กลรักนฤมิต (ชุดหน่วยซีล)
มือสไนเปอร์หนุ่มพูดน้อย แห่งหน่วยเรดทีมจู่โจม SEAL team six
ด้วยอาชีพการทำงานทำให้เขาไม่ได้เอาใจใส่พี่สาว ซึ่งเป็นคนในครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของเขา
หลังจากได้รับอุบัติเหตุแขนหักจนต้องพักงานยาว เขาจึงเดินทางกลับมาที่บ้านอีกครั้ง
ณ ที่แห่งนี้เองที่ทำให้ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนไป
พี่สาวคนเดียวเสียชีวิตไปอย่างปริศนา
โค้ดลับแปลกๆ เกี่ยวกับชื่อของเทพเจ้ากรีก

คนเดียวที่จะช่วยไขปริศนานี้ได้คือหญิงสาวคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของเขา
ยายสาวแว่นตัวเล็กแต่งตัวเรียบร้อยประหนึ่งแม่ชีในโบสถ์ แต่กลับมาเขย่าหัวใจของเขาได้เพียงแค่สบตากัน
'ไอ้โจรข่มขืน' กับ 'ยายแว่นจอมเฉิ่ม'
จากคู่กัดกลายเป็นคู่รักที่ไม่น่าเป็นไปได้
เธอเข้ามาเพียงเพราะสมุดจดบันทึกแล็บของพ่อเธอ และสมุดแล็บของพี่สาวเขา จะนำไปสู่การไขปริศนาลับอันตราย

การทดลองทางพฤษศาสตร์ที่ใช้ชื่อว่า Pearly คือทางเดียวที่จะบอกได้ว่าคนพวกนี้ต้องการอะไร

ณ ห้องแล็บเล็กๆ กลางป่าแห่งนี้เปลี่ยนหัวใจที่เคยด้านชาให้มีชีวิตชีวา รู้จักคำว่ารักที่แท้จริง
เช่นเดียวกับอันตรายต่างๆ นานาและความเจ็บปวดมหาศาลที่จะตามเข้ามา
โดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่นิดเดียว
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 4 ผู้หญิงปริศนา 100%







“ผมเขียนรายงานเสร็จแล้วน่าน้าเจย์” แล้วจู่ๆ นัยน์ตาของเด็กหนุ่มก็แพรวพราว “หงุดหงิดแบบนี้ สงสัยน้าเจย์กำลังอยู่ในวันนั้นของเดือน”

“ฉันไม่ใช่ผู้หญิงโว้ย อย่ามาทะลึ่ง” มือสไนเปอร์หนุ่มโวยลั่น รู้สึกตั้งแต่กลับบ้านนี่เขากลายเป็นคนขี้โวยวายเสียยิ่งกว่าเพื่อนร่วมทีมอย่างเจสันเสียอีก อาจเป็นเพราะตอนนี้ไม่มีพี่สาวแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องเก็บงำความรู้สึกอะไรให้ทำร้ายตัวเองต่อ และเหตุผลที่สอง คือการมีเจ้าตัวแสบที่เป็นตัวแทนของพี่สาวให้เขาได้ดูแลอีกคน ทำให้คนที่เหงามาทั้งชีวิตรู้สึกมีความสุขมากกว่าครั้งไหนๆ


“ผมไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น” เด็กหนุ่มหัวเราะด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ “ผมหมายถึงน้าเจย์อยู่ในช่วงหื่นหรือเปล่าฮะ อย่าอายน่าน้า เรื่องแบบนี้ลูกผู้ชายด้วยกันดูออก ไปกองทัพมาตั้งนาน อดอยากล่ะสิ”


คราวนี้เจ.ที.ถึงพับพ่นลมหายใจออกมาทันที แทนที่จะเป็นเขาที่สั่งสอนหลานในเรื่องนี้ กลับกลายเป็นโดนย้อนเข้าให้เสียนี่ แต่ก็จริงอย่างที่ลินคอนว่านั่นแหละ เขาอยู่ในอัฟกานิสถานมาร่วมสามเดือน ไม่มีผู้หญิงที่ไหนนอกจากไอ้พวกผู้ชายปากมากที่เอาแต่แหกปากคุย วิ่งแข่ง เล่นบาส ซ้อมยิงปืน กิจกรรมดังกล่าวคลายเครียดได้ก็จริง แต่มันไม่สามารถช่วยให้ร่างกายได้รับการปลดปล่อยอยากกามตัณหาที่ไหน


ทว่าเมื่อคิดมาถึงตรงนี้แล้ว นายทหารเรือหนุ่มก็ต้องแปลกใจตัวเองไม่น้อย ว่าทำไมจะต้องไปคิดถึงยายแก้มป่องจอมหื่นนั่นด้วย หรืออาจจะเป็นเพราะไม่ได้เจอผู้หญิงมานานกันแน่ เห็นคนไหนก็พร้อมเดินเข้าใส่ทั้งนั้นแหละ


“ก็ดีนะ” สองน้าหลานหัวเราะเบาๆ คว้ากุญแจรถแล้วพากันออกไป
ตระเวนราตรีต่อทันที




ทางด้านสาวแว่นรุ่นไดโนเสาร์ที่เจ.ที.นึกถึงนั้น ก็กำลังนั่งทำหน้าเครียดกับเอกสารมากมายที่กองอยู่บนโต๊ะภายในห้องแล็บลับของพ่อ สังเกตจากการที่พ่อบันทึกแล็บ จะเห็นว่ามีคำว่าห้องแล็บหนึ่งและห้องแล็บสอง เป็นไปได้ว่าพ่ออาจจะทำงานวิจัยนี้สองแล็บด้วยกัน เพราะสถานที่ที่พ่อตายก็ไกลจากบ้านหลังนี้หลายสิบไมล์ และถ้าเป็นอย่างที่สงสัยจริง แล้วทำไมพ่อต้องแอบมาทำแล็บที่บ้านด้วย


เป็นไปได้ไหม ที่เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวกับข้อความในโทรศัพท์บ้านที่บอกว่า พ่อจะต้องส่งของอะไรสักอย่างให้กับใครคนนั้น ซึ่งเท่าที่ดู มันก็หลังเวลาก่อนพ่อตายไม่นานเท่าไหร่


มธุรดาไม่ใช่คนมองโลกในแง่ร้าย กลับกันแล้ว เธอเป็นหญิงสาวช่างเพ้อฝันและชอบจินตนาการมากกว่า ชอบดูละครและอ่านหนังสือนิยายสืบสวนสยองขวัญสั่นประสาทมาแล้วหลายต่อหลายเล่ม และมันก็เหมือนกับสิ่งที่เธอกำลังสงสัยอยู่ด้วย

นายแพทย์คาร์ลอส สมิธ...ผู้เป็นพ่อของเธอ จะต้องถูกฆาตกรรมแน่ เพราะลำพังแค่การทดลองทางอณูชีววิทยาแค่นี้ มีความเป็นไปได้น้อยเหลือเกินที่จะระเบิดจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ พ่อของเธอเป็นคุณหมอที่แสนใจดีและชอบคนคว้าทุกเรื่อง พ่อของเธอเป็นคนเก่งมาก เป็นไปได้ไหมว่าความเก่งกาจของพ่ออาจนำภัยมาสู่ตัวโดยที่พ่อไม่รู้ เพราะถ้าเป็นจริงอย่างที่คิดแล้วล่ะก็ ก็มีอยู่แง่เดียว คือพ่อของเธอถูกจัดฉากฆ่า และสมุดบันทึกแล็บเล่มสีแดงเล่มนี้จะต้องเป็นกุญแจไขปริศนาทั้งหมด ถึงได้มีคนตามหามันเสียจนต้องเสี่ยงเข้ามาบุกรุกหอพักของเธอ


แต่ถึงเป็นจริงอย่างที่สันนิษฐาน แล้วเธอจะไปทำอะไรได้ เป็นแค่นักศึกษาแพทย์ปีหนึ่งเท่านั้น ถึงจะเรียนจบปริญญาตรีด้านชีวเคมีมาแล้วหนึ่งใบก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้มีทักษะและความสามารถมากพอที่จะไปสืบสวนสอบสวนอะไรอย่างในหนังหรอก ดังนั้นที่พึ่งเดียวตอนนี้ ก็ต้องเป็นนางพยาบาลที่ชื่อเจสสิก้า อี.สไวเกอร์เท่านั้น!


แต่...

ใบหน้าคมคายของผู้ชายคนหนึ่งกระจ่างชัดขึ้นมาในความทรงจำ คนที่อยู่บ้านเดียวกับเจสสิก้า เขาช่างเป็นผู้ชายที่หน้าด้านหน้าทนที่สุดในโลก ที่กล้ามาแก้ผ้าให้เธอดูหน้าตาเฉย ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย มีแต่เธอนี่แหละที่เป็นฝ่ายอายอยู่คนเดียว


แต่แล้วจู่ๆ มธุรดาหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น เพราะคิดอะไรได้บางอย่าง ความจริงคือเขาไม่ได้ตั้งใจจะโชว์ของดีให้เธอดูเสียหน่อย เขาแค่ทำผ้าหลุด แต่เธอนี่สิที่ใจกล้าหน้าด้านแอบมองเขาเองแท้ๆ


ความคิดนี้ทำให้สาวแว่นค่อยคลายความเครียดลงไปได้มาก เธอคว้ากุญแจรถแล้วออกไปหาอะไรทานในเมือง เพราะตั้งแต่แยกกับผู้ชายหุ่นทรมานใจสาวมาแล้ว เธอก็หมกตัวอยู่ที่นี่มาทั้งวัน และมีแววว่าจะได้อยู่บ้านพ่อไปอีกสักพัก อย่างไรเสียจะต้องกลับไปที่บ้านของเจสสิก้าอีกแน่นอน จนกว่าจะได้เจอพยาบาลผู้ช่วยของพ่อคนนั้น


หญิงสาวขับรถเข้าไปในตัวเมืองอย่างอารมณ์ดี แม้ว่าจะดึกแล้ว แต่สองข้างทางก็ไม่ได้เปลี่ยวอย่างที่กังวล ทางหลวงสายนี้มีรถผ่านอยู่เสมอ แยกเข้าบ้านก็ออกไปแค่ไม่กี่ไมล์เท่านั้น คนขี้กลัวอย่างมธุรดาจึงกล้าที่จะออกไปตามลำพัง เพราะทนเสียงร้องเรียนของกระเพาะไม่ไหว มันครวญครางอยู่อย่างนี้มาตั้งแต่ช่วงค่ำแล้ว แต่เพราะมัวติดพันกับเอกสารการทดลองของพ่อ กว่าจะออกมา เวลาก็เลยไปถึงสี่ทุ่มแล้ว


มธุรดาตัดสินใจจอดรถซื้อของในร้านสะดวกซื้อร้านหนึ่งในย่านดาวน์ทาวน์เพราะไม่อยากเสียงเวลาขับรถไปถึงใจกลางเมือง พอเห็นร้านไหนเปิดอยู่เธอก็เข้าไปเลย ซึ่งข้าวของส่วนมากก็เป็นอาหารแห้งเอาตุนเป็นเสบียง หากจะต้องอยู่ที่นี่นานกว่าที่ตั้งใจไว้ อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องออกมาฉุกเฉินอย่างวันนี้อีก คนตัวเล็กได้แต่ส่ายหน้าปลงๆ แล้วเดินกลับไปที่รถ ยังไม่ทันจะได้เปิดประตูรถเลย เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน


“มีอะไรหรือเปล่ามาโกะ” หญิงสาวเปิดประตูเอาของไปไว้ที่ตอนหลังของรถ กำลังจะขึ้นรถแล้วแท้ๆ แต่สายตาเจ้ากรรมกลับเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเดินออกมาจากโมเต็ล รูปร่างสูงคุ้นตา ใบหน้ารกครึ้มไปด้วยหนวดเครา ทำให้สาวแว่นต้องรีบขยับแว่นปรับสายตาของตัวเองให้ชัดๆ แล้วก็พบว่าชายหญิงที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ไม่อายสายตาใครนั้น คือผู้ชายที่อยู่บ้านเดียวกับเจสสิก้านั่นเอง


อี๋...ไอ้คนลามกสกปรก!

“แมร์...ได้ยินฉันไหมแมร์” เสียงรบเร้าจากคนต้นสายทำให้หญิงสาวที่กำลังมองตามชายหญิงคู่นั้นสะดุ้ง แล้วรีบตอบกลับไป


“ได้ยินๆ โทรมามีอะไรหรือเปล่า”

“ถามว่าเมื่อไหร่จะกลับ”

“จำเป็นต้องโทรมาตอนนี้หรือเปล่ามาโกะ มันดึกแล้วนะ”


“ฉันโทรหาเธอตั้งแต่บ่ายแล้ว แต่เธอไม่รับสาย”

“อ้าวเหรอ” สาวแว่นหน้าเหลอหลา “ฉันไม่ได้เอาโทรศัพ์ไว้ใกล้ตัวน่ะมาโกะ ขอโทษทีนะ”

“แล้วตอนนี้เธอทำอะไรอยู่”

“อยู่ที่ดาวน์ทาวน์ มาหาของกินน่ะ”

“เวลานี้น่ะเหรอ!” นักศึกษาสาวชาวญี่ปุ่นแหว


“อย่าบ่นน่ามาโกะ มันไม่ได้อันตรายอย่างที่เธอคิดหรอกน่า ฉันเจอคนรู้จักพอดีน่ะ” วงตาคู่กลมโตยังมองไปยังคู่หนุ่มสาวที่ยังกอดรัดกันอีนังพันตูอยู่ในมุมมืดของต้นไม้ที่หน้าโมเต็ล

“แน่ใจนะ”


“แน่สิ ไว้กลับเมื่อไหร่จะบอกแน่นอน แค่นี้ก่อนนะ” แล้วสาวแว่นก็วางสายลงทันที ชนิดไม่คิดจะรอให้ปลายสายได้ตอบรับหรือปฏิเสธเลยสักนิด


มธุรดาเก็บของแล้วก็จริง แต่ก็ยังคงยืนมองคนที่กำลังจูบกันจนเหมือนจะกินกันเข้าไปทั้งตัว พลันขนตามเนื้อตัวก็ลุกซู่ขึ้นมาทันที ในใจก็ก่นด่าผู้ชายหน้าไม่อายที่ยังกอดจูบลูบคลำกับผู้หญิงคนนั้นไม่เลิก เพิ่งจะออกมาจากในโรงแรมแท้ๆ ยังไม่พออีกหรือ ทีกับผู้หญิงคนนี้ล่ะไม่ยอมออกห่าง


ใช่สินะ! เธอมันไม่สวย ไม่ได้แต่งตัวคว้านไปถึงสะดือ ถึงได้โดนไล่ตะเพิดทันทีที่เห็นหน้า


ระหว่างที่กำลังก่นด่าผู้ชายหื่นกามอยู่นั้น หญิงสาวก็ต้องชะงักเพราะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ในเมื่อเขาไม่ยอมให้เธอได้เจอกับเจสสิก้าดีๆ มันก็ต้องมีการแบ็คเมล์กันหน่อย


“อย่าหาว่าฉันใจร้ายนะไอ้คนโรคจิต” ความคิดซุกซนนั้นทำให้หญิงสาวหัวเราะคิกคักออกมาทันที มธุรดาค่อยๆ ย่องไปยืนในมุมเหมาะสมที่พอจะ ‘จัดการ’ ผู้ชายโรคจิตคนนี้ได้ และเมื่อหาที่ซ่อนตัวได้แล้ว โทรศัพท์มือถือในมือก็พร้อมทำงานด้วยการบันทึกคลิปภาพและเสียงแบบไฮเดฟฟินิชั่นทีเดียว


“เสร็จฉันแน่ไอ้หน้าหนวด” สาวแว่นมองบทเลิฟซีนดุเดือดผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์ที่กำลังบันทึกภาพวิดีโออยู่ แล้วก็ต้องยกมือขึ้นปิดปาก ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เกิดมาไม่เคยเห็นหนังสดเลยสักครั้ง ถึงจะเคยแอบดูหนังผู้ใหญ่กับมาโกะมาบ้าง แต่เธอดูจบที่ไหน


แต่แล้วคนที่กำลังคิดอะไรไปไกลก็ต้องสะดุ้ง ยกมือปิดปากกลั้นเสียงร้องแทบไม่ทัน เพราะเห็นว่ามือเรียวๆ ของฝ่ายหญิงกำลังล้วงเข้าไปในกางเกงยีนส์ของผู้ชาย และที่ร้ายกว่านั้นคือนายคนที่ยังใส่เฝือกยังจะอุตส่าห์ให้มือข้างที่ไม่เจ็บจัดการล้วงคืนบ้างเหมือนกัน!


“ไอ้บ้ากาม เจ็บจนจะตายแล้วยังจะหื่นอีก” มธุรดาบ่นขมุบขมิบ ช็อครอบแรกเพิ่งผ่านไปหัวใจยังเต้นไม่ปกติดี ก็มีอาฟเตอร์ช็อคต่ออีกรอบแล้ว เมื่อยายสาวเล็บแดงที่กำลังล้วงไปจูบไป อยู่ๆ แม่คุณก็ควัก ‘หนอนยักษ์’ ให้ออกมาสูดอากาศภายนอกเสียอย่างนั้น


ที่สำคัญ เวลามันโตเต็มที่แล้วมันก็ไม่ใช่หนอนยักษ์อีกต่อไป...นี่มันอนาคอนด้าชัดๆ!


“ว้าย!”

เสียงร้องอย่างเสียขวัญของมธุรดาทำให้หนุ่มสาวที่กำลังฟัดกันนัวเนียต้องรีบผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว ดวงตาคู่คมมองมายังต้นเสียง แล้วก็พบว่าเป็นยายแว่นจอมเฉิ่มคนเมื่อเช้านี่!


“เธอ!” นายทหารเรือหนุ่มชี้หน้า รีบแต่งตัวให้เร็วที่สุด แต่มธุรดาไม่รอให้เขามาถึงตัว หญิงสาวรีบวิ่งหนีออกไปทันที เพราะแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับการแบล็คเมล์เขา


“เดี๋ยวสิคะ”

“พอมีผมมีธุระ” เจ.ที.ตะโกนใส่สาวที่หิ้วมาจากกลางเมือง แล้ววิ่งไปยังรถพอร์ชสีเหลืองสด ที่เจ้าของกำลังลุกลี้ลุกลนหนีเขาอยู่นั่นเอง แต่มีหรือที่คนตัวเท่าลูกแมวจะวิ่งหนีเขาพ้น ไม่ถึงสามก้าวเขาก็ถึงตัวเธอแล้ว


“ปล่อยนะไอ้คนหื่น” สาวแว่นตัวน้อยร้องลั่น เมื่อถูกชายหนุ่มคว้าแขนไว้ได้ ไม่ว่าจะทั้งทุบทั้งตีเขาอย่างไร แต่ร่างใหญ่โตยิ่งกว่าตึกกลับไม่สะท้านเลยแม้แต่น้อย ขนาดมีแขนที่ใช้การได้เพียงข้างเดียว เธอก็ยังสู้ไม่ได้


“ทำอะไรของคุณ”

“ใครทำอะไร” มธุรดาแสร้งตีหน้าซื่อ ไม่จำนนด้วยหลักฐาน อย่าหวังว่าเธอจะยอม


“ต้องให้บอกไหมว่าคุณน่ะเป็นพวกถ้ำมอง”


“ก็อยากชอบโชว์ทำไมล่ะไอ้โรคจิต”


“คุณสิโรคจิต!” เจ้าของน้ำเสียงเข้มตวาด จนคนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก มองไปรอบตัวก็พบว่าที่นี่มันมืดมาก ผู้คนไม่ค่อยมี อยู่หน้าโรงแรมเสียด้วย และที่สำคัญคือยายคู่ขาของนายคนโรคจิตหายไปแล้ว...หวังว่าเขาคงจะไม่คิดจะทำอะไรเธอแทนหรอกนะ


อาการตัวสั่นน้อยๆ ของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มหน้าตายนึกรำคาญไม่น้อย นี่นอกจากมาขัดจังหวะเขาแล้ว ยายนี่ยังคิดอะไรในทาอกุศลอยู่แน่ๆ ถึงได้แสดงความหวาดกลัวออกมาได้อย่างชัดเจนเสียเหลือเกิน


“คุณน่ะสิโรคจิตถึงได้มาแอบถ่ายชาวบ้านน่ะ เห็นท่าทางก็เรียบร้อย เป็นสาวแว่นเฉิ่มๆ ที่ไหนได้ หื่นเงียบใช่ไหมคุณน่ะ จะแอบเอาไว้ไปดูคนเดียวตอนเปลี่ยวใช่ไหมล่ะ!”


“อ๊าย!” คนหื่นเงียบร้องลั่น “ฉันไม่ได้หื่น นายน่ะสิหื่น หน็อย...เพิ่งออกมาจากโรงแรมแท้ๆ ยังจะเมคเลิฟกันต่อได้อีก โรคจิต ทำอะไรไม่อายฟ้าอายดิน”


“อ้าว! นี่แอบดูมาตั้งแต่ผมออกเลยโรงแรมเลยเหรอยายโรคจิต”

“นายนั่นแหละโรคจิต ปล่อยนะ!” มธุรดาพยายามจะกระทืบเท้าเขา แต่นายทหารเรือหนุ่มหลบทัน


“เอาโทรศัพท์มานี่”


“ไม่ให้”

“บอกให้เอามาไง!” เจ.ที.ตวาดออกมาอย่างหงุดหงิดด้วยน้ำเสียงที่เขาใช้จนเคยชิน เธอถึงกับสะดุ้ง ความกลัวแล่นเข้ามาเกาะกุมจิตใจทันที


“ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ” สาวแว่นเหลือบตามองรถของตน ใกล้แค่เพียงเอื้อมมือเท่านั้น


“เอามาก่อนสิ แล้วฉันจะปล่อย”


“ไม่มีทางหรอกคนโรคจิต!” ดวงตาคู่กลมโตใสแจ๋วมองเลยไปทางด้านหลังของชายหนุ่มแล้วร้องลั่น “ช่วยด้วยค่ะ คนหื่นกามจะข่มขืนฉัน ช่วยด้วย!”


“จะบ้าหรือไงยายแว่น!” เจ.ที.สบถลั่นแล้วหันกลังไปมองอย่างรวดเร็วเพราะกลัวโดนเข้าใจผิด เป็นจังหวะที่หญิงสาวรอมานาน เธออาศัยช่วงที่หนุ่มร่างสูงไม่ทันได้ตั้งตัว ผลักเขาเต็มแรง แล้วตัวเองก็รีบขึ้นรถแล้วออกตัวไปทันที


“ยายแว่นตัวแสบ” เรือตรีเจ.ที.ได้แต่เข่นเขี้ยว รู้ตัวว่าเสียรู้ยายแว่นเฉิ่มก็ตอนที่หันกลับมาแล้วเห็นเจ้าหล่อนยิ้มอย่างเป็นต่ออยู่บนรถของเธอเองนั่นแหละ


“อย่าให้เจออีกครั้งนะไม่อย่างนั้นล่ะน่าดู” คนตัวโตกว่าหัวเสียไม่น้อย ถูกขัดจังหวะช่วงเวลาแสนอภิรมย์ของตัวเองก็แย่พอแล้ว ยังจะมาแพ้มารยายายแว่นนี่อีก คิดแล้วก็หมดอารมณ์ รีบโทร.ตามหลานชายให้รีบออกมาจากบ้านเพื่อนแล้วกลับบ้านพร้อมกันไปเลย ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรทั้งนั้น








........................................................


................................................


มาอัพแล้วค่า

แหม คอมเม้นต์ในเด็กดีน่าชื่นใจจัง ขอสักตอนละ 10 ฝ่าๆ เค้าก็พอใจแล้ว จะได้รู้ว่ามีคนอ่านนะ (อ่านแล้วต้องชวนคุยด้วย ตูนไม่อยากคุยคนเดียว อัพไปพูดคนเดียวไป ใจมันฝ่อน๊า)

เอาล่ะ นางเอกเราน่ารักไหม

นางเป็นมนุษย์แปลกๆ นะว่าไหม เพ้อๆ ต๊องๆ แต่ก็เหมือนจะเก่ง ฮ่าๆๆ

ไว้มาต่อนะคะ

ขอพื้นที่โปรโมแป๊บนึงนะ


เอาล่ะ เรามาเล่นเกมแจกของกันดีกว่า

ก่อนอื่น ตูนเปิดรับจอง 'นางฟ้าจารชน' รอบสองนะค้า รายละเอียดตามภาพ แต่ว่าในราคา 300 พอนะค้า รวมค่าจัดส่งแล้วค่ะ (ของที่ระลึกหมดและจัดส่งแบบธรรมดาค่ะ)


ส่วนเกมรับของที่ระลึกค่ะ ทำตามกติกานะคะ แก้วเป็นแก้วที่ตูนสั่งทำพิเศษ แกะลายสวยมากเลย แจกทั้งหมด 8 รางวัลค่ะ
ทำตามกติกานะคะ



กิจกรรมร่วมสนุกรับแก้วที่ระลึกสั่งทำพิเศษ(แก้วแกะลายนะคะ) แจกทั้งหมด 8 รางวัลค่า ***กติกาคือ***

---สำหรับคนที่มีนิยายชุดหน่วยรักพิเศษแมคอีเซอร์ครบทั้งสามเล่มนะคะ ให้ถ่ายภาพนิยายทั้งสามเล่ม(บ่วงรักคำสาปทราย-เล่ห์ร้ายบุษบา-นางฟ้าจารชน) ส่งมาให้ตูน จะที่หน้าแฟนเพจ หน้าเฟสบุ๊คส่วนตัวของตูน ในไลน์ หรือ IG ได้ทั้งนั้นค่ะ---

---สำหรับคนที่มีหนังสือแต่ไม่สามารถถ่ายภาพมาให้ได้ ให้ตอบคำถามดังนี้ค่ะ
1. ประโยค "บางทีผู้หญิงก็ไม่ต้องการการปกป้องหรอกค่ะ เราต้องการแค่ความรักที่แท้จริงของคนที่พร้อมจะเสียสละให้เราได้ทุกอย่างแม้แต่ชีวิตของตัวเอง มันยิ่งใหญ่กว่านะคะ" (ประโยคนี้อยู่หน้าไหนของบ่วงรักคำสาปทรายคะ)
2. ประโยค "ก็บอกแล้วไงว่าผมมันเห็นแก่ตัว ผมกลัวคุณทนไม่ได้หากผมจะต้องเป็นฝ่ายต้องจากไปก่อน แล้วคุณจะอยู่อย่างไรล่ะ" (ประโยคนี้อยู่บทที่เท่าไหร่ในเล่ห์ร้ายบุษบาคะ)
3. ประโยค "ก็จะพิสูจน์ตัวเองไปเรื่อยๆ จนกว่าคุณจะเชื่อว่าผมรักคุณไง...ผมรักคุณนะยูริ" ประโยคนี้อยู่หน้าที่เท่าไหร่ของนางฟ้าจารชนคะ
ใบ้ว่าทั้งหมดอยู่หน้าท้ายๆ บทท้ายๆ นะคะ----

***ส่งคำตอบทางข้อความเท่านั้นนะคะ กันการลอกคำตอบค่ะ***

หมดเขต 14 มีนาคม 2557 นะค้า ประกาศชื่อผู้ได้รับรางวัล 15 มีนาคมค่ะ







มาร่วมสนุกกันเยอะๆ นะค้าาาาาาาาาา รักคนอ่านเสมอมาค่ะ

กรรัมภา (กนิษวิญา)







กนิษวิญากรรัมภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ก.พ. 2557, 20:13:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ก.พ. 2557, 20:20:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 1341





<< บทที่ 4 ผู้หญิงปริศนา 1 + เกมแจกรางวัลค่า   บทที่ 5 ผู้ชายหื่นกาม 1 >>
แว่นใส 17 ก.พ. 2557, 21:44:01 น.
หมดสิทธิ์แน่เรา งานนี้


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account