ราคีกุหลาบ
เรื่องราวความรักของทริปท่องเที่ยวในสเปน
ระหว่างหญิงสาวชาวไทยกับหนุ่มหล่ออเมริกัน ^^

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: เดิมพัน

บทที่ 2 เดิมพัน

‘อเล็กซ์! อย่าทำน้อง’ เสียงของมารดาดังขึ้นขัดจังหวะ ในขณะที่เขากำลังเงื้อแขนเตรียมซัดน้องชายตัวเองอีกหมัด มารดาของเขารีบวิ่งมายังจุดเกิดเหตุและตรงเข้าขวางหน้าอเล็กซ์ แสดงเจตจำนงชัดเจนว่าจะปกป้องอเลนจากกำปั้นของเขา

‘อเล็กซ์! แม่ขอนะ’

เขามองมารดาบังเกิดเกล้าด้วยความช้ำใจ ชายหนุ่มรู้ดีว่าเขาไม่ควรจะใจน้อยอะไรทั้งนั้น แต่คนที่เขากำลังจะคบหาดูใจกลับกลายมาเป็นคู่แต่งงานของน้องชายไปเสียได้ จะให้เขาทำเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง?

...แล้วแม่เขาก็เอ่ยปากขอร้องเขาแทนอเลน มือที่ง้างอยู่ค่อยๆ ลดลงจนกลายเป็นทิ้งอยู่แนบลำตัวอย่างคนหมดแรง เขาปล่อยมือจากคอเสื้อของอเลน ได้แต่มองมารดาที่ผวาเข้าประคองน้องชายด้วยหัวใจที่ว่างโหวง

แล้วเขาล่ะ? มีใครร้องขอแทนบ้าง?

หลังจากนั้นเขาก็ทำได้เพียงมอบแววตาตัดพ้อให้ และรับปากมารดาของตน...ผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิต ในขณะที่เริ่มคิดว่าแท้จริงแล้ว แม้เขาจะเป็นฝาแฝดกับอเลน แต่แม่ก็รักอเลนมากกว่าเขา

สิ่งที่เขาอยากได้ก็เหมือนกับที่อเลนอยากได้ ตอนเด็กๆ เขาถูกสอนให้เสียสละให้น้องชายก่อน เพราะว่าอเลนมีร่างกายที่อ่อนแอ หัวใจที่อ่อนแอ...เขาก็รู้สึกว่าเป็นหน้าที่ที่ตัวเองต้องทำ

แต่นี่มันเกินไปแล้ว! ทั้งที่เขาตั้งใจจะขอเธอคบหาเป็นแฟนกันหลังจากกลับจากไปเจรจาธุรกิจที่ต่างประเทศสองสัปดาห์ กลับมาอีกทีเขาก็เจอข่าวช็อกโลก เมื่อมีการประกาศวันแต่งงานของอเลนและเหมือนไหมขึ้น

แน่นอนว่าเขาได้แต่ปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้น เหมือนไหมไม่ออกมาพบหน้าเขาจนกระทั่งได้เจอกันอีกในวันแต่งงานของทั้งคู่…

ในวินาทีที่มารดาร้องขอ เขาก็ทราบแล้วว่า…

เขาเกิดมาเป็นผู้เสียสละให้อเลนไปตลอดชีวิต!

มาตอนนี้ชายหนุ่มพลันรู้สึกอยากจะหายไปจากโลกนี้ขึ้นมา อยากให้สายฝนสาดลงมาที่ร่างแล้วทำให้เขาละลายหายไป อยากให้ตัวเองไปเกิดใหม่ในที่ๆ ไม่มีอเลนอยู่

อเล็กซ์ยกมือเสยผมที่ตกลงมาขึ้นไป แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าขมุกขมัวที่ไม่ต่างไปจากสภาพจิตใจของเขาเท่าไร เม็ดฝนที่โปรยปรายอยู่ตอนนี้ไม่ทำให้เขารู้สึกหนำใจได้ เบื้องหน้าเขาเป็นผืนน้ำกว้างใหญ่ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

‘ลงไปในทะเลดีไหม? จมหายไปในนั้น...แล้วบาดแผลในใจเขาจะหายไปได้ไหม?’

.......................

ช่วงเย็น ฝนเริ่มโปรยปรายลงมาทีละน้อย หญิงสาวเก็บกล้องลงกระเป๋า ขณะจ้ำอ้าวไปที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อร่มคันหนึ่ง แล้วเดินไปยังท่าเรือปอร์ตเบยอย่างตั้งใจว่าจะเก็บรูปภาพเพิ่ม ตรงเก้าอี้สาธารณะที่หันหน้าออกสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั้นนั่งไว้ด้วยชายคนหนึ่ง รมิตาจำเขาได้ทันที...

เธอหยุดชะงัก ถึงจะรู้ว่าเดินผ่านชายคนนี้ไป เขาก็คงมองไม่เห็นเธออยู่ดี แต่กลับรู้สึกว่าปล่อยเขาไว้ไม่ได้และเกิดสนใจใคร่รู้ขึ้นมา

‘ฝนก็ตกอยู่ ทำไมไม่เข้ามาในร่ม? คิดว่าตากฝนแล้วมันเท่รึไงกัน?’

หญิงสาวไม่เข้าใจการกระทำของชายหนุ่ม รออยู่นานกว่าห้านาที เขาก็ไม่มีท่าทีจะลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ มองไปแล้วเขาไม่ต่างจากซากต้นไม้ต้นหนึ่งที่ใกล้หมดลมหายใจ รอวันตายไม่มีผิด...

รมิตาเม้มปาก ชั่งใจอยู่ชั่วขณะก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าอเล็กซ์แล้วแบ่งพื้นที่ร่มให้เขากึ่งหนึ่งช่วยกันฝนให้ ส่วนหนึ่งแล้วรมิตาเห็นใจอเล็กซ์มากจริงๆ เธอมองว่าเขาเป็น ‘พวก’ เดียวกัน

นัยน์ตาที่เหม่อลอยของอเล็กซ์กลับมาสะท้อนภาพอีกครั้ง เขาเหลือบตาขึ้นมองผู้ปรารถนาดีที่เขาไม่ต้องการ

“ทำไมมานั่งตากฝนอยู่อย่างนี้ล่ะคะ”

น้ำเสียงและแววตาเป็นห่วงของหญิงตรงหน้าหยุดคำพูดร้ายๆ ของเขาเอาไว้ อเล็กซ์มองรมิตาแล้วเงียบไม่พูดไม่จาอยู่แบบนั้น รมิตามองสบตาเขาแล้วก็ให้รู้สึกเก้อและกระอักกระอ่วนอีกครั้ง เธอแข็งใจกล่าวต่อไปว่า

“ยังไงคุณก็น่าจะเข้าไปในที่ร่มดีกว่าไหมคะ ตากฝนแบบนี้เดี๋ยวไม่สบายได้นะ”

“ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่ผมไม่ต้องการ”

รมิตาอ้าปากค้างกับถ้อยคำตัดรอนของอีกฝ่าย ถึงแม้เธอเองจะคิดว่าเธอจุ้นไม่เข้าเรื่องเหมือนกันก็ตาม แต่เขาน่าจะพูดจาถนอมน้ำใจกว่านี้หน่อยสิ

“ผมบอกคุณไปเมื่อตอนกลางวันแล้วว่า ผมไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของคุณได้ แล้วทำไมคุณถึงยังตามตื๊อผมอีก หรือคิดว่าผมจะใจอ่อน” อเล็กซ์เอ่ยขึ้นอย่างคนเหนื่อยใจ ทำเอาหญิงสาวทำตาโตกับความคิดของเขา

“เฮ้ๆ เห็นฉันเงียบเข้าหน่อยก็ใส่ใหญ่เลยนะ พ่อคนหลงตัวเอง ฉันไม่ได้ชอบคุณ พูดกันไปให้ชัดๆ เลยนะว่า ฉันไม่ได้ชอบคุณค่ะ อย่ามาเข้าใจผิด” รมิตาปฏิเสธเสียงดังฟังชัด ในขณะที่ชายหนุ่มขมวดคิ้วนิดๆ

“ไม่ชอบผม? แล้วตามผมมาทำไม? หรือคุณเป็นโรคจิต?”

ได้ยินอเล็กซ์กล่าวหาแล้ว รมิตาก็แทบจะปรี๊ดแตก เธอกัดฟันอธิบายเรื่องบังเอิญออกมา

“ฉันตามคุณงั้นเหรอ? อยากจะขำให้ ขอโทษทีเถอะ ฉันก็เดินของฉันอยู่ดีๆ นี่แหละ แต่มันเจอคุณอยู่ในที่ที่ฉันจะไปพอดีต่างหากเล่า”

“ถึงเจอก็ไม่จำเป็นต้องเข้ามาทักนี่นา ยกเว้นคุณจะคิดอะไรกับผมน่ะ” อเล็กซ์แย้งได้อย่างมีเหตุมีผลและน้ำเสียงของเขาก็บ่งบอกว่าเธอโกหกไม่เก่งเอาเสียเลย

“ฉะ ฉันไม่ได้คิดอะไรกับคุณนะ...ฉันแค่...แค่ต้องการคุณไปเป็นนายแบบถ่ายรูปเท่านั้นหรอก” หญิงสาวอึกอักและคิดคำโกหกขึ้นมาสดๆ ร้อนๆ

“เอาเถอะ ยังไงก็ช่าง ผมอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ หวังว่าต่อไปคุณคงจะไม่รบกวนผมอีกนะ” อเล็กซ์มองอย่างไม่เชื่อและเขาก็ขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงกับคนตรงหน้า เขาคิดว่าเธอน่าจะไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แววตาของเธอใสกระจ่าง ในนั้นเขามองเห็นความห่วงใยต่อคนแปลกหน้า ความห่วงใยระคน...เห็นใจ?

เขาไม่ได้ต้องการความสงสารเวทนาจากใครทั้งนั้น!

ความรู้สึกดีบางอย่างบังเกิดขึ้นในใจก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว

แต่ไม่ว่าเธอจะปรารถนาดีอย่างจริงใจหรือไม่ เขาก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเสวนาด้วยก็เท่านั้นเอง

“คิดว่าฉันอยากจะรบกวนคุณรึไงกัน...เชิญคุณเป็นไข้หวัดใหญ่แล้วเจอปอดบวมไปอีกโรคเลย” รมิตาแช่งใส่อย่างเป็นฟืนเป็นไฟ ก่อนจะผละจากไป ถึงอย่างนั้นพอหายโมโห หญิงสาวก็เดินกลับมาหลบอยู่ที่มุมตึกใกล้ๆ มองแผ่นหลังผู้ชายที่นั่งตากฝนด้วยความเป็นห่วงและกระวนกระวายใจไม่น้อย แต่เมื่อเห็นเขาลุกขึ้นยืนและเดินจากไป รมิตาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเต็มที แต่แล้วความวิตกกังวลใหม่ๆ ก็เข้ามาแทนที่

‘ตอนนี้เขาอาจจะยังไม่ทำเรื่องโง่ๆ แต่ถ้าเธอคลาดสายตาไปล่ะ? สภาพหมดอาลัยตายอยากแบบนั้นได้ไปเป็นอาหารปลาในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแน่เลย...’

ขณะที่กำลังว้าวุ่นใจอย่างคนที่ชอบฟุ้งซ่าน เสียงเพลงเรียกเข้าพิเศษของโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครโทรมา หญิงสาวมองโทรศัพท์อย่างคิดไม่ตก...

‘หรือพระเจ้าคิดว่าเธอว่างเกินไปกันแน่นะ?’

.......................

บาร์เรเอสโก ริมชายหาดบาร์เซโลนา

หน้าเคาน์เตอร์บาร์ อเล็กซ์สั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น หลังจากร่างกายเขาหนาวเย็นอยู่นาน ตอนนี้อยู่ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ แม้จะไม่หนาวแล้ว แต่อุณหภูมิทั่วไปก็ยังเย็นอยู่ดี การตากฝนเล่นจึงเป็นการทรมานตัวเองอย่างหนึ่ง หลังฝนตกพรำๆ เขาก็เดินโต๋เต๋อยู่นาน จนกระทั่งเมื่อยขาจึงได้เลี้ยวเข้ามาหาที่นั่งและที่นี่ก็ตรงใจกับเขาพอดี ร้านตกแต่งเรียบง่ายสไตล์ลอฟต์ ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า ท่ามกลางความโปร่งโล่งสบายตา ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาหาบรรยากาศชิวชิว ไม่วุ่นวาย

บาร์เทนเดอร์ส่งวอดก้าให้เขาเป็นแก้วที่ห้า แต่แล้วจู่ๆ ก็มีมือเล็กมือหนึ่งเอื้อมมาคว้าวอดก้าแก้วนี้แล้วกระดกแก้วขึ้นดื่มโดยไม่รั้งรอ อเล็กซ์มองตามเรียวแขนที่ยื่นมาอย่างไม่พอใจ และเมื่อพบว่าคนที่เสียมารยาทนี้คือใคร นัยน์ตาเขาเบิกกว้างขึ้น ตกใจจนเผลออุทานออกมา

“คุณอีกแล้วเหรอเนี่ย?”

“ฮื่อ!” หัวขโมยวอดก้ารับคำทื่อๆ เธอดื่มเหล้าแก้วนี้เพื่อย้อมใจ ให้ตัวเองลืมยางอายทุกอย่างไว้ที่เมืองไทย แล้วก็แปลงร่างเป็นสาวโรคจิตตามตื๊อผู้ชายตรงหน้า...

“ตามผมมาแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่?” จากที่อารมณ์เซ็งๆ อยู่แล้ว อเล็กซ์ยิ่งเซ็งหนักจนเกินบรรยายและความไม่พอใจก็พุ่งสูงขึ้น

“ฉันบอกแล้วว่า ฉันต้องการนายแบบ!” รมิตามองสบตาเขา พูดหนักแน่นเหมือนมันคือเรื่องจริง

อเล็กซ์กลอกตาขึ้นเพดานแสดงอาการไม่เชื่ออย่างโจ่งแจ้ง ก่อนจะบอกปัดทันควัน “ไปหาคนอื่นเถอะ ผมไม่ว่าง”

“เฮ้! อย่าตัดรอนกันนักสิ” หญิงสาวหันมาส่งยิ้มอย่างคนหน้าหนาให้ ไม่สะทกสะท้านกับการปฏิเสธเสียงแข็ง

อเล็กซ์มองสาวเอเชียตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วว่า “ถ้าคุณหน้าตาตรงสเปคผมมากกว่านี้อีกหน่อย ผมอาจจะยอมเล่นเกมกับคุณด้วย ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่คุณสวยน้อยไปหน่อยแล้วกัน”

วี้ด---บึ้ม!

คำวิจารณ์หน้าตาแม้จะไม่ร้ายแรงเท่าคำว่าขี้เหร่ แต่รมิตาก็รู้สึกถูกหยามน้ำหน้าอย่างหนัก อุปาทานเหมือนได้ยินเส้นความอดทนของตนระเบิดเป็นเสี่ยงภายใต้คำว่า ‘สวยน้อยไป’

“นี่พ่อรูปหล่อ เรามาพนันกันไหมคะ?” รมิตาหันหน้ามาหาเขา ขณะที่ยกมือเท้าแก้ม ศอกยันเคาน์เตอร์บาร์ไว้ นัยน์ตาวิบวับเป็นประกายไม่น่าไว้ใจ

“พนัน?”

“อือ ฮึ” หญิงสาวพยักหน้ารับคำ แล้วเอ่ยเงื่อนไขขึ้นมาว่า “ถ้าฉันดื่มเหล้าชนะคุณ คุณจะต้องไปเที่ยวสเปนเป็นเพื่อนฉันห้าวันและในห้าวันนี้คุณต้องเป็นนายแบบให้ฉันถ่ายรูป ตกลงไหมคะ”

“แล้วถ้าผมชนะ ผมจะได้อะไร?” เขามองว่าเรื่องนี้ช่างไร้สาระเสียจริง

“ฉันจะยอมทำทุกอย่างตามที่คุณสั่ง ไม่งั้นฉันจะตามกวนคุณไปตลอดทาง อย่าหวังเลยว่าชีวิตนี้คุณจะได้อยู่อย่างสงบๆ อีก” รมิตาประกาศวัตถุประสงค์ออกมาอย่างไม่หวั่นกับนัยน์ตาสีฟ้าที่เข้มขึ้นเหมือนจะสาปให้เธอกลายเป็นตุ๊กตาหิมะที่พูดไม่ได้และไม่มีขาเดินตามเขา

“เชื่อคุณเลย ไม่มีอะไรทำแล้วรึไง?” อเล็กซ์เริ่มรำคาญหนักขึ้น อีกฝ่ายส่อเจตนาจะตามรังควานเขาชัดๆ ขู่คุกคามความเป็นอยู่ของเขา ไอ้ที่เขามองว่าเธอน่าจะมีความดีอยู่บ้างเมื่อช่วงเย็นนั่นเป็นเพราะเขาตาฝาดไปสินะ

“ฉันก็แค่อยากได้คุณมาเป็นนายแบบเท่านั้นเอง นี่ฉันก็ทำตามเป้าหมายของตัวเองอยู่นะ ไม่ได้ไม่มีอะไรทำเสียหน่อย” หญิงสาวแบมือ ยักไหล่

“ผมไม่สนใจ” ว่าแล้วชายหนุ่มก็ควักแบงค์ยูโรออกมาวางเพื่อเป็นค่าเหล้า ตั้งใจจะไปจากที่นี่โดยไม่รอเงินทอน

รมิตาเห็นอีกฝ่ายไม่หลงกล อารามรีบร้อนจะตามเขาออกไป แต่ขาเธอก็สั้นกว่าคนตัวโตนัก ด้วยความผลีผลามไม่คิดหน้าคิดหลัง เธอจึงกระโดดขึ้นไปบนเวทีที่ตอนนี้ยังไม่มีนักร้องขึ้นมาแล้วพูดใส่ไมค์ ชี้นิ้วไปที่คนที่กล้าหันหลังใส่เธอแล้วว่า

“คุณกลัวจะแพ้ฉันใช่ไหม ถึงได้ไม่กล้าพนันกันน่ะ”

เมื่อเสียงหวานดังขึ้น สายตาทุกคู่ของผู้คนในบาร์นั้นพุ่งมาหาอเล็กซ์และรมิตาทันทีด้วยความสนใจ

อเล็กซ์หันกลับมาตวัดตามอง “ใครกลัวคุณกัน?”

“เพราะคุณหนี ไม่กล้ารับพนันฉัน นี่เป็นหลักฐานชั้นดีว่าคุณกลัวแพ้ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างฉัน” รมิตายักคิ้ว กล่าวอย่างเป็นต่อ

อเล็กซ์หงุดหงิดมากขึ้น ว่ากันว่าชาวสเปนเป็นนักพนันตัวยงอยู่แล้ว จึงมีเสียงของคนรอบข้างที่ชอบเรื่องสนุกอย่างการพนันขันต่อนั้นก็เชียร์ให้เขารับพนันเสียดังหนาหูขึ้น รวมไปถึงเสียงหัวเราะเยาะของบางคนที่คิดว่าเขาช่างขี้ขลาดเสียนี่กระไร หันหลังให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ดูแล้วไม่มีพิษสงอะไรเลย

“คุณนี่มันน่ารำคาญจริงๆ” แต่เดิมเขาก็ไม่สบอารมณ์อยู่แล้ว ตอนนี้อเล็กซ์ยิ่งมีสีหน้าบึ้งตึงเข้าไปใหญ่

“ขอบคุณที่ชมค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้างจนตาหยี แม้ในใจจะเดือดปุดๆ ก็ตาม

“ถ้าผมชนะ ขอสั่งห้ามไม่ให้คุณมาเจอหน้าผมอีก ไปให้พ้นๆ แล้วก็เขียนคำว่า ฉันเป็นโรคจิต ชอบตามตื๊อ ตัวใหญ่ๆ แขวนคอไว้ ไม่ว่าจะไปไหนในสเปนก็ห้ามถอดออก ยกเว้นตอนคุณอยู่ในห้องพักเป็นเวลาห้าวัน ตกลงไหม?”

ในเมื่อต้องพนันกันก็ต้องเอาให้ผู้หญิงตรงหน้าได้อาย! จะได้สำนึกเสียบ้างว่าการกระทำของเธอที่เข้าขั้นโรคจิตตามตื๊อนั้นมันน่าละอายแค่ไหน?

รมิตาแทบจะหงายหลังกับเงื่อนไขของอีกฝ่าย

นี่มันจงใจประจานพฤติกรรมของเธอชัดๆ!

“ได้!” เจ้าตัวเอ่ยขึ้นมาขณะที่ยิ้มเครียด “แต่ถ้าฉันชนะ คุณต้องยอมทำตามที่ฉันบอกทุกอย่าง ต่อให้ฉันสั่งให้คุณใส่จีสตริงถ่ายรูป คุณก็ต้องทำ คำไหนคำนั้น สัญญาไหม?”

“ตกลง!” อเล็กซ์ที่ถูกแหย่จนลืมตัวตอบรับไป เขาไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้ผู้หญิงตรงหน้าอยู่แล้ว

สายตาดุเดือดของทั้งคู่ประสานกันราวกับศัตรูคู่แค้นได้มาพบหน้า

ดีเจของร้านเล็งเห็นโอกาสบางอย่าง เขาเข้ามาเคลียร์พื้นที่พร้อมกับจัดการสถานที่ใหม่ให้กับรมิตาและอเล็กซ์ เป็นโต๊ะที่อยู่หน้าเวทีโดยมีบาร์เทนเดอร์คนหนึ่งประจำโต๊ะเพื่อชงเหล้าให้ และแน่นอนว่าเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับทางร้าน มีการแอบเปิดโต๊ะพนันกันเบาๆ ว่าใครจะชนะ ส่วนใหญ่วางเดิมพันที่อเล็กซ์มากกว่า เพราะไม่มั่นใจว่าผู้หญิงเอเชียหน้าใสๆ คนนี้จะสู้ผู้ชายตัวโต หน้าคมเข้มนี่ได้

“ตั้งแต่เกิดมา ผมเพิ่งเคยเจอผู้หญิงงี่เง่าที่สุดในโลกอย่างคุณนี่แหละ” ก่อนจะเปิดฉากดวลเหล้าแก้วต่อแก้ว อเล็กซ์อดจะฉะใส่อีกฝ่ายไม่ได้ ที่ทำให้เขาต้องมาทำอะไรบ้าๆ แบบนี้

“ตั้งแต่เกิดมา ฉันก็เพิ่งเจอผู้ชายปากเสียได้โล่ดีเด่นอย่างคุณนี่แหละ” รมิตาซัดกลับเข้าให้บ้าง

“เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ ไม่งั้นผมว่าคุณได้ดังทั่วโลกแน่เลย อาจมีคนถ่ายคลิปคนบ้าในสเปนแล้วเอาไปลงเว็บไซต์ยูทูปก็ได้” อเล็กซ์ตั้งใจไว้แล้วว่า ถ้าไม่มีใครถ่ายคลิปไว้ เขาจะถ่ายเอง...ช่วยส่งเสริมให้ผู้หญิงคนนี้โด่งดังคับฟ้าไปเลย

รมิตามองตาขวาง นึกเข่นเขี้ยวอีกฝ่ายในใจ ‘กะเอาเธอให้ตายเลยใช่ไหม?’

ได้! ขอเอาชื่อฉายา ‘ลำยองสองพันสี่’ สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเป็นเดิมพัน หญิงสาวยกยิ้มก่อนจะเกทับ

“ฮึ! ฉันว่าคุณรอดูรูปตัวเองที่ใส่จีสตริงดีกว่า” แล้วรมิตาก็ปรายตาลงเหล่ร่างกายส่วนล่างของคู่ดวลแล้วว่า “บั้นท้ายคุณน่าจะกระชับอยู่นะ พวกสาวแก่แม่หม้ายรวมไปถึงเกย์เก้งกวางคงได้กรี๊ดกร๊าดกันยกใหญ่ ถ้าฉันลงรูปคุณในเฟซบุ๊ก รับรองว่ามีกดไลค์รูปคุณเกินล้านแน่”
อเล็กซ์ขบกรามแน่น ในใจอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมเขาต้องโชคร้ายมาเจอะเจอกับผู้หญิงโรคจิตคนนี้ด้วยนะ…

กฎกติกามีง่ายๆ เมื่อบาร์เทนเดอร์ชงเหล้าให้คนละแก้ว ก็ดื่มให้หมดแก้ว ใครที่ปฏิเสธไม่ดื่มต่อหรือว่าเมาจนดื่มต่อไม่ไหวก็ถือว่าแพ้ไป ส่วนค่าเหล้านั้นอเล็กซ์และรมิตาจ่ายเหมาล่วงหน้าไปก่อนแล้ว

ดีเจที่ผันตัวมาเป็นพิธีกรการดวลเหล้าครั้งนี้เป็นเอ่ยแนะนำไฮไลต์ที่ทำให้ค่ำคืนนี้สนุกสนานขึ้นมา

“สวัสดีครับ ทุกท่าน ผมนิโคลัส ดีเจประจำผับเรเอสโก จะมารับหน้าที่เป็นพิธีกรเฉพาะกิจให้กับเรื่องมันส์ๆ ในคืนนี้ เอาละครับ นี่คือการเดิมพันของแม่สาวเอเชียใจกล้า เอ่อ คุณชื่ออะไรนะครับ”

“โรซี่” หญิงสาวไม่คิดจะใช้ชื่อจริงอยู่แล้ว เลยบอกชื่อเล่นที่เพื่อนชาวสเปนเรียกเธอไป

“คุณโรซี่กับ...”

“อเล็กซ์” ชายหนุ่มตอบอย่างเสียไม่ได้

“เอาละ ถ้าโรซี่แพ้ เธอจะต้องแขวนป้ายว่าเป็นคนบ้าระหว่างอยู่ในสเปน แต่ถ้าอเล็กซ์แพ้ เขาจะต้องตกเป็นทาสรัก เอ๊ย เป็นนายแบบให้โรซี่ถ่ายรูประหว่างเที่ยวสเปนด้วยกันห้าวัน! แหม ช่างเป็นผู้หญิงที่มีความรักร้อนแรงจริงๆ นะครับ”

คนในบาร์แห่งนี้ต่างมองว่านี่เป็นวิธีเรียกร้องความสนใจและวางพนันเพื่อขอโอกาสในการไปเที่ยวด้วยกันจากผู้ชายหล่อเหลาทว่าหน้าตาเย็นชาไม่เป็นมิตรอย่างอเล็กซ์มากกว่าเรื่องถ่ายแบบ

รมิตาขี้เกียจแก้ต่างให้ตัวเอง ก็เลยปล่อยให้ถูกเข้าใจผิดต่อไป

“ระหว่างทั้งคู่ ใครจะเป็นฝ่ายได้ชัยชนะไป...จะเริ่มการแข่งขันแล้วนะครับ ขอให้เทพีโชคชะตาอำนวยอวยพรพวกคุณ” ดีเจหนุ่มนิโคลัสแอบขยิบตาให้รมิตาด้วย ทั้งนี้แล้วเขาก็มองว่าผู้หญิงตัวเล็กคนนี้กล้าดี ก็เลยเอาใจช่วย อีกทั้งชอบมวยรอง เลยเดิมพันไว้ที่แม่สาวใจเด็ดคนนี้ สิ้นน้ำเสียงอันร่าเริงของดีเจหนุ่ม เพลงในบาร์ก็เปลี่ยนเป็นทำนองสนุกสนานเร้าใจมากยิ่งขึ้น สร้างบรรยากาศของการพนันขันต่อให้ดูน่าตื่นเต้น

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง...รมิตาเริ่มไม่แน่ใจว่าเหล้าที่ดื่มไปกี่แก้วแล้วกันแน่ แต่อเล็กซ์ยังยืนอยู่ได้ ในขณะที่เสียงเชียร์ที่ตอนแรกกระหึ่มอยู่ ตอนนี้เริ่มซาลงไปบ้างแล้ว ใบหน้าของหญิงสาวฉีดสีแดงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ แต่สติสัมปชัญญะยังใช้การได้ดีอยู่ รับรู้ได้ว่าร่างกายเริ่มเฉื่อยลงไป แต่เธอก็ได้แต่วัดดวงความอดทนเท่านั้น ด้านอเล็กซ์ที่เงียบมาตลอดการแข่งขัน เขาจับจ้องผู้หญิงตรงหน้าอย่างระแวง กลัวการเล่นตุกติกอะไรสักอย่างขึ้นมา

“นี่ฉันไปเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหม” รมิตาถามเสียงที่พยายามปรับให้เป็นปกติ แต่ชายหนุ่มก็ฟังออกว่าเธอเริ่มจะลิ้นพันกันแล้ว อเล็กซ์ทำหน้ายุ่ง แต่ถ้าไม่ให้ไปก็ดูจะกระไรอยู่ เขามองบาร์เทนเดอร์แล้วเห็นว่า ยังไงเหล้าก็ต้องชงใหม่ทุกหน ผู้หญิงคนนี้คงไม่มีทางเล่นสกปรกได้แน่ๆ ก็เลยพยักหน้ายอมให้เกิดการพักยกขึ้นมา เขาเองก็ได้โอกาสไปล้างหน้าล้างตาเสียหน่อยด้วย ดูเหมือนว่าตอนนี้อุณหภูมิในร่างกายของเขาจะร้อนเกินความจำเป็นเสียแล้ว

รมิตาฝืนเดินตัวตรงไปยังห้องน้ำ หลังจากออกจากสุขามาล้างหน้าล้างตาหน้ากระจก ก็เห็นหญิงสาวผมดำซอยสั้นแนบศีรษะชาวสเปนคนหนึ่งยืนกอดอกทำหน้ายุ่งอยู่ข้างกระจกส่องหน้า

แน่นอนว่าเธอคนนี้คือ โมนิก้า เจ้าของอพาร์ตเมนต์ที่ให้เธอพักอยู่ฟรีๆ นี่เอง และโมนิก้าก็คือเพื่อนของเธอซึ่งโดนโทรตามให้มาเจอกัน ในระหว่างที่เธอสะกดรอยตามอเล็กซ์อยู่ที่ถนนข้างนอก โมนิก้าเข้ามาสมทบกับเธอหลังอเล็กซ์เดินเข้าบาร์ไปไม่กี่นาที แต่ไม่ทันได้คุยอะไรกันมาก รมิตาก็แจ้งคร่าวๆ ว่าจะท้าพนันผู้ชายคนหนึ่ง ขอให้ดูอยู่ห่างๆ ถ้าเธอเมาก็ขอให้หิ้วกลับที่พักด้วย โมนิก้าไม่ทันได้ถามไถ่ รมิตาก็เดินตัวปลิวเข้าไปแล้ว

“นี่แกจะชนะเขาได้ไหมเนี่ย?” โมนิก้ารู้ว่ารมิตาคอแข็ง แต่อีกฝ่ายก็ใช่ย่อย แถมพอเทียบกันแล้ว คนที่อาการออกว่าเมาที่สุดตอนนี้คือ รมิตา ชัดๆ

“หือ?” พอได้น้ำมาลูบหน้าลูบตาหน่อย ทำให้รมิตาดีขึ้นบ้างหลังจากเจอฤทธิ์เหล้าทำให้เหมือนร้อนไปทั้งตัว

โมนิก้าถามซ้ำอีกครั้ง “แกมีวิธีจะชนะเขาใช่ไหม?”

“ไม่มี” หญิงสาวตอบชัดถ้อยชัดคำ ทำเอาเพื่อนสาวตาเหลือก

“ไม่มี? แต่แกก็ซ่าพอจะไปท้าพนันเขาน่ะนะ”

“ฮื่อ แข่งกันอย่างตรงไปตรงมาสิ” พวกที่ชอบไปตายเอาดาบหน้าโดยไม่มีแผนการรองรับดีๆ อย่างรมิตาเอ่ยขึ้น

“โอ...พระเจ้า เชื่อเขาเลย” โมนิก้ายกมือคลึงขมับ ไม่คิดเลยว่าเพื่อนตัวเองจะบ้าได้ถึงขนาดนี้

“เชื่อเถอะ พระเจ้าอยู่ข้างฉัน” รมิตาเย้าแหย่กลับไป ไม่ตระหนักถึงสถานการณ์ตรงหน้าสักนิด แต่ที่เธอมั่นใจขนาดนี้ก็เพราะคิดว่าอเล็กซ์ดื่มเหล้าทั้งที่ยังท้องว่าง แอลกอฮอล์ซึมเข้ากระแสเลือดได้เร็วกว่าเธอที่มีอาหารรองท้องอยู่ก่อนแล้ว เมื่อแยกแยะข้อได้เปรียบที่เธอมี รมิตาถึงได้คิดการเดิมพันนี้ขึ้นมา

โมนิก้ามองเพื่อนอย่างหงุดหงิดในใบหน้ายิ้มแย้มโง่เง่าเหลือเกิน เธอมองตามหลังเพื่อนสาวที่เดินออกจากห้องน้ำไปอย่างเป็นห่วง ส่วนหนึ่งไม่อยากให้เพื่อนรักกลายเป็นตัวตลกให้คนชี้หน้าขำกัน แต่อีกส่วนก็ร้อนใจไม่น้อย เพราะเธอเอาเงินตัวเองมาลงพนันข้างรมิตา ถ้ารมิตาชนะ เธอก็จะได้ลาภลอยเป็นเงินหลายยูโรอยู่

ระหว่างที่กลุ้มแทนแม่เพื่อนสาวชาวไทยอยู่นั้น พลันเหลือบไปเห็นดีเจหนุ่มที่เดินมายังห้องน้ำพอดี...เท่าที่จำได้...ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเชียร์รมิตาอยู่ไม่น้อยด้วย

โมนิก้ายิ้มหวาน ขณะที่เดินเข้าไปหาชายหนุ่มที่มีตำแหน่งยืนชิดติดขอบโต๊ะมากที่สุด

‘โรซี่ พระเจ้าไม่ได้อยู่ข้างเธอหรอก แต่เป็นเงินต่างหากล่ะ’

*************************************

หลังจากไปเข้าห้องน้ำมา อเล็กซ์เริ่มจับสังเกตการเคลื่อนไหวของรมิตากับบาร์เทนเดอร์ให้ละเอียดที่สุดอีกครั้ง แต่นอกจากหญิงสาวจะยกแก้วกระดกลงคอแล้ว เขาก็ไม่เห็นว่าเธอมีพิรุธอะไร บาร์เทนเดอร์ก็ชงเหล้าให้ในอัตราส่วนเท่ากัน เขาเคยขอลองสลับแก้วแล้วด้วย ซึ่งรสชาติก็เหมือนๆ กัน อีกฝ่ายไม่ได้เหล้าอ่อนไปกว่าเขาแน่

ชายหนุ่มไม่อยากมองว่าตัวเองระแวงเกินไป แต่เขาก็ไม่อยากแพ้หญิงชาวไทยคนนี้

“เฮ้ อเล็กซ์จะไม่ยอมอ่อนข้อให้หน่อยเหรอ? ฝ่ายหญิงหน้าแดงไปหมดแล้วนะ” ดีเจหนุ่มเข้ามากอดคออเล็กซ์อย่างถือวิสาสะ ระหว่างที่อเล็กซ์รอเหล้าแก้วต่อไปจากบาร์เทนเดอร์

“ถ้าจะอ่อนข้อให้ แล้วจะพนันกันไปทำไม” ชายผู้สอบตกวิชามนุษยสัมพันธ์เหลือบตาขึ้นมองดีเจหนุ่ม จนทำให้อีกฝ่ายต้องชักมือออก แล้วยักไหล่ให้ทำไม่รู้ไม่ชี้กับนัยน์ตาขวางๆ ที่อเล็กซ์ส่งมา

“แหม ฝ่ายหญิงเขาแค่อยากได้เดต นายก็แค่ไปเดตด้วยสักวันจะเป็นไรไป” ชายที่อ่อนวัยกว่าชวนคุย

“ถ้าอยากไปด้วย จะมาทำเรื่องบ้าบออย่างการพนันนี่ทำไม” อาจจะเป็นเพราะว่ามีแอลกอฮอล์ในร่างกายมากไป ทำให้อเล็กซ์เอ่ยตอบโต้มากกว่าปกติ

“โอ ไม่ไหวเลย โรซี่ หมอนี่มีอะไรดีให้คุณต้องมาเดิมพันแบบนี้นี่” ดีเจหนุ่มหันมาถามผู้หญิงไทยใจกล้าบ้าง เขาอดรู้สึกไม่ได้ว่า การที่เขาจะบันดาลให้แม่สาวไทยคนนี้เป็นฝ่ายชนะ เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว

“ข้อดีเหรอ? หน้าตาไง” รมิตาตอบหน้าตาย แต่เรียกเสียงหัวเราะครืนจากบรรดาขามุงที่รอดูเรื่องสนุกรอบโต๊ะทั้งหลาย ส่วนอเล็กซ์ยิ่งเปล่งรังสีอำมหิตจ้องใส่คู่ต่อสู้หนักขึ้นที่ทำให้เขากลายเป็นตัวตลก แต่หญิงสาวด้านชาเสียแล้ว หนำซ้ำเพราะว่าดื่มเหล้าไปเยอะ รมิตาเลยแลบลิ้นใส่ให้เสียเลย

“คุณเป็นคนตรงไปตรงมาดีนะเนี่ย” นิโคลัสเอ่ยยิ้มๆ ขณะที่หันกลับไปมองบาร์เทนเดอร์ซึ่งชงเหล้าให้ทั้งคู่เสร็จพอดี ทั้งคู่สบตากันเล็กน้อย แล้วดีเจหนุ่มก็ถอยออกมา เพื่อรอดูผลลัพธ์อย่างเงียบๆ ผ่านไปอีกสามแก้ว อเล็กซ์ก็ฟุบไปคาโต๊ะ ทำให้รมิตาชนะรอดมาได้หวุดหวิดเต็มที

*************************************
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาค่า ^^



ท้องฟ้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ก.พ. 2557, 03:24:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ก.พ. 2557, 03:24:36 น.

จำนวนการเข้าชม : 1141





<< ผู้ชายน่าโมโห   เฝ้าดู >>
phugan 18 ก.พ. 2557, 18:29:09 น.
555....ต้องใส่จีสติงซะละมั้งอเล็กซ์


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account