเหรอ ผมคงไม่จัดอยู่ในนั้นหรอก”

เขาหยุดการสนทนาเรื่องคุณหมอรุ่นน้องไว้แค่นั้น คงไม่อยากนินทาลับหลัง ใครๆ ก็รู้กิตติศัพท์ของหมอจิณณาดีเธอมีรูปร่างหน้าตาสะสวยก็จริงแต่เป็นคนดุ ไม่รู้ทำไมถึงไปอยู่แผนกเด็ก ทำเอาแผนกนั้นกลายเป็นแผนกที่ไม่มีใครอยากเดินผ่าน ทุกวันต้องมีเสียงคุณหมอสาวเบรกแตก ต่อว่าผู้ปกครองหลายรายที่ไม่เตรียมเด็กก่อนมาพบแพทย์ ทำให้เด็กร้องไห้กระจองอแง เด็กบางคนแค่เห็นหน้าหมอก็ร้องลั่นแล้ว เพราะโดนขู่มาตั้งแต่อยู่บ้าน จะว่าไปหมอเด็กก็น่าเห็นใจไม่น้อยอีกอย่างจิณณาเป็นสาวสวยที่มีหนุ่มๆ มาตามจีบถึงโรงพยาบาลเยอะมาก โดยเฉพาะนายตำรวจคนหนึ่งซึ่งมาหาเธอแทบทุกวัน เพราะเหตุนี้อาจทำให้หมอธชาท้อก็ได้

“ที่จริงผมอยากขับไปส่งคุณที่บ้านมากเลย หน้าหนาวมืดไวด้วย ดูสิพระอาทิตย์จะตกแล้ว”

เขาชี้นิ้วไปทางทิศตะวันตก ลูกไฟกลมดวงใหญ่สีส้มสดสวยกว่าทุกวันนั้นใกล้ลับขอบฟ้า เป็นภาพที่งดงามจนหญิงสาวเผลอบอกออกไป

“วันนี้ดวงอาทิตย์สวยจัง”

ธชาหันไปมองอีกครั้ง รอยยิ้มระบายบนใบหน้า

“แปลกนะ สิ่งสวยงามอยู่รอบตัว แต่เราไม่มีเวลาแม้แต่จะมอง”

“ก็คุณหมอทำงานหนักมาก”

เธอแก้ตัวให้เขาเสร็จสรรพ อาชีพแพทย์เป็นอาชีพที่เธอออกจะเชิดชูเลยก็ว่าได้ ต้องเป็นคนเสียสละ ชีวิตที่ต้องทุ่มเทตลอดเวลาบางทีก็น่าเห็นใจ บางรายได้เงินจากการทำงานมากมาย แต่ก็แทบไม่มีเวลาใช้

“เป็นแค่ข้ออ้างน่ะครับ งานหนักแค่ไหนก็ต้องพยายามมองสิ่งสวยงามรอบตัวบ้าง ถ้าผมบอกคุณว่าบังเอิญสิ่งสวยงามที่ผมชอบมองอยู่ในห้องทำงานของผมทุกวันล่ะ”

เต็มใจสะดุ้งกับคำพูดที่เพิ่งจบลง พยายามทำความเข้าใจอีกครั้ง

“เต็มครับ...ผมไม่แน่ใจว่าคุณแกล้งไม่รู้หรือเปล่า แต่อย่างน้อยคุณน่าจะรู้ว่าคุณพิเศษสำหรับผมนะ แค่ได้มองคุณผมก็มีความสุขแล้ว”

หญิงสาวยังคงนิ่งอึ้ง ไม่เคยคิดจริงๆ ว่าคำพูดงดงาม มีความหมายนี้จะออกมาจากปากหมอหนุ่มซึ่งดูเอาจริงเอาจังในการทำงานตลอดเวลา ที่สำคัญ ดูเหมือนคำพูดนั้นเกี่ยวข้องกับเธออย่างลึกซึ้ง โดยไม่ได้คิดไปเอง

“ผมไม่ได้เร่งรัดคุณนะ ถ้าเร่ง ก็คงไม่ปล่อยคุณไว้ถึงสามปีแบบนี้หรอก แต่ดูๆ แล้วผมคงไม่มีความสามารถเลย ในเรื่องการแสดงความรู้สึก ผมอาจจะประสบการณ์น้อยไปหน่อยในเรื่องนี้ แต่วันนี้ตัดสินใจแล้วว่าต้องบอกคุณให้ได้”

เต็มใจไม่รู้จะหาคำใดมาตอบ ได้แต่นั่งนิ่ง หันไปมองชายหนุ่มที่กำลังขับรถอยู่ เขาหันมาสบตาเธอเป็นระยะ

“นี่ถ้าไม่รีบไปส่งคุณขึ้นรถ ผมคงต้องขอจอดคุยเรื่องของเราให้รู้เรื่อง แต่ก็ห่วง กลัวคุณไปถึงที่โน่นมืดเกินไป เอาเป็นว่ากลับมาแล้วผมขอเวลา เราต้องคุยกัน”

“ค่ะ”

เสียงตอบในลำคอนั้นเบาแสนเบา หากไม่นับรวมข้อความในจดหมายจากชายนิรนาม นี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้ชายมาบอกความรู้สึกพิเศษต่อหน้าคำพูดของธชาทำเอาพยาบาลสาวใจหวิวๆ เฝ้าทบทวนถ้อยคำจนแน่ใจแล้วว่าเขาไม่ได้พูดเล่น

เต็มใจลงจากรถเก๋งของธชามาอย่างเลื่อนลอย กระทั่งขึ้นมานั่งบนรถสองแถวแล้วก็ยังรู้สึกงงไม่หาย

ช่างเถอะ เรื่องของหัวใจ ไม่มีอะไรเร่งรีบ เธอไม่รีบร้อนกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้วลองปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ บางทีในไม่ช้านี้เธออาจจะรู้ใจตัวเองก็เป็นได้

___________________________________________________________________


เมื่อจ่ายเงินให้ลุงคนขับรถเรียบร้อย เต็มใจก็เดินเข้าซอยไป นี่ถ้าไม่มีผู้โดยสารคนอื่นบนรถ เธอคงต้องขอให้ลุงขับเลยไปอีกนิดเพื่อเข้าไปส่งในซอย บรรยากาศมืดมิดและอากาศเย็นจัดสร้างความรู้สึกกังวลให้เธอได้ไม่น้อย

เสียงกลุ่มวัยรุ่นชายคุยกันโขมงโฉงเฉงนั้นไม่ได้ทำให้เธอสบายใจขึ้นเลย สู้ปล่อยให้ซอยเปลี่ยวเสียยังดีกว่ามีขี้เมานั่งล้อมวงกินเหล้ากันแบบนี้ เต็มใจเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นขณะเดินผ่าน แต่ก็ยังได้ยินเสียงตะโกนไล่ตามหลัง

“พยาบาลคนสวย กลัวพี่จนลนลานเลยเหรอจ๊ะ มามะ มานั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนพี่หน่อย”

เต็มใจหวังว่าชุดพยาบาลสีขาวที่สวมอยู่อาจช่วยให้คนเมาได้สติ แต่เปล่าเลย พวกมันลุกจากวงเหล้าเดินตรงเข้ามาหา หญิงสาวไม่รีรอ เธอวิ่งหนีสุดชีวิต คิดว่าจะรอดพ้นแล้ว แต่กลับมีมือสากๆ มาคว้าข้อมือเอาไว้ สะบัดเท่าไรก็ไม่หลุด

“มาถูกเวลาจริงนะน้องสาว พี่กับเพื่อนๆ กำลังอยากอยู่พอดี”

“อย่านะ ไอ้พวกบ้า!” คนถูกประทุษร้ายอดไม่ได้จริงๆ ที่จะสบถออกไป เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งดังลั่น กลิ่นเหล้าฉุนรุนแรงจนแทบอาเจียนท่าทางพวกมันคงไม่ได้แค่เมาเหล้า น่าจะเมายาด้วย หญิงสาวพยายามดิ้นรนสุดชีวิต แต่ไม่สำเร็จ จึงลองใช้ไม้อ่อนดู

“อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ถ้าตำรวจมาเจอเข้าพวกนายต้องลำบากแน่”

“ตำรวจเหรอ ฮ่ะๆๆ กลัวที่ไหน แถวนี้ไม่เคยมีตำรวจโผล่หัวมาหรอกเว้ย พวกเราลุยกันเถอะ ใครเอาก่อนดีวะ”

เสียงตะโกนลั่นอย่างคึกคะนองนั้นทำให้เต็มใจหวาดกลัวจับใจ เธอตัดสินใจตะโกนสุดเสียง

“ช่วยด้วย! ช่วยฉันดะ...”

เผียะ!

เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้า ตามด้วยหมัดเข้าที่ช่องท้อง รู้สึกจุกจนตัวงอ

“ชอบความรุนแรงใช่มั้ย ได้เลย พวกกูจัดให้ สลบๆ ไปซะ จะได้ทำอะไรง่ายๆ หน่อย”

เต็มใจกำลังจะร้องขอความเมตตา แต่แล้วท่อนไม้จากมือใครสักคนก็ฟาดเข้าที่ต้นคอ ภาพกลุ่มวัยรุ่นตรงหน้าดับวูบลงทันที

__________________________________________________________________________


ตั้งใจเขม้นมองภาพในความมืดอีกครั้ง ใจหายวาบเมื่อเห็นหญิงสาวในชุดพยาบาลสีขาวกำลังถูกลากเข้าไปในพงหญ้ารกข้างทาง เขาถลาเข้าไปหากลุ่มวัยรุ่นพวกนั้น แล้วปล่อยทั้งหมัดทั้งเตะสุดแรงเพื่อให้พวกมันออกไปให้พ้นจากร่างของเต็มใจ เขาจะไม่ยอมให้มันย่ำยีร่างกายของเธอและหัวใจของเขาเป็นอันขาด

แต่เพราะพวกมันมีกันเกือบสิบคน ทำให้ตั้งใจเป็นฝ่ายถูกตะลุมบอน หมัดนับสิบรัวลงบนใบหน้า คนหนึ่งจับแขนเขาไว้เพื่อเป็นเป้าให้เพื่อนซ้อมอย่างหนำใจ

“เสือกดีนัก เอามันให้สลบแบบนังนั่นซะ เราจะได้เริ่มจัดการคนสวยกันเลย”

ตั้งใจเห็นไอ้คนตัวสูงเดินตรงเข้ามาพร้อมไม้หน้าสาม เขาจึงเตะข้อมือมันสุดแรงจนไม้กระเด็น อย่างไรเขาก็ไม่ยอมให้มันทำร้ายเต็มใจมากไปกว่านี้ ชายหนุ่มใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดต่อสู้กับหมาหมู่ที่ดาหน้าเข้ามาทำร้ายร่างกายจนรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว แต่แล้วเขาก็ต้องใจชื้นเมื่อมีแสงไฟหน้ารถสาดส่องมา จึงตะโกนลั่นถนน

“ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย”

โชคดีจริงๆ ที่รถกระบะคันนั้นแล่นตรงเข้ามาจอด เห็นเท่านั้น ไอ้พวกเศษสวะสังคมก็วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนได้ยินเสียงใครคนหนึ่งตะโกนลั่น

“หนีเว้ย พวกเรา ตัวใครตัวมัน”

ชายวัยกลางคน เจ้าของรถวิ่งตรงเข้ามาถามไถ่

“เป็นอะไรมากหรือเปล่า”

“ผมไม่เป็นไรมากครับ แต่พี่สาวผม แย่เลย นอนสลบอยู่ในพงหญ้านั่น”

ตั้งใจถลาเข้าไปหาร่างไร้สติที่ข้างทางแล้วอุ้มขึ้นมาทันที

“ได้โปรดช่วยพาผมกับพี่สาวไปส่งโรงพยาบาลด้วยนะครับ”

“ไม่ต้องขอ ลุงก็จะพาไปส่งอยู่แล้ว ว่าสภาพพ่อหนุ่มเองแย่แล้วนะ พี่สาวยังดูแย่กว่าอีก ไม่ได้สติเลย เรารีบไปกันเถอะ”

ชายหนุ่มอุ้มร่างบอบบางเข้าไปในรถ ประคองไว้อย่างทะนุถนอมจนถึงแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล แม้ความเจ็บปวดจากการถูกรุมทำร้ายจะทวีขึ้น รู้สึกถึงน้ำเหนียวข้นแดงฉานไหลออกมาจากแผลที่หน้าผาก แต่ใจของเขากลับเป็นห่วงหญิงสาวมากจนแทบไม่อยากรักษาตัวเอง ตั้งใจมองตามเตียงที่พนักงานเร่งเข็นร่างของเต็มใจเข้าไปในห้องฉุกเฉินอย่างห่วงใย

“คุณเองก็บาดเจ็บ มาทำแผลก่อนนะ หน้าตามีแผลเหวอะหวะเชียว ถูกซ้อมมาใช่มั้ย แล้วนี่ไปเจอเต็มได้ยังไงละ”พยาบาลสาวใหญ่ถาม

“คุณพยาบาลรู้จักพี่เต็ม”

“รู้สิ ใส่ชุดพยาบาลทนโท่อย่างนั้น เห็นปุ๊บก็จำได้ปั๊บแล้ว พยาบาลประจำห้องอายุรกรรม เฮ้อ น่าสงสาร สลบยังไม่ได้สติเลย คุณหมอกำลังช่วยอยู่ ไม่ต้องห่วง ส่วนเธอน่ะ มาทำแผลก่อน”

ตั้งใจเดินตามพยาบาลไปยังเตียงข้างๆ เตียงของเต็มใจ เห็นเธอยังนอนนิ่ง ดวงตาปิดสนิท แพทย์หนุ่มคนหนึ่งกำลังตรวจร่างกาย และช่วยทำแผลให้โดยมีพยาบาลเป็นลูกมือ

“ใครไปพบเต็มที่ไหน” หมอหนุ่มถาม น้ำเสียงร้อนรน ห่วงใย

“ในซอยทางเข้าบ้านเต็มน่ะค่ะคุณหมอธชา น่าสงสารจังเลย คงเป็นไอ้พวกวัยรุ่นเมาเหล้าเมายาคึกคะนอง แบบนี้มันน่าลากคอเข้าคุกจริงๆ โชคดีน้องชายเธอมาเห็นเข้า ไม่งั้นนึกไม่ออกเลยว่าเต็มต้องเจออะไร” พยาบาลสาวรายงาน มือก็ส่งสำลีชุบไฮโดรเยนเปอร์ออกไซด์ส่งให้ธชาซึ่งกำลังทำแผลบนใบหน้าให้คนไข้อย่างนุ่มนวลจนเสร็จทุกขั้นตอน

“ผมทำแผลให้แล้ว โชคดีแผลไม่ลึกมากช่วยส่งตัวไปเอกซเรย์สมองก่อนเลยนะ แขนขาเท่าที่ตรวจก็ไม่หัก”

นายแพทย์หนุ่มท่าทางใจดีเดินมายังเตียงของตั้งใจ ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้

“ขอบคุณมากนะ ที่ช่วยเต็มเอาไว้ ถ้าไม่ได้คุณคงแย่แน่ๆ ผมยังรู้สึกผิดอยู่เลยที่ไม่ได้ไปส่งเธอถึงบ้าน พอดีติดเวรห้องฉุกเฉิน”

“ผมต้องช่วยอยู่แล้วละครับ พี่สาวทั้งคน โชคดีที่ป้าผมผิดสังเกตว่าทำไมพี่เต็มไม่มาสักที ก็เลยให้ผมออกไปยืนรอที่ปากซอย ยังเดินไม่ถึงก็เจอเหตุร้ายเข้าพอดี”

“คุณคงเป็นน้องชายของเต็ม ขอบคุณมากนะที่ช่วยเธอไว้ นี่ปวดตรงไหนมากเป็นพิเศษหรือเปล่า แขน ขาโดนหนักมั้ย”

แทนที่ตั้งใจจะตอบเรื่องอาการ ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาแจ้งสถานะก่อน “พี่เต็มไม่ใช่พี่แท้ๆ ของผมครับ แค่โตมาด้วยกันในบ้านเด็กกำพร้า” คุณหมอหนุ่มพยักหน้ารับรู้ มือสาละวนอยู่กับการเช็กแขนขาคนไข้ว่ามีหักตรงไหนหรือเปล่า ตั้งใจนึกได้ว่าควรตอบเรื่องอาการ จึงเอ่ยออกไป “ที่แขนขาโดนไม่มากครับ หนักที่สุดก็ตรงหน้านี่แหละ มันรุมซ้อมผมจนน่วม”

“เดี๋ยวพยาบาลจะทำแผลบริเวณอื่นให้นะ แต่มีแผลแตกอยู่สองจุดที่ต้องเย็บ ระหว่างรอเต็มไปเอกซเรย์ เดี๋ยวผมเย็บให้คุณเองเลย ยิ่งเร็วยิ่งดี”

“ขอบพระคุณมากครับคุณหมอ” ชายหนุ่มยกมือไหว้ สายตาส่งไปยังเตียงข้างๆ ซึ่งกำลังถูกเข็นออกไปเอกซเรย์ เต็มใจยังนอนนิ่งไม่ได้สติอยู่บนนั้น

อีกครู่ใหญ่การเย็บแผลแตกที่โหนกแก้มและหน้าผากก็เสร็จสิ้น พอดีกับที่เตียงของคนไข้สาวถูกเข็นกลับมา แต่คราวนี้เต็มใจนอนลืมตา ตั้งใจผุดลุกจากเตียง ถลาไปหาเธอทันที

“พี่เต็มฟื้นแล้ว ดีใจจัง” มือใหญ่คว้ามือเรียวมากุมไว้ ไม่สนใจสายตาหมอหนุ่มที่มองมาอย่างสังเกต “พี่จำได้มั้ยว่านี่ใคร”
ตั้งใจยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ คนเจ็บ ทำหน้าทะเล้นแบบที่เคยเรียกเสียงหัวเราะจากเธอได้เสมอ

“บ้าน่า! เล่นตลอดเลยนะเรา จำได้สิ น้องชายหน้าตากวนอารมณ์แบบนี้มีคนเดียวแหละ” เต็มใจดุเบาๆ

“งั้นก็บอกมาสิ ว่าผมชื่ออะไร”

“ตั้งใจ” เธอตอบพร้อมรอยยิ้ม ก่อนเบนสายตาไปยังหมอหนุ่มที่ยืนอยู่ปลายเตียง

“คุณหมออยู่เวรฉุกเฉินพอดี โชคดีจริงๆ ขอบคุณที่ช่วยรักษาเต็มกับน้องนะคะ” แม้น้ำเสียงจะอ่อนระโหย แต่แววตาที่ส่งไปให้คุณหมอหนุ่มยังดูมีชีวิตชีวาอย่างไม่น่าเชื่อ

ตั้งใจไม่ชอบเลยเวลาที่เต็มใจแนะนำเขาอย่างเต็มปากเต็มคำกับคนอื่นว่าเป็น ‘น้อง’

อาจจะเป็นความคิดบ้าๆ เมื่อเขาแอบคิดลึกซึ้งกับเธออยู่ฝ่ายเดียว เขาไม่อยากเป็นแค่น้องชาย เขาอยากเป็นคนพิเศษในหัวใจของเธอ ไม่ใช่เพราะความสวยหวานน่ารักและดูเด็กอยู่เสมอ แต่เป็นเพราะน้ำใจอันงดงามซึ่งเขาสัมผัสได้ตั้งแต่เริ่มรู้ความ การที่รู้สึกผูกพันรักใคร่กับหญิงสาวสักคน อยากผูกสัมพันธ์แบบลึกซึ้งกับผู้หญิงที่อายุมากกว่าแค่ห้าปีแต่กลับทำไม่ได้นั้นเป็นเรื่องน่าอึดอัดที่สุด เขารู้ดีว่าไม่ควรแสดงความรู้สึกอะไรออกไปจึงทำได้แค่เก็บงำไว้ในใจคนเดียว

“การรักษาเป็นหน้าที่ผมอยู่แล้ว ก็แค่ห่วงมากกว่าปกติเท่านั้นเอง เห็นคุณบาดเจ็บขนาดนี้ ผมใจไม่ดี รู้อย่างนี้พาไปส่งให้ถึงบ้านดีกว่า” คุณหมอหนุ่มบอกด้วยสีหน้ารู้สึกผิด น้ำเสียงอ่อนโยนจนตั้งใจนึกสงสัยว่ามีคนแบบนี้อยู่ในโลกด้วยหรือ ใจดีตลอดเวลา ท่าทางจะไม่เคยโมโห ไม่เคยโกรธใคร

“เต็มรู้ว่าคุณหมอติดเวร ไม่กล้ารบกวนหรอกค่ะ”

“จากนี้ไปผมคงต้องดูแลคุณให้ดีกว่านี้”

สิ้นสุดคำพูด เลือดในกายของตั้งใจเหมือนจะร้อนจนเกือบเดือด เขาก็อยากดูแลเต็มใจเหมือนกัน และที่ผ่านมาตั้งแต่เข้าสู่วัยรุ่น เขาก็ดูแลเธอมาตลอดไม่เคยบกพร่อง หวังว่าเธอจะยังไม่ลืมความผูกพันและเห็นคนอื่นดีกว่า

ยิ่งหันไปเห็นเพื่อนพยาบาลของเต็มใจลอบยิ้มลับหลังนายแพทย์หนุ่มก็ยิ่งรู้ว่าคนที่โรงพยาบาลคงแอบเชียร์หมอธชากับพยาบาลสาวสวยอย่างเต็มใจเป็นแน่...หมอกับพยาบาล...คงไม่มีอาชีพไหนเหมาะสมกันขนาดนี้อีกแล้ว

เขาควรจะล่าถอยอย่างจริงจังหรือสู้ต่อไปดี การแอบรักใครสักคนให้ความรู้สึกหวานล้ำ แต่ก็เจ็บปวดไปด้วยเพราะไม่อาจเอื้อนเอ่ยความในใจออกไปได้...แล้วเขาควรทำอย่างไร ยังคิดไม่ออกจริงๆ



ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ทุกไลค์ และทุกคอมเมนต์ค่ะ


____________________________________________________________________________

ตอบคอมเมนต์ค่ะ

คุณ OhLaLa ... ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ สำหรับคอมเมนต์สร้างพลัง ดีใจที่ชอบนะคะ ^____^ ...ไม่ใช่แค่ทำให้มีแรงลงนิยาย แต่ทำให้มีแรงสร้างสรรค์งานต่อไปอีกด้วย...ขอบคุณอีกครั้งค่าาาาาา ป.ล. คนเขียนก็แอบรักหมอธชาเหมือนกัน >0<


______________________________________________________________________________



ดาริยา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ก.พ. 2557, 06:20:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ก.พ. 2557, 06:20:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 1317





<< ตอนที่ 3   ตอนที่ 5 >>
Pat 9 ก.พ. 2557, 08:28:32 น.
เกือบไป


แมวเหมียวก้อย 9 ก.พ. 2557, 09:25:37 น.
มาโหวตให้ทุกตอนค่าา อิอิ
ถ้าอ่านทันจะมาตามอ่านนะคะ


OhLaLa 9 ก.พ. 2557, 12:53:38 น.
โอ๊ยเกือบไปแล้ว ดีที่ตั้งใจมาช่วยทัน คุณหมอใจเย็นไปหรือเปล่า ผ่านมาสามปีความสัมพันธ์ไม่คืบหน้าเลย อยากบอกว่าถ้าเราเป็นเต็มใจ อยากจะเก็บเธอไว้ทั้งสองคน โฮะโฮะ โลภมากเนอะ แต่ยังไงเราก็ชอบคนมีอายุมากกว่า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account