ดวงใจอธิษฐาน ซีรีส์ชุด รอยรักข้ามกาลเวลา
คำอธิษฐานก่อนตายของเธอ ส่งผลมาทุกภพทุกชาติ และไม่ว่าชาติไหนเธอก็ยังเกลียดผู้ชายคนนี้สุดหัวใจ
Tags: ลินิน สาริน พีเรียเ อรุณ

ตอน: ตอนที่ 2 80%

“ฉันกลับเองได้…ค่ะ” หญิงสาวตอบห้วนเป็นมะนาวไม่มีน้ำทว่าเมื่อเห็นสีหน้าจ๋อยๆ ของคนตรงหน้าจึงเติมหางเสียงในตอนท้าย ถึงจะดูช้าไปหน่อยแต่ก็คงดีกว่าไม่เติม แต่ใช่ว่าเธอจะแคร์หรือสนใจกับสีหน้าจืดจ๋อยนั้นแต่เป็นเพราะกลัวว่าเขาจะขัดเคืองจนเกิดความแค้นใจแล้วหาโอกาสทำร้ายเธอต่างหาก
“แต่รถคุณ…”
“ฉันจะไปแท็กซี่” หญิงสาวกระชับกระเป๋าในอ้อมกอดอีกครั้งแล้วเดินไปแต่เขายังเข้าขวาง คราวนี้หญิงสาวชักสีหน้าเข้าใส่ “นี่คุณ…”
“ใจเย็นๆ ครับ ผมแค่จะอาสาไปตามช่างมาให้ แต่ผมเอากระบะมา จะเอาฟีโน่ของคุณขึ้นกระบะหลังผมก็ได้ ถ้าคุณไม่ไว้ใจก็นั่งหลังมีอะไรตะโกนเรียกให้คนช่วยได้ตลอดเวลา”
หญิงสาวลังเลกับข้อเสนอของเขา เพราะหากกลับเข้าไปในร้าน เชื่อแน่ว่าปู่สุนทรจะต้องให้คนไปส่งเธอถึงบ้าน แต่เธอรบกวนเจ้าของร้านทั้งสองมามากแล้ว และวันนี้ลูกค้าในร้านก็ค่อนข้างเยอะ รถจากร้านก็ต้องวิ่งวุ่นกับการส่งของตามที่ต่างๆ
“ชักช้าเดี๋ยวจะมืดค่ำนะคุณ” เขาเร่ง ท้ายสุดจึงค้นหาของบางอย่างในกระเป๋าสตางค์มายื่นให้ หญิงสาวรับมางงๆ เขาจึงไขข้อข้องใจ “บัตรประชาชนผมและบัตรข้าราชการ ผมเป็นอาจารย์สอนวิชาสถิติที่มหาวิทยาลัย….” ชายหนุ่มแจ้งชื่อที่ทำงานพร้อมสรรพแล้วยิ้มกว้างเห็นลักยิ้มบุ๋ม
กัณฐิการับมาดูแล้วทำหน้าลังเล
เอกลิขิต จิตไพศาล….
เป็นข้าราชการ หน้าตาก็ดี คง….ไม่มีอะไร
“มาเถอะครับ เดี๋ยวมืดค่ำจะยิ่งลำบากนะ” ชายหนุ่มทำทีเป็นมองนาฬิกาก่อน หญิงสาวพลิกแขนดูบนข้อมือตัวเองบ้างเห็นว่าใกล้จะสี่โมงเย็นแล้วจึงพยักหน้า เท่านั้นคนอาสาก็หน้าบานรีบขอแรงเด็กแถวหน้าร้านมาช่วยยกมอเตอร์ไซค์ของกัณฐิกาขึ้นรถ
เธอก้าวขึ้นด้านหลังกระบะ ตอนแรกเอกลิขิตคิดว่าจะคะยั้นคะยอให้หญิงสาวมานั่งด้านหน้าด้วยกัน แต่เห็นว่าจะเป็นการเร่งรัดมากไปจึงยั้งไว้เสีย เพราะเท่าที่เขาลงทุนแอบปล่อยลมรถเธอจนล้อแบนติดพื้นทั้งสองข้างก็รู้สึกผิดจะแย่ แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ ก็เขาคิดหาวิธีเข้าถึงเจ้าหล่อนไม่ได้ เล่นปิดประตูหัวใจกันท่าเขาไว้เสียขนาดนั้น ของแบบนี้ในเมื่อบอกตัวเองว่าชอบไม่ได้ด้วยเล่ห์มันก็ต้องขอเอาด้วยกล
เขาขับรถมาอีกไม่ไกลก็ถึงร้านซ่อมรถ ช่างขอเวลาครึ่งชั่วโมงในการปะยางที่รั่วและเติมลมให้เต็ม ด้านหน้ามีเพิงขายน้ำแข็งใส ชายหนุ่มจึงชวนให้เธอไปนั่งรอด้วยกัน ทว่าคนที่มองโลกในแง่ร้ายอย่างกัณฐิกาเริ่มหวาดระแวง เขาอาจจะเอายานอนหลับใส่ในแก้วน้ำดื่มเธอเมื่อไหร่ก็ได้
“คุณกลับเลยก็ได้ค่ะ ไม่ต้องรอเป็นเพื่อนฉันหรอก”
“ได้ไงละครับในเมื่อช่วยแล้วก็ต้องช่วยให้ตลอด ผมไม่ชอบทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ ให้ผมเห็นคุณสตาร์ทรถออกไปได้ก่อนถึงจะสบายใจ เชิญครับผมเลี้ยงเอง” เขาส่งยิ้มหวานละมุนมาให้อีกครั้ง หญิงสาวจึงถอนหายใจ แต่ในเมื่อเขามีน้ำใจมาส่งให้จะปฏิเสธไปก็ใช่ที่จึงยอมเดินตามไปนั่งแต่มองทุกขั้นตอนตั้งแต่แม่ค้าเริ่มทำน้ำแข็งใส มองด้วยสายตาจับผิดว่าจะมีเขาหรือใครใส่อะไรลงไปบ้างหรือไม่
ชายหนุ่มมองตาม ยิ้มในมุมปาก เป็นยิ้มที่ออกมาทั้งปากทั้งตา และเป็นยิ้มที่ทำให้เธอรู้สึกขวางหูขวางตาพาลให้อารมณ์หงุดหงิด
“คุณมองโลกในแง่ร้ายขนาดนั้นเลยหรือคุณกัณฐิกา” คราวนี้ชายหนุ่มเรียกชื่อเธอเต็มยศ
“คุณรู้จักชื่อฉันได้ยังไง” กัณฐิกาย้อนถาม สายตามากด้วยคำถามตามอาชีพพุ่งตรงมา คราวนี้ถือโอกาสพิจารณาใบหน้าหล่อนั้นให้เต็มตา ดูด้วยตาเปล่าผู้ชายคนนี้ดูไม่มีพิษสงใดๆ
“ตอนแรกก็จำมาจากตอนที่คุณคุยกับเจ้าของร้าน ตอนหลังก็ถามเจ้าของร้านไปตรงๆ เลยรู้มาว่าคุณชื่อกัณฐิกา เป็นนักข่าวสยามนิวส์ สายบันเทิง” เอกลิขิตตอบหน้าตาเฉยแต่คนฟังพุ่งสายตาไม่ไว้ใจตรงมาเป็นระลอก
“คุณต้องการอะไรกันแน่”
“ผมชอบคุณ” ในเมื่อเธอถามตรงๆ เขาก็ตอบออกมาตรงๆ เช่นเดียวกัน และมันก็ทำให้นักข่าวสาวสำลักน้ำลายตัวเองก่อนร้องเสียงหลง
“ชอบฉัน!”
“อะไรกันคุณ ดีใจขนาดนั้นเลยหรือไง” เขาหัวเราะแต่หญิงสาวขำไม่ออก
“พูดบ้าอะไรของคุณ” หญิงสาวทำฮึดฮัด หน้าร้อนขึ้นจนเห็นแถบสีแดงจางๆ เป็นริ้วสองข้างแก้มและมันก็ทำให้เขารู้สึกตัวเบาหวิวเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น
สวย…น่ารักไปทั้งเนื้อทั้งตัว
“เอ๊า…ก็คุณถามมาผมก็ตอบไป ผมชอบคุณชอบจริงๆ นะคุณกัณ” เสียงเขาไม่เบาเลยทำให้คนในร้านที่มีอยู่ไม่น้อยกว่าสิบคนหันมามองเป็นตาเดียว หลายคนอมยิ้มมองทำให้เธอยิ่งอาย เป็นไปได้อยากย่อตัวลงให้เล็กเท่าแมลงวันแล้วติดปีกบินหนีไปให้ไกล
“นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะ พูดอะไร” เธอมองหน้ามองหลังแล้วสั่งให้เขาหยุด แม่ค้าเอาถ้วยน้ำแข็งใสมาวางให้ตรงหน้าแล้วยิ้ม ตรงกลางถ้วยมีแผ่นเยลลีเป็นรูปหัวใจ
“พูดความจริงนะสิ เอาน่าคุณ…ผมไม่ได้เร่งรัดให้คุณตอบรับรักวันนี้พรุ่งนี้ซักหน่อย กินน้ำแข็งใสเย็นๆ คลายร้อนเสียก่อนนะ” เขาเลื่อนถ้วยน้ำแข็งใสมาให้แต่เธอรู้สึกฝืดคอกับสายตาของใครต่อใครจนกินไม่ลงเสียแล้วจึงลุกขึ้น แต่เขาก็ตามมากดตัวเธอให้นั่งแล้วจับช้อนพลาสติกยัดใส่มือให้
“ฉันไม่อยากกิน” คนเพิ่งถูกผู้ชายสารภาพว่าชอบต่อหน้าคนนับสิบเสียงห้วนแต่เอกลิขิตยังตักเจลลี่แผ่นรูปหัวใจมาจ่อให้ถึงปากแล้วกระซิบ “ถ้าไม่กินผมจะตะโกนบอกรักคุณให้คนได้ยินไปทั่วร้าน”
“อย่ามาขู่ฉัน” หญิงสาวเค้นเสียงลอดไรฟัน
“ผมไม่ขู่ ลองดูไหม” สายตาที่เขามองสบมาไม่มีวี่แววว่าจะทำไม่จริงและเมื่อเห็นหญิงสาวไม่ยอมอ้าปากจึงได้ลุกขึ้นยืนกระแอมไปทีแล้วเริ่มต้น “คุณกัณ ผมช….”
กัณฐิการีบงับเจลลี่รูปหัวใจนั้นเข้าไปในปากทันที เคี้ยวหนักๆ เหมือนจะให้มันแหลกเป็นผุยผงคาปาก เคี้ยวไปก็มองเขาไปราวกับจะกินเลือดกินเนื้อคนป้อน
เอกลิขิตนั่งลงตรงข้าม ยิ้มพอใจทั้งปากทั้งตา แล้วชะโงกหน้ามาใกล้
“คุณกินหัวใจของผมเข้าไปทั้งดวงแล้ว”
ยิ่งเขาตอกย้ำเธอก็ยิ่งเคี้ยว เคี้ยวจนฟันแทบจะบดกันเป็นผงกลืนแล้วดื่มน้ำตามรวดเดียวหมด ก่อนจะแยกเขี้ยวแล้วตอบโต้
“ไม่ใช่แค่กิน แต่ฉันเขี้ยวมันจนแหลกคาปากเลย”
“ดีสิคุณ หัวใจของผมจะได้แทรกซึมเข้าไปอยู่ในตัวคุณแล้วรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน” ไม่ว่าจะอย่างไรเอกลิขิตก็สามารถเตะเข้าประตูหัวใจตัวเองได้ตลอดจนหญิงสาวเจ็บใจ หาโอกาสโต้ตอบไม่ได้จึงนั่งกินน้ำแข็งใสไม่พูดไม่จาไม่โต้ตอบอะไรให้เขาได้หน้ามากไปกว่านี้
เอกลิขิตกินไปก็จ้องหน้าเธอไป หญิงสาวทำเป็นไม่มองแต่ภายในร้อนวูบ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุขนาดนี้ไม่เคยมีใครเข้าหาตรงๆ พูดจาออกมาโต้งๆ แบบเขามาก่อน
“คุณ” เขาเรียกแต่เธอไม่มอง
เขาถอนหายใจแล้วนั่งกินน้ำแข็งใสตรงหน้าตัวเองเงียบๆ แต่ได้แค่พักเดียวก็เงยหน้าขึ้นมาใหม่ “ผมชื่อเอกลิขิต นามสกุลจิตรไพศาล อายุสามสิบปี”
เงียบ….
ไม่มีสรรพสำเนียงใดตอบรับกับคำบอกเล่าของอาจารย์หนุ่มนอกเสียจากเสียงจอแจอยู่ภายในร้าน หญิงสาวตั้งหน้าตั้งตากินจนเสร็จจึงควักเงินมาวางไว้บนโต๊ะ
“ขอบคุณที่พามาส่ง ฉันเลี้ยงคุณเอง” บอกเสร็จเธอก็เดินตัวตรงออกไปนอกร้าน ชายหนุ่มร้องตาม
“เดี๋ยวสิคุณ”
หญิงสาวไม่ฟังเสียงเดินจ้ำอ้าวออกไปทันที ไม่อยากตกเป็นเป้าความสนใจของใครต่อใครเพราะเขาเป็นต้นเหตุอีก
“คุณ” เอกลิขิตตะโกนเสียงดังเรียกความอายให้ย้อนกลับมาหาเธออีกครั้ง คราวนี้หญิงสาวเริ่มทนไม่ไหวหยุดเดินกะทันหันร่างหนาจึงชนเข้าให้ หญิงสาวเสียหลักหัวคะมำ เขาตกใจจึงได้ตวัดร่างเธอเอาไว้เข้าสู่อ้อมกอดแต่เพราะเธอดิ้นจึงเสียหลักล้มลงไปด้วยกัน
สองร่างกอดกันกลมทำให้คนในร้านตาโต แม่ค้าขายน้ำแข็งใสรวมทั้งลูกค้าอีกหลายคนเฮลั่นแล้วร้องเชียร์อย่างเอาใจช่วย
“จูบเลยๆ”
เอกลิขิตถือวิสาสะกอดร่างบางเอาไว้ ไม่สนใจแขนข้างที่ครูดกับพื้นจนถลอกแล้วเลือดซิบของตัวเอง หญิงสาวดิ้นขลุกขลัก



สาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ก.พ. 2557, 22:21:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ก.พ. 2557, 22:21:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1090





<< ตอนที่ 2 70%   ตอนที่ 2 100% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account