กุหลาบซ่อนกลิ่น (จบแล้ว)
นางเอกโตมาในไซด์งานก่อสร้าง ที่นั่นทำให้เธอรู้ว่า การแสดงตัวว่าเป็นหญิงเป็นเรื่องอันตราย ดังนั้นนางเอกจึงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเอง จนใคร ๆ มองว่าเป็นทอม แต่แท้จริงแล้ว เธอก็คือผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีรัก..และรักของเธอก็เป็นรักที่มีเวลามาเป็นตัวกำหนด....


Tags: โรแมนติก..

ตอน: 25.“ถามคำเดียว..เรารักฉันไหม”

25.
ระหว่างขับรถกลับมาจากบ้านของยายที่อยู่เลยไปอีกสองกิโลเมตร ฝนที่ตั้งเค้ามาตั้งแต่ช่วงเย็นย่ำก็ตกกระหน่ำจนกระทั่งสูรย์ต้องลดความเร็วลง เพราะถนนนั้นยังเป็นทางลูกรัง กุสุมามองฝนที่ตกมากระทบกระจกกับมองสายฟ้าสว่างไสวตรงหน้าแล้วถอนหายใจเบา ๆ ระหว่างที่เขาถูกยายและน้า ๆ สัมภาษณ์เหมือนตอนที่อยู่บ้านย่านั้น กุสุมาขอตัวไปเข้าห้องน้ำ พอลับตาเขา กุสุมาก็กดโทรศัพท์ถึงวิชาญเพราะอยากรู้ว่าที่ร้านมีปัญหาอะไรหรือเปล่า พอวิชาญบอกเรื่องที่เธอเป็นต้นเหตุไว้ กุสุมาก็พลอยไม่สบายใจไปกับสูรย์ด้วย และคนอย่างกุสุมามีหรือจะเก็บความรู้สึกเคียดแค้นชิงชังนี้ไว้ได้นาน โดยเฉพาะกับเขา คนที่มาควักหัวใจของเธอไปจากร่างกายเสียแล้ว..

“คุณสูรย์..จะขับรถกลับได้หรือเนี่ย”

“ได้สิ..”

“นอนค้างไหม...ฝนตกอันตราย ดึกด้วย แล้วก็ตาแดงด้วยไหม”

“เดี๋ยวกลับถึงบ้าน ก็ถอดคอนแทคเลนส์ใส่แว่นตาแล้ว ก็ไม่มีปัญหา”

“แต่มันดึกแล้วนะ”

“ยังไม่สามทุ่มเลย ขับสามสี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว”

“แต่ขับมาตั้งแต่เช้า ยังไม่ได้พักเลยนะ นอนเหอะ กลับตอนเช้าก็ได้..”

“เดี๋ยวเตลิด”

“นัดกับใครไว้หรือเปล่า” กุสุมาแสร้งหึง..

“เราก็รู้ว่าฉันไม่มีใคร..”

ใจจริงกุสุมาก็ลุ้นคำว่า “นอกจากเรา” แต่เขาก็ไม่พูดออกมา และไอ้รักก็ไม่ยอมบอกว่ารักนี่ เธอรู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อย..และเมื่อมันต้องอึดอัดถึงสองเรื่องกุสุมาก็ขอระบายเรื่องไอ้พวกนั้นไปเสียก่อน

“ม่ารู้เรื่องไอ้พวกนั้นแล้ว” กุสุมาตัดสินใจไม่อ้อมค้อม สูรย์หันมามองหน้า เลิกคิ้วนิดหน่อยแล้วก็หันกลับไปประคองรถไปบนถนนที่เฉอะแฉะ..

“ทำไมเขาไม่เทคอนกรีตให้ตลอดทั้งเส้นนะ..มีเป็นช่วง ๆ..แบบนี้ไม่ไหวเลย..”

“พี่เขยคุณสูรย์ก็เป็นตำรวจทำไมไม่ให้ลากไอ้พวกนั้นเข้าคุกไปเลย” กุสุมาไม่ยอมเปลี่ยนเรื่องคุย

“เขายังไม่ได้ทำอะไรผิด”

“โต๊ะบอลไง”

“มันไม่มีหลักฐาน..ส่วนเรื่องที่มันขู่เรา มันก็ไม่มีหลักฐาน มันอาจจะคุยเล่น ๆ ก็ได้”

“แต่ที่มันมาวันนี้ เราต้องระวังตัวกันแล้วนะ ท่าทางมันจะเอาจริง ร้านรวงต้องเพิ่มยาม ต้องเพิ่มความระมัดระวัง..ถ้ามันคิดจะแกล้ง มันทำได้ทั้งนั้นแหละ..”

สูรย์ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิด แต่ว่าเขาไม่อยากตื่นตูม และที่เขาจะรีบกลับไปก็เพื่อไปเปิดกล้องดูให้เห็นกับตาว่าพวกมันกร่างกันสักแค่ไหน จะได้เพิ่มความระมัดระวังถูก..ถ้าพวกมันคิดจะมาเล่นงาน โดยทางใดก็แล้วแต่ เขาก็จะต้องมีหลักฐานเอาความผิดกับพวกมัน..

“คุณสูรย์เบรก ๆๆๆๆ” กุสุมาร้องเสียงหลงพลางยกขาขึ้นมาบนเบาะทั้งสองข้าง สูรย์เพ่งมองไปยังแสงไฟที่สาดผ่านสายฝนไปยังเบื้องหน้า จากที่คิดว่า เป็นขอนไม้ขนาดย่อม ๆ มันกลับขยับเขยื้อนไปทางซ้ายมือ

“งูเหลือม..อู้ยยยยย...” กุสุมาทำท่าขยะแขยง ๆ ลูบแขนลูบขาตัวเอง สูรย์หันไปมองแล้วอมยิ้ม และช่วงที่รอให้งูตัวใหญ่ยาวเลื้อยผ่านไปให้สุดตัว สูรย์ก็คิดว่า ฝนตก ๆ แบบนี้ ควรจะหาอะไรทำให้จิตใจกระชุ่มกระชวยทำ..เมื่อเห็นกุสุมาทำเหมือนหนาวสูรย์ก็ขยับตัวแล้วยื่นหน้าไปใกล้ ๆ ..

“อะไรคุณสูรย์..”

“ไม่ต้องตกใจ..มีฉันอยู่ทั้งคน..รู้ไหม โบราณเขาว่า ถ้างูเลื้อยตัดหน้าเราไปเลย ไม่วกกลับ เส้นทางข้างหน้าจะสะดวกราบลื่นไม่มีอุปสรรค อะไรที่เรากำลังคิดทำก็จะประสบความสำเร็จ เดินหน้าต่อไปจะดีมาก ๆ”

“แล้วเอาหน้ามาใกล้ ๆ ทำไม” กุสุมาขยับหนีไปจนชิดหน้าต่าง เพราะฟังน้ำเสียงกับชำเลืองดูสายตาของเขาแล้ว แบบนี้ เขาคงกะจะให้ฟ้าฝนเป็นใจด้วยแน่ ๆ..

“..เมื่อเย็นเป็นไงมั่ง”

“คุณสูรย์ เป็นบ้าอะไรเนี่ย”

“...มาจูบทีนึง”

“ไม่เอา..เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”

“เราไม่รักฉันเหรอ”

“คุณสูรย์..ผีเข้าหรือเปล่า” ไม่แค่ถามติดตลกแก้เขิน กุสุมายังตั้งกาดเตรียมป้องกันตัว..

“ถามคำเดียว..เรารักฉันไหม”

“ฝนตก มันโรแมนติกอยู่นะ แต่ว่างูเลื้อยอยู่ข้างหน้านี่ ใครจะมีอารมณ์..” ว่าพลางกุสุมาก็ชะโงกหน้าไปดูงูแล้วก็เหลือบตามาดูตาของสูรย์ด้วย และเมื่อเห็นว่างูยังเลื้อยไปได้แค่ครึ่งตัว และคงไม่เลื้อยมาที่ใต้ท้องรถแน่ ๆ กุสุมาก็เลย จ้องตาของสูรย์กลับ แต่ว่าดวงตานั้นหาได้หลงไหลหนุ่มใหญ่อย่างที่ใจอยากจะทำ

“เมื่อกี้ถามอะไรม่านะ”..

“ถาม..ถามอะไร” ว่าแล้วสูรย์ก็โยกตัวกลับไปนั่งมองงูเช่นเดิม..แต่ว่ากุสุมาไม่ยอมให้เขาเล่นตลกฝ่ายเดียวเด็ดขาด..หญิงสาวขยับตัวแล้วยื่นหน้ามาหาเขาบ้าง..

“คุณสูรย์..ถามคำเดียว..คุณสูรย์คิดอย่างไงกับม่า”

“รัก..”

พอเขาพูดตรงๆ แบบนี้ ใจของกุสุมาเหมือนมีพลังงานบางอย่างกระแทกเข้าใส่..เขารักเธอ เขารักเธอ คุณสูรย์รักเธอ..ถ้าไม่ติดว่าข้างนอกฝนตกกับมีงูตัวใหญ่รออยู่ เธอจะต้องลงจากรถไปกระโดดโลดเต้นแน่ ๆ แต่เมื่อลงไม่ได้ แถมตอนนี้ จมูกโด่งเป็นสันนั้นก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว กุสุมาจึงเริ่มใจสั่นแรงเพราะเป็นครั้งแรกของเธอที่กำลังจะถูกผู้ชายจูบ..

“แล้วเราละ รักฉันไหม” นอกจากคำถามที่ผ่านหูทำให้หัวใจวาบหวิว ลมหายใจของเขาก็ทำให้เรี่ยวแรงของกุสุมาพลอยเหือดหายไปจากสรรพางค์กายด้วย และเมื่อเธอนิ่ง สูรย์ก็ขยับใบหน้าใกล้เข้ามาอีก ใกล้เข้าอีก..กุสุมาหลับตาลงสูดลมหายใจเข้าปอด แล้วก็เอี้ยวตัวหนีความต้องการของเขา..

“เราไม่ได้รักฉันเหรอ”

“รัก..” ว่าแล้วกุสุมาก็ตัดสินใจเป็นฝ่ายยื่นจมูกไปชนกับแก้มเขาเสียเอง และช่วงที่เขาคงตกตะลึง กุสุมาก็รีบขยับตัวกลับไปจนชิดประตูรถ..สูรย์ยิ้ม ๆ ไม่จู่โจมเข้ามาอีก..เขาหันไปมองถนนเห็นว่างู ที่ทำให้เขาต้องหยุดรถบอกความรู้สึกที่อยากบอกออกไปหายไปแล้ว สูรย์ก็หันมากุสุมาที่เสมองไปข้างนอก..

“เขินเหรอ”

“นิดหน่อย”

“เอาคืนเมื่อเย็นเหรอ”

“งูไปแล้ว ออกรถได้แล้ว..”

“คืนนี้ถ้าฉันนอนที่บ้านย่าด้วย..”

“พอเลย...ม่านอนกับย่ากับป้าอยู่แล้ว นี่ยังกังวลเรื่องไอ้อ๊อดอยู่เลย ถ้ามันเอาไปพูด..ถึงหูแม่ขึ้นมา ม่าโดนแน่ ๆ”

“โดนอะไร”

“ม่าเป็นผู้หญิงนะ เสียหายนะ”

“งั้นเดี๋ยวกลับไปให้พ่อแม่ส่งเถ้าแก่มาสู่ขอเลยดีไหม”

“ดี” ว่าแล้วกุสุมาก็หัวเราะ ขำที่การบอกรัก และการขอแต่งงาน มันเหมือนพูดกันเล่น ๆ

“ขำอะไร”

“ตลกจะตาย ไม่ขำได้ไง..บอกรักกันตรงนี้ แล้วยังจะมาขอแต่งงานแบบนี้อีก”

“มันตลกตั้งแต่ที่ฉันไปตกหลุมรักเธอแล้วรู้ไหม”..

“รักม่าตรงไหน..เทียบกับแฟนเก่าคุณสูรย์แล้ว ม่าคิดว่ามันคนละเรื่องเลยนะ”

“ไปรู้จักเขาได้ไง”

“รู้แล้วกัน..” กุสุมาทำหน้าเจ้าเล่ห์ และใบหน้าแบบนี้ ท่าทางแบบนี้แหละ มันเหมือนดาราเจ้าบทบาท มันมีสีสัน มันชวนมอง มันทำให้โลกรอบ ๆ ตัวเป็นสีเขียวสีฟ้าขึ้นมาทันที

“อยู่กับเราแล้ว โคตรมีความสุขเลยว่ะ” สูรย์เอาคำพูดของพระเอกภาพยนตร์เรื่อง ‘กวน มึน โฮ’ มาใช้ กุสุมาเบือนหน้ามาหาเขาพร้อมตาวาว ๆ ความรู้สึกเขินก็ยังมีอยู่ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เธออยากให้เขาระบายออกมาเสียให้หมด..

“ขนาดนั้นเลยเหรอ”..

“แต่งงานกันไหมม่า..ออสเตรเลียไม่ต้องไปมันแล้ว..อยู่เมืองไทยนี่แหละ อยู่กับฉัน อยากได้อะไรฉันจะเนรมิตให้หมดเลย”

“คุณสูรย์!!..” เจอคำพูดหนักแน่นของเขาเข้าไป กุสุมาเหมือนถูกค้อนปอนด์ใหญ่ทุบให้ที่ท้ายทอย..

“ฉันพูดจริง ๆ นะ ฉัน ฉันไม่อยากเหงาอีกต่อไปแล้ว ฉัน..ไม่อยากรอเราอีกปีสองปี.. ฉัน ฉัน..เอ่อ..ฉัน..นะม่า แต่งงานกันกับฉันนะ” ว่าแล้วเขาก็หันมาคว้ามือข้างขวาข้องกุสุมาไปดอมดมอย่างหลงใหล ส่วนกุสุมานั้นหลังจากที่ตั้งสติได้แล้วก็เป็นฝ่ายขยับตัวดึงขาขึ้นมาแล้วโผเข้าไปกอดและจูบเขาเสียเอง


“เดี๋ยว ๆ พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่ม” แม่ของกิ๊บที่ออกมารอลูกสาวอยู่ที่หน้าปากซอยไปตบประตูรถของทรงฤทธิ์เมื่อเห็นว่าลูกสาวของตัวเองเปิดประตูออกมาจากรถของเขา

ทรงฤทธิ์เลื่อนกระจกลงแล้วยกมือสวัสดี และเพื่อความบริสุทธิ์ใจกับความเหมาะสม เขาจึงต้องเปิดประตูรถลงมาคุยกับหญิงวัยกลางคนซึ่งน้องกิ๊บบอกกับเขาตั้งแต่ก่อนจะลงจากรถแล้วว่าเป็นแม่ของเธอ

“ไปไหนกันมา กลับมาจนดึก ๆ ดื่น ๆ”

“ผม..เอ่อ..” หลังร้านปิดเขาพาตุ๊ดซี่กับกิ๊บซี่ไปกินข้าวต้มรอบดึกเพื่อสานความสัมพันธ์ หลังจากนั้นก็วนรถไปส่งตุ๊ดซี่ จึงทำให้เวลาเคลื่อนไปจนกระทั่งเลยเที่ยงคืน

“ลูกเขามีพ่อมีแม่นะ..รู้ไหมว่าคนมันเอาไปนินทา”

“แม่” กิ๊บซี่เดินไปรั้งแขนของแม่ไว้พร้อมกับปรามเบา ๆ เพราะแม่เป็นคนเสียงดังฟังชัดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร บทที่แม่ไม่พอใจใคร แม่จะชี้หน้าตะโกนด่าอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรมทั้งนั้น ลูกทั้งบ้านกลัวแม่หมด โดยเฉพาะพ่อ จะไม่หือกับแม่อย่างเด็ดขาด

“มึงไม่ได้ไปนอนกับมันมาใช่ไหม”

“แม่..ยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”

“แล้วคบกันแบบไหนละเนี่ย..”

“เอ่อ ๆ ดู ๆ กันอยู่ครับ”

“คราวหน้าคราวหลังจะพาลูกสาวฉันไปไหนมาไหน ขออนุญาตฉันก่อน ถึงฉันจะจน ฉันก็มีศักดิ์ศรีมียางอาย อีกิ๊บด้วย ไม่ต้องมาอ้างว่าแบตหมด มึงจงใจจะไม่ให้กูโทรตามใช่ไหม”

“แม่..พี่ตุ๊ดตู่ก็ไปด้วย”

“อีนี่แหละตัวดี ยุให้เสียหาย..”

ระหว่างที่แม่ของกิ๊บซี่ใช้อำนาจของแม่ ทรงฤทธิ์ก็พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเช็คดูว่า หญิงที่นุ่งโสร่งลายดอกใส่เสื้อคอกระเช้าปะแป้งลายพร้อยนี้ดื่มเหล้าหรือเปล่า และเมื่อไม่ได้กลิ่นเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาไม่น้อย เป็นธรรมดาของแม่ยอมห่วงลูก และหวงขนาดนี้ ก็น่าจะเป็นเครื่องยืนยันว่า ลูกสาวของตนก็ต้องไม่เคยผ่านมือชายคนใด..และไหน ๆ เขาก็คิดวางแผนอนาคตไว้กับเด็กสาวผู้นี้แล้ว ทรงฤทธิ์จึงตัดสินใจไม่อ้อมค้อม

“แม่ครับ ผมกับน้องกิ๊บยังไม่มีอะไรกันหรอกครับ และผมก็สัญญาว่า ถ้ายังไม่ได้แต่งงานกัน ผมจะไม่ล่วงเกินเขาอย่างเด็ดขาด ผมสัญญาด้วยเกียรติของวิศวกรเลยครับ”..


“ฮะ อะไรนะ จริง ๆ หรือ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด..อกอีแป้นจะแตก เขาพูดแบบนี้ก็แสดงว่าเขา เขาคิดจะแต่งงานกับแกละซิ” เสียงของตุ๊ดซี่ทำให้กี๊บซี่ต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู ส่วนดวงตานั้นแพรวพราว เพราะในเวลานี้ แม้เขาจะยังไม่ได้สารภาพว่าเขาชอบเธอ แต่เขาก็ซักถามถึงอดีตของเธอมากมาย นอกจากนั้นเขาก็ยังคุยเรื่องของอนาคต ซึ่งมันจะมีเธออยู่ด้วย เขาถามเธอว่า เธอทำอะไรในร้านได้มากน้อยแค่ไหน อยากเปิดร้านขายกาแฟสดเองหรือไม่ เธอตอบไปว่า มันคือส่วนหนึ่งของความฝัน ติดแต่ว่าไม่มีทุน เขายิ้มให้เธอ สีหน้าดูครุ่นคิด..เขาหันมามองหน้าเธอบ่อย ๆ ถอนหายใจแรง ๆ..

แม้เธอจะไม่สวย ไม่รวยเท่าคุณธัญรัตน์ แต่บางทีเขาอาจจะเป็นอย่างที่ตุ๊ดซี่เคยพูดไว้ก็ได้..

‘คนเรา ถ้าเป็นเนื้อคู่กัน มันก็ต้องมาเจอกัน มันก็จะเห็นกันเองว่า เราเหมาะสมกับเขา และเราก็อยู่กับเขาไปได้ตราบนานเท่านาน’

ซึ่งข้อนี้ กิ๊บซี่ก็ยอมรับว่าพอเขาเรื่องในอดีตของเขาแล้ว พื้นเพของเขาก็ไม่ได้แตกต่างจากเธอ เป็นคนต่างจังหวัด พ่อแม่ทำไร่ทำนา มีลูกเยอะ ดีแต่ว่าเขาเรียนเก่ง ได้ทุนบ้าง กู้เงินเรียนบ้าง ทำงานไปด้วยบ้าง จึงทำให้มีวันนี้ วันที่มีอาชีพมั่นคง เงินเดือนจัดว่าสูงสำหรับคนในประเทศนี้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีภาระทางบ้าน มีเรื่องต้องใช้เงินเพื่อเปลี่ยนชีวิตตัวเองอีกไม่น้อย..

“ฉันก็ไม่รู้..รู้แต่ว่าเขาพูดแค่นี้..”

“ชัวร์เลย เขารักแกแล้วแหละ แล้วแม่แกล่ะ พอเขาพูดอย่างนี้แม่แกทำไง”

“เงียบเลย อึ้ง..บอกแค่ว่าให้จริง ๆ เถอะ แล้วแม่ก็ลากฉันเข้าบ้าน..แล้วเขารักฉันจริง ๆ เหรอ ไม่เห็นเขาพูดอะไรออกมาเลย”

“เขามองแกบ่อยขึ้นไหมละ ถ้าตาเขาอยู่ที่หน้าแก นมแก ตูดแกบ่อย ๆ นั่นแหละ เขาอยากฝากรักไว้ที่ตัวแกตามสันดานของผู้ชาย..กิ๊บซี่ฉันดีใจกับแกด้วยนะ..แก่มันคนดี สาวพรหมจรรย์ ค่าของแกมันก็อยู่ที่ตรงนี้ด้วย”

“ขนาดนั้นเลยเหรอ”

“เดาเอา ผู้ชายบางคนมันก็ยังติดที่ตรงนี้ แต่คุณซ้งคงไม่...แต่ก็ไม่แน่หรอก ผู้ชายบนโลกใบนี้ ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีบรรทัดฐานตายตัว...ฉันพูดไม่ผิดแน่ ๆ เพราะตราบใดที่ฉันยังมีผู้ชายตกถึงท้อง..ก็แสดงว่า ผู้ชายบนโลกใบนี้เป็นอย่างที่ฉันคิด..งงป่ะ”

“งง”

“ก็ต้องการให้งง..แบบนี้คืนนี้แกก็นอนไม่หลับละซิ..จิกหมอนอยู่หรือเปล่า”

“อืม..แต่ฉันกลัวอ่ะ ฉัน..บอกไม่ถูก..เหมือน บอกไม่ถูก..” จริง ๆ กิ๊บซี่อยากจะบอกว่า การที่เขาพูดออกไปอย่างนั้น มันเหมือนเขาข่มขืนเธอไปแล้ว..

“กลัวกล้วยหอมเหรอ..”

“ไม่ต้องเลย..พี่นี่ ชอบชักใบให้เรือเสีย..”

“ไปเปิดเพลงบทเรียนก่อนวิวาห์ฟังเลยแก หรือจะเอาหนังเอ็กซ์ชายหญิงสักสองสามแผ่นฉันก็มีนะ”

“ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ไร้เดียงสาขนาดนั้นหรอก”

“แล้วแกรู้ดีแค่ไหน..”

“ฉันว่าฉันไปลุ้นตอนนั้นดีกว่า...ขอบคุณนะคะ”


แรกทีเดียวสูรย์ตั้งใจจะลงจากรถมาถอดคอนแทคเลนส์แต่เมื่อเห็นว่าฝนยังตกไม่หยุด กุสุมาจึงให้เขาจอดรถแค่บนถนนคอนกรีต แล้วตัวเองก็ใช้ร่มของเขากางกันฝนเดินย่ำโคลนเข้ามาในบ้าน ระหว่างนั้นถ้ากุสุมาหันหลังไปมองก็จะพบว่าสูรย์นั่งลุ้นให้กุสุมาเดินถึงบันไดบ้านโดยไม่หกล้มเปรอะเปื้อน และเมื่อกุสุมาถึงบันไดแล้วเขาก็โบกมือให้ก่อนจะเลื่อนกระจกขึ้นแล้วขับออกไป พอสูรย์ลับตาไปแล้ว กุสุมาก็ยังยืนเกาะระเบียงนอกชานส่งใจไปกับสูรย์ เพราะเธอเองก็ห่วงเขาอยู่ไม่น้อย ขับรถดึก ๆ ดื่น ๆ ไหนจะยังง่วงนอนใจก็มีกังวลเรื่องไอ้พวกนั้น แถมตาก็ยังแดงช้ำอักเสบเพราะคอนแทคเลนส์เปื้อนฝุ่น..ใจหนึ่งอยากจะโทรศัพท์เป็นเพื่อนคุยไปกับเขา แต่ฟ้าก็ร้องครืน ๆ กุสุมาถอนหายใจอย่างแรงสองสามที..

แม้จะสุขใจกับความรักที่มันจู่โจมเข้ามาอย่างไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัว แต่เรื่องที่มันบังเอิญพ่วงเข้ามาด้วยนั้นกุสุมาก็พยายามครุ่นคิดหาทางรับมือ ทางเดียวที่จะทำให้พวกมันเลิกกร่างได้ก็เห็นจะมีแต่ตะราง หรือไม่ก็ คุยกับมันตรงๆ ไปเลยว่ามันต้องการอะไรกันแน่ ถ้าให้เธอขอโทษมันเรื่องวันนั้น แม้เธอจะรู้สึกแย่ ๆ ไปบ้าง แต่มันก็น่าจะเป็นทางออกทีดี แต่อีกนั่นแหละ หากพวกมันรู้ว่ากลัวพวกมัน ดีไม่ดีมันจะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ที่ในร้านได้ และคุณสูรย์ก็คงไม่ยอมเช่นกัน..

“ม่า..”กุสุมาหันไปก็พบว่า ป้าเดินอุ้ยอ้ายออกมาจากห้องนอน..

“คุณสูรย์กลับไปแล้วเหรอ ป้าปูที่นอนไว้ให้เขาด้วยนะ”

“มีธุระด่วนป้าเลยต้องไป..”

ป้าอุดมเดินมาหยุดยืนมองฝนพรำข้าง ๆ หลานสาว

“อยากกลับไปกับเขาละซิ”

“ก็เป็นห่วงเขา ขับรถคนเดียวดึก ๆ อันตรายฝนก็ตกด้วย ป้า
แล้ว เรื่องโอนที่นี่กี่วัน”

“วันสองวันนี่แหละ ไม่รู้มีปัญหาเอกสารอะไรหรือเปล่า”

“ถ้าพรุ่งนี้โอนได้เลย ม่ากลับกรุงเทพฯเลยนะ ป้าไม่ว่าม่านะ”

“จะว่าอะไรได้...แต่เอาเหอะ เสร็จธุระแล้วค่อยว่ากัน แต่ว่ากับคุณสูรย์นี่ เขาเป็นอย่างไงบ้าง”

“ป้าว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง”

“น่ารัก...อย่างกับพระเอกละคร” แม้ว่าจะเกิดและโตที่บ้านนอกแต่ทั้งชีวิตของนางอุดมนั้นก็มีละครทีวีทำให้หัวใจกระชุ่มกระฉวย พออดีตน้องสะใภ้เล่าเรื่องของหลานสาวกับสูรย์ให้ฟังคร่าว ๆ นางอุดมถึงกับกรี๊ดกร๊าดและตามลุ้นว่าความรักของทั้งคู่นั้นจะลงเอยกันอย่างไร..

“เรื่องอะไรละ”

“ทัดดาวบุษยา..”

“ป้าอ่ะ”

“เห็นตาเขาที่มองหลานของป้าแล้ว ป้าก็ดีใจ..แต่ว่า ป้าอยากจะบอกอะไรหน่อยนะ เรื่องที่ถนนเมื่อตอนเย็นนะ ใช่ว่าไอ้อ๊อดจะเห็นคนเดียวหรอก..ป้าอยู่ในครัวก็มองเห็นเหมือนกัน..”

“ป้าอ่ะ” กุสุมาหน้าแดงซ่านขึ้นมาทันที

“ให้เงินไอ้อ๊อดเป็นค่าปิดปากใช่ไหม”

“ครั้งแรกเลยนะนั่น..”

“แต่งกันเมื่อไหร่ ม่าก็คงสบาย แล้วอย่างไรก็อย่าทิ้งป้าทิ้งย่าละ”

“อันนี้ก็แล้วแต่คุณสูรย์ด้วย”

“ป้าดีใจที่เขาไม่รังเกียจบ้านเรา น้ำท่า ข้าวปลาเขากินได้อย่างไม่ฝืน”

“เขาเคยจนมาก่อน เขาก็ลำบากมาก่อน”

“รักเขามากไหม”

“ป้าอ่ะ ม่าเขินนะ” กุสุมาบิดไปบิดมาเพื่อยืนยันว่าเขินจริง ๆ ป้าอุดมยิ้ม ๆ และยังไม่ทันเย้าแหย่ต่อฟ้าก็แลบแปลบปลาบแล้วก็ตามมาด้วยเสียงกัมปนาทจนหลานสาวกับป้าต้องรีบพากันเข้าบ้าน


แม้จะรู้สึกว่าพอได้เงินจากลาภลอยมาครอบครองจะทำให้ความขยันของตนเองนั้นหายไป แต่เมื่อนึกได้ว่าตัวเองนั้นอายุครบยี่สิบปีแล้ว ต้องเรียนหนังสือให้จบปริญญา ต้องบวชแทนคุณพ่อแม่ ต้องทำงาน และต้องแต่งงานสืบต่อไป ถมยาก็สปริงตัวขึ้นจากที่นอนเพื่อฝ่าฟันกับการมีชีวิตอยู่ ที่ต้องดีขึ้นกว่าเดิม เมื่อลุกขึ้นนั่งแล้ว ความรู้สึกแรกของเขาในวันนี้ ก็มีชื่อของ ‘อรพิม’ เข้ามาผสมกับความหงุดหงิดงุ่นง่านที่มีอยู่ในตัวผู้ชายทุกคน

..ถมยาคว้าโทรศัพท์ พิมพ์ข้อความ เพื่อต้อนอรพิมให้จนมุมหัวใจของเขา..

‘ตื่นแล้วนะ เดี๋ยวจะรีบไปรับ แต่งตัวรอด้วย’

แต่เมื่อส่งข้อความไปแล้ว ถมยาก็รู้ว่าจากที่ตั้งใจจะช่วยกุสุมา จากที่คิดจะแกล้งให้อรพิมมาสนใจตนแทนไปหน้ามืดอยู่กับสูรย์ แต่ใบหน้าเกลี้ยงเกลาเหมาะเจาะลงตัวนั้นกลับทำให้จิตใจของเขาว้าวุ่น..

ถมยาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็รีบสตาร์ทรถออกจากหอพัก แต่ว่าพอไปถึงที่หน้าบ้านของอรพิม เขาต้องพบกับความผิดหวัง บ้านทั้งหลังเงียบกริบ แสดงว่า ไม่มีใครอยู่บ้าน และอรพิมก็คงไม่รอซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของเขาไปทำงาน ความน้อยเนื้อต่ำใจแทรกเข้ามา..

ใช่..เขามันจน คำนี้คำเดียวที่ทำให้อรพิมไม่ใสใจความรู้สึกของเขา และต่อไปเขาจะไม่ ไม่..เผยใจออกไปว่า ชอบอรพิมอย่างเด็ดขาด เขากับอรพิมจะเป็นแค่เกมส์เท่านั้น

ตอนแรกถมยาว่าจะจอดรถที่ข้าง ๆ ออฟฟิศชั่วคราว แต่นึกได้ว่า เขาควรปั้นปึงให้อรพิมรู้ว่าเขาไม่สนใจเธอแล้ว ถมยาจึงขี่รถตรงไปยังไซด์งาน และวันทั้งวัน แม้ใจจะบอกว่า ไม่สน ไม่รัก ไม่ต้องการอรพิม แต่เขาก็อยากให้อรพิมง้อเขาสักนิด..แต่ว่า นั่นแหละ เพราะเขามันจน งอนไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร

“เป็นอะไรถมยาหน้าตาดูไม่สบายใจ” ทรงฤทธิ์เอ่ยปากถามเมื่อเห็นว่าหัวคิ้วของถมยาขมวดเข้าหากัน ฝ่ายถมยานั้นก็รู้สึกว่า วันนี้ พี่ซ้งของไอ้ม่า อารมณ์ดีผิดปกติ..



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 มิ.ย. 2554, 13:36:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 มิ.ย. 2554, 13:36:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 3013





<< 24.พี่ม่าไม่ล้างแก้มหน่อยเหรอ..   26. ม่าก็อยากไปเห็นโลกกว้าง >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 20 มิ.ย. 2554, 13:38:59 น.
สรุปว่า กุหลาบซ่อนกลิ่น พิมพ์กับ สนพ.ดอกหญ้า 2000 เหมือน เจ้าสาวไร่ส้ม ดอกรักริมธาร แล้วโปรเจคที่จะตามมาเร็ว ๆ นี้ ก็คือ ราชนาวีที่รัก ซึ่งรวมหัว ..เอ้ย ร่วมกลุ่มกับนักเขียนชื่อดังอีกสามทั่นนะครับ มีใครเป็นใครบ้าง หลาย ๆ ท่านก็คงพอรู้บ้างแล้ว ..มีความสุขในภาคบ่ายนะครับ..


จุฬามณีเฟื่องนคร 20 มิ.ย. 2554, 13:48:16 น.
ลืมไป..ว่าจะ ชวนเพื่อนนักอ่านในเว็บเลิฟเล่นเกมส์ชิงรางวัลครับ..ปกติฉบับรวมเล่มก็จะมีคำโปรยปกหน้า และ หลัง

อย่างเรื่อง ดอกรักริมธาร คำโปรยปกหน้าที่ผมคิดเอง มีอยู่ว่า "มาลตีเรียกเขาว่า แสนสุข แต่คุณนายมารศรีเรียกแสนสุข ว่าแสนแสบ แสนรู้ และไอ้สิบหมื่น"

ลักษณะนี้ครับ..

เกมส์ของผมก็มีอยู่ว่า ให้เพื่อน ๆ ช่วยกันคิดคำโปรยปกหน้า เรื่องกุหลาบซ่อนกลิ่น แล้วส่งไปที่ f_nakhon@hotmail.com คำโปรยของใครโดนใจและผมนำไปใช้ ผมจะมอบหนังสือให้หนึ่งเล่มพร้อมลายเซ็นครับ ร่วมสนุกด้วยกันครับ..


ปอยอะนะ 20 มิ.ย. 2554, 14:46:58 น.
ม่าน่ารักจังเลย


namzuza 20 มิ.ย. 2554, 15:15:13 น.
ดีใจด้วยนะค่ะได้ตีพิมพ์แล้วขอให้ขายดี ๆพิมพ์สัก 10-20 ครั้งเลยค่า


Zephyr 20 มิ.ย. 2554, 17:26:57 น.
น่ารักจังเลย อ้าย เขินนนน


คิมหันตุ์ 20 มิ.ย. 2554, 19:05:26 น.
ถมยาเอ๊ย....สู้ๆ เขา นะ


nutcha 21 มิ.ย. 2554, 09:12:15 น.
ไอ้ม่าจะได้ไปออสเตรเลียอ่ะเปล่า...สงสัยจะไม่รอดมือคุณสูรย์แน่ๆ


niceten 21 มิ.ย. 2554, 09:15:26 น.
เป็นข่าวดีที่สุดเลยคะ...ได้เจอนายสิบหมื่นแล้วหลังจากที่ห่างหายกันไปเกือบปีนะคะ
แต่ก็อยากเจอคุณเช้าด้วยอีกคนนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account