นางร้ายเจ้าน้ำตา
ชีวิตของมินตราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฝันไว้ว่าจะดีขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเจอแต่อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ทุกอย่างก้าว ดีที่ได้มีโอกาสเจอเขา...คิลเลี่ยนหนุ่มลูกครึ่งชาวอังกฤษก็คอยช่วยเหลือ เป็นหลักให้เธอได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หนทางรักที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่จะจบด้วยความสมหวัง
Tags: นางร้าย

ตอน: Crying Villain ตอนที่ 7

นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 7

สมเจตน์เห็นว่าลูกสะใภ้ตอบได้ดี จึงถอยออกมา แต่นักข่าวก็เหลือบไปเห็นเขา ทำให้กรูไปหาเขาด้วย เดือดร้อนประชาสัมพันธ์ของโรงแรมพาสมเจตน์ไปขึ้นเวทีด้วย เพราะดูเหมือนนักข่าวจะพยายามยิงคำถามให้สมเจตน์อีกคน และเขาก็เป็นไฮโซที่ใครๆ ก็รู้จักดีทีเดียว

“ไม่ทราบคุณสมเจตน์บังเอิญผ่านมาเหรอครับ”

สมเจตน์มองหน้าคิลเลี่ยน มองหน้ามินตรา ก่อนจะเข้าไปโอบไหล่ทั้งสองคนแล้วพูดออกไมค์ “ผมมาให้กำลังใจลูกชายกับลูกสะใภ้ของผมน่ะครับ”

เท่านั้นนักข่าวก็ฮือฮาแล้วก็งุนงง ก่อนมีคนหนึ่งรีบค้นหาข้อมูล จนรู้ว่าเคยมีข่าวเมื่อสามปีก่อน จึงยิงคำถามกันใหญ่ ทำให้ความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกรอบ

“ใจเย็นๆ ก่อนครับ ผมแค่เป็นห่วงลูกชายกับลูกสะใภ้ผม พอรู้ว่ามีแถลงข่าวก็เลยแอบแวะมาดู คุณก็ตาไวเห็นผมจนได้” สมเจตน์พูดติดตลก พยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น

“คุณสมเจตน์ช่างเป็นพ่อที่ใจดีจริงๆ แสดงว่าต้องช่วยอยู่เบื้องหลัง อยากจะให้ลูกสะใภ้มาเป็นแบบให้ดาราประดับบ้างไหมครับ จริงๆ ลูกชายคุณสมเจตน์ก็หล่อมาก น่าจะจับมาเป็นแบบคู่กันนะครับ”

สมเจตน์เห็นว่างานเข้าแต่ก็ไม่อะไรมาก ยิ้มให้นักข่าว แล้วพูดเป็นปริศนา “ก็ต้องคอยดูกันต่อไปครับ ผมให้ข่าวได้แค่นี้นะครับ”

คิลเลี่ยนก็ปิดการแถลงข่าวแล้วเชิญนักข่าวทานของว่าง มินตราก็ไปทักทายแฟนคลับที่มาร่วมงาน เธอก็เซ็นชื่อให้ บางคนเอาเสื้อมาให้เซ็น ถ่ายภาพเยอะแยะตาลายไปหมด

สมเจตน์เห็นลูกสะใภ้ท่าทางจะรุ่งได้ไม่ยาก คิดไว้ไม่ผิดทีเดียว เสียอย่างเดียวเจ้าลูกชายดูกันท่าเขาไว้มากและลูกสะใภ้ก็ปล่อยให้ลูกชายมีสิทธิในการดูแลทุกอย่าง เขาแยกทั้งสองคนไม่ได้ ก็ต้องสนับสนุนทั้งสองคน

จึงเข้าไปคุยกับลูกชาย และพูดย้ำ สายตาบีบบังคับ “แกต้องถ่ายแบบด้วย”

คิลเลี่ยนขมวดคิ้วแล้วมองหน้า จากนั้นก็ส่ายหน้า “ไม่เอาล่ะครับ”

“ฉันจะให้แกไปสัมภาษณ์พิเศษกับนิตยสารพร้อมเมียแกด้วย” สมเจตน์บีบบังคับลูกชายทุกทาง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

“เยอะไปไหมครับ ผมกับมินต์มาเที่ยว ไม่ได้มาทำงาน” คิลเลี่ยนปฏิเสธอ้อมๆ รู้ว่าปฏิเสธตรงๆ ไม่เคยได้ผล

“แกจะขัดฉันทุกอย่างหรือไง ฉันไม่สน ถ้าแกไม่มา ฉันจะให้คนไปลากคอแกมา” สมเจตน์พูดตบท้ายแล้วเดินออกไปจากห้องนี้ทันที

เมื่อเสร็จงานแล้วมินตราลาแฟนคลับ จากนั้นก็คืนห้องให้ทางโรงแรมแล้วขึ้นไปที่ห้องพัก เมื่อทิ้งตัวลงนั่ง คิลเลี่ยนก็ได้รับสายอีก เขาก็คุยเป็นภาษาอังกฤษอยู่พักใหญ่ และตกลงซื้อขายกันเป็นที่เรียบร้อย เขาก็หันไปบอกมินตรา

“บ้านที่จะซื้อ เขาตกลงขายแล้วนะ ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณห้าล้าน ไม่ใช่ที่ตัวเมืองอังกฤษก็ไม่แพงอย่างที่คิด” คิลเลี่ยนบอกภรรยาแล้วดึงเธอมากอด “รู้ไหมพ่อพี่จะบีบคอเราไปเป็นพีอาร์ให้ดาราประดับ แม้แต่พี่ก็จะลากคอเข้าร่วมด้วย ดูเถอะ เป็นเมียพี่เครียดตายเลย”

มินตราหัวเราะนิดๆ แล้วส่ายหน้า “มินต์ไม่คิดมากหรอกค่ะ คิดมากปวดหัว นี่ก็ว่าจะนัดบูมออกมาทานข้าวพรุ่งนี้ บูมตอบโอเคแล้ว ทีนี้พ่อแม่จะลากบอมมาด้วย พี่ว่ายังไง”

“มาเถอะ ถ้าเขาไม่กลัวปากพี่” คิลเลี่ยนหอมแก้มแล้วไล่เข้าใกล้เรื่อยๆ สุดท้ายจูบภรรยา แล้วเขาก็อดใจเอาไว้ ตั้งใจให้การไปเที่ยวเชียงใหม่เป็นการไปเที่ยวที่พิเศษสุด

มินตราถอยมานั่งที่เก้าอี้ยาว ก่อนบอกเขา อยากออกกำลังกายให้มากๆ ร่างกายจะได้แข็งแรง ยังต้องทำงานกันอีกเยอะ “ไปยิมของโรงแรมกันดีกว่าค่ะ อยากไปออกกำลังกายบ้าง จะได้ไม่อ้วนเผะ เดี๋ยวขายไม่ออก”

คิลเลี่ยนฟังอย่างไม่จริงจังนัก ปล่อยเธอลากไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกกำลังกาย

ปัญหาต่างๆ วางลงไว้ก่อน เมื่อเกิดปัญหาก็ใช่ว่าต้องหยุดใช้ชีวิตประจำวัน

**********************************

ร้านอาหารหรูกลางกรุงเป็นแหล่งนัดพบได้ดี มีคนอยู่บ้าง เพราะเป็นวันทำงาน และไม่ใช่เวลาเที่ยง จึงไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีที่นั่ง มินตรากับคิลเลี่ยนก็ใช้ชีวิตปกติ แม้ตอนหลังออกสื่อมากขึ้น แต่ก็คงไม่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปมาก เพราะยังไงเขาก็ต้องกลับอังกฤษกันแน่นอน

พวกเขามาก่อนเวลา สักพักครอบครัวของมินตราก็มา บรรยากาศค่อนข้างอึดอัด บุษบาดูไม่เปลี่ยนไป ท่าทางไม่ชอบขี้หน้าเขามากขึ้นอีกต่างหาก หากคิลเลี่ยนไม่สนใจนัก

มินตรายกมือไหว้พ่อแม่ คิลเลี่ยนก็เช่นกัน แล้วน้องชายฝาแฝดทั้งสองของมินตราก็ยกมือไหว้พี่สาว ท่าทางแต่ละคนเหมือนทำตัวไม่ถูก พ่อของมินตราต้องลางานเพื่อมาทานมื้อเที่ยงกับลูกสาว ไม่งั้นก็หมดสิทธิได้เจอ เพราะเรื่องที่ภรรยาก่อขึ้นในอดีต แล้วนั่งลงสั่งอาหาร

“พี่มินต์รู้ไหมว่าดังใหญ่แล้ว” บรมตื่นเต้นที่พี่สาวเป็นดาราดังไปแล้ว เขาพูดกับพี่สาวดี เพราะชื่อเสียงที่เริ่มดัง

“บอม พี่เป็นแค่นักแสดงประกอบเท่านั้น อย่าคิดไปไกล เพราะพี่ไม่คิดว่าจะไปไกลกว่านี้หรอก” มินตราไม่สนใจท่าทางน้องชายไม่เอาไหนคนนี้เท่าไรนัก เพราะจนบัดนี้ยังเรียนไม่ได้เรื่อง จึงหันไปถามน้องชายอีกคนมากกว่า “เป็นไงล่ะ ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย หนักไปไหม”

“ดีสิพี่ เข้าใจความเหนื่อยยากที่กว่าจะได้เงินสักบาท ลูกค้าบางคนก็ต่อแล้วต่ออีก คนซื้ออยากได้ถูก คนขายอยากได้แพง สวนกระแสกันเลยครับ” บรรพ์ตอบพี่สาวแล้วก็ดื่มน้ำของตัวเอง

“ยังดีนะ ยังมีเวลามาหาพี่” มินตราพูดแล้วก็ยิ้ม เห็นมีคนแอบมองก็ทำไม่สนใจนัก

“มินต์ก็ช่วยโฆษณาให้น้องสิ น้องจะได้ขายได้เยอะๆ” เมตตาสนับสนุนให้ลูกสาวช่วยน้องชายมากขึ้น ถึงมินตราจะบอกไม่ช่วยเรื่องการเงินแต่ก็ยังมีส่งมาให้นอกเหนือจากค่าเทอมน้องชาย ตามกำลังที่มี เขาก็โล่งใจแล้ว

“หาเงินได้เยอะอย่างนี้ น่าจะส่งให้พ่อแม่เยอะหน่อยนะ หรือจะให้แม่ไปช่วยดูตารางงานให้ไหม เหมือนแม่ดาราหลายๆ คน” บุษบาเห็นช่องก็รีบเสนอตัว อยากมีรายได้โดยไม่ต้องทำอะไร

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ตอนนี้พี่เคเขาช่วยดูแลอยู่ อีกอย่างต้องเดินทางต่างประเทศบ่อยกันอยู่แล้ว พี่เคเขาว่างๆ อยู่ก็จะช่วยดูแลให้ค่ะ แต่ถ้างานเยอะกว่านี้ มินต์ก็ค่อยหาจ้างผู้จัดการ แม่ทำไม่เป็นหรอก จะทำให้ตารางงานวุ่นเปล่าๆ เพราะมินต์ทำงานหลายอย่างไม่ได้แสดงอย่างเดียว” มินตราบอกแล้วถอนหายใจยาว ไม่อยากให้แม่เข้ามาวุ่นวายเรื่องเงินของเธอ

บุษบาไม่ค่อยพอใจนัก เริ่มมองว่าลูกเขยมาเกาะลูกสาวกิน เพราะคิดว่าลูกสาวตนโด่งดังแล้ว ลูกเขยก็มาหาประโยชน์ แต่ไม่คิดว่ากลับกันตนเองหาประโยชน์จากลูกสาวมานาน โดยอ้างให้ลูกสาวส่งเสีย

“แล้วคุณไม่ทำการทำงานเลยหรือยังไง” บุษบาหันไปถามลูกเขย ส่งสายตามองอย่างไม่ไหวใจ เหมือนมีคนมาแบ่งส่วนแบ่งจากลูกสาวเพิ่ม

มินตราได้ฟังก็โกรธ จึงปรามแม่ “ถ้าแม่จะพูดหาเรื่องพี่เคล่ะก็ แม่ไม่ต้องพูดเลยดีกว่า ตอนฉันลำบากอยู่เมืองนอก ใครช่วยเหลือฉันบ้าง ถ้าไม่ได้พี่เค ฉันจะมีวันนี้เหรอ งานแสดงหนัง พี่เคเขามีเพื่อนทำหนัง เขาก็จ้างมินต์เพราะเกรงใจเพื่อน ตอนแรกแค่ประกอบฉาก ได้เงินไม่เท่าไร ก็เจียดเงินมาให้พ่อแม่ ยังจะว่าพี่เคอีกแบบนี้ก็ไม่ต้องคุยกัน”

คิลเลี่ยนเห็นมินตราโกรธจัดก็ส่ายหน้าช้าๆ แล้วเตือน “ใจเย็นๆ สิ ที่รัก”

“ปกป้องเหลือเกินนะ เงินที่แกส่งมาก็แค่เศษเงินของแก ยังมีหน้ามาว่าแม่อีก ถ้าแกกตัญญูจริงๆ ก็น่าจะส่งเสียให้มากกว่านี้” บุษบาก็โกรธลูกสาวที่ปกป้องสามีจนเกินไป เห็นลูกสาวอยู่สุขสบายก็ยิ่งตำหนิที่ไม่ดูแลพ่อแม่ให้ดีกว่านี้

“เศษเงินเหรอ?” มินตราถามให้แน่ใจ คิ้วงามคู่นั้นแทบขมวดเข้าหากัน

“เออสิ แกเล่นหนังเรื่องหนึ่งก็ได้เป็นล้าน แค่ให้พ่อแม่ไม่กี่หมื่นบาท ไม่เศษเงินหรือยังไง” บุษบาเข้าใจไปว่ามินตราได้ค่าตัวเยอะ และมั่นใจว่าลูกสาวต้องได้เงินเยอะ

คิลเลี่ยนก็หัวเราะกับความคิดคับแคบของแม่ยายเขา แต่ไม่พูดอะไร ไม่มีประโยชน์อะไรจะพูดกับคนโง่เขลาอย่างบุษบา เขาจึงแค่หัวเราะเท่านั้น ทำให้บุษบาโกรธจัดกว่าเดิม

“มึงหัวเราะอะไร” บุษบาชี้หน้าคิลเลี่ยนทันที แล้วก็พูดสิ่งที่คิดออกมา “หนอยแหนะ แกมันก็แค่แมงดามาเกาะชายกระโปรงลูกสาวฉันกิน วันๆ คงไม่ได้ทำมาหากินอะไรเลยสินะ เที่ยวตามลูกสาวฉันต้อยๆ ว่างงานนักก็หัดไปหางานทำเสียบ้าง หาเงินหาทองเลี้ยงดูเมียเสียบ้าง ไม่ใช่ให้เมียหาเงินงกๆ ตัวเองใช้เงินสบาย”

“จะบ้าหรือไง บุษ เธอมาด่าคุณเคเขาทำไม เขาคอยดูแลลูกสาวเรานะ” เมตตารีบห้ามภรรยา เพราะเห็นลูกสาวเงียบไม่พูดอีก แปลว่าใกล้ถึงจุดแตกหักแล้ว

คิลเลี่ยนรู้ใจมินตรา ก็วางเงินไว้ให้ห้าพัน เพื่อจ่ายค่าอาหาร “ขอบคุณที่มาพบ มินต์บอกผมว่าไม่อยากจะนัดพวกคุณเลย แต่ผมก็บอกให้นัดทานข้าว และทำให้ผมรู้ว่าครั้งนี้ผมคิดผิดจริงๆ”

“เฮ้ยๆ มาด่าแม่กูทำไมวะ” บรมก็พูดเข้าข้างแม่ มองหน้าพี่เขยอย่างรังเกียจและไม่พอใจมาก

“เขายังไม่ได้ด่า แกไปว่าพี่เคเขาทำไม” บรรพ์เข้าข้างพี่เขย เพราะคู่แฝดเขากับแม่โกรธบ้าโกรธบออะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ เขาก็ลำบากใจ รู้งี้นัดกับพี่สาวคนเดียวดีกว่าให้มาทำลายบรรยากาศแบบนี้

“มันว่าแม่กลายๆ นั่นแหละ” บรมแก้ตัวน้ำขุ่นๆ วุฒิภาวะทางสังคมเขาต่ำแบบไม่รู้ตัว เพราะมัวแต่เล่นเกมไปวันๆ สุดท้ายเรียนก็ไม่จบ ต้องอยู่ให้พ่อแม่เลี้ยง โดยไม่รู้ว่าบางทีคู่แฝดก็เป็นคนหาเลี้ยงเขาด้วย

“ไม่เห็นเขาจะว่าแม่สักคำ แม่ต่างหากที่ไปด่าเขา” บรรพ์พูดตามเหตุผล ก่อนจะบอกให้พี่สาวกับพี่เขยใจเย็น และพยายามไกล่เกลี่ย “ใจเย็นๆ นะพี่ แม่ก็ไม่ได้ตั้งใจ”

“ไว้นัดกันใหม่ มาแต่พ่อกับบูมก็พอ คนไหนไม่พอใจพี่เค ไม่ต้องมา” มินตราบอกอย่างหงุดหงิด ก่อนยกมือไหว้ลาพ่อและแม่ที่ไม่สนใจรับไหว้ แค่อยากด่าลูก แต่เมตตาส่ายหน้าห้ามไว้ตลอด

“ดูมัน เห็นผัวดีกว่าพ่อแม่ มันไม่เคยเห็นพ่อแม่ดีกว่าคนอื่นเลยจริงๆ ไม่คิดเลยว่ามันโตขึ้นจะเนรคุณแบบนี้” บุษบานั่งลงทานอาหารที่มาลงโต๊ะ ขณะที่เมตตาเอาเงินที่คิลเลี่ยนวางไว้มาใส่กระเป๋า เพราะกลัวว่าภรรยาจะเอาเงินไปหมดจนไม่มีเงินจ่ายค่าอาหาร

“เธอน่ะสิปากเสีย ลูกอุตส่าห์มาเลี้ยงข้าว เสือกไปด่าผัวเขา เขานั่งเฉยๆ ไม่ได้ว่าเธอ เธอก็ด่าๆ” เมตตาถอนหายใจยาว ก่อนจะตบท้ายได้เจ็บแสบ “ฉันไม่น่าเสียคนเพราะเธอเลยจริงๆ ตอนนั้นถ้าไม่ไปหลอกลูก ลูกจะหนีไปหาผัวไหม อีกอย่างนะ ถ้ามันไม่คิดถึงเธอกับฉัน มีเหรอจะส่งเงินมาให้ นี่เธอยังไปด่ามันกับผัวอีก เจริญล่ะ มันคงไม่ส่งเงินมาให้แล้ว ทีนี้เธอก็ไปช่วยไอ้บูมทำขนมขายแล้วกัน”

“ไม่เอาล่ะ ฉันไม่ได้ทำมาตั้งนาน จะให้ไปทำอีกเหรอ” บุษบาไม่อยากเหนื่อย แค่ทำงานบ้านก็ว่าเหนื่อยแล้ว อยู่สบายจนเคยแล้วไม่อยากไปทำขนมอีก

“เธอก็ทำมาได้ตั้งนาน ทำไมถึงคิดจะมาเหนื่อย” เมตตาส่ายหน้าช้าๆ ก่อนมองหน้าบรมที่ทานอาหารอร่อยๆ อย่างสบายใจ เขาก็หันไปด่าลูกชายอีกคน “แกก็เหมือนกัน หน้าอย่างแกยังหาเงินหาทองไม่ได้ เสือกจะไปหาเรื่องพี่เขยแกอีก เรียนก็ไม่เรียน วันๆ เล่นแต่เกม แทนที่จะไปช่วยไอ้บูมมันขายขนม”

“โอ๊ย งานหนักเงินน้อย ไม่ไปหรอก นั่งจัดขนมให้รถทัวร์ ได้กำไรกล่องละห้าบาทหรือเปล่าก็ไม่รู้ หลังขดหลังแข็งแทบตาย ยังไม่ได้เงินห้าร้อยเลย” บรมส่ายหน้าช้าๆ คิดแต่อยากทำอะไรที่มันได้เงินเยอะๆ สบายๆ

“อย่างน้อยลงมือทำยังได้เงินห้าบาท แกนั่งอยู่เฉยๆ หายใจทิ้งไปวันๆ เงินห้าบาทยังไม่ได้” บรรพ์ตอกกลับคู่แฝดอย่างไม่ไว้หน้า ทั้งสองก็เผชิญหน้ากัน แต่ยังไม่ถึงกับวางมวย พ่อก็รีบห้ามเสียก่อน

“พอๆ พอทั้งคู่แหละ กินให้อิ่มจะได้รีบกลับ อายชาวบ้านเขามั่ง” เมตตาไม่รู้จะทำยังไงก็ห้ามปราม จะได้กลับบ้าน ไม่ต้องอายใครนาน

บุษบายังโกรธลูกเขยไม่หาย นึกโทษลูกเขยที่ทำให้ลูกสาวกล้าแข็งข้อกับเธอ เมื่อก่อนเธอชี้นิ้วให้ลูกสาวทำอะไรก็ได้ แต่ตอนนี้แค่พูดอะไรไม่ถูกหู ลูกสาวก็ไม่พอใจ โดยไม่คิดว่าเป็นเพราะตัวเองอยากหลอกเงินลูกสาวมาใช้ ทำให้ลูกสาวโกรธและเข็ดที่ถูกครอบครัวหลอก

**********************************

มินตราถือกระเป๋าแล้วออกจากร้านพร้อมคิลเลี่ยนทันที ไปยังรถที่เช่าไว้แล้วก็ไปจากร้าน มือเธอสั่นด้วยความโกรธและอายที่มีแม่ทำตัวแย่แบบนี้ เมื่ออยู่ในรถ เธอก็ร้องไห้อย่างเงียบๆ

“ไม่เอาน่า พี่ไม่คิดมาก ไม่ถือด้วย” คิลเลี่ยนถูกด่ามามากแล้ว จึงไม่คิดมากอะไร เขาไม่รับเสียอย่าง ใครก็บีบให้เขารับไม่ได้ สุดท้ายย้อนเข้าคนด่าเอง

“มินต์ทั้งเจ็บทั้งอาย แบบนี้ใครจะด่ามินต์เนรคุณเห็นจะไม่ต้องสนใจกันแล้วค่ะ” มินตราตัดสินใจเด็ดขาด ที่ผ่านมาเธอก็ส่งเสียให้ แล้วเรียกว่าเนรคุณตรงไหน

“ใจเย็นๆ สิ ดูพี่สิ พ่อพี่โหดจะตาย พี่ยังทำเฉย มินต์ก็ต้องใจเย็นๆ เข้มแข็งไว้ จะยังไงเราก็หนีพ่อแม่ตัวเองไม่พ้นหรอกนะ” คิลเลี่ยนเตือนภรรยาไม่ให้คิดมาก

“อะไรไม่เท่ามาว่าพี่เค พี่เคมีบุญคุณกับมินต์ ให้ที่ซุกหัวนอน ให้ความช่วยเหลือเมื่อลำบาก ตอนหาเงินไม่ได้พี่ก็ให้เงิน ไม่เคยเอาคืน แล้วนี่แม่มาว่าพี่แบบนี้ มินต์โกรธจริงๆ” มินตราพูดอย่างโกรธๆ แล้วก็ร้องไห้ คิดว่าเวลาสามปีทุกอย่างจะดีขึ้น กลับเลวร้ายลงไปอีก

คิลเลี่ยนปล่อยให้เธอร้องไห้ ก่อนต้องรับสายพ่อแล้วต้องตกใจ “อะไรนะครับ ให้เข้าไปที่บ้าน ตอนนี้เนี่ยนะ ไม่เอาหรอก เดี๋ยวเมียพ่อจะมาตบเมียผม ไม่เอา”

“ไอ้บ้า แกเข้ามาเถอะน่า ไปหาฉันที่บ้านปู่ย่าแก แค่นี้ก็ไม่มีเรื่อง ฉันบอกแพรไว้ไม่ให้ตามไป พอใจหรือยัง” สมเจตน์เห็นลูกชายระแวงเหลือเกินก็ต้องนัดไปเจอกันที่เก๋งจีน...บ้านพ่อแม่เขา

“เฮ้อ” คิลเลี่ยนถอนหายใจยาว มองมินตราร้องไห้แล้วก็ได้แต่รับคำ “ไม่ต้องส่งคนมารับหรอก พ่อ ยังไงผมก็ไป ขี้เกียจมีเรื่องต้องแจ้งสถานทูตว่าโดนพ่อแท้ๆ ลักพาตัว อายชาวบ้าน”

“เออ คิดเองได้มันก็ดี รอกินข้าวเย็นกับแกแล้วก็เมียแกอยู่นะ” สมเจตน์เห็นลูกชายตกลงก็วางสายตามเคย ไม่ต้องพูดยาวให้เสียเวลา

‘กินข้าวเคล้าฝ่าตีนหรือเปล่าวะ’ คิลเลี่ยนคิดอย่างไม่จริงจัง ก่อนพามินตราไปพักที่โรงแรมก่อน เพราะยังไม่ทานอะไรเลย พอทานเสร็จแล้วก็พากันขึ้นห้องพัก เพื่อเตรียมตัวไปบ้านสมเจตน์

“ทานมื้อเย็นเหรอคะ จะดีเหรอ เมียพ่อพี่เขาจะไม่มาแน่เหรอ” มินตราถามให้แน่ใจ ไม่ใช่ว่ากลัวโดนตบ แต่ไม่อยากมีเรื่องซ้ำๆ ในวันเดียว

“มีอะไรเดี๋ยวพี่จัดการเอง” คิลเลี่ยนรับรอง

เขาไม่ก้าวก่ายเรื่องในครอบครัวเธอและปล่อยให้เธอจัดการ ดังนั้นเรื่องในครอบครัวฝ่ายเขา เขาก็จะจัดการเอง ไม่ต้องให้เธอออกหน้า เดี๋ยวจะทำให้เธอต้องเดือดร้อน เพราะเธอมีเรื่องให้คิดมากพออยู่แล้ว

มินตราได้แต่รับคำ แล้วก็เข้าไปล้างหน้าล้างตา เพื่อแต่งหน้าใหม่ แล้วออกมานั่งทำงานรอเวลาไปเจอครอบครัวเขา แม้จะเครียดเรื่องพ่อแม่และน้องอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยก็มีน้องคนหนึ่งที่พอจะเชื่อถือได้อยู่

ความโชคดีในความโชคร้าย...

**********************************

บรรยากาศของบ้านที่อาณาบริเวณติดๆ กันไปสองหลังก็ทำให้มินตราเกร็ง เพราะเคยมาและเจอเหตุการณ์ไม่ดี ก่อนหน้านี้เธอก็เจอแพรพลอยแสดงท่าทีรังเกียจอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้เธอแต่งงานกับคิลเลี่ยนยิ่งทำให้แพรพลอยเกลียดขี้หน้าไปอีก ทั้งยังการเต้นรำกับสมเจตน์เมื่อสามปีก่อน ทำให้แพรพลอยคิดว่าเธอมาหว่านเสน่ห์กับคนในบ้าน ดีที่ทางอังกฤษไม่สนใจข่าวร้ายๆ ที่แพรพลอยพยายามทำ มินตราจึงไม่สนใจนัก

“มากันแล้วค่ะ” แม่บ้านมารายงานให้คนในบ้านรู้ แล้วถอยหลบตามหน้าที่

สมเจตน์ก็แค่ถอนหายใจยาว พ่อแม่เขาวัยชราก็ถอนหายใจเหมือนกัน เพราะกลัวว่าจะต้องมีปัญหาตอนแก่ ส่วนโชติอยากเจอมินตราอีกครั้งก็มารอเจอด้วย

มินตรามาในชุดกระโปรงสุภาพแต่ทันสมัยแบบอังกฤษ สีครีมเรียบง่าย เพราะมาพบผู้ใหญ่ เธอยกมือไหว้ทุกคนทันที โดยไม่ต้องรอให้แนะนำ คิลเลี่ยนก็ยกมือไหว้ แล้วมองเก๋งจีนแห่งนี้ที่เขาเคยมาอยู่ แต่แพรพลอยไม่วายมาหาเรื่องเขาถึงบ้านอากงอาม่า

“นั่งก่อนสิ มื้อเย็นยังไม่ขึ้นโต๊ะ” สมเจตน์บอกลูกชายกับลูกสะใภ้ แล้วก็หันไปสั่งโชติ “แกก็กลับไปที่บ้านได้แล้ว พ่อกับปู่ย่ามีเรื่องจะคุยกับไอ้คิลเลี่ยนกับเมียมัน ไปสิวะ”

โชติมองมินตราอย่างแสนเสียดาย ใครจะคิดว่าเธอจะมีวันนี้ ถึงเขาจะรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยและเต้นเก่ง ก็ไม่คิดว่าเธอจะไปได้ไกลหลังเลิกกับเขา เมื่อพ่อย้ำมากเข้า เขาก็ออกไปจากบ้านนี้อย่างเสียดาย

คิลเลี่ยนขมวดคิ้วไม่รู้ว่าพ่อคิดอะไร ถึงไล่น้องชายไป แต่ก็รอให้พ่อพูดแทนดีกว่า เบื่อจะคาดเดาสิ่งที่พ่อจะพูด

“ได้ข่าวว่าแกกำลังหาซื้อบ้านอยู่เหรอ” สมเจตน์ตามข่าวได้ไม่ยาก เพราะมินตราเป็นคนซื่อ พอแฟนคลับถามมากเข้าๆ หล่อนก็บอกไปหมดว่ามาเมืองไทยเพื่อหาซื้อบ้าน

“ก็ใช่ครับ” คิลเลี่ยนตอบสั้นๆ อยากออกไปจากบ้านนี้ได้ ก็ต้องไม่กวนประสาทมากนัก

สมเจตน์ยื่นโครงการบ้านให้ แล้วบอกกึ่งสั่ง “เลือกมาสักหลัง”

มินตราเป็นงงที่เจอแบบนี้ จึงมองหน้าคิลเลี่ยนทันที เพราะไม่รู้ควรทำอย่างไร

“โอ๊ย ผมซื้อไม่ไหวหรอกครับ เป็นสิบล้านแบบนี้ อีกอย่างหลังใหญ่ไป ผมกับมินต์อยู่เมืองนอกซะเยอะ ไม่มีเวลาดูแลหรอก กำลังมองหาบ้านหลังเล็กๆ พอดูแลไหว เอาไว้อยู่พักผ่อนตอนกลับมาจากอังกฤษครับ” คิลเลี่ยนปฏิเสธทันที กลัวโดนทวงบุญคุณภายหลัง ก็รู้ดีว่าบ้านนี้ชอบทวงบุญคุณ แม้พ่อจะไม่เคยทวงแต่เมียพ่อทวงจนถึงขั้นเขาเนรคุณไปแล้ว

“ก็ใครจะให้แกซื้อล่ะวะ พ่อกับปู่ย่าจะซื้อให้” สมเจตน์บอกลูกชาย รู้ว่าไอ้ตัวแสบชอบระแวง แต่เมื่อปรึกษาพ่อแม่แล้ว เขาก็เห็นว่าเป็นการดีที่จะได้ให้อะไรกับไอ้ตัวแสบนี่บ้าง

“ตลก คุณนายไม่ด่าเปิงเหรอ หรือมีเจตนาแอบแฝง จะมาผูกมัดผมกับมินต์ไม่ได้นะ ผมกับมินต์ไม่เอาด้วยหรอก” คิลเลี่ยนพูดอย่างระแวง เพราะพ่อเขาน่ากลัวน้อยเสียที่ไหน

สมเจตน์รำคาญท่าทียึกยักของลูกชาย ก็ตะคอกเสียงดัง “กูจะซื้อให้มึง ก็อย่าเล่นตัวหน่อยเลยวะ ได้บ้านไปก่อน เรื่องอื่นคิดทีหลังไม่ได้หรือยังไง ไม่งั้นจะเลือกให้”

“ใจเย็นๆ สิคะ เลือกแล้วค่ะ พี่เคเลือกเถอะ คุณสมเจตน์หวังดีกับพี่นั่นแหละ” มินตรารีบห้ามและไกล่เกลี่ย กลัวไม่ได้กลับไปทำงานที่อังกฤษพร้อมเขา

“ทำไมแกต้องหาเรื่องพ่อแกด้วยวะ ก็รู้นี่ว่าพ่อแกน่ะใจร้อน ดูอย่างหนูมินต์สิ เขายังรู้เลยว่าพ่อเขาหวังดี ค่อยๆ เลือกกันไปก็แล้วกัน” กมลส่ายหน้าช้าๆ แต่จะโทษหลานชายไม่ได้ เพราะประสบการณ์ด้านลบที่เกิดจากลูกชายเขาก็มากพอให้คิลเลี่ยนไม่ไว้ใจ

คิลเลี่ยนมองบ้านแล้วก็ตำแหน่งที่พนักงานขายเขียนไว้ เอาที่ไม่ห่างจากสโมสรและขนาดไม่ใหญ่มากนัก ปริมาณห้องไม่เยอะ ดูแลง่ายหน่อย แต่ก็ราคาเป็นสิบกว่าล้านเกือบยี่สิบล้าน มีสระว่ายน้ำเล็กๆ ให้เขาได้ออกกำลังกาย

“แน่ใจนะครับว่าไม่ได้ต้องการอะไรจริงๆ” คิลเลี่ยนถามย้ำให้แน่ใจ โทษที่เขาระแวงไม่ได้ ชอบมีอะไรแอบแฝงอยู่เรื่อย

“แกนี่มันยังไงวะ พ่อแกเขาจะให้ของยังจะคิดเล็กคิดน้อยอยู่นั่นแหละ” สายใจส่ายหน้าช้าๆ หงุดหงิดหลานชายอยู่มาก หมั่นไส้ท่าทางของมัน แต่ก็พยายามใจเย็น เพราะสามีกับลูกชายก็คอยอธิบายว่าคิลเลี่ยนจำฝั่งใจอยู่เยอะ

“ถ้าฉันต้องการอะไรจากแกล่ะก็ ฉันจะจับแกเซ็นสัญญา ถ้าสัญญาปากเปล่า แกก็ไม่ต้องกังวล พอใจไหม” สมเจตน์ส่ายหน้าช้าๆ เจ้าลูกชายคนนี้มันขี้ระแวงตลอด ก่อนจะหันมาคุยกับลูกสะใภ้แทน “ยังออกแบบเครื่องประดับอยู่ไหม”

“ค่ะ” มินตราตอบสั้นๆ ไม่อธิบายความ เรื่องความลับของลูกค้าเป็นเรื่องที่เธอต้องระวังมากๆ

“ถ้าฉันจะจ้างเธอออกแบบบ้างล่ะ เธอจะคิดยังไง” สมเจตน์ถามลูกสะใภ้ เพราะรู้มาว่าลูกสะใภ้ออกแบบงานทำให้ร้านที่เธอไปทำงานได้รับรางวัลสองปีซ้อน ปีที่ผ่านมาถึงจะไม่มีผลงาน แต่ก็นับว่าช่วยการันตีความสามารถของหล่อนได้ดีพอสมควร

“ตอนนี้ฉันไม่ว่างค่ะ รับงานมาสองที่แล้วค่ะ ยังงานแสดงอีก กลัวว่าทำงานได้ไม่เต็มที่ค่ะ อีกพักใหญ่ๆ กว่าจะมีเวลาว่าง” มินตราบอกตามตรง ไม่ต้องปิดบัง และไม่ปฏิเสธตามตรง พออยู่กับคิลเลี่ยนนานๆ เธอก็พอเข้าใจปฏิกิริยาของพ่อเขาบ้าง จึงเลือกทางที่ประนีประนอมที่สุด

“เก่งนะ พอออกจากร้านก็มีงานเข้าเลย เอาเถอะ ไว้เธอหาเวลาได้ มาคุยงานกับฉัน ฉันมีงานให้เธอแน่” สมเจตน์พยักหน้าช้าๆ พิจารณาแล้วก็เสียดายที่ตัดสินใจปล่อยมินตราไป เพราะตอนนั้นไม่รู้ว่ามินตราจะเป็นอย่างทุกวันนี้ แต่เขาก็ไม่ถึงขั้นบีบบังคับเหมือนลูกเขา

“ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ เขาคิดธีมกันอย่างรวดเร็ว ให้แกกับเมียแกในรูปแบบของคนรักกับเครื่องเพชร นอกจากฉันจะให้พวกแกคนละแสนแล้ว ยังจะมีเงินเพิ่มให้ ถ้ารับงานต่อเนื่อง ตอนนี้ฉันอยากส่งออกเครื่องเพชรพลอยสีต่างๆ ทับทิมแล้วก็มรกต แล้วจะให้แหวนเพชรคนละวงเป็นแหวนแต่งงาน ดูเถอะ ทำไมแกถึงได้ทำอะไรลวกๆ อย่างนี้ แทนที่ตอนนั้นจะบอกฉันสักคำว่าจะแต่งงาน ฉันจะได้สั่งทำแหวนเพชรให้แก จะได้ไม่ขายหน้ามาถึงฉัน” สมเจตน์คุยงานแล้วตำหนิลูกชายเล็กน้อย

“ก็พ่ออยากจะจับผมแต่งงานกับลูกสาวหุ้นส่วนทำไมล่ะ ผมก็เลยรวบรัดตัดความ แต่งงานทันที แต่ยังไงก็อยู่ด้วยกันแล้ว มินต์เขาไม่สนใจพิธีมาก ก็แค่จดทะเบียนกันก็เท่านั้น” คิลเลี่ยนแก้ตัวไปเรื่อยๆ ขี้เกียจอธิบายความใดๆ มันเป็นเรื่องของเขากับมินตรา

“เออๆ ช่างมัน ไปกินข้าวดีกว่า” สมเจตน์พูดเสียงแข็งกับลูกชาย ทำยังไงคงยากจะให้ลูกชายเชื่อถือเขา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจนัก แล้วลุกขึ้นไปที่โต๊ะอาหาร จากนั้นก็ค่อยพูดต่อ “พรุ่งนี้แกมาทำเรื่องโอนบ้านด้วยแล้วกัน ฉันจะได้เซ็นเช็คซื้อขายให้เสร็จ”

“เร็วอย่างนั้นเชียว” คิลเลี่ยนถามอย่างแปลกใจ

“หมู่บ้านนี้ลูกเพื่อนฉันเขาเป็นเจ้าของโครงการ เขาส่งพนักงานขายมาเมื่อเช้านี่เอง ได้ทุกอย่างที่ฉันอยากจะได้ ฉันก็เรียกแกมาเนี่ยแหละ มีเฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่ ก็พอดีแกกลับจากเชียงใหม่ก็ย้ายเข้าอยู่ได้เลย” สมเจตน์ตั้งใจซื้อแบบสำเร็จ จะได้ไม่เสียเวลาคิดอะไรมาก

“สิบล้านกว่าเนี่ยรวมค่าตกแต่งหรือยัง” คิลเลี่ยนถามให้แน่ใจ เขาต้องวางแผนทางการเงินเหมือนกัน

“มันก็มีบ้าง แต่ก็มีไม่ครบ แกก็ไปเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เสร็จพรุ่งนี้ กลับมาย้ายเข้าก็จบ” สมเจตน์พูดอย่างไม่คิดมาก

คิลเลี่ยนขี้เกียจจะวุ่นวายกับพ่อ ก็เข้าไปนั่งทานมื้อค่ำอย่างสงบ เพราะดูเหมือนชีวิตของพ่อเขาอะไรๆ จะง่ายไปเสียหมด ขณะที่ชีวิตของเขาต้องพยายามด้วยตัวเองทั้งหมด แม้พ่อเลี้ยงจะให้ความช่วยเหลือ แต่อะไรที่เขาทำเพื่อตัวเองได้ เขาจะทำด้วยตัวเอง

“ตกลงแกออกจากงานมาทำหน้าที่ผู้จัดการให้เมียแกหรือไง” สมเจตน์รู้เรื่องหมดแล้ว และไม่เห็นด้วยที่ลูกชายจะคอยตามจัดการปัญหาให้ภรรยาแต่ฝ่ายเดียว ลูกชายของเขาต้องทำงานที่มีเกียรติกว่านั้น

คิลเลี่ยนมองหน้าพ่อแล้วส่ายหน้า “ทำคั่นเวลาแล้วก็ประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย เพราะว่าจะแต่งเพลงดู เผื่อจะเอารุ่งด้านดนตรีให้มากกว่านี้”

“มาทำงานกับฉันไหม” สมเจตน์ถามลูกชายอยากจะดึงลูกชายมาช่วยงานมากกว่า

“ไม่ดีกว่า ไม่อยากทะเลากับเมียพ่อ” คิลเลี่ยนปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด เรื่องอะไรเขาจะเอาคอมาพาดเขียง

“แกแน่ใจเหรอว่ามีฝีมือพอจะทำแบบนั้น ถ้ามี ป่านนี้แกคงดังไปนานแล้ว” สมเจตน์พูดตามตรง ทำหน้าดูถูกนิดๆ

สองพ่อลูกคู่นี้ไม่มีใครยอมใคร...ซึ่งเวลานี้ ถือว่าน้อยมากแล้ว ถ้าเทียบกับตอนที่คิลเลี่ยนเป็นวัยรุ่น

“ยังไม่ลองก็ไม่รู้ ต้องลองดูก่อน” คิลเลี่ยนบอกตามตรง เขายังเป็นคนหนุ่มที่ยังสามารถผ่านอะไรอีกมาก

“เออ ลองไปเถอะ” สายใจรำคาญก็บอกหลานชายไป

คิลเลี่ยนก็ไม่พูดต่อ ขี้เกียจกวนอารมณ์คนแก่ ยังไงตอนเขาเด็กๆ ปู่ย่าก็ช่วยดูแลเขา แต่เพราะคนบ้านนี้พูดจาโผงผางไปอย่างนั้น เขาก็พูดให้มินตราเตรียมใจไว้บ้าง ไม่ถึงกับอึดอัด แต่ก็ลุ้นพอสมควร

**********************************

บรรยากาศเมืองเหนือช่างเย้ายวนใจ คิลเลี่ยนกับมินตราเลือกพักบนเขาสูง เพื่อซึมซับความเงียบสงบ เมื่อเข้าห้องได้คิลเลี่ยนก็รวบมินตราเข้ามากอด แล้วจูบเป็นพัลวัน กระตุ้นอารมณ์ภรรยาสาวให้ร้อนแรงขึ้น

“พี่เค ปล่อยก่อนค่ะ” มินตราพยายามห้ามเขาแต่ก็ยากเต็มที เพราะดูเขาวุ่นวายไปหมด สุดท้ายเธอก็นอนบนเตียงมีเขาทาบทับอยู่ และพยายามถอดเสื้อผ้าเธอออก “พี่เค อย่าสิคะ กลางวันอยู่เลยนะคะ”

“ทำไมต้องรอให้มืด ยังไงก็ไม่มีใครมายุ่งกับเราหรอกน่า พักริมน้ำ เสียงน้ำกลบหมดแหละ ไม่มีใครมาวุ่นวายหรอก เขาก็บอกไงว่ามีอะไรโทรไปได้” คิลเลี่ยนบอกแล้วจูบเธอให้วุ่นวาย เก็บกดมานานเพิ่งได้ปลดปล่อย

เขาอาจไม่เคยรีบร้อน แต่ตอนนี้โอกาสเป็นของเขา เขาก็คว้าไว้ เขานัวเนียเล้าโลมอยู่นาน เห็นมินตรานิ่งก็หยุดมือ แล้วมองเธอท่าทางกลัวๆ หลับตานิ่ง ก็หัวเราะ “กลัวอย่างนั้นเชียวเหรอ”

มินตราทำใจมาแล้ว พอถูกเขาจู่โจมมากก็แตกตื่นได้เหมือนกัน พอเขาถามก็ตอบอย่างไม่แน่ใจนัก “เปล่าคะ”

“เปล่าแล้วทำไมหลับตาอย่างนั้นล่ะ” คิลเลี่ยนหยุดแล้วก็ลงไปนอนด้านข้าง เสื้อเธอถูกถอดออกแล้วเหลือแต่เสื้อชั้นใน เธอก็กอดอกไว้ เขาก็จับเธอพลิกตะแคงมาทางเขา แล้วมองให้เต็มตาอีกครั้ง

มินตราไม่กล้าสบตาเขา หน้าแดงชัดเจน ก็รู้ว่าเธออายมาก ในห้องเปิดแอร์เย็นฉ่ำ

“เวลาแสดงหนังไม่เห็นจะอาย” คิลเลี่ยนถามแล้วเอามือลูบแขนเธอ เหมือนปลอบให้เธอหายกังวล

“ก็นั่นมันแสดงหนังนี่คะ เขาไม่ได้ทำจริงๆ สักหน่อย” มินตราแก้ตัว เพราะเวลาที่เธอเต้นรำ ยังไงคู่เต้นก็ต้องลูบเอวสะโพกเธอยู่แล้ว เธอจึงไม่อายเท่าไรนัก

คิลเลี่ยนหัวเราะแล้วเชยคางเธอจูบเบาๆ อย่างอ่อนโยน เขาปรับท่าทีเสียใหม่ให้อ่อนหวานกว่าเดิม “ไว้ใจพี่เถอะน่า” แล้วเขาก็ลุกไปปิดม่านทึบ ให้เหลือแสงสว่างน้อยที่สุด แล้วค่อยกลับมาขึ้นเตียง เขาก็ถอดเสื้อผ้าออกหมด

มินตราพยักหน้าช้าๆ แล้วก็ยอมถอดสิ่งที่เหลือออก ปล่อยให้เขาโอบกอดลูบผิวเนียนที่เธอดูแลมาตลอด เพื่องานที่ทำอยู่ ลมหายใจสั่นสะท้านเป็นห้วงเมื่อเขาจูบมาถึงท้องน้อย เพราะความไม่คุ้น จึงหลับตาจิกหมอนอย่างตื่นเต้น

คิลเลี่ยนมีชั้นเชิงดีกว่าอยู่แล้ว เพราะเขาเคยเจอสาวบริสุทธิ์มาไม่น้อย จึงขยับขึ้นแล้วจูบเธอดูดดื่ม สอนเธอทีละนิดให้คุ้นกับรอยจูบที่แสนประทับใจ จากนั้นก็พยายามปลดมือเธอจากหมอนแล้วประสานมือเธอไว้ข้างหนึ่ง จับอีกข้างมาวางไว้ที่ต้นคอเขา และยังคงจูบเธออยู่อย่างนั้นให้เธอรู้สึกดี

เขากระตุ้นเธอทีละนิดอย่างไม่เร่งร้อน ตัวเขาเองก็พยายามสะกดความต้องการอย่างยากเย็น รู้ว่าจะทำให้เธอคุ้นเคยกับเขาต้องอาศัยเวลาไม่ใช่เพียงความต้องการเบื้องลึกเท่านั้น

มินตราหอบหายใจช้าๆ เมื่อเขาก้มลงจูบยอดปทุม เขาบดจูบขยี้หนักเบาเป็นจังหวะจนเธอสะท้านไปทั้งร่างกาย ขาเขาก็สัมผัสเนื้ออ่อนเธอเบาๆ ยิ่งรู้สึกไวสัมผัส จึงเบียดขาเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว

“อย่าเกร็งสิที่รัก” คิลเลี่ยนรู้สึกได้ว่าเธอหนีบขาแน่นมาก ก็เล้าโลมให้เธอผ่อนคลายมากขึ้น ตอนนี้ตัวเขาทั้งตัวทาบทับบนร่างบาง หากยังไม่รุกเร้าเท่าที่ใจต้องการ เขาจะทำให้เธอปลดปล่อยแรงปรารถนามากขึ้น เพื่อความสุขสมของทั้งสองมิใช่ความเห็นแก่ตัว

อกอิ่มแอ่นขึ้นรับริมฝีปากเขา มินตราปล่อยตัวปล่อยใจเสียจนสติกระเจิดกระเจิง รู้สึกชุ่มฉ่ำไปทั้งร่าง กับความร้อนระอุอยู่ภายใน เมื่อนั้นคิลเลี่ยนก็รู้ว่าเธอพร้อมแล้วและเขาก็พร้อมเช่นกัน เขาจึงแทรกผ่านเข้าไปในร่างกายเธอทีละน้อย โดยที่เธอไม่ทันได้รู้สึกตัว เพราะเขารุกคืบไปทีละนิด เล้าโลมไม่ให้เธอได้ทันหวาดระแวง

ระดับเขาทำให้หญิงสาวแรกประสบการณ์ได้พบความสุขมาไม่น้อย เขาประเคนความสุขให้จนเธอไม่ทันได้รู้สึกเจ็บ เพราะความเจ็บปวดนั้นไม่อาจสู้ความสุขสันต์รัญจวนใจได้ มินตราหอบหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนตกใจเมื่อเขาหยุดและรู้ได้ว่ามีบางสิ่งผ่านเข้ามาในร่างกายเธอ

“ใจเย็นๆ ที่รัก พี่จะค่อยๆ ขยับไม่ต้องกังวล” คิลเลี่ยนปลอบให้มินตราสงบแล้วเธอก็หลับตาอีกครั้ง เมื่อเธอผ่อนคลาย เขาก็ขยับได้สะดวกขึ้น จังหวะรักของเขาเริ่มต้นอย่างเอื่อยเฉื่อย สะโพกของมินตราก็ขยับตามเขาโดยที่เธอไม่อาจบังคับได้

ขณะนี้เธอปล่อยให้เขาเป็นผู้ควบคุมร่างกายและความต้องการ เม็ดเหงื่อถูกสะบัดออกจากร่างตามจังหวะของเขา ทั้งที่แอร์เย็นฉ่ำแต่ร่างกายกลับระบายความร้อนระอุที่สุ่มอยู่ออกมา

มินตราพยายามกัดฟันไม่ให้ส่งเสียง รู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า เขาปรับจังหวะช้าบ้างเร็วบ้างจนเธอใจจะขาดอยู่แล้ว

คิลเลี่ยนเห็นอย่างนั้นก็ก้มกระซิบที่ข้างหู “ไม่ต้องอายหรอก มินต์ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติเถอะที่รัก อย่าไปฝืนเลย”

มินตราพยักหน้าช้าๆ แล้วผ่อนลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ สักพักเสียงก็พ้นริมฝีปากครางอย่างสุขสม ทำให้คิลเลี่ยนจับจังหวะได้ถูกว่าเธอชอบแบบไหน ไม่ชอบแบบไหน ปรับกันจนเข้าใจและร่ายเพลงรักเร่าร้อนต่อเนื่องอีกนาน

**********************************

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
เกิดอะไรขึ้นนะเนี่ย ไม่ใช่วันหวยออก ไม่ใช่วันสำคัญ
แค่เป็นวันอยากจะโพสต์นิยายค่า
^^ ให้กำลังใจน้องมินต์มากๆ นะคะ
คุณนายเพลิงวารีจะได้มาโพสต์นิยายไวไวอีกค่า
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

แฟนเพจคือ https://www.facebook.com/plerngwaree
แอดเพื่อนได้ที่ https://www.facebook.com/plerngwareebz

ขอบคุณคอมเม้นจาก
คุณร้อยวจี - ขอบคุณค่ะ ^^
คุณใบบัวน่ารัก - พ่อสามีคงไม่มีรีดไถหรอกค่า ^^ รายนั้นเขารวยจริงจัง
คุณkonhin - ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใครค่า
คุณคิมหันต์ - ความรักขยับทีละนิดค่า ^^

คุณนอนดูดาว - เป็นคลับเลยค่า อิอิ

ป.ล. ขอความร่วมมือ "งด" ช็อป e-Book จากทาง Ookbee นะคะ
เนื่องจากยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมยอดดาวโหลดกับยอดที่เขาให้ไปวางบิลไม่ตรงกันค่ะ
ยังไม่ได้ถามไป แต่มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นนะคะ
เมื่อสงสัยขอหยุดการซื้อจากทางนั้นนะคะ
ขอบพระคุณที่เข้าใจค่ะ

**********************************
eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก

2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว

3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว

4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก

5. ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา (129บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNjMzOCI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/16015/ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา/



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.พ. 2557, 17:22:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.พ. 2557, 17:22:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 2129





<< นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 6   Crying Villain ตอนที่ 8 >>
konhin 20 ก.พ. 2557, 18:34:28 น.
ว้าวววว พี่เคหวานซ้าาาา


น้องแสตมป์ 20 ก.พ. 2557, 18:50:27 น.
กรี๊ดๆ จิกหมอนจิ้นไปกับพี่เค


ใบบัวน่ารัก 20 ก.พ. 2557, 20:47:17 น.
ปวดหัว ใจจะวาย
ร้อนรุ่มมมมม
ถ้าพ่อแม่รับราชการแล้วเกษียนหละ ไม่ต้องทำงานหาเงินแล้ว
พ่อแม่มีเงินเอง แล้วมันไม่เหมือนกันกับครอบครัวนางเอกเราใช่ปะ
ฝั่งพระเอกก็แย่ น้อ ความฝังใจ เกลียจแรง


คิมหันตุ์ 20 ก.พ. 2557, 23:53:49 น.
รอความหวาน มันส์ตอนต่อไปฮ่ะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 21 ก.พ. 2557, 01:29:15 น.
จิกๆๆๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account