กลรักนฤมิต (ชุดหน่วยซีล)
มือสไนเปอร์หนุ่มพูดน้อย แห่งหน่วยเรดทีมจู่โจม SEAL team six
ด้วยอาชีพการทำงานทำให้เขาไม่ได้เอาใจใส่พี่สาว ซึ่งเป็นคนในครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของเขา
หลังจากได้รับอุบัติเหตุแขนหักจนต้องพักงานยาว เขาจึงเดินทางกลับมาที่บ้านอีกครั้ง
ณ ที่แห่งนี้เองที่ทำให้ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนไป
พี่สาวคนเดียวเสียชีวิตไปอย่างปริศนา
โค้ดลับแปลกๆ เกี่ยวกับชื่อของเทพเจ้ากรีก

คนเดียวที่จะช่วยไขปริศนานี้ได้คือหญิงสาวคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของเขา
ยายสาวแว่นตัวเล็กแต่งตัวเรียบร้อยประหนึ่งแม่ชีในโบสถ์ แต่กลับมาเขย่าหัวใจของเขาได้เพียงแค่สบตากัน
'ไอ้โจรข่มขืน' กับ 'ยายแว่นจอมเฉิ่ม'
จากคู่กัดกลายเป็นคู่รักที่ไม่น่าเป็นไปได้
เธอเข้ามาเพียงเพราะสมุดจดบันทึกแล็บของพ่อเธอ และสมุดแล็บของพี่สาวเขา จะนำไปสู่การไขปริศนาลับอันตราย

การทดลองทางพฤษศาสตร์ที่ใช้ชื่อว่า Pearly คือทางเดียวที่จะบอกได้ว่าคนพวกนี้ต้องการอะไร

ณ ห้องแล็บเล็กๆ กลางป่าแห่งนี้เปลี่ยนหัวใจที่เคยด้านชาให้มีชีวิตชีวา รู้จักคำว่ารักที่แท้จริง
เช่นเดียวกับอันตรายต่างๆ นานาและความเจ็บปวดมหาศาลที่จะตามเข้ามา
โดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่นิดเดียว
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 4 ผู้หญิงปริศนา 1 + เกมแจกรางวัลค่า



บทที่ 4 ผู้หญิงปริศนา




สองน้าหลานก็ยังใช้ชีวิตกันตามปกติ ทุกเช้าเจ.ที.จะเป็นคนนำลินคอนออกกำลังกาย หลังจากนั้นก็ออกไปส่งหลานชายที่โรงเรียนมัธยมในตัวเมือง กิจวัตรประจำวันเป็นไปนี้ซ้ำๆ เดิมๆ เหมือนกันทุกวัน


ตอนนี้เขาสามารถทำทุกอย่างได้เป็นปกติแล้ว ไม่ว่าจะขับรถ ทำงานบ้าน รวมถึงเข้าไปดูแลคนงานในไร่ของพี่สาวด้วย แม้ว่าจะยังใส่เฝือกอยู่ แต่มันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของเขาไปแล้ว เพราะในเมื่อยังเอาออกไม่ได้ ก็ต้องใช้ชีวิตกับมันไปจนกว่าจะหายดี อย่างวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากที่ไปส่งลินคอนแล้ว เจ.ที. ก็กลับมานอนที่บ้านต่อเพราะเหนื่อยกับงานมาตั้งแต่เช้า กว่าจะตัดสินใจลุกก็เป็นเวลาใกล้เที่ยง เขาเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างคนที่ยังไม่ตื่นเต็มสองตาดี ร่างสูงใหญ่ปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากร่างจนหมดแล้วก้าวเข้าไปในห้องน้ำ แต่ก็ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร เสียงกริ่งที่ดังขึ้นจากหน้าประตูเสียก่อน


นายทหารเรือหนุ่มนิ่ง ไม่สนใจคนกดกริ่งที่หน้าประตูบ้าน ตั้งใจจะอาบน้ำต่อ แต่ก็ต้องชะงักเพราะเสียงกริ่มที่หน้าบ้านยังดังต่อเนื่องอย่างเสียมารยาท


เจ.ที.ย่นหัวคิ้วแล้วสบถอย่างนึกอารมณ์เสีย แต่ก็คว้าผ้าขนหนูผืนใหญ่มาพันท่อนล่างของตนเองแล้วเดินออกไปด้วยอารมณ์กรุ่นๆ ที่ถูกขัดจังหวะ เขาสาวเท้าเร็วๆ แล้วกระชากประตูเปิดทันทีชนิดที่ไม่ต้องมองผ่านช่องตาแมวเลยว่าผู้มาเยือนเป็นใคร สิ่งที่อยากทำมากที่สุดก็คือการไล่คนๆ นั้นให้พ้นไปเสียมากกว่า บ้านของเขาไม่ใช่บ้านคนร่ำรวยมีหน้ามีตาในเมื่องเสียเมื่อไหร่ เลิกคิดเรื่องจะมีคนมาติดต่องานได้เลย ถ้าจะมี...ก็คงเป็นพวกเซลล์ขายของเสียมากกว่า คิดแล้วก็น่าโมโหคนพวกนี้เสียจริง ชายหนุ่มจึงประชากประตูเปิดเต็มแรงด้วยอารมณ์กึ่งโมโหกึ่งรำคาญ


“สวัสดีค่ะ ฉัน...”


“ผมไม่สนใจคัมภีร์ไบเบิ้ลหรอกครับแม่ชี!” หนุ่มเจ้าของบ้านตวาดลั่น แล้วก็ปิดประตูโครมลงทันที โดยไม่สนใจเลยสักนิดว่า ‘แม่ชี’ กำลังอ้าปากค้าง ตาโตเท่าไข่ห่านอยู่ที่หน้าประตู เขารู้ว่าเธอกำลังจะค้านแต่เขาก็ไม่สน คนกำลังเบื่อๆ อยากอาบน้ำให้สบายตัวเสียหน่อย กลับมีแม่ชีที่ไหนก็ไม่รู้มาขายไบเบิ้ลให้เสียได้


ชายหนุ่มร่างสูงได้แต่ถอนหายใจหงุดหงิด กำลังจะกลับเข้าห้องน้ำไป แต่แล้วแม่ชีคนเดิมก็กดกริ่งซ้ำๆ อย่างเสียมารยาท จนเจ.ที. ทนไม่ไหว เขาเดินไปกระชากประตูให้เปิดออกด้วยสีหน้าถมึงทึงเหมือนเดิม

“บอกว่าไม่เอาไง!”

“นี่ฉันไม่ใช่แม่ชีนะ” สาวเฉิ่มแว่นหนาทำหน้าบึ้ง เจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจเมื่อถูกผู้ชายไร้มารยาททักว่าเป็นแม่ชี ดูเอาเถอะ เธอไม่ได้สวมผ้าคลุมผมเสียหน่อย แล้วหน้าตาเธอเหมือนแม่ชีมาขายไบเบิ้ลขนาดนั้นเลยหรือไง คนอะไรตาต่ำชะมัด


มธุรดาเป็นฝ่ายหัวเสียบ้าง เธอหนีพวกคนน่ากลัวที่มาบุรุกและพยายามจะเอาสมุดบันทึกแล็บของพ่อเธอไป ต้องเดินทางมาไกลถึงแคนซัสเพราะต้องการตามหาเบาะแสคนสนิทของพ่อ เพื่อจะได้รู้ว่าพ่อของเธอมีความลับอะไรถึงมีคนมาขุดคุ้ยการทำงานทั้งที่พ่อก็เสียชีวิตไปแล้ว แทนที่จะได้เจอคนที่เป็นคำตอบให้เธอได้ แต่กลับเจอคนบ้าป่าเถื่อนที่ไหนก็ไม่รู้เสียแทน


สาวแว่นหนามองผู้ชายตรงหน้าด้วยแววตาแสดงถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน คนอะไรหน้าตาก็เหมือนโจรแถมนิสัยยังสุดแสนจะร้ายกาจอีก เขาเป็นสามีของเจสสิก้าหรือเปล่านะ สมองก็คิดไป ทว่าสายตาเจ้ากรรมกลับหลุบต่ำจนมองเห็นว่าท่อนล่างของเขาไม่ใช่กางเกงอย่างที่เข้าใจ แต่ผู้ชายคนนี้มีเพียงแค่ผ้าขนหนูพันร่างไว้เท่านั้น!


‘โอ้โห!’

นักศึกษาแพทย์สาวอุทานในใจ ถึงแม้ว่ายุคนี้สมัยนี้ผู้ชายหล่อล่ำซิกซ์แพกเป็นลอนอย่างเขาควรจะต้องเป็นอาหารตาให้สาวหื่นหลบในอย่างเธอก็เถอะ แต่เธอไม่ได้เตรียมใจว่าจะเจออะไรแบบนี้นี่ และเขาก็ช่างไม่มีมารยาทเอาเสียเลย ออกมารับแขกด้วยสภาพแบบนี้ได้อย่างไรกัน เธอคิด แต่ดวงหน้ากลับค่อยๆ ซับสีเลือดอย่างช้าๆ สาวแว่นหน้ากลมเริ่มหันรีหันขวาง มือสั่นใจสั่น ทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาทันที เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ได้เห็นผู้ชายตัวเป็นๆ เกือบเปลือยแบบต่อหน้าต่อตา ระยะประชิดเช่นนี้ยิ่งไม่เคยเข้าไปใหญ่ แค่เห็นอกเปลือยบึกบึน มีรอยสักประณีตสวยงามชวนให้คนมองใจหวิวอยู่ที่หัวไหล่ด้านซ้ายและสีข้างด้านขวา แข้งขาก็พาลหมดแรงแทบทรงตัวไม่อยู่ทันที


ก็แหม...คนอะไรหุ่นดีเป็นบ้า


“ว่าไงล่ะแม่ชี มีอะไรก็ว่ามา” เสียงตวาดของผู้ชายตรงหน้าทำให้ความฝันพลันสลายลงทันควัน หมดอารมณ์จะชื่นชมหุ่นของเขาทันที


“ฉันไม่ใช่แม่ชีนะ” สาวแว่นหนาแหว


คำพูดของยายชีเฉิ่มทำให้เจ้าของบ้านเลิกคิ้ว แล้วกวาดตาจากศีรษะจรดปลายเท้าของสาวตรงหน้าอีกครั้ง พลันจุดสีแดงก็กระจายเต็มแก้มป่องๆ ของมธุรดาทันทีที่เห็นสายตาโลมเลียจากอีกฝ่าย


“มองอะไรน่ะ” คนถูกลวนลามด้วยสายตารีบยกมือขึ้นปิดอกทันควัน ทั้งที่เสื้อผ้าของตัวเองก็มิดชิดพออยู่แล้ว ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ยามที่ถูกสายตาคมๆ ลองอย่างพินิจพิจารณา มันก็ไม่ต่างอะไรจากยืนเปลือยต่อหน้าเขาจริงๆ


“ก็ไม่ได้อยากจะมองหรอก” แล้วคนหน้าโหดไร้มารยาทก็ปิดประตูใส่หน้าเสียงดังโครม ทำเอามธุรดาอยากจะกรี๊ดแต่ก็ไม่กล้าพอเพราะเกรงสายตาดุๆ กับใบหน้ารกเคราของอีกฝ่าย สุดท้ายก็ต้องแต่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมความกล้าเสียใหม่ สาวแก่เรียนขยับแว่นตาบนดั้งจมูกสวยแล้วเชิดหน้าตามประสาคนเก่งแต่ลับหลัง ก่อนจะกระหน่ำรัวกดกริ่งที่หน้าประตูเขาซ้ำๆ หลายครั้งติด


“โว้ย! จะกดอะไรนักหนาวะ!”

มธุรดาถึงกับสะดุ้ง ไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะโวยวายออกมาได้ ในเมื่อหน้าตาก็เฉยชาอย่างกับคนไร้วิญญาณ แต่เอาเข้าจริงแล้วเขาทั้งเสียงดัง ขู่ตะคอกโวยวายออกอย่างนั้น หญิงสาวยอมรับกับตนเองว่าเริ่มกลัวผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่สนสักนิดแล้วว่าเขาจะ ‘หุ่นดี’ ทรมานใจเธอขนาดไหนก็ตาม


เอาล่ะสิ เธอควรจะถอยก่อนดีไหม เธอคิดอย่างหวาดหวั่น แต่ก็ไม่ทันอีกแล้ว เพราะสิ้นเสียงตะคอกเมื่อครู่ ประตูก็เปิดออกอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย


“มีอะไรอีกล่ะแม่ชี”

“ก็...” เสียงพูดเป็นอันยุติลงแค่นั้น เมื่อหลุบตาลงต่ำแล้วก็พบว่า...ผ้าขนหนูสีขาวผืนหนาๆ อันตรธานหายไปแล้ว มธุรดาเบิกตากว้าง สมองขาวโพลน หัวจิตหัวใจกระโดดกระเด้งออกไปไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทันทีที่เห็นหนอนน้อยของเขาเต็มๆ ตา


ไม่สิ...นี่มันหนอนขนาดยักษ์!


กรี๊ด!


นักศึกษาแพทย์สาวกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น ยกมือขึ้นปิดหน้าปิดตาทันทีเมื่อเห็นว่าผ้าขนหนูสีขาวที่เคยพันเอวสอบไว้อย่างหลวมๆ ในคราแรกนั้น ตอนนี้มันหลุดลงไปกองกับพื้นเป็นที่เรียบร้อย หนำซ้ำยังได้เห็นอะไรบางอย่างของชายหนุ่มแบบจะจะตาอีกด้วย


คุณพระคุณเจ้า!

หญิงสาวกรีดร้องออกจนไม่มีเสียง ทำไมพระเจ้าต้องลงโทษเธอที่คิดทำอะไรแผลงๆ ที่ขับรถมาคนเดียวไกลถึงขนาดนี้ ด้วยการต้องมาเห็นผู้ชายยืนเปลือยต่อหน้าด้วย แถมเขายังหน้าไม่อาย แก้ผ้าต่อหน้าเธอได้อย่างหน้าตาเฉย สีหน้าเย็นชาไม่ทุกข์ร้อน คนอะไรใจกล้าหน้าด้านที่สุด ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนแปลกหน้า แต่ทักท้ายดีๆ ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเอา ‘น้องหนอนยักษ์’ ของเขาออกมาผงกหัวทักทายด้วยตัวเองหรอก น่าเกลียด เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเห็นของคนเป็นๆ เป็นครั้งแรกเสียด้วย


แต่เดี๋ยวนะ…


เธอเพิ่งเคยเห็นของคนจริงๆ เป็นครั้งแรกไม่ใช่หรือ ความคิดนั้นทำให้ต่อมความอยากรู้อยากเห็นเริ่มทำงานทันที นิ้วมือเรียวยาวทั้งสิบที่วางแหมะอยู่บนใบหน้ากลมป่องค่อยๆ คลายออกช้าๆ จนกระทั่งดวงตาคู่กลมโตสามารถมองลอดออกไปได้ในที่สุด มธุรดากำลังชั่งใจว่าจะมองดีไหม ใจหนึ่งก็อยากรู้อยากเห็นเพราะเท่าที่มองเมื่อครู่ เอ่อ... มันก็ใช้ได้อยู่นะ ทว่าอีกใจก็เหนียมอาย แหม...เป็นผู้หญิงแท้ๆ ไปแอบมองของผู้ชายก่อนได้อย่างไร


แต่...สัญชาติญาณแรกมักจะมาแรงแซงทุกความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเสมอ เธอไม่ได้ขอดูสักหน่อย คิดเสียว่าได้ทวนวิชากายวิภาคศาสตร์ที่เพิ่งเรียนไปก็ได้น่า


หลังจากคิดเองเออเองเสร็จสรรพ สุดท้ายแล้ว สาวแว่นแก้มป่องก็ค่อยๆ เหลือบตากลับขึ้นมามองยังร่างสูงอีกครั้ง แล้วก็พบว่าผ้าผืนนั้นมันกลับขึ้นไปอยู่บนตัวเนื้อตัวบึกบึนเหมือนเดิมแล้ว


“ว้า!” หญิงสาวอุทานออกมาอย่างลืมตัว แล้วรีบตะครุบปากไว้แทบไม่ทันเมื่อเห็นสีหน้าเฉยเมยของชายหนุ่ม


“พอใจหรือยัง ถ้าดูจนพอใจแล้วก็กลับไปได้แล้ว” สิ้นเสียงกึ่งรำคาญของชายหน้ารก มธุรดาจึงได้สติ ตายล่ะ...นี่เธอแอบดูผู้ชายแก้ผ้าจริงๆ หรือ


มธุรดาทั้งอายทั้งเสียหน้า แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเธอ ‘แอบดู’ เขาไปแล้ว หญิงสาวรวบรวมความกล้าก่อนจะเชิดหน้าขึ้นทันที แล้วรีบคว้าประตูได้ทันก่อนที่เขาจะปิดมันอีกครั้ง

“เดี๋ยวสิ”

“ออกไปได้แล้ว”

“เดี๋ยวก่อน ช่วยอยู่เฉยๆ แล้วฟังฉันก่อนสิ” หญิงสาวขยับแว่นแก้เก้อ เมื่อเห็นสีหน้าไม่ยินดียินร้ายของหนุ่มตรงหน้าเธอก็ยิ่งอับอาย เธอหรือก็เขินแทบตายที่เจอกันครั้งแรกก็ได้ประสบการณ์แปลกๆ ชวนให้หัวใจวายตายเสียแล้ว แต่เขานี่สิ ยังนิ่งได้อีก จนมธุรดานึกสงสัยว่าเขาเป็นคนหรือรูปปั้นกันแต่ แต่ถ้าเป็นรูปปั้นแล้วล่ะก็ ผู้ชายคนนี้จะต้องเป็นปฏิมากรรมชิ้นเอกของโลกแน่นอน แหม...น่าเอาไปหุ่นแบบเรียนเรื่องกล้ามเนื้อในคลาสเรียนอนาโตมี่ชะมัด!


“ถ้าจะมาขายของนะ ที่นี่ไม่รับ” พูดจบก็ทำท่าจะปิดประตูไล่อีก จนหญิงสาวที่กำลังหลงอยู่ในวังวันของการจินตนาการไปต่างๆ นานาได้สติ เธอสะดุ้งแล้วรีบรั้งประตูไว้ก่อนที่เขาจะปิดลง แล้วสวนกลับแทบจะทันที


“นี่ฉันเหมือนเซลล์เกิร์ลขนาดนั้นเลยหรือไง”

“งั้นมั้ง”

“ตาไม่ดีสิคุณ ฉันเป็นนักศึกษานะ”


“ก็น่าจะใช่อยู่หรอก” เขากวาดตามองร่างน้อยอีกตรงหน้าอีกรอบ “ไซด์ไลน์ด้วยเปล่าเนี่ย ถ้าใช้ก็เข้ามาเลยก็ได้ อดอยากมานานแล้วเหมือนกัน”


มธุรดาควันออกหูทันทีเมื่อได้ยินคำถามของเขา ขอถอนคำพูดที่บอกว่าเขาหล่อล่ำหุ่นดี เพราะแท้จริงแล้วเขามันพวกป่าเถื่อนมารยาทราม ดูยังไงว่าเธอเป็นนักศึกษาจำพวกนั้น คิดแล้วก็อยากจะยกสันหนังสือเล่มเขื่องที่เก็บไว้ที่หอพักมาฟาดหน้าเขาสักที แต่ก็ไม่กล้าอยู่ดีเมื่อเห็นสายตายเย็นเยียบไร้อารมณ์ของผู้ชายตรงหน้า


“ไม่ใช่นะ ฉันแค่มาหาใครบางคนต่างหาก”

“มาหาใคร”

“คุณเจสสิก้า อี. สไวเกอร์ค่ะ”

ชื่อนั้นทำให้ชายหนุ่มหน้าตึงขึ้นมาทันที “คุณเป็นใคร” เจ.ที. หรี่ตาถามทันทีที่ชื่อพี่สาวผู้ล่วงลับ


“ฉันเป็นลูกสาวของคุณหมอสมิธค่ะ พอดีมีเรื่องต้องถามนิดหน่อย”


“เธอไม่อยู่หรอก กลับไปเถอะแล้วไม่ต้องมาที่นี่อีก” เขาตอบเสียงแข็ง ใบหน้าที่น่ากลัวอยู่เป็นทุนเดิม ดูดุกร้าวขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เธอเป็นลูกสาวของหมอคนนั้น!


“เอ๊ะ!”

“บอกให้ออกไปไงไม่เข้าใจเหรอ!” ชายหนุ่มตวาดกร้าว จนมธุรดาต้องรีบถอยออกห่างจากเขาให้มากที่สุด และเมื่อพ้นหน้าบ้านมาเท่านั้นแหละ ประตูบานใหญ่ก็ปิดโครมไล่หลังอย่างเสียมารยาท


“ไอ้คนบ้า!” คนเก่งลับหลังร้องลั่นทันทีที่เขาปิดประตูไปแล้ว อยากจะกรี๊ดใส่หน้าผู้ชายที่เธอไม่รู้จักแม้แต่ชื่อสักครั้ง เผื่อว่าเขาจะทำสีหน้าอย่างอื่นได้บ้าง แต่พอมาคิดอีกที อย่าดีกว่า คนน้ำนิ่งไหลลึกแบบนี้ทำให้มธุรดานึกขยาด เพราะไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน ดังนั้นการไม่ก่อกรกับเขานั่นแหละดีที่สุด


ถึงแม้ว่าจะก่นด่าว่าเขาเป็นพวกป่าเถื่อนและไร้มารยาทเพียงไร แต่คนตัวเล็กก็ยังไม่อาจลืมเจ้าของใบหน้าคมเข้มได้เลย เขาเป็นผู้ชายตัวสูงเสียจนเธอต้องแหงนหน้าจนคอตั้งบ่า ผมยุ่งๆ สีน้ำตาลเข้มชี้ไม่เป็นทรง ดวงตาคู่คมดุดันล้ำลึกที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาเลย จมูกโด่ง ฟันสวยเรียงเป็นระเบียบ ทุกอย่างที่ประกอบอยู่บนใบหน้าของเขาล้วนลงตัวดูดี แต่อะไรก็ไม่โดดเด่นสะดุดตาเท่าคิ้วเข้มที่พาดอยู่เหนือดวงตาคมๆ ของเขา กับรอยสักรูปมังกรสวยงามที่ต้นแขนซ้ายและรูปใบหน้าของผู้หญิงสีข้างทางด้านขวา ที่พอเห็นปุ๊บ ก็นึกอยากจะเอานิ้วลูบเล่นเสียจริง


ไม่นับหนอน...เอ๊ย! ของดีที่ได้เห็นมาด้วย

โอย...คุณพระช่วยด้วย เธอหัวใจจะวายตาย!

สาวแก้มป่องจำต้องกรีดร้องแค่เพียงในใจแล้วกระทืบเท้าเร่าๆ ระบายความเขินอายออกมา... ไม่เอาแล้ว เธออยู่ไม่ได้แล้ว ถ้าอยู่นานมีหวังภาพพจน์สาวแก่เรียนคงถูกลบแล้วแทนที่ด้วยความจริงที่ว่า แท้จริงแล้วเธอคือยายแว่นหื่นหลบในตัวจริงเสียงจริง คิดแล้วก็รีบกลับขึ้นรถพอร์ชสีเหลืองสดของตัวเองแล้วขับออกไปทันที ขอเวลาไปตั้งหลักก่อน แล้วเธอจะกลับมาใหม่อีกแน่นอน





เจ.ทีกลับเข้าบ้าน ทำทุกอย่างให้เหมือนปกติ เขาไม่ได้บอกลินคอนที่กลับมาจากโรงเรียนในตอนเย็นว่ามีผู้หญิงประหลาดบุกเข้ามาที่นี่เพื่อตามหาเจสสิก้า เพราะเกรงว่าถ้าเอ่ยถึงเมื่อไหร่ หลายชายของเขาก็จะคิดถึงแม่ขึ้นมาอีก แต่มีหรือที่ทาท่างครุ่นคิดตลอดเวลาของผู้อาวุโสกว่าจะหลุดรอดสายตาของลินคอนไปได้ เด็กหนุ่มนิ่วหน้า เพราะไม่เคยเห็นน้าชายทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนี้มานานแล้ว นับตั้งแต่วันที่ฝังศพแม่


“น้าเจย์เป็นอะไรฮะ ทำหน้าเครียดๆ” ร่างผอมสูงของลินคอนเดินเข้ามาหาคนที่นั่งหน้าเครียดอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่น แล้วยื่นจานแอลมอนด์อบเกลือให้คนที่นั่งจิบเบียร์ใช้เป็นของแกล้ม

“ไม่มีอะไรหรอก” นายทหารเรือหนุ่มบอกปัด สลัดภาพยายแว่นหน้ากลมแต่งตัวเหมือนคุณป้าให้ออกไปจากสมอง แต่ก็พบว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ลบภาพสาวหน้าใส สองแก้มป่องสีแดงระเรื่อ และแววตาใสซื่อเต็มไปด้วยประกายความอยากรู้อยากเห็นออกไปจากสมอง


“อยู่บ้านเหงาไหมฮะน้า”

“ไม่เท่าไหร่หรอก ชินแล้ว”

“ว่าแต่ไอ้เฝือกนี่จะเอาออกได้แล้วไม่ใช่หรือฮะ น้าต้องไปถอดเฝือกที่โรงพยาบาลไหนหรือเปล่า”

“ถอดมันที่นี่แหละ เพราะถ้าต้องให้หมอที่ใส่ให้เป็นคนถอดเอง ฉันคงต้องบินไปคาบูลน่ะสิ”

“ก็พูดดีๆ ก็ได้น้า ไม่เห็นต้องหงุดหงิดเลย” ลินคอนเบ้ปาก แล้วคว้าขวดเบียร์มาจากน้าชายบ้าง แต่ก็ถูกริบคืนอย่างรวดเร็ว

“ต่ำว่าสิบแปดห้ามลอง”

“ผมโตแล้วนะน้า”

“น้อยๆ หน่อยลินซ์ ไปเอาการบ้านมาทำไป”

“ผมเขียนรายงานเสร็จแล้วน่าน้าเจย์” แล้วจู่ๆ นัยน์ตาของเด็กหนุ่มก็แพรวพราว “หงุดหงิดแบบนี้ สงสัยน้าเจย์กำลังอยู่ในวันนั้นของเดือน”


“ฉันไม่ใช่ผู้หญิงโว้ย อย่ามาทะลึ่ง” มือสไนเปอร์หนุ่มโวยลั่น รู้สึกตั้งแต่กลับบ้านนี่เขากลายเป็นคนขี้โวยวายเสียยิ่งกว่าเพื่อนร่วมทีมอย่างเจสันเสียอีก อาจเป็นเพราะตอนนี้ไม่มีพี่สาวแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องเก็บงำความรู้สึกอะไรให้ทำร้ายตัวเองต่อ และเหตุผลที่สอง คือการมีเจ้าตัวแสบที่เป็นตัวแทนของพี่สาวให้เขาได้ดูแลอีกคน ทำให้คนที่เหงามาทั้งชีวิตรู้สึกมีความสุขมากกว่าครั้งไหนๆ



................................................


มาอัพแล้วค่า แล้วก็มาแจ้งเกมแจกรางวัลด้วย

น้องแมร์น่ารักป่ะล่าาาาาา (นางติงต๊องมว้าก) ตอนหน้าฮากว่านี้อีกค่ะ คิๆๆ


เอาล่ะ เรามาเล่นเกมแจกของกันดีกว่า

ก่อนอื่น ตูนเปิดรับจอง 'นางฟ้าจารชน' รอบสองนะค้า รายละเอียดตามภาพ แต่ว่าในราคา 300 พอนะค้า รวมค่าจัดส่งแล้วค่ะ (ของที่ระลึกหมดและจัดส่งแบบธรรมดาค่ะ)


ส่วนเกมรับของที่ระลึกค่ะ ทำตามกติกานะคะ แก้วเป็นแก้วที่ตูนสั่งทำพิเศษ แกะลายสวยมากเลย แจกทั้งหมด 8 รางวัลค่ะ
ทำตามกติกานะคะ



กิจกรรมร่วมสนุกรับแก้วที่ระลึกสั่งทำพิเศษ(แก้วแกะลายนะคะ) แจกทั้งหมด 8 รางวัลค่า ***กติกาคือ***

---สำหรับคนที่มีนิยายชุดหน่วยรักพิเศษแมคอีเซอร์ครบทั้งสามเล่มนะคะ ให้ถ่ายภาพนิยายทั้งสามเล่ม(บ่วงรักคำสาปทราย-เล่ห์ร้ายบุษบา-นางฟ้าจารชน) ส่งมาให้ตูน จะที่หน้าแฟนเพจ หน้าเฟสบุ๊คส่วนตัวของตูน ในไลน์ หรือ IG ได้ทั้งนั้นค่ะ---

---สำหรับคนที่มีหนังสือแต่ไม่สามารถถ่ายภาพมาให้ได้ ให้ตอบคำถามดังนี้ค่ะ
1. ประโยค "บางทีผู้หญิงก็ไม่ต้องการการปกป้องหรอกค่ะ เราต้องการแค่ความรักที่แท้จริงของคนที่พร้อมจะเสียสละให้เราได้ทุกอย่างแม้แต่ชีวิตของตัวเอง มันยิ่งใหญ่กว่านะคะ" (ประโยคนี้อยู่หน้าไหนของบ่วงรักคำสาปทรายคะ)
2. ประโยค "ก็บอกแล้วไงว่าผมมันเห็นแก่ตัว ผมกลัวคุณทนไม่ได้หากผมจะต้องเป็นฝ่ายต้องจากไปก่อน แล้วคุณจะอยู่อย่างไรล่ะ" (ประโยคนี้อยู่บทที่เท่าไหร่ในเล่ห์ร้ายบุษบาคะ)
3. ประโยค "ก็จะพิสูจน์ตัวเองไปเรื่อยๆ จนกว่าคุณจะเชื่อว่าผมรักคุณไง...ผมรักคุณนะยูริ" ประโยคนี้อยู่หน้าที่เท่าไหร่ของนางฟ้าจารชนคะ
ใบ้ว่าทั้งหมดอยู่หน้าท้ายๆ บทท้ายๆ นะคะ----

***ส่งคำตอบทางข้อความเท่านั้นนะคะ กันการลอกคำตอบค่ะ***

หมดเขต 14 มีนาคม 2557 นะค้า ประกาศชื่อผู้ได้รับรางวัล 15 มีนาคมค่ะ







มาร่วมสนุกกันเยอะๆ นะค้าาาาาาาาาา รักคนอ่านเสมอมาค่ะ

กรรัมภา (กนิษวิญา)



กนิษวิญากรรัมภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ก.พ. 2557, 10:25:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ก.พ. 2557, 10:25:53 น.

จำนวนการเข้าชม : 1437





<< บทที่ 3 ของสำคัญ   บทที่ 4 ผู้หญิงปริศนา 100% >>
แว่นใส 15 ก.พ. 2557, 16:21:32 น.
เจอครั้งแรกก็สร้างความประทับใจเชียว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account