นางร้ายเจ้าน้ำตา
ชีวิตของมินตราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฝันไว้ว่าจะดีขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเจอแต่อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ทุกอย่างก้าว ดีที่ได้มีโอกาสเจอเขา...คิลเลี่ยนหนุ่มลูกครึ่งชาวอังกฤษก็คอยช่วยเหลือ เป็นหลักให้เธอได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หนทางรักที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่จะจบด้วยความสมหวัง
Tags: นางร้าย

ตอน: นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 6

นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 6

วันหยุดยาวครั้งนี้ คิลเลี่ยนพามินตรามาทานมื้อค่ำที่บ้านแม่ เขาให้มินตราช่วยแม่เขาในครัว และเขาก็มาช่วยน้องต่างพ่อทั้งสองคนตกแต่งต้นคริสมาสต์ และเป็นอย่างนี้ทุกปีตั้งแต่มินตราแต่งงานกับคิลเลี่ยน เทศกาลที่คิลเลี่ยนยินดีเข้าร่วมแม้เขาจะนับถือศาสนาพุทธและเข้าวัดตามสมควรก็ตาม

“เดือนหน้า เธอกับคิลเลี่ยนจะไปเมืองไทยเหรอ” เฮเลนถามลูกสะใภ้ขณะกำลังเตรียมอาหารเย็น

“ใช่ค่ะ” มินตรากำลังหั่นผักสำหรับอาหารค่ำ ช่วยเฮเลนทำอะไรหลายอย่างและเฮเลนก็ดูพอใจลูกสะใภ้

“เธอต้องระวังอย่าให้เขาไปหาเรื่องพ่อเขานะ มินต์ ฉันก็ใจไม่ค่อยดี เวลาที่เซธเขาดุลูก เขาจริงจังเกินไป เซธเขานิสัยใจร้อนเจ้าเล่ห์ ฉันกลัวเสมอเวลาที่คิลเลี่ยนกลับเมืองไทย” เฮเลนพูดอย่างหนักใจ รู้สึกชอบลูกสะใภ้คนนี้ไม่น้อย เพราะช่วยเหลืองานเธอเสมอเวลามาที่บ้าน

ช่วงหยุดยาว ไมเคิลกับเธอก็จัดห้องไว้ให้ทั้งสองได้นอนพักที่นี่ เพราะไมเคิลกับคิลเลี่ยนไม่ค่อยมีปัญหากันและเข้ากันได้ดี โดยมากชอบดื่มด้วยกันจนถึงเช้า ช่วงในช่วงวันหยุดยาวมินตราและคิลเลี่ยนจึงมาค้างที่นี่อาทิตย์หนึ่งเสมอ

“ฉันจะพยายามเตือนเขานะคะ เฮเลน แต่คุณก็รู้ว่าเขาดื้อแค่ไหน” มินตราแบ่งรับแบ่งสู้ แต่ถ้าพ่อเขาไม่เข้ามาวุ่นวายกับคิลเลี่ยน คาดว่าเขาก็คงไม่เข้าไปยุ่งด้วย

“นั่นแหละที่น่าเป็นห่วง เขาเหมือนพ่อเขาหลายอย่าง เซธน่ะดื้อแล้วก็เอาแต่ใจด้วย” เฮเลนไม่ถึงกลับเกลียดคนรักเก่า เพราะตอนนี้เธอมีสามีที่ดีและลูกๆ ที่ดี เธอก็พอใจแล้ว

มินตรารู้ว่าชื่อฝรั่งของสมเจตน์คือเซธ เพราะเฮเลนเรียกอยู่บ่อยๆ แต่เธอก็ไม่แสดงความคิดเห็นมากนัก ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว เดี๋ยวจะกลายเป็นย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง

เมื่อถึงเวลาอาหารก็ร่วมโต๊ะกัน ทุกคนก็พร้อมหน้า เหลือแต่น้องชายวัยรุ่นของคิลเลี่ยน...โจที่ยังไม่มาสักที สักพัก เขาก็มาพร้อมเอาไอแพดมาให้มินตรา “มินต์รู้ไหมว่ามีคนทำแฟนเพจให้เธอด้วยล่ะ”

“จริงเหรอ” คิลเลี่ยนถามน้องชายทันที ก่อนถาม “แล้วแกไปหาเจอได้ยังไง”

“ก็นะ เมื่อกี้นึกสนุกค้นหาชื่อมินต์ในหน้าแฟนเพจ มีคนเข้ามากดไลค์เป็นหมื่นล่ะ มีคนไทยเข้ามาตอบด้วยดูสิ” โจอ่านไม่ออก แต่ก็เห็นคนตอบ

“ไหนๆ” เฮเลนขอดู ทั้งที่เพิ่งเริ่มทานอาหารไปได้เล็กน้อยเท่านั้น ก็สนใจลูกสะใภ้ดาราอย่างเอ็นดู

“ขอพี่ดูบ้างสิ” ลอรี่ก็เข้ามาดูอย่างสนใจด้วยอีกคน ยิ่งเป็นเรื่องของคนที่รู้จักกันแบบนี้ ยิ่งน่าสนใจ

ทั้งหมดก็ร่วมกันดู แม้แต่มินตราที่แปลกใจ มีภาพจากภาพยนตร์ ภาพจากโฆษณาที่เธอไปถ่ายทำเมื่อปีที่แล้ว ทั้งภาพนิ่งและภาพจากหนังโฆษณาสั้น

มินตราอมยิ้มแล้วก็หัวเราะ ไม่คิดว่าจะมีแฟนคลับเป็นหมื่นคนแบบนี้

“เขาเขียนว่าอะไรเหรอ เค” ลอรี่ถามพี่ชาย เพราะมีคนไทยเข้ามาโพสต์ข้อความไว้

คิลเลี่ยนอ่านแล้วแปล “เขาบอกว่าเป็นคนไทยในอังกฤษ ได้มีโอกาสเข้าไปดูหนังที่มินต์แสดง รู้สึกชอบมาก ที่จำได้คือหนังที่แสดงเป็นคนจีน ด่าเก่งมาก เพราะอาม่าเขาก็ด่าเก่งอย่างนี้ แปลว่าแกรนมาเตอร์ของเขาเป็นคนจีนที่ด่าเก่งมากน่ะ”

ลอรี่กับโจก็หัวเราะ แล้วหันไปหามินตราที่ทำหน้าอายๆ ก่อนเจ้าตัวแก้ตัว “ก็นะ ก็บทมันต้องเป็นอย่างนั้นนี่นะ”

หนังเรื่องนั้นก็ทำเงินในประเทศพอสมควร ทำให้มินตราได้รับงานโฆษณาบ้าง และมีงานภาพยนตร์เข้ามาอีก เธอก็รับตามกำลังที่มี โดยมีชาร์ลีเพื่อนของคิลเลี่ยนคอยป้อนงานให้ แล้วก็มีผู้กำกับที่ชอบการแสดงของเธอที่ช่วยหางานให้ด้วย

“ผมว่านะ มินต์รับแต่งานแสดงก็น่าจะอยู่ได้สบายๆ แล้วล่ะ” ไมเคิลพูดสนับสนุนลูกสะใภ้ของภรรยา เขาก็มีรอยยิ้มที่ครอบครัวเข้ากันได้ดี

“ผมจะเป็นผู้จัดการหักเปอร์เซ็นต์มินต์เอง” คิลเลี่ยนบอกแล้วทำให้คนอื่นๆ หัวเราะ เพราะรู้ว่าเขาพูดเล่นเป็นประจำ

“ได้สิคะ แล้วต้องขับรถไปรับไปส่ง เอาเสื้อผ้าไปซักให้ด้วย เช็ดทำความสะอาดบ้านแล้วก็งานจิปาถะด้วยนะ” มินตราได้ทีก็ล้อเขาใหญ่ ทำคนอื่นหัวเราะ เพราะไม่คิดว่าคิลเลี่ยนจะทำทั้งหมดให้

“นั่นไง หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ” คิลเลี่ยนพูดแล้วก็หัวเราะไปด้วย และบรรยากาศที่โต๊ะอาหารก็ดีขึ้น

เมื่อทานเสร็จแล้ววัยรุ่นทั้งสองก็รับหน้าที่ทำความสะอาดจานชาม มินตรานั่งที่ห้องนั่งเล่นแล้วหันไปคุยกับคิลเลี่ยน “สงสัยต้องเข้าเฟซบุ๊คมากขึ้นแล้วล่ะ”

“ดีสิ โปรโมทตัวเองไปด้วย” คิลเลี่ยนเห็นด้วย ก่อนบอกต่อไปอีก “ถ้าพี่แต่งเพลงแล้วขายได้ ต้องแสดงคอนเสิร์ต มินต์ต้องเป็นผู้จัดการให้พี่นะ”

“ได้ค่ะ มินต์จะไม่ยอมให้ใครมาหักเปอร์เซ็นต์จากพี่แน่ เพราะมินต์จะหักไว้ให้ลูก” มินตราพูดแล้วก็ถูกเขาจูบปิดปาก จากนั้นก็หัวเราะกันสองคน

เฮเลนเห็นลูกชายมีความสุขก็โล่งอก “แม่ดีใจที่ลูกได้ลงหลักปักฐาน”

ไมเคิลยิ้มตาม แล้วถามให้แน่ใจ “แน่ใจนะว่าจะออกสิ้นเดือนหน้า ทั้งคู่เลยเหรอ”

“ครับ ผมตั้งใจว่าอย่างนั้น มันก็ถึงเวลาที่จะทำอะไรให้มันจริงจังมากกว่าเดิม” คิลเลี่ยนโอบไหล่มินตราอย่างมั่นใจ ถึงเวลาสร้างความมั่นคงให้ครอบครัวแล้ว

“เห็นว่าจะซื้อบ้านที่เมืองไทยเหรอ” ไมเคิลถามขึ้นเพราะได้ยินจากภรรยา

ผู้ใหญ่ต่างก็มีแก้วไวน์กันในมือ ส่วนวัยรุ่นก็เข้าห้องทำที่อยากจะทำตามใจแล้ว

“ครับ มินต์เขาอยากมีบ้านให้กลับ เวลาไปเมืองไทยครับ ผมก็อยากได้ที่สำหรับพักเหนื่อยด้วย” คิลเลี่ยนบอก ก่อนจะต่อท้ายด้วย “ผมได้ยินว่าข้างบ้านนี่เขาจะขายบ้านเหรอครับ ผมว่าจะซื้อบ้านในอังกฤษด้วย”

“เอาจริงเหรอ แม่จะไปถามให้” เฮเลนอยากให้ลูกชายคนโตมาอยู่ใกล้ๆ มานานแล้ว แต่ก็รู้ว่าลูกชอบอยู่ที่ห้องชุดมากกว่า และเป็นในเมืองที่เธอไม่อยากไป

เธอชอบอยู่ในท้องถิ่นมากกว่า เมื่อก่อนสามีก็เคยไปใช้ชีวิตอยู่ในเมือง เป็นโอกาสให้คนรักเก่าเข้ามาในหัวใจเธอ แล้วเรื่องทุกอย่างก็วุ่นวาย สุดท้ายไมเคิลย้ายกลับมาทำงานเล็กๆ แต่ยังมีสายสัมพันธ์กับในเมืองอยู่ และพอได้มาเจอเฮเลนที่เจ็บปวดกลับมา ความผูกพันก็ก่อตัวเพิ่มขึ้น จนตกลงใจเริ่มต้นชีวิตครอบครัวด้วยกันที่บ้านเก่าของเฮเลนแห่งนี้

“จะไหวเหรอคะ ทั้งบ้านที่เมืองไทย แล้วก็ที่นี่อีก” มินตราขมวดคิ้วงุนงง และกังวลเรื่องภาวะทางการเงิน

“ไม่เป็นไร มินต์ออกค่าบ้านที่เมืองไทยครึ่งหนึ่ง แล้วที่นี่พี่ซื้อเอง” คิลเลี่ยนบอกแล้วกระชับอ้อมแขนบอกเธอให้มั่นใจในตัวเขา

“ไม่ต้องห่วงเรื่องการเงินของคิลเลี่ยนเขาหรอก เขาบริหารจัดการเองได้” ไมเคิลรู้มากกว่ามินตรามาก เพียงแต่ไม่พูด บางเรื่องคิลเลี่ยนก็คุยกับเขาเท่านั้น

“ค่ะ งั้นก็แล้วแต่พี่” มินตราพยักหน้าช้าๆ เพราะมันเป็นเรื่องการเงินของเขา ไม่เกี่ยวกับเธอ และเธอก็ต้องเชื่อมั่นเขา เมื่อเขาบอกแบบนี้ เธอก็ได้แต่เป็นกำลังใจให้

“ยังไงมินต์ก็ต้องรับรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว ไว้พี่จะอธิบายให้ฟัง เรามาดื่มฉลองครอบครัวที่อบอุ่นกันดีกว่าไหม” คิลเลี่ยนหอมแก้มเธออย่างเอ็นดู มองเธอนัยน์ตาหวานซึ้ง

“มินต์ว่าพี่ไปนอนดีไหมคะ ท่าทางจะเมาแล้ว” มินตราเห็นเขาทำตาง่วงๆ ก็ชวนไปนอน

ไมเคิลกับเฮเลนต้องหัวเราะ เพราะรู้จักลูกคนนี้ดี ก่อนเฮเลนพูดขึ้น “เขาแกล้งเมาน่ะสิ วอดก้าสามขวดยังไม่เมาเลย”

มินตราก็มองเขาหัวเราะ แล้วทำหน้าไม่เข้าใจ

“เขาอยากอ้อนมินต์น่ะสิ ไม่รับมุขเขาเลย” เฮเลนส่ายหน้าช้าๆ

“เนี่ยแหละครับ ไม่ต้องถามว่าทำไมผมยังไม่มีลูกสักที ก็มินต์เข้าใจช้า ผมหมดอารมณ์ก่อนทุกที” คิลเลี่ยนแก้ตัวเรื่องลูกได้ชัดเจน ไม่ได้บอกเหตุผลที่แท้จริง

มินตราก็ตีเขาอย่างอายๆ แม้จะรู้ว่าเขากลบเกลื่อนเหตุผลที่เธอไม่ท้องสักที ก็ยังไม่มีอะไรกันแล้วเธอจะท้องได้ยังไง ดูเหมือนเขาก็รอโอกาสพิเศษๆ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร เธอไม่กล้าเป็นฝ่ายทอดสะพาน ได้แต่รอให้เขาเริ่มเท่านั้น

“เอาล่ะ ผมว่าพักผ่อนกันดีกว่า อย่าดื่มมากเลย ดื่มพอดีๆ เพื่อสุขภาพก็พอนะ” ไมเคิลพูดแล้วหันไปจูบเมียรักอย่างดูดดื่ม จากนั้นเขากับเฮเลนขอตัวขึ้นชั้นบน

มินตรากับคิลเลี่ยนก็ตามขึ้นไปเช่นกัน หลังจากตรวจล็อกทั้งบ้านเสร็จแล้ว เมื่อถึงห้องนอน มินตราก็เอาแท็ปเล็ตมาดูหน้าแฟนเพจของตนเอง เห็นมีข่าวสารอัพเดตก็นึกแปลกใจ ก่อนพิมพ์ลงไป

‘ขอบคุณที่ให้กำลังใจนะคะ’

มินตราก็เตรียมเข้านอน ขณะที่คิลเลี่ยนนั่งดูบางอย่างในแท็ปเล็ต เมื่อเธอหันกลับมาก็เจอคนมาตอบความคิดเห็นของเธอที่โพสต์ลงหน้าแฟนเพจนั้น ชื่อเฟสบุ๊คของเธอก็คือ Mintra Sriying Pierce ทำให้ผู้ดูแลเพจถามเข้ามาว่าใช่เธอจริงๆ ไหม เธอก็ตอบกลับไปตามตรง ทำให้เกิดการยิงคำถาม แต่เพราะเธอไม่ค่อยได้เล่นเท่าไรนัก จึงตอบไม่ทัน

‘ขอโทษนะคะ อ่านไม่ทันและตอบไม่ทันแต่ก็ราตรีสวัสดิ์ค่ะ’ มินตราตอบสุดท้ายแล้วก็มีคนแอดเพื่อนเธอเข้ามาอีกเพียบ เธอก็ยังไม่ได้ตอบรับ เพราะทุกอย่างรวดเร็วมาก มีข้อความเข้ามาหลังไมค์ด้วย เธอจึงปล่อยวางเสีย

“โอ๊ย เหนื่อยจังเลยค่ะ” มินตราพูดแล้วก็รีบปิดเครื่อง เพราะไม่เคยติดเทคโนโลยีอย่างคนสมัยนี้

“มีอะไรเหรอ” คิลเลี่ยนถามและเงยหน้าขึ้นมอง

“ก็เข้าไปขอบคุณที่หน้าเพจค่ะ แล้วเขาก็ถามอะไรไม่รู้มาเต็มไปหมดเลย มินต์ไม่ค่อยได้เล่นอ่านไม่ทันค่ะ ตอบก็ไม่ทัน แล้วมีคนขอแอดเพื่อนเข้ามาเต็มเลยค่ะ มีคนถามว่ามีทวิตเตอร์ไหม มินต์ไม่มีหรอกค่ะ ไม่ค่อยได้ใช้” มินตราบอกตามตรง แต่ไม่หนักใจ เพราะเป็นคนทำงานและไม่เหงาขนาดต้องติดเทคโนโลยี ยิ่งตอนนี้มีเขาแล้ว เธอยิ่งไม่เหงา

“ต่อไปต้องมีทุกอย่าง เอามาเถอะ เดี๋ยวพี่จัดการให้ ไม่ต้องกังวล” คิลเลี่ยนบอกให้เธอส่งมา แล้วก็สมัครอีกหลายอย่างให้เธอ เพื่อโปรโมทเธอไปด้วย

“พี่นี่เก่งนะคะ นึกว่าไม่มีเวลาเล่นซะอีก” มินตราชมเขา เพราะเธอทำแต่งานเรื่องสังคมออนไลน์พวกนี้ เธอไม่ถนัดเอาเสียเลย เพราะทำงานนอกคอมพิวเตอร์ ถ้าทำงานก็ไม่ค่อยอยากออนไลน์อะไรเพราะเสียเวลาทำงาน

“ถ้ามีเงินมากกว่านี้ พี่จะไปจ้างคนมาคอยตอบให้นะ” คิลเลี่ยนบอกแล้วปิดคอมพิวเตอร์ ก่อนจะขึ้นเตียงเพื่อนอนพัก ดึงเธอมากอดให้อ้อมแขนมีแต่ความอบอุ่น

มินตรามองเพดานแล้วก็หัวเราะ “มานอนห้องนี้ทีไรไม่ค่อยชิน เห็นดาวเรืองแสงอยู่อย่างนี้นะคะ นึกไม่ออกเลยจริงๆ ว่าสมัยพี่มาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ พี่อายุเท่าไร”

“แม่พี่เขาลืมไปว่าลูกชายเข้าวัยรุ่นแล้วน่ะ แต่ไม่อึดอัดหรอก เพราะไมเคิลเป็นคนดี เขาพยายามเข้ากับพี่แต่ไม่มากเกินไป แล้วเขาก็พูดกับพี่แบบผู้ใหญ่ เพราะเขาสังเกตเห็นน่ะ” คิลเลี่ยนบอกตามตรง นึกถึงเปียโนที่ตั้งอยู่ในห้องรับแขกแล้วก็ยังไม่ลืมถึงความพยายามเอาใจของไมเคิล

“ตอนพี่ย้ายมาอยู่ที่นี่ พี่ก็มีน้องแล้วสิคะ” มินตราถามขึ้นเพราะลอรี่อายุสิบแปดเอง ส่วนโจอายุสิบห้า

“มีลอรี่แหละ แล้วโจอยู่ในท้องแม่น่ะ” คิลเลี่ยนโอบกอดเธอไว้ แล้วโล่งใจ แต่พยายามไม่รื้อความหลังอีก เพราะตอนนี้เขามีความสุขดีอยู่แล้ว จึงเปลี่ยนเรื่องคุย “พี่ว่าจะรับงานให้เธออีก เพราะอีกเดือนเดียวเธอก็ไม่ต้องทำงานประจำแล้วสินะ”

“ใช่ค่ะ ปีที่แล้วได้งานโฆษณาตั้งสองงาน ปีก่อนหน้านั้นก็สามงาน ปีนี้จะมีไหมนะ” มินตราถามตัวเองอย่างไม่จริงจังนัก เธอก็ไปของเธฮเรื่อยๆ ตอนนี้เรียกว่ามีเงินเก็บในระดับหนึ่ง

“คนอื่นเขาเรียกว่างานน้อยนะเนี่ย แต่ก็นะมีงานประจำก็ทำงานพวกนี้ไม่ได้มาก” คิลเลี่ยนมองหน้าเธอภายใต้แสงไฟสลัวในห้องนอนเก่าของเขา นึกอยากครอบครองให้สมบูรณ์แต่ก็อยากให้เป็นโอกาสพิเศษมากกว่าเผลอไผลชั่วครู่

“ไม่เป็นไรค่ะ มีกำลังทำเท่าไรก็ทำไปค่ะ ต่อไปรับงานได้เยอะ ไม่ต้องเกรงใจคุณบราวน์อีก มินต์ได้รับติดต่อจากบริษัทเครื่องเพชรยักษ์ใหญ่ เขาจ้างมินต์ตั้งสองหมื่นยูโรให้ออกแบบคลอเล็คชั่นให้ มินต์บอกเขาว่า ต้องรอให้มินต์ออกจากร้านคุณบราวน์ก่อน ไม่อย่างนั้นทุกอย่างที่มินต์ออกแบบจะเป็นของเขาหมด แปลกนะคะ เขาถือสัญญารอมินต์เลยค่ะ ไม่น่าเชื่อนะคะ” มินตราเล่าความแล้วก็ฟังเขาหัวเราะ

“มีความสุขมากๆ นะเนี่ย เล่าเสียหลายรอบ” คิลเลี่ยนส่ายหน้าช้าๆ มองเธออย่างเอ็นดู ดูเหมือนหนทางของภรรยาสาวยังไปได้อีกไกลโข

“ก็นะคะ เฮ้อ ถ้าคุณคริสต์เขาไม่บ้าอำนาจ มินต์ก็คงไม่ต้องลำบากอย่างนี้ ตอนแรกนึกว่าจะลำบาก เพราะหางานทำไม่ได้อีกค่ะ” มินตราพูดอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว นึกกลัวอยู่มาก

“เพชรอย่างมินต์อยู่ที่ไหนก็เฉิดฉายได้” คิลเลี่ยนมองเธออย่างเข้าใจและภูมิใจที่มีเพชรงามอย่างเธอออยู่ในอ้อมแขน

“มินต์น่ะ ไม่คิดมากหรอกค่ะ แค่อยากมีความสุขกับคนที่รักก็พอ” มินตราซบหน้าที่อกเขา มีความสุขกับสิ่งที่มี โดยไม่หวังมาก

คิลเลี่ยนไม่ตอบคำ กอดเธอแล้วหลับตาลง เพชรของเขาเลอค่าในแบบของเธอ อนาคตยังอีกไกล และเธอยังคงพอใจในที่เล็กๆ ของเธอ อ้อมแขนแคบๆ ของเขาก็เติมเต็มความรักด้วยเพชรงามอย่างมินตรา

**********************************

เมื่อถึงสนามบิน มินตราก็เจอกับกลุ่มแฟนคลับที่มารอต้อนรับ ทำให้นักข่าวต่างก็ขมวดคิ้วไม่รู้ว่าแฟนคลับกลุ่มนี้มารอรับใครแน่ จนกระทั่งเห็นป้ายไฟสีต่างๆ แสดงชื่อของ Mintra แล้วพอมินตรากับคิลเลี่ยนออกมาก็กรูเข้าไปตะโกนชื่อและต้อนรับเธอ

“สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่มาต้อนรับค่ะ” มินตราทักทายแฟนคลับ รู้ว่าจะมีแฟนคลับมาต้อนรับ ก็ยังคิดว่าสักสิบคน ไม่คิดว่าจะเยอะเป็นร้อยแบบนี้

“พี่มินต์” ที่เหลือก็เรียกชื่อเธอเป็นภาษาไทยตะโกนดังลั่น ดีที่เป็นวันเสาร์ เธอจึงไม่ต้องห่วงกลัวว่าจะโดดเรียนมากัน และไม่คิดว่าจะมีวัยรุ่นปลื้มเธอมากอย่างนี้

นักข่าวที่มารอดาราสาวอีกคน เพราะข่าวแย่งชิงหนุ่มใหญ่ไฮโซกับดาราสาวอีกคน เห็นว่าเครื่องของดาราคนนั้นยังไม่ลง จึงเดินเข้าไปถามแฟนคลับกลุ่มนั้น “น้องๆ มาต้อนรับใครเหรอ”

“มินตรา พี่มินต์ค่ะ อืม คนที่แสดงโฆษณาให้เครื่องสำอางฮิโรกิไงคะ” แฟนคลับคนหนึ่งตอบแล้วพยายามแทรกเข้าไปหา

“ใจเย็นๆ ค่ะ อย่าเบียดกันค่ะ” มินตรารีบห้ามด้วยความเป็นห่วง กลัวจะมีใครบาดเจ็บ “ระวังหน่อยค่ะ อย่าเบียดกันนะคะ ได้โปรดค่ะ”

“พี่เซ็นลายเซ็นให้หนูนะคะ” แฟนคลับคนหนึ่งเอาภาพเธอที่พิมพ์ออกมาเองให้ดาราสาว

“ได้ค่ะ แต่ต้องรับปากว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นนะคะ” มินตราเอาปากกามาเซ็นให้แฟนคลับทีละคน แล้วหาช่องหลีกไม่ให้รบกวนคนอื่น

คิลเลี่ยนช่วยเธอลากกระเป๋า ครั้งนี้ก็เอามาคนละใบไม่ได้เอามามาก ค่อยมาหาเอาที่นี่

มินตราปล่อยให้แฟนคลับถ่ายภาพโพสต์บนแฟนเพจของเธอที่เป็นภาษาอังกฤษ ก็ยิ้มให้ถ่ายภาพ แล้วควงแขนคิลเลี่ยนแล้วพากันออกไป ก่อนที่ทางสนามบินจะวุ่นวายไปมากกว่านี้

“พรุ่งนี้พี่มินต์จะไปไหนนะ” แฟนคลับคนหนึ่งถามเพื่อนที่มาด้วยกัน

“คงไม่ไปไหนหรอก ก็เขาไม่มีงานที่เมืองไทยนี่นะ เขามาพักผ่อนนี่เธอ สามีพี่เขาหล่อมากนะเธอ เป็นนักเปียโนด้วย รักกันมากจริงๆ” แฟนคลับอีกคนก็พูดคุยกันเพื่อแลกข่าวสารของดาราคนโปรด

“น้องๆ พอมีรายละเอียดไหม” นักข่าวก็ถามขึ้นทันที เริ่มตามข่าวอย่างงุนงง

“พี่จะไปวุ่นวายกับพี่เขาทำไม พี่เขาน่ารักจะตาย เขาก็ไม่มีงานที่เมืองไทยด้วย ไปกันเถอะ” แฟนคลับของมินตราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

เสื้อของแฟนคลับก็มีสกรีนชื่อแฟนเพจ หาไม่นานก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ทำให้นักข่าวมองกันอย่างแตกตื่น เพราะภาพยนตร์บางเรื่องก็ไม่ได้มาฉายที่เมืองไทย หรือถ้าฉายก็ต้องรอเป็นปี ถึงจะมีในเคบิลทีวีให้ดู

**********************************

คิลเลี่ยนพามินตรามาพักที่โรงแรมหรูสามดาว ซึ่งเขาจองที่พักยาวสิบกว่าวัน เว้นระยะไปบ้างเพราะเขาจะพาภรรยาไปเที่ยวด้วย แล้วต้องกลับอังกฤษ เพราะมินตราต้องเข้าไปถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่ แล้วก็จะต้องไปคุยเรื่องงานภาพยนตร์ที่ฮ่องกงอีก ตอนนี้เขาเข้ามาดูแลคิวงานให้ภรรยาเต็มที่

“ดีใจจังเลยค่ะ” มินตราพูดแล้วก็ถอนหายใจยาว อ่านข้อความที่แฟนๆ พูดถึงเธอในแง่ดี ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เธอก็เป็นปลื้ม

‘มีความสุขที่มีคนรักมากถึงเพียงนี้’ เธอเขียนข้อความใต้ภาพที่มีแฟนคลับนับร้อยมาต้อนรับ

สักพักคนก็เข้ามากดไลค์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วผู้ดูแลแฟนเพจก็แชร์รูปภาพที่หน้าเพจ มีแฟนคลับอีกจำนวนหนึ่งเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาไทยทันที

‘พี่มินต์ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีกค่ะ ใจดีด้วย เป็นห่วงแฟนคลับด้วยค่ะ คนดีๆ ต้องรักมากๆ หนูรักพี่ค่ะ’

มินตราอมยิ้มแล้วก็วางแท็ปเล็ตลง มองเขายิ้มให้แล้วส่ายหน้า เขามองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วก็เห็นเธอยื่นมือมาให้ ก็จับแล้วดึงมานั่งที่ตัก จากนั้นก็กอดเธอแล้วจูบเธอ

“มีคนบอกว่าสามีมินต์น่าจะไปเป็นนักแสดงด้วยนะคะ” มินตราบอกแล้วเอาภาพที่แฟนคลับแอบถ่ายเธอกับสามีมาโพสต์ด้วย เจ้าตัวก็หัวเราะร่วน มีความสุขกับสิ่งเล็กๆ

คิลเลี่ยนหัวเราะขบขัน แล้วเชยคางเธอมาจูบแล้วหยอดคำหวานปนทะลึ่ง “ไม่อยากเป็นนักแสดงแต่อยากเป็นสามีมินต์จริงๆ มากกว่า”

“บ้าน่า ตอนนี้ก็เป็นสามีมินต์ไม่ใช่เหรอคะ” มินตราพูดแล้วก็หัวเราะ ผลักเขาแต่เขากอดไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ จึงโอบรอบคอเขา

“สามีทางพฤตินัยด้วยน่ะ” คิลเลี่ยนพูดแล้วก็เชยคางเธอมาจูบอีกรอบ แล้วก็ต้องขมวดคิ้ว เพราะมีสายเข้า เขาเห็นเบอร์แล้วรู้เลยว่าใคร จึงปล่อยเธอลุกแล้วก็รับสาย “ครับพ่อ”

“แกมาเมืองไทยไม่คิดจะบอกฉันหรือยังไง ฉันต้องรู้จากไอ้โชติว่าแกมาเมืองไทยกับเมีย” สมเจตน์ด่าลูกชายก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นปกติที่เขาคุ้นเคยเสียแล้ว

“อ้าว ก็ผมไม่มีธุระกับพ่อนี่ครับ ผมต้องบอกด้วยเหรอ” คิลเลี่ยนกวนประสาทพ่อเขาอย่างไม่ใส่ใจนัก

“เมียแกเป็นดาราเหรอวะ” สมเจตน์ไม่สนใจที่ลูกชายกวนประสาท ถามเข้าประเด็นทันที สมองเขาไว คิดอะไรเร็วละเอียดและต้องทำ

“ไม่นี่ครับ เขาเป็นนักแสดงสมัครเล่น แต่บังเอิญมีแฟนคลับเท่านั้นเอง” คิลเลี่ยนก็บอกตามตรง ถ้าพ่อถามแบบนี้แปลว่าต้องมีประเด็นอะไรสักอย่าง

“บังเอิญมีแฟนคลับเป็นหมื่นเนี่ยนะ” สมเจตน์ดูแฟนเพจของมินตราอยู่ ทำให้รู้ว่ามินตราไม่แค่มีแฟนคลับหลักหมื่น ท่าทางจะทะลุครึ่งแสนไม่นาน

“มินต์เขาสวย เขาเก่ง มีความสามารถ เขาก็ต้องมีคนรักสิครับ พ่อโทรมาเรื่องนี้เหรอครับ” คิลเลี่ยนถามกลับเพราะไม่อยากตอบคำถามเรื่องนี้เท่าไร ไม่อยากให้พ่อสนใจมินตราจนเกินไป และเขาไม่อยากเป็นเป้าให้ใครเข้ามาวุ่นวาย

“ดี งั้นให้เมียแกมาเป็นแบบถ่ายภาพให้ดาราประดับ ในเมื่อเป็นลูกสะใภ้ฉัน ก็ต้องช่วยฉันสิ” สมเจตน์บอกความต้องการทันที ทำให้โชติที่อยู่ด้วยมองพ่อแล้วขมวดคิ้ว

“ไม่ดีหรอกครับ ผมไม่อยากให้มินต์ถูกตบอีก” คิลเลี่ยนปฏิเสธพ่อทันที นึกแล้วเชียวว่าพ่อโทรมาต้องมีอะไร

“แกไม่คิดจะชดใช้ค่าเสียหายให้ฉันจากเรื่องที่แกก่อหรือไง คิดว่าฉันจะให้มาถ่ายอย่างเดียวหรือไง ฉันจะจ่ายเงินให้เมียแกด้วยพอใจหรือยัง สองแสน ทำงานแค่วันเดียว แกจะว่ายังไง” สมเจตน์บอกลูกชายทันที

“ผมถามมินต์ก่อน ผมกับมินต์มาเมืองไทยแค่สองอาทิตย์เท่านั้น เพราะมินต์ต้องกลับไปถ่ายหนังที่อังกฤษ แล้วก็ไปคุยเรื่องรายละเอียดหนังที่ฮ่องกงอีก” คิลเลี่ยนต้องบอกอย่างเสียไม่ได้ เพราะตารางของภรรยาเขาเป็นคนดูแลอยู่

“วันเดียว แกก็เลือกมาสักวันในสองอาทิตย์นี้เถอะน่า ตกลงแกต้องรับงานให้เมียแก แค่นี้นะ ฉันจะให้คนโทรไปนัดแก แล้วหาเบอร์ที่เมืองไทยไว้ด้วย มันเปลือง” สมเจตน์ตัดบทอย่างมัดมือชก ก่อนมองเจ้าลูกชายคนเล็กที่มึนงง “มาทำหน้าโง่ใส่ฉันทำไมอีก ไปเรียกฝ่ายประชาสัมพันธ์มาให้ฉันสิวะ โปรเจคนี้ฉันดูแลเอง แล้วแกก็ไม่ต้องไปวุ่นวายกับแฟนเก่าแกด้วย ฉันไม่อยากให้งานนี้พลาดอีก”

โชติได้แต่รับคำ แล้วไปเรียกคนที่พ่อต้องการมาให้ เพียงแต่ตอนนี้ต้องวุ่นวาย เพราะคิวทองของมินตราครั้งนี้กระชั้นชิดมาก และต้องไม่มีอะไรผิดพลาด โชติออกจะหงุดหงิดที่ผิดคาด อยู่ๆ พ่อก็จะจับมินตรามาประชาสัมพันธ์ให้ ทำให้คิลเลี่ยนดูสำคัญมากขึ้น

**********************************

คิลเลี่ยนวางสายจากพ่อแล้วหงุดหงิด ก่อนมองภรรยาสาวเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เพื่อเตรียมไปทานมื้อเที่ยงที่ผ่านมานานพอสมควรแล้ว เขาก็บอกเธอตามตรงอย่างรำคาญเผด็จการของพ่อ

“พ่อโทรมาบีบคอจะให้มินต์ไปถ่ายภาพนิ่งเป็นแบบให้เขา” คิลเลี่ยนบอกเธออย่างหงุดหงิด

“โทรมาบีบคอเหรอคะ” มินตราถามย้ำ ขมวดคิ้วมองอย่างแปลกใจ

“ใช่ ไม่ให้พี่ปฏิเสธซ้ำเลยแหละ พี่ปฏิเสธไปแล้ว แต่ไม่ฟังอะไรเลย” คิลเลี่ยนกระแทกลมหายใจอย่างแรง

มินตราเข้ามาแล้วลูบแขนให้เขาใจเย็นลง “ไม่เป็นไรค่ะ ถ่ายก็ได้ค่ะ มินต์ไม่อยากให้พี่อารมณ์เสียเลยค่ะ”

“อารมณ์บูดอย่างแรงแล้ว” คิลเลี่ยนถอนหายใจยาว แล้วก็อ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าเป็นห่วงของภรรยาสาว

“พี่ก็เลือกวันให้เขา นี่ต้องถ่ายกี่วันคะ” มินตราถามให้แน่ใจอีกครั้ง ไม่อยากให้เขาคิดมาก

“วันเดียว พี่บอกไปแล้วว่ามินต์งานยุ่ง” คิลเลี่ยนเข้ามาดูแลงานให้ภรรยา ก็อธิบายแล้วว่าตารางเริ่มแน่นขึ้น แต่พ่อเขาเอาแต่ใจและหัวดื้อ ถ้าไม่ได้อย่างใจต้องการต้องมีปัญหาแน่นอน

“ไม่เป็นไรค่ะ ไว้เรากลับจากเที่ยวเชียงใหม่ค่อยไปถ่ายก็ได้นะคะ” มินตราบอกให้เขาสบายใจ เพราะเขาหงุดหงิดเรื่องพ่อเขาเสมอ

คิลเลี่ยนมองภรรยาที่เข้ามาเอาใจก็ยิ้ม “พรุ่งนี้เราไปดูบ้านกันนะ เอารอบนอกหน่อยแล้วกัน จะได้ถูกหน่อย”

“มินต์กำลังคิดว่า ถ้ายังไงไม่เจอที่ถูกใจ เราไปดูที่เชียงใหม่ดีไหมคะ อากาศเย็นด้วย พี่จะได้คุ้นเคยง่ายๆ” มินตราไม่ติดเรื่องต้องอยู่ที่ไหน ขอแค่ได้พักจากงานที่ทำ ได้อยู่บ้านของตัวเองก็พอ

“ตามใจภรรยาสาวคนสวยของพี่เลย” คิลเลี่ยนดึงเธอมาหอมแก้ม ก่อนจะถอดเสื้อออกแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อแขนสั้นใส่สบาย จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นกางเกงขาสามส่วนสุภาพ แล้วพากันออกไปหาอะไรอร่อยๆ ทาน

มินตราก็แต่งตัวสบายๆ กางเกงผ้าขาสั้นขาบาน แต่ก็ระมัดระวังใส่กางเกงรัดรูปไว้อีกชั้น กลัวจะดูไม่ดี เพราะถึงยังไงเธอก็ยังเป็นคนไทย จะให้โป๊ยังไงก็แค่ในหนัง ไม่ใช่ในชีวิตจริง

**********************************

ภาพข่าวมินตรามีแฟนคลับมารอรับที่สนามบินเป็นเรื่องประหลาดใจในวงการบันเทิง และมีคนติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊คขอสัมภาษณ์เธอ แต่เธอก็ไม่ตอบกลับในทันที กลับหันไปมองคิลเลี่ยนที่กำลังอ่านข้อความในคอมพิวเตอร์ของเขา

“พี่ว่ายังไง” มินตราอยากได้คำตอบจากเขาก่อน เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็ปรึกษาเขาก่อนทั้งนั้น เมื่อมีหลักให้กับชีวิต เธอจึงให้ความสำคัญกับเขามากๆ

“มินต์ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปหรอก พี่ว่ามินต์มาพักผ่อนก็ควรพักผ่อนให้มากๆ” คิลเลี่ยนไม่อยากให้เธอทำงานหนักกว่าที่เคย เพราะเธอยังมีงานออกแบบเครื่องประดับอีก

“ถ้ามินต์ปฏิเสธ เขาจะว่ามินต์หยิ่งไหมคะ” มินตราก็เกรงใจคนอื่น ไม่อยากให้ใครมาว่าเธอเป็นดาราหยิ่ง

“มินต์ มินต์จะเกรงใจทุกคนไม่ได้หรอกนะ มินต์จะต้องดูความเหมาะสม เอางี้แล้วกัน พี่ว่าจัดแถลงข่าวไปเลยหมดเรื่อง ใครอยากถามอะไรจะได้ถามมาทีเดียว” คิลเลี่ยนคิดออกก็สงสาร ถ้าจะนัดคนละที่คนละทางเดี๋ยวก็ต้องวุ่นวายตอบคำถามซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ

มินตราพยักหน้าช้าๆ “จริงสิคะ มินต์ก็ไม่อยากตอบคำถามซ้ำๆ ด้วย เอาอย่างนี้แหละค่ะ อาจจะไม่มีนักข่าวมาเท่าไรเนอะ ที่ไหนดีคะ”

คิลเลี่ยนก็ไม่รู้เหมือนกัน จึงโทรถามที่โรงแรม ทางโรงแรมก็จัดให้ได้ เขาจึงจัดการนัดแนะกับโรงแรม แล้วให้มินตราประกาศหน้าไทม์ไลน์ของตัวเอง ให้นักข่าวไทยรับทราบ

ผ่านไปสักชั่วโมง คิลเลี่ยนก็ต้องรับโทรศัพท์อีก “อะไรอีกครับ พ่อ”

“แกจะจัดแถลงข่าวทำไมไม่บอกฉัน นี่ฉันต้องรู้ทุกอย่างผ่านเฟซบุ๊คหรือยังไง” สมเจตน์กระแทกลมหายใจใส่ลูกชาย หงุดหงิดที่อยากทำอะไรก็ทำไม่ปรึกษาเขาเสียก่อน

“อ้าว ก็มีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์มินต์อยู่ห้าราย ผมขี้เกียจให้มินต์ตอบคนละทีสองที ก็จัดไปเลย นัดนักข่าวไปเลย แค่หาห้องแล้วก็แค่ชั่วโมงสองชั่วโมงเองครับ” คิลเลี่ยนตอบอย่างเรียบง่าย

“ไม่ได้ๆ แกต้องเอารายละเอียดมาให้พีอาร์ของฉัน จะได้โปรโมทดาราประดับไปด้วย” สมเจตน์กวักมือเรียกกระดาษปากกาจากผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่รับเรื่อง

“อะไรของพ่อน่ะ ไม่ต้องเลยนะครับ พวกผมออกค่าใช้จ่ายเอง ทำไมต้องเกี่ยวกับพ่อด้วย อย่ามายุ่งเรื่องของพวกผม รายละเอียดอะไรก็อยู่หน้าไทม์ไลน์ของมินต์แล้ว ถ้าพ่อจะโปรโมทอะไรของดาราประดับ พ่อก็ต้องทำเอง” คิลเลี่ยนรำคาญพ่ออยู่มาก ที่เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตครอบครัวเขา

“แกอย่าบังอาจพูดกับฉันอย่างนี้ เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง ค่าใช้จ่ายเท่าไรฉันจะจัดการให้ แล้วจะมีจัดแถลงข่าวจากทางฉันอีกแน่ ฉันจะจ่ายให้เมียแกอีกแสนพอใจไหม” สมเจตน์ก็หงุดหงิดที่ลูกชายดูจะไม่อยากยุ่งกับเขาเท่าไรนัก

“มันไม่ใช่เรื่องเงิน มันเรื่องความเหมาะสม พ่อจะเข้ามาก็ได้ แต่ขอร้องอย่าโปรโมทดาราประดับตอนนี้ ไว้พ่อจะจัดแถลงข่าวอีกทีเมื่อไร ก็ค่อยว่ากัน ผมจะพามินต์มาถ้าตารางงานมันอำนวย” คิลเลี่ยนต้องลดราวาศอกให้พ่อ แล้วแอบถอนหายใจยาว

ดีเท่าไรที่สามปีมานี้พ่อไม่ยุ่งกับเขา หากหลังจากนี้เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

สมเจตน์ครุ่นคิดแล้วก็รับปากลูกชาย เขาไม่คิดจะเอาการแถลงข่าวเล็กๆ มาเป็นเรื่องใหญ่ เขาแค่ต้องการดูแลข่าวของมินตราที่จะมาเป็นภาพลักษณ์ให้ดาราประดับเท่านั้น วันนั้นเขาจะส่งประชาสัมพันธ์ไปดูว่าคิลเลี่ยนกับมินตราจะพูดยังไงก็เท่านั้นเอง

คิลเลี่ยนโพสต์เชิญนักข่าวและแฟนคลับที่มีเวลามาทักทายกันเล็กๆ น้อยๆ เขาเตรียมอาหารว่างไว้ในวันนั้นด้วยเพื่อเป็นน้ำใจ ไม่คิดว่าจะมีคนมามาก เขาจึงไม่ได้คิดเตรียมของที่ระลึก พวกแฟนคลับก็ถาม เขาก็ตอบไปตามตรงว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีการเตรียมการมาก่อน จึงเตรียมของที่ระลึกไม่ทัน

แฟนคลับทั้งหลายก็ช่วยกันแสดงความคิดเห็น เสนอความคิดกลับมาให้ คิลเลี่ยนก็ตอบกลับแทนมินตราที่นั่งมองอยู่ข้างๆ ต่างก็ยิ้มให้กัน เพราะไม่คิดว่าที่เมืองไทยจะมีการตอบรับดีอย่างนี้

**********************************

เมื่อถึงวันแถลงข่าว มินตรายังคงนั่งร่างแบบในคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีการต่อสายเข้าอินเตอร์เนต เป็นข้อตกลงกับคู่สัญญาว่าคอมพิวเตอร์ที่เธอใช้จะต้องปลอดภัย เธอจึงใช้อินเตอร์เนตจากเครื่องอื่นแทน แต่มินตราก็แต่งตัวพร้อมแล้ว ตามที่คิลเลี่ยนบอก ดีที่จัดชุดมาไว้พอสมควร และก็ตั้งใจจะซื้อเพิ่มถ้าได้บ้านที่ถูกใจ

“เป็นไง งานเรียบร้อยไหม” คิลเลี่ยนถามเมื่อเธอปิดคอมพิวเตอร์แล้วเอาใส่ในเซฟไว้

“เรียบร้อยแล้วค่ะ การทำงานกับบริษัทใหญ่ๆ นี่น่าปวดหัวนะคะ” มินตราถอนหายใจยาว และบริษัทนั้นจะให้เธอได้ใช้ชื่อตัวเองเป็นชื่อชุดเครื่องเพชรนี้

“มันก็ต้องมีระเบียบสักหน่อย แล้วนี่พร้อมแล้วนะ เห็นว่ามีแฟนคลับมาร่วมลงทะเบียนร้อยกว่าคน” คิลเลี่ยนบอกแล้วก็ปล่อยให้ภรรยาควงแขน

“ห้องเล็กๆ จะได้ไม่แตกค่า เหลือเฟือเลยนะคะ” มินตราแต่งตัวเป็นทางการมากขึ้น แต่ก็แต่งหน้าทำผมเองได้สวยสง่าตามแบบของเธอ

คิลเลี่ยนหัวเราะ เพราะมินตรากะว่ามีคนมาแค่ไม่กี่คน แต่เธอก็ต้องการแค่ห้องเล็กๆ จริงๆ พอลงไปด้านล่างแล้ว ห้องเล็กๆ กลับไม่พอเสียแล้ว เพราะมีคนอออยู่หน้าห้อง มินตรากับคิลเลี่ยนแหวกผู้คนเข้าไปด้านใน เจอกับพ่อเขาพอดี

“พ่อมาด้วยเหรอ” คิลเลี่ยนถามอย่างงุนงง

“มาดูเฉยๆ” สมเจตน์ยอมปลีกเวลามาดูเอง เห็นมีแฟนคลับที่มาเยอะ นักข่าวมีบ้างแต่ประชาสัมพันธ์ของโรงแรมพาไปที่หน้าเวที เพื่อให้สะดวกในการแถลงข่าว

“พี่มินต์” แฟนคลับตะโกนเรียกเธอ แล้วก็ดีใจ เพราะมินตราโบกมือให้ แล้วไปที่หน้าเวที

“ขอโทษนะคะ ตั้งใจว่าจบการสัมภาษณ์แล้วจะเลี้ยงของว่างแฟนคลับน่ะค่ะ” มินตราบอกขอโทษนักข่าวเห็นแสงแฟลชเยอะไปหมด เธอก็งุนงงกว่าเดิม เพราะไม่คุ้นเคย นานๆ ทีเธอถึงไปงานรอบปฐมทัศน์ของหนังที่ตัวเองแสดง จึงไม่ค่อยคุ้นเท่าไร

นักข่าวสัมภาษณ์คร่าวๆ ว่าเธอเข้าวงการได้ยังไง เธอก็เล่าความตามจริง ทำให้ทุกคนรู้ว่าคิลเลี่ยนมีส่วนช่วยเธออยู่มากและพาเธอเข้าวงการหนังของอังกฤษ

“คุณมาพักผ่อนหรือมาเยี่ยมครอบครัว” นักข่าวถามเพราะเธอไม่พูดถึงครอบครัวเท่าไรนัก

“ฉันมาพักผ่อนแล้วก็กลับไปถ่ายหนังที่อังกฤษค่ะ” มินตราตอบคร่าวๆ

“ครอบครัวคุณรู้ไหมว่าคุณเป็นดาราดัง” นักข่าวถามสิ่งที่อยากรู้

“ฉันบอกน้องชายฉันแล้วค่ะ” มินตราตอบตามตรง พยายามตั้งสติ มีสมาธิเสมอ

“แล้วพ่อแม่คุณล่ะ” นักข่าวถามเพราะเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องที่คนไทยให้ความสนใจ

“ท่านทราบแล้วค่ะ แต่ฉันไม่คิดว่าตัวเองเป็นดาราดัง จึงไม่ได้บอกอะไรมาก สำหรับฉัน ฉันก็เป็นเพียงนักแสดงประกอบธรรมดา ไม่ได้เป็นนางเอก บทจะเล็กหรือใหญ่ ถ้าทำด้วยความตั้งใจและทำหน้าที่ส่งความเด่นให้ตัวละครเอกได้ ก็ถือว่าหน้าที่ของฉันสำเร็จแล้วค่ะ” มินตราพูดตรงตามนิสัย เธอซื่อสัตย์ต่อตนเองเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดก็ตาม

แฟนคลับก็ตบมือ เพราะเธอตอบได้ดี แล้วก็ส่งเสียงให้กำลังใจเป็นระยะ

“ครอบครัวมีส่วนสำคัญที่ทำให้คุณได้เป็นนักแสดงที่อังกฤษไหมครับ”

“ถ้าไม่มีครอบครัว ฉันก็คงไม่พยายามจนถึงจุดนี้ แม้จะเป็นจุดเล็กๆ ก้าวเล็กๆ แต่ฉันขอเดินช้าๆ ไปเรื่อยๆ ดีกว่าค่ะ ฉันไม่ชอบก้าวใหญ่ๆ เพราะไม่อยากสะดุดหกล้มปัญหาอะไรค่ะ” มินตราตอบกว้างๆ ไม่อยากดึงปัญหาครอบครัวมาเกี่ยวกับความวุ่นวาย และปัญหาที่เธอยังไม่อยากแก้ก็ยังมีอยู่

“คุณได้ส่งเสียครอบครัวไหมคะ”

“ส่งเสียตามกำลัง เพราะรายได้นักแสดงประกอบไม่มากอย่างที่ใครคิด และฉันก็มีหนี้สินจำนวนมากที่ต้องชดใช้ ตอนนี้ชดใช้หมดแล้วฉันก็คงส่งเสียตามกำลังค่ะ” มินตราบอกกลางๆ ไม่อยากให้ใครเข้ามาละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

“พอจะบอกได้ไหมครับว่าหนังที่ฮ่องกงของคุณจะได้แสดงบทไหน”

มินตราหันไปมองคิลเลี่ยน เพราะคิลเลี่ยนเป็นคนดูแลเรื่องรายละเอียด ก่อนตอบตามที่ตนเองรู้มา “บทที่ได้รับไม่ใช่บทนางเอกแต่เป็นเพื่อนนางเอกและเป็นนางร้ายค่ะ เป็นจิตรกร ยังไม่ได้คุยเรื่องรายละเอียดมากกว่านี้ค่ะ จึงยังเปิดเผยไม่ได้ค่ะ”

“ได้ยินว่าคุณมีงานที่อังกฤษเรื่องต่อไปแล้วเหรอครับ ครั้งนี้แสดงเป็นอะไรครับ”

“เอาเป็นว่าไม่ใช่นางเอกค่ะ แต่เป็นหนังเกี่ยวกับการเต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันถนัดค่ะ และที่สำคัญก็เป็นนางร้ายอีกค่ะ” มินตราบอกได้เท่านี้ เพราะยังเป็นเรื่องความลับทางการค้าอยู่

“สมมติว่ามีค่ายหนังไทยติดต่ออยากให้คุณแสดงหนังให้แล้วให้เป็นนางเอกด้วย คุณจะรับงานไหมคะ”

“ก็ต้องดูว่าฉันสามารถแสดงบทนั้นได้ไหม และตารางงานลงตัวไหม อย่างที่บอกฉันไม่ได้เก่งกาจอะไร แค่พยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ” มินตรายิ้มให้นักข่าวถ่ายภาพ แล้วชูสองนิ้วให้แฟนคลับ

**********************************

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
หวยออกเจ้าค่ะ
555+ เลยมาโพสต์นิยาย อิอิ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

แฟนเพจคือ https://www.facebook.com/plerngwaree
แอดเพื่อนได้ที่ https://www.facebook.com/plerngwareebz


ขอบคุณคอมเม้นจาก
คุณน้องแสตมป์ - พี่เคเขาจีบเรื่อยๆ ค่ะ จีบตลอดชีวิตเลยค่า
คุณใบบัวน่ารัก - ค่อยๆ สร้าง ค่อยๆ สะสมความรักไปเรื่อยๆ ค่ะ
พี่ตุ้งแช่ - 555+ ให้จิ้นเพราะสงสารหรอกค่ะ 555+
คุณจ๊ะจ๋า - เป็นนางร้ายตามชื่อเรื่องค่ะ แต่เป็นในบทบาทการแสดงนะคะ
คุณkonhin - เป็นแล้วค่ะ ตอนแสดงหนังอิอิ พี่เคพูดจริงทำจริงค่ะ ^^ ไม่ต้องกังวลนะคะ // ขอบคุณค่ะ สำหรับกำลังใจค่า
คุณนักอ่านเหนียวแน่นหนึบ - ไม่ซาดิสต์หรอกค่ะ // ไม่นอยค่า

คุณนอนดูดาว - มีคนซื้อให้อยู่ค่า ^^

คุณพี่หมูน้อย - คริสเป็นเพียงตัวประกอบค่า ^^
คุณดอกฝิ่น - มาเสริฟแล้วค่ะ

ป.ล. ขอความร่วมมือ "งด" ช็อป e-Book จากทาง Ookbee นะคะ
เนื่องจากยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมยอดดาวโหลดกับยอดที่เขาให้ไปวางบิลไม่ตรงกันค่ะ
ยังไม่ได้ถามไป แต่มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นนะคะ
เมื่อสงสัยขอหยุดการซื้อจากทางนั้นนะคะ
ขอบพระคุณที่เข้าใจค่ะ

**********************************
eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก

2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว

3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว

4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก

5. ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา (129บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNjMzOCI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/16015/ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา/



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.พ. 2557, 15:49:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.พ. 2557, 15:49:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 2315





<< Crying Villain ตอนที่ 5   Crying Villain ตอนที่ 7 >>
ร้อยวจี 16 ก.พ. 2557, 17:03:42 น.
ตอนแรกอ่านตอนที่ 5 รู้สึกน่าสนใจมาก เลยกลับไปอ่านตั้งแต่บทแรก สนุกดีค่ะ น่าติดตามมาก รอตอนต่อไปค่ะ คิดถึงอันธอนกับฝ้ายมากค่ะ


ใบบัวน่ารัก 16 ก.พ. 2557, 17:07:29 น.
กลายเป็นดาราดังแล้ว
จะมีใครมารีดไถบ้างไหม
สู้ๆๆนะป้าเพลิง อย่าให้ญาติพี่น้องหรือพ่อผัว
มารีดไถจนเดือดร้อนนะ


konhin 17 ก.พ. 2557, 01:00:14 น.
โห พอดังก็มีแต่คนเข้ามาหาผลประโยชน์


คิมหันตุ์ 18 ก.พ. 2557, 00:42:15 น.
ว๊าว ...เริ่มมีชื่อแล้ว..แต่ สามีกำมะลอที่รักยังไม่ไปถึงไหนเลยน้าาาาาาาา อิอิ แต่ช่วงนี้มีน้องไม่ได้อยู่ดีเพราะกำลังมีงานแสดง เศร้านิดเลยนะคะ


icevy20 24 ก.พ. 2557, 18:26:06 น.
นางเอกน่ารักจัง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account